หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง กับ หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน

อุ้ย!!...ขอโทษทีครับน้า...คือเรื่องของเรื่องผมนั่งคุยกับลุงที่รู้จักกันเรื่องพระอยู่เลยติดพันเลยมาพิมพ์เป็นลุงเฉยเลยน่ะครับ...ผมก็เพิ่งรู้ตอนน้าทักนี่แหละครับ...แฮ่ะๆๆ

 

............น่านนะซิ...ถึงว่า...ผมจะแก่เร็วขนาดนั้นเรอะ....ไม่กี่อาทิตย์นี่...ขอบคุณ
ครับ..คุณ SAREEM..ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม..ก่อนที่ผมจะเข้าสู่ขั้นตอน...ที่พ่อผมนำ..เอารูปหล่อทั้งสองไปหาท่าน........ผมขอเกริ่นเรื่องราว.....ของหลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน....ซึ่งเรื่องของท่าน...มีน้อยมากเมื่อ..เทียบกับลูกศิษย์หลวงพ่อองค์อื่นๆ.....หรือ..แม้แต่กับลูกศิษย์ของท่านเอง.....ท่านที่..สมถะ...และปลงต่อโลก...พยายามเดินรอยตาม....อาจารย์ของตัวเอง...ให้มากที่สุด(อันนี้..หลวงพ่อ...บอกกับผมเอง...)....ท่านไม่ใส่ใจเรื่องชื่อเสียง.....................


..................แต่สำหรับผมเอง..เมื่อท่าน...ลงกระหม่อม..ให้ผม...ผมก็ถือเป็นอาจารย์ไปตลอดชีวิต.....เมื่อนึกๆ..แล้วพูดจริงๆ...ความรู้สึกส่วนตัว..มันน้อยใจ
....แทน...เมื่อทางเมืองเพชร...ทำหนังสือเกี่ยวกับพระอาจารย์..ครั้งแรก...คือ
...พระดีเมืองเพชร....ก็ไม่มีชื่อท่าน............ผ่านมาร่วม ยี่สิบปี...ทางเมืองเพชรออกหนังสือมาอีกเล่ม......พระดีศรีเมืองเพชร...ก็ไม่มีชื่อท่านอีก....
............ทั้งที่ผลงานทางศาสนา.....ท่านสามารถเปลี่ยนให้...กระเหรี่ยงเมือง
เพชร..ชึ่งเดิมจะนับถือ..ผี...เปลี่ยนมา...นับถือ...พุทธ...ท่านช่วยในการสร้างวัด...หลายวัด..........
..................................ส่วนทางพุทธาคม...ท่านไม่เป็น..รองใคร..ในเมือง
เพชร....เหรียญหลักของเมืองเพชรเช่น...เหรียญหลวงพ่อชิต วัดมหาธาตุ ๒๔๘๐ ที่มีราคาสูง....หลวงพ่อจันทร์ที่..ถือว่า..เป็น ๑ ในอาจารย์ที่ร่วม...
...ปลุกเสก..ที่มีพรรษา..น้อยที่สุด.......ท่านลงแผ่นทองและเงิน...ที่เข้าร่วม
พิธีจักรพรรดิ..สร้าง..กริ่งนเรศวร วังจันทร์ ปี ๒๕๑๕....ร่วมปลุกเสก..กริ่งศรีนคร..ปี ๒๕๑๖..ที่กรุงเทพ..........................ร่วมปลุกเสก..พระแก้วมรกตเนื้อผง...บ้านโป่ง..ปี ๒๕๐๙..........และอีกหลายแห่งทั่วประเทศ............
....................ลูกศิษย์ท่าน..หลายองค์..มีชื่ิอเสียงโด่งดัง...ระดับ..จังหวัด
....และประเทศ........................
............................ในส่วนที่ผมจะเล่าในตอนต่อไปที่เกี่ยวกับ..ท่าน..ก็ไม่
เชิง..เป็น..ประวัติแต่..เป็น.การวิเคราะห์..ในแง่มุมต่างๆเกี่ยวกับ.ท่าน...
...เผื่อ..ท่านบางคนที่..นับถือท่าน...หรือผู้สนใจ..ในตัวหลวงพ่อ...จะได้
เรียนรู้..กับตัวท่าน.............................
...................ตอนนี้เป็นการเกริ่น...ก็ไม่ยาวนัก......ขอบคุณทุกท่าน
........ที่ติดตาม..ขอบพระคุณอย่างสูง..ครับ.................................
............................สวัสดี........................

 

รอรับชมครับ

 

......หลวงพ่อจันทร์ วัดโตนดหลวง....................
.......ขอบคุณครับ..คุณnuwa....ที่ติดตามให้กำลังใจกัน........รวมทั้งผู้อ่านท่านอื่นด้วยครับ..........................
............เห็นผม...จั่วหัว...ผมไม่ได้เขียนผิด...หรอกครับ....เพราะ..ท่านเองอยู่ที่วัดโตนดหลวง...เป็น ๒๐ กว่าปี....ก่อนที่ท่านจะไปอยู...วัดช้างแทงกระจาด
...ชาวบ้านใกล้ๆ วัด...และคนท่ายาง..ก็เรียกท่านแบบนี้...เพราะถ้าหลวงพ่อศุขไม่อยู่...หลวงพ่อจันทร์..ก็..จะทำหน้าที่...แทนหลวงพ่อศุข....รวมทั้ง..การ
สอน..ลูกศิษย์ของหลวงพ่อศุข..ก็เหมือน...ครูช่วยสอน...ติดขัดอะไร..ท่านก็จะแนะนำ...ศิษย์รุ่นน้อง....ช่วยรักษาชาวบ้านแทนหลวงพ่อศุข..เมื่อหลวงพ่อศุขไม่ว่าง................เรียกว่าชาวบ้านเดือดร้อน...ไปวัดโตนดหลวง..ไม่เจอ..หลวงพ่อศุข.....ก็หลวงพ่อจันทร์นี่แหละครับ....แทน
...............................................................................................สาเหตุหรือครับ.....ก็ตั้งแต่หลวงพ่อศุข..เริ่มธุดงค์ออกจาก..วัดปราโมทย์ บางคณฑี สมุทรสงคราม....สามเณรจันทร์...ก็ติดตามไปด้วยตลอด...เข้าพรรษา
ก็ไปประจำอยู่วัดโน้น....ออกพรรษา..ก็เริ่มธุดงค์ต่อ...พอเข้าพรรษาก็ต้องกลับเข้าวัดนี่...วนๆเวียนๆ...อย่างงี้...หลายปี...กว่าจะมาถึงวัดโตนดหลวง........
......ฉะนั้น...ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน..ก็มีกันแค่..สอง องค์...หลวงพ่อศุขเองก็มี
เวลา..สอนลูกศิษย์เต็มที่...จึงไม่ต้องสงสัยหรอกครับ...ว่าท่านจะเรียนจาก..หลวงพ่อศุข..ไม่หมด...แถม..๔-๕ปีแรกที่..หลวงพ่อศุข..มาอยู่วัด
โตนดหลวง...ท่านยังไม่โด่งดัง...หลวงพ่อจันทร์ก็ยังได้เรียนกับหลวงพ่อศุขแบบเดี่ยวๆ...ก็เต็มที่..ละครับ............ถ้าถามผม...ว่าใครเป็น
ศิษย์เอกของหลวงพ่อศุข....ผมก็ต้องมาคิดถึง...คำว่า.."เอก"..หมายถึง
อะไร...เอก...หมายถึง....๑ หรือ แรก..หรือ..โดดเด่น.........
.......หลวงพ่อจันทร์...ก็เป็น...ศิษย์..คน..แรก....หรือ...ศิษย์...คนที่ ๑...
โดดเด่น....สมัยที่อยู่วัดโตนดหลวง....ท่านก็แทน..หลวงพ่อศุขได้เกือบทุกอย่าง.....ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อ...องค์แรกที่หลวงพ่อศุขปล่อยธุดงค์เดี่ยว....ท่านเป็นศิษย์องค์แรก..ที่..ไปเป็น..เจ้าอาวาส....ท่านเป็นศิษย์องค์แรก...ที่ได้ร่วมปลุกเสก...กับ..อาจารย์ตัวเอง..ในงานพุทธาภิเษกใหญ่..ของ.เมืองเพชรที่วัด มหาธาตุ เหรียญหลวงพ่อชิต ปี ๒๔๘๐ ในฐานะ..เจ้าอาวาส(วัดช้างแทงกระจาด).......
...........ด้วยเหตุผลส่วนตัว..ของผมเอง...เน้น..ว่า..ของผมเอง......ผู้ที่เป็นศิษย์..ท่านอื่นอยู่..จะได้ไม่ต้องมาเถียงกันให้เสียเวลา...
....หลวงพ่อจันทร์..ก็คือ..ศิษย์เอก..ของหลวงพ่อศุข...................
.............................ในการธุดงค์ของ..หลวงพ่อศุข...ก็ทำให้...ท่านได้พบ
ประสพการณ์...วิชา..อีกหลากหลาย...ก็..เหมือนกับ....หลวงพ่อที่เก่งกาจทั่วประเทศ..ที่โด่งดัง...มากกว่า..อาจารย์ของตนเอง...ท่านเหล่านั้นเป็นผู้ไฝ่รู้
ตระเวณไปหาอาจารย์เก่งๆ...ขอเรียนมั่ง..ถ้าตัวเองเริ่มเก่ง...ก็แลกวิชากัน...
....ก็เกิดความหลากหลาย....บางองค์เรียนกับอาจารย์องค์แรกไป..มากพอควร
...แล้ว...ไปธุดงค์พบ...คนดีมีวืชา..ก็แลกเปลี่ยนกัน...แล้วปรากฎว่า..วิชาที่ได้มาใหม่...กลับมาสร้างให้ท่านเหล่านั้นโด่งดัง..ขี้นมา....เป็นอย่างนี้หลายต่อ
หลายองค์..ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน..........
................เช่นเดียว กับ..หลวงพ่อศุข........ท่านเรียนวิชากับหลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง....ซึ่งถ้าท่านได้เห็น..เหรียญ..และ..ผ้ายันต์..ของหลวงพ่อตาด
...ก็จะไม่เห็น..ยันต์ครู....แสดงว่า..ท่านไม่ได้เรียน..ยันต์ครู..มาจากหลวงพ่อตาด...ท่านอาจเรียนมาตั้งแต่..ก่อนบวช.....หรือ....ระหว่างธุดงค์ท่านไปแลกวิชามา...ก็ได้............................
.............................ที่เกริ่นมาก่อนก็เพื่อให้..พอเข้าใจว่า...การธุดงค์เป็นการ
ฝึกจิต...เสริมประสพการณ์...และยังเป็นการได้มาซึ่ง...วิชาใหม่ๆ...ซึ่งก็เหมือน
กับ...หลวงพ่อจันทร์...ท่านได้...สิ่งที่ผมได้กล่าวมาแล้ว...เพิ่มเติม..จากที่..หลวงพ่อศุข..ได้มอบมา...แต่ไม่ว่า..ยังไง...ความผูกพันของหลวงพ่อจันทร์กับ
หลวงพ่อศุข...ยิ่งใหญ่และยาวนาน...กว่าใครทั้งสิ้น...ท่านทั้งสองเหมือน
พ่อ..กับ..ลูก.....ที่เดินทางฝ่าอุปสรรคมาด้วยกันตั้งแต่เริ่มต้น..ในเส้นทางของ
พุทธธรรม.........
...............................ในตอนหน้า..ผมก็ยังจะกล่าวถึง...ประวัติเชิงอรรถ
ของ..ท่านต่อ....จากวัดโตนดหลวง...และเส้นทางชีวิต..ต่อมา.............
.............................ครับ..ตอนนี้..ก็ถึงเวลา....ไว้พบกันใหม่ตอนหน้า......
......ขอบคุณทุกท่าน....ที่ติดตามกัน...ขอบพระคุณ...ครับ..สวัสดี

 

........หลวงพ่อจันทร์ วัดช้างแทงกระจาด.....

..............ขอขอบคุณ..ทุกท่านที่ติดตามอ่านกันตลอดมา...ผมขอเข้าเรื่องเลยครับ..................เห็นผมจั่วหัวไว้ก็เหมือนเป็น..ตอน ๒..คือ..จาก..วัดโตนดหลวง
...ไปสู่...วัดช้างแทงกระจาด.........................
..........หลวงพ่อจันทร์ท่าน..นอกจาก...การฝึกฝนวิชา...การการช่วยหลวงพ่อศุขในการ..กิจการของวัด...รวมทั้ง..การรักษาโรค...การปลุกเสกของ........ภาระกิจ
สำคัญอีกด้านคือ...การเป็น..ครูช่วยสอน.....ลูกศิษย์..รุ่นแรกๆ...จนถึง..ก่อน..ที่ท่านจะย้ายไปอยู่ที่..วัดช้างแทงกระจาด..(ประมาณปี ๒๔๗๘-๒๔๗๙...เวลาไม่แน่ใจนะครับ)...จะต้องผ่าน..การช่วยเหลือจากท่านแทบทั้งสิ้น...เพราะต้องแบ่งเบาภาระ..จาก..หลวงพ่อศุข..ในการอธิบายเพิ่มเติม..ข้อที่เป็นปัญหา..ข้อสงสัยต่างๆ...เพราะท่านได้สืบวิชาจากหลวงพ่อศุข..ทั้งหมด..และการที่เป็นศิษย์องค์แรก...ศิษย์หลวงพ่อที่เหลือ..ก็เป็นรุ่นน้องทุกองค์..ก็ต้องช่วยกัน.............ศิษย์รุ่นเรกๆต่อจาก..หลวงพ่อจันทร์...ก็มีชื่อเสียงทั้งนั้น...
...เช่น...หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง...หลวงพ่อชิน วัดท่าขาม..เป็นต้น....
............................................................................................
................หลังจากที่อยู่วัดโตนดหลวงหลายปี...ท่านก็เริ่มออก..ธุดงค์เดี่ยว
....พาศิษย์รุ่นน้องออกไปฝึกธุดงค์ด้วย.....เพราะหลวงพ่อศุขเห็นว่า.วิชา..และ
ฌาน..ของท่านเข้มแข็ง..พอแล้ว...ท่านก็ได้ทำเป็น..ประัจำ...การธุดงค์เดี่ยวของท่าน...ท่านก็ได้มีการเรียนวิชาใหม่ๆมาเพิ่มเติม...หรือไม่ก็แลกวิชากัน..(..การแลกวิชากัน..เป็นเรื่องปกติของ..ผู้เรียนวิชาทั้งหลาย..สำหรับผู้มีระดับใกล้เคียงกัน )....ท่านผู้นิยมตระกรุด..คงเคยได้ยินมาบ้าง..ถึงแม้
จะโด่งดังไม่เท่า..รุ่นน้องๆท่าน...คือ..ตะกรุดไม่ไผ่ของหลวงพ่อจันทร์
.....ซึ่ง..แถบ..ชะอำ..หัวหิน..ประจวบฯ...นี่ไปถามได้เลยว่า...เท่าไร่เท่ากัน...ถ้าคุณ..มีของแท้...นี่ก็เป็นวิชาที่ท่านไปได้เพิ่มมาจาก..ท่านอื่น..
........ศิษย์ของท่านและเป็นรุ่นน้องได้เรียนวิชาไป...และทำได้ไม่แพ้อาจารย์...ก็คือ..หลวงพ่อเมี้ยนที่..มาสืบทอดการเป็นเจ้าอาวาสต่อจาก
ท่าน...................................................................................
.........................ก็เพราะการธุดงค์นี่แหละครับ....ที่ทำให้ท่าน..ต้องย้ายวัดครั้งแรก....การธุดงค์ไปแถบ..ชะอำใต้...(..แถบ..ทุ่งจับญวน..)..เป็น.แถบทุรกันดาร..ป่าดิบ...แดนเถื่อน..และเป็นถิ่นของ..กระเหรี่ยง.....คนไทยทั่วไปถ้าไม่จำเป็นจริงๆ...ก็ไม่อยากเข้าไป...เพราะเสี่ยง.....แต่หลวงพ่อจันทร์ที่ถือธุดงวัตรเป็นกิจ..ไม่ได้สนใจเรื่องนี้...ที่ใดที่สงบ...ที่ใดที่ลำบากท่านก็ไปโปรดสัตว์ได้ทั้งนั้น.........
...................................เอาละครับ...วันนี้.แค่นี้พอ..ขอบคุณทุกท่าน..ที่ติดตามกัน....ตอนหน้าเป็นตอนต่อจากนี้คือ...ที่มาของ..วัดช้างแทงกระจาด
..............................สวัสดี

 

กำลังสนุกเลยครับน้า..น้าพูดถึงวัดช้างแทงกระจาดแล้วผมคิดถึงเลยผมไม่ได้ไปมาเกือบครึ่งปีได้แล้วคิดถึงหลวงพ่อแถม กับลุงที่อยู่กับหลวงพ่อมากครับ

 

....ขอบคุณครับ...คุณSAREEM...ที่ติดตามอย่างเหนียวแน่น...และขอบคุณ..ทุกท่า่น..ที่ติดตามกันมา.....วัดช้างแทงกระจาด..ก่อนมี..ถนน BY-PASS..ไม่ใช่ไปง่ายอย่างทุกวันนี้นะครับ..เข้าไปจากสายเก่า..ลึก..ร่วมสิบ..กิโลเมตร..แถมถนนแย่มาก...นี่คือตอนปี..๒๕๑๕...ที่ผมพูดถึง....ถ้าย้อนไป..ปี..๒๔๗๘...ไปที่..บ้านช้างแทงกระจาด..หรือ..ทุ่งจับญวน..ยิ่งไปกันใหญ๋...มีแต่ทางเกวียนเล็กๆ
เท่านั้น.........ฉะนั้นคุณSAREEM..โชคดีมาก..ที่เกิดทีหลัง.....
......................................................................................................
หลวงพ่อจันทร์ วัดช้างแทงกระจาด..(ต่อ )..........
....................................................................................................
.......ธรรมดาแถบ...แดนกระเหรี่ยง...ก็จะไม่มีวัด...เพราะ..กระเหรี่ยง..จะถือ..ผี...พวกนี้..ก็ดูแลกันเองเป็น..ส่วนใหญ๋...หยูกยาไม่ต้องพูด..ใช้บริการ..หมอผี
...เป็นหลัก...แต่..พวกนี้เอง..เขาก็มีวิชา..สืบทอดกัน...และจะเป็น..ประเภทที่เราเรียก..ว่า..ไสยดำ..ชาวบ้าน..จะกลัวพวก..หมอผี..และ..หมอผี..มีอำนาจ.
...เพราะ..ถ้าใครเบี้ยว...มีสิทธิ..เดี้ยง...แต่ในครอบครัว..หมอผี...ลูกชายทั้งหลาย...ก็ต้องเรียนวิชากันไว้...เพื่อ...ทดแทน..สืบทอดตำแหน่ง..กันได้ทันท่วง
ที...ฉะนั้น..ในชุมชนกระเหรี่ยง...ก็จะมีคนเป็น..วิชากันหลายคน...ไม่นับตัว
หมอผี..................................................................................
.............การที่มี..พระสงฆ์...เข้าในเขตแดนกระเหรี่ยง....ย่อมเหมือน..เป็นการ
...คอน...อำนาจ..ของ..หมอผี..เพราะอาจมีชาวบ้าน...เริ่มเข้าไปหาพระ...ไปฟัง..เทศน์ฟังธรรม..แล้วก็จะเปลี่ยน...ไปนับถือ..พุทธ...หมอผีเอง..ก็จะกลัวจุดนี้..ที่บารมีตัวเองจะหดลง....ก็ต้องทำทุกวิถีทาง...เพื่อสกัดกั้น....มี.พระธุดงค์
...หลายองค์..ก่อนหน้านี้...วิชาไม่แข็ง..ก็..โดนพวกนี้เล่นงาน...จนต้องย้าย..กรด...ออกนอก..แดนกระเหรี่ยง..................
.........................แต่...เมื่อหลวงพ่อจันทร์...มาถึง....ก็เป็นธรรมดาที่..พวกนี้จะมาเยี่ยม...ไม่ว่า..จะปล่อยวิชาแบบไหน...ก็ตาม...ก็ไม่สามารถจะทำอันตราย
ใดๆต่อท่านได้...จนพวกนี้..ต้องยอมแพ้...และเอาอาหาร(ที่ปลอดภัย)มาถวาย
ชาวบ้านทั้งหลาย...เห็นขนาดพวกหมอผี...ยังยอมนับถือท่าน..ก็เริ่มเข้ามา....
..ท่านก็ได้เทศน์...แสดงธรรม...จน..ชาวบ้านช้างแทงกระจาดเลื่อมใส...นอกจากนั้น...ท่านยังได้รักษาโรคให้ชาวบ้านด้วย...ชาวบ้านก็ยื่งศรัทธา..ก็เลยนิมนต์..ท่านให้ประจำอยู่ทีนี่..ไม่ต้องไปธุดงค์ต่อ..จากปากต่อปาก...พวก
กระเหรี่ยงแถบใกล้เคียงก็เลื่อมใส..ศรัทธา..เข้ามาหา..หลวงพ่อจันทร์.....
....หลังจากนั้น...ชาวบ้านก็ปรึกษากับ..ท่านว่า..อยากให้ที่บ้านช้างแทงกระจาดนี่มีวัด..จะได้เป็นศูนย์กลาง...ชาวบ้านจะได้ประกอบพิธีทำบุญ..มีสถานที่ฟังเทศน์..ฟังธรรม..และจะได้บวชลูกหลานเข้าศึกษาพระธรรมได้ด้วย........
..............แต่ทุนทรัพย์ของชาวบ้านไม่พอ..หลวงพ่อจันทร์ก็นึกถึงว่า...มีแต่อาจารย์ท่าน....ยังไงก็เป็นที่พึ่งของท่านอยู่ดี.....หลวงพ่อจันทร์จึงเดินทางไปหา..หลวงพ่อศุข...เล่าเรื่องราวให้ท่านทราบ....ซึ่งท่านก็ยินดี..และได้เป็นธุระ
ในการ..หาทุนทรัพย์..ก็พวก..กฐิน..ผ้าป่า...ซึ่งที่วัดโตนดหลวงนีไม่ต้องห่วง
...จนได้ทุนทรัพย์..พอที่จะสร้างวัดได้....และแล้ว...วัดช้างแทงกระจาดก็ได้
ถือกำเนิดขึ้น..โดยยังได้อาศัยพระสงฆ์ลูกวัดรู่นแรก..จากวัดโตนดหลวงด้วย
(หลวงพ่อศุข..ท่านสร้างได้ ๓ วัด คือ..วัดช้างแทงกระจาด(หลวงพ่อจันทร์)...
..วัดเขาลูกช้าง(หลวงพ่อจ้วน)..วัดท่าขาม(หลวงพ่อชิน)..)...........
.......นั่นคือ..หลวงพ่อจันทร์..เป็นศิษย์ท่านแรกของหลวงพ่อศุข..ที่ได้ไปเป็นเจ้าอาวาส...............หลังจากวัดช้างแทงกระจาดถือกำเนิด...ท่านก็เริ่มสร้าง
ชื่อเสียง..ในรูปแบบของอาจารย์ท่าน...ทั้งรักษาโรค..เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
ของ...ชาวกระเหรียง..ของเมืองเพชร...จนเป็นที่มา..ของ..ฉายาท่าน....
...เทพเจ้าแดนกระเหรี่ยง....ชื่อเสียงของท่าน..ก็ขจรไปทั่วเขตชะอำ..หัวหิน
..ปราณบุรี....จนถึงขั้นที่ผมเคยเล่าไปแล้ว...ว่าเมื่อ..หลวงพ่อชิต..ว้ดมหาธาตุ
ทำ..เหรียญปี..๒๔๘๐....หลวงพ่อจันทร์ซึ่งยังถือว่าหนุ่มสำหรับเจ้าอาวาสแต่ได้รับเกียรติให้ไปร่วมปลุกเสกในพิธีที่ใหญ่มากในยุคนั้น....ที่วัมหาธาตุด้วย(แน่นอน..หลวงพ่อศุข..ก็มา).............................................
................หลวงพ่อจันทร์เมื่อมีเวลาว่าง...ท่านก็ยังไป..เยี่ยมอาจารย์ท่านอยู่
เนืองๆ...เมื่อมีโอกาศท่านก็ได้แลกเปลียนวิชา..กับ..อาจารย์สายอื่นด้วย....
...ก็เป็นความก้าวหน้าของท่าน...ตระกรุดไม้ไผ่ที่เลื่องลือ...ก็เริ่มทำที่นี่....
..........และเมื่อผ่านไปหลายปี...เริ่มมีลูกศิษย์(ฆาราวาส)ชุดใหม่แปลกหน้า
..เข้ามาหา..มากราบท่านเป็นประจำ...นั่นเป็นที่มา..ของการที่ท่านต้อง
ย้ายวัดเป็น..ครั้งที่ ๒..............
.................................................ก็ได้เวลา..คงไปต่อกันตอนหน้า......
...........คือ..หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน....ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกัน..........................ขอบพระคุณ...ครับ................สวัสดี

 

.................ขอบคุณทุกท่าน..ที่ติดตามอ่านกันอย่างต่อเนื่องครับ...ก็ต่อเลยแล้วกัน................................................................................................


...........หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน.............
...................................................................................................
............ตั้งแต่มาอยู่วัดช้างแทงกระจาด...ท่านจะไม่ออกของขลัง..ซ้ำรอย....
..อาจารย์..เพราะเป็นธรรมเนียมของ...ลูกศิษย์..กับ..อาจารย์สมัยก่อน.......
...แม้กระทั่ง..ออกเหรียญเป็นหน้าตัวเอง....ตราบจนเมื่อสิ้นอายุขัย..ของหลวงพ่อศุข...ซึ่งรู้สึกเป็นธรรมเนียมของ..ลูกศิษย์ทุกองค์ของท่าน................
............สำหรับหวงพ่อจันทร์เองซึ่งท่าน..เคร่งครัดเรื่องนี้มาก....ตระกรุดพอกชันนางโรงท่านก็ไม่ทำ...แต่ของมีชื่อเสียงท่าน..ทำได้เพราะไม่ใช่...วิชาของหลวงพ่อศุข..ก็..คือ..ตะกรุดไม้ไผ่......ส่วน..การรดน้ำมนต์...การรักษาโรค..ไม่มีปัญหา
ท่านทำมาตั้งแต่..อยู่วัดโตนดหลวงแล้ว...เพราะต้องช่วย..อาจารย์....
พวกตะกรุดธรรมดา...ท่านก็ทำ..เพราะจำเป็นสำหรับ.ชาวบ้านทั่วไปเอาไ้ว้คุ้ม
ครองตัว.....................ชื่อเสียงท่านก็..ขจรไป..ทางใต้ของเพชร..อย่างที่
ผมเล่าไปตอนที่แล้ว.....บังเอิญ..ในปี ๒๔๙๖..ได้มีการจัดตั้ง..ค่ายใหญ่..
ของ..ตำรวจพลร่ม....ขึ้นที่..บริเวณ..รอยต่อของ..ชะอำ..กับหัวหิน..
...คือ..ค่ายนเรศวร....ซึ่งเป็น..ค่ายที่ใหญ่มาก..กินอาณาเขต..เข้าไปครอบ
คลุม..พระที่นั่งมฤคทายวัน..ด้วย..ทั้งค่ายประกอบด้วย..กำลังพล...
จำนวนมาก....เพราะเป็นค่ายฝึกด้วย.....................................
............ก็เป็นธรรมดาที่หน่วยใหญ่ๆ...ของทหาร..หรือ...ตำรวจ..ตั้งอยู่ที่ไหน
..ก็ต้องไฝ่หา..ที่พึ่งทางใจ..รวมถึง...เมื่อมีงาน..พิธ๊มงคล..ก็ต้องไปนิมนต์พระ
มาทำพิธี...แต่เหนือสิ่งอื่นใด..เหล่าตำรวจพลร่ม...ต้องทำงานเสี่ยงตาย...
ตั้งแต่..ยังไม่ได้รบกับใคร..เพราะต้องโดดร่ม....จำเป็นต้องหา..ของ..เครื่องราง.....ไว้..ป้องกันภัยอันตราย..และเป็นขวัญกำลังใจ........
...........และบริเวณรอบๆที่ตั้ง..ของค่ายฯ...ในขณะนั้น...ไม่มีหลวงพ่อ..ไหนดัง
ไปกว่า..หลวงพ่อจันทร์....ระยะทางจากค่ายไปถึง..วัดช้างแทงกระจาดก็ สิบกว่า
กิโลเมตร...ขับรถจี๊ปไปได้ไม่มีปัญหา..เรื่องทางลำบาก.......
......เพราะฉะนั้น..ระดับผู้บังคับบัญชาค่าย..รวมถึง..ระดับ..รองๆลงมาที่เป็น
นายตำรวจ..ก็จะไปกราบ..แนะนำตัวกับ..ท่านเป็น..ประจำ...และเมื่อเป็นตำรวจ
การขอ..ของขลัง..จากท่าน..ยิ่งสะดวก..เพราะ.เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์..ด้วย
....ไม่นาน..ผู้ที่ได้ของท่านไปก็..ได้ประสพการณ์...ยิ่งทำให้ท่าน..งานเข้า...
...เรียกว่า..มีงานบุญที่เป็นทางการในค่ายฯ..หรือ..เป็น..งานบุญ..ส่วนตัวของ
ระดับ..ผบ..ก็จะนิมนต์ท่านตลอด....จนกระทั่งวันหนึ่ง..ผบ.ค่า่ยฯได้มาขอ
ท่าน..ว่า..ทำนองแบบว่า..เพื่อเป็นมิ่งขวัญของค่าย..อีกทั้งปกติค่าย
ใหญ่ๆ...ก็ควรจะมีวัดของค่า่ยที่สำหรับเป็นมิ่งขวัญและประกอบศาสนกิจ
ตามธรรมเนียม..ตลอดจนครอบครัวและกำลังพลตำรวจเอง..จะได้ไม่ต้องลำบากไปทำบุญไกลๆ...ตลอดทั้งเรื่องงานศพ..ฯลฯ...จึงอยากจะสร้างวัด(..ผมไม่แน่ใจว่าที่นี่มีวัดเก่าอยู่แล้วหรือไม่..แต่ที่แน่ๆไม่ได้ชื่อวัดมฤคทายวัน..แน่)..แล้วขอนิมนต์ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสด้วย..เพราะกำลัง
พลของค่ายนเรศวร..ก็นับถือท่าน..ทั้งนั้น.....................
.....นั่นเป็นสิ่งที่สร้างความหนักใจ..ให้..หลวงพ่อจันทร์....เป็น
อย่างยิ่ง....
................เอาละครับ...คงต้องไปต่อตอนหน้า............
................ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม.....ขอบคุณ..ครับ....สวัสดี

 

โห..ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวัน เข้มข้นจริงๆครับน้า ติดตามด้วยใจระลึกพลัน

 

หายไปหลายวัน ยังคงน่าติดตามเหมือนเดิมเลยครับ

 

..............ขอบพระคุณครับ....คุณ ONG และ คุณ ORKAR.....ที่ชมและให้กำลังใจ...รวมถึงท่านผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามกัน..ขอบคุณครับ.................
...............................ต่อเลยครับ...............................
...เรื่อง..ค่ายทหารใหญ๋ๆ...แล้ว..สร้างวัดใหม่ขึ้นมา...หรือ...ปฎิสังขรณ์ใหม่...เป็น
..เหมือน..วัดประจำ..ของ..ค่ายนั้นๆ....เป็นเรื่อง ธรรมดา..มีหลายวัด...เพราะทั้ง
กำลังพลเอง...ยังครอบครัว..อีก..แต่..ตำรวจเพิ่งมีค่ายใหญ่ก็ที่นี่...ก็เลย..มีมั่ง
................ผมไม่แน่ใจว่าตอนที่มาบอกกับ..หลวงพ่อจันทร์..กำลังสร้างเกือบเสร้จ
...หรือ..พึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ.....................................
.........................................หลวงพ่อจันทร์เอง...ท่านก็เห็นใจพวก..ค่ายนเรศวร...แต่ท่านก็เป็นห่วงทางนี้...แต่คงเพราะ..ระยะทาง..ของวัดมฤคทายวัน
กับ..วัดช้างแทงกระจาด..ความจริงก็ไม่ห่างกันนัก...แค่สิบกว่ากิโลเมตร..เป็นห่วง
คือ..จะหาใครมา..แทนท่านที่..วัดช้างแทงฯ...ผู้ที่มาแทนก็..ต้องมีวิชาดี..เป็นที่พึ่ง...ของชาวบ้านได้....ก็เหมือนเดิมไปๆมาๆ...ก็ไม่พ้น..อาจารย์ท่าน..........
..หลวงพ่อศุข..เมื่อหลวงพ่อจันทร์ไป..ปรึกษา..เรื่องนี้..หลวงพ่อศุข...ท่าน
เอง..ก็ผลิต..เจ้าอาวาสไป..หลายองค์แล้ว...ศิษย์ท่านที่เรียนวิชาไปพอควรแล้ว
ยังอยู่กับท่าน..ก็..หลายรูป..(ช่วงปีประมาณ ๒๔๙๖-๒๔๙๗)..แต่..องค์หนึ่งที่
เป็นพระหนุ่ม...แต่มีความสามารถ..ที่..หลวงพ่อศุขเห็นว่า..เหมาะสมก็คือ.....
หลวงพ่อเมี้ยน..........ดังนั้น..หลวงพ่่อเมี้ยนก็จะไปเป็นเจ้าอาวาสวัดช้างแทงฯ
แทนที่..หลวงพ่อจันทร์เมื่อท่านย้ายไป..เป็นเจ้าอาวาสวัดมฤคทายวัน.....
..............................................................................................
......แล้ว..หลวงพ่อจันทร์..ก็..ได้ย้ายวัด.เป็นครั้งที ๒ วัดมฤทายวัน...ซึ่งอยู่
คนละฝั่งถนน(เพชรเกษม..สายเก่า)...ทั้งชื่อ..ก็ได้มาจาก..พระที่นั่งมฤคทายวัน
ซึ่งอยู่ไม้ห่างกัน..เนื่องจาก..วัดมฤคทายวัน..อยูใน..ความอุปถัมภ์..ตำรวจพลร่ม..ค่ายนเรศวร..ซึ่งต้องรองรับ..กำลังพล..และครอบครัวตำรวจ...จึงทำให้วัด
มี..ขนาดค่อนข้างใหญ่..เมื่อเทียบกับ..วัดใกล้เคียง.......ตอนนี้..ท่านก็ต้อง
รับแขกมากขึ้น..(เข้าใจว่า...ท่านมาประมาณปี..๒๔๙๗..คลาดเคลื่อน บวก-ลบ
๑ ปี)...แต่ขณะเดียวกันท่านก็ยังหมั่นไปเยี่ยม..วัดช้างแทงฯของท่าน..ชาวบ้าน
ช้างแทงฯก็ยังมี..ไปเยี่ยมท่านที่..วัดมฤคทายวัน...ส่วน..วัดโตนดหลวงไม่ต้อง
พูดถึง...ยังไงท่านต้องไปเยี่ยม..อาจารย์..ท่านเป็น..ปกติอยู่แล้ว
..........................................................
............ส่วนหลวงพ่อเมี้ยน..กลับได้อานิสงฆ์..ในการนี้..นอกจากจะทำให้เป็น
ผู้ใหญ่..เร็วขึ้น...ความที่วัดช้างแทงฯกับ..วัดมฤคฯ..อยู่ไม่ห่างกันมาก...หลวงพ่อเมี้ยน..ก็เลย..ได้รุ่นพี่เป็นอาจารย์ไปด้วย..ทั้งบางอย่างที่ยังไม่คล่องจากวิชา
ของหลวงพ่อศุข...บางวิชาที่ยังเรียนไม่ครบ..แถมด้วย..วิชาใหม่ที่เป็นของ
ลวงพ่อจันทร์เอง......และหนึ่งในวิชาที่สร้างชื่อให้..หลวงพ่อเมี้ยน..ก็คือ
ตะกรุดไม้ไผ่........นอกจากหลวงพ่อเมี้ยนศิษย์เอก..ของ..หลวงพ่อจันทร์
แล้ว...ยังมี..ศิษย์รุ่นน้องท่าน..อีกอย่างน้อย ๒ รูป..เท่าที่ทราบ..ที่ได้ไป
คือ..๑.หลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย ประจวบคีรีขันธ์....๒. หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ท่ายาง เพชรบุรี (องค์หลังนี่แทบ..ไม่ต้องประกาศสรรพคุณ..
..ใครไม่รู้จัก..ก็..แย่แล้ว...ส่วนใหญ่..คนจะรู้เพียงแต่ว่า..เรียน..วิชาสะกดชาตรี..มาจากหลวงพ่อจันทร์...ความจริงท่านเรียนมามากกว่านั้น
๑ ในนั้น ก็คือ ตะกรุดไม้ไผ่..แต่ต้องเสียเวลาในการทำแต่ละดอก..มาก
ท่านเลยไม่ค่อยได้ทำ...ใครได้ไปถือว่าโชคดี)..................
.......................................................................
..........ก็ได้เวลา..ขอจบตอนไปก่อน.......ไว้ต่อคราวหน้า...ซึ่งผมจะข้ามเวลามาปี ๒๕๑๕ เลย..............................
ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามกัน..มาตลอด..ขอบคุณ..ครับ..........
....................................สวัสดี...............

 

ติดตามอ่านด้วยความสนใจในเรื่องราวและสำนวนการเขียนครับ
ขอบคุณมากครับที่ได้บันทึกเรื่องราวดีๆ ให้อ่านกัน

 

.......ขอบคุณครับ..คุณKT_PK...ที่ชมให้กำลังใจ..และติดตามอ่าน...รวมถึงทุกท่านที่ติดตามอ่านด้วย..............................................
..............พอดีผมพบภาพ...ตะกรุดไม้ไผ่..ของ..หลวงพ่อจันทร์....จึง
กราบขอ..อนุญาตจากเจ้าของภาพ..และ..เจ้าของWEB..ณ..ที่นี้ด้วย..เพื่อ
เอามาเผยแพร่ให้ชมกัน...ด้านในของตะกรุด..จะมีตะกรุดทองแดงซ้อนอยู่
..............ย้อนมาปี..๒๕๑๕...ต่อจาก...หลายตอนก่อนที่..ผมเล่าถึงพ่อผม
หล่อรูปหล่อ..๒ รูป..เตรียมมาให้...หลวงพ่อจันทร์ปลุกเสกนั้น...........
................วันหนึ่งก่อนหน้าจะไปหาท่านไม่กี่วัน...พ่อก็คุยกับ..แม่ว่า...เรา
ลืมไปตอนอยู่เมืองเพชร.....ไม่ได้เอารูปที่ถ่าย...หลวงพ่อศุข..ไปให้ท่าน
ปลุกเสกให้...น่าจะถือโอกาศนี้...เอาไปให้...หลวงพ่อจันทร์..ท่านลงให้
ยังไง..ท่านก็เป็นศิษย์เอกหลวงพ่ออยู่แล้ว...น่าจะแทนกันได้...แม่ก็เห็นดีงามด้วย....แล้วก็มาบอกผม...เพราะผมจะไปด้วย.............
........และแล้วก็ถึงวันที่..ทั้งพ่อ..และผมว่าง..ไ่รู้ว่าเสาร์..หรือ..อาทิตย์....แต่พ่อมาบอกผมภายหลัง...ว่าคืนก่อนที่จะไปวัด..พ่อตั้งจิตอธิษฐาน...ต่อหน้ารูป..หลวงพ่อศุข..ว่า..ถ้าการนี้จะลุล่วง..และหลวงพ่อ..อนุญาต..ขอให้พบ..หลวงพ่อจันทร์..และได้ทำตามวัตถุประสงค์...อย่างไม่ติดขัดใดๆ................................
...........................เราเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ใน..วัดมฤคทายวัน..ซึ่งมีอาณาเขต....กว้างขวาง...แล้วลงจากรถเข้าไปถามพระ..ในวัดว่า..หลวงพ่อจันทร์อยู่หรือเปล่า...(ในใจผม...เสียวมาก..กลัวจะไม่เจอเพราะ..พระระดับนี้กิจนิมนต์..จะมาก...รวมถึงรู้มาก่อนล่วงหน้าว่า..ท่าน
จะถูกนิมนต์ไป..ปลุกเสกพระ..ทั่วประเทศ..อยู่บ่อย)...ปรากฎว่า..พระลูกวัดบอกว่า..ท่านอยู่..แล้วก็ชี้มือ..ไปที่..กุฎิท่าน................
........ทั้ง..พ่อ..แม่..และผมก็..ยิ้มกันทั่วหน้า....ผมหิ้วรูปหล่อทั้ง ๒
...พ่อผม...ถือรูปหลวงพ่อศุขไป.......เมื่อไปถึง...ก็พบท่านนั่งอยู่..เหมือนกับคอยพวกเรา(ความคิด..ของผมเอง)...และที่แปลกคือ..ไม่มี
แขกอื่น..สักคน...เราทั้งสามก็ก้มลงกราบท่าน...แล้วพ่อ..ก็..เริ่ม..บอก
ชื่อ..แสดงตน..และแนะนำ..แม่ และ ผม.....จากนั้น..ท่านก็เล่า..ถึง
อดีตที่เคยมา..อยู่เมืองเพชร ๒ครั้ง..และความผูกพัน..ของพ่อ..และ
ครอบครัว..กับ..หลวงพ่อศุข..จนคิดเรื่อง ทำรูปหล่อ..หลวงพ่อศุข
และนึกถึง..หลวงพ่อจันทร์..จน..สอบถามจนพบ...แล้ว..ก็..บอกวัตถุประสงค์..กับ..ท่าน........
...........หลวงพ่อจันทร์ท่านเป็น..พระ..ที่ผิวพรรณ..ผุดผ่องมาก
..ผิวออกขาว..จมูกโด่ง...รูปร่างค่อนข้างผอม..แต่กระดูกและ
โครงร่างค่อนข้างใหญ่...แววตา..สงบ..นิ่ง...ขณะฟัง..พ่อเล่าที่มาที่ไป..ท่านยิ้มน้อยๆ..กับ..พยักหน้าเป็นระยะๆ...
..............พอพ่อพูดถึงรูปหล่อที่จะเอามาให้ท่านปลุกเสกและถวายให้ท่านไว้ด้วย....ผมก็เอารูปหล่อ..ทั้ง..สอง..ออกมาจากกล่อง......
....แล้วนำไปถวายให้ท่านดู...คราวนี้..แววตาท่านสดใสขึ้นทันที.....
...ท่านประครองรูปหล่อไว้ในมือ..หันซ้าย-ขวา..มองตรง..สลับไปมา
..แล้วพูดยิ้มๆว่า...เออ..ดีมาก..เหมือน..คุณพ่อ..มาก..ปั้นเก่ง..
...เหมือน..คุณพ่อตอนยังไม่แก่มาก....
......................พ่อก็บอกท่านว่า..รูปต้นแบบ...พ่อถ่ายไว้เองตั้งแต่ปี
๒๔๙๕...แล้วพ่อก็หยิบรูปออกมาจากซอง..(..ก่อนวันจะมาเป็นครั้งแรก
ที่..พ่อถอดรูปจากกรอบกระจกที่..ทำมาตั้งแต่อยู่เมืองเพชร...เหลือแต่
กระดาษแข็ง..ที่ตอนล่างพ่อเขียน..ชื่อ..หลวงพ่อศุข..และวัน..เวลา..ปี
ที่ถ่าย...กับตัวรูปถ่ายที่มีขนาดเล็กกว่า..กระดาษแข็ง..แปะติดอยู่อย่างดี...)....แล้วก็ถวายให้ท่านดู...โดยท่านวางรูปหล่อกับพื้น..แล้ว
รับรูปไปดู............................................
.........................หลวงพ่อจันทร์มองรูป...อย่างนิ่งสนิท..โดยขยับ
แค่..มุมปากขยับยิ้ม...และแววตา..ที่แววมากขึ้น...ตามด้วย..น้ำตาของท่านที่..คลอ..จนเ้อ่อล้น
...................ผมยืนยันด้วยตัวเอง..ว่าผมจ้องเหตุการณ์ที่สำคัญกับ..ครอบครัวผม...ท่านนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่ต่ำกว่า..๓..นาที
...........แล้วท่านก็พูดขึ้น..ว่า...ไม่เคยเห็น..ตุณพ่อ..อยู่ในท่า
ที่ผ่อนคลาย..สบายๆ..เป็นตัวของตัวเอง....อย่างนี้มาก่อน..(ขณะที่ท่านพูดท่านก็..ไม่ได้วางตาจากรูป..และมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา).............
.........จากนั้นพ่อก็เล่าว่า..ถวายให้หลวงพ่อศุขที่วัดโตนดหลวง...แล้ว
ก็เห็นแขวน..อยู่.......หลวงพ่อจันทร์ท่านมองภาพไปพูดไปว่า...เวลาท่านไปเยี่ยม..หลวงพ่อ ..ท่านไม่ยักเห็น..ภาพนี้เลย...
........พ่อ.หันไปมองหน้า..แม่..แล้ว..ทำน้าแปลกใจ..ด้วยกันทั้งคู่...
คือ...เมื่อ..หลวงพ่อจันทร์พูดแบบนี้..แสดงว่ามี..คนเอาไปแล้ว....
.....พ่อก็เลยบอกวัตถุประสงค์...กับท่านว่า....อยากจะให้หลวงพ่อจันทร์
ลง(ปลุกเสก)ให้หน่อย..เพื่อเป็นสิริมงคล...เพราะตอนนั้น...ไม่ได้เอารูปนี้ไปให้ท่าน..ตั้งอยู่ที่โต๊ะพระ..เอาแต่รูปที่จะไปถวายท่านไปให้รูป
เดียว.......................
..............คราวนี้ท่านนิ่งอยู่พักหนึ่งสั้นๆขณะเดียวกับที่
จ้องรูปไปด้วย...แล้วท่านก็เริ่มเอาปลายนิ้วชี้แกะรูป
ที่ปลายมุมขวาล่าง...ของรูป..ที่ติดกับ..กระดาษแข็ง
(ทั้ง..พ่อ..แม่..และ..ผมก็ตกใจ..กลัวรูปจะขาด..เพราะ..รูปติดกาวอยู่กับกระดาษแข็ง...)..แต่รูปก็ค่อยๆ..แยกออกมาจากกระดาษแข็ง..อย่างน่าแปลกใจ...เพราะก่อนหน้านี้..ผมตรวจสอบดู..รูปก็ติดแน่น
ดี.........แล้วเหตุการณ์อันน่าตื่นใจก็เกิดขึ้น........
...............................................................
......................เอาละครับไว้ตามอ่านกัน..ตอนหน้า..ว่า
จะเกืดอะไรขี้น.....................
............ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกันตลอด....ขอบพระคุณครับ
............................................สวัสดี

 

รอติดตามครับ กำลังน่าสนใจมาก

ถ้าเป็นไปได้อยากทราบเรื่องราวของหลวงปู่นิ่ม วัดเขาน้อยเพิ่มด้วยครับ

ขอบคุณครับ

 

รอคอยบทความดีๆที่น่าอ่านอย่างต่อเนื่องอย่างไม่เบื่อหน่าย เป็นกำลังใจให้นะครับ..ทุกตัวอักษรคือวิทยาทานความรู้จริงๆครับ

 

.............ขอบคุณครับ..คุณORKAR...คุณ ตันน้ำ เพชร..ที่ชม..และติดตามกัน...รวมถึงท่าน
ทั้งหลายที่ได้อ่านและติดตามตลอดมา.........
...........ก่อนอื่นผมขอตอบที่ถามมาก่อนนะครับ...ผมและพ่อ..ไม่มีประสพการณ์...และเคยพบ..(พ่อผมคงอาจเคยเจอที่วัดโตนดหลวง..แต่ไม่ทราบ
ว่าท่านเป็นใคร)..หลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย ประจวบฯ ..ถ้าประวัติคง
ไปsearch..ใน WEB..ได้..แต่ผมมี..เกร็ดเล็กน้อยกับ..ท่าน...ท่านจัดอยู่ในศิษย์รุ่นใหญ่..ของหลวงพ่อศุข...แต่หลังหลวงพ่อจ้วน..กับ..หลวงพ่อชิน..ท่านอยู่ประจำที่วัดโตนดหลวง...เมื่อศิษย์รุ่นก่อนหน้าไปจากวัดโตนดหลวง..ท่านก็ต้อง..ทำหน้าที่..อาจารย์ช่วยสอนรุ่นน้อง..ให้หลวงพ่อศุขด้วย.....ท่านอาจจะทันสมัยที่หลวงพ่อจันทร์ยังอยู่ที่วัดโตนดหลวง...คงคุ้นเคยกันและสอนกันมา...ตอนหลังยังตามไปเรียนวิชา..
ตะกรุดไม้ไผ่..จากหลวงพ่อจันทร์อีก...............................
.......ความจริงคนรุ่นหลังๆจะไม่ทราบ..ว่าในบรรดาศิษย์หลวงพ่อศุข
ทั้งหมด...หลวงพ่อนิ่มเป็นองค์แรกที่ได้รับการกล่าวขวัญ..และ..ลง
ประวัติ..ในนิตยสารพระเครื่องรายเดือน..ในด้านพุทธาคม..ก่อนใครทั้งหมด..หลายฉบับด้วย..เมื่อซัก..ประมาณ ๓๐ กว่าปีมาแล้ว...ก่อน..แม้
กระทั่ง..อาจารย์(หลวงพ่อศุข)เองด้วยซ้ำ...แต่ผมไม่ทราบสาเหตุการ
ที่เงียบไปในตลาดกลาง..แต่ที่ประจวบ..ไม่ใช่...ท่านนะ..เก่งมากแต่ดี
สำหรับคน..ประจวบ..เพราะเวลาหาของท่าน..จะได้ไม่แพง...พ่อผม
ก็มีเหรียญท่าน..ที่ด้านหลังเหรียญเป็น..ยันต์ครู..ผสมกับรูป..พระมหาอุตต์...ตะกรุดไม้ไผ่ท่านก็เป็น..ของทีเด็ด..ดู๋ดี๋..กับของหลวงพ่อเมี้ยน
..แต่ของหลวงพ่อเมี้ยนทีโด่งดัง..ต้องเป็น..ไผ่ตันกลางกอ.....
.................................................................................................
............ผมก็ขอต่อ..เรื่องเดิมเลยครับ......................................
..ขณะที่ท่าน..ค่อยๆดึงรูปถ่าย...พร้อมกับ..พลิกรูปนั้น....
..ท่านก็พูดว่า.."..คุณพ่อ...ลงไว้ให้แล้ว.."ตอนนั้น
..ยังไม่ได้เห็น..ว่ามีอะไรด้วย..ซ้ำ...พ่อผมได้ยิน..แล้ว..สะดุ้ง
..พร้อมกับร้อง..ฮ้า..ด้วยความตกใจ..และงุนงง..ผมเหลือบ
สายตาไปมองพ่อ..แค่แว๊ปเดียว..แล้วกลอกตา..กลับมาท่าน..
...อยา่งรวดเร็ว..เพื่อดูเหตุการณ์ต่อไป..ขณะได้ยินเสียง..พ่อ
พูดกับ..แม่..ว่า.."เราไม่ได้เอาไปวัดนี่.."....ท่านก็ได้พลิกรูป
กลับไปเป็น..ด้านหลัง...ทั้งหมดแล้ว..ท่านจ้องดูด้านหลัง...
.....พร้อมกับอมยิ้มเล็กๆ..แล้วพูดว่า..นี่ไง..ลายมือคุณพ่อ
ชัดเจน.....พร้อมกับ..ยื่นรูปที่พลิกหลังแล้ว...มาให้พ่อ..
...พ่อรับมาดู...พ้อมกับ ผม..และ..แม่..ที่ชะโงกหน้าเข้าไปดู
พร้อมกัน...
.....เป็น..รูป..ยันต์ครู..ที่เขียนด้วย..ดินสอ...ใหญ่
ขนาด..เกือบ..เต็มรูป(..๕"x๗")....ผมเหลือบเห็นขน
ที่แขนพ่อที่กำลัง..ถือรูปดู..ลุกซู่...........
..........พ่อ..หัน..ไป..มองหน้า..แม่..ซึ่งทั้งคู่หน้าตา..ตกตะลึง
ทั้งคู่..พ่อพูดกับ..แม่..ว่า.เธอเอาไปให้ท่านลง..แล้วไม่ได้บอกพี่
เหรอ....แม่ก็สวนทันควัน...จะบ้าเรอะ...ตั้งแต่เอาไปอัดเสร็จ..ก็
เอาไปเข้ากรอบ..ก่อนเข้ากรอบ..พอร้านเขาแปะกระดาษแข็ง
..เธอก็ไปเขียนใต้รูป..แล้ว..ก็เข้ากรอบเลย...เราก็เอาไปตั้งใน
ห้องพระ..แล้วก็ไม่ได้เอาไปไหนเลย..จน..ย้าย........ทั้ง..๓
(รวมผมด้วย)..ก็หันไปมองหน้า..หลวงพ่อจันทร์..พ่อพูดกับ
ท่านว่า...ผมงงไปหมดแล้วครับ..ไม่เคยเอารูปนี้ไปไหนเลย...
อยู่ที่บ้านตลอด........หลวงพ่อจันทร์..ก็..อมยิ้ม..แล้ว
หัวเราะ..เบาๆ..หึ..หึ..(แม่เล่าให้ฟัง..ระหว่างทางกลับ...
ว่า..เหมือนตอนที่..แม่ถาม..หลวงพ่อศุข..ว่าท่านทราบได้ยังไง
..ว่า..รถไปจอดตายอยู่(เคยเล่าเรื่องนี้ไปแล้ว...หลายตอนก่อนหน้านี้..)..หลวงพ่อศุขก็อมยิ้มแบบนี้..แล้วก็..หัวเราะ..หึ..หึ..
..เหมือนกันเลย..)..แล้วก็ไม่พูดต่อ.....
.............................................................................
..................เอาละครับ....วันนี้ขอ BRAKE...ไว้ก่อน..แค่นี้......ไว้ต่อ
ตอนหน้า...ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน...ขอบพระคุณ..ครับ
......................สวัสดี...................................

 

คุณอาครับผมเองเป็นทายาทรุ่นหลังของ "ตระกลูทองมาก" ในเขตอำเภอท่ายางดีใจมากครับที่ได้รับทราบว่า "หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง" ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาจากหลวงพ่อทองสุข วัดโตหนดหลวง เพราะว่าท่านคือคุณตาทวดของผมเองครับผมเองเป็นรุ่นหลังของตระกูลส่วนมากคุณยายมักจะเล่าให้ฟังว่าคุณตาทวด(หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง)ท่านเคยสร้างวิบากกรรมไว้กับวัวและหลังจากท่านก็เข้าใจถึงบาปบุญคุณโทษท่านจึงตัดสินใจบวชตลอดชีวิต ที่ผมแทรกมาไม่ได้หวังอะไรจากทุกๆท่านนะครับ เพียงแต่ตลอดเวลาเกือบ 10 ปีหลังจากคุณตาคุณยายของผมเสียชีวิตเรื่องราวของบรรพบุรษก็ไม่เคยเข้าสู่หัวสมองผมเลย มีแต่ปัญหาคาใจที่ผมต้องการคำตอบจากใครซักคนเพื่อเชื่อมโยงสิ่งที่ผมได้รับรู้มาในอดีตจนมาวันนี้ผมได้ทบทวนบทความของคุณอาโดยละเอียดจึงทำให้ผมหาคำตอบที่คาใจได้แล้ว.....ต้องขอขอบคุณคุณอาไว้ ณ โอกาสนี้อีกครั้งนะครับ นี้ล่ะครับบทความที่เป็นวิทยาทานตัวจริง....

 

เข้ามารอตอนต่อไป ครับ

ขอบคุณสำหรับเรื่องหลวงปู่นิ่มครับ

รู้แต่ท่านค่อนข้างดุ มาก ( อาจารย์ผมท่านเล่าให้ฟัง ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่นิ่มครับ )

ขอบคุณครับ

 

เมื่อวานนั่งอ่านตั้งแต่หน้า1 วันนี้เลยต้องเข้าระบบมาบอกว่ามีผู้รออยู่อีกมากไม่ใช่เฉพาะผม
ไม่อยากเข้าระบบ มาอ่านก็มาก

 

................ขอบคุณครับ..คุณต้นน้ำเพชร...คุณORKAR...คุณNATCHAIAMON....ที่ติดตามและให้กำลังใจกัน..ครับ...รวมถึง..ท่าน
ทัื้งหลาย..ที่ติดตามอ่านกันตลอด...
...........คุณ..ต้นน้ำเพชร..คุณทราบหรือไม่ว่า..เมื่อประมาณปี..๒๕๑๐
...หลวงพ่อจ้วน...ท่านมีลูกศิษย์อยู่..ท่านหนึ่ง..ตอนนั้นเป็น..พันเอก..
...แก..ตำแหน่งเป็น..ผู้บังคับการกรมทหารราบที่๒..กองพลอาสาสมัคร
..เสือดำ..ผลัดที่๑..(กรมฯนี้..บู๊ล้างผลาญ)..ที่ไปราชการสงครามที่....
เวียตนาม..ก่อนที่จะไป..กรมฯนี้ฝึกอยู่ที่ี..ลาดหญ้า..กาญจนบุรี(ตอน
หลัง..สถานที่ฝึก..จึงกลายเป็น กองพลที่ ๙)....ผบ.คนนี้เคารพนับถือ
ท่านมาก...และเคยให้..หลวงพ่อจ้วน..ปลุกเสก..เหรียญเพื่อแจกให้
..ลูกน้อง..ทั้งกรม..และเคยพาท่าน..ไปที่..ลาดหญ้า..เพื่อ..ประพรมน้ำ
พระพุทธมนต์...ตัว..ผบ.เอง..และลูกน้องทั้งหมด..ก่อนไปรบที่.....
...เวียตนาม..(..แต่..ผบ.คนนี้ไม่ใข่..พ่อผมนะครับ...แกเป็นลูกน้องพ่อ
ผมเอง).......หลวงพ่อจ้วนท่าน..ไม่เคยใช้..ยันต์ครูที่..เหรียญท่าน
...เพราะท่านไปเรียน..เพิ่มเติมมา...หลายอาจารย์..ทั้ง.ระหว่าง
ธุดงค์..และหลังจากไปอยู่..วัดเขาลูกช้างแล้ว............
......................................................................................
.....ขอต้อนรับ..คุณ NATchaiamon...ครับ...คงเมื่อ..ลูกกะตาไปเลย
..อ่านตั้งแต่..หน้าแรก..............
................ก็ต่อ..แล้วกัน.............................................
.........................................................................................
....พ่อ..แม่...และ..ผม..ก็เลย..ต้องจบแค่..นั้น...เรารู้กันดีว่า..ไม่มี
ประโยชน์ที่จะถามท่าน.....ยังไงท่านก็ไม่บอก...เพราะท่าน..เป็น
ทั้ง..ลูก(เหมือนลูก)..และ..ศิษย์...ของ..หลวงพ่อศุข...ซึ่งจะ
ไม่มีการอวดอ้างคุณวิเศษ...ใดๆทั้งสิ้น............................
.................................................................................
..........พ่อ..มอง.ยันต์ครู..หลังรูป..แล้ว..ส่ายหน้า..พร้อมกับ
หัวเราะเบาๆ...แล้วพ่อเอามือ..จบ..ที่รูปหลับตา..ยกรูปขึ้นเหนือ
หัว...รำลึกถึง..หลวงพ่อศุข..ผมเหลือบไปมอง..ที่..หลวงพ่อจันทร์
ขณะที่...ท่านมองพ่อ....สีหน้าท่านตอนนี้...ต่างกับตอนที่..ผมกราบท่าน..ทีแรก..อย่างสิ้นเชิง...ตอนแรกท่าน..นิ่ง..และ..สงบ.....
.....แต่..ตอนนี้..ท่านยิ้มยัง..มีชีวิตชีวา...และ หน้าตา.สดชื่น..
..แจ่มใส...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง....แววตา....
.............แล้วท่าน..ก็เอ่ยขึ้นว่า..."....อาตมาเห็น..รูป
คุณพ่อรูปนี้..แล้วชอบมาก..มีชีวิตชีวา...อยากขอยืม
รูปนี้...ไว้...เพราะจะเอาไปอัดขยายให้..ใหญ่.ที่....
หัวหิน...จะได้เอามาตั้ง..ดู..ที่นี่..ใกล้ๆ..ว่าไง..โยม.."
.........ระดับท่านเอ่ยขึ้นมาแบบนี้...พ่อจะปฏิเสธได้ยังไง
....พ่อ..ก็..รีบตอบกลับไป..ว่า..ไม่เป็นอะไร...ครับท่าน..ท่านเอาไว้กี่วัน
ก็ได้ครับ.....แล้วพ่อก็ประคองรูปฯเอาไปถวายท่าน..ท่านก็รับไว้....
..............หลวงพ่อจันทร์ท่านยิ้มอย่างมีความสุข..และ
บอก...เรื่องรูปหล่อทั้งสอง..นี่ทิ้งไว้นื่..ท่านจะปลุกเสกให้..อย่างเต็มที่..เห็นกับความมุ่งมั่นของพ่อ...
....และความเคารพเทิดทูนของพ่อที่มีกับ..คุณพ่อ
(หลวงพ่อศุข)ของท่าน...และท่านบอกอีก..ว่าจะต้องหา
..วัตถุหลายอย่าง..ประจุในฐาน...ซึ่งต้องใช้เวลาหน่อย...อีกเดือนหนึ่ง..ค่อยมารับ..พร้อมกับรูปฯ..
...........หลังจากนั้น..ก็เป็นคราวของผม..เริ่ม..การสอบถาม
..หลายๆอย่างเกี่ยวกับ..หลวงพ่อศุข..เหรียญของหลวงพ่อศุข
..เกี่ยวกับตัว..หลวงพ่อจันทร์ด้วย...(ที่เป็นที่มา..ของเรื่อง
ทั้งหลายที่..ผมเล่าให้ท่านทั้งหลายทราบนี่ละครับ)
..ท่านก็เล่าให้ฟังอย่าง..อารมณ์ดี....ผมว่าเลาผ่านไปร่วม๒
ชั่วโมงมั้ง...แล้วพ่อก็..บอกกับ...หลวงพ่อ..ว่า..อยากให้ท่านช่วย
ลง..กระหม่อมให้กับ..ผม..เพราะ..ว่า..เป็นหนุ่ม..แล้ว..และอารมณ์
หุนหัน..เสียงภัย..แถมปึนี้เรียนหนักด้วย(..ผมกำลังเรียน..อยู่ปี๑..)
...อีกอย่าง..พี่คนโตเขาโชคดี..หลวงพ่อศุข..ลงกระหม่อมให้...
...เดี๋ยวมันจะน้อยใจ..................
............................หลวงพ่อจันทร์..ท่านก็ยิ้ม..แล้วก็บอกว่า..ตกลง
....ผมกราบท่าน..ที่ด้านหน้า...นั่งคุกเข่าพนมมือ..รับการ..ลงกระหม่อม
....ด้วยดินสอ.........................
.......................เอาละครับ..เห็นจะต้อง..PAUSE..ไว้ก่อน...
..พักนิ้วหน่อย....ไว้ต่อกัน...ตอนหน้า........................
..............ขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน..ขอบพระคุณ..ครับ..
....................................สวัสดี..........................