ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ซึ่งเขาก็ยอมรับว่า เขาสำคัญผิดไปจริง ๆ <O</O
เพราะหลงเชื่อคนที่คิดว่าเก่งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้
มีญาณรู้ สามารถรู้วาระจิตคนได้ นึกไม่ถึงว่า
ยังหลง ยังหาทางออกไม่เจอ ซึ่งไอยก็พูด
กับท่านว่า ไอยเองก็สงสารทุก ๆ คนนะค่ะ<O</O
เพราะไอยรู้ดีว่า การโดนขยายขั้นลึกมัน
ออกยาก ถ้าไม่ใช้ปัญญาไม่ใช้พลังใจ
อย่างแรงกล้า มันออกไม่ได้ เพราะเรา
หลอกจิตตัวเองโดยการคิดว่าเราได้ขั้นนั้น
จริง ๆ ทุกสิ่งที่พวกแสดงออกไป กระทำ
ออกไปนั่นคือขันธ์ 5 เขาไม่ได้ทำ
เป็นระบบ (เขากะลา) ทำทั้งสิ้น อย่างที่ไอย<O</O
เล่าให้ฟังในเวป ไอยบอกว่า รู้มั้ย
มนุษย์ต่างดาวนะมีจริง แต่อยู่คนละมิติ<O</O
แล้วที่เขาบอกว่า มนุษย์ต่างดาวมีทั้งดีและ
ไม่ดี และเขากะลาบอกว่าของเขามนุษย์
ต่างดาวดี ไอยก็เลยบอกว่า นี่ขนาด
มนุษย์ต่างดาวดีนะเนี่ย ยังหลอกกิน
ชาวบ้านเขา แล้วอ้ายที่เขาว่าร้าย ๆ
มันจะขนาดไหนเนี่ย<O</O

 

ปรากฏว่าอยู่ดีๆ ไอยก็พูดขึ้นมาเองว่า การที่
เขาสอนให้เราละวาง ปล่อยวาง ไม่ให้ยึด
ให้เข้าใจว่า นั่นไม่ใช่เราเป็นผู้กระทำ ขันธ์ 5
ต่างหากที่ทำเราคือหุ่นยนต์ ตัวเราซ้อนขันธ์
ออกมา ให้ดูขันธ์ 5 ของเรามันทำงานไป<O</O
เราเป็นผู้ดู ดูให้เห็นเป็นสภาวธรรมนั้น
มันคือขั้นตอนของการล้างสมอง โดยสอน
ไม่ให้เรายึด สอนให้เราละวาง ปล่อยวาง
แต่เป็นการเป็นการสอนให้เราเพิกเฉย
เมินเฉย ต่อ ๆ ทุก ๆ สภาวะ ซึ่งผิดไปจาก
หลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์แค่นิดเดียว

นี่แหละคือกลไกของมนุษย์ต่างดาว (ฝ่าย....)<O</O
ที่กำลังมาล้างสมองมนุษย์

 

ดังจะเห็นได้ว่า เขารู้ดีว่ามนุษย์นั้นมีความ
ยึดมั่นถือมั่นศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้า
ถ้าเขาไปอยู่ประเทศใด เขาก็จะใช้ศาสนา<O</O
ที่คนส่วนใหญ่นับถือในประเทศนั้น ๆ
มาเชื่อมโยงกับทฤษฎีเขา และบิดเบือน<O</O
เพียงคำเดียว ถ้าคนที่ไม่ได้เล่าเรียน
ไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมคัมภีร์อย่างลึกซึ้ง<O</O
อย่างแตกฉาน รวมทังไม่ได้ปฏิบัติสภาวะจิต
สภาวธรรมอย่างเข้มข้นแล้วละก็<O</O
มองไม่เห็นแน่นอน นี่แหละคือกลไกล้างสมอง
ของมนุษย์ต่างดาว หรือจะเรียกว่า
มารต่างดาวก็ได้ พวกเขาต้องการใช้งานเรา
ภัยพิบัติจะเกิดขึ้น <O</Oจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้
แต่เขาเอาข้อมูลความกลัวของมนุษย์มา
ล่อหลอก เหมือนที่มาหลอกให้หลงเชื่อว่า
หลาย ๆ คน เป็นพระศรีอาริย์ นั้นแหละค่ะ<O</O
หลักการเดียวกัน ซึ่งผิดไปหลักธรรมคำสอน
ของพระพุทธองค์ ที่ท่านตรัสไว้ว่า<O</O
"ให้อยู่กับปัจจุบัน"

 

แต่พวกเขาลวงโลกโดยการใช้วิธีการแบบนี้
<O</O
มันมีขบวนการ มีแผนการที่วางไว้อย่างแยบยล
<O</O
ชนิดที่ว่าคนธรรมดาไม่สามารถทำได้ มันคือ

การปฏิบัติการขั้นลึก เพื่อให้เราเป็นหุ่นยนต์
ที่พวกเขาสามารถใช้งานเราได้ คือเรียกง่าย ๆ
ว่าเป็น ทาสรับใช้ พวกเขา

แปลกมากอยู่ดี ๆ ไอยก็ได้รับข้อมูลมาแบบ
ขณะกำลังพูดกับญาติธรรม ไอยบอกเขาว่า
ไอยไม่ได้พูดนะ มันพูดออกมาเองอีกแล้ว<O</O
ขณะที่พูดไปนั้น ไอยยังขนลุกเลย

“มันน่ากลัวมาก น่ากลัวจริง ๆ
นี่เรากำลังรับมือกับอะไรกันอยู่เนี่ย”<O</O
<O</O
<O

 

ทำให้ไอยนึกขึ้นมาได้ว่า จารโม่เล่าให้ฟังว่า
ถ้าผมไม่ได้ฝึกสติปัฏฐาน 4 มา ไม่ได้ศึกษา<O</O
พระอภิธรรม พระไตรปิฏกมาตั้งแต่เด็ก ๆ
ผมคงไม่รอด ดีที่ว่าผมเองได้ศึกษามาทุกด้าน
ทุก ๆ ศาสตร์ รวมทั้งพระอาจารย์ ครูบาอาจารย์
คอยกำกับตลอดผมถึงรอดมาได้ ไม่อย่างนั้น
ไม่มีทางรอดแน่ มันมาลึกและแนบเนียนมาก<O</O
ชนิดที่ว่าผมต้องกางตำราเทียบคำต่อคำกันเลย

<Oรุ้มั้ยวิธีการขบวนการแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับ
เขากะลาที่นี่ที่เดียว ถ้าย้อนหลังไปดู
มันมีขบวนการแบบนี้มานานแล้ว ดังจะเห็น
ได้จากข่าวของต่างประเทศ ที่มีลัทธินั้น
ลัทธินี้เกิดขึ้น แล้วถูกล้างสมองจนกระทั่ง
มีการฆ่าตัวตายหมู่ ซึ่งไม่ผิดไปจากทฤษฎี
เขากะลาเลยที่ถูกสอนให้ปล่อยวาง
ให้เพิกเฉยทุก ๆ อย่าง สุดแท้แต่กลไก<O</O
ของระบบ เป็นผู้จัดการ

 

งานวิจัยของมหาวิทยาลัยวิสคอนซินพบว่า พระทิเบตที่นั่งกรรมฐานมากว่าสามสิบปีมีคลื่นอัลฟ่าปริมาณสูงกว่าคนทั่วไป มีการทำงานของ prefrontal cortex ซีกซ้ายสูงกว่าของคนทั่วไป prefrontal cortex ซีกซ้ายทำงานเกี่ยวกับอารมณ์ทางบวก เช่น ความรื่นเริงแจ่มใส ส่วนซีกซ้ายทำงานเกี่ยวกับอารมณ์เชิงลบ เช่น โกรธง่าย หงุดหงิด ซึมเศร้า คนที่แจ่มใสเสมอถ้าใช้เครื่องมือถ่ายภาพการทำงานของสมอง จะพบว่าสมองส่วนปลายหน้าซ้ายทำงานมากกว่าในคนที่คิดทางลบเป็นต้น

ในผู้ที่เจริญกรรมฐานมาเป็นเวลานาน บริเวณ prefrontal cortex ทั้งสองซีกจะหนาขึ้น แสดงว่ามีบูรณาการระหว่างสมองส่วนต่างๆ และร่างกายเกิดขึ้น บูรณาการของคลื่นไฟฟ้าสมองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้เกิดความสุขสงบระงับ สารสุขต่างๆหลั่งออกมา ระบบประสาทอัตโนมัติทั้งส่วนเร่งและส่วนหยุด (sympathetic and parasympathetic) ได้ดุลกัน สงบแต่ตื่นตัว

ดังนั้นเมื่อปฏิบัติกรรมฐานมาก ควรจะได้ความสงบระงับ ใครเห็นเข้าก็สัมผัสได้ถึงเมตตา ได้ยินวาจาก็รื่นหูสุขใจ

แจ้งเพื่อพิจารณา

 

โอโหแฮะ อย่างนี้ไม่ผิดไปจากลัทธิลวงโลก
ที่หลอกคนให้ฆ่าตัวตายกันเลยเนอะ <O</O
การลวงหลอกคน โดยใช้คำพูด ใช้ภาษา
กลับไปกลับมา ไอ้นั้นก็ถูกต้อง ไอ้นี่ก็ถูกต้อง
ทำถูกก็ถูกต้อง ทำผิดก็ถูกต้อง คนที่อยู่
ก็ถูกต้อง คนที่ออกไปก็ถูกต้อง ถูกผิดดีชั่ว
ถูกต้องไปหมด
<O</O
ว้าว สุดยอด บัญญัติภาษาได้สุดยอดจริง ๆ ชนิดคนที่ไม่มีปัญญาไม่มีทางมองได้ทะลุ
เลยจริง ๆ นะอย่างที่จารวรรณพูดไว้
ว่าการขยายระบบของเขา ผู้ที่ถูกขยายระบบ
ถ้ามีข้อสงสัย 1-10 ก็จะซักถามตลอด แต่พอ
ถึงข้อที่ 11 <O</Oมันจะหมดข้อซักถาม หรือสงสัย
ไปเลย เพราะโดนลวงด้วย ภาษาที่ล็อคจิต
เราไว้นั่นเอง
<O</O</O

 

จากที่อ่านมา บางคนพอเข้ามาอ่านในกระทู้นี้
มักจะมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ อยากอาเจียน
ไม่ต้องแปลกใจหรอกค่ะ อย่าลืมว่าคนอ่าน
ส่วนใหญ่เป็นผู้ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ไหว้พระ
กันทุกวัน ย่อมมีครูบาอาจารย์ มีธรรมบาล
คุ้มครองท่านได้ปกปักรักษาเราไว้ โดยต่อต้าน
กับสิ่งไม่ดี ที่มีการโพสในเวปนี้ และรวมไปถึง
ที่มีการขยายระบบด้วยตัวต่อตัว ทีนี้ทุกท่าน
ที่อ่าน คงพอเข้าใจว่า ไอยได้เตือนอะไรไว้
ตลอดเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาว่า การใช้ภาษา
ของเขา ก็สามารถครอบจิตเราได้ โดยที่เราไม่รู้ตัว

 

มีเรื่องเล่าให้ฟัง ซึ่งเป็นเรื่องจริงของผู้ที่อยู่
ในระบบ (เขากะลา) กับคำที่เขานำมาใช้
คำว่าละวาง ปล่อยวางแต่เป็นการปล่อยวาง
โดยการเพิกเฉย ไม่นำพาต่อสิ่งใด ๆ ที่มา<O</O
กระทบ แม้กระทั่งบุพพาการีของตนเอง <O</O
หนึ่งในผู้ที่อยู่รุ่นที่ 1 ได้รับการปลดล็อคกับ
จารโม่และจารวรรณ โดยเรียกมาคุย
มาชี้แจง มาเล่าสภาวะต่าง ๆ ให้เขารู้ <O</O
รู้มั้ยค่ะ เขาเสียใจมาก ที่ผ่านมา เขาได้ทำร้าย
พ่อแม่เขาขนาดไหนพ่อแม่เขา อุตส่าห์
ตามหาเขา ยอมลงทุนกราบเท้าลูก เพราะ
เขาและครอบครัว หนีไปฝึกจิตบนเขาเป็นปี ๆ
ไม่ยอมทำงานทำการทิ้งพ่อทิ้งแม่ มาปฏิบัติทำ
(เขากะลา) จนกระทั่งทุกวันนี้ เขาไม่เคย<O</O
กลับไปหาพ่อแม่เลย แล้วรู้มั้ยค่ะ ว่าแม่เขา
ตอนนี้นอนป่วยเป็นอัมพาต ขยับเนื้อตัว
อะไรไม่ได้ นอนแบ๊บอยู่บนเตียง ไม่มีลูกที่<O</O
บ้าระบบ กลับไปดูแลเลย

 

พอเขาโดนจารโม่ปลดล็อค เขาเสียใจมาก
<O</O
สำนึกได้ว่า เขาได้ก่อกรรมไว้กับพ่อแม่เช่นไร
กรรมชนิดนี้อบายภูมิเป็นที่สุด เขาตัดสินใจ
ไม่ถูก เพราะออกจากระบบ (เขากะลา)
เขาทุกข์ทันที ในที่สุดเขาก็เลยตัดสินใจ
กลับไปอยู่ในระบบ (เขากะลา) เหมือนเดิม<O</O
โดยหลอกตัวเองว่า นั้นคือการตัดสินใจที่
ถูกต้อง เพราะเขาจะได้ไม่ทุกข์ กับคุณธรรม
จริยธรรม ที่มีอยู่ในตัวเอง เขายินดีที่จะ
โดนระบบ (เขากะลา) หลอกจิตเขาว่านั่น
ไม่ใช่พ่อแม่ พ่อแม่เขาจริง ๆ ไม่ได้มีชาตินี้
ชาติเดียว ก่อนหน้านี้ เขายังมีพ่อแม่
อีกร้อยชาติ พันชาติ เพราะฉะนั้น อย่าทุกข์<O</O
ทุกวันนี้ เขาคนนั้น ยังทำตัวเหมือนเดิม
ออกหน้ารับแทนเขากะลาทุกเรื่อง<O</O

 

ซึ่งญาติธรรมคนนี้เขาคุยกับไอยว่า ทำไม
เขาเป็นแบบนั้น ไอยเลยอธิบายให้ฟังว่า
การที่เขาทำแบบนี้ เพราะเขารู้ดีว่า เขาทำผิด
อย่างชนิดที่อภัยไม่ได้ เขาเลยหลอก
ตัวเองด้วยการออกหน้าให้เขากะลาทุกเรื่อง
เพื่อชดเชยความผิดที่เขาทำกับพ่อแม่ไว้
และเป็นการกลบเกลื่อนความรู้สึกผิด ๆ
ของเขานั่นเอง

<O</O
น่าสงสารมั้ยค่ะ และไม่ใช่บุคคลนี้เพียงแค่
คนเดียว ยังรวมไปถึงระดับผู้อาวุโส<O</O
และหลาย ๆ คนในกลุ่มนี้เช่นกัน ที่อยู่ใน
สภาวะแบบนี้ พวกเขาทุกคนหลง<O</O
โดยไม่รู้ว่าตัวเองหลง ช่างน่าสงสารเสียจริง<O</O</O

 

เห็นข้อความของเขากะลาที่โพสไว้ โดยยกเอา
ท่านอรหันต์จี้กงขึ้นมาเขียน เฮ้อ ช่างไม่มี
ความละอายเสียจริง ชอบนักที่จะยกตน
เสมอพระอรหันต์ รู้ไม่จริง ก็เอามาเขียน
ท่านอรหันต์จี้กง ท่านเป็นพระที่มีแนวทาง
ปฏิทาผิดแผกกับพระสงฆ์จีน ก็จริงอยู่
ท่านอาจจะทำกิริยาสุดโต่ง กินเหล้า<O</O
กินเนื้อ (พระจีนท่านกินเจ) แต่ท่านทำเพื่อ
เป็นอุบายธรรมสอนคน ที่โลภมาก<O</O
ประพฤติชั่ว ไม่อยู่ในศีลในสัตย์ แต่สำหรับ
ผู้ที่ประพฤติธรรมแล้วนั้น ท่านจะเทศน์<O</O
สอนเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่ผิดเพี้ยน เป็นบ้า
เป็นบอ เหมือนหมายเลข 1 ของเขากะลา<O</O
ถ้าย้อนอ่านไปต้น ๆ จะเห็นได้ว่า จารโม่
เคยนำเรื่องหมายเลข 1 มาพูด แต่โดนทาง<O</O
เขากะลา กลบเกลื่อนความจริงเสีย คนอ่าน
ที่ไม่รู้เรื่อง จึงตามไม่ทัน<O</O

 

ข่าวจากทริปภูทับเบิก

พระสุปฏิปันโน (หลวงพ่อในป่า) บอกเมื่อ ๒๑ กพ ๕๑ ว่า

ทุกอย่างเป็นธรรมดา
ถ้าภัยพิบัติจะเกิด เราไม่ทำอะไรมันก็เกิด เราทำดีมันก็เกิด เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดา น้ำท่วมโลก ไฟบัลลัยกัลป์ ก็เคยมีมาหมดแล้ว
แต่ถ้าเราทำดีบุญกุศลก็เป็นของเรา ติดตัวเราไปตลอด


ท่านบอกลูกศิษย์ที่เป็นชาวบ้านให้เตรียมจิต ฝึกสมาธิภาวนา (เขาได้ลมสบายกันหมดแล้ว) เตรียมที่อยู่อาศัยที่ในที่สูง เตรียมอพยพได้เมื่อท่านสั่งมา

น้ำมหาศาลจะมาจากเมืองจีน สึนามิจะมาใหญ่กว่าเดิม แต่เวลาใดไม่ใช่กาลที่จะรู้ในขณะนี้ ฟ้าจะแดงแปลกๆ แล้วรีบอพยพเสีย เวลาจะเหลือไม่เกิน ๒๔ ชม อาจมีสงครามหรือจราจลก่อนนั้น ใครลังเลสงสัยชักช้าไม่มีพระและครูอาจารย์ชี้นำจะไม่มีโอกาสอีก

ท่านบอกลูกศิษย์ให้ช่วยตัวเองก่อน ท่านบอกว่าคนกลุ่มพลังจิตจะตัดสินใจได้ดี เรื่องบอกให้คนอื่นเชื่อนั้นตามบุพกรรม เพราะถ้าเราช่วยคนอื่นได้คนเป็นพ่อแม่เขาเอาบุญเขาช่วยลูกให้เป็นคนดีได้หมด ทั้งโลกแล้ว ถ้าบอกแล้วเขาปรามาสก็อุเบกขา ขณะนี้เป็นเวลาเตรียมความเชื่อและความพร้อมของตนเอง เพราะภัยอยู่ใกล้มากแล้ว (ณ ๒๓ กพ ๕๐ ลูกศิษย์คิดว่าไม่เกินสิ้นปี แต่ก่อนคิดว่ามีเวลาอีกสองปี)

ผู้ที่เชื่อก็ให้หาที่ปลอดภัยในที่สูง ไปเตรียมน้ำ อาหาร ที่พักไว้ ยึดมั่นในพุทธคุณ ทำจิตให้สะอาด ถ้าตัวเองได้สัญญาณจากท่านจะรีบโพสต์ทันที (ถ้าเน็ตยังอยู่)

เปิดเผยชื่อท่านไม่ได้เพราะยังไม่ถึงเวลาค่ะ อย่าถามเลย
เอาบุญมาฝากทุกท่านนะคะ

หลวงพ่อในป่า เสาร์ ๑ มีนาคม ๒๕๕๑
(พูดกับคณะพลังจิต คณานันท์ สุธาทิพ ณัฐพัชร วิจิตร พูดเสียงเบาข้างหลังไม่ได้ยิน เป็นไทยภาคกลางชัดแจ๋วแต่เบา)

กินยาหรือยัง (หมายถึงยาต้ม เรานั่งยิ้มๆเพราะชาวบ้านเขาไม่ได้ตักให้จะไปเอามากินได้อย่างไร)
ไม่มีอะไร ประชุมกันเฉยๆ
ลองศึกษาว่าจะเอากันอย่างไร
ใครยังมั่นใจก็จะชี้ให้
ศึกษาแล้วสอดคล้องแล้วเราก็ร่วมทางกันได้
จะว่ายากก็ยาก จะพูดก็ยาว
ถ้าข้องใจก็จะชี้แนะ
ถ้าไม่ติดคัางก็ไม่เป็นไร
ถ้าไปได้ก็ได้
ถึงอย่างไรเราก็พยายามแล้วตั้งใจแล้ว

มันก็ไม่เป็นอื่นไปแล้ว
จะเกิดหรือไม่เกิด เรื่องที่ตั้งใจไว้ก้ทำไปก่อน บทสรุปยังคาดการณ์ไม่ถึง
อนิจจังมันไม่เที่ยง
คนเขาไม่รู้ไม่เข้าใจก็ช่างเขา จะไปเกี่ยวอะไร

อย่าไปกระดาก ถ้าทำจริงไม่ต้องกลัวคนอื่นเขาจะไม่รู้ พระพุทธองค์ทรงโปรด
มั่นใจแล้วทำไปเลย ไม่จำเป็นต้องกลัวโน่นกลัวนี่ว่าเขาจะเข้าใจไหมหนอ ก็แล้วแต่เขา
ทุกคนมีเวลาคิด มีคติไตร่ตรองให้เดินได้ไม่บกพร่อง

ปัญหาต้องมี ต้องสะดุดเป็นธรรมดาโลก
ให้ทุกคนเข้าใจว่า ที่เรามาร่วมกันนี้หลายภูมิธรรม
คุยได้แต่คนที่เข้าใจ
เขาอยู่ระดับหนึ่งก็คงไปตามนั้น อย่าคุยเหมือนตึง

หลวงพ่อในป่า บึงสามพัน เพชรบูรณ์
ท่านเรียกประชุมรายเดือนในกลุ่มผู้ติดตามเพื่อเตรียมการรับภัยพิบัติ
๑ มีนาคม ๒๕๕๑

 

หมายเลข 1 ของเขากะลา ก็คือคนในครอบครัว
เขานั่นเอง ที่ได้รับการถ่ายทอดจากข้อมูล
จากมนุษย์ต่างดาว เดิมทีเป็นร่างทรงของ
พระอินทร์ มีอยู่ครั้งหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่
หมายเลข 1 ที่ขณะนั้นเป็นร่างทรงให้กับ
พระอินทร์ มีเรื่องทะเลาะกับ หมายเลข
2.1 คือคุณวาสนา ที่เป็นร่างทรงให้กับ
มนุษย์ต่างดาวอีกเช่นกัน หลังจากนั้น
พระอินทร์ท่านก็ไม่มาประทับทรงอีกเลย
และหมายเลข 1 ก็มีอาการเสียสติ เป็นบ้า
เดินแก้ผ้า คุ้ยขยะ กินแต่เหล้า ไม่กลับบ้าน
กลับช่อง ซึ่งพวกเขาก็มักจะบอกกับคนที่
ได้ขยายระบบว่า เขาเป็น (ออ-รอ-หัน)
กำลังสอบอารมณ์ทุก ๆ คนอยู่ การที่เขา
เป็นแบบนั้น คือ อุบายธรรมนั้นเอง
เขาคือ SUPERMODEL (เขากะลา)

โอ้โห เห็นหรือยังค่ะ ว่า เขามีกลวิธีแยบยล
ในการแอบอ้างเพียงไร เขาไม่กล้ายอมรับ
ความจริง ว่า No. 1 เป็นบ้า เขาเพี้ยน
เขาหลุดโลก ก็เพราะบ้ามนุษย์ต่างดาวนี่แหละ
<O</O
อีกทั้งไม่ยอมพาไปรักษา กลับพูดว่าเป็น
(ออ.....) อวดอุตริมนุษสธรรมเป็นที่สุด
<O</O

 

ถ้าเขาเป็น ......... จริง ๆ ทำไมไม่มาเปิดเผยตัว
ทำไมไม่มาแสดงธรรมล่ะ ทำไมต้องเก็บ
เป็นความลับ ชนิดที่ใครถาม ใครพูดถึง
ก็ไม่กล้าเล่า พวกเขาเก็บเรื่องราวเหล่านี้
ไว้เป็นความลับ แต่ความลับมันไม่มีในโลก<O</O
<O</O

เรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้ คนที่อยู่ในแถบนั้น
เขารู้กันดี ไม่สังเกตกันบ้างหรือค่ะว่า
เขาเป็นถึงหัวหน้าสำนัก เป็นเจ้าลัทธิ ที่
แอบอ้างนำธรรมะมาเผยแพร่ พอมีการ
จัดกิจกรรมใด ๆ เพื่อนบ้านใกล้เคียง ไม่มี
ใครโผล่มาช่วย มาทำบุญ ร่วมบุญ<O</Oกันสักคน
มันน่าแปลกมั้ยค่ะ สำหรับผู้ที่บอกว่าหัวหน้า
กลุ่มปฏิบัติธรรม มีแต่พวกเราในเวปพลังจิต
ที่แห่แหนกันไปเท่านั้น ขอบอกนะค่ะ<O</O
ว่าชาวบ้านแถวนั้น เขารู้จักดีว่า บ้านนี้
ครอบครัวนี้มีพฤติกรรมประหลาด<O</O
รุ่นพ่อเชิด ชาวบ้านเคารพนับถือ เพราะ
เป็นผู้ปฏิบัติธรรม แต่พอมาถึงรุ่นลูก<O</O
กลับผิดเพี้ยน หลงทางไปสุดกู่ แม้จะอาศัย
บารมีพ่อแค่ไหน ชาวบ้าน<O</Oใกล้เรือนเคียง
เขาก็ไม่เอาด้วย <O</O

 

ถ้าเราทำได้ มั่นใจไหมว่าจะทำได้
แล้วแต่
ยอมรับแล้วไม่เป็นไร
ให้เวลาทุกคนคิดในสิ่งที่เข้าใจกันได้ ไม่กระทบกันเป็นไปไม่ได้
กระทบแล้วได้สติขึ้นมา คนเราต้องกระทบกัน
ต้องมีต้น ต้องเข้าใจมาก่อน เข้าใจกันดีแล้วศึกษากันดู แบบไหนๆ ไปแบบไหน
คนหนึ่งในกลุ่มเข้าใจก้พอแล้ว เริ่มเดินได้เลย
เรื่องอื่นเอาไว้คุยกันทีหลัง เรื่องอื่นแค้นมาจากไหน โกรธกัน ?
สะสางกันทีหลัง

เอาสิ่งเก่าๆ มาขุดคุ้ยรื้อฟื้นจะพัฒนาไม่ได้
เอาแต่สิ่งพัฒนาและเข้าใจและลงเอย
ค่อยปรับตัวเข้าหากัน แล้วก็ไปได้

พุทธกาลลุกหลายพ่อแม่ จริตไม่เหมือนกัน
จะเอามารวมกันต้องเป็นลำดับๆ
ขนาดพระ/ฆราวาสก็มีกลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่น้อย
บางกลุ่มพูดดี พุดเฉยๆ ธรรมดา มีทุกอย่าง
ดีชั่วอยู่ที่มนุษย์เท่านั้นไม่ได้ไปอยู่ที่อื่นหรอก
มีเรื่องพูดแค่นี้ไม่ได้พูดมาก

การที่เราจะเดินได้ เราต้องคิดออก
ถ้าคิดออกแล้วเข้าใจแล้วรู้ว่าทางเดินไหนถูก ทางไหนไม่ถูก
พูดยาวก็ยาว จบแค่นี้
ใครตัวเล็กจะกลับก็กลับ
คนที่ไม่เข้าใจเราอย่าไปจู้จี้กับเขานะ

หลวงพ่อในป่า (ต่อ)

 

คุยให้ฟังซะเยอะ มาเข้าประเด็นข้อเท็จจจริงกัน
ดีกว่าว่าสิ่งที่ทุกคนอยากรู้คือ
<O</O
<O</O
1. เรื่องบัญชีสร้างพระเขากะลา เอาstatement
ที่เริ่มต้นรับเงินบริจาคตั้งแต่ต้น มา up date
รวมทั้งบัญชีสร้างพระ (ครั้งล่าสุด)<O</O
และบัญชีทำหนังสือธรรมะ (ครั้งล่าสุด) มา
up date หน้าเวปให้ดูกันหน่อยซิ
ว่าตกลงเป็นอย่างไร ในเมื่อเป็นคนพูดให้
ไอยเอาบัญชีโครงการพ่อแม่บุญธรรม
มา up date ให้ดูเองไม่ใช่หรือ<O</O
แล้วไม่ต้องมาเบี่ยงประเด็น เอาเรื่องนั้น
เรื่องนี้ มากลบเกลื่อนอีกเพราะเรารู้ทัน game
ของคุณ และเราก็อยากทราบข้อเท็จจริง
เหมือนกันว่าไม่มีการโยกเงินจากบัญชีนู้น
เข้าบัญชีนี้ ไม่มีการยืมเงินจากคนนู้น<O</O
มาโปะบัญชีนี้ เพราะฉะนั้น บัญชีพ่อแม่บุญธรรม
ได้เปิดเผยแล้ว ก็เอาบัญชีทั้งหมดที่เขากะลา
รับเงินอยู่ มาโชว์ให้ดูเลยว่าข้อเท็จจริงที่ไอย
พูดออกมานั้น จริง หรือ เท็จ
<O</O</O

 

2. ถ้ายังไม่ยอมเปิดเผย ไอยจะให้จารจอห์นนี่
คืนเงินที่มีผู้บริจาคหนังสือธรรมะชุด 2
คืนกลับไปให้ทุก ๆ คน และ ทางเขากะลา
จะต้องคืนเงินที่รวบรวมไว้จะพิมพ์หนังสือธรรมะ
ให้กับทุกคนเช่นเดียวกัน เพราะหนังสือ<O</Oธรรมะ
เล่มนี้ <O</Oทุก ๆ คนในกลุ่มจะทราบดีว่า ถึงแม้จะนำ
ทฤษฎีระบบ (เขากะลา) มารวบรวม แต่เป็น
การรวบรวมโดยจารโม่นำธรรมะพระพุทธเจ้า
มาเทียบเคียง และอธิบายโดยใช้หลักธรรมะล้วน ๆ
พูดง่าย ๆ คือ จารโม่เป็นคนแต่ง และเรียบเรียง
<O</O
หนังสือเล่มนี้ แต่ยกประโยชน์ให้พี่สุดใจ
ซึ่งน่าจะรู้ดีแก่ใจเป็นที่สุด เพราะฉะนั้น
โดยชอบธรรม และเพื่อความบริสุทธิ์ชัดเจน
คืนเงินที่รับบริจาคทั้งหมดให้กับผู้บริจาค
เฉกเช่นเดียวกับจารจอห์นนี่เช่นกัน<O</O

 

3. ถ้าไม่นำบัญชี statement ทั้งหมดมาเปิดเผย
และไม่คืนเงินให้กับผู้บริจาคทั้งหมด<O</O
ไอยจะเป็นโต้โผ รวบรวมรายชื่อทั้งหมด
ดำเนินการตามกฎหมาย <O</Oแล้วไม่ต้องมีลิ่วล้อ
หรือม้ารับใช้ ที่ไหนมาออกหน้าว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรม <O</O
ต้องปล่อยวาง ละวางอีกนะ เพราะเท่า ๆ ที่
อ่านมาในเวป เห็นเขียนว่าไม่ต้องมาพูดเรื่อง
ธรรมะหรอก เพราะฉะนั้น ไอยของวางธรรมะ
ไว้ตรงนี้ก่อน ไอยและทุกคนต้องการความจริง
และข้อเท็จจริง อันมีหลักฐานเอกสารมายืนยัน<O</O
อย่างชัดเจน

(ซึ่งข้อนี้ทางเขาเป็นผู้เรียกร้องมาเอง
สามารถย้อนกลับไปอ่านดูได้ในเมื่อไอย
นำหลักฐานของตัวเองออกมาแล้ว คนที่รับ
ผิดชอบถือเงิน ก็นำบัญชีออกมาให้เห็น
อย่างแท้จริง ตามคำเขียนที่แจ้งไว้ออกมาด้วย)<O</O
<O</O
<O</O

 

..บ่นกับตัวเอง.. พูดมากก็ติดลม
หลวงพ่อถาม เราไปศึกษามานี่ก็หลายที่แล้ว กี่ที่
คณานันท์ตอบ สัก ๖-๗ ที่ครับ
หลวงพ่อ โอ๋ว์
คณานันท์ ส่วนใหญ่เพื่อเตรียมให้คนอื่นไปอยู่
หลวงพ่อ ขึ้นอยู่กับเจตนากลุ่มคุณนะ เจตนาแล้วไม่เป็นอื่นไปแล้ว
คณานันท์ อาทิตยืหน้าหลวงพ่อให้มาวันไหนครับ
หลวงพ่อคิด มาเสาร์เย็น จะได้ไปดูที่อื่นเสีย ไปจัดเลย ๒ ที่
....พูดกับลูกศิษย์เรื่องพ่อเขาไม่เชื่อจะทำอย่างไร...
หลวงพ่อถาม พวกเราคาดได้ไหมว่าจะมีกี่คน ให้ประมาณมา

คณานันท์ ภัยพิบัติจะเกิดเมื่อไหร่ครับ
หลวงพ่อ ถึงช่วงปานกลาง คาดว่าปีหน้าจะมา กลางปีจะเยอะ ที่มาเตรียมก่อนจะพอไหม
เรื่องนี้กันกันไม่ได้ ต้องเตรียมอย่างเดียว จำนวนคน ล้นคือล้น คนที่รับต้องทำใจด้วย จำเป็นมาจริงๆปฏิเสธไม่ได้ ถ้าทำใจไม่ได้ รับสถานการณ์ไม่ได้ต้องคิดหนักเหมือนกัน ที่อื่นเขาคงเตรียมการเหมือนกัน พวกที่รู้แล้วเตรียมก่อนก็มี พวกเรา (มองมาที่กลุ่ม) นี่ไม่อายพูด

คณานันท์ การชะลอวิกฤตนี่ได้นานแค่ไหนครับ
หลวงพ่อ ฉันบอกว่าเป็นอนิจจัง ถ้าตั้งใจก็เบนได้แต่เป็นบางส่วน หรือเกิดมาแล้ว สภาพนี้จะคัดคน ไม่ต้องวิจารณืดูแล้ว สภาพการณ์ของวิกฤตินี้ จะรับแต่พวกนั้น ใช้แต่พวกนี้ จะเลือกล้างพวกไหนไป เป็นอนิจจัง
จะรู้ด้วยปัญญาของตนเอง สติเราต้องจำกัดได้ เราเป็นคนค้นหาไม่ใช่ให้คนอื่นค้นให้ ไม่ใช้ตำรา ไม่ใช้ทฤษฎี เป็นสมมุติทางปัญญาเท่านั้น
เราปฏิบัติแล้วสร้างพลังจิต มันจะเบี่ยงเบนคัดเลือกแบบไหนในกลุ่มนั้นๆยังไม่ได้ตัดสิน เอาวิกฤติมาตัดสินถ้ามันจะไปหมดโลกก็ให้มันไป ให้ทำใจเบาๆ สบายๆ คลายอารมณ์ ไปก่อนหลัง ผีรุ่นพี่รุ่นน้อง ก็ดีไปทีหลังมีผีรุ่นพี่ เขาก็จะรัก ..(รำพึง)...นีสำนักก็ยังไม่เสร็จเลย.. (พึมพำ)..

คณานันท์ กราบเรียนถามว่าหลวงพ่อจะให้มาวันไหนครับ
หลวงพ่อ เงียบไป.. คืนวันเสาร์.. (พึมพำ) .. กงกำกงเกวียน เจอกันเอง จะบาปด้วยกันหรือบุญด้วยกันก็ไม่เกี่ยวก็ไปด้วยกัน

หลวงพ่อในป่า (ต่อ)