ถามเรื่องหลวงพ่อมาเข้าฝัน

เรียนกัลยาณมิตรทุกท่าน
คือหนูได้ซื้อหนังสือมือสองของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาอ่าน 2 เล่มเพราะเจอภาพหลวงพ่ออยู่หน้าเล่มก็เกิดความศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมาก ขอภาวนาตั้งจิตอธิฐานของเป็นลูกศิษย์ แล้วก็เริ่มทำสมาธิ (นอนสมาธิ) ปรากฏว่ามีอยู่วันหนึ่งทำสมาธิจนลมหายใจหายไป มีอาการว่างๆ สว่างๆ มันเฉยๆแต่ไม่มีความรู้สึกทางกายแล้ว ฝึกได้เท่านี้ ก็เริ่มสงสัยว่าอาการนี้คืออะไรจึงเข้าใจว่าตัวเองน่าจะเป็นอาการของฌาณ 4 แล้วก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง จนวันนึงหลวงพ่อมาเข้าฝัน(ไม่เห็นตัวท่านนะค่ะ) ได้ยินแค่เสียงก็ทราบว่าเป็นท่าน ในฝันมีการคุยถามเรื่องปัญหาฌาณ 4 ด้วย แต่ที่จำแม้นเลยคือ หลวงพ่อมีถามว่าเราอายุเท่าไร แล้วบอกให้เราไปหาหนังสือมาอ่านเองเยอะ และพยายามลืมเรื่องร้ายๆไปซะ โดยคืนนั้นไม่ได้คิดถึงท่าน หรืออ่านหนังสือของท่าน หนูมีข้อสงสัยว่า
1. เหตุใดเพียงแค่เจอภาพหลวงพ่อเราก็รู้สึกเลื่อมใส ศรัทธาถึงเพียงนี้
2. เคยปรึกษาผู้รู้บ้างท่าน เค้าบอกว่าฌาณ 4 ได้ยาก และทำไมหนูทำได้เลย
3. หนูทรงฌาณ 4 ได้ไม่ตลอด เพราะอะไร
4. ไม่รู้ว่าตอนเข้าฌาณ 4 แล้วต้องทำไงต่อ
5. ลูกศิษย์คนอื่นๆ หลวงพ่อมาหาแบบนี้มั้ยค่ะ
***ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

 

ที่ทราบเพราะศึกษาดูตามเวปไซน์ ต่างๆ ถึงอาการลมหายใจหาย ตัวหาย ว่างๆ สว่างๆ แต่เฉยๆ ไม่เกิดปิติใดๆ จิตมันเฉยๆ จนแน่ใจว่านี้คือฌาณ 4

 

จากที่คุุณน้องทิพย์พิมล เขียนเล่ามานั้น เป็นอาการของฌาน 4 คือลมหายใจละเอียด
จนไม่รู้สึกว่ามีลมหายใจ (ความจริงเรายังหายใจอยู่นะ) ส่วนอารมณ์จิตภายในมีความ
โพลง มีความสว่าง มีความทรงตัวมาก มีอารมณ์เป็นเอกัคคตารมณ์ เป็นหนึ่ง เป็น
อุเบกขา วางเฉยต่ออารมณ์ทั้งปวง มีความชุ่มชื่น มีความสุขและสบายที่สุด ไม่รู้สึกในการสัมผัสภายนอก เวลานั่งความปวดเมื่อยไม่ปรากฏ หลวงพ่อท่านบอกว่า เป็นอาการ
ของฌาน 4

 

1. เหตุใดเพียงแค่เจอภาพหลวงพ่อเราก็รู้สึกเลื่อมใส ศรัทธาถึงเพียงนี้

มันคงเป็นอาการเลื่อมใสท่าน หรือไม่ก็อดีตชาติเคยรู้จักท่านมาก่อน

2. เคยปรึกษาผู้รู้บ้างท่าน เค้าบอกว่าฌาณ 4 ได้ยาก และทำไมหนูทำได้เลย

อาการฝึกเร็วฝึกช้า ฝึกง่ายฝึกยาก มันขึ้นกับบุญ บารมี ที่เคยได้สะสมมา
หรือไม่ชาติก่อนๆๆคุณก็เคยฝึกสมาธิมาก่อน มาชาตินี้เลยฝึกง่าย

3. หนูทรงฌาณ 4 ได้ไม่ตลอด เพราะอะไร

ฌาน๔ มันทรงได้ในระดับที่ไม่มีกาย กายตัดขาดจากจิตโดยสมบูรณ์
แล้วตลอดวันคนเราต้องใช้กายทำงาน จึงทรงไว้ไม่ได้ทั้งวัน
แล้วการเข้าฌานนั้น เวลามีอะไรมากระทบ จิตไหวนิดเดียว ฌานก็ถอยแล้วคับ


4. ไม่รู้ว่าตอนเข้าฌาณ 4 แล้วต้องทำไงต่อ

ก็ควรถอนออกมาในระดับที่รู้สึกว่ามีกาย
แล้วพิจารณาเป็นธาตุ๔ ขันธ์๕ พิจารณาความไม่เทียง
พิจารณามรณะ พิจารณาว่ากายเรานี้สกปก
พิจารณาเสร็จก็เข้าฌาน๔อีก แล้วก็ถอนออกมาพิจารณาอีก วนไปวนมาซ้ำๆ

5. ลูกศิษย์คนอื่นๆ หลวงพ่อมาหาแบบนี้มั้ยค่ะ

ท่านมาเตือนทุกคนที่ตั้งใจฝึกน่ะ ใครที่ฝึกได้ดี ท่านก็มาแน่นอน

 

^
^
^
ตามนี้เลยครับ ลองทำไปเรื่อยๆนะครับ พิจารณามากๆ ปัญญาจะตามมาเองครับ อย่ารีบเร่งนะครับ ค่อยเป็นค่อยไป ตามกำลังของเราเอง ขอให้คุณเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะครับ อนุโมทนาครับ สาธุ ...

 

และหลวงพ่อฤาษีท่านได้ย้ำเตือนว่า เมี่อท่านใด ทำได้แล้ว จงรักษาไว้ให้มั่น หมั่น
ทำไว้เสมอให้จิตคล่อง คือจะสามารถนั่ง ยืน เมื่อไหร่ เข้าฌาน 4 ได้ทันที อนาปาน
สติกรรมฐาน เป็นกรรมฐานที่ระงับกายสังขาร เวลาป่วยไข้ไม่สบาย ถ้ากำหนดลมหาย
ใจเข้า ออกจนจิตเป็นฌาน อาการปวดเมื่อยทั้งหลาย มันจะสลายตัวไป ถ้าทำได้
จนคล่อง จะสามารถกำหนดเวลาตายได้

 

พระพุทธเเจ้า พระองค์ท่านตรัสว่า (หลวงพ่อฤาษีบอก) "การกำหนดลมหายใจ
เข้าออกนี้ เรากำหนดกายนี้เพื่อรู้ความเกิดขึ้น ความเสื่อมไปหรือสลายตัว เราจะไม่
ยึดถืออะไรทั้งหมดในร่างกายนี้"

 

ฌาน 4 มันไม่ไ๊ด้ง่ายอย่างที่คิด อาการทรงโดยรู้สึกไม่มีลมหายใจเป็นแทบทุกคนที่นั่งกรรมฐานทำให้หลงนึกว่าตัวเองได้แบบนี้เป็นกันเยอะ

 

คุณนายตถาตา ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยได้มั้ยค่ะ
คืออ่านแล้วยังไม่เข้าใจค่ะ เผืออาการที่ตัวเองมีอยู่อาจไม่ใช่ฌาณ 4 ก็ได้ รบกวนอนุเคราะห์ด้วยค่ะ

 

ผมเห็นด้วยนะ การได้ฌาน 4 ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ แต่ก็ไม่แน่นะบางคนอาจจะมีบุญเก่าสะสมมาเยอะก็ได้ ตามประสบการณ์ที่ผมพบกับตัวเองคืออาการที่ลมหายใจหายไป หรือเหมือนไม่มีลมหายใจเกิดขึ้นไม่ยากอาจจะหลังจากนั่งประมาณ 10 นาทีหรือ15 นาที่ ถ้าเรามีสมาธินิ่งพอ อาจจะเพิ่งเข้าฌาน 2 ตามที่ผมเข้าใจนะคือเพิ่งทิ้งคำบริกรรมไป ลืม พุทโธ ไปแล้ว ผมก็เคยเข้าใจว่าได้ฌาน 4 เหมือนกันนะ แต่เมื่อนั่งต่อไป จะเกิดอาการของปิติตามมา คือเกิดอาการขนลุก เรียกว่าตั้งแต่ก้นกบ ไล่ไปกลางหลังจนถึงกลางกระหม่อมเลย วูบๆ อยู่หลายครั้ง สิ่งที่เห็นรู้สึกว่าเดี๋ยวมืด เดี๋ยวสว่าง คล้ายๆ อาการหน้ามืด จนสุดท้ายจะนิ่งสนิท และจะเกิดความสุขอย่างประหลาด ผมว่าหลายคนคงเคยมีความรู้สึกนี้ เรียกว่าอาการของ สุข ผมเข้าใจว่าเป็นฌาน 3 นะ อาการของสุขเท่าที่เกิดกับตัวผมนะรู้สึกว่าไม่นานประมาณ ไม่เกิน 5 นาที่ หลังจากนั้นก็จะนิ่งไปอีก คราวนี้นิ่งจริงๆ เลยผมเข้าใจว่าเป็นการเริ่มต้นฌาน 4 นะ เพราะจิตจะนิ่งมาก ไม่มีนิวรณ์อีกแล้ว ผมว่าต้องลองสังเกตุตัวเองดูนะ ถัายังรับรู้อาการของตัวเองอยู่ คอยดูว่าไปถึงไหนแล้ว แสดงว่ายังมีนิวรณ์อยู่ก็คงเป็นแค่ฌาน 2 ถ้าจะเป็นฌาน 4 ต้องไม่คิดอะไรทั้งสิ้น เรียกว่าเป็นเอกคตา ไม่ทราบผมเข้าใจถูกหรือปล่าวครับ โปรดชี้แนะอีกครั้งครับ

 

ที่ดิฉันเป็นนะค่ะคือทำสมาธิไปสักพักจะมีอาการต่างๆเกิดขึ้น ซึ่งหลายๆท่านก็ทราบ แต่อาการของดิฉันคือ มันนิ่งมาก ไม่มีความรู้สึกทางกายแม้แต่น้อย ไม่มีลมหายใจเลย แต่ที่สำคัญคือเรามีสติที่ดีมาก มีลักษณะคือมันว่างๆสว่างๆ เป็นโพรง ไม่มีอารมร์สุขหรือทุกข์ทั้งนั้น เป็นอารมร์ที่วางเฉยนิ่งๆ ซึ่งมันต่างกันกับบางคนมากที่บอกว่านั่งสมาธิแล้วลมหายใจหาย แต่คุณยังมีความรู้สึกทางด้านร่างกายอยู่ ถ้าท่านใดลองปฏิบัติจนถึงขั้นนี้ก็จะทราบความแตกต่างที่ชัดเจน

 

ขอออกความคิดเห็นนิดนึงครับ

ผมว่า มโนมยิทธิ ที่หลวงพ่อสอนไว้ จะช่วยแก้ข้อสงสัยได้ทั้งหมดครับ