อ. ไก่ คนเมืองบัว เสียชีวิตแล้ว

อุเบกขา

เชื่อมั่นในสิ่งที่เรากำลังทำตั้งสมาธิ ปัญญา อาจารย์คอยดูการกระทำพวกเราอยู่ท่านไม่อยากเห็นการแตกแยก

 

คิดว่า อาจารย์จะกลับมาค่ะ

 

หากเป็นท่านที่ได้กล่าวตำนิติเตือนตามเบื้องต้น อยากให้ท่านก้มดูตัวเองบ้าง ว่า นอกจากทุกวันนี้ท่านทำตามความต้องการของตนเอง แสวงหา โลกธรรมแปด สนองกิเลสตัวเองแล้วมีสิ่งใดบ้าง ที่ทำเพื่องานสาธารณะ ตามแนวทางของ หลวงพ่อหลวงปู่ ในกองทุนต่าง ๆ
สิ่งใดที่เห็นว่ามีประโยชน์ต่างหากที่ควรทำ ควรพูด และพูดก็ให้ใช้สติปัญญาด้วย[/QUOTE]

เห็นด้วยอย่างยิ่ง อย่างน้อยท่านก็ได้อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาโดยไม่เห็นแก่ ประโยชน์ส่วนตนโดยแท้จริง

 

ลูกศิษย์คนนี้และครอบครัวจะรอคอยการกลับมาทุกลมหายใจ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนหรือในร่างไหนขอคารวะอาจารย์ ด้วยใจรักและศรัทธา

 

ทราบข่าวนี้เมื่อสองวันก่อนทางมือถือ กัลยาณมิตรโทรศัพท์ไปแจ้งข่าว

เคยเข้าเว็บคนเมืองบัว เคยตอบกระทู้และหยอกล้อท่านเล่น บางคราเล่นหนักถึงขนาดที่ว่า "เอาอาจารย์มาเป็นตัวชูโรงด้วยการพากษ์มวยคู่พิเศษ ระหว่างอาจารย์ไก่ คนเมืองบัว กับเด็กหนุ่มอีกคน"

ได้ไปร่วมฝึกกับอาจารย์ไก่ที่บ้านน้องเอ๊ด พัทยา (เนินพลับหวาน)

และได้เชิญท่านไปที่ออฟฟิส

ตอนนั้นเปิดแอร์แรงมาก แต่ดูเหมือนท่านอึดอัด เลยถามว่า "ไม่สบายหรืออาจารย์"

......................................................................

ก็คุยกับท่านหลายเรื่อง รวมทั้งบอกว่า

อาจารย์งานใครงานมันเนาะ บางทีหยิกแกมหยอก อย่าว่ากันนะ ในใจมันไม่มีอะไรหรอก

ท่านก็บอกว่า "ช่วยๆ กันไป"

เมื่อก่อนทราบข่าว ๑ วัน หลังจากกลับจากวัดท่าซุง ตอนโพล้เพลเดินคุยกับเจ้าที่ พระภูมิหน้าบ้าน แล้วชมพระอาทิพย์ตกดิน จู่ ๆ ภาพอาจารย์ไก่ก็ผุดมาในจิต

"อาจารย์ไก่ เราไม่มีอะไรขัดข้องกันนะ พุทธภูมิมันย่อมมีททดสอบ การบ้านเยอะ อะไรที่อาจารย์ทำถูกต้อง ยายขอโมทนา อะไรที่ยายทำผิด เราทำผิด ตักเตือนกันนะ อย่าคิดอะไรมาก โลกธรรมนะอาจารย์นะ"

แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรอีก ก็ไปทำนั่นทำนี่จนมาทราบข่าว

ก็ขอให้คุณงามความดีนำส่งอาจารย์ไปต่อยอดที่ดี ๆ นะ หากล่วงเกินกันและกันมาจากตอนอดีตชาติก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขออย่าให้มีกรรมนำพาให้ติดขัดอะไรต่อกันเลยนะอาจารย์นะ


การเสียชีวิตแบบกระทันหันของคนรู้จักก็ดี คนไม่รู้จักก็ดี ล้วนแต่ทำให้รู้สึกว่า

"ชีวิตนี้มันไม่มีอะไรแน่นอน แม้กระทั่งการตายก็ยังไม่แน่นอน การเวียนว่าย ตายเกิดล้วนเป็นธรรมดา ตราบใดที่สรรพสัตว์ยังคงเกิดมาด้วยอวิชชา ยังมีความโง่ หลง และกลัวอยู่"


...................................................

คนอยู่ก็จงตรองไว้เสมอว่า ชีวิตนี้ทำเวลาที่มีอยู่ทุกลมหายใจ ไม่ว่าจะเข้า หรือจะออก ให้มันมีคุณค่าที่สุด อย่าหายใจทิ้ง!

...........................................

 

มิได้รู้จักทั้งอาจารย์ไก่ และคุณยายผีป่าเป็นการส่วนตัว แต่แอบมั่วมาคุยทั้งเวบพลังจิตและเวบคนเมืองบัวค่ะ

ตั้งแต่วันแรกที่ทราบข่าวของอาจารย์ไก่ ก็ใจหายมาแต่แรกแล้ว คืนนั้นที่รู้เรื่อง ก็มีคนมาส่งเสียง จุ๊ๆ ให้ฟัง 3 ครั้ง ก็สันนิษฐานว่ามีสัญญาณมาบอกเรื่องของ อ.ไก่ สามวันมานี่ แทบไม่ได้ออกไปอ่านเวบอื่น ไม่ได้หลับได้นอน อยู่แต่เวบพลังจิตกับเวบคนเมืองบัวเพื่อติดตามข่าวคราวใกล้ชิด

พอวันนี้ได้อ่านข้อความของคุณยายผีป่า ก็เหมือนว่าได้อ่านคำเตือนสติ ให้ได้คิดอีกครั้ง....กราบขอบพระคุณคุณยายผีป่ามากค่ะ รวมไปถึงทุกๆท่าน

หากสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เป็นมรณานุสติ ก็นับว่าเป็นสิ่งประเสิรฐที่อาจารย์ไก่ท่านได้พึงปฏิบัติถ่ายทอดสิ่งประเสิรฐแก่ลูกศิษย์มานานหลายปีแม้แต่วาระสุดท้าย ตัวเองก็ถือว่าได้มารับรู้ และรับอานิสงค์ครั้งนี้ไปด้วย ขอกราบอนุโมทนาไปยังดวงจิตของอาจารย์ไก่ ขอให้ท่านรับรุ้ว่า แม้แต่สิ่งสุดท้ายที่ท่านได้กระทำไว้ ก็ยังเป็นสิ่งเตือนมโนสำนึกให้แก่คนที่ได้มารับรู้เรื่องราวและติดตามอย่างใกล้ชิด ให้ได้สติ ได้รับรู้การปฏิบัติ และกราบขอขมาไปยังท่าน หากตนเองเคยทำสิ่งใดล่วงเกิน ไม่ว่าด้วยวจีกรรม มโนกรรม ขอขมาไว้ ณ ที่นี้

คำสุดท้ายของคุณยายผีป่า แน่แล้ว "คนอยู่ก็จงตรองไว้เสมอว่า ชีวิตนี้ทำเวลาที่มีอยู่ทุกลมหายใจ ไม่ว่าจะเข้า หรือจะออก ให้มันมีคุณค่าที่สุด อย่าหายใจทิ้ง!
"

 

ความตายสิแน่นอน

 

อ้างอิงจากคุณยาย:
อย่างอาจารย์ไก่นี่นะคะ ท่านยังโชคดีหน่อย ที่ก่อนจิตออกจากร่าง ท่านยังมีกำลังกุศลวูบสุดท้ายสัก สี่ห้านาที ท่านรู้ว่า ไม่ไหวแล้ว หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ก็เลยตั้งจิตขึ้นขอขมาพระรัตนตรัย ขอเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ขอฟังธรรมจากเบื้องบน โดยเฉพาะหลวงพ่อฤษีลิงดำ

ขอโมทนากับคนเมืองบัวที่ขอขมาได้ทันท่วงทีเล็กน้อย
ถ้าหากกรรมใดในอดีตชาติเเละปัจจุบันชาติที่เราเคยล่วงเกินท่านคนเมืองบัว ทางกาย วาจา ใจ ขอท่านคนเมืองบัวอโหสิกรรมให้เราด้วย
เราตั้งใจว่าจะถวายสังฆทานชุดละ 1000 บาท ไปให้ท่าน ขอท่านจงโมทนาผลบุญเเละอโหสิกรรมให้เราด้วย

 

กรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกิน อ.ไก่ ทั้งทางกาย วาจาใจ ทั้งที่รู้เท่าถึงกาล และไม่รู้เท่าถึงกาล

ก็ขอ อภัย ขออโหสิ ขอ อ.ไก่ โปรดอโหสิ แก่ข้าพเจ้าด้วย

ผลบุญใดที่เกิดจากการอภัยทานครั้งนี้ ขออุทิศให้ อ.ไก่ และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายครับ

 

โมทนาด้วยน่ะท่าน
อะไรที่กระทบกระทั่งกันมา ก็ขออโหสิกรรมกันน่ะครับ

 

ท่านเป็นครูที่สอนให้เห็นว่าชีวิตเป็นของไม่เที่ยงแต่ความตายเป็นของเที่ยง ขอขมากรรมต่อ อ.ไก่ ทุกประการครับ .........

 

แจ้งข่าวล่าสุดการสวดอภิธรรม สังขารอาจารย์ไก่ โดย บอล วัตสุพล

อันที่จริงแล้วผมนั้นไม่ได้รู้จักอาจารย์"ไก่"เป็นการส่วนตัว ให้ทุกๆท่านปล่อยวางนะครับ ยึดหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ทุกๆสิ่งคือความว่าเปล่า เกิดขึ้นดับไปเป็นธรรมดา

วันนี้ ๑๘ / ๑๒ / ๕๒ ในเวลาประมาณ ๑๒.๓๗ น.


ได้รับ ข่าวล่าสุดเมื่อประมาณเวลาที่กล่าวไว้ข้างต้น จากญาติธรรมที่เชียงใหม่ว่าสังขารโดยรวม ของอาจารย์(คนเมือง)ได้ละลังขารเป็นที่แน่นนอนแล้วเนื่องจาก สภาพร่างกายไม่ไหว (สังขารเรี่มเปลี่ยนสภาพ) วันที่๑๘ / ๑๒ / ๕๒ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. ภรรยาและลูกศิษย์ จะนำสังขารอาจารย์ไก่เคลื่อนออกจากโรงพยาบาล และสวดอภิธรรมที่ จังหวัดเชียงใหม่ ณ.วัด ชัยสถาน บ้านสารภี ตำบล หรืออำเภอยังไม่แน่ใจ ทราบลายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบอีกทีครับ ในกระทู้นี้

ด้วยความอาลัย แด่อาจารย์ไก่ท่านผู้จากไปจุติณ.ภพภูมิใหม่


เมื่อประมาณ ๑๔.๐๐ น.โดยประมาณ ของวันที่ ๑๗ /ธันวาคม/ ๒๕๕๒


ผมได้ทราบข่าวจากญาติธรรมที่เชียงใหม่(พี่?) ที่ล่าสุดได้ไปพบอาจารย์ไก่เพื่อฝึกมโน ก่อนที่ท่านจะละจิต และทราบข่าวล่าสุดจากญาติธรรมที่คุณ?โทรไปปรึกษาความคืบหน้า ว่าเป็นเจ้าของบ้านที่อาจารย์ไก่ได้ไปสอนลูกศิษย์ที่เชียงใหม่ฝึกมโน ได้กล่าวว่า "ตอนนี้ร่างของอาจรย์อยู่ห้องดับจิตที่โรงพยาบาล ? ไม่ได้ใส่ในห้องเย็น ภรรยาอาจารย์และลุกศิษย์คอยเฝ้าอยู่

เนื่องจากขณะนี้อาจารย์ทางการแพทย์สรุปว่าเสียชีวิต (หัวใจ และชีพจรไม่เต้น)แต่เวลาผ่านมาได้ร่วม ๔๘ ชั่วโมงแล้ว รางอาจารย์ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเหมือนคนนอนหลับตัวอุ่นขึ้น(หลังจาก ที่ลูกศิษย์ ได้ช่วยกันสวดมนต์)และที่สำคัญยังมีลมหายใจแผ่วเบา ให้ญาติธรรมทุกๆท่านตรองดูนะครับ อันนี้ผมไม่ออกความเห็น แต่จะขอเตือนบรรดาลูกศิษย์

อาจารย์ว่า เวลาท่านอยู่ให้ช่วยดูแลท่านหน่อยลูกศิษย์ลูกหามากมาย ไม่สมควรปล่อยให้อาจารย์เดินทางผู้เดียว ไม่ใช่พอเกิดเหตุการณ์เช่นนี้และจะมาคิดถึง ไม่ว่าท่านจะกลับมาหรือไม่กับมาร่างนี้แล้ว ในกรณีที่กลับก็ขอให้ช่วยกันดูแลด้วยครับ

อนุโมทนาบุญ บอล เรืองตะวัน คนเปิดกรรม

 

อาจารย์คะ ต่อนี้ไปศิษย์จะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวังและเสียใจ สิ่งใดที่อาจารย์บอกกล่าวไว้ เป็นจริงแล้วบางส่วน บางสิ่งยังมาไม่ถึงนั้น อาจารย์ไม่ต้องห่วงนะค่ะ ศิษย์รู้ว่าอาจารย์อยู่ข้างศิษย์เสมอมา และตลอดไป อาจารย์พักผ่อนนะคะ อีกกี่ปี กี่ชาติ ศิษย์ก็รออาจารย์มาโปรดเสมอคะ อาจารย์อยู่ในใจเสมอค่ะ ตลอดไป

 

ขอไว้อาลัย แด่ท่านอาจารย์ไก่ ขอให้ท่านอาจารย์...ไปจุติ ณ.ภพภูมิใหม่ที่สูงขึ้นด้วยเทอญ...
​

 

ชีวิตเราเหมือนเรือเมื่อออกท่า
ไม่รู้ว่าค่ำนี้นอนที่ไหน
จะลอยล่มจมน้ำคว่ำลำไป
หรือสมใจจอดฝั่ง...ก็ยังแคลง

ได้ดื่มแต่น้ำตาเมื่อฟ้าร่ำ
ยิ่งยามย่ำสายัณห์ยิ่งกันแสง
ถูกลมหวนหอบข่มระดมแรง
จึงรู้แล้งหมดแล้วน้ำแก้วตา

เพราะหากมัวมาร่ำกำสรวลอยู่
ไหนจะรู้ทรงเรือบ่ายเมือหน้า
ต้องตักพายหมายขืนฝืนลมฟ้า
ไร้เวลาอาดูรพอกพูนใจ

ตรงตาแน่วดูแนวน้ำ
ไม่ลอยลำขวางเรือเมื่อน้ำไหล
ถ้าไม่ล่องก็ท่องทวนสวนทันใด
เรือจึ่งได้แนวดิ่งไม่ทิ้งทาง
เส้นที่หนึ่ง ขึงไว้ ให้ดูเด่น
คือความเห็น ทางชอบ กอบทางสัมม์
เห็นและรู้ ในอริยสัจจ์ สัทธรรม
ความรู้เลิศ ประเสริฐล้ำ ย้ำในใจ

หนึ่งรู้ทุกข์ กำหนดรู้ อยู่ในจิต
ทุกชีวิต แนบสนิท ติดทุกข์ไฉน
อุปาทาน ขันธ์ทั้งห้า พาทุกข์ใจ
มิมีใคร พ้นทุกข์ได้ ในโลกีย์

สองรู้ว่า ตัณหา เหตุเกิดทุกข์
ไร้ความสุข เพราะกามคุณ หนุนสิ้นศรี
ตา หู จมูก ลิ้น กายา มนินทรีย์
ทั้งหกนี้ ที่เกิดก่อ ต่อกามา

และตัณหา นั้นตั้งอยู่ ประตูทั้งหก
กรรมลามก จึงบังเกิด เพริศหนักหนา
สมุทัย ควร “ละ” ไว้ ไกลจิตตา
ระวังอย่า ให้ตัณหา พาก่อภัย

นิโรธ คือ ความดับทุกข์ ต้องให้แจ้ง
ที่ใดแสดง ดับที่นั่น อย่าหวั่นไหว
อริยมรรค ควรเจริญ อย่าเพลินไป
ควรเจริญไว้ เส้นหนึ่งใหญ่ ทางสัมมา

จาก .. พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔
มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ เป็นไฉน?

อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ นี้แหละ คือ สัมมาทิฏฐิ
สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ



ก็สัมมาทิฏฐิเป็นไฉน

ความรู้ในทุกข์ ความรู้ในเหตุให้ทุกข์เกิด ความรู้ในความดับทุกข์
ความรู้ในข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ อันนี้ เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ

 

ขอน้อมส่งอาจารย์ไก่ เข้าสู่ภพภูมิใหม่ครับ

สิ่งที่อาจารย์ได้สั่งสอนผมไว้ ผมจะระลึกไว้เสมอครับ

 

ขอไว้อาลัยแด่การจากไปของอาจารย์ไก่ คนเมืองบัว หากได้ล่วงเกินอาจารย์ด้วยกาย วาจาใจ รู้ตัวไม่รู้ตัว เจตนาไม่เจตนา ระลึกได้ ระลึกไม่ได้ ขอกรรมนั้นจงเป็นอโหสิกรรม และขออำนาจบารมีพุทธานุภาพ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ให้อาจารย์ไปสู่สุขคติภูมิที่ดี

 

ผมได้เจออาจารย์งานวันเกิดเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้เองเป็นครั้งแรกและสุดท้ายเลย อาจารย์ดูใจดีมีเมตตามาก
ไม่คึดว่าอาจารย์จะละสังขารเร็วขนาดนี้ครับ แต่ถึงยังไงอาจารย์และหลวงปู่หลวงพ่อก็ยังคงอยู่กับเราตลอดเวลาเสมอ
ขอไห้เราอย่าประมาทและทำความดีกันต่อไปครับ เพื่อ พระนิพพานที่เดียวเท่านั้น
ขอกราบไว้อาลัยอาจารย์ไก่ ณ ที่นี้ครับ... ชมไฟล์ไว้อาลัยอาจารย์ไก่ครับจากเวบคนเมืองบัว

ชีวิตเป็นของไม่เที่ยงจริงๆแต่ความตายเป็นของเที่ยง
เรามีความตายอยู่ทุกลมหายใขเข้าหายใจออก

นิพพาน ปจจโย โหนตุ...................................

 

แจ้งล่าสุด

อ.ไก่อยู่ที่ วัดชัยสถาน อ.สารภี ใกล้กับที่อ.สอนกรรมฐาน

จะสวด 3 วัน (วันนี้เป็นวันแรก => ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์)
จากนั้นเก็บศพไว้ 1 ปี แล้วค่อยเผา

ความคืบหน้าหากมีอะไรเปลี่ยนแปลงจะแจ้งต่อไป

 

ขอกราบไว้อาลัย อาจารย์ไก่ คะ

ข้าพเจ้าขอกราบไว้อาลัย และกราบขอขมากรรม คะ
ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญที่อาจารย์ได้ปฏิบัติมาทุกภพทุกชาตินะคะ กราบขอบคุณ คำสั่งสอน ทุกด้าน ที่อาจารย์เมตตาชี้นำข้าพเจ้าและครอบครัว คะ
กราบอาจารย์ไก่คะ............... ภควดี...