หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง กับ หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 13 มีนาคม 2010.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 73.3pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ......ต่อเลยครับ...เครื่องกำลังติด.....ขอบคุณ...นะครับ..ทุกท่านที่ติดตามกันทั้งเพื่อนสมาชิก และบุคคล<o:p></o:p>
    ทั่วไป....ข้อเสียผมอีกอย่าง..นอกจากพิมพ์ช้า ..แล้ว ก็พิมพ์ติดต่อกันได้ไม่นาน.....ขอโทษที่ต้อง..รอนาน<o:p></o:p>
    ...................................................................................................................................<o:p></o:p>
    ............ปานโช...คงได้ยินเสียงเมียที่คุยกับเมียเจ้าของรถก่อน เลยรีบออกมาจากห้อง........<o:p></o:p>
    .....มาทำไม....กลับบ้านไป.......เสียงปานโชที่หลุดออกมา..ไม่ดังมาก..แต่กังวาล........นอกจากน้ำเสียงที่<o:p></o:p>
    แปลกจากที่..เมียเจ้าของรถที่เคยได้ยินแล้ว......ที่แปลกกว่านั้นคือ...แววตา...ที่ไม่ได้ถมึงทึง...แต่มัน..เย็น..<o:p></o:p>
    ...แต่แฝงด้วยความ...กร้าว...และ..น่ากลัว.............................<o:p></o:p>
    ..................เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น..เร็ว..เมียเจ้าของรถ ...มัวแต่แปลกใจ และ ตกใจเล็กน้อย..<o:p></o:p>
    ....ปรากฏว่า....ฝ่ายเมียปานโชซึ่งเหลือบไปมองตา..ผัว..แว๊ปเดียว....ก็ก้มหน้าแล้วรีบ..บอกกับ....เจ้าของบ้าน<o:p></o:p>
    (ผมขอเรียกแทน..เมียเจ้าของรถ...มัน..มี ๒ เมีย เดี๋ยว..งง)...ว่า..หนูกราบลา..คุณนายเลยคะ....ขณะเจ้าของ<o:p></o:p>
    บ้านยังไม่ได้ตั้งตัว...เธอก็เลยบอกว่า..อ้าว..จะรีบไปไหน..ก็..เข้าไปคุยกันก่อนได้...แล้วเจ้าของบ้านก็...หันไป<o:p></o:p>
    เฉ่ง....ปานโช....<o:p></o:p>
    .......เราจะบ้าเรอะ...ไปไล่เมียทำไม....เขาไม่เป็นห่วงเขาจะมาหาเหรอ....เห็นใจคนเป็น..เมีย..บ้าง<o:p></o:p>
    ....ทำไมมันไร้น้ำใจอย่างนี้...แล้วไม่เห็นหัวฉันบ้างหรือไง....ปรากฏว่าขณะที่เจ้าของบ้านกำลังเฉ่ง.ปานโช<o:p></o:p>
    อยู่....ฝ่ายเมียปานโชก็รีบเดินอย่างเร็ว..ออกจากบ้านไป....ปล่อยให้..ปานโช..รับกรรมที่ก่อ....<o:p></o:p>
    .....หลังจากได้ฟังเจ้าของบ้าน..เฉ่ง..แล้ว......ปานโชก็รีบคุกเข่ายกมือพนมทั้งที่ยังมีผ้าพันแผลอยู่ด้วยความ<o:p></o:p>
    สำนึกผิด (อันนี้...อย่านึกว่าเป็นหนังไทยน้ำเน่า..นะครับ...ในยุคนั้น..คนที่บวชเรียน และเป็น คนพื้นบ้าน<o:p></o:p>
    เขาจะมี สัมมาคาราวะ ให้ความเคารพต่อ...ผู้ใหญ่ที่เขานับถือ.....ถ้าทำอะไรผิด หรือ ทำให้ ผู้นั้น โกรธ ..<o:p></o:p>
    ...เขาก็จะแสดง อาการแบบที่ ปานโช ทำทั้งนั้น...จริงๆครับ ลองไปถามคนพื้นบ้านอายุ ซัก ๖๐-๗๐ปี..ดู)<o:p></o:p>
    ..............................................<o:p></o:p>
    ..............ปานโช ก็ ก้มหน้าขอโทษ แล้วบอกว่า ผมกราบขอโทษท่านจริงๆครับ มันลืมตัวไป ผมไม่นึกว่ามันจะมาถึงนี่ ผมเองเกรงใจท่าน ถ้ามันอยู่นาน เดี๋ยวไม่มีรถกลับท่ายาง ต้องมาอาศัยบ้านท่านเพิ่มอีกคน..<o:p></o:p>
    ...แค่ผมคนเดียวก็เกรงใจท่านแย่แล้ว.....เจ้าของบ้านด้วย..วัยที่สูงกว่า..และประสพการณ์ชีวิตที่สูงก็รู้ทันที<o:p></o:p>
    ว่า...ปานโช..มันกำลัง..โกหก...มันมีอะไรที่แอบซ่อนอยู่..ยิ่งเห็นแววตาที่มันส่งให้เมีย และ คำสั่งของมัน<o:p></o:p>
    ก็มั่นใจ..แต่ในใจก็คิด ไม่ถึง ว่า ปกติ..มันไม่ใช่แบบนี้..........................<o:p></o:p>
    ................เจ้าของบ้านเลย..เฉ่ง..ต่อ...เอาละ...ถ้าคราวหน้า..ถ้าเมียเรามาอีก...แล้ว..เราทำแบบเดิม..ละ<o:p></o:p>
    ก๊อ..เป็นเรื่องแน่....เข้าใจมั้ย...<o:p></o:p>
    ....ปานโช...ก็ตกใจเสียงที่มีอำนาจของ..เจ้าของบ้านเช่นกัน..โดยมือที่ยังพนมอยู่นั้น ก็รีบตอบกลับ<o:p></o:p>
    ไปว่า....ผมไม่แล้วครับ..ผมสาบาน...<o:p></o:p>
    .........หลังจากวันนั้น...เรื่องนี้มันก็ยังคาใจเจ้าของบ้านอยู่....เพราะนึกไม่ถึงว่า ไอ้คนที่ สุภาพ อ่อนน้อม<o:p></o:p>
    อารมณเย็น และขย้นขันแข็ง มันจะกลายร่างได้ แต่เธอก็ไม่ได้เล่าให้..สามี..ฟัง เพราะเธอต้องการรู้ว่า<o:p></o:p>
    ตัวตน...ของปานโชมันเป็นยังไง<o:p></o:p>
    ............หลังจากผ่านไปประมาณ ๑ อาทิตย์ จากวันที่นิ้ว..ปานโช..ขาด...ปานโชก็ใช้เสื้อผ้าของไอ้น้อง<o:p></o:p>
    ใส่ไปทำงาน โดยไม่ยอมให้ไอ้น้องเอาเสื้อผ้าที่บ้าน..ท่ายาง แต่เจ้าของรถก็ยังสั่งให้ อยู่ต่อจนกว่า จะตัดไหม<o:p></o:p>
    เพราะ เดินทางไปมาลำบาก โดย เอ็นดู ปานโช เป็นพิเศษ เพราะรักในนิสัยใจคอ ของมัน...<o:p></o:p>
    ......................................................................................................................<o:p></o:p>
    .................ในวันที่ ปานโช เริ่มไปทำงาน เจ้าของบ้านก็สบโอกาศ สามีก็ไปทำงานเหมือนกัน โดยบอกกับสามี ขอตัวไอ้น้องไว้ทำไอ้โน่นไอ้นี่หน่อย....เมื่อ..ไปกันแล้ว เจ้าของบ้านก็เรียก..ไอ้น้อง..มาหา.....<o:p></o:p>
    ..............แล้วถามไอ้น้องว่า.............................<o:p></o:p>
    .....................................เราบอกฉันมา...เดี๋ยวนี้ว่า ....ปานโช....เวลามันอยู่ที่บ้านมันเป็นยังไง<o:p></o:p>
    ไม่ต้องมาปิดฉัน...ฉันเห็นกริยาของเรากับมัน ก็แปลกใจ....ยิ่งวันก่อน...เมียมันมา..เห็นกับตา...<o:p></o:p>
    ยิ่งไปกันใหญ่(..แล้ว..เธอก็เล่า เหตุการณ์วันนั้นให้...ไอ้น้องฟัง )...ไม่ต้องกลัวมัน...เล่ามา...<o:p></o:p>
    .......................................................................................................................<o:p></o:p>
    ............พอไอ้น้อง ได้ยินคำถาม และ เรื่องที่เจ้าของบ้านเล่า .........หน้ามันก็เปลียนเป็น..ซีด..<o:p></o:p>
    ถอดสี...ทันที แล้วก็ยกมือพนม...พูดด้วยน้ำเสียงแบบจะร้องไห้...................<o:p></o:p>
    ...............................................ผมเล่า..ไม่ได้...ครับท่าน....ถ้าพี่เขารู้ว่าเป็นผม......ผม.ตาย.ตาย<o:p></o:p>
    แน่ๆ..ครับ.ตายจริงๆ..คุณนาย..อย่า..อย่าให้..ผม..เล่า..เล่า..เลยครับ....ผมกราบ..ละ..ครับ<o:p></o:p>
    ................................................................................................................................<o:p></o:p>
    ..............................เจ้าของบ้านเห็น..อาการ..ไอ้น้องก็รู้ว่า..มันไม่ธรรมดาแน่...แต่ยังไง<o:p></o:p>
    แกก็ต้องรู้ให้ได้....เธอจึงบอกสำทับ กับ..ไอ้น้อง..อีกครั้ง ด้วย เสียงที่ ..ไอ้น้อง.ก็..ต้อง..กลัว...<o:p></o:p>
    (....ผมขออธิบายหน่อยว่า.....บ้านหลังนี้..ไม่ธรรมดา..เพราะนอกจาก..สามีเป็นคนที่ไม่กลัวใคร..<o:p></o:p>
    และ...อะไร..เลย...แกยังเป็นคนที่..ดุมาก..ลูกน้อง..กลัวทุกคน.......<o:p></o:p>
    ........ส่วนภรรยาท่าน....อดีต ตอนเป็น เด็กประถม...เคย..ต่อย..ตัวต่อตัว หัวโจกตัวแสบของโรงเรียน<o:p></o:p>
    (ผู้ชาย) ปากฉีก ร้องไห้ มาแล้ว เพราะสาเหตุไปแกล้ง..พี่ชายของเธอ........ตอนเริ่มเป็นวัยรุ่น ก็พก ปืน<o:p></o:p>
    รีวอลเวอร์(ลูกโม่) ติดตัวตลอดเวลา ที่ไปไหนนอกบ้าน แถมชอบไปคนเดียวด้วย ไล่ยิงไอ้พวกที่มา..<o:p></o:p>
    แซว เตลิดเปดเปิง..มาแล้ว.....ไม่เคยกลัวใคร..ขนาด เพื่อนสามีเมา มาบ้านตอนดึก (บ้านไม้ยกพื้น..<o:p></o:p>
    ต้องขึ้น กระไดถึงจะเข้าบ้าน ) เดินขึ้นกระไดมา สี่ ห้า ขั้น ตระโกน ชวนไป ตี บิลเลียด กัน....<o:p></o:p>
    ....แก..โกรธ..เดินลงกระได มา..ถีบ..เพื่อนสามี..ตกกระได ลงไปสลบถึงเช้ามาแล้ว.............<o:p></o:p>
    .......................และไอ้น้อง...ก็รู้ดีว่า...เธอ..ดุมาก..ไม่แพ้..สามีเธอ...).<o:p></o:p>
    ...........................เราจะเล่าให้ฉันฟัง..หรือ...ไม่เล่า...หรือจะปเล่าให้..ท่าน..ฟัง....ถ้าเล่าให้<o:p></o:p>
    ฉันฟัง ฉันสัญญาว่า..จะไม่เล่าเรื่องที่คุยกันทั้งนี่ทั้งหมดนี่ให้ท่านฟัง....<o:p></o:p>
    .........................และ..ฉันรับรองความปลอดภัย..ของเรา..ด้วยว่า...ปานโชมันจะไม่ทำอะไร<o:p></o:p>
    เรา....ไม่ต้องกลัว....ถ้ไม่เล่า...เรา...เดือดร้อน...แน่ และ..ฉันจะให้ท่าน มาถามเราด้วยตัวเอง<o:p></o:p>
    ...........................เรารู้อยู่แล้วว่า...ฉันเป็นคนยังไง.........<o:p></o:p>
    .........................................................................................................<o:p></o:p>
    ...........ไอ้น้อง...ก็ตกอยู่ในสภาพ..คือ..แบบไม่..ตาย..วันนี้...ก็..ตายพรุ่งนี้......แต่มันก็เชื่อมั่นใน<o:p></o:p>
    ความเด็ดขาด..ของ..เจ้าของบ้าน<o:p></o:p>
    ................................มันจึงเริ่ม....เล่าเรื่อง..ของ..ปานโช....<o:p></o:p>
    ..........................................................................................................<o:p></o:p>
    ................ก็..ยังไม่จบอยู่ดี.......ต้องรอติดตามต่อไปในตอนหน้า....นะครับ<o:p></o:p>
    .....................ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม...ครับ.....สวัสดี<o:p></o:p>
     
  2. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    โอ้โห..ตื่นเต้น มากเลยฮ่ะน้า อ่านดู แล้วเป็นตาปานโช นี่ ซ่อนงำประกายมิดชิดไม่พอ

    ป้าคุณนาย นี่ก็ดุ มิบันเบา สมฉายา เมืองคนดุ ติดตามด้วยความระลึกถึงเสมอครับน้า
     
  3. มากับพระครับ

    มากับพระครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,153
    ค่าพลัง:
    +1,836
    ขออภัยท่าน จขกท. นะครับ ผมมิได้มีเจตนาจะโต้แย้งหลวงพ่อจันทร์แต่อย่างไรเพราะถึงอย่างไรก็เป็นศิษย์ร่วมสำนักกันทั้งหมด แต่ผมขอบันทึกเป็นข้อมูลในเชิงประวัติศาสาตร์ไว้ก็แล้วกันส่วนจะผิดถูกอย่างไรคงต้องหาบทสรุปกันเอง คือผมได้ไปถามหลวงพ่อหวล วัดนิคมฯมาครับ ท่านยืนยันว่าเหรียญรุ่นแรกหน้าหนุ่มปี พศ. ๒๔๙๒ คุณพ่อศุขมีการสร้างจริงท่านอยู่ในเหตุการณ์ สร้างโดยเสือปั่น อดีตโจรปล้นวัดพระรูป ไปดำเนินการให้เนื่องในโอกาสยกช่อฟ้าครับ หลวงพ่อหวลท่านว่าอย่างนั้น ส่วนการค้นคว้าประวัติสอบยัน ผมยังไม่มีเวลา และอีกอย่างในหนังสือประวัติวัดโตนดหลวงก็ยอมรับเหรียญรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกครับ
     
  4. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    รอติดตามเรื่องราวครับ
     
  5. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ...............ขอบคุณครับ ทั้ง คุณ ONG และ คุณ ORKAR ทิ่ติดตามกัน ตลอด รวมทั้ง สมาชิกท่านอื่น กับบุคคลทั่วไปด้วย.....ตอนนี้..ผมจะพยายาม .....เอา..เรื่องของปานโช..THE TRUTH ABOUT PANCHO.....ให้จบ...ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นเรื่องนำ...จะเอาไว้เป็น ส่วนประกอบเรื่อง..แต่..สมาชิก<o:p></o:p>
    ท่าทางจะ..อิน...ก็จะสนองให้ครบถ้วนจะได้ เข้า..สู่หัวข้อเรื่อง...ซะที.....<o:p></o:p>
    ...........................................................................................................................<o:p></o:p>
    .............ไอ้น้อง...ก็...เริ่มเรื่อง...ไม่ใช่ผมเท่านั้น..หรอกครับที่กลัวพี่แก ตอนที่แก..โกรธ....ไอ้พวกวัยรุ่น ยัน ๔๐-๕๐ ส่วนใหญ่ ในตลาดท่ายาง กับ รอบตลาด เขาก็..กลัว...แกกันทั้งนั้น พวกเพื่อนร่วมงานที่มาจาก ท่ายาง เขารู้จัก พี่แก...ทั้งนั้น...ว่าแกเป็นยังไง ที่..เมียแก..เที่ยวไปตามหาพี่แก แล้วไม่มีใคร ก็เพราะว่าไม่จำเป็น...จริงๆ...อย่าดีกว่า..........................................<o:p></o:p>
    ..................พี่ปานโช แกเป็น หนึ่งใน นักเลงใหญ่ ของท่ายาง..ครับ....และแก..ก็เป็น<o:p></o:p>
    .......หัวหน้า..ก๊วน..มือปืน...ใหญ๋ และ ฉมัง ที่สุด ไม่รองใคร ในท่ายาง และ ผมว่า น่าจะของ<o:p></o:p>
    เมืองเพชรเลยนะครับ....แต่ที่เขาพูดกันว่า..ก๊วนของพี่แก..ไม่เหมือนก๊วนอื่นคือ....<o:p></o:p>
    .....จะจัดการเฉพาะ..เป้าหมาย..เท่านั้น...ไม่เคย..ฆ่าล้างโคตร( ปกติ จะเกิดบ่อย ในพื้นที่ท่ายาง..และ..บ้านลาด)..ไม่เคยเหมา ลูก..เมีย..หรือ คนอื่นที่อยู่ใกล้เคียง.....<o:p></o:p>
    ...........พี่แกมีชื่อเสียง..มาตั้งแต่วัยรุ่น..แล้วครับ เป็น..คนใจถึง..ตัวใหญ่แค่ไหน..แกก็<o:p></o:p>
    ...ซด..เดี่ยว ไม่เคยรุมใคร...มีแต่ถูกรุม..แต่ก็ไม่มีใครล้มพี่แกได้...ไอ้พวกที่รุมนี่มีแต่ต้อง<o:p></o:p>
    ซดน้ำใบบัวบก กันทั้งนั้น ทั้ง..มือเปล่า มีด ดาบ ไม้ ปืน แกได้หมด ...ใครๆก็ ยกย่องใน<o:p></o:p>
    ..ใจ และฝีไม้ ลายมือ แกทั้งนั้น แกเป็นคนใจดีนะครับ เวลาปกติ ....และข้อดีของแก<o:p></o:p>
    คือ แกไม่เคยรังแก..ใครก่อน พวกน้องๆ..รุ่นๆเดียว..กับแก ขาดเหลือ อะไรถ้ามีแกก็ให้ทั้งนั้น...ใครก็นับถือแกทั้งนั้น และแกก็เคย ขอร้อง ไม่ให้ใครพูดเรื่องส่วนตัวของพี่แก<o:p></o:p>
    .......เรื่อง..ธุรกิจส่วนตัว...ในส่วน..งานมือปืนของแก..พวกเราก็ไม่ได้ใส่ใจหรอกครับ..<o:p></o:p>
    ........เพราะ..ส่วนตัวแกเป็นคนดี...ฉะนั้น..เรื่องที่มาที่ไป..เรื่องการเป็นมือปืนของพี่แก...<o:p></o:p>
    ...คุณนายต้องถามพี่แก...เอาเองครับ..............<o:p></o:p>
    ...........แต่ที่แน่ๆ....ถ้า..คนต่างถิ่น(ผู้ชาย)..เข้าไปที่ตลาดท่ายาง..ไป..ถามหา..พี่แก...<o:p></o:p>
    จะเรียก..ชื่อจริง..หรือ..ชื่อเล่น...ก็ตาม...โอกาศ..รอดยากครับ....ส่วนใหญ่ไม่..เกินเย็นนั้น<o:p></o:p>
    .........หายสาบสูญไปเลย....<o:p></o:p>
    .............แต่มีอีกอย่าง...ที่ผม..กล้า..ยอมเล่าเรื่อง..พี่แก..ให้คุณนายฟัง เพราะพี่ปานโชแก..เคยพูดให้ผมฟัง..อยู่บ่อยๆว่า..........<o:p></o:p>
    ...นอกจาก พ่อ แม่ และ ญาติผู้ใหญ่บางคน ของพี่แก นี่ แกรักนับถือ ท่าน..และ คุณนายมากที่สุด เพราะ ความเป็นคนมีน้ำใจ ไม่เคยดูถูกคน ยุติรรม โอบอ้อม อารี และ พี่แกบอกว่า..ท่าน และ คุนนาย นี่แหละ ...นักเลงตัวจริง...พี่แกบอก ว่า แกมองตา แกก็ ..รู้แล้ว...................ถ้าคุณนายจำได้..หลายครั้งที่..พี่แก..มาขอขับรถแทน..ผมให้..เพราะบริเวณที่ๆไป..มันอันตราย...แกเป็นห่วงท่าน...ขนาดผมเองกลัวเลยครับ.......<o:p></o:p>
    .......ผมก็ว่า..ท่านเองก็รู้...แต่ท่านไม่เคยกลัวอะไรก็เลยไม่สน....พี่แกก็อ้างว่า...ผมรู้พื้นที่<o:p></o:p>
    ดีกว่า..เดี่ยว..ไอ้น้องมันพาไปหลง...<o:p></o:p>
    ...............อย่าง แถบแดนกระเหรียง อย่างแถว...ทุ่งจับญวน (สุด ปลายเขตชะอำ เข้าไปติดเขา...) ..ในป่าแก่งกระจาน..ยัน..น้ำตก ของไอ้พวกตัดไม้ ป่าติดชายแดนแถวหนองหญ้า<o:p></o:p>
    ปล้อง...อันตรายทั้งนั้นครับ...พี่แกไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรท่านหรอกครับ แกก็แอบเอาปืน<o:p></o:p>
    ใส่รถไปด้วย....ผมเองก็เป็นห่วงท่าน...แต่ไปกับพี่ปานโชแก ผมสบายใจครับ..รับรองปลอดภัยแน่นอน.....ฉะนั้นผมเลยกล้าเล่าเพราะ..พี่แกรักนับถือ..ท่านกับคุณนายมาก...ถ้า<o:p></o:p>
    คุณนายขอร้องอะไร พี่แก ...แกก็ต้องให้แน่นอน.........<o:p></o:p>
    ....................................................................................................<o:p></o:p>
    ......................หลังจาก ไอ้น้องเล่าจบ...เจ้าของบ้านก็ถึง...บางอ้อ...แต่เธอเองก็เสียใจว่า..ความจริง..ปานโชมันเป็นคนดี...แต่ทำไมไปฆ่าคน...ยังไงก็ต้องถามให้คลายข้อข้องใจ...และจะได้ตักเตือนให้มันกลับตัวซะ...เพราะรู้ว่า...คนอย่างปานโชคงไม่มีใครกล้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัว............<o:p></o:p>
    ............................................................................................................<o:p></o:p>
    ........................................ผ่านไปหลายวัน....อาการปานโชก็ดีขึ้นมาก....พอดี..วันนั้น..ท่าน..ไม่อยู่..เหลือ แต่..ไอ้น้อง..กับ...ปานโช......เจ้าของบ้านก็สบโอกาศ...ลงไปที่เรือนของ ทั้งสองคนแล้ว<o:p></o:p>
    แล้วเรียกให้..ทั้งสองคน..ออกมา......................................<o:p></o:p>
    .....................ปานโช เดินนำออกมา ไอ้น้องเดินตามหลัง..แต่..หน้าซีดเป็น..ศพ..เพราะรู้ว่า..เธอจะคุยเรื่องอะไร..............<o:p></o:p>
    .................................เธอก็เอ่ยขึ้นมาว่า...ปานโช...ที่..ฉันเรียกเรามานี่..ก็..มีเรื่องจะสอบถามเรา..แต่คว่ามจริง..ฉัน..คาดคั้น..ไอ้น้อง..ให้มันบอกฉัน...เรื่องเกี่ยวกับ..ตัวเราจริงๆเวลาอยู่ที่บ้าน..ที่..ท่ายาง และรู้แล้วว่า...เรา..เป็น..อะไร.....<o:p></o:p>
    ............( ทันทีที่..พูดถึงตอนนี้.....แววตา..ปานโช...ที่..สงบ..และ..เย็น...ก็เปลี่ยนทันที<o:p></o:p>
    เป็น..เย็นเฉียบ..กร้าว และ.. วาว.. ........ส่วนไอ้น้องที่ยืนอยู่..ด้านหลัง..ก็ก้มหน้าอย่างเดียวไม่สบสายตาใครทั้งสิ้น....)<o:p></o:p>
    ....แต่อย่าไปโทษมัน..มันปฏิเสธไม่ยอมเล่า..ฉันต้องบอก ว่าจะเล่นงาน ถ้าไม่บอกจะให้ ..ท่าน..มาถาม..มันเอง...และฉันก็ยืนยันว่าเรื่องที่คุยกัน..จะไม่ไปเข้า..หู..ท่านเด็ดขาด<o:p></o:p>
    ........และฉันจะรับรองความปลอดภัย..ของมัน...โดยจะไม่ให้เราไปทำอะไรมัน......<o:p></o:p>
    ....ฉะนั้น ก่อนที่ฉันจะถามเราต่อ ...เราต้องสาบานก่อนว่า...จะไม่คิดร้ายและทำอันตราย..ไอ้น้อง ..และครอบครัวรวมถึงญาติพี่น้อง มันด้วย....ว่าไง....<o:p></o:p>
    ........แววตาของ..ปานโช..สงบลง..เพราะรู้ที่มาที่ไปแล้ว..เขาก็ยกมือขึ้นพนมแล้วสาบาน....ตบท้ายด้วยว่า ถ้าผิดคำสาบาน..ขอให้ตายโหงภายใน สามวัน เจ็ดวัน...<o:p></o:p>
    ........................เจ้าของบ้านก็ยิ้ม...แล้วก็เริ่มถาม..ว่า..ทำถึงต้องมาทำอาชีพนี้.........<o:p></o:p>
    ....ปานโช..บอกว่า ตั้งแต่ตอนหนุ่มๆ...ก็มีไอ้พวกน้องๆ..กับ..รุ่นๆๆเดียวกัน รวมๆไอ้ที่แก่กว่าด้วย ทั้งที่เป็นนักเลงอยู่แล้ว และไอ้พวกที่อยากเป็นนักเลง มาอยู่ด้วย แล้วก็ยกให้.....เป็นลูกพี่..ไปเที่ยวเฮฮา ที่ไหนมีงานวัด..ก็ไป...ฉะกัน..เป็นปกติ.....<o:p></o:p>
    ...............พอดีมีครั้งหนึ่ง..เป็นช่วงที่เขาต้องการใช้เงิน..คือเดือดร้อนจริงๆ...ก็พอดีมีคนมา<o:p></o:p>
    ติดต่อให้ไปยิงคน...แถวบ้านลาด..เขาชั่งใจอยู่นาน...แต่เห็นว่า..ไม่ใช่งานแถวบ้าน แล้ว เป้าหมาย ก็ เป็นพวกอิทธิพล ไม่ใช่คนดี...ก็เลยรับ....อีกอย่างได้เงินล่วงหน้ามาก่อนด้วย<o:p></o:p>
    ...จบงาน..รับส่วนที่เหลือ...งานไม่ยากนัก เพราะมีไอ้น้องๆแบ่งงาน กันหาข้อมูล ชี้เป้า วางแผน เลือกสถานที่ เวลา...เงินก็เอามาแบ่งกัน.....พรรกพวกก็ชอบเพราะไอ้พวกนี้มันก็ไม่ชอบทำงานทำการอยู่แล้ว......ก็เริ่มเป็นธุรกิจ..รายได้ดี ก็ปกครองแบบพี่น้อง...คนไหนไปหลบเข้าป่า พรรคพวกก็ช่วยดูแลครอบครัวให้ ....แต่ก๊วนเขาก็มีกฏคือ ต้องไม่ใช่งานในเขตท่ายาง ไม่ใช่คนดีทำงานสุจริต ไม่ใช่ผู้หญิง และไม่ฆ่าล้างโคตร..............<o:p></o:p>
    ......เขาบอกว่า เขาเริ่มงานนี้ก่อนที่มาทำงานในเมือง...และก็รักงานที่ทำประจำนี้..ก็เลยทำควบกันไป....<o:p></o:p>
    ........เขาก็ยกมือขอโทษ เจ้าของบ้าน ว่าเขาพยายามไม่ให้งานส่วนนี้เข้ามาแทรกกับ<o:p></o:p>
    งานประจำ...และเขารักเคารพ ท่านทั้งสอง และคิดว่าต้องเสียใจที่มารู้ว่าเป็นคนแบบนี้..และ<o:p></o:p>
    ยอมรับโทษที่..ท่าน..จะดำเนินการ<o:p></o:p>
    ............แต่เจ้าของบ้านก็พูดขึ้นว่า.........เราไม่ต้องห่วง..คนอย่างฉันพูดคำไหน..คำนั้น..บอกแล้วว่า<o:p></o:p>
    เรื่อง ที่พูดคุยวันนี้ และที่คุยกับไอ้น้อง....จะไม่ไปเข้า..หูท่าน..แน่นอน.....แต่..ปานโช...ฉันก็อยากให้<o:p></o:p>
    เราคิดดู....การไปเอาชี่วตคนอื่นไม่ว่า..จะเป็นคนแบบไหน..มันก็บาปทั้งนั้น....แล้วคิดดูว่าพ่อแม่เขา..<o:p></o:p>
    ...ลูกเมียเขาจะเป็นยังไง ถ้าไอ้คนนั้น มันเป็นคนที่เป็นหลักในการเลี้ยงดู....บาปของเราจะเพิ่มเป็นทวีคูณ....แล้วยังลูกเมีย พ่อ แม่พี่ น้อง เราโดนพวกที่ต้องการล้างแค้น มาเล่นงานเอาบ้าง ..เราเห็นใหมว่ามันเป็น บาป สองทาง ไป-กลับ.....คติพจน์ที่..ท่าน...ยึด..มา ตลอด คือ...เอาใจเขามาใส่ใจ<o:p></o:p>
    เรา...อยากให้เรากลับไปคิด ถ้าเลิกได้ก็เลิกซะเถอะ ...ถ้ายังติดปัญหาหลายอย่าง...ก็ค่อยๆเลิกไป<o:p></o:p>
    ...ฉันรู้ว่ายังมีพวกลูกน้องเราอีก..คงเลิกไม่ได้ทันทีหรอก...แต่ถ้ามึความพยายาม..มันต้องได้...ทุกอย่างมันอยู่ที่...ใจ...เอาละฉันพูดแค่นี้แหละ....เรามันก็บวชเรียนแล้ว..รู้ว่าอะไรผิดถูก..อย่าลืมเอากลับไปคิด..ก็แล้วกัน...ไปกันได้แล้ว..........<o:p></o:p>
    ...........................ปานโช ซึ่งขณะโดน เจ้าของบ้าน...อบรม..ก็มองเธอตลอด จนในช่วงท้ายๆ เธอก็ได้เห็นน้ำตาที่คลอออกมา เป็นครั้งแรก...เธอก็รู้สึกในใจว่าอย่างน้อยก็คงได้<o:p></o:p>
    ผลบ้าง.......................<o:p></o:p>
    ..........................หลังจากที่..เธอ..กล่าวเสร็จ..ปานโช..ก็คุกเข่าลงพร้อมกับยกมือพนม...และ<o:p></o:p>
    รับรองกับ..เธอ...ว่า...ผมจะพยายามทำให้ได้......ครับ...<o:p></o:p>
    ....................................................................................................<o:p></o:p>
    ...................หลังจากวันนั้น สองสามเดือน และ..ปานโช...กลับบ้านท่ายางแล้ว.....<o:p></o:p>
    ................................เจ้าของบ้านไปเดินจ่ายตลาดที่ใกล้..สะพานจอมเกล้า....เยื้องๆกับโรงหนัง<o:p></o:p>
    ...เฉลิมเพชร...ก็ไปได้ยินแม่ค้าที่มาจาก..ท่ายางคุยกัน..เรื่อง..มี..ไอ้หนุ่มต่างถิ่น...ถูกยิงตาย....<o:p></o:p>
    ใกล้ๆตลาด และมีการบอกว่า สังสยจะเป็นฝีมือ.. พวกของ ปานโช.......................<o:p></o:p>
    ...........................................เจ้าของบ้านถึงกับ ..สะอึก......หลังจากกลับบ้าน.....ก็ต้องรออีก สองสาม วัน...จึงได้เจอ ..ปานโช....เธอก็..เฉ่ง..ทันที...ไหน..สัญญากับ..ฉันแล้วยังไงว่าจะพยายามเลิก...ทำไม..จึงมีเรื่องอีก...แล้วเธอก็เล่าเรื่องที่ไปได้ฟังมาจาก..ตลาด..<o:p></o:p>
    ......................................ปานโช..ก็บอกว่า ผมยังรักษาสัญญา...และลดงานไปเยอะแล้ว<o:p></o:p>
    ลูกน้อง..หลายคนก็ย้ายไปอยู่ก๊วนอื่น........................<o:p></o:p>
    ..........บังเอิญวันนั้น เป็น วันอาทิตย์...ผมไปนั่ง กินกาแฟ อยู่ที่ร้าน ผมก็ไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ามีคนมาเหลือบมอง แล้วผมก็ไม่รู้เรื่องพอกินปาท่องโก๋ กับกาแฟ หมด ผมก็ออกจากร้าน...ผมก็ไปกับน้องสนิทๆ อยู่ ๒ คนเท่านั้น ......ผมมารู้เรื่องอีกที...มีไอ้หนุ่มคนหนึ่งที่มัน...พยายามตื๊อ..จะมาอยู่<o:p></o:p>
    กับผม...แล้วผมยังบอกว่าไม่รับหรอก...พี่จะเลิกแล้ว....<o:p></o:p>
    .............มันบอกว่า...ที่แรกเมื่อเช้าว่าจะแวะไปหาพี่ที่ร้านกาแฟ...เดินกำลังจะเข้าร้าน เห็นไอ้หนุ่มต่างถิ่น มันเหลือบมองพี่ ผมเลยจัดการให้..(ทำนอง..ว่า..จะสร้างผลงานให้เข้าตา)....<o:p></o:p>
    .............ผมก็เลยด่ามัน...แล้วไล่ไม่ต้องให้มาเห็นหน้าอีก..........<o:p></o:p>
    ....................ผมไม่รู้เรื่องจริงๆครับ................<o:p></o:p>
    .........................................................................................................<o:p></o:p>
    .......................หลังจากนั้นสัก สี่ ห้าเดือน ก็ มีอันจะไม่ได้..เจอกันอีก..ทั้งเจ้าของรถ...ภรรยา<o:p></o:p>
    ก็ไม่ได้พบ ทั้ง ..ปานโช...และ...ไอ้น้องอีกเลย.....เรื่อง.ของ....ปานโช..จึงจบลงเพียงเท่านี้<o:p></o:p>
    ...............................................................................................................................<o:p></o:p>
    ...........................................................................................................................<o:p></o:p>
    ....โอ้โห....วันนี้พิมพ์มาเยอะมากเพราะต้องการให้....ตอนหน้าจะได้เข้าเรื่องซะที..............<o:p></o:p>
    ...................ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันมา....นะครับ........สวัสดี<o:p></o:p>
     
  6. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    ปานโช นักเลงใหญ่ ก็ยังนบน้อม ต่อผู้มีพระคุณ รู้จักไหว้ รู้จักบุญคุณ นักเลงสมัยก่อนนี่มีคุณธรรมจริงๆ

    ----------------------

    ขอบพระคุณครับน้าที่อุสาเล่า เผลออินนะเนี่ย 55555+

    ติดตามตอนต่อไปครับน้า ^___^
     
  7. tatty

    tatty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    8,976
    ค่าพลัง:
    +8,226
    รู้สึกจะจำได้แล้วว่าปานโชเป็นใคร เอิ๊ก เอิ๊ก
     
  8. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ............ขอบคุณ...คุณONG..และ..คุณTATTY....ที่ให้กำลังใจกันมา......
    ..................................................................................................................
    .......ผมกลับเข้าเรื่องเลย...ครับ...อย่างที่บอกไป..ตอนโน้น..ว่า..เหล่ามือปืนแถบ ท่ายาง..ก็ต้องหา..เหรียญ..เหนียวๆ..อุดๆ...มาไว้ติดตัว.......
    ......วัดโตนดหลวง..นี่อยู่สุดเขตของ..ชะอำ...ซึ่งขณะเมื่อกว่า ๕๐ ปีมาแล้วนี่มี
    ประชากร...น้อยมาก...เพราะพื้นที่กันการ...เป็นทางผ่าน....เพราะจะไปมีคนหนาแน่นก็ที่หัวหิน..ยุคนั้นคนบางกอก..น้อยคนมากจะรู้จัก จะรู้ก็..มีแต่..หาดเจ้าฯ..ที่ปลายสุดชะอำ....แต่..วัดโตนดหลวงกลับอยู่ใกล้...กับ..ตัวเมือง..ท่ายาง
    .....ชาวท่ายางก็บอกว่า..วัดโตนดหลวง..อยู่ในท่ายาง.....ฉะนั้น..ลูกศิษย์...
    ลูกหลานที่ไปบวช..ส่วนใหญ่เ็ป็น..คนท่ายาง..ทั้งนั้น.....
    ....ฉะนั้นพวกเหล่า..มือปืนก็เลย..แสวงหา..เหรียญ ปี ๙๘...ของ..หลวงพ่อศุข...มาแขวนคอกัน..เพราะเวลาไม่กี่ปี..ประสพการณ์ด้านนี้..ในท่ายาง...ก็มีให้เห็นกันเพียบ...พวกนักเลง..ฉะ..กันเอง..ก็รู้ดี...ว่าของท่านไม่เป็นสองรองใคร...ชื่อเสียงก็เลื่องลือ.....นอกจาก..มือปืนที่เป็น..คนท่ายาง..
    แล้ว....พวกมือปีนต่างถิ่นที่..มาทำมาหากินที่นี่ ..เช่น..มาจาก..บ้านลาด...หนองหญ้าปล้อง...หรือพวกมหากาฬที่มาจาก กุยบุรี..(...พวกมือดีจาก..ท่ายางเช่นกัน..ที่ไปรวมก๊วนกันที่ ..กุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์)....ก็แสวงหา เหรียญหลวงพ่อ..เช่นกัน...สมัยก่อนนั้น..อยากได้ก็เอาของไปแลก..อย่าง...หมู..หรือ..ปืน..
    ............ดังนั้นเมื่อเหรียญหลวงพ่อ..มาอยู่ในมือ..ของคนประเภทที่มีโอกาศ
    ลองของจริงมากที่สุด (..รวมทั้ง.พวกที่เป็นโจรด้วย..ที่นิยม..)..แต่น่าเสียดายที่พวกนี้..ไม่มีโอกาศมาโชว์ออกสื่อ(..หนังสือพิมพ์..) และเขาก็คงไม่ยากมาโชว์ด้วย...จะถูก..ลูกซอง..ปืนพก..ปืนยาว..ไม่เข้า กี่คนก็ตาม คนทั่วไป..ก็ไม่ทราบ..ยิ่งคนในตัวจังหวัดก็ไม่รู้...ตำรวจยิงไป..แต่มันยังวิ่งต่อ...ก็ไม่มีสิทธิ์ไป
    ถาม..ว่ามึงห้อยพระอะไรวะ......ยิ่งได้ผลก็..ยิ่งเป็นที่ต้องการ..ต่อมา..อีก ๒๐ปี ที่ วงการมือปืนในท่ายางเฟื่องฟู...เหรียญปี ๙๘..ก็เป็นยอดนิยมอันดับ ๑ ถึงแม้ ในเมืองเพชร จะมีเหรียญอาจารย์อื่น ที่ออกมาทีหลังที่ดังกว่า(อินเตอร์)
    ก็ตาม...........
    ..............ก็บอกแล้วนะคับว่า..ขนาดในตัวเมือง..อำเภอเมือง..หรือ บ้านแหลม
    บ้านลาด..ที่ใกล้กว่า..ท่ายาง..หลวงพ่อเก่งๆก็เพียบไปหมด...คนอยู่ใกล้วัดไหน..ก็ใช้ของวัดนั้น....คนที่มาต่างถิ่น..ก็จะได้..พระในเมืองที่เจ๋งๆก็มากกว่า....ฉะั้นั้น..โอกาศที่ของๆหลวงพ่อต่างๆก็มีโอกาศดังได้มากกว่า...ประสพการณ์..ย่อม..่ผ่านปากต่อปาก..เข้าสู่อินเตอร์ได้ง่ายกว่า....สู่สื่อได้มากกว่า
    ...................โดยภาพรวมก็คือ ในคนทั่วๆไปที่มีโอกาศพบปะสพการณ์...
    จะมีเปอร์เซนต์ที่เหรียญปี ๙๘ ไปได้แขวนในคอเขาเหล่านั้นได้..น้อยกว่านั่นเอง...เพราะเหล่าGUNMANและโจร เอาไปใช้ซะ..เยอะ...แถมได้เหรียญ
    ไปแล้ว...ยังไม่ห้อยอีก...นั่นคือ สาเหตุใหญ่อีกข้อ..ของหัวเรื่อง..นอกจากเรื่อง
    มือปืน....ซึ่งผมจะเล่าในตอน...ต่อไป..........................
    .................ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม...ขอบคุณ..ครับ..สวัสดี
     
  9. sareem

    sareem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +434
    ติดตามเรื่อยๆ ครับน้า
     
  10. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ............ขอบคุณครับ..คุณ SaREEM..ที่ยังติดตามอย่างเหนียวแ่น่น...รวมถึงท่านผู้สนใจทั้งหลายด้วย......................................................
    ..........................ตอนที่แล้ว..ผมพูดถึงได้...เหรียญหลวงพ่อมา แล้วไม่ห้อย..
    ....ขอเรียนให้นักเลงพระรุ่นใหม่ทราบว่า.....ก่อนปี ๒๕๑๐ ยังไม่มีใครรู้จักว่า
    ..เลี่ยมกรอบ..พลาสติกเป็นยังไง...มีแต่เลี่ยม ..ทอง..นาก..เงิน..แผ่นปิดหน้า..องค์พระ(ด้านหลังไม่นิยมปิด)..เป็น..แผ่น..อะซิเตท..ปีแรกๆก็ใส..
    ..สองสามปีก็ขุ่น..แล้ว...โดยเฉพาะ...พระกรุ..พระสมเด็จ..พระเนื้อผงต่างๆ...เหรียญนี่แทบไม่มี...ถ้ามี..ก็เป็นแบบ..เปิดหน้า-เปิดหลัง......
    ...ปี..๒๕๑๑-๒๕๑๓ บางจังหวัด(ที่ไม่ใหญ่)..ยังไ่ม่มีร้านเลี่ยมพลาสติก
    ซักร้านเดียว.......

    ...............................................................................................
    .............ที่ผมนำมาเรียนให้ทราบก็คือ....เหรียญ ปี ๙๘ ...เป็น..้เหรียญที่..
    ประหลาดมาก......ก็..เพราะ..ชันนางโรงใต้ดินที่แปะอย่ด้านหลัง..นี่แหละครับ...สำหรับคนที่ไม่เคยรู้ที่มาที่ไป...ผมเคยไปถาม..มาเอง..ก่อนที่เหรียญปี
    ๙๘ จะขึ้นหลักพัน..ในสนาม..กทม. ๙ใน๑๐ บอก ยางมะตอย...นี่ไปถาม
    ที่..สนามวัดมหาธาตุเลย...ผมไปเกือบทุกเสาร์ อาทิตย์..จะมีเหรียญนี้..วน
    เข้ามา..นานๆที..เจ้าของแผงเองไม่รู้จักข้อมูลเท่าไหร่...รู้ว่าเป็นอาจารย์..เก่งเหมือนกันที่เมืองเพชร ผมก็พลิกเหรียญแล้วแกล้งถาม..ลุง..ข้างหลังนี่มันอะไร..ลุงตอบ...ไม่รู้เหมือนกัน..แต่ไม่ใช่..รัก..แน่ๆ...สงสัยจะเป็น...ยางมะตอย
    .......ผม..ก็..แกล้งถามต่อ..(ตอนนั้น..สภาพ๙๐% ไม่เกิน ๒๐๐ บาท)...เอ้าถ้าห้อยเปล่าๆ เวลาร้อนๆ...มันไม่เลอะติดหน้าอก..ติดเสื้อ..เรอะ...............
    ............ลุง..หัวเราะ..แล้วก็บอก...ก็มีคนถามแบบนี้หลายคน...แล้ว...ก็เลย
    ปล่อยไม่ออก..นี่แหละ.........
    .........................สมัยก่อนการเลี่ยมพลาสติกไม่นิยมนะครับเพราะ..กลัว..พุทธคุณไม่ออก....
    .........ขอย้ำอีกที่...ไม่ต้องหัวเราะ..ว่าผม..ยกเมฆ..ผมบอกแล้ว...ผมเริ่มเล่น
    พระมาตั้งแต่ปี ๒๕๑๐ ยังไม่มี..นิตยสารพระเครื่องรายเดือน..แม้แต่เล่ม
    เดียว...อยากรู้อะไรต้องไปเลียบๆเคียงๆ..ถาม..ที่..สนามพระเป็นทางการที่เดียวของ ฝั่งกรุงเทพ(สมัยนั้น..มีจังหวัดธนบุรี)..คือ สนามวัดมหาธาตุ..บริเวณที่ตั้งของ..อนุสาวรีย์..วังหน้าปัจจุบัน....
    ............ข้อมูลผมยืนยันไม่มั่ว...สัมผัสมาเองครับ...ไม่ได้ฟังชาวบ้านเขามาพูด.....
    ..........................อย่างที่ผมเกริ่นมานี่...ท่า่นทั้งหลายคงนึกออก....ว่าคนที่ได้เหรียญหลวงพ่อมาจากคนอื่นอีกที.....ขนาดเป็นผู้ชายยังไม่กล้าห้อย....
    เพราะ...กลัวติดหน้าอก...เลอะเสื้อ.........
    ..................ท่านจะเห็น....ว่า...ส่วนใหญ่เหรียญปี ๙๘ ที่ด้านหลัง..แทบจะ
    หา..ชันนางโรงที่ติดสมบูรณ์ทั้งอัน...ไม่มี...จะเห็นแค่เป็น...คราบๆ เท่านั้น
    ..........ไม่ใช่หลุดเองนะครับ...ผมยันยันได้...ว่า..แน่นมาก...ก็ขนาด..พ่อผม
    ห้อยติดตัว..เหงื่อโทรมกายทั้งวัน...๒๐ กว่าปียังไม่หลุด.......
    ........ไอ้ที่เห็น..เหลือแต่คราบนั่น...โดนแคะออก...เกือบทั้งนั้นครับ...ส่วนใหญ่..ไม่ใช่เพราะอยากจะดูว่าข้างหลังมีอะไร...เพราะกลัวจะเปื้อนตัว..และ
    เสื้อ...เวลาร้อนๆ..เพราะิคิดว่าเป็นยางมะตอย...มันก็คงเหมือนยางมะตอยทีถนนนี่แหละ...สมัยโน้นพวกที่ชอบพระ..ธรรมดาอยู่แล้วต้องแลกกันดูพระที่ห้อย..เพื่อนๆที่เป็นวัยรุ่นกัน..มีอยู่ ๒-๓ คนห้อยปี ๙๘ นี่ พ่อให้มาใส่ ปรากฎ
    ว่าทีแรก..มันไม่อยากใส่กัน..กลัวเลอะ...ก็บอกพ่อ...พ่อก็บอกงั้นก็แคะออกไป
    ...(พ่อก็ได้มาจากคนอื่นอีกที).......................................
    .............................นั่นแหละครับสาเหตุที่มีคนห้อยน้อย...แถมบางคนได้
    มา..ไม่แคะ...ยุ่งยาก..เก็บใส่ลิ้นชักไปเลย...อยากจะใส่..ก็ต้องเสียเงินไป..เลี่ยม..ยุ่ง..จะห้อยเปลือยๆ..เหมือน..เหรียญอื่นก็ไม่ได้............
    ..........นี่แหละครับ..สาเหตุมันมี...คนที่ไม่รู้ที่ไปที่มาก็ไม่ค่อยอยากห้อย...........คนที่อื่นก็ห้อยน้อยโอกาศที่จะเจอประสพการณ์ก็เลยน้อยลงด้วย
    ...............หลวงพ่อเลยดังช้า..............................
    ..................วันนี้..ก็คงพอแล้ว...ตอนต่อไป...ก็จะว่าเรื่อง..พ่อผมจะทำ
    รูปหล่อ..หลวงพ่อศุข..เอง...............ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม...สวัสดี..ครับ
     
  11. Frankz

    Frankz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +67
    ขอบคุณครับผม :cool:
     
  12. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    เข้ามารายงานตัวครับ น้า
     
  13. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    กำลังมันส์ครับ

    รอชมตอนต่อไปครับ
     
  14. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..............ขอบคุณ..ครับ..คุณ..ONG....คุณORKAR...ที่ให้กำลังใจและติดตามกัน
    ตลอดมา..และ..สวัสดีคุณ FRanKz.....ขอบคุณครับ..รวมถึงทุกท่านที่ได้อ่านและติดตามกัน
    ..............
    ............................ผมโตขึ้นมาเริ่มรู้เรื่อง..เวลาเข้า.....ห้องพระ...ก็จะสังเกตเ็ห็น...ภาพ..พระนั่งสบายๆเอามือทั้งสองวางที่หัวเข่า...หน้าตามีเมตตา..และเย็น
    ...ผมก็ชอบดูเห็นแล้ว...สบายใจ...และเนื่องจากทั้งห้องพระ...มีรูปพระสงฆ์...
    อยู่องค์..เดียว..ความจริงใต้รูป..พ่อก็เขียนไว้แล้ว...ว่าใคร..ถ่ายเมื่อ..วันที่เท่าไร
    .....ผมก็ยังถามแบบ..เด็กว่าเป็นใคร...เรื่องของหลวงพ่อศุข...ก็เข้าสมองมาตลอดเวลา...ในความประทับใจของ...ทั้ง..พ่อ..และ..แม่..ซ้ำแล้วซ้ำเล่า....
    ...............นั่นมั้ง...เป็นจุดที่ทำให้ผมเริ่มสนใจ..พระ...เร็วกว่าคนอื่นในวัยเดียวกัน ...เริ่มรื้อ..กล่องพระพ่อ..เอามาดู...และไปหา...แว่นส่องพระ(ความจริงเขาเอาไว้ส่องแสตมป์)....สมัยนั้นผมเคยบอกแล้วว่าไม่มี...สื่อรายเดือนแบบเดี๋ยวนี้...หนังสือเกี่ยวกับพระ..ก็เป็น..หนังสือ..ปกแข็งหนาปึ๊ก...ไปหาตามร้านขาย
    หนังสือเก่าที่..หลัง อนุสาวรีย์พระแม่ธรณีบีบมวยผม ใกล้สะพานผ่านภิภพลีลา
    ข้างสนามหลวง(สมัยนั้นไม่มี..จตุจักร...มีแต่ตลาดนัดสนามหลวง..ที่เดียว)...
    .....เวลาไปหา..ก็ต้องไปบอกเข้าว่า...น้ามีหนังสือที่มีรูปพระเครื่องรึเปล่า...
    ...ยุคนั้นเป็นของหายาก...มีไม่กี่เล่ม..แต่ละเล่มก็แทบดูไม่ได้....รูปก็มัวไม่ชัด
    ...หยาบ..ดูพอเป็นรูปเป็นร่างเท่านั้น..และขอโทษ...ขาวดำ...ล้วนๆ..แถม
    บางรูป..ยังเป็น..รูปเขียนลายเส้นขาวดำ...ต่างหาก
    ....หลังจากได้เอาไปดู
    พอเป็นไอเดีย..ก็เริ่มสนใจ...อีกอาทิตย์..ต่อมาไปหาอีก...ไปอีกร้านก็เจอ...
    ...เล่มเดิม....ผมจำชื่อ...คนแต่งได้ว่าชื่อ นาย พร้อม สุทัศน์ ณ อยุธยา...อะไรทำนองนี้..(ถ้าเขียนผิด..กราบขออภัยด้วย)...ส่วนใหญ่ จะเป็น..สมเด็จ..กับ..พระกรุต่างๆ.........ผมก็ถาม..แล้วเล่มอื่นมีมั้ย..น้า....
    ....เจ้าของร้านก็เลย..บอก..ไอ้หนูเอ็งไปดูของจริงเลยดีกว่า....โน่นที่..ริมสนามหลวงฝั่งโ้น้น...ที่ริมวัดมหาธาตุ..ตรงข้ามกับ..ธรรมศาสตร์...เข้าไปด้านข้างที่มี..ต้นโพธิ์ใหญ่ๆนั่นนะ...มีของจริงให้เอ็ง..ดู..เยอะแยะเลย......
    ...............แล้ว..วันนั้นก็เป็นครั้งแรกที่ได้เข้า..สนามพระ..สนามพระวัดมหาธาตุ.......ที่กำเนิดของเซียนพระรุ่นใหญ่ที่มีชื่อเสียง..ทั้งที่ตายไปแล้ว..และยังมีชีวิตอยู่ต้องผ่านสนามฯนี้..ทุกคน....ที่ๆเป็นตำนานอมตะ
    .........
    .........จะไปผมว่าที่นี่มันขลังนะ....บรรยากาศมันคนละเรื่องกับสมัยนี้เลย........ถึงมันไม่ใหญ่..แต่แผงพระไม่ใหญ่มาก...แน่นปึ๊ก..คนเดินกันเยอะ
    ......................................................................................
    ...................................พอได้ไปเดินดู..มันตื่นตา..ตื่นใจจริงๆครับ...
    ...มีทั้งที่เห็นใน..หนังสือ...และไม่มี.............
    ................หลังจากวันนั้น....วันเสาร์..หรือ ไม่ก็วันอาทิตย์ ...ยิ่งตอนปิดเทอม
    ยิ่งสบาย....วิธีการ..ก็..ง่ายเราเป็น..เด็ก..ยิ่งสบาย..ถามไปเรื่อย...หยิบมาดู..
    ..มาส่อง..สมัยก่อน..เขาไม่เหมือนสมัยนี้...ของไม่ได้อยู่ในตู้..ยกเว้นที่แพงจริงๆ...หยิบดู..เอามาส่อง...ไม่เอา..ก็ไม่ได้สำแดงกริยาน่าเกลียด
    แบบปัจจุบัน..แบบว่า..รำคาญ..เขาก็มีมารยาท...ยกเว้นไอ้พวกที่..เอาส่องที ..สิบกว่าองค์แล้วไม่เอา..สักองค์..ยั่งงี้มี..ด่า...
    ..........
    ................ผมก็ได้ความรู้ไป...เรื่อย...แล้วก็เริ่มรู้จ้กว่า...แห่พระ....
    ...เป็นยังไง..ก็ที่นี่แหละ...เทคนิคของ..คนที่เอาพระ(เก๊)มาขายให้แผง และ
    เทคนิคที่แผงพระจะหลอกล่อขายพระ(เก๊)ให้คนมาดู......มันเป็นโรงละคร
    โรงใหญ่..จริงๆ.................................................
    ............................กลับมาเข้าเรื่องซะทีนอกเรื่องไปนาน.....ที่เล่าไปคราวที่
    แล้ว..ผมเิดินสนามพระอยู่บ่อย..ก็ตรวจสอบความเป็นไปของเหรียญปี ๙๘..
    ตลอดมา...ราคาก็นิ่งอยู่อย่างนั้น..เคลื่อนไหวน้อยมาก.................
    .................พ่อผมได้มีโอกาศไปราชการสงครามต่างประเทศที่เวียดนาม
    ..กองพลเสือดำ..ผลัดที่ ๑...เป็นรุ่นหลัง จาก กองพัน จงอางศึก..ที่ทำให้เหรียญ..หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐดังตูมตาม........ราคาพุ่งกระฉุด...ไป
    ราคาเหยียบหลัก...หมื่น...ขณะที่..เหรียญปี ๙๘ ก้ยังอยู่หลัก...ร้อยเหมือนเดิม........หลังจากการรบที่โชกโชน..ซึ่งผลัดที่ ๑ เป็นผลัดที่มีการบ..หนักหน่วงที่สุด ของกองพลเสือดำ...มียอดการสังหารข้าศึกมากที่สุด........
    ...............แต่พ่อผมก็กลับมาเมืองไทย...หลังครบกำหนด ๑ ปี...พ่อผมก็ได้รับตำแหน่งใหม่ และค่อยๆก้าวหน้าต่อไป.............
    .............จนวันหนึ่ง....ผมเห็นพ่อให้ลูกน้องไปซื้อดินน้ำมันสีเทาๆ(..ก็..แบบที่ เขาเอามา..ปั้น..ขึ้นรูป)...มาแล้ว..พ่อก็ทำแป้นหมุนเอง..(พ่อเป็นคนที่มีทักษะ...ด้านช่างมาก..เลยไม่ใช่เรื่องยาก) ....ผมแปลกใจก็เลยถาม....
    .....พ่อจะทำอะไร...พ่อก็บอกว่า.....จะทำรูปหล่อหลวงพ่อศุข.......
    .........ผมก็หัวเราะ...บอกกับพ่อว่า....แล้วพ่อจะปั้นเองเลยเหรอ.......
    ...ใช่..พ่อตอบอย่างมุ่งมั่น....ผมถามต่อ...พ่อนึกยังไง..รูปหลวงพ่อที่พ่อถ่ายไว้เองก็มี...พ่อก็เลยเล่าที่มาที่ไป................................
    .............เอาละครับ....วันนี้เอาแค่นี้ก่อน....ไว้ต่อตอนหลัง.........
    ...ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมา...เรื่อย..บางทีก็มี...นอกเรื่อง..บ้าง
    ..เอาเล่าให้ฟังเป็น..เกร็ด..แทรก...........สวัสดี

     
  15. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    ติดตามตลอดครับ แต่ล่ะบททิ้งท้าย นี่ ชวนติดตามมาก
    น้าน่าจะเขียนหนังสือนะครับ ซู๊ดย๊อดดดดดดดด
     
  16. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ......................ขอบคุณ..ครับ.คุณ ONG...ที่ชมและติดตามมา..ฮะฮะ.....ผมคงไม่บังอาจหรอกครับ....เขียนไปพอเพลินๆ...ให้พวกท่านที่สนใจ...ได้อรรถรสบ้าง
    ก็ไม่เลวแล้ว........................................................ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม
    กัน...............เรามาว่ากันต่อเลย........................
    .........................................................
    ............พ่อ..ก็..บอกว่า....หลังจากที่....พ่อได้ทำ...เหรียญ..หลวงพ่อศุขปี ๒๕๐๐...version ใหม่.......อันนี้..ผมต้องขยายความหน่อย.....คือ..ก่อนหน้านี้
    ..พ่อ..ก็..รื้อ..กล่องพระ...ตู้พระ...หาพระอะไรสักอย่าง...ปรากฎว่าไปเจอ...ของ
    ที่ลืมเลือนไปนานก็คือ...ชานหมากหลวงพ่อศุข..ที่ท่านให้มาก่อนจะไปจาก
    เมืองเพชรใน..ครั้งแรก(๒๔๙๕)..ห่ออยู่ในผ้าเช็ดหน้าอันเดิม....พ่อคิดอยู่หลายวัน...ว่าจะทำให้เกิดประโยชน์ยังไง......แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า..มีเหรียญปี๒๕๐๐... อยู่ ๕ อัน...สภาพ ๑๐๐ เปอร์เซนต์ ยังไม่ีใครเอาไปห้อยเลย ถ้าจะเลียนแบบ เหรียญปี ๙๘ บ้าง...คงเข้าท่า....พ่อก็ให้ลูกน้องไปหา..ชันนางโรง....มาแต่ก็ไม่ได้จำกัดว่า...บนดิน..หรือใต้ดิน..ก็ได้....แต่กว่าจะหาลูกน้องที่รู้จัก..ชันนางโรง..ก็เหนื่อย.....ก็ใช้เวลาเป็นเดือน....ได้มา..ประมาณ กำปั้น..
    ...แต่ต้องมาแยกเอา..เศษดิน..เศษหิน..ออก...เหลือ..ได้ซัก..ไข่เป็ด...
    ............................จากนั้นพ่อก็เรื่มขบวนการ...จุดธูป..บอกกล่าวหลวงพ่อศุข..ที่หน้ารูปถ่ายท่าน...ขอ..อนุญาต..เอา.ชานหมากท่าน..ผสมกับ..ชันนางโรง เพื่อ ไปแปะหลัง..เหรียญหลวงพ่อ..ทั้ง ๕ เหรียญ.......
    .........เสร็จขั้นตอน..ขออนุญาต....พ่อ ก็...เริ่มบด..ชานหมาก..ที่แข็งเป้ก..
    แต่โชคดี...ที่ไม่ได้มาปั้นตอนน้น..ให้เป็น..ลูกอมชานหมาก(..ถ้าเป็น..ผมละก็....เรียบร้อยไปแล้ว)..ไม่งั้นคงเหนื่อยอีกเยอะ...เพราะถ้าไปทำอย่างว่า
    ...ก็จะกลายสภาพเป็น..ก้อนหิน..ไปเลย..เพราะ..ยางหมาก.......
    ....สภาพขณะนั้น..ก็..เป็นแข็งๆ..แต่แยกๆส่วนกัน....หลังจากผ่านจุดนี้.....
    .........พ่อ..ก็..เริ่มเอา..ชันนางโรง..ใส่..ขันลงหิน..ไปตั้งบนไฟ...จนชันนางนางโรง..เหลว...แล้วก็นำชานหมากที่บดแล้วใส่ลงไป...แล้วกวนให้เข้ากัน
    ....จากนั้น...ก็..เริ่มหยอด ลงหลังเหรียญ..ทั้ง ๕ อัน ที่วางเรียงกันไว้....
    ...ปรากฎว่า...ยังมีเหลือ...ก็เลยเอาไปหยอด..หลังเหรียญปี๙๘ ที่..พ่อไปเจอที่สนามพระ..๒ อัน..เหรียญละ ๑๐๐ บาท..(ปีประมาณ ๒๕๑๓)..หลังโดนแคะ
    ชันนางโรงออกไปแล้ว................สรุปก็เลยได้ version ใหม่ ๗ เหรียญด้วยกัน....ทิ้งไว้จนแข็งแล้ว...ก็เอาเหรียญทั้งหมดไปวางหน้ารูป..ท่าน..แล้ว..จุดธูป..อธิษฐานขอพลังจาก..หลวงพ่อ..ให้มาประจุเพิ่มเติมในชันางโรงผสมชานหมากให้สมบูรณ์....เป็นอันเสร็จพิธี...ฮะฮะฮ่า.....เอากะพ่อซิ............
    .........................หลังจากประเดิมไปแล้ว......พ่อก็บอกว่า..มันยังคาๆใจยังไง
    อยู่ในห้องพระ..ก็มีรูปหล่อ..หลวงพ่ออื่น..๒-๓ องค์ที่เขาให้มา...แต่ทีหลวง
    พ่อศุขที่...พ่อเคารพนับถือที่สุด....ดันไม่มี...จนพ่อเองเลยตัดสินใจ....ไม่มีก็
    ทำขึ้นมาซิ..ไม่เห็นยาก..เรื่องงานแกะ..งานสลักเสลา...ก็เคยทำมาแล้ว...
    .....พ่อ..ก็.เลยเริ่มโครงการ...โดยไป..ปรึกษากับช่าง....ที่บ้านช่างหล่อ....
    ช่างก็แนะนำว่า...ควรขึ้นหุ่นด้วยดินน้ำมันแบบที่..เขาทำกัน...แล้วก็แนะนำให้ไปซื้อดินน้ำมันที่แหล่งขาย....แล้วยังเรื่องวัสดุหล่อ..ที่จะใช้ก็ทองเหลือง....
    ....พ่อก็บอกว่า...ใช้ปลอกกระสุนได้ไหม...ช่างบอกOK...พ่อก็บอกอีกว่า..ผมจะหามาให้เยอะเท่าที่จะหาได้...ส่วนที่ขาดก็ให้ช่างเติมทองเหลืองให้ครบแล้วกัน.......เป็นอันเรียบร้อย.........
    .....................ก็นี่แหละครับ..ที่มาที่ไป....พ่อบอกว่าจะหล่อ ๒ องค์...เก็บไว้เอง ๑ องค์...อีก..องค์จะให้..กับ..หลวงพ่อที่ปลุกเสกให้...นั่นก็คือ..หลวงพ่อจันทร์.................................
    ..........................ความจริง...พ่อยังไม่ได้ติดต่อ...หรือ..คุย..กับ..หลวงพ่อจันทร์..เลย...ตอนที่พ่อคิดจะทำรูปหล่อ..แน่นอนก็ต้องมีการปลุกเสกด้วย...
    ....พ่อก็นึกถีง...หลวงพ่อจันทร์เป็นท่านแรก...เพราะ..ตั้งแต่อยู่เมืองเพชร
    ครั้งแรก..ลูกน้องพ่อที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อศุข....เคยบอกให้ฟังว่า....หลวงพ่อ..ท่านมีลูกศิษย์...อยู่องค์ ๑ ธุดงค์มาพร้อมกับ..หลวงพ่อ..ตั้งแต่...เป็น..เณร..
    (ขอโทษ..อันนี้ไม่ได้..เอามาประวัติฉบับไหนทั้งสิ้น...เพราะเป็นคำบอกเล่า...จากลูกศิษย์หลวงพ่อ...ตั้งแต่ปี ๒๔๙๔...ยังไม่มีใครเขียนประวัติ
    หลวงพ่อศุข...)
    ....ท่านเรียนทุกอย่างจาก..หลวงพ่อศุข...ครบถ้วน...เก่งมาก
    ขนาด..กระเหรี่ยงยังนับถือ...ตอนนี้..ท่านอยู่ที่..วัดช้างแทงกระจาด...ในแดน
    กระเหรี่ยง..ปลายเขตชะอำ..ในป่า...ว่างๆถ้าท่าน อยากไป...ผมจะพาไปให้
    ..........แต่จนแล้วจนรอด..พ่อก็ไม่ได้ไป....เพราะจะต้องใช้เวลามากและเส้นทางไม่ดี(..อย่าลืมนะครับ..เมื่อ ๖๐ ปีก่อน...ยังไม่มี BY-PASS แถวนั้น..เถื่อนมาก).....พ่อก็จดจำ..อยู่มาตลอดว่า..ท่านอยู่..วัดช้างแทงกระจาด..(ทั้งๆที่..ความจริง..ประมาณปี ๙๗-๙๘ ท่านย้ายไปอยู่...วัดมฤคทายวันแล้ว...
    ..ถ้า..พ่อรู้..คงได้แวะไปหา.ตอนกลับไปอยู่เมืองเพชร..ตรั้งที่ ๒ เพราะ..ต้องไป..พระราชวังไกลกังวล..บ่อย..วัดก็..อยู่ติดถนน..เลย)................
    ...........คิดได้พ่อก็ใช้ให้ลูกน้องที่เมืองเพชรไป..ตามหาท่าน...เพราะไม่แน่ใจว่า..ท่านเสียรึยัง(ปี ๒๕๑๕)...ปรากฏ..ว่าก็ไปถึงวัดช้างแทงกระจาดเลย
    ...แต่ปรากฏว่า..เจอแต่..หลวงพ่อเมี้ยน..(ตอนนั้นท่านมาแทนที่..อาจารย์ท่าน
    ตั้งแต่ปี..๙๗-๙๘ แล้ว...หลวงพ่อเมี้ยนท่าน..เป็น..ลูกศิษย์ทั้ง..หลวงพ่อศุข..และ..หลวงพ่อจันทร์ ตอนหลังท่านย้ายไปอยู่วัด หนองข้าวเหนียว...และได้..เป็น..อาจารย์ระดับแถวหน้า..ของเมืองประจวบ...ก่อนที่..หลวงพ่อแถม..จะมารับช่วงเป็น..เจ้าอาวาส..ต่อ)....พอรู้แน่ว่าตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน..ก็
    กลับไปรายงานให้..พ่อผมทราบต่อมา...............................
    ..................................................................................................
    ................เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เริ่มขบวนการ..จุดธูปบอกกล่าว..หลวงพ่อ
    ...แจ้งความจำนงค์..และขออนุญาต..ทำรูปหล่อท่าน...และขอให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี......จบขบวนการเริ่มต้น............................
    ...............................ก็..สมควรแก่เวลา...เห็นที..จะต้องไปพักหน่อย..ครับ
    ....สำหรับตอนหน้า..ก็..รูปหล่อหลวงพ่อศุข..ขนาดหน้าตัก..๗ นิ้ว..มาแล้ว...................ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามกันมา...ขอบคุณ..ครับ...................สวัสดี

     
  17. nu_wa

    nu_wa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    2,740
    ค่าพลัง:
    +10,698
    มาติดตามอ่านด้วยคนครับ
     
  18. ต้นน้ำเพชร

    ต้นน้ำเพชร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +43
    ประทับใจและขอบคุณแทนคนเมืองเพชรทั้งหมดที่ช่วยถ่ายทอดคณาจารย์สำคัญให้กับคนทั่วไปรับทราบ

    ขอบคุณนเครับ
     
  19. sareem

    sareem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +434
    ติดตามตอนต่อไปครับลุง
     
  20. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ........ขอบคุณครับ...คุณ NUWA และคุณ SAREEM(..ไม่ถึงเดือน..นี่..ผม..แปรสภาพ..จาก..น้า...กลายเป็น..ลุง..ไปซะแล้ว..)..ที่ติดตามกันตลอด..
    ...และยินดีต้อนรับ...คุณ..ต้นน้ำเพชร...ที่มาร่วมวงด้วย...และขอพระคุณอย่างสูง
    ...ซาบซึ้งใจ...ที่มี..คนเพชร..ให้เกียรติ..ยกย่องผม...ถ้ามีเวลาคงได้คุยกัน...
    ............รวมทั้งท่านทั้งหลายที่ติดตามกัน..นะ..ครับ...ผมรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น..
    ..จริงๆ...........................................
    ...........................................................................................
    ....................ต่อกันเลย........พ่อจะเอารูปที่ท่าน..ถ่ายไว้เองในปี..๒๔๙๕..
    นี่แหละ..เป็นต้นแบบ...ขอบอกไว้ว่ารูปร่างของ..หลวงพ่อ..ตอนที่พ่อถ่ายฯไว้
    ....แตกต่างจาก..รูปที่ท่าน..ห่มดอง..แต่งเต็มยศ..ที่เอามาเป็น..ต้นแบบในเหรียญปี ๒๔๙๘..( ดูรูปที่หน้า ๑ ที่คุณ อัศนีย์ มาpost ไว้ให้ประกอบ..)..มาก
    .......เพราะรูปที่พ่อถ่ายฯไว้..ท่านผอม..กว่า..ดูยังไม่ค่อยแก่...และหน้าสบาย
    ..ไม่เครียด.........
    ............................เรื่องการปั้น..นี้..ทั้ง..แม่..พี่ๆ..และผม..จะไม่ยุ่งกับพ่อเลย...เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว...เหมือน..หรือ..ยัง..เล็ก..หรือ..ใหญ่...รูปแบบ..เป็นยังไง..ก็จะไม่มีใคร..พูด..ดู..อย่างเดียว.................
    ..........................พ่อ..กำหนดไว้เป็น..ห่มดอง..นั่งสมาธิราบ..(..ขอโทษ..ไม่ได้..เลียนแบบ..รูปฯที่ว่า...ตอนนั้น( ๒๕๑๔-๒๕๑๕)..ทั้งพ่อ..และ..ผม......ยังไม่เคยเห็นรูปถ่ายฯท่านที่อื่น )...พ่อเอาแป้นหมุน..ที่จะเป็นตัวรองรูปปั้น...วางที่โต๊ะช่าง..ของท่าน..แล้วก็...เอารูปถ่าย...วางไว้ข้างๆ ...เครื่องมือ..ขูด..เกลา..ดินน้ำมันนี่...ซื้อชุดใหญ่แบบพวกช่างศิลป์ใช้กันเลย....
    ............วันธรรมดา..หลังเลิกงาน....พ่อจะมานั่งทำจนดึก....ถ้า..เสาร์-อาทิตย์..ก็..ทั้งวัน...แทบไม่คุยกับใคร..จะหยุดพัก...ก็..ตอนทานข้าว
    .....กับตอนนอน....มุ่งมั่นมาก...........
    ................พวกเรา...คนในครอบครัว....ก็ดูความคืบหน้าไป..เรื่อย...ค่อยๆ
    เข้ารูปเข้าร่างทุกที...ทุกที.............จนเสร็จ...............
    ........ก็ไม่ได้ยอกันเองครับ.....จัดว่าเหมือนทีเดียว...จะมีส่วนที่ด้อยหน่อย
    ก็...รอยยับ..จีวร..สบง..สู้มือ..อาชีพ..เขาไม่ได้....แต่แค่นี้ทุกคนในครอบครัว
    ก็.....ภูมิใจใน..ฝีมือ..ท่านแล้ว..........................
    .....................................................สรุป..คือ..หน้าตักประมาณ ๗ นิ้ว..
    ............ตอนนี้...หลังจากขบวนการ..ปั้นหุ่นต้นแบบแล้ว...ต่อไปก็เป็นเรื่อง
    ของช่างแล้ว...พ่อก็เอา..หุ่นดินฯไป....บ้านช่างหล่อ...ร้านเดิมที่ติดต่อกันไว้
    ...........แล้ว..พ่อก็..ขนปลอกกระสุน...นานา..ขนาด ไปที่ร้าน(รู้สึกว่า..จะ...
    พอ..)..ตอนนี้ก็รอ..ช่างทำแบบหล่อ....แล้วช่างก็..กะ..วันที่จะเททอง..ให้เขา
    หาฤกษ์ให้ด้วย...วันที่เท..พ่อจะไปดูด้วย..(..ทำแบบหล่อ ๒ อันเลย...เท..พร้อมกัน..)...ถึง..วันเท..พ่อก็ไป(ผมไม่ได้ไป...ต้องเรียนหนังสือ)...พ่อเล่าให้
    ฟังว่า...เป็นธรรมเนียม..ในการหล่อ..พระ...ก็ต้องมีพิธีการจุดธูปเทียนบอก
    กล่าว..ขออนุญาต................ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี................
    ...............พ่อ...เอาชื่อ..หลวงพ่อ..ให้ช่าง..ไว้..สำหรับ..สลัก..ที่ฐานด้านหน้า
    ด้วย...........รอ..หลายวันเหมือนกัน...กว่าจะแต่ง..และขัดมัน..เสร็จ..........
    ...............และแล้ววันนั้นก็มาถึง...........พ่อไปรับ..รูปหล่อ..ทั้งสอง..
    ........มาที่..บ้าน...ทองเหลืองขัดมัน...เปล่งประกายแวว..วาว...สวยงาม
    ...น่าชื่นใจ...จริงๆ..........ผม..เหลือบไปมองพ่อ..ก็เห็น..แววตาที่ปิติของท่าน..และรอยยิ้มที่เบ่งบาน..แบบที่ผมไม่เคยเห็น..มานานมากแล้ว
    ...................................แล้ว..ผม..นะ..เรอะ...มีความสุขมากกกก...
    ...................
    แล้วพ่อก็เอาขึ้นไปห้องพระ....วางประกบรูปถ่ายหลวงพ่อศุข
    ....ซ้าย..ขวา.....ทำพิธีรับ..และ..อะไรอีกไม่รู้...แต่ที่แน่ๆร่วม ๒ ชั่วโมง...
    .............................................................................................
    .......................จากนี้ไป...ก็..รอเวลา..เพื่อจะเริ่มขั้นตอน...ต่อไปคือ.....
    .............พารูปหล่อ..หลวงพ่อศุข..ทั้ง สอง..องค์ ไปหา...หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน เพื่อปลุกเสก............................
    .............................ก็...ต้องตามตอน..ต่อไป..ตอนหน้า....ซึ่งจะเริ่ม..ภาคต่อ
    ........คือ...หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน หรือ หลวงพ่อจันทร์ วัดช้างแทงกระจาด....เทพเจ้าแห่ง..กระเหรี่ยงเมืองเพชร......
    ............................................................................................
    ..................ขอบคุณทุกท่าน..อีกครั้งที่ติดตามกัน...เสมอมา...ขอบคุณ..ครับ
    .................................สวัสดี.........

     

แชร์หน้านี้

Loading...