การฝึกเปิดตาที่ สาม และวิธีใช้ตาที่สาม

ขอบคุณ คุณเห็ดหอมมากๆเลยค่า คือหนุสนใจมากค่ะ เเต่เวลาปฏิบัติก็หาไม่ค่อยได้เนื่องจากเรียนก็งานเยอะมากค่ะ หนูอยากไปที่บูธอาจารย์สามตาจังเลยค่ะ หนุขอรบกวนถามได๊ไม๊ค่ะว่า บูธ อยู่ที่ อ.ต.ก. ใช่ไม๊ค่ะ เเล้วหายากไม๊ค่ะ อยู่ตรงไหนค่ะ คือตอนนี้มีหลายอย่างที่อยากได้รับคำชี้เเนะจาอกอาจารย์สามตามากค่ะ ขอบพระคุณมากๆเลยค่า ^^

 

แสดงว่าคุณpakawalanไม่ได้อ่านหรืออ่านไม่หมดสินะครับ

เหมือนพึ่งจะเขียนบอกที่อยู่บู๊ธอาจารย์ไปเมื่อวานนี้เอง

อยู่ตรงข้ามสวนจตุจักรฝั่งกำแพงเพชรที่อยู่ตรงข้ามกับ

ตลาดอตก.บู๊ธ อ.042 ถ้ามารถไฟฟ้าใต้ดินให้ออก

ประตู 1 ขึ้นมาแล้วจะเห็นร้านภูฟ้าอยู่ซ้ายมือให้เดินมา

ด้านข้างภูฟ้าจนสุดซ้ายมือเป็นห้องสุขาขวามือจะเห็น

ร่มสีม่วงนั้นละใช่เลยอาจารย์นั่งอยู่หน้าร้านเลยครับ

 

วันนี้ช่วงสายๆหนูและน้องสาวไปที่บู๊ทมา

ได้พบอาจารย์สามตา คุณเห็ดหอม และคุณวิษณุ แบบตัวเป็นๆ

ยืนยันได้อีกคนค่ะว่าอาจารย์ไม่ดุ ทั้งยังมีเมตตามากๆด้วย

ขอบคุณอาจารย์นะคะที่ช่วยชี้แนะหลายๆอย่าง

 

สวัสดีครับสมาชิกใหม่อย่างผมฝึกได้ไหมครับ ช่วยตรวจดูให้ที ขอบคุณครับ.

 

วันนี้ได้มีโอกาสพบอาจารย์ที่บูธอาจารย์ใจดีค่ะขนาดไปเย็นมากอาจารย์ยังกรุณาดูและให้คำแนะนำเป็นประโยชน์มาก ขอบคุณค่ะ

 

ดีใจที่ได้ พบ และสนทนากับ..สองสาว เมื่อ วันอาทิตย์ ที่ ผ่าน
คุณ นาคลินี และคุณ สัตตบงกต...ทั้งสองคน ไม่ธรรมดา
ที่บู๊ธ 042..คนธรรมดา ปกติ ที่ไม่มี พื้นฐานพลังจิค...เขาจะไม่
ยินดี ต้อนรับ ทุกท่านที่จะมาในวันต่อๆๆมา..
................................................................

 

วันนี้ไปทำงานเหนื่อยๆ ฝนก็ตกทั้งวันเราก็รีบไปทำงานโดยไม่คิดอะไรก็พกกระเป๋าใบเดิม
ไปแบบไม่คิดอะไร แต่แปลกที่วันนีมึนหัวทั้งวันเลย ก็ไม่ได้คิดอะไรพอกลับมาบ้านจึงได้เปิด
กระเป๋าดูปรากฏว่าลึมเอาของบางอย่างออกจากกระเป๋า ก็คือพระพิฆเนศ ออกจากกระเป๋า


องค์ที่เห็นในภาพแหละครับ มึนมากเลย กลับมาบ้านเลยเอาออกซะ
พูดมาซะเยอะเลย พอดีวันเสาร์-อาทิตย์ ได้ไปนั่งที่บูทอาจารย์ ได้เจอคน
มากหน้าหลายตา แต่คำถามเดิมๆ ว่าผมเิดตาได้ไหม หนูเปิดตาได้ไหม
เป็นคำถามยอดฮิต เลยนั่งดูฮาๆ ว่าจะมีคนที่ตาเปิดได้จริงๆกี่คน ก็ปรากฏว่ามี
มาบ้าง แต่อาจารย์ไม่เปิดให้ก็เลยนั่งดูว่าเพราะอะไร ก็ได้คำตอบว่าบางคน
เปิดได้แต่การเปิดอาจจะไปทำร้ายเค้าก็เป็นได้ 5-5-5

แต่บ้างคนมีเทพองค์ใหญ่ๆมาลง กะจะดูซักหน่อยอาจารย์ดันเปลียนซะอีกไม่มันเลย
แหม๋อุตสาห์รอดู เทพบางองค์ก็ดี บางองค์ก็แกล้งคน เราก็ดูคนบางคนไม่รู้ก็ไปรับมา
ก็เจ็บไข้ได้ป่วย การงานก็ย้ำแย่ทำอะไรก็ไม่ขึ้นน่าสงสารจริงๆ
เกิบลืมคือ จะบอกว่าการเปิดตาที่สามไม่ได้มีประโยชน์กว่าที่คุณคิด บางคนคิดว่า
จะไว้ช่วยคน แต่จะบอกว่าการช่วยคนคือต้องจากใจนะครับ ไม่ได้หาประโยชน์
เอาเข้าตัวเองไม่ได้เลย แม้แต่ชื่อเสียงหรือเงินทอง แต่ที่เปลี่ยนคือชีวิต
ลองคิดดูว่างานที่ทำถ้างานที่คุณทำต้อง ทำให้ผิดศีลหรือ จะไปในทำนองที่ไม่ดี
คุณก็เตรียมตัวว่างงานได้เลย โดยส่วนใหญ่ อาชีพร้อยละ 70% โดนหมด อาชีพ
ยอดนิยมทั้งนั้น 5-5-5 ผมเองร่อนเร่ตกงานอยู่เกิบ 3 ปีเงินที่เก็บก็ใช้จนหมด
เงินที่ครอบครัวใช้อยู่ถ้าอาชีพบิดามารดามาด้วการค้าชีวิตผู้อีน เช่นขายหมู
หรืออะไร ที่เข้าข่ายก็ครอบครัวก็พลอยแย่ไปด้วย ยิ่งถ้าหากินกับผู้อื่นยิ้งแย่
วันๆ ทำได้แต่นั่สมาธิกับ คุยกับผีสางนางไม้ไปวันๆเหมือนคนบ้า......5-5-5
ก็ลองคิดดูเอาแล้วกันครับ

 

ที่ คุณ วิศณุ เล่าความในใจออกมา
นับว่าใกล้เคียงกับ ความจริง อย่างมากๆๆ
...................................................
ลองคิดดู..ในชีวิต ประจำวัน ของ แต่ละคน จะมีปัญหา
ปัญหา ของ ตัวเรา /ปัญหา คนใกล้ตัว/ปัญหา ครอบ ครัว
เมื่อ เรามีความรับผิดชอบ...เราก็พยายามแก้ไป
แน่ล่ะ..ตัวเราและครอบ ครัว มาเป็นอันดับหนึ่ง
คนอื่นๆๆ..ค่อยๆๆ ห่างไป
.............................................................
คนแต่ละคน ย่อมมีเพื่อน ฝูง มากมาย
บางที เก็รู้ปัญหา ชีวิต ของ เขา แต่เรา ช่วยเขาไม่ได้ มาก
อย่างน้อย..ก็รู้ข่าว..ที่ บอกเล่า กันมา
นี่คือ สภาพในการดำรงชีวิต แบบ ปกติ
..............................................................
ถ้า เรามีตาทิพย์ / ความยุ่งเหยิง..จะซับซ้อน มากกว่า นัก
เราจะต้อง มาวุ่นวาย แก้ ปัญหา ต่างๆๆ..ของวิญญาณ อื่นๆๆ ที่อยู่รอบตัว
เราจะไม่สน ก็ไม่ได้..เพราะ พวกเขา จะมาห้อมล้อม เรา..ขอให้เราช่วย
ที่เขาขอให้เรา ช่วย..เพราะ เราเห็น เชา และเขาเห็นเรา
.........................................................................
สรุปได้ เลย..การมีตาทิพย์ ไม่ใช่เรื่อง สนุก
ใครอยากเปิด ตาทิพย์ คิดให้ดีหน่อย
.......................................................................

 

คนที่ไม่มีตาทิพย์ หรือตาที่สาม ก็อยากจะมี เพราะเห็นเป็นเรื่องแปลกมหัศจรรย์

บางคนคิดอยากจะนำสิ่งที่เห็น ไปช่วยเพื่อนร่วมโลก ขอถามหน่อยเถอะ...ว่า

แน่ใจหรือ ที่จะนำไปช่วยเขาจริง สิ่งต่าง ๆ ที่จะนำไปช่วยเพื่อนมนุษย์นั้น...

มีมากมายสารพัดวิธี ยังเห็นไม่ค่อยช่วยเหลือกัน มีแต่เอารัดเอาเปรียบ

กอบโกยหาผลประโยชน์ เข้าหาตัวเอง และครอบครัว


นี่ก็ยังดี ที่อาจารย์ไม่ได้ช่วยเปิดตาให้ เพราะถ้าเห็นโน่นเห็นนี้ คือเห็นในสิ่งที่ไม่

อยากเห็น คงวุ่นวายน่าดู พูดมาถึงนี่ มีอะไรจะเล่าให้ฟัง


มีอยู่คืนหนึ่ง ก็นั่งดูทีวีนี่แหล่ะ ระหว่างที่หนังกำลังถึงฉากมันส์ สุด ๆ คือออกรสชาด

ไอ้ตัวผมก็ฝึกกรรมฐาน จากทีวีนี่แหล่ะ คือนอนกระดิกเท้าไป ตามองหนัง ใจอยู่ที่ขวัญ

ขนหัว ขนทั่วตัว แม้กระทั่งหู ตั้งชี้เด่จู่ ๆ ดวงตาก็ลุกวาว ลุกวาว คล้าย ๆ กับ มันเบิ่งกว้าง

และเบิ่งกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับจะมีหลายชั้น บอกไม่ถูกเหมือนกัน


เห็นผู้ชายรูปร่างสูงผอม อายุน่าจะเกินหกสิบ ใส่เสื้อเชิ๊ต เดินผ่านริมหน้าต่าง

อืม! "สงสัยตากุฝาด" ช่างมันเถอะ


นอนดูที่วีต่อสักครู่ ตาเนื้อก็ยังคงลุกวาวเป็นชั้น ๆ เหมือนเดิม คราวนี้ ฮั่นแน่

ตาไม่ฝาดแหง คือเห็นคนเดิมนี่แหล่ะ เดินผ่านเข้ามาใหม่ แต่นึกในใจว่า


"ทำไมตัวมันใสใส ลางๆ หว่า" คือสามารถมองทะลุผ่านตัวเขา ไปเห็นอีกด้านหนึ่ง

55555 สงสัยจะเป็นผี ผีแน่เลย เพราะตัวใสใส ลาง ๆ คิดได้เพียงแค่นั้น

กระเด้งขึ้นมาทั้งตัว รีบเปิดประตูไล่ตามไปติด ๆ เพราะอยากดูให้ถนัดตา

แต่แล้ว ก็หาไม่เจอ


ถ้าสิ่งที่ผมเห็นนั่นคือผี ขอบอกตามตรงครับว่า ไม่เคยนึกกลัวแม้แต่น้อย

โดยนิสัยของผมแล้ว ชอบความสงบ ชอบอยู่คนเดียว ใม่ชอบให้คนหรือผี

เข้ามาเกะกะวุ่นวาย ในชีวิตประจำวัน ทุกวันนี้ตาจะเปิดหรือปิด จึงไม่ใส่ใจ

 

แวะมาเยี่ยมจ๊ะ

^^

 

เรื่องของคุณมังกรบูรพา เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติสมาธิกรรมฐานเป็นเรื่องที่จิตต้องละเอียดถึงมองเห็นของละเอียดได้ ส่วนคนที่กำลังฝึกปฏิบัติอยู่บางคนจิตอาจจะยังไม่ละเอียดพอที่จะสัมผัสได้ จึงเกิดคำถามขึ้นมามากมาย และคนบางคนที่เราเจอมาก็น่าเบื่อ ชอบพูดประโยคไม่กี่ประโยคมา เพื่อจะลองว่าเรารู้เรื่องที่เค้าพูดไหม ซึ่งคนเราปกติไม่อยากรู้หรอกว่าคนนั้นจะพูดประโยคนี้มาทำไม ซึ่งก็เป็นเรื่องของเค้าไม่ใช่ของเรา หากจะคุยก็ควรคุยให้รู้เรื่อง ว่ามาเป็นเรื่องๆ การพูดมาเป็นคำๆ หรือเพียงประโยคเดียวอย่างนี้ พูดอะไรยังกะเป็นพาดหัวข่าว พอเราถามหน่อยก็ว่าเราไม่เข้าใจ ก็จะเข้าใจได้ไงมาแค่พาดหัวข่าว หากมันเป็นผู้ประกาศข่าวจะเอาขี้ปาหน้าให้แล้ว 55 ก็จริงไหมหล่ะ จะเจรจาอะไรก็ไม่พูด ลักษณะแบบนี้ คือ คนที่พยายามจะลองของกะเรา ว่าเราจะรู้ใจเขาไหม หากว่าจิตไอ้คนนั้นรู้ดีว่าตัวเองคิดได้แค่นี้ อย่าชวนคนอื่นมารู้เลย แต่ยังเข้าข้างตัวเองพยายามจับผิดผู้อื่น เชิญชวนให้คนอื่นมาดูว่ามันคิดอะไร แล้วตัวเองก็อยากเห็นผีเหลือเกิน แต่ รากฐานไม่ดีต้นไม้จะเติบโตผลิดอกออกผลให้ชื่นชมได้ไง

คนที่ฝึกมาดี จิตย่อมรู้จักตัวเอง จะไม่สนใจคนอื่น การที่เห้นวิญญาณได้นั้น ก็ใช่ว่าจะปิดไม่ได้ ไอ้คนที่คิดว่าตาเปิดแล้วจะรู้จะเห้นโดยปฏิเสธไม่ได้ ขึ้นอยู่กับกำลัง อย่ามาลองคนที่ตาเปิดด้วยวิธีนี้ เพราะเค้าจะไม่ชอบ และไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่นิสัย ที่จะต้องไปดูให้บาป

ขอให้คนที่อยากเปิด แต่ยังกลัวผี ไปตรวจจิตตัวเองก่อน
1 สมาธิ และ สติ ดี
2 สมาธิและสติดีก็จะบังเกิดจิตที่เบิกบานเหมือนดอกบัว
3 มองโลกแง่ดี ****
4 จริงใจ ****
5 เมื่ออยากศึกษาปฏิบัติ ต้องเคารพครู ที่ชี้แนะ ไม่ใช่จะมาลองดีกับครู ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องมาศึกษา ยังไงก็ไม่มีทางเปิดได้ เพราะความคิดเช่นนี้จะเป็นประตูจิตล็อคหลายชั้นต้องทำลายด้วยตัวเอง
6 ซื่อสัตย์ต่อตัวเองและผู้อื่น ****
7 เนื่องจากจิตคนเรามีความหยาบละเอียดต่างกัน ผู้ที่จะปฏิบัติได้ต้องไม่ดูจริตผู้อื่น ให้ดูจริตตัวเองคนเดียว เมื่อปฏิบัติสมาธิได้ดีพอ จิตจะแสดงตัวมันเองออกมา และ เป็นหน้าที่ที่เราต้องดูจิตมัน ศึกษาจิตตัวเอง จะเห็นจิตตัวเองที่ละเอียดมากขึ้น ความดี เลว กิเลส ตัณหา ตัวใดๆๆๆ มันก็จะปรากฎให้เห็น และก็ เป็นหน้าที่ที่เราจะเล่นกับตัวเองแล้ว กำจัดจุดอ่อน หรือจะจัดการยังไงกับตัวเอง เมื่อจิตละเอียดมากขึ้น ประตูจิตที่ล็อคไว้ด้วยความกลัว กิเลส ตัณหา ก็จะบางลงๆๆๆๆๆ ประตูกั้นจิตก็จะเปิดออก

เราได้ทดลองทำจิตให้ละเอียด และ หยาบแล้วผลการทดลอง สวนทางกัน และอย่าไปกลัวกับจิตตัวเองที่จะเผชิญอะไร (จริงๆ เมื่อถึงเวลาจิตแรง จะไม่มีความรู้สึกใดๆ นอกจากเบิกบาน) จิตเราจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์ ดูสีที่เปลี่ยน สนุกดี จิตเล่นกับตัวเอง

ดังนั้นคนที่จะเปิดตาที่สามต้องฝึกสมรรถนะ ของตัวเองซะก่อน สำรวจตรวจตรา พอจิตเราเคลียร์ ก็ เร่งกำลังให้มากๆ อย่าลืม ผู้มีพระคุณ

ง่ายๆ อย่าไปคิดมากให้กังวลอะไร มองโลกแง่ดี ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข เดี๋ยวก็สัมผัสได้เอง มีคนที่รู้ตามธรรมชาติจิตมากมาย โดยไม่ต้องศึกษาก็มี ใครๆก็ทำได้ แค่สู้กับตัวเอง

 

ผมพอมีพื้นฐาน เรียนได้ไหมครับ อยากรู้อยากเห็นครับ ในบางสิ่งจะได้ช่วยเค้าได้

 

ขอบคุณพี่มังกรบูรพาที่เอาลิงค์บันทึกบาปให้อ่านนะคะ จะได้เขกกะโหลกตัวเอง
ดีจังคุณvisnu คุณploy maneeเขียนยาวๆให้ได้อ่านกันมั่ง ขอบคุณหลายๆ
อนุโมทนาบุญพี่เห็ดหอม ทำบุญเป็นประจำเลยค่ะ เดี๋ยวแวะไปเยี่ยมอาจารย์สามตานะคะ
up ja

 

ผมยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าจิืตของผมมันหยาบหรือละเอียดระดับไหน

ก็อย่างที่ท่านด้านบนว่าถ้าคิดจะช่วยเหลือให้คิดให้ดี มันก็มีอยู่อย่างนึงนั้นแหละที่ผมอยากได้นำมาใช้ ก็คือเอามาใช้ในการรักษานั้นแหละครับ

แต่ผมรู้ตัวเองว่าตอนนี้จิตยังไม่นิ่งดีพอเลย แล้วดันทุลังไปหน่อยเมื่อวานลองรวมจิตหันกระบอกปืนยิงเข้าหว่างคิ้ว

พอตอนเช้าปวดตรงบริเวณคิ้วหนักแล้วตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ ยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงให้หาย ปัญหาที่เกิดคือมันทำให้ผมเสียสมาธิมากมากเวลาผมเรียนหรือทำงานอะครับ

 

ของบางอย่างมักจะมาในตอนที่ไม่ได้อยากได้การไปเร่ง ก็จะทำให้เกิดความโลภ
โลภก็มีความละเอียดอ่อนบางคน ความโลภก็ไม่ได้หมายถึงตัวเองก็มี ครับ

ความโลภมี 2 แบบคือ
1.ความโลภแบบอยากได้ อยากมี อยากเป็น
คือ การมีความอยากมากที่จะได้ จะมี จะเป็น จนเกินความพอเหมาะพอควร เช่น อยากจะได้ลาภมาก อยากจะมีทรัพย์สมบัติมาก อยากเป็นคนมีอายุยืนมาก เป็นต้น. ความดิ้นรนทะยานอยากที่จะได้ จะมี จะเป็นอย่างรุนแรง เรียกว่า ภวตัณหา

2.ความโลภแบบอยากที่จะไม่ได้ อยากที่จะไม่มี อยากจะไม่เป็น
คือ การมีความอยากมากที่จะไม่ได้ จะไม่มี จะไม่เป็น จนเกินความพอเหมาะพอควร เช่น อยากที่จะไม่ได้รับสิ่งที่ตนไม่ชอบ อยากที่จะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ อยากที่จะไม่เป็นคนพิการ อยากที่จะไม่แก่ อยากที่จะไม่พลัดพรากจากคนที่ตนรัก เป็นต้น. ความดิ้นรนทะยานอยากที่จะไม่ได้ จะไม่มี จะไม่เป็น อย่างรุนแรงเช่นนี้ เรียกว่า วิภวตัณหา
[SIZE=-1]
การจะได้ตาที่สามนั้นเป็นเรื่องที่ได้มาจากเบื่องบน อยากได้ต้องหมันปฏิบัติ พิสูจน์ตนเอง ฝึกจิตตนเอง เดียวก็ได้เอาตามที่ ธรรมะจะจัดสรรค์ให้ครับ

การปฏิบัติตามที่อาจารย์สอนมาหรือ ที่ผมเขียนในหน้าแรกๆ ถ้าย้อนไปอ่าน เปรียบเสมือนการปรับพื้นฐาน หรือพูดง่ายๆว่าให้มีทุนที่ จะเอาไปต่อยอด ครับ แต่ทุนที่มีก็นับว่ามากโขเอาการ ถ้ามีการต่อยอดที่ดีรับรองได้ว่าไม่ผิดหวังขอให้ตั่งมั้นครับ
[/SIZE]

 

วันนี้ได้มีโอกาส เข้าไปพบอาจารย์ที่บู๊ธมา ทั้งอาจารย์เเละก็คุรลุงเห้ดหอม (ขออนุญาติเรียกเสมือนญาติผู้ใหญ่นะค่ะ ^^)เป็นกันเองมากๆ อาจารย์ เมาตตามากๆเลย อาจารย์เป็นคนใจดีค่ะหลายๆท่านที่กลัว อาจารย์ให้คำเเนะนำที่มีประโยชน์หลายอย่าง เเละหนุก้ได้ของเเถมกลับมาด้วย คุณลุงเห็ดหอมเเละอาจารย์เมตตาให้มาเพื่อกันไม่ให้จิตวอกเเว่ก ขอบคุณอาจารย์เเละคุณลุงเห็ดหอมมากๆนะค้า ไว้มีโอกาสอยากจะพาคุรเเม่ไปพบอาจารย์มากๆเลย ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ (หนุ ภัควลัญชญ์ ค่ะ ) ^_____^*

 

ยินดี ต้อนรับ คุณ Pakawalan สมาชิก ผู้มีพลังในตัวที่ ค่อนข้างสูง
สามารถสัมผัสอะไรๆๆที่ไม่ธรรมดา ได้..
คงจะรู้วิธีใช้พลังที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ แก่ตัวเอง ต่อไป

 

สวัสดีครับ เมื่อวานเพิ่งไปตรวจกับอาจารย์มา เจอกับคุณเห็ดหอมด้วย
ตรวจเป็นคนสุดท้ายพอดี เลยเวลาปิดบูทซะด้วย -__-"

พอกลับมาที่บ้าน เห็นหนูแฮมสเตอร์ของน้องแล้ว เพิ่งจะนึกขึ้นได้
อยากจะรู้ว่า ผมพอจะฝึกคุยกับต้นไม้ หรือสัตว์ ได้ไหมครับ

แล้วก็ ในใบตรวจ ผลตรวจสถานที่ แถวๆอ่อนนุช ที่อาจารย์บอกว่ามาทานข้าวมันไก่บ่อยๆ (ฝั่งตรงข้ามร้านข้าวมันไก่ ซอยข้างๆแกรนวิล หลังปั้มเซล)
มี ช้างเอราวัณ กับ "อะไรซักอย่าง"

คือว่าผมอ่านไม่ออกน่ะครับ แหะๆๆ นั้นคืออะไรเอ่ย?

 

ยินดีต้อนรับและยินดีที่ได้พบครับ คุณภัควลัญชญ์ ,คุณพริ้มชมจันทร์

คุณภัควลัญชญ์ก็น่าจะนั่งสมธิได้นิ่งขึ้นกว่าเดิมนะครับ

ส่วนที่คุณพริ้มชมจันทร์ถามมาเรื่องช้างเอราวัณนั่น

คือเจ้าที่ที่ดูแลสถานที่แถวนั้นละครับ

และเรื่องคุยกับต้นไม้หรือสัตว์ คุยได้นะครับ

โดยเอาความรู้สึกของที่เราจะคุยเข้ามาในจิตของเรา

ก็จะรู้ว่าของสิ่งนั้นรู้สึกอย่างไรเช่นเราจับต้นไม้

สดชื่นหรือหงอยเคร้าก็เป็นตามนั้นละครับ

 

อยากเหนช่างเอราวัณบ้างจังเลยคะ จะเหมือนในหนังสือเรียนไหมนะ