มาดูสมเด็จกัน

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย wasabi san, 25 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. infinityboon

    infinityboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +188
    ขอบคุณครับ ช่วงนี้ทองแพงคงต้องเก็บไว้ก่อน แล้วองค์ที่ว่าน่าจะวัดไหนครับ แล้วก็พิมพ์อะไรครับ ผมจะได้รู้เอาไว้
    ส่วนอีกองค์ข้างล่างนี้องค์นี้มีเส้นเหมือนจะเป็นพระศอของวัดไหนครับ พระที่เหลือผมคงจะถ่ายมาทีล่ะองค์จะคัดเอามาที่พิมพ์ทรงต่างกัน คงไม่เป็นการรบกวนไปนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าเช่นเดิมครับ
    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2009
  2. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
     
  3. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    [FONT=&quot]ขอบคุณทุกท่านที่มีความคิดดีๆ ต้องการความรู้จริงๆ
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ผมไม่เห็นด้วยกับการโพสต์ของคนในเวปนี้สักเท่าไหร่ บางท่านมีเป็นคนดีมาก แต่บางท่านไม่เป็นอย่างนั้น
    [/FONT]
    [FONT=&quot]ผมว่าการรุมกินโต๊ะผมไม่สำเร็จหรอกครับ บารมีคนมันผิดกัน อิจฉาผมได้[/FONT] [FONT=&quot]แต่ทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ ผมเขามาลองของดูเท่านั้น[/FONT] [FONT=&quot]ส่วนข้อความที่แสดงความคิดเห็นมันจะสะท้อนตัวตนคนสัตว์ ว่าใครเป็นใคร[/FONT] [FONT=&quot]คิดอย่างไร เจตนาอย่างไร มีอวิชา มีโทสะ ในตัวขนาดไหน[/FONT]

    [FONT=&quot]การเอาพระแท้มาลองยา เป็นเครื่องชี้วัดว่า คนในเวปนี้มีคุณธรรมขนาดไหน[/FONT] [FONT=&quot]มีความบริสุทธิ์ใจขนาดไหน มีความเป็นมารขนาดไหน คุณรู้ไหมว่าผมวางยาโทรไปหาคนมากมาย[/FONT] [FONT=&quot]เพื่อดูการโพสต์ของพวกคุณ แต่ละวันผมแถบไม่ต้องทำงาน[/FONT] [FONT=&quot]มีแต่คนโทรมาด่าคนที่มีมานะทิฏฐิ อวดเดื่อถือดี มีปัญญาหยาบ[/FONT] [FONT=&quot]ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หลอกคนที่มีภูมิความรู้น้อยกว่า[/FONT] [FONT=&quot]สร้างหลักสากลอันเลื่อนลอย ผมมาเล่นเวปนี้[/FONT] [FONT=&quot]เพราะมีคนต้องการให้ผมทำงงานชิ้นนี้ และช่วยมาบอกคนในเวปว่า อย่าตกเป็นเครื่องมือของคนบางคน[/FONT] [FONT=&quot]ที่พยายามปั่นพระเครื่อง แล้วคนดีๆจะพลอยเสื่อมไปด้วย[/FONT]
    [FONT=&quot]วันหน้าหวังว่าเวปนี้จะมีคนดีจริงๆ ทำเพื่อส่วนรวมจริงๆ เป็นแหล่งความรู้อันมีคุณค่าในอนาตค ไม่มีอันทพาลเฝ้าเวปเหมือนอย่างทุกวันนี้<o>:p></o>:p>[/FONT]
     
  4. 12480720

    12480720 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2009
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +540
    แว๊ก ท่าน wasabi_san ใจเย็นๆอย่าพึ่งคิดขนาดนั้นเลยครับ เอางี้ดีไหมครับจะปีใหม่แล้วถ้าความเห็นเรื่องพระไม่ลงกัน อย่าไปคิดกันดีไหมครับแต่ละท่านก็มีแนวทางศึกษาต่างกันไป ท่านwasabi_sandก็พักเรื่องลงรูปพระซักพักดีไหมครับถือว่าคนในเวปนี้ส่วนมากอาจจะศึกษามาคนละแนวทางลองมาสนทนาเรื่องผ่อนคลายธรรมะก็ได้นะครับ

    ผมไม่อยากให้ท่านคิดว่าคนรุมท่านนะครับไม่มีหรอกครับ จิกโก๋ก็ไม่มีครับเชื่อผมนะครับ เวปอบอุ่นๆ<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915

    ขอบคุณมาก คุณ12480720 ด้วยความนับถือ
     
  6. infinityboon

    infinityboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +188
    สู้ๆต่อไปครับ
     
  7. A-Ho-Si

    A-Ho-Si เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +739
    สว่างแล้ว อ่านมาตลอด
     
  8. Guu3

    Guu3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,520
    ค่าพลัง:
    +722
    หลงทางเสียเวลา หลงเช่าพระเก๊มา เสียกะตังค์

    ว่าจะพิมพ์ยาวๆ แต่มาคิดอีกที พอหละเดียวจะไปกันใหญ่
     
  9. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    พี่Guu3 ยิ่งดูพระเป็น ยิ่งไม่กล้าเช่า

    ไม่รู้ใครเป็นอย่างผมบ้าง

    สบายใจได้ พี่Guu3 ผมยังอ่านกระทู้อยู่ เป็นกำลังใจให้
     
  10. parlang

    parlang สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +2
    [​IMG]

    ....สวยจังคับ....คล้ายบล๊อคแรกเรย...ถ้าเป็นของปลอมก็สุดๆ...ถ้ามีคนขอเช่าต่อเนี่ย คิดเท่าไหร่คับ

    บล๊อค 1 บล๊อค 2
    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ธันวาคม 2009
  11. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915

    นี่คือความยากของการดูสมเด็จ เค้าปลอมชนิดที่ถอดพิมพ์มาเลย ผมทดสอบมาทั้งวิทยาศาสตร์ ทั้งตรวจหามวลสาร ดูน้ำหนัก เทียบเนื้อพระกับสมเด็จองค์อื่น องค์นี้ถ้าคุณสังเกตดีๆ การยุบตัวผิดธรรมชาติ ยุบเป็นแอ่งๆ มีตำหนิที่แขนจะมีติ่ง แต่องค์จริงไม่มี การสลายของเนื้อพระไม่เป็นธรรมชาติ ผิดสีวรรณะ อันสุดท้ายไม่มีมวลสารบนผิวพระเลย ผมโดนเพราะพิมพ์นี้หลายองค์

    การดูสมเด็จจำต้องมีตัวอย่างของจริง ให้รู้มวลสารตั้งต้น พิมพ์พระ เหตุผลการวางพิมพ์พระ ประสบการณ์ ดูความหนึกนุ่ม เนื้อที่ผ่านการใช้ดูอย่างไร พระใช้และพระไม่ใช้ดูอย่างไร เป็นตัวตั้ง

    หวังว่าทุกคนรองนำไปใช้ดู ผิดเป็นครู แต่อย่าบ่อย โชคดีครับ
     
  12. infinityboon

    infinityboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +188
    แล้วสมเด็จองค์นี้วัดไหนพิมพ์อะไรครับ แล้วสมเด็จหลายองค์หน้าหลังพอจะดูออกป่าวครับพิมพ์เดียวกัน
    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2009
  13. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    พระองค์ใหญ่ ต่างจากพระองค์ที่มีกรอบรวม

    พระองค์ใหญ่มีคราบแป้ง บางครั้งคราบแป้งก็ทำปลอมได้ แต่มวลสารที่เห็น ผมว่าพระองค์นี้ไม่น่าปลอม เป็นพระแท้ที่ไม่ผ่านการใช้ แต่จะทันสมเด็จโตฯท่านหรือเปล่า ผมยังสงสัยอยู่

    เอาทางพิมพ์ก่อนนะ วงแขนไม่เห็นสมเด็จโดยทั่วไป ปลายพระเกศจากฐานพระเศียรโย้ไม่เหมือนกัน

    ส่วนพระกรอบรวม อย่าโกรธกันนะ ทรงพิมพ์ไม่ได้ การกำหนดเส้นแบบพิมพ์ไม่เคยเห็นครับ น่าจะเป็นรุ่นหลัง ผมไม่มีข้อมูลพิมพ์นี้ครับ

    พระสมเด็จ ได้ทำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แต่มวลสารแต่ละยุคก็เริ่มต่างกัน ผมเห็นพระแล้วไม่ขอตีเก๊ เพราะพระยังคงพื้นฐานเดียวกันอยู่

    พระถ้าไม่ได้สัมผัสดูด้วยตัวเอง ส่องด้วยกล้อง ดูด้วยตา คงเป็นเรื่องยากที่จะชี้ว่าพระนั้นแท้ หรือเก๊

    ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว หากใครมีข้อมูลที่มีประโยชน์จะช่วยให้ความกระจ่างก็ยิ่งดี เพื่อสงเคราะห์กันและกัน
     
  14. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,200
    พระสมเด็จนี่ผมดูพอไหวแค่บางขุนพรหม เกศยาวหูยาน ผมเรียกพิมพ์ไม่ถูก เคยเอามาเทียบกับของรุ่นพี่ พิมพ์เดียวกัน แต่ของผมคราบกรุน้อยกว่า และไม่มีปั๊มตรายางของวัด แต่แท้ทั้งคู่
     
  15. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    ประวัติการสร้าง
    พระสมเด็จบางขุนพรหม
    (วัดใหม่อมตรส)
    บางขุนพรหม กรุงเทพมหานคร
    เสมียน ตราด้วง ท่านเป็นต้นสกุล ธนโกเศศ เป็นคหบดีผู้มั่งคั่งย่านบางขุนพรหม และจากหน้าประวัติของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ ผู้ประติมากรรมพระสมเด็จวัดระฆัง อันมีค่านิยมสูงจนรั้งตำแหน่งราชาแห่งพระเครื่องมาโดยตลอดนั้น ท่านเสมียนตราด้วง ท่านได้ปวารณาตัวเป็นโยมอุปัฏฐากและรับใช้ใกล้ชิดในท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ พระองค์นั้นอย่างเสมอต้นเสมอปลายตลอดมาทุกยุคทุกสมัย แต่ครั้งท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ยังเป็นสามเณร และได้จำเริญสมณศักดิ์จนได้รับพระมหากรุณาธิคุณสถาปนาเป็นที่สมเด็จพระพุฒา จารย์ จนกระทั่งท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านชราภาพ ชนม์มายุได้ ๘๔ ปี จึงได้ลาจากสมณศักดิ์ยกขึ้นเป็นกิตติมศักดิ์ ท่านได้จึงมาพักผ่อนและแสวงหาความสงบวิเวกอยู่ ณ ที่วัดบางขุนพรหม กำกับดูแลช่างเขียนภาพประวัติส่วนตัวของท่านและควบคุมช่างก่อสร้างพระศรี อริยเมตไตรยอีกด้วย
    วัดบางขุนพรหมในอดีตนั้นเป็นวัดที่มีอาณาเขตที่กว้าง ขวางมากวัดหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านกลับมาพักผ่อนเป็นที่สำราญอารมณ์อยู่นั้น ได้มีชาวบ้านในย่านบางขุนพรหมได้นำเอาที่ดินอันเป็นเรือกสวนไร่นามาถวายท่าน เจ้าประคุณสมเด็จฯ แล้วรวมเป็นที่ดินของวัดบางขุนพรหม และเพื่อให้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ สร้างพระหลวงพ่อโต เมื่อรวมที่ดินของวัดบางขุนพรหมแล้วมีอาณาเขตกว้างขวาง ทิศตะวันตกจดแม่น้ำเจ้าพระยา ทางทิศเหนือจดคลองเทเวศร์ ทิศตะวันออกถึงบ้านพานบ้านหล่อพระนคร
    ครั้นถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุล จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๕ ทรงพิจารณาเห็นความจำเป็นในการถมนาเพื่อความเจริญของบ้านเมือง จึงทรงมีพระราชดำริให้ตัดถนนวิสุทธิ์กษัตริย์ผ่านกลางวัดบางขุนพรหม จึงทำให้วัดบางขุนพรหมต้องแยกออกเป็นสองวัด คือ วัดบางขุนพรหมใน หรือ วัดใหม่อมตรส ในปัจจุบัน และวัดบางขุนพรหมนอก คือวัดอินทรวิหาร อันเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต (พระศรีอริยเมตไตรย) และเมื่อทางราชการได้ตัดถนนสามเสนก็ได้แบ่งที่ดินของวัดบางขุนพรหมออกไปอีก ส่วนหนึ่ง
    วัดบางขุนพรหมเป็นวัดเก่าแก่มีมาแต่สมัยอยุธยาเป็นราชธานี และเป็นวัดที่สร้างอยู่บนที่ดอนห้อมล้อมไปด้วยเรือกสวนและไร่นา เข้าใจว่าเป็นวัดที่ประชาชนในละแวกนั้นช่วยกันสร้างและบูรณะสืบต่อๆ กันมา เมื่อปีจอ พุทธศักราช ๒๓๒๑ เจ้าอินทรวงศ์ราชโอรสในพระเจ้าธรรมเทววงศ์ ผู้ครองนครศรีสัตนาครหุตได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ในรัชสมัยพระเจ้า ตากสินมหาราชแห่งกรุงธนบุรี ต่อมาครั้นสร้างกรุงเทพมหานครเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าวัดบางขุนพรหมไม่เคยได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์เลยสักครั้งเดียว สิ่งก่อสร้างต่างๆ ได้ปรักหักพังลง สืบต่อมาจนถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.๕ เสมียนตราด้วง พร้อมกับชาวบ้านในย่านบางขุนพรหมและท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้ร่วมใจกันบริจาคจตุปัจจัยไทยธรรมจัดการสร้าง และซ่อมแซมวัดบางขุนพรหมขึ้นมาใหม่ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ นอกจากนั้นแล้วยังได้จัดสร้างพระมหาเจดีย์องค์ใหญ่ประดิษฐานไว้ที่หน้าวัด บางขุนพรหมเป็นพิเศษอีกด้วย เมื่อดำเนินการสร้างพระมหาเจดีย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านเสมียนตราด้วงพร้อมกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้จัดสร้างพระพิมพ์เนื้อผงสีขาวอย่างพระสมเด็จวัดระฆัง มีจำนวนมากถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ บรรจุไว้ในพระมหาเจดีย์เพื่อเป็นพุทธบูชาและการสืบพระศาสนาตามคดีโบราณนิยม อีกด้วย
    อนึ่งการสร้างพระสมเด็จบรรจุพระมหาเจดีย์ที่วัดบางขุนพรหมนั้น ได้รับความอนุเคราะห์จากท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ โดยให้ใช้แม่พิมพ์สมเด็จวัดระฆังโฆสิตารามของท่านที่เคยใช้ในการสร้างพระสม เเด็จวัดระฆัง คือ

    พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่

    พระสมเด็จพิมพ์ทรงเจดีย์

    พระสมเด็จพิมพ์เกศบัวตูม

    พระสมเด็จพิมพ์ฐานแซม
    นอก จากพิมพ์พระสมเด็จวัดระฆัง ดังกล่าวแล้วนั้น ทางคณะท่านผู้สร้างพระสมเด็จวัดบางขุนพรหมยังได้ให้นายช่างผู้แกะแม่พิมพ์ วัดระฆัง เจ้าเดิม แกะแม่พิมพ์พระสมเด็จทั้ง ๔ พิมพ์ ดังกล่าวแล้วเพิ่มเติมขึ้นมาอีก และยิ่งไปกว่านั้นยังให้แกะแม่พิมพ์พระสมเด็จวัดบางขุนพรหมขึ้นมาในรูปทรง ใหม่อีก ๗ พิมพ์คือ

    พระสมเด็จพิมพ์เส้นด้าย

    พระสมเด็จพิมพ์สังฆาฏิ

    พระสมเด็จพิมพ์สังฆาฏิ หูช้าง

    พระสมเด็จพิมพ์ฐานคู่

    พระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์

    พระสมเด็จพิมพ์อกครุฑ

    พระสมเด็จพิมพ์ไสยาสน์
    รวม ในกรุวัดบางขุนพรหมมีพระทั้งสิ้น ๑๑ พิมพ์ด้วยกันก็จริงและแต่ละพิมพ์ทรงยังมีแม่พิมพ์ที่แตกต่างกันออกไปอีกมาก อย่างเช่น พระสมเด็จพิมพ์เส้นด้าย มีแม่พิมพ์ที่ต่างพิมพ์กันไปอีกหลายพิมพ์ ตัวอย่างเช่น พระสมเด็จพิมพ์เส้นด้ายใหญ่ พระสมเด็จพิมพ์เส้นด้ายแขนกลม พระสมเด็จพิมพ์เส้นด้ายแขนหักศอก เป็นต้น

    เมื่อได้พิจารณาถึงการสร้างพระสมเด็จบางขุนพรหมแล้ว ท่านจะเห็นว่า การสร้างพระสมเด็จในครั้งนี้นั้นไม่เหมือนกับการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังที่ อยู่ในลักษณะที่ค่อยทำค่อยไปไม่รีบเร่ง รวบรวมผงวิเศษวัสดุอาถรรพณ์และวัตถุมงคลได่แค่ไหนก็ทำไปแค่นั้น มวลสารในพระสมเด็จวัดระฆัง จึงหลากหลายและมีความแตกต่างกันไปบ้างเป็นธรรมดา เพราะการผสมมวลสารต่างกรรมต่างวาระกัน ผิดกับการสร้างพระสมเด็จที่วัดบางขุนพรหม เข้าใจว่าคงจะระดมชาวบ้านช่องมาช่วยกันสร้างกันเป็นงานใหญ่ครั้งมโหฬารให้ สำเร็จกันเลยทีเดียว มวลสารของสมเด็จกรุบางขุนพรหมส่วนมากจึงเป็นไปในลักษณะอย่างเดียวกันคือ เนื้อจะแก่ปูนหอย หรือปูนเพชร ผสมผสานด้วยผงวิเศษซึ่งสำเร็จจากสูตรสนธิ์อันเป็นอักขระเลขยันต์ตามตำรา บังคับ เช่น ผงปถมัง อิถเจมหาราช ตรีนิสิงเห และผงนะอักขระวิเศษต่างๆ อันมีนะ ๑๐๘ เป็นต้น เนื้อหาจึงดูกระด้างไม่หนึกนุ่มและอุดมไปด้วยมวลสารอันมีวัสดุมงคลและ อาถรรพณ์อย่างกับพระสมเด็จวัดระฆัง หรือจะพูดโดยสรุปก็คือมวลสารจะหนักไปทางผงปูนหอยเมื่อได้สร้างพระสมเด็จบาง ขุนพรหม และการปลุกเสกจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เสร้จเรียบร้อยแล้วจึงได้ทำการบรรจุในเจดีย์องค์ใหญ่ที่วัดบางขุนพรหม
    อนึ่ง การบรรจุพระสมเด็จไว้ในพระเจดีย์ที่วัดบางขุนพรหมนั้นเป็นงานบุญครั้งยิ่ง ใหญ่ซึ่งนานทีปีหนจึงจักมีสักครั้งหนึ่ง ในครั้งต่อมาการบรรจุพระพิมพ์ ๒๕ พุทธศตวรรษ ที่นับเป็นการใหญ่และค่อนข้างจะเป็นทางการ
    ดังนั้น การบรรจุพระสมเด็จที่กรุวัดบางขุนพรหม ชาวบ้านร้านตลาด ตลอดจนประชาชนทั้งไกลและใกล้ย่อมจักทราบกันเป็นอย่างดีและเป็นข่าวที่เล่า ขานสืบต่อๆ กันมาจนกระทั่งถึงสงครามโลกครั้งที่ ๑ ประเทศไทยได้ส่งทหารหาญไปร่วมรบ ในการนี้ได้ปรากฎมีประชาชนแอบเข้ามาใช้ดินเหนียวปั้นเป็นลูกกลมๆ แล้วหย่อนลงไปตามช่องลมพระเจดีย์เพื่อให้พระสมเด็จติดก้อนดินขึ้นมา ทีแรกก็ทำกันอย่างลับๆ ล่อๆ เพียงไม่กี่ตน ครั้นตกได้พระสมเด็จขึ้นมา ครั้งต่อมาร้ายกว่าเก่ามีการกรอกน้ำลงไปทางรูระบายอากาศ กรอกน้ำเข้าไปทำไม ? เพื่อให้พระสมเด็จไม่ติดกันและทำลายวิธีการตกเบ็ด การกรอกน้ำลงไปจึงเกิดพระสมเด็จขึ้นมาอีกชุดหนึ่งเรียกว่า กรุเก่า มีคราบหนากว่าชุดแรก เพราะการอบตั้งแต่ พศ.2413 จนถึง 2483 รวมระยะเวลา 70 ปี ครั้นมาถึง กึ่งพุทธกาล 2500 ซึ่งวงการนักเลงพระต่างรู้ว่าในเจดีย์ วัดบางขุนพรหม เป็นที่เก็บพระสมเด็จ อันเป็นที่ต้องการของวงการพระเครื่อง จึงจ้องหาโอกาสอย่างเงียบๆ จวบในกลางดึกของคืนวันฝนตกพรำๆ นักขุดกรุจากเมืองเหนือ ได้รุกเงียบเข้าทำลายกรุบางขุนพรหม ซึ่งได้ขนพระสมเด็จไปไม่น้อย แต่ก่อนพระจะถูกขนไปหมดนั้น คนของวัดได้มาพบเข้าจึงต้องทิ้งเครื่องมือหนีไป ทางวัดต้องขอให้กรมศิลปากร เข้ามาทำหน้าที่ปิดกรุพระอย่างเป็นทางการ ในช่วงเวลาใกล้เคียง กันนั้นเองและเพื่อไม่ให้มีการขโมยกรุ


    อ้างอิงจากข้อมูล ของคุณโจรสลัด
     
  16. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    พระสมเด็จบางขุนพรหม

    .....ในปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เสมียนตราด้วง ต้นสกุล ? ธนโกเศศ ? ได้ทำการบรูณะพระอารามหลวงวัดใหม่อมตรส พร้อมกันนี้ได้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ไว้ที่นี้ เพื่อเป็นมหากุศล โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๑๑ จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๑๓ จึงแล้วเสร็จ

    ...... การสร้างพระเจดีย์ครั้งนี้ มีการสร้างทั้งพระเจดีย์องค์ใหญ่ เพื่อบรรจุพระ ตามโบราณคติของการสร้างมหากุศล ในอันที่จะสืบทอดพระศาสนา และสร้างเจดีย์องค์เล็กเพื่อบรรจุอัฐิบรรพบุรุษ เมื่อก่อสร้างศาสนสถานเสร็จแล้ว เสมียนตราด้วง ได้เข้าไปกราบของอนุญาต สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นที่เคารพอย่างยิ่งของประชาชนในยุคนั้น ทำการสร้างพระเครื่องเพื่อบรรจุในพระเจดีย์องค์ใหญ่ ณ วัดใหม่อมตรส ที่ตนได้สร้างพึ่งแล้วเสร็จ

    ......สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) ทรงประทานอนุญาต และมอบผงวิเศษ ที่ใช้ในการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังของท่านส่วนหนึ่ง ไปเป็นส่วนผสมในการสร้างในครั้งนี้ และได้ทำการปลุกเสกพระที่สร้างขึ้นใหม่นี้ ตามคำอาราธนาของเสมียนตราด้วง จากนั้นจึงนำพระที่ผ่านการปลุกเสกโดยสมเด็จฯท่านทุกองค์ ไปบรรจุลงในเจดีย์องค์ใหญ่

    ......สำหรับพระเนื้อผงที่สร้างในกิจ ครั้งนี้ เป็นพระเนื้อผงแก่ปูนขาว รูปทรงสี่เหลี่ยม ตามแบบของพระสมเด้จวัดระฆัง ที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) ซึ่งเป็นการสร้างไปแจกไป หากแต่พระที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้ เป็นพระที่สร้างขึ้นมาเพื่อบรรจุลงในกรุหรือเจดีย์ทั้งสิ้น โดยมีจำนวนการสร้าง ตามคตินิยมเท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ คือ ๘๔,๐๐๐ องค์ และได้มีการเรียกชื่อพระเครื่องดังกล่าวนี้ว่า ? พระสมเด็จบางขุนพรหม ? ต่อมาในชั้นหลัง ตามชื่อตำบลที่ตั้งของเจดีย์ซึ่งบรรจุลงในพระเจดีย์องค์ใหญ่

    ...... อายุของพระสมเด็จบางขุนพรหมจึงไม่ห่างจากสมเด็จวัดระฆังมากนัก แต่เนื่องจากช่างผู้แกะพิมพ์พระ ต่างกลุ่มกันกับช่างผู้แกะพิมพ์สมเด็จวัดระฆัง ดังนั้นพิมพ์ต่างๆของสมเด็จบางขุนพรหม จึงมีความแตกต่างจากสมเด็จวัดระฆัง แต่ด้วยช่างทั้ง ๒ กลุ่ม เป็นช่างยุคเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นสกุลช่างศิลปเดียวกัน และได้มีการสร้างที่อาศัยต้นแบบเค้าโครงเดียวกัน ดังนั้นพระเครื่องทั้งสองวัดจึงมีองค์ประกอบศิลปะที่สอดคล้องคล้ายคลึงกัน

    ......พระสมเด็จบางขุนพรหม ได้มีการจำแนกออกเป็นพิมพ์ใหญ่ๆ ได้ทั้งหมด ๙ พิมพ์คือ
    ๑ พิมพ์ใหญ่
    ๒ พิมพ์เจดีย์
    ๓ พิมพ์เกศบัวตูม
    ๔ พิมพ์เส้นด้าย
    ๕ พิมพ์ฐานแซม
    ๖ พิมพ์สังฆาฏิ
    ๗ พิมพ์สังฆาฏิ มีหู
    ๘ พิมพ์ฐานคู่
    ๙ พิมพ์อกครุฑ

    พระสมเด็จบางขุนพรหม ได้ถูกเปิดกรุอย่างไม่เป็นทางการถึง ๓ ครั้ง
    ครั้งแรก ในปี พ.ศ.๒๔๒๕
    ครั้งที่ ๒ ในปี พ.ศ. ๒๔๓๖
    ครั้งที่ ๓ ในปี พ.ศ. ๒๔๕๙


    .....พระสมเด็จที่ได้มาจากกรุ ทั้ง ๓ ครั้งนี้ เราเรียกโดยรวมว่า ? พระสมเด็จบางขุนพรหมกรุเก่า ?.ซึ่งลักษณะของวรรณะ(ผิว) ขององค์พระที่เกลี้ยงเกลา มีคราบกรุจับอยู่น้อย เนื้อค่อนข้างหยาบกว่าพระที่ขุดในชั้นหลังเล็กน้อย และส่วนใหญ่จะไม่มีคราบฟู หรือเม็ดกรวดทรายจับอยู่บนองค์พระ

    .....หลัง จากทำการเปิดกรุในยุคแรกไปแล้ว ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ได้มีการลักลอบขุดเจาะเจดีย์ เพื่อนำพระออกมาอยู่ตลอดเวลา แม้จะมีมาตรการป้องกันจากทางวัด จนกระทั่งทางวัดใหม่อมตรสมีการประกาศเปิดกรุอย่างเป็นทางการ เพื่อนำพระออกมาจากพระเจดีย์ทั้งหมดโดยเชิญ พลเอกประภาส จารุเสถียร เป้นประธานในพิธีเปิดกรุดังกล่าว เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๐ พระที่นำออกมาครั้งนี้เรียกว่า ? พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุใหม่ ?


    ...... พระที่ได้ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นพระเนื้อละเอียดแก่ปูน มีคราบกรุ และคราบเต้าหู้เกาะเป็นชั้นๆ จับหนา (ซึ่งคราบขี้กรุที่จับอยู่บนองค์พระเหล่านี้ เกิดจากความชื้นทำปฏิกิริยากับปูนขาว เกิดเป็นฟอสเฟตเกาะติดบนองค์พระ เนื่องจากพระที่พบ เป็นพระบรรจุอยู่ตรงส่วนฐานขององค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีน้ำท่วมขังอยู่เสอม นอกจากนี้การลักลอบนำพระออกจากกรุวิธีหนึ่ง คือการเทน้ำลงในเจดีย์ที่บรรจุพระ เพื่อให้แรงน้ำที่เขาเทลงไป ทำให้พระกระเด็นขึ้นมาติดสายเบ็ดที่ปลายมีดินเหนียว แล้วนำพระขึ้นมาจากกรุ แต่ทิ้งน้ำไว้ในกรุ จนส่งผลให้พระที่เหลือเปียกชื้นแฉะจนเกิดมีคราบจับหนา พระจำนวนมากที่เกาะติดกันเป็นก้อนไม่สามารถแกะออกจากกันได้ และจำนวนไม่น้อยที่หักเสียหาย จากการกระทำดังกล่าว คงเหลือพระที่มีสภาพดีโดยประมาณ ๓,๐๐๐ องค์) ติดสนิทแน่นเป็นเนื้อเดียวกับองค์พระและทางวัดได้นำพระออกให้บูชา เพื่อหารายได้มาบูรณะวัดฯ โดยมีอัตราทำบุญตั้งแต่ ๕๐๐ - ๒,๐๐๐ บาท ตามสภาพพระ ซึ่งนับว่ามีราคาสูงมากในยุคนั้น

    ......พระสมเด็จบาง ขุนพรหม เป็นพระที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองรองจากพระสมเด็จวัดระฆัง ในตระกูลพระสมเด็จทั้งสามวัด ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) ได้มีส่วนสำคัญในการสร้าง ซึ่งพระสมเด็จทั้งสามวัดนี้ ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมสูงมาก มีราคาแพง หายาก และได้รับความศรัทธาจากประชาชนว่ามีพุทธานุภาพศักดิ์สิทธิ์ ไม่น้อยไปกว่ากัน ที่มีพุทธคุณสูงทางเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดนิรันตราย และหลายคนยังเชื่อส่วนตัวว่า นำพระมาขูดผงผสมดื่ม สามารถรักษาโรคต่างฯ ได้เป็นอย่างดี




    พระมหาเจดีย์ที่วัดบางขุนพรหม ตอนเปิดกรุ ได้พบ พิมพ์แบบเดียววัดระฆังเนื้อหาวัดระฆังแต่มีคราบกรุจึงเรียก พระสองคลอง


    และมีการนำชิ้นส่วนที่แตกหักมาสร้างเป็น สมเด็จปี09

    อ้างอิงจากข้อมูล ของคุณเด็กนอกวัด
     
  17. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,200
    ผมเสนอว่าใครอยากได้พระสมเด็จแท้ๆ ท่านต้องสวดมนต์ไหว้พระ รำลึกเคารพสมเด็จพุฒาจารย์โต เสมอ รับรองว่ามีบุญวาสนาส่ง ต้องได้มาบูชา
     
  18. หมอพล

    หมอพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +4,175


    สาธุ :cool:


    ขอให้ทำตามปณิธานที่ตั้งไว้นั้นทุกประการ ผมขออนุโมทนาในเจตนารมณ์ทุกประการ


    จะคอยชมผลงาน นะครับ


    ระยะทาง พิสูจน์ม้า กาลเวลา พิสูจน์คน ความหนักแน่นอดทน พิสูจน์คนที่เหนือคน



    ด้วยความจริงใจ และ ไม่เคยคิดอคติ รวมถึง ไม่เคยคิดอาฆาตพยาบาทต่อท่านผู้ใด ^_^



    ปล. อย่าลืม ช่วยไปพิจารณาพระให้ท่านอื่นๆ ในกระทู้อื่นๆ ด้วยนะครับ
     
  19. infinityboon

    infinityboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +188
    ไม่หรอกครับ ถึงจะบอกไม่ถึงยุดสมเด็จโต ความจริงคราปแป้งมากกว่านี้ พอเอามาถูกับใบหน้าให้เห็นเนื้อ แต่คราปแป้งหนา ต้องถูทุกวันคงหมด นี้ถูไปไม่กี่ครั้งเอง เดี๋ยวจะเอาบางขุนพรหมเส้นด้ายกับอกครุฆมาให้ตอบกันครับ
     
  20. infinityboon

    infinityboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +188
    ถ่ายมาแล้วครับ2องค์ องค์แรกพิมพ์เส้นด้ายกับอกครุฆเป็นยังไงกันบ้างครับเชิญชม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...