การเตรียมการอพยพมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือระหว่างการชำระโลก ของมิตรจากต่างพิภพ และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก

อินทรียสงวร · 15 มีนาคม 2010

การปลุกให้ผู้พเนจรตื่น (Wanderer Awakening)…

Chayutt said: ↑

ตอนที่ 16:
รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 6 บางรูป เพิ่งลงมาที่โลกเมื่อเร็วๆนี้ แล้วก็ได้ลืมไปแล้วว่าพวกเขาเป็นใคร
...
“การปลุกให้ผู้พเนจรตื่น” (Wanderer Awakening)…

...........................................
Click to expand...

รอคุณ Chayutt อยู่ครับ ว่าจะต้องทำอย่างไร ถึงจะปลุกให้ตื่นได้

Chayutt · 15 มีนาคม 2010

ตอนที่ 19:

ที่มา: Disclosure Updates and Transcript of Coast Announcement, 10/6!

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" http:="" palungjit.org="" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype><style>  </style> การบริหารจัดการและการเปลี่ยนระดับของประชากรบนดวงดาวต่างๆ

ลองมาดูหน้าที่ของรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 6 กันอีกครั้งหนึ่ง ว่ามันคืออะไร
มันก็คือ

“การบริหารจัดการ และการเปลี่ยนระดับของประชากรบนดวงดาวต่างๆ”

อันที่จริงแล้ว มันมีอะไรที่ลึกลงไปกว่าความหมายในวลีสั้นๆนี้มากมายนัก เราจะไม่ประจักษ์แจ้งได้เลย
หากเราไม่ลองมานั่งใครครวญถึงมันดู เพื่อกะเทาะเปลือก และสกัดเอาความหมายของมันออกมา

รูปธรรมชีวิตฝ่ายบริหารจัดการอย่างเช่นกลุ่มของท่าน “รา” นี้ คือผู้ที่กำลังนำพา, กำหนดโครงสร้าง
และบำรุงรักษา ทุกๆรายละเอียดที่สมดุลของ “มายาการ” ของดาวเคราะห์ดวงนี้อยู่อย่างแท้จริง
เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณของพวกเรา

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ที่เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการต่างๆเพื่อบำรุงรักษามายาการอันนี้
เป็นสิ่งที่ผู้ที่คิดเป็นเฉพาะแบบตรรกะเท่านั้น มิอาจเข้าใจได้โดยสิ้นเชิง

มันอาจจะพอมีทางที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่ช่วงความถี่ของจิตใจ, ร่างกาย
และจิตวิญญาณของมนุษย์ ที่มีขีดจำกัดนี้ จะสามารถเข้าใจได้

พวกเราแต่ละคน กำลังถูกบริหารจัดการอยู่ ในระดับความมากน้อยที่แตกต่างกันไป
โดยที่พวกเราเองไม่มีทางที่จะรับรู้ได้เลย พวกเขากำลังประพันธ์ท่วงทำนองแห่งเหตุการณ์ต่างๆ
ที่จะให้เกิดขึ้นกับดาวเคราะห์โลก ด้วยความระมัดระวังและอย่างเงียบๆอยู่

เพราะฉะนั้น ทุกสิ่งทุกอย่าง มันจึงกำลังถูกควบคุมการทำงาน ให้อยู่ภายใต้ขอบเขตของตัวแปรที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว

เหตุการณ์อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมหรือภายใต้อิทธิพลของการกระทำแห่ง “ทางเลือกอิสระ” ของพวกเรา
ก็กำลังถูกนำทางอยู่ด้วย และอีกครั้งหนึ่ง เพราะว่ามันเกิดขึ้นในระดับที่เที่ยงตรงแม่นยำ
จนเกินกว่าพวกเราจะเข้าใจได้ และค้นพบได้ ว่านี่คือฝีมือของรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าเรา

นี่จึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม ตัวอย่างเช่น

- ปล่องภูเขาไฟขนาดยักษ์ในเยลโลสโตน (Yellowstone super-caldera volcano) จึงไม่ประทุขึ้น,
- ทำไมรัฐแคลิฟอร์เนียจึงไม่จมลงสู่มหาสมุทร และ
- ทำไมการปลดปล่อยก้อนมวลจากโคโรน่า (Coronal Mass Ejection - CME) ของดวงอาทิตย์
จึงไม่ทำลายโครงข่ายไฟฟ้าของดาวเคราะห์โลกของเรา

นั่นก็เพราะว่า “การบริหารจัดการ”

(ข้อมูลบางส่วนจาก การปลดปล่อยก้อนมวลขนาดใหญ่จากดวง

...การปลดปล่อยก้อนมวลจากโคโรนาครั้งหนึ่งๆ จะพาสสารมวลอย่างน้อย 1.6 x 10^15 กรัม (พันล้านตัน)
ออกมาด้วยอัตราเร็ว 20 กิโลเมตรต่อวินาที จนถึง 2,700 กิโลเมตรต่อวินาที
และจากข้อมูลโดยอุปกรณ์ LASCO ซึ่งติดตั้งบนยานอวกาศ SOHO ในช่วง พ.ศ. 2539 – 2546
พบว่า CME มีอัตราเร็วเฉลี่ยประมาณ 489 กิโลเมตรต่อวินาที ในขณะที่ลมสุริยะ (solar wind)
ซึ่งออกมาจากดวงอาทิตย์เป็นประจำนั้นมีอัตราเร็วเพียง 250 ถึง 1000 กิโลเมตรต่อวินาที
ดังนั้นเมื่อวัตถุเคลื่อนที่เร็วกว่าจึงก่อให้เกิดแนวประทะของตัวกลาง (shock) ขึ้น
ภายในอวกาศระหว่างดาว เคราะห์ด้วย…Chayutt)

- คุณเคยสงสัยไหม๊ว่า ทำไม UFO ต่างๆ จึงถูกพบเห็นได้บ่อยๆ เหนือพื้นที่ที่เป็นคลังเก็บขีปนาวุธนิวเคลียร์ใต้ดินทั้งหลาย
แล้วพวกมันก็ทำให้คลังอาวุธทั้งคลังไฟฟ้าดับลง แล้วก็แว๊บหายไปอย่างรวดเร็ว

นั่นก็เพราะว่า “การบริหารจัดการ”

- คุณเคยสงสัยไหม๊ว่า ทำไม UFO จึงถูกพบเหนือเมืองเชินโนบิล (Chernobyl – เมืองที่อยู่ทางเหนือ
ของประเทศยูเครน และเคยเกิดอุบัติเหตุโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ในปี 1986 – Chayutt) เมื่อความล่มสลายเกิดขึ้นในครั้งนั้น แล้วก็ยังได้ช่วยหยุดยั้งไม่ให้มีชาวโลก
ถูกฆ่าตายไปมากกว่านั้นอีก หรือแม้กระทั่งไม่ให้โลกนี้ถูกทำลายลงเพราะอุบัติภัยในครั้งนั้น

นั่นก็เพราะว่า “การบริหารจัดการ”

- คุณเคยสงสัยไหม๊ว่า ทำไมตามรายงานข่าวของ Al Martin เรื่องที่ว่าความพยายามของ “กลุ่มของบุช”
ที่กรุข่าวลวงโลกขึ้นเพื่อปรักปรำอิรักว่า กำลังซ่องสุมอาวุธทำลายล้างสูง (Weapon of Mass Destruction – WMDs)
และยัดเยียดความผิดให้ซัดดัม ฮุดเซน นั้น
ขัดต่อกฎหมาย และถูกสั่งห้ามแล้ว แต่ทำไมประธานาธิปดีบุชจึงยังมีคำสั่งให้ยิงถล่มอิรัก อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

และจากนั้นผู้สมรู้ร่วมคิดหลายคนก็ถูกเก็บ และ อาวุธทำลายล้างสูงที่ว่านั้นก็ได้หายสาบสูญไปในเหตุการณ์
“ถล่มอย่างเป็นมิตร” ของอเมริกาในครั้งนั้นด้วย

นั่นก็เพราะว่า “การบริหารจัดการ”

- คุณเคยสงสัยไหม๊ว่า ทำไมปีที่แล้วเรือ “Iran Deyanat” ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบรรทุกเศษฝุ่นผง
ของธาตุกัมตรังสีที่สกปรกจำนวนหลายตัน เพื่อเอาไปโจมตีประเทศอิสราเอล และประเทศใกล้เคียง
จึงถูกกลุ่มโจรสลัดปล้นไป ?
ทำไมกลุ่มโจรสลัดพวกนี้จึงจำเพาะเจาะจงที่จะไล่ล่าเรือลำดังกล่าวนี้ด้วย ?

ซึ่งก็นับว่าเป็นโชคดีมากๆของพวกเรา เพราะมันทำให้พวกเราอยู่รอดปลอดภัยจากการถูกถล่มด้วยอาวุธนิวเคลียร์
ซึ่งอาจจะทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตายลงไปมากมาย และอาจนำมาซึ่งความไม่มั่นคงในตะวันออกกลางด้วย

นั่นก็เพราะว่า “การบริหารจัดการ”

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเรื่องราวเกี่ยวกับวันสิ้นโลกทั้งหลาย, ภัยพิบัติครั้งใหญ่ทั้งหลาย
ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากกลุ่มคนขี้กลัวทั้งหลาย ที่มักจะบอกด้วยว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้แล้วนั้น
มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นจริงอย่างเด็ดขาด หรืออย่างน้อยมันก็จะไม่ร้ายแรงขนาดวันสิ้นโลก
อย่างที่พวกเขาคาดเดากันไว้นั่นหรอก

นั่นก็เพราะว่า “การบริหารจัดการ”

......................................

Chayutt · 15 มีนาคม 2010

ตอนที่ 20:

ที่มา: Disclosure Updates and Transcript of Coast Announcement, 10/6!

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> ความบังเอิญที่เหลือเชื่อ (SYNCHRONICITY)

ในแต่ละวันอาจจะมีหลายครั้ง ที่พวกเราทำอะไรบางอย่างลงไป โดยคิดแต่เพียงว่า
มันเป็นเพียงความต้องการของตัวเราเพียงคนเดียวจริงๆ โดยที่พวกเราไม่เคยตระหนักรู้เลยว่า
มันจะไปทำให้เกิดปรากฏการณ์ “แฟรกทัลเอฟเฟ็ก” (Fractal effect) ขึ้น

ซึ่งหมายความว่า ทุกๆการกระทำของเรา จะไปมีผลกระทบต่อส่วนรวมด้วยเสมอ

ด้วยเหตุผลนี้ คุณจึงไม่ควรประเมินค่าความสำคัญและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากความคิดและการกระทำใดๆ
ในแต่ละขณะในแต่ละวัน ของคุณเองต่ำจนเกินไป

กระแสความคิดแห่งความรัก, ความสันติสุข, การยอมรับนับถือ และ การให้อภัย พวกมันมีพลังอำนาจมากกว่าที่คุณคิด

มีชาวโลกมากมาย ที่กำลังมีประสบการณ์ “ซินโครนิซิตี้” (Synchronicity) เกิดขึ้นอยู่
เช่น การพบเห็นตัวเลข 11:11, 12:12, 3:33, 4:44 และอื่นๆ บนหน้าปัดนาฬิกา,
แผ่นป้ายทะเบียนรถ, เข็มไมล์บอกระยะทางในรถ, และอื่นๆ

ปรากฏการณ์นี้กำลังแสดงให้พวกเราเห็นว่า พฤติกรรมที่ดูเหมือนกับว่า มันเป็น “การกระทำตามอำเภอใจ”
ของเราเองทั้งหลายนั้น แท้ที่จริงแล้ว มันถูกทำให้มีความสอดคล้องประสานกันอย่างมาก
โดยพลังบางอย่างที่พวกเราเองส่วนใหญ่ไม่เคยตระหนักรู้เลย

มีผู้ที่กำลังค้นหาสัจธรรมของชีวิต ที่กำลังตื่นขึ้นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้วในขณะนี้
จำนวนมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะว่ามีรูปธรรมชีวิตชั้นสูงทรงภูมิปัญญาจำนวนมากมาย
ที่กำลังคอยให้ความช่วยเหลือพวกเราอยู่ บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนรูปแบบในครั้งนี้

พวกเราแต่ละคนมี “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self) ของตนเอง ที่ดำรงอยู่ในมิติที่ 6 นี้อยู่แล้ว

ตัวตนที่สูงส่งกว่าในมิติที่ 6 ของพวกเรา สื่อสารมาถึงเราโดยตรงผ่านทางความฝัน, ซินโครนิซิตี้, นิมิต
และประสบการณ์แปลกๆอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมาธิ

ช่องทางการติดต่อสื่อสารแบบนี้ มันมีอยู่แล้วในตัวคุณทุกคน และมันก็มีค่ามากกว่าการติดต่อสื่อสาร
กับคนวงในหรือคนอื่นๆเช่นตัวผมเอง เป็นต้น

การติดต่อกับภายในของตัวคุณเอง เพื่อสร้างสะพานเชื่อมระหว่าง “มนุษย์” และ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์”
(Mortal & Divine) คือวิธีการเติมเต็มหน้าที่ในจักรวาล (Universal purpose) ของตัวคุณเองที่แท้จริง

......................................

Chayutt · 15 มีนาคม 2010

ตอนที่ 21:

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> บางส่วนของบทสัมภาษณ์ออกอากาศทางรายการวิทยุ Coast to Coast AM
ของนายเดวิด วิวค็อค (David Wilcock) โดยนาย จอร์จ นูรี่ (George Noory)
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2009

ที่มา: Disclosure Updates and Transcript of Coast Announcement, 10/6!

ปรากฏการณ์ “ความบังเอิญอันเหลือเชื่อ” (Synchronicity) ก็มีประโยชน์ไม่ใช่น้อย

David: ปรากฏการณ์ซินโครนิซิตี้ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรให้ความสนใจ มีชาวโลกที่เริ่มจะสังเกตเห็นมันมากขึ้นเรื่อยๆ

เช่น พวกเขาเริ่มเห็นตัวเลข 3:33 หรือ 11:11 บนนาฬิกา ซึ่งมันจะเกิดขึ้นทันที
หลังจากที่พวกเขาได้คิดถึงสิ่งที่มีความสำคัญจบลง

GN: จริงแท้แน่นอนครับ

David: ผมถูกถามอยู่ตลอดเลยว่า “มันหมายถึงอะไร?” ซึ่งคำตอบที่ผมตอบพวกเขา ก็คือคำตอบเดียวกัน

โดยทั่วไปแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำ เมื่อคุณเห็นตัวเลขพวกนี้แล้วก็คือ จงถามตัวเองว่า

“เมื่อกี๊นี้ ฉันคิดอะไรไปนะ ก่อนที่ฉันจะเห็นตัวเลขพวกนี้ ?”

ซึ่งนั่นแหละจะเป็นคำตอบของคุณ เพราะว่าปรากฏการณ์นี้ มันกำลังบอกให้คุณทราบว่า

ไม่ว่าเมื่อสักครู่นี้คุณได้คิดอะไรไปก็ตาม มันเป็นความคิดที่สำคัญ และคุณก็กำลังมาถูกทางแล้ว....

.................................................

Chayutt · 15 มีนาคม 2010

ตอนที่ 22:

ที่มา: Disclosure Updates and Transcript of Coast Announcement, 10/6!

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><style>  </style> ความสมดุล (Balance)

มันเป็นอำนาจสิทธิ์ขาดของทีม “ผู้บริหารจัดการ” ที่จะคอยรักษาความสมดุลให้เกิดขึ้นกับดาวเคราะห์โลกของพวกเรา

นั่นคือวิธีการของจักรวาล พวกเราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเหตุบังเอิญ
ทุกๆคนกำลังมีการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณอยู่ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม

หรือไม่ว่าแต่ละคนจะต้องใช้เวลาในการเรียนบทเรียนเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำอีกซักกี่รอบก็ตามที
ความสมดุลที่ทีมผู้บริหารจัดการได้จัดหามาไว้ให้เรา ก็หมายความว่า พวกเราสามารถมองเห็น
“ด้านบวก” และ “ด้านลบ” อย่างเสมอภาคกัน ยิ่งมีสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นมากเท่าไหร่
นั่นก็หมายความว่ายิ่งมีสิ่งที่ดีถูกปล่อยให้ถูกบุกรุกมากเท่านั้น

และอธรรมจะไม่มีวันถูกปล่อยให้ไล่ตามทันธรรมะได้ไม่ว่าจะในกรณีใดๆทั้งสิ้น

ความเปลี่ยนแปลงที่เจ็บปวดทั้งหลาย ที่พวกเราเห็นอยู่บนโลกนี้ คือส่วนประกอบที่จำเป็นอย่างหนึ่ง
ของกระบวนการเจริญเติบโตนี้

ยิ่งคุณหมกมุ่นอยู่กับความหวาดกลัวมากนานเท่าใด แผนการของฝ่ายอธรรม
ก็ยิ่งจะมีโอกาสทำสำเร็จมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าคุณตื่นขึ้น แล้วสลัดทิ้งความกลัวออกไป
หันมาเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด คุณก็จะเป็นผู้ชนะ แล้วชีวิตของคุณก็จะพบพานแต่เรื่องราวดีๆ, มิตรไมตรี
และการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ

นี่คือสงครามของคลื่นความถี่ ที่ต่อสู้กันเพื่อยื้อแย่งจิตสำนึกของพวกคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะอยู่ฝ่าย

“ความรัก” หรือ “ความกลัว”

สิ่งที่คุณเลือกก็จะไปส่งผลกระทบต่อดาวเคราะห์ทั้งดวง

..........................................

zipper · 16 มีนาคม 2010

Chayutt said: ↑

- คุณเคยสงสัยไหม๊ว่า ทำไมปีที่แล้วเรือ “Iran Deyanat” ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบรรทุกเศษฝุ่นผง
ของธาตุกัมตรังสีที่สกปรกจำนวนหลายตัน เพื่อเอาไปโจมตีประเทศอิสราเอล และประเทศใกล้เคียง
จึงถูกกลุ่มโจรสลัดปล้นไป ?
ทำไมกลุ่มโจรสลัดพวกนี้จึงจำเพาะเจาะจงที่จะไล่ล่าเรือลำดังกล่าวนี้ด้วย ?

ซึ่งก็นับว่าเป็นโชคดีมากๆของพวกเรา เพราะมันทำให้พวกเราอยู่รอดปลอดภัยจากการถูกถล่มด้วยอาวุธนิวเคลียร์
ซึ่งอาจจะทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตายลงไปมากมาย และอาจนำมาซึ่งความไม่มั่นคงในตะวันออกกลางด้วย

นั่นก็เพราะว่า “การบริหารจัดการ”
Click to expand...

อ่านท่อนนี้แล้วนึกถึงที่แกนดัฟพูดถึงกอลลัมตอนอยู่ในเหมืองมอเรียที่โฟรโดสังเกตเห็นว่ากอลลัมตามเข้ามาประมาณว่า "ถึงจะยังไงก็ยังมีประโยชน์อะไร ซักอย่าง มีบทบาทอะไรที่ต้องทำ" เลยปล่อยให้กอลลัมตามมาเรื่อยๆ กอลลัมทำให้ Lord of the ring จบได้ด้วยดี โดยเข้าไปแย่งแหวนจากโฟรโดที่โดนแหวนครอบงำไปแล้วและก็พลาดตกไปลงในปล่องภูเขาไฟทั้งแหวน

เหตุการณ์ที่เรือโจรสลัดจี้ปล้นเรือบรรทุกเศษฝุ่นผงของธาตุกัมตรังสีเพื่อเอาไปโจมตีประเทศเป้าหมาย ทำให้ประเทศนั้นรอดจากหายนะไป ทำให้นึกถึงตอนที่กอลลัมแย่งแหวนจากโฟรโดได้

ทั้งกอลลัมและเรือโจรสลัดก็เหมือนกันตรงที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายดี แต่ถึงกระนั้นก็ยังทำหน้าที่(ที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว)ที่ทำให้เรื่องราวต่างๆ จบลงด้วยดี

เหตุผลที่ยังมีโจรสลัดอยู่จะเหมือนกับเหตุผลที่แกนดัฟบอกว่าทำไมกอลลัมถึงควรอยู่ต่อไปหรือเปล่านะ

kindred · 16 มีนาคม 2010

Chayutt said: ↑

ตอนที่ 16:

<LINK href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml" rel=File-List><STYLE>  </STYLE>บางส่วนของบทสัมภาษณ์ออกอากาศทางรายการวิทยุ Coast to Coast AM
ของนายเดวิด วิวค็อค (David Wilcock) โดยนาย จอร์จ นูรี่ (George Noory)
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2009

ที่มา: Disclosure Updates and Transcript of Coast Announcement, 10/6!

รูปธรรมชีวิตในมิติที่ 6 บางรูป เพิ่งลงมาที่โลกเมื่อเร็วๆนี้
แล้วก็ได้ลืมไปแล้วว่าพวกเขาเป็นใคร

มนุษย์ทุกคนมี “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” ของตัวเองอยู่อีก 1 ตัวตน แต่สำหรับชาวโลกบางคน
การจะวิวัฒน์ขึ้นไปถึงจุดนั้นได้ อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายล้านปีในอนาคต

“ผู้พเนจร” (Wanderer) ในอีกความหมายหนึ่ง ก็คือรูปธรรมชีวิตในมิติที่ 6 ที่อาสาลงมาเกิดในร่างมนุษย์เมื่อเร็วๆนี้
เพื่อมาช่วยโลกโดยเฉพาะ เนื่องจากว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับโลก ไม่เป็นไปอย่างที่พวกเราคาดหวัง

ในหนังสือชุด “The Law of One” ได้เปิดเผยว่าในช่วงปี 1981 มี “ผู้พเนจร” ลงมาเกิดบนโลกมนุษย์แล้ว
...........................................
Click to expand...

ไม่ทราบว่ามันจะเป็นการ SYNCHRONICITY หรือเปล่าน๊า???
2-3 วันก่อนเดรดค้นข้อมูลบางอย่างแล้วไปเจอ เวบนี้

http://www.lawofone.info/results.php?category=Balancing

ก็กำลังอ่านๆอยู่ แต่...โอ้ว์ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด(อิอิ เลียนแบบ)
พอมาเจอข้อมูลของคุณชยุต กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ อืมม์ น่าคิดนิ

ถ้าใคร ไม่กลัวตาหูลาย เข้าไปชมและเลือกอ่านเลยค่ะ
มีประเด็นคำถามที่น่าสนใจเยอะแยะ
อาจมีตอบคำถามอะไรที่คาใจบางอย่าง ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
แต่...อย่าลืม วางความเชื่อลงก่อนนะคะ ไม่งั้น อึดอัดแย่เลย

ขอบคุณ คุณชยุต สำหรับข้อมูลแปลชุดนี้มากๆ ค่ะ สุดยอด

คีตรมุณี · 16 มีนาคม 2010

สวัสดีครับ

ผมเป็นอีกคนที่ชอบติดตามอ่านเรื่องราวที่คุณชยุตนำเสนอ จนผมอยากขอร่วมเสนอความคิดเห็นด้วยคน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ท่านผู้รู้หลายๆ คนด้วย

เรื่องที่คุณชยุตนำเสนอไม่ใช่ความแปลกใหม่ แต่มันคือเรื่องราวที่ผมอยากจะยืนยันว่า มันมีส่วนจริงนะครับ
ที่บอกว่า "พวกที่มาจากที่อื่นมักจะสงสัย และไม่เข้าใจความเป็นไปในโลก" มันก็เป็นส่วนหนึ่งของบทเรียนนี้ด้วย ผมกำลังจะเข้าใจมัน และกำลังจะกลับไป
ผมเชื่อว่าหลายคนที่ได้อ่านอยู่นี้ อาจกำลังเป็นเหมือนผม สิ่งที่ผมเป็นมาตลอดตั้งแต่จำความได้คือ ผมเหมือนตัวเอเลี่ยนที่เข้ามาเยือนโลกใบนี้ ทุกอย่างมันแปลกใหม่สำหรับผม
และผมรู้สึกเจ็บปวดกับการมีตัวตนของผมเอง ณ ขณะนี้ แม้ผมจะใช้เวลาหลายสิบปีในการเข้าใจและรักตัวผมเอง แต่ความรู้สึกมันขัดแย้งกันอยู่ดี

ผมสามารถติดต่อกับจิตวิญญาณในตัวตนของผมได้ ผมรู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับการมีตัวตนของพวกคุณ หรือพวกเราทั้งหลาย ผมรู้ว่าวันสิ้นโลกแท้จริงนั้น เป็นอย่างไร และรู้ด้วยว่าตัวผมเองเกิดมาเพื่อจะเป็นจิ๊กซอตัวหนึ่งของวงจรอุบาทว์นี้

ผมไม่ได้มีเจตนาก่อกวนนะครับ เพราะผมเป็นจริงๆ และมีหลายคนที่เป็นแบบผม ผมไม่อยากเชื่อตามคนอื่นโดยขาดการพิสูจน์ เพราะทุกขณะของมนุษย์คือการเรียนรู้ความคิดคนอื่นทั้งนั้น สิ่งมหัศจรรย์จริงๆ มันอยู่ในตัวเรานี่เองครับ

ลึกๆ แล้วผมอยากมีเพื่อน มีคนที่เข้าใจผม ตัวตนของผมขณะนี้กับอีกแบบหนึ่งมันมีความขัดแย้งกันอย่างมาก พวกเขาคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่พวกเราเป็นอยู่เหมือนเกมหรือละครหลังข่าวเป็นฉากๆ ในขณะที่คนเล่นอย่างพวกเราทุกข์แค่ไหน เราก็อยู่ในกรอบ หรือจออยู่ดี ถึงคุณจะรวยล้นฟ้า หรือยากจนแบบยาจก ในความหมายของพวกเขาคือ มีค่าเท่ากัน

"พวกเขา" ที่ผมพูดถึง คุณอาจจะเรียกว่าพระเจ้า หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่นิยามของผมคือ พระเจ้าคือพวกเขา ดี หรือ ชั่ว ไม่มีจริง จน หรือ รวย ไม่มีจริง แม้แต่เจ็บปวด หรือสุขสบายก็ไม่มีจริง พวกเขาอยู่ในที่ๆ เราไม่รู้จัก พวกเขามีชีวิตนะครับ ชีวิตในรูปแบบของพวกเขา และสิ่งที่ผมต้องทำหลังจากอยู่ที่นี่ คือกลับไปที่เดิม ที่ๆ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น นรก หรือสวรรค์ ไม่มีจริงหรอกครับ ถ้าคุณนึกให้ออก คุณก็จะเห็นด้วยกับผม

ที่ผมบอกไปนั้น ไม่ได้อยากให้เกิดความขัดแย้งใดๆ แต่ผมอยากได้ความคิดเห็นใหม่ๆ นอกเหนือจากในหัวผม ผมหมดความปรารถนาใดๆ แล้ว เพราะเป็นแล้วก็ดับไปเหมือนอนิจจังอย่างที่เขาว่า ผมจะบวชครับ ผมอยากกลับบ้าน ช่วยชี้แนะคนด้อยปัญญาอย่างผมด้วยครับ

ขอบคุณครับ

axzon47 · 17 มีนาคม 2010

Fallen_X9B said: ↑

สวัสดีครับ

ผมเป็นอีกคนที่ชอบติดตามอ่านเรื่องราวที่คุณชยุตนำเสนอ จนผมอยากขอร่วมเสนอความคิดเห็นด้วยคน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ท่านผู้รู้หลายๆ คนด้วย

เรื่องที่คุณชยุตนำเสนอไม่ใช่ความแปลกใหม่ แต่มันคือเรื่องราวที่ผมอยากจะยืนยันว่า มันมีส่วนจริงนะครับ
ที่บอกว่า "พวกที่มาจากที่อื่นมักจะสงสัย และไม่เข้าใจความเป็นไปในโลก" มันก็เป็นส่วนหนึ่งของบทเรียนนี้ด้วย ผมกำลังจะเข้าใจมัน และกำลังจะกลับไป
ผมเชื่อว่าหลายคนที่ได้อ่านอยู่นี้ อาจกำลังเป็นเหมือนผม สิ่งที่ผมเป็นมาตลอดตั้งแต่จำความได้คือ ผมเหมือนตัวเอเลี่ยนที่เข้ามาเยือนโลกใบนี้ ทุกอย่างมันแปลกใหม่สำหรับผม
และผมรู้สึกเจ็บปวดกับการมีตัวตนของผมเอง ณ ขณะนี้ แม้ผมจะใช้เวลาหลายสิบปีในการเข้าใจและรักตัวผมเอง แต่ความรู้สึกมันขัดแย้งกันอยู่ดี

ผมสามารถติดต่อกับจิตวิญญาณในตัวตนของผมได้ ผมรู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับการมีตัวตนของพวกคุณ หรือพวกเราทั้งหลาย ผมรู้ว่าวันสิ้นโลกแท้จริงนั้น เป็นอย่างไร และรู้ด้วยว่าตัวผมเองเกิดมาเพื่อจะเป็นจิ๊กซอตัวหนึ่งของวงจรอุบาทว์นี้

ผมไม่ได้มีเจตนาก่อกวนนะครับ เพราะผมเป็นจริงๆ และมีหลายคนที่เป็นแบบผม ผมไม่อยากเชื่อตามคนอื่นโดยขาดการพิสูจน์ เพราะทุกขณะของมนุษย์คือการเรียนรู้ความคิดคนอื่นทั้งนั้น สิ่งมหัศจรรย์จริงๆ มันอยู่ในตัวเรานี่เองครับ

ลึกๆ แล้วผมอยากมีเพื่อน มีคนที่เข้าใจผม ตัวตนของผมขณะนี้กับอีกแบบหนึ่งมันมีความขัดแย้งกันอย่างมาก พวกเขาคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่พวกเราเป็นอยู่เหมือนเกมหรือละครหลังข่าวเป็นฉากๆ ในขณะที่คนเล่นอย่างพวกเราทุกข์แค่ไหน เราก็อยู่ในกรอบ หรือจออยู่ดี ถึงคุณจะรวยล้นฟ้า หรือยากจนแบบยาจก ในความหมายของพวกเขาคือ มีค่าเท่ากัน

"พวกเขา" ที่ผมพูดถึง คุณอาจจะเรียกว่าพระเจ้า หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่นิยามของผมคือ พระเจ้าคือพวกเขา ดี หรือ ชั่ว ไม่มีจริง จน หรือ รวย ไม่มีจริง แม้แต่เจ็บปวด หรือสุขสบายก็ไม่มีจริง พวกเขาอยู่ในที่ๆ เราไม่รู้จัก พวกเขามีชีวิตนะครับ ชีวิตในรูปแบบของพวกเขา และสิ่งที่ผมต้องทำหลังจากอยู่ที่นี่ คือกลับไปที่เดิม ที่ๆ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น นรก หรือสวรรค์ ไม่มีจริงหรอกครับ ถ้าคุณนึกให้ออก คุณก็จะเห็นด้วยกับผม

ที่ผมบอกไปนั้น ไม่ได้อยากให้เกิดความขัดแย้งใดๆ แต่ผมอยากได้ความคิดเห็นใหม่ๆ นอกเหนือจากในหัวผม ผมหมดความปรารถนาใดๆ แล้ว เพราะเป็นแล้วก็ดับไปเหมือนอนิจจังอย่างที่เขาว่า ผมจะบวชครับ ผมอยากกลับบ้าน ช่วยชี้แนะคนด้อยปัญญาอย่างผมด้วยครับ

ขอบคุณครับ
Click to expand...

ก่อนกลับต้องบรรลุหน้าที่ก่อนนะครับ

ผู้สร้างนั้นพึงพอใจในตนเอง ผู้สร้างนั้นศึกษาตนเอง ผู้สร้างนั้นแสดงออกความสามารถของตนเอง และผู้สร้างได้เคารพตนเองด้วยความรักอันไร้เงื่อนไข : ชีวิตของเรานั้นก็ไม่ต่างกัน ลองสังเกตดูสิ

Tossaporn K. · 17 มีนาคม 2010

ผมอาจจะไม่ได้มาจากดาวดวงอื่น ผมอาจจะเกิดและพัฒนาดวงวิญญานอยู่ที่บนโลกนี้มานานแล้ว ผมได้รับข้อมูลจากภายในใจมาตลอดว่าการพัฒนาจิตวิญญานยังต้องดำเนินต่อไปเรื่อยๆไม่จบจนกว่าจะได้บรรลุเป้าหมายคือเส้นทางเข้าสู่แดนนิพพาน ทุกๆสิ่งที่เราพบเจอทั้งเรื่องดีเรื่องร้ายๆต่างล้วนเป็นประสบการณ์ตรงที่ดวงวิญญานแต่ละดวงต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจมันให้ท่องแท้หมดข้อสงสัยจึงจะถือว่าผ่านการทดสอบ เหมือนเรียนหนังสือตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงชั้นปริญญาเอก ผ่านแต่ละชั้นก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด

ส่วนคนอื่นๆที่มาจากดาวดวงอื่นหากไม่รู้กติกากฏแห่งกรรมบนโลกในนี้ก็ยากที่จะผ่านการทดสอบขั้นต่างๆ เพราะหลายคนพลาดทำผิดกฏแห่งกรรมเลยยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่บนโลกใบนี้(หมายถึงทั้งสามภพ) หลายคนท้ออยากกลับไปดวงดาวบ้านเกิดของตัวเองแต่กลับไปไม่ได้เพราะทำพลาดต่อกฏแห่งกรรมอีกทั้งทำแบบทดสอบชั้นต่างๆไม่ผ่าน หล่ายๆดวงวิญญานเบื่อหน่ายแล้วแต่เขาไม่รู้เลยว่าการจะกลับไปยังดาวบ้านเกิดได้จะต้องทำอย่างไร จริงๆก็ไม่ยากครับ ใช้หนี้กรรมให้หมดเร็วๆ เรียนรู้ประสบการณ์ตรงอย่างท่องแท้เพื่อจะสอบผ่านชั้นต่างๆ เท่านี้ก็สามารถกลับดาวบ้านเกิดได้แล้วครับ ตัวผมเองก็อาจจะมาจากดาวดวงอื่นก็ได้แต่ตอนนี้ผมคิดถึงแต่ดาวโลกนี้ครับผมอาจจะอยู่ทีบนโลกนี้นานจนผูกพันก็เป็นได้ แต่ผมก็รู้ตัวครับว่าตัวผมเองไม่มีทิพย์วิมาณเหมือนดวงวิญญานอื่นๆเขา แต่ก็ยังไมอยากจากโลกนี้(สามโลก)ไปไหน มีใครรู้สึกเหมือนผมบ้างไหมเอ่ย ช่วยเผยตัวหน่อยครับ

จันทร์เจ้า · 17 มีนาคม 2010

ผมได้ติดตามอ่านกระทู้นี้มาก็นานพอสมควร
เปิดจิตนาการดี ได้เห็นแนวความคิดหลายๆ
อย่างที่น่าสนใจ เอามาทำเป็นหนังน่าจะดี

ทุกข์เกิดขึ้นที่ใจ อพยพไปไหนไม่พ้น
ต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้จึงจะพ้น

ถ้าจะอนุรักษ์เผ่าพันธุ์มนุษย์ไว้ เอาเอดากับ
อีวาไปก็พอแล้ว นอกนั้นย่อเป็น DNA ไป
ร่างกายที่เต็มไปด้วยสิ่งปฎิกูล เพลิงพยาธิ
น้ำหนอง น้ำเหลือง อย่างนี้เอาไปทำไม

การชำระโลกอาจมีจริง หรือ ไม่มีจริง
มันก็เป็นเพียงละครฉากหนึ่ง ทุกสิ่งล้วน
เปลี่ยนแปลงไปตามแรงกรรม ทุกอย่าง
เป็นเหมือนคลื่นที่แกว่งขึ้นลงไปตามจังหวะของมัน

เนื้อหาของเจ้าของกระทู้น่าติดตามมากเลยครับ

หนุมาน ผู้นำสาร · 17 มีนาคม 2010

*** อพยพไปนอกโลก ยังไม่หลุดพ้นทุกข์ ****

นิสัยสันดาน...มันดึงดูดอยู่กับโลก
แก้วสามประการ ดวงวิญญาณแสนสะอาด....สามารถออกไปนอกโลก
ไปถึงที่สุดได้...คือ นิพพาน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

หนุมาน ผู้นำสาร · 17 มีนาคม 2010

*** แก่ผู้ทำได้ ****

ขอพระธรรมคำสั่งสอน ขององค์พระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า
โปรดนำแก้วสามประการนี้ สู่นิพพาน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

หนุมาน ผู้นำสาร · 17 มีนาคม 2010

*** คำสั่งสอน ****

ของพระพุทธเจ้า คือ สัจจะ
เพื่อปลดนิสัยตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

Chayutt · 22 มีนาคม 2010

เดี๋ยวช่วงนี้..ขอเชิญสมาชิกผู้ติดตามอ่านเรื่องต่างดาวทั้งหลาย
เข้าไปอ่านข้อมูลในกระทู้นี้พรางๆก่อนนะครับ

http://palungjit.org/threads/คุณคือ...ล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว-star-seed-หรือไม่.231789/

เพราะผมรู้สึกว่าหลายท่านน่าจะมาจากต่างดาวจริงๆ
ก็เลยตั้งกระทู้ใหม่ให้โดยตรง เพื่อจะได้ทราบคำตอบที่คาใจมานานซะที

และเพื่อจะได้ทราบด้วยว่า ตัวเองควรจะทำอะไรต่อไป
เพื่อให้ตัวเอง "ตื่น" ขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ
และทำภารกิจที่ตนเองตั้งใจลงมาทำให้สำเร็จลุล่วงไปได้ซะที

..............................................

พลอยรุ้ง · 27 มีนาคม 2010

รอคอยเธอมาแสนนาน... (แซวเล่นค่ะ)
มาติดตามข้อมูล และมาให้กำลังใจค่ะ หวังว่าจะเข้าใจในสักวันหนึ่ง ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ งานเยอะมาก ไม่ได้เข้ามาประมาณ 3 wk เพราะต้องเดินทางตลอด แต่จะหาเวลาอ่านค่ะ คิดถึงสมาชิกเขากะลา อ.สุดใจ อ.ไก่ด้วยค่ะ (ขอฝากความคิดถึงไว้ ณ ที่นี้)

Chayutt · 28 มีนาคม 2010

ขออนุญาตมา Update ข่าวนี้ ในกระทู้นี้ด้วยนะครับ

........................................................

เมื่อวันที่ 19/3/10 ที่ผ่านมา นายไมค์ ควินซี่ (Mike Quinsey)
ได้รับการติดต่อจาก "สหพันธ์แห่งกาแล็กซี่" มีข้อความตอนหนึ่งว่า

We welcome your attention and efforts to see our craft,
as by intention we have progressively increased the number
of sightings within your atmosphere.

"พวกเรามีความยินดีที่จะสนองตอบความพยายามและความสนใจของพวกคุณ ต่อยานอวกาศของพวกเรา
โดยที่พวกเราจะทำให้พวกคุณได้พบเห็นยานอวกาศของพวกเราบนท้องฟ้ามากขึ้น โดยความตั้งใจ"

http://www.galacticchannelings.com/english/mike19-03-10.html

..........................

และอีกคนหนึ่ง คือ Sheldan Nidle ที่ได้รับการติดต่อมาจากต่างดาว เมื่อวันที่ 23/3/10 ที่ผ่านมา ในเรื่องเดียวกันนี้..
มีข้อความตอนหนึ่งว่า..

We have increased the sightings of our ships...

"พวกเราได้เพิ่มจำนวนครั้งของการพบเห็นยานอวกาศของพวกเราให้แก่พวกคุณ แล้ว..."

http://www.galacticchannelings.com/english/sheldan23-03-10.html

เพราะฉะนั้น..ก็มารอดูกันนะครับว่า จำนวนครั้งของการพบเห็น UFO ของจริงทั่วโลก
จะเพิ่มมากขึ้นจริงหรือไม่ ที่ไหน อย่างไร??

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

mooing2546 · 28 มีนาคม 2010

ก้อเฝ้าดูพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงของตัวเองอยู่ว่าจะไปในทิศทางใดแต่ไม่รู้เป็นไงเจอแต่เรื่องร้ายๆให้มึนเล่นๆงั้นแหละ

rossalen · 29 มีนาคม 2010

ช่างมหัศจรรย์

(y)(y) เมื่อช่วงใกล้สว่าง ตี 3 ดิฉันได้ฝันไปว่า เหมือนกับมีงปลาคล้ายปลาวาฬขนาดใหญ่เข้าไปอยู่ในร่างของดิฉันบริเวณหัวใจและมันก็ได้ดึงเอาบางสิ่งออกมาจากหัวใจ ครั้งแรกที่รู้สึกในฝัน มันเจ็บปวดและน่ากลัวมาก แต่หลังจากนั้น ดิฉันรู้สึกโล่งเบาสบายแต่ยังมีความสงสัยอยู่ว่ามันคืออะไร
รุ่งเช้าตื่นขึ้นดิฉันมีความรู้สึกอยากจะเปิดดู web นี้ ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดมานานมาก และได้มาอ่านเจอเรื่องเรื่องนี้ รู้สึกว่ามันเหมือนกับว่าบางสิ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลง ไม่รู้เหมือนกันค่ะ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ พวกเรามาจากที่นั่นจริงๆ เพียงแต่ว่ากิเลสความมืดมิดมันครอบงำดวงจิตพวกเราอยู่ ขอบคุณสำหรับคุณผู้ที่หาข้อมูลนี้มาเพื่อให้พวกเราได้รับรู้ค่ะ อนุโมทนา

Chayutt · 29 มีนาคม 2010

rossalen said: ↑

(y)(y) เมื่อช่วงใกล้สว่าง ตี 3 ดิฉันได้ฝันไปว่า เหมือนกับมีงปลาคล้ายปลาวาฬขนาดใหญ่เข้าไปอยู่ในร่างของดิฉันบริเวณหัวใจและมันก็ได้ดึงเอาบางสิ่งออกมาจากหัวใจ ครั้งแรกที่รู้สึกในฝัน มันเจ็บปวดและน่ากลัวมาก แต่หลังจากนั้น ดิฉันรู้สึกโล่งเบาสบายแต่ยังมีความสงสัยอยู่ว่ามันคืออะไร
รุ่งเช้าตื่นขึ้นดิฉันมีความรู้สึกอยากจะเปิดดู web นี้ ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดมานานมาก และได้มาอ่านเจอเรื่องเรื่องนี้ รู้สึกว่ามันเหมือนกับว่าบางสิ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลง ไม่รู้เหมือนกันค่ะ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ พวกเรามาจากที่นั่นจริงๆ เพียงแต่ว่ากิเลสความมืดมิดมันครอบงำดวงจิตพวกเราอยู่ ขอบคุณสำหรับคุณผู้ที่หาข้อมูลนี้มาเพื่อให้พวกเราได้รับรู้ค่ะ อนุโมทนา
Click to expand...

โมทนาด้วยเช่นกันครับ

โลกแห่งความฝัน มีความเป็นจริง เป็นจัง
ไม่ต่างอะไรกับโลกที่เราเรียกว่า "โลกแห่งความเป็นจริง"
เพราะว่าทั้งหมดทั้งสิ้นที่เรา "เห็นว่า" หรือ "เข้าใจว่า" มันคือ "ความจริง" นี้
มันก็ไม่มีอะไรจริงเหมือนกันนั่นแหละ..

..แต่ว่า..เผลอๆ (ไม่น่าเผลอหรอก ผมก็เชื่อว่า..) โลกแห่งความฝันซะอีก
ที่มีความเป็นจริงมากกว่า "โลกแห่งความเป็นจริงในความหมายของเรา"
เพราะว่าทั้งจักรวาลนี้ แก่นแท้ของทุกสิ่งทุกอย่าง คือ "พลังงาน"

ส่วนรูปลักษณ์ภายนอก หรือมิติทางกายภาพนี้
เป็นเพียงภาพฉายหรือภาพมายาของมิติทางพลังงานเท่านั้นเอง

ดังนั้น คุณคิดว่า อันไหนจริง อันไหนหลอกมากกว่ากันหละครับ??

และเพราะว่าเวลาเราหลับฝันไป จิตวิญญาณของเราซึ่งเป็นพลังงาน
สามารถหลุดจากการกักขังของกายเนื้อ เขาจึงเป็นอิสระ
สามารถท่องไปในการเวลาได้ ในมิติต่างๆได้ โดยไร้ขีดจำกัด

บางทีเขาก็ไปอดีต หรืออนาคตของเราเอง บางทีเขาก็ไปมิติอื่นๆ
แต่ว่าเพราะความที่ธรรมชาติของเขาเป็นพลังงาน
เขาจึงปราศจากข้อจำกัดด้านกาลเวลา ที่เป็นเส้นตรงแบบที่เรารู้จัก

ดังนั้น ถ้าสังเกตความฝันของตนเองให้ดี
บางที่เราจะฝันมากกว่า 1 เรื่องพร้อมกัน
บางทีเราก็จะฝันแบบไม่ปะติดปะต่อ
เพราะว่าเขาไปชะโงกดูมิติโน้นมิตินี้ แบบเพลินไปเลย
บางทีเราก็จะเห็นหน้าของคนอื่น ที่รู้สึกว่าเป็นเรา
หรือรู้สึกว่าเราเป็นอีกคน หรืออีกหลายๆคน
นั่นก็เพราะด้วยเหตุที่ไม่ถูกจำกัดอยู่กับแต่กาลเวลาแบบเป็นเส้นตรง

ภาษาของจิตวิญญาณเป็นภาษาสากล สื่อกันด้วยจิต
รู้และเข้าใจกันอย่างฉับพลันทันที ไม่ต้องพูดก็ได้

เพราะฉะนั้น การที่จิตวิญญาณของเราเอง จะติดต่อกับกายเนื้อของเรา
เพื่อสื่อเรื่องราวต่างๆมาสู่สติสัมปชัญญะแบบพื้นผิวของเรา
เขาจึงพยายามจะหาภาษาอะไร หรือสัญญลักษณ์อะไร ทั้งหลายแหล่
มาสื่อให้เราเข้าใจ เพราะว่าในมิติอื่นๆ ของบางอย่าง
หรือเหตุการณ์ หรือข้อเท็จจริง หรือความเป็นไปมันก็ไม่เหมือนในมิติของเรา

เพราะฉะนั้นมันจึงยากสำหรับเขาที่จะหาสัญญลักษณ์มาสื่อให้เราเข้าใจ
เพราะฉะนั้น ฝันของใคร ก็เลยมีสัญญลักษณ์ที่แต่ละคนคุ้นเคย
หรือเข้าใจแตกต่างกันไป..สรุปว่า ฝันของใครก็ของมันครับ
คนสองคนฝันเห็นสัญญลักษณ์เดียวกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องแปลออกมาเหมือนกันเสมอไป
..................

และถ้าคุณได้อ่านข้อความการสื่อสารมาจากนาย Matthew Ward ในช่วงแรกๆแล้ว
(น่าจะอยู่ที่หน้าที่ 20 กว่าๆในกระทู้นี้นะครับ)

เขาบอกว่า...

"สิ่งมีชีวิตที่มีระดับพัฒนาการทางจิตวิญญาณสูงที่สุดในดาวเคราะห์โลกดวงนี้
ไม่ใช่มนุษย์บนพื้นผิวโลกอย่างเราๆนี่นะครับ แต่เป็นพวกปลาวาฬและปลาโลมาต่างหาก"

(อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเขาละที่จะไม่พูดถึงมนุษย์ที่อาศัยอยู่ใต้โลกหรือเปล่านะครับ
เขาอาจจะละไว้ในฐานที่เข้าใจก็ได้ เพราะว่าพวกนั้นมีวิวัฒนาการทางจิตสูงกว่าเราอยู่แล้ว)

เพราะฉะนั้น ในนัยยะของความฝันคุณอันนี้ ผมเห็นแต่สิ่งที่ดีที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณ
คุณก็อาจจะกำลัง "เลื่อนระดับขึ้น" อีกคนหนึ่งก็ได้นะครับ

............................

ส่วนคุณ moon2543

นี่ก็เป็นสัญญลักษณ์ที่ดีเช่นเดียวกันครับ
เพราะว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งการเลื่อนระดับขึ้น
เพราะฉะนั้น มนุษย์หลายๆคน กำลังถูกชักนำหรือถูกบังคับ
(ด้วยเทพผู้นำทางหรือญาติพี่น้องครูบาอาจารย์ในมิติที่สูงกว่าของคุณเองนั่นแหละ)
ให้เข้าสู่กระบวนการ "ชำระล้าง" อยู่

สิ่งใดที่คุณติดขัดอยู่ ปล่อยไม่ได้ วางไม่ได้ กระบวนการนี้จะช่วยได้ ไม่มากก็น้อยครับ

ผมเห็นคนมากมายที่กำลังเป็นอย่างคุณ รวมทั้งตัวผมเองด้วย เมื่อหลายปีก่อน
จนแทบจะเรียกว่า ชีวิตนี้มันเหมือนนวนิยายเลยหละ

เพราะ "เหตุบังเอิญ" ที่ทำให้ต้องมาเจอแต่เรื่องร้ายๆนี่ มันประเดประดังเข้ามา
จนเหลือเชื่อ ว่ามันจะลงตัว เหมาะเจาะกันได้ขนาดนี้
จนแทบจะกระโดดตึกตายอยู่มะรอมมะร่อ

จนเคยถามตนเองว่า

"ชีวิตนี้ อะไรที่เรียกว่าความสุข แล้วตัวเราเองเคยมีกับเขาบ้างไหม๊
ทำไมเราถึงเจอแต่ทุกข์ตลอดเลย"

แต่สุดท้าย เมื่อมันผ่านพ้นไปแล้ว ทำใจได้แล้ว ชินกับความทุกข์แล้ว
(รวมเวลาที่ถูกชำระล้างอยู่ 9 ปีครับ) จนมองไม่เห็นภัย หรือ เคราะห์กรรมอะไรที่จะต้องหวั่นอีกแล้ว
เพราะคิดว่า "อย่างมากก็แค่ตายวะ..เป็นไงเป็นกัน..ยังมีอะไรที่จะต้องกลัวอีก"
หรือไม่ก็ "หนักกว่าเธอ..ก็เจอมาแล้ว!!" อะไรแบบนั้นหนะครับ

จนทุกวันนี้..ผมกราบแล้วกราบอีก..กราบขอบคุณครูบาอาจารย์และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย
ที่ชักนำเรื่องทุกข์ๆเหล่านั้นมาสู่ผม เพราะในวันนี้ มันมีคุณค่าสำหรับผมเหลือเกิน
เพราะถ้าไม่ได้เหตุการณ์เหล่านั้นมาช่วยชำระขัดเกลาหละก็
ป่านนี้ก็คงเป็น "ขี้" อยู่เหมือนเดิมแน่ๆเลย
(ตอนนี้ไม่เป็นขี้แล้ว แต่เป็นตดแทนหนะครับ..555)

เพราะฉะนั้น ผมไม่เห็นความทุกข์ของใครที่มาเล่าให้ผมฟัง
ว่าเป็นเรื่องที่ต้องรีบไปสะเดาะห์เคราะห์ หรือรีบไปหาหมอดู
ให้ช่วยเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนดวงชะตาให้เลยแม้แต่น้อย

แต่การทำบุญเพื่อให้พลังบุญมาช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบานั้น ต่างกันนะครับ
เพราะว่า ถึงแม้ว่าเจตนาเราจะอยากพ้นจากทุกข์หรือที่เราเชื่อว่ามันเป็น
"เคราะห์ร้าย" สำหรับเราก็ตาม แต่ผลที่มันได้
มันจะทำให้ความตระหนี่ถี่เหนียวของเราลดหายไปเยอะเลย

ความอยากได้ อยากมี สิ่งของของคนอื่น มันจะหายไปเยอะเลย
และคุณค่าของเงิน เราก็จะเห็นคุณค่าของมันน้อยลง (สำหรับผมนะ)
จนทุกวันนี้ 20% ของเงินเดือนผม ผมทำบุญ อีก 30% ใช้ส่วนตัว
อีกประมาณ 50% ใช้หนี้ต่อ เพราะยังไม่หมดดี ที่เหลือให้พ่อแม่ครับ

เพราะลำพัง 30% ของเงินเดือนผมนี่ ผมก็พอกินพอใช้สำหรับตัวคนเดียวแล้ว
ไม่มีนโยบายเก็บไว้เผื่ออะไร หรือเผื่อใคร ตายเป็นตาย อยู่เป็นอยู่
ไม่มีนโยบาย "รวย" แต่ประการใด

และก็ตั้งใจว่า ยิ่งเงินเดือนสูงมากขึ้น ก็ยิ่งจะช่วยคนอื่นมากขึ้นด้วยครับ

เพราะฉะนั้น อย่าห่วง และอย่ากลัวทุกข์เลยนะครับ
อย่างที่มนุษย์ต่างดาวบอกนั่นแหละว่า

"ทุกข์ มีค่ามากกว่าทอง"
..................................................

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

อินทรียสงวร เป็นที่รู้จักกันดี

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

ไฟล์ที่แนบมา:

Jay_Jacobson_fractal_flower_power.jpg

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

zipper เป็นที่รู้จักกันดี

kindred เป็นที่รู้จักกันดี

คีตรมุณี Active Member

axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

mooing2546 เป็นที่รู้จักกันดี

rossalen เป็นที่รู้จักกันดี

Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ไฟล์ที่แนบมา:

Jay_Jacobson_fractal_flower_power.jpg

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา