เรื่องลี้ลับ มช.ที่ไม่ได้มีแค่ ป็อก... ป็อก...ครืด

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 25 ตุลาคม 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เรื่องเล่านศ. ประจำเดือนตุลาคม ถือว่าเป็นบทเริ่มต้นของ เรื่องราวสยองขวัญสั่นประสาทประจำรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่สีสันที่ Life On Campus ได้รวบรวมมาฝาก เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย ก่อนถึงวันฮาโลวีนที่จะมาถึงนี้ โดยเริ่มต้นความน่ากลัว ณ มหาวิทยาลัยชื่อดัง ประจำภาคเหนือ อย่าง "มหาวิทยาลัยเชียงใหม่" ที่ขึ้นชื่อเรื่องตำนานที่เล่าขานกันมา...นักต่อนัก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ขึ้นชื่อว่า มหาวิทยาลัยที่มีอายุเก่าแก่กว่าครึ่งศตวรรษ เพราะถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2501 อีกทั้งยังตั้งอยู่ ณ ดินแดนล้านนา อันเป็นแหล่งสะสมวัฒนธรรมอันล้ำค่ามานานนับ 700 ปี... ได้ยินถึงขนาดนี้ คงไม่ต้องเอ่ยอะไรต่อ

    เราลองมาฟังคนในพื้นที่อย่าง “นก” พิมพ์ชนก สัฒนะพันธ์ นักศึกษาชั้นปี 4 คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่จะรวมถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้

    เริ่มแรก "นก" เล่าถึงตำนานพื้นที่ของ มช.ที่ตนเคยได้ยินมาว่า เคยเป็นสนามรบ ดินแดนล้านนาที่เก่าแก่ ดังนั้นจึงมีตำนานเก่าแก่ที่รุ่นพี่เก่าๆ เล่าต่อๆ กันมา บวกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งบางเรื่องน่ากลัวจนเป็นที่รู้จักเกือบทุกมหาวิทยาลัย

    อย่าง " ป๊อก...ป๊อก...ครืด" ตำนานชั้นนำแห่ง มช.ที่ว่ากันว่า

    เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ หอในหญิงของมหาวิทยาลัย ที่เรียกกันว่า “หอเจ็ด” เรื่องเกิดกับนักศึกษาสาวคู่หนึ่ง อาศัยอยู่ที่ประมาณ ชั้น 2 หรือ 3 ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ นักศึกษาต่างกำลังอ่านหนังสือกัน มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งไม่สบาย อ่านหนังสือในห้องตอนหัวค่ำ รูมเมทชวนไปทานข้าว แต่เพราะเป็นไข้อยู่ จึงไปไม่ไหว พอเมทคนนั้นเห็นเพื่อนไม่สบาย ด้วยความเป็นห่วง จึงบอกว่าเดี๋ยวไปทานข้าวเองแล้วจะซื้อของกินมาฝาก เพื่อนคนที่ไม่สบายก็ฝากซื้ออาหาร

    "ราดหน้าหรืออะไรซักอย่าง จำไม่ได้ เพราะบอกต่อกัน จนเมนูอาหารเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามปากคนเล่าเรื่อง (หัวเราะ)"

    หลังจากที่เพื่อนออกไป เมทคนที่ไม่สบายก็นั่งอ่านหนังสือต่อ อ่านได้ซักพักก็ไม่ไหวเพราะไข้ขึ้นจึงนอน ตอนนอนอยู่นั้น สลึมสลือ คล้ายกับครึ่งหลับ ครึ่งตื่น ก็มีความรู้สึกว่านานมากแล้ว ทำไมเพื่อนยังไม่กลับมาซะที ซักพักได้ยินเสียงเบาๆ ดังจากชั้นล่างจากทางบันได

    ป๊อก … ป๊อก … ป๊อก …เสียงนั้นดังเป็นระยะๆ ใกล้เข้ามา จากทางบันไดเรื่อยๆ เสียงเหมือนคนกำลังแบกของหนักบางอย่างขึ้นมา และเสียงนั้นก็ดังมาจนถึงชั้นที่ห้องนักศึกษาหญิงคนนั้นอยู่ แล้วเสียงก็เปลี่ยนเป็น ครืด …. ครืด … เสียงเหมือนคนกำลังลากอะไรซักอย่างใกล้เข้ามาเรื่อย จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง

    นักศึกษาหญิงที่อยู่ในห้องก็เริ่มเอะใจ และมองไปทางประตู ในใจนึกว่าเพื่อนกลับมาแล้ว แต่ยังเงียบ สักพักก็มีเสียงเคาะห้อง “ ก๊อก ก๊อก ก๊อก ” แล้วเงียบไป นักศึกษาสะดุ้งสุดตัว คิดว่าไม่ใช่เพื่อนแน่แล้ว ถ้างั้นทำไมไม่เปิดเข้ามาเลย จึงเดินไปเปิดประตู ตรงลูกบิดประตูมีถุงใส่ห่อราดหน้าแขวนอยู่ พอเห็นห่อราดหน้า ก็งง ว่าเพื่อนอยู่ไหน ทำไมต้องเอามาแขวน ทำไมมีแต่รอยเปียกน้ำเป็นทางจากบันได รุ่งเช้ามีคนมาเคาะห้องบอกว่าเพื่อนตายแล้ว

    “หลายคนก็บอกว่า ถูกฆ่าข่มขืน สภาพศพสภาพแขนและขาทั้งสองข้างหัก อาจเกิดจากการที่คนร้ายเอาท่อนไม้ทุบตีเพื่อไม่ให้หนี บางคนก็บอกว่า ระหว่างเดินทางกลับหอ ถูกรถชน กระดูกหัก ทำให้เดินไม่ได้ จึงต้องใช้ปากคาบถุง แล้วใช้คางเกยพาตัวเองมาจนถึงหอพักแล้วใช้คางเกยบันได"

    และเสียง ป๊อก ป๊อก เสียง ครืด คือเสียงลากตัวเองจากบันไดมาจนถึงหน้าห้องปรากฏเป็นรอยเปียกน้ำยาวติดต่อกันหลังจากส่งห่อลาดหน้าให้ได้แล้วก็หมดห่วง
    ตอนแรกทุกคนไม่เชื่อที่นักศึกษาคนนั้นเล่า แต่หลังจากที่นักศึกษาที่พักอยู่ข้างๆ ห้องยืนยันว่า ในคืนนั้นก็ได้ยินเสียงดังกล่าวเหมือนกัน

    และนอกจากเรื่อง "ป็อก ป็อก ครืด"จะเป็นเรื่องราวเขย่าขวัญของเด็กมช.กนแล้วก็ยังมีเรื่องเล่าหลอนๆอื่นๆที่เล่ากันปากต่อปาก

    **หอนาฬิกา ..วนครบ 3 รอบเจอดีแน่

    เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเพื่อนและคนรู้จัก ที่อยากลองดี อยากรู้ว่า ตำนานเรื่องหอนาฬิกาเป็นจริงหรือเปล่า มีความเชื่อที่บอกต่อๆ กันมาว่า

    ถ้าขับรถทวนเข็มนาฬิกา บริเวณหอนาฬิกาจะเจอดี...
    ไม่ว่าจะเป็นคนกระโดดมาจากยอดบนสุดของหอนาฬิกา หรือกระโดดลงมาบนรถที่ขับในบริเวณนั้น และอีกหลายคนที่วนครบ 3 รอบ แต่ไม่เจอ แต่พอหันไปทางกระจกรถก็เห็นว่า มีคนมองอยู่

    **ห้องสีชมพู

    ห้องสีชมพูตำนานอันลือลั่นของเด็กใหม่ปี 1 ทุกคน โดยเฉพาะ นศ.หญิงที่จะต้องพักที่หอ 8 โดยรุ่นพี่ที่เคยอยู่หอนี่จะบอกและย้ำเสมอว่า เวลาจะเข้าห้องน้ำต้องเอาเพื่อนไปด้วยเสมอ ห้ามลืมเด็ดขาด!! นี่คือคำเตือนของรุ่นพี่ประจำหอ ที่เพื่อนได้ฟังตอนปีหนึ่ง

    แล้วรุ่นพี่อีกคนก็เล่าให้ฟังเกี่ยวกับประวัติของห้องสีชมพูนี้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วปี 32 ของนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง ซึ่งประเพณีหรือเรียกว่ากฏของ มช.คือเด็กปีหนึ่งทุกคนต้องอยู่หอใน เพื่อที่เวลาพี่เรียกมาทำกิจกรรมรับน้องจะได้พร้อมกันอย่างรวดเร็ว ส่วนคนที่อยู่เชียงใหม่ส่วนมากจะกลับบ้านเย็นวันศุกร์กลับเข้าหอก่อนเย็นวันอาทิตย์

    เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อรุ่นพี่ต่างคณะเกิดมาชอบ นศ.หญิงน้องใหม่คนหนึ่ง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นับวันยิ่งดูรักกันมากขึ้นทุกวันจนมาถึงกลางเทอม รุ่นพี่คนนี้เลยชวนนศ.หญิงไปอยู่ด้วยกันที่หอหลังมช. ทุกเย็นวันศุกร์หน้าหอ 8 จะมีรุ่นพี่คนนี้มาจอดรถรอ นศ.หญิงคนนี้ทุกครั้งและจะมาส่งตอนเย็นวันอาทิตย์ทุกครั้ง

    เป็นไปอย่างนี้เกือบจะ 5 เดือนจนเป็นที่อิจฉาของเหล่านศ.หญิงที่หอนั้น ใครเห็นก็ต่างพูดแซวอยู่ตลอดเวลา ทำให้นศ.หญิงรู้สึกดีใจและรักรุ่นพี่คนนี้มาก แต่ต่างกันรุ่นพี่คนนี้เริ่มที่จะตีตัวออกห่าง เพราะรู้สึกว่านศ.หญิงคนนี้ เริ่มที่จะจริงจังกับตนเองมากเกินไป

    แล้ววันที่นศ.สาวคนนี้เสียใจที่สุดและได้สร้างตำนานอันลือลั่นก็มาถึง เย็นวันศุกร์ที่รุ่นพี่จะต้องมารับเป็นประจำทุกครั้ง..แต่วันนี้รุ่นพี่มาถึงก็ดึกมากแล้ว นศ.หญิงเลยถามว่า ทำไมมาดึกซึ่งหลายคนก็บอกว่าเพราะรุ่นพี่คนนั้นไปติดพันหญิงอีกคนอยู่ นศ.หญิงคนนี้ได้ยินแล้วก็เก็บไว้ในใจตลอดไม่กล้าที่จะถามเพราะกลัวเสียคนรักไป และเธอก็บอกกับรุ่นพี่คนนี้ว่ามีเรื่องที่จะพูดด้วย เป็นเรื่องสำคัญมาก รุ่นพี่คนนี้ก็บอกให้ไปคุยกันที่หอหญิงสาวคนนี้ก็เลยซ้อนรถไปแล้วก็คุยขณะที่ซ้อนรถอยู่ บอกว่า

    ตนเองตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้วพอได้ยินแค่นั้นรุ่นพี ่คนนี้ก็จอดรถทันที แล้วก็ถามย้ำว่าเมื่อกี้พูดว่าอะไร

    นศ.สาวเลยย้ำไปว่าตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้ว รุ่นพี่คนนี้ไม่รับผิดชอบหาว่าสาวนอกใจไปคบชายอื่น พอท้องแล้วจึงมาอ้างว่าตนเป็นคนทำ รุ่นพี่คนนี้ขอบอกเลิกเธอในทันที และปล่อยให้เธอเดินจากหลัง มช.กลับมาที่หอตามลำพัง

    ระหว่างทางนศ.สาวคนนี้ก็คิดเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งความรู้สึกเสียใจปนความเคียดแค้นต่อชายหนุ่มที่ทิ้งเธอไป บวกกับกลัวทางบ้านจะรู้ความจริงและทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ทำให้เธอตัดสินใจเอาเด็กออก แต่เธอไม่กล้าพอที่จะไปที่โรงพยาบาลหรือบอกให้ใครทราบ พอมาถึงห้องเมทไม่อยู่เพราะกลับบ้านกันหมด เธอเลยเอาเด็กออกด้วยตัวเอง
    โดยการเอาไม้บรรทัดเหล็กกระทุ้งจนมดลูกฉีกเธอทำไปโดยไม่รู้วิธีการที่ถูก ต้อง ทำให้เธอเกิดอาการตกเลือดอย่างรุนแรง ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเธอได้เขียนข้อความไว้บนกำแพงห้องนั้นว่า

    'กูมีมึงคนเดียว'

    วันรุ่งขึ้นเมทร่วมห้องก็เข้ามาที่หอด้วยท่าทีวิตกกังวล และได้ไปที่ห้องพักที่เธอได้พักกับนศ.สาวคนนี้ ก็ได้พบกับศพของหญิงสาว รอยเลือดกระจัดกระจายและข้อความบนกำแพงจึงแจ้งให้ป้าผู้คุมหอทราบ ก็ได้มีการสอบสวนเมทคนนี้ว่ารู้ได้อย่างไรว่าเพื่อนเสียชีวิต เมทคนนี้ก็บอกว่าเมื่อคืนฝันเห็นเพื่อนมาบอกลา และให้ไปเอาศพที่ห้องลงมาด้วย แถมยังฝากบอกป้าคุมหออีกว่า...ห้ามใครก็ตามมายุ่งกับห้องของเธอ

    หลังจากจัดการเรื่องศพและงานศพเรียบร้อยแล้ว ก็ได้มีการทำความสะอาด ห้องนั้นโดยใช้ผ้าชุดน้ำเช็ดรอยเลือดให้สีจางลง เปลี่ยนที่นอนและผ้าปูที่นอนใหม่จนห้องเกือบจะสะอาดเหมือนเดิม แต่รุ่งขึ้นสิ่งที่ทำให้ทุกคนขนลุกก็คือ

    ...ทั้งรอยเลือดและข้อความที่หญิงสาวคนนั้นทิ้งไว้ไม่ได้หายไป แต่รอยเลือดกลับเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ...

    ทางหอเลยพิจารณาเอาสีใหม่มาทาทับไม่ให้เห็นรอยเลือด แต่แล้วพอวันรุ่งขึ้นรอยต่างๆก็กลับมาอยู่ดังเดิมเหมือนกับไม่ได้มีการนำสีมาทาแต่อย่างใด

    ทางหอเลยได้เชิญพระที่วัดฝายหินมาทำพิธีแต่พระท่านบอกว่าทำพิธีไล่ไปคงไม่ได้เพราะวิญญาณนี้เฮี้ยนมาก เพราะยังมีความอาฆาตและมีลูกในท้องอีกด้วย เลยได้แต่ทำการสะกดวิญญาณไม่ให้ไปหลอกคนในหอ หลังจากทำพิธีสะกดวิญญาณเรียบร้อยแล้ว ทางหอก็ได้ทาสีห้องใหม่แต่คราวนี้ใช้สีชมพู เพราะจะได้มองไม่เห็นคราบเลือดบนกำแพง จนกลายมาเป็นตำนานห้องสีชมพูจนถึงเดี๋ยวนี้

    ** ป้าลูซี่

    ป้าลูซี่ เป็นใครมาจากไหน ไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่า เขาคอยห่วงใย ดูแลเราอยู่ไม่ห่าง โดยเฉพาะช่วงเวลารับน้อง พวกเราจะเจอป้าลูซี่ทุกครั้ง....

    บริเวณตึกคณะมนุษยศาสตร์ มช. จะมีเนินหญ้าที่เชื่อมระหว่างธารน้ำเล็กๆ และมีสะพานเดินข้าม ซึ่งเป็นบริเวณใกล้กับสถานที่รับน้องของคณะ ซึ่งช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม จะเป็นช่วงสุดท้ายของการรับน้อง ก่อนที่จะปล่อยกลับเข้าหอพัก ก็มีนศ.ชายคนหนึ่งเกิดไม่สบาย เป็นหอบ รุ่นพี่จึงพาไปยังห้องพยาบาล ซึ่งอยู่บริเวณ เนินหญ้า หลังจากที่ปล่อยนศ.หญิงกลับหอพัก ส่วนรุ่น นศ.ชาย อยู่รับน้องต่อ

    จนกระทั่งมีเสียงหมาหอนดังขึ้นเป็นระยะ หลายคนสงสัยแต่ไม่มีใครพูดอะไร จนกระทั่งงานรับน้องจบลง มีนศ.น้องใหม่คนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า เห็นผู้หญิงใส่ชุดขาว ยืนดูอยู่กิจกรรมรับน้องอยู่นาน แต่ก็ไม่พูดอะไร เพราะคิดว่า คงเป็นอาจารย์ที่เดินมาดูแลความเรียบร้อย บางคนก็บอกว่า รู้สึกเหมือนมีคนมาลูบหัว

    จนกระทั่งเหตุการณ์นี้ ได้คลายความสงสัยลง เมื่อรุ่นน้องที่อยู่ในห้องพยาบาล ซึ่งรับรู้เรื่องแบบนี้ หรือเรียกว่า มีจิตที่สัมผัสได้ ก็ทักขึ้นมาว่า

    ...เมือคืนหนักเลยละซิ เขา(ผู้หญิงใส่ชุดขาว) เป็นห่วงกลัวเด็กๆ เกิดอันตราย เลยต้องมาดูแลอยู่ไม่ห่าง"


    ** “กุหลาบแดง

    แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะเราดูอยู่ตลอด แต่ทำไงได้ภาพในกล้องวีดีโอมันทำให้เราเห็นว่า น้องๆ ที่แสดงในวันนั้น ไม่ได้มีแค่ 4 คน แต่มันกลับมี 5 คน...

    เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2550 เมื่อคณะสื่อสารมวลชนฯ มช. ต้องทำการแสดงในช่วงค่ำคืนของวันสปอร์ตไนท์ ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของคณะที่จะนำเสนอการแสดงของตนเอง ด้วยความเป็นที่คณะที่ถือว่า กล้าแสดงออก จึงคิดค้นการแสดงแปลก เพื่อเรียกคะแนนนิยมจากคนดู เหล่ารุ่นพี่จึงตกลงปลงใจที่จะนำเสนอการแสดงที่มีชื่อว่า

    “กุหลาบแดง” ซึ่งมีผู้แสดงทั้งหมด 4 คน ใส่ชุดยาวสีขาวทุกคน และต้องปืนป่ายขึ้นไปบน สแตนด์ สูงประมาณ 3 ชั้นของตึก เพื่อที่จะโรยตัวลงมา เพราะการแสดงชุดนี้ มีคอนเซ็ปต์ที่นำเสนอเกี่ยวกับ สาวที่อกหักจากหนุ่มคนรัก จึงตัดสินใจผูกคอตาย

    รู้ว่ามันเป็นวิธีที่เสี่ยง ถ้าน้องๆ เกิดพลาด ดึงเชือกแขวนคอจริง เราคงรับผิดชอบไม่ไหวแน่ แต่หลังจากที่ซักซ้อมมาหลายวันก็มั่นใจว่าน้องต้องไม่พลาด”

    หลังจากที่การแสดงจบลง ทุกอย่างเป็นตามที่ตั้งหวังไว้ การแสดงชุดนี้ได้รับความชื่นชมจากเพื่อนรวมคณะ และต่างคณะ ทุกคนพากันมาแสดงความยินดี และพูดขึ้นว่า

    “ชอบจัง แสดงได้ดี น่าหวาดเสียวทั้ง 5 คนเลย”
    ทุกคนที่จัดการแสดงอึ้ง แบบพูดไม่ออก เพราะการแสดงชุดนี้มีผู้แสดงเพียง 4 คนเท่านั้น และคนที่ 5 เป็นใคร จากนั้นมีเพื่อนคนหนึ่งที่ถือกล้องวิดีโอบันทึกภาพ วิ่งมาอย่างหน้าตาตื่น บอกว่า

    ...จริงอย่างที่เพื่อนพูด การแสดงชุดนี้มี 5 คน มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เห็นผู้แสดง 4 คน

    รุ่นพี่จึงตัดสินใจลบภาพ และเก็บเรื่องไว้เป็นเพียงเรื่องเล่า แต่ก็ยังมีคนนำกลับมาเล่า พร้อมกับหลักฐานที่บางคนเห็น และบางคนไม่เห็น ในเว็บไซต์ต่างๆ ลองเข้าไปดู และตัดสินช่วยพวกเราตัดสินอีกครั้งว่าการแสดงชุดนี้ มีกี่คนกันแน่?

    .......แต่ก่อนที่ความน่ากลัวของรั้ว ม. ชื่อดังของภาคเหนือจะจบลง Life On Campus ขอออกตัวว่า บางเรื่องเป็นเพียงแค่ความเชื่อ ที่บอกต่อกันมา บางเรื่องอาจจะผิดเพื้ยนไป ซึ่งนั้นก็ถือว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

    ** ติดตาม เรื่องเล่าสยองขวัญในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็น ศาลในห้องน้ำหญิง , โค้งยายจ้อย ริมถนนมอเตอร์เวย์ เสียงฝีเท้า คนเดินตาม ณ สนามกีฬาจาก ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง / โจงกระเบนสีแดง ณ พอเพชรรัตน์ จากม.ศิลปากร สนามจันทร์ / อย่ายืนทับที่ , เด็กผมจุก..ขอเล่นด้วย จากม.รังสิต........ ได้ที่ เรื่องเล่า นศ.(เรื่องลี้ลับ ริมม.)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สนุกดีครับ
     
  3. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ตอนเป็นเด็ก เคยเป็นสัปเหร่อ กับพ่อนะครับเคยไม่ค่อยกลัว
     
  4. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,038
    อยู่หอ 7 หญิงมานาน ไม่ยักกะได้ยิน เรื่องนี้เลยค่ะ
    หอ 8 หญิง ห้องสีชมพูนั่นอีก ไม่เคยได้ยินค่ะ
    แต่ก็มีรุ่นพี่เล่า ให้ฟังเรื่องหอ 3 หญิง ที่สร้างเป็นรูปแปดเหลี่ยม
    ว่าตอนกลางคืน นักศึกษาที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่าน เห็นผู้หญิงแต่งตัวชุดช่างฟ้อน มาฟ้อนให้เห็นค่ะ บ้างก็ว่าในมช.เป็นป่าช้าเก่า ก็สุดแต่จะว่ากันไปค่ะ ฟังก็สนุกดี ตื่นเต้นดี
     
  5. kitjapong

    kitjapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +244
    น่าดูดีนะครับเรื่องนี้ น่าเสียดายไม่มีมอผมอ่ะ หุหุ
     
  6. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    แปลกดีครับ
     
  7. wimonmas

    wimonmas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +197
    เรื่องป๊อก ป๊อก ครืด ได้ยินมาประมาณเกือบ 20 ปีแล้วคะ..
    หอนาฬิกาเคยได้ยินเหมือนกัน..ไม่ได้เรียนที่ม.ช แต่มีคนรู้จักเล่าให้ฟัง..
    มีอีกหลายเรื่องเลย..ที่เค้าเล่าให้ฟัง(คนเล่าเค้าตายแล้ว)..แหะ..แหะ..
     
  8. Mckaforce

    Mckaforce Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +37
    ชอบครับ
    เรื่องพวกนี้มีกันทุกที่
    คนเจอก็ว่าจริง
    คนไม่เจอยังไงก็ไม่เชื่อวันยังค่ำ
     
  9. เชตวัน41

    เชตวัน41 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +51
    แปลกดีครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. ต้นสน

    ต้นสน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +40
    catt15เคยได้ยินเรื่องแรกค่ะ...เมนูเป็นโจ๊ก....โดนรถชนตายค่ะ..ได้ยินรุ่นพี่เล่าให้ฟังตอนเรียนปี1...แต่เรียนที่ มอ.ค่ะไม่ได้เรียน มช.แบบว่ารุ่นพี่มีเพื่อนอยู่มช.น่ะค่ะ.....
     
  11. มนต์ชัยIM

    มนต์ชัยIM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +473
    น่าสงสารเรื่องแรกน่ะครับ เป็นการแสดงออกถึงดวงวิญญาณของนศ.หญิงที่รักเพื่อนคนนี้มาก...

    แล้วชาตินี้เราจะหาเพื่อนที่ดีกับเราอย่างนี้ได้มั่งไหมนี่???
     
  12. begn_

    begn_ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +71
    สนุกดีครับ
     
  13. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ไปเชื่อเด็กสื่อสารมวลชน พวกนี้มัวแต่แต่งเรื่องแต่งตัวไปวันๆ งานการไม่ทำ ไล่จับผู้ชายไปเรื่อยๆ มีเด็กมาก็แต่งเรื่องผี เรื่องเก่าเค้าเล่ามาผสมปนเป เป็นเรื่องใหม่บ้าง แล้วก็ไปหลอกเด็ก สมัยก่อนตอนดึก ไอ้พวกนี้ชอบไปทำอะไรกัน ใต้บันไดดึกเก่า สมัยก่อนเคยไปแอบดูกะยามอยู่ สันดานจริงๆเลยพวกนี้
     
  14. กสิณี

    กสิณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2009
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +333
    ตอนเรียนอยู่ที่หอนี้ห้องชั้น 2 แถวนี้ด้วยไม่เคยรู้เรี่องอะไรพวกนี้เลย ไม่เคยเจอผีที่หอนี้เลย ปี 32 ก็อยู่ที่นี่แล้วด้วย แต่เคยนั่งสมาธิแล้วเห็นตัวเองอยู่กลางสนามรบ มีม้ามีคนถือดาบไล่แทงกัน
     
  15. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    เอาประวัติจริงๆไปก็แล้วกัน พื้นที่บริเวณมหาลัยแห่งนี้กินอนาเขตกว้างขวาง
    บริเวน โรงยิมกลาง เป็นบริเวณแอ่งน้ำที่ทำคันดินกั้นไว้ในสมัยโบราณเพื่อไม่ให้น้ำป่าไหลเข้าท่วมเมืองอีกยังใช้ในการชลประทานการเกษตร มีหลักฐานคือคันดินบริเวณปั้มน้ำมันปตท และสนามยิงธนู

    บริเวณตึก9ชั้นวิทยาศาตร์ทางตะวันออกอาคารเรียนรวม3 เป็นป่าช้าที่ฝั่งศพเก่า สมัยโบราณ ก่อนสร้างตึกได้ขุดพบโครงกระดูกจำนวนมาก พร้อมกับไหหม้อดินใส่กระดูก

    มีบริเวณนึง เป็นลานประหารคนโบราณ ประหารจำพวกเชลยจากอยุธยา พวกบ่าวไพร่ที่ทำผิด รวมทั้งคนในวังในคุ้มที่ทำผิด ก็เลยมีตำนาน เห็นขบวนเห่คนโบราณจากคณะสังคมเดินตามทางผ่านหอสมุด แวะตามทางน้ำตรงแยกเข้าคณะเศรษฐศาสตร์และวิทย์สื่อเข้ามายังลานใต้อมช. แล้วผู้หญิงที่สวยๆที่นั่งอยู่บนแคร่หัวหลุดเลือดกระเด็น ไม่รู้มันแต่งกันเองไม่รู้(หรือเอฟเฟคเด็กวิจิตรศิลป์)

    หลายที่เคยเป็นที่เผาศพทหารญี่ปุ่น เพราะสมัยนั้นตายกันมาก บ้างเผาไม่ทันก็ฝัง
     
  16. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    หอ3หญิงมีตำนาน ที่ทำเป็นรูปแปดเหลี่ยม ก็เพื่อจะสะกดวิญญาณและไม่ให้วิญญาณได้เข้าไปสิงสู่ เพราะที่บริเวณนั้น มีเรื่องราวเยอะ จึงทำเป็นรูปสายฟ้าชี้ไปยังยันแปดเหลี่ยม โดยหอสองหญิง เป็นรูปซิกแซก เหมือนสายฟ้า ชี้ไปยังหอสามหญิงที่เป็นยัณแปดเหลี่ยม ตามตำราจีน เพื่อไม่ให้ผีเฮี้ยน แต่ผิดความคาดหมาย วิญญาณเข้าไม่ได้ แต่วิญญาณที่อยู่ในนั้นก็ออกไม่ได้เหมือนกัน เลยมีเรื่องเล่าสาวเห็นภาพหลอน ตอนอาบน้ำ แล้วเห็นผู้หญิงโชคเลือด เดินตามมาถึงที่ห้อง สรุปหมอบอกมีอาการทางประสาทหน่อยๆ เห็นภาพหลอน เพราะไอ้พวกรุ่นพี่มันชอบใส่เรื่องผีๆในหัว ส่วนอีกคน อันนี้รู้จัก เป็นคนลำพูน ดูท่าทางมันก็ขี้กลัวอยู่แล้ว มันบอกว่าอยู่หอสามหญิง ไปซักผ้าที่อ่าง ตอนกลางคืน มีผู้หญิงคนนึงเดินมาข้างๆ อยู่อ่างถัดไปก้มล้างหน้าอยู่ ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรมาก แต่เห็นมันล้างนานเกินไป เลยหันไปดู มันบอกว่า หัวหลุดลงไปในอ่าง มันกรี๊ดวิ่งเกียร์หมาออกไป วันต่อมาก็ออกไปอยู่หอนอกมหาวิทยาลัย(ผมว่ามันหาข้ออ้างมากกว่ามั้ง อยากไปอยู่หอนอกกับผู้ชายมากกว่า)

    ตึกฟิสิกส์นี่ก็ใช่ย่อย(ตึกเก่า) พวกบ้าเรียนมันก็เรียนกันจนเป็นบ้า ว่างๆก็โดนตึกเล่นสงสัยจะทดลองกฎของนิวตัน มารู้ว่าจริงก็ไปคุยทฤษฎีกับยมบาลไปแล้ว

    หอทุกหอมีคนตายหมดยกเว้นหอใหม่ ส่วนใหญ่ฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุหลักๆ
    1 เกรดไม่ดี เรียนจะไม่จบ หรือไม่ได้เกียรตินิยม
    2 อกหัก ท้อง แท้ง
    3 โดนข่มขืน เศร้าใจ
    4 โดนกระเทยฆ่า ข้อหาแย่งคู่ขาไป
    เห็นคนเล่าว่า ปัจจุบัน ผีแบบโบราณ ที่ว่าเปรตหอนาฬิกา หรือว่าเปรตเดินข้ามหอสามชาย ผีคนโบราณ จะไม่ค่อยเห็น แต่ที่เห็นคือผีตายโหง สมัยนี้เยอะเหลือเกิน อ่างแก้วนี่อันดับหนึ่ง ตามหออันดับสอง
    (เรียกได้ว่าตีแผ่ให้รับรู้ความจริง ทั่วๆกันเลย)
     
  17. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    แต่หอ7หญิงมีเรื่องที่เด็ดที่สุดคือเรื่อง เด็กที่ตายแล้วไม่รู้ตัวเอง จนเป็นตำนานการทำบุญหอที่ต่างวันกับหออื่น
     
  18. Dreamo

    Dreamo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +82
    ป๊อก ป๊อก ครืด น่ากลัวมากคะไปดูในโรง เรื่องมหาลัยสยองขวัญ
    เสียงเอฟเฟค ป๊อก ป๊อก ครืดดด ทำเอาหลอน T^T
     
  19. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,038
    เพิ่งรู้รายละเอียดวันนี้เอง ค่ะ เพราะที่เล่าๆกันก็ ฟังต่อกันมาอีกทีแล้วมาเล่าค่ะ ครบบ้างไม่ครบบ้าง เคยพักอยู่ที่หอ 2 หอ7 ด้วยค่ะ แต่ช่วงที่พักอยู่ หอ 1หญิง ช่วงสอบ นอนดึก กัน มีคืนนึง เล่าลือกันว่าได้ยินเสียงผีเปรตมากรีดร้อง ดิฉันก็ได้ยิน ค่ะ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเสียงเขา ใจยังนึกสงสัยเลยว่า เอ๊ เสียงหมาหอนทำไมไม่เหมือนเสียงหมา พอรุ่งเช้า ก็เป็นข่าวโจษจันกันไปค่ะ
    สาธุ
    - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - -- -- -- - - - - - - - - -- - - --
    หมายเหตุ : เมื่อวานนี้ เข้าเว็บ มช. ไปดาวน์โหลดเพลง ประจำมหาวิทยาลัยมาฟัง
    จนครบ18 เพลงค่ะ ท่านใด่สนใจ เข้าไปดาวน์โหลดมาฟังกันได้นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2009
  20. longhorn48

    longhorn48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2006
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +874
    มีทุกที่แหละครับ
    เพราะที่ที่เขาใช้สร้าง ม. ส่วนใหญ่ก็จะมีตำนานอยู่แล้ว
    เป็นต้นว่า เคยเ็ป็นป่าช้า เป็นลานประหารมาก่อน หรือเจ้าที่แรง
    เป็นความเชื่อที่อยู่กับคนไทยมานานครับ
    ที่ อย่าง มข. ก็มีเรื่องสะพานขาว เพื่อนที่หอร้าง ก็ว่ากันไปตามแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน
     

แชร์หน้านี้

Loading...