พุทธบารมีฯ เหตุ๑ กรณีหลวงพ่อฯลาพุทธภูมิ และกิจหลังจากนั้นฯ

สาธุอนุโมทนาครับ อุ่นใจจริงๆ ช่วยกันดำรงพระพุทธศาสนา ให้ครบ 5000 ปี นะครับสาธุครับ

 

LOGGIN2

ขอให้พยามทรงอารมณ์พระโสดาบันให้ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของศีลเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักปฏิบัติฯ หมั่นในการเจริญภาวนา ในไม่ช้าสมาธิจะมีความก้าวหน้าขึ้นได้ตามที่หวังฯ ขอบารมีพระทุกพระองค์จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัวประสพแต่ความสุขสำเร็จสมหวังสมความปรารถนาทุกประการนับแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญฯ

 

เหตุ๑ (2) อันเป็นเหตุ๑ กรณีหลวงพ่อลาพุทธภูมิฯ


ที่ผ่านมาเป็นการยกตัวอย่างบุคคล3บุคคล ที่ลาเข้านิพพานตามหลวงพ่อฯท่านไป ในตอนนี้จะกล่าวถึงคณะบุคคลที่ลาพุทธภูมิฯ ตามหลวงพ่อฯไปเช่นกัน และท่านได้ยังกิจบางอย่างซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในพระศานาตามมาเราจะสมมุติขอเรียกคณะฯนี้ว่า "คณะพระธาตุแก้วมณีโชติ"
คณะฯนี้ก็มีปฏิทาเหมือนๆกับคณะทำบุญทั่วไป แต่ที่เป็นกรณีพิเศษคือการสร้างพระพุทธรูป ท่านสร้างกันเป็นจำนวนมากจนนับจำนวนไม่ได้จริงๆ สร้างกันมาแต่เล็กๆ จิตมีความมั่นคงมากในพุทธานุสติกรรมฐานเป็นปกติ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งท่านปรารถกันถึงการสร้างพระ ท่านสร้างพระจากวัตถุที่เป็นเลิศเกือบทุกชนิดที่พึงจะหาได้ ท้ายสุดท่านปรารถการสร้างพระจากแก้วชั้นดีที่สุดคือ"แก้วมณีโชติ" ตามที่ได้ยินหลวงพ่อฯ เทศน์ในคราวหนึ่ง ถึงแก้วมณีโชติฯซึ่งเป็นแก้วที่ดีที่สุด และหายากมากมีที่เดียวคือในพระนิพพาน มีแสงสว่างในตัวเองแม้อยู่ในที่มืดก็สามารถมองเห็นได้ และนี่ก็คือที่มาของการสร้างพระพุทธรูปที่อลังการที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งพระศาสนา

 

ขอร่วมในการโมทนามหาบุญอันยิ่ง

ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมโมทนาในมหาบุญบารมี ที่ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ในคณะ พระธาตุแก้วมณีโชติ ได้ตั้งเจตนาอันอลังการยิ่ง ในการสร้างพระที่สำคัญจากสิ่งอันประเสริฐกว่าสิ่งทั้งปวงในโลกนี้ เป็นการสร้างพระโดยเป็นยอดแห่งปัญญาบารมี คือสร้างพระพุทธรูปจากแก้วมณีโชติ พระท่านจะงดงามมากเพียงใด คงยากที่จะกำหนดได้ ด้วยคงจะเป็นเหตุแห่งบุญที่ท่านผู้เจริญทั้งหลายได้มีโอกาสได้รับรู้ และได้ร่วมสร้าง พร้อมโมทนาบุญในมหาบุญบารมีอันไม่มีประมาณแห่งพุทธศาสนา เป็นวาระแห่งท่านผู้มีคุณ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย และคณะ พระธาตุแก้วมณีโชติ จะยังประโยชน์เกื้อกูลแก่พระ
ศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองตั้งมั่นสืบไป

ขอนอบน้อมถวายมหาบุญบารมีทั้งหลาย ที่ท่านผู้เจริญได้บำเพ็ญมาเป็น
อนันต์ ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บูชาคุณบิดามารดา
คุณแห่งครูบาอาจารย์ คุณแห่งเทพ พรหม อันไม่มีประมาณ
ขอความสำเร็จธรรมโดยพลัน จงบังเกิดแก่ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ให้มีกำลังอภิญญา บารมีธรรมทั้งปวง เป็นกำลังแห่งพระศาสนาสืบไป


นำธรรม อนันตชัย (f) (f) (f)

 

อานิสงส์แห่งการบูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตอน2

(i) พระอสนโพธิยเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้ปลูกต้นประดู่ ซึ่งเป็นต้นไม้ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้านามว่า "ติสสะ" แล้วได้อุทิศถวายแก่พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นบำรุงรักษาต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้นตลอด 5 ปี อานิสงส์นั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย เคยอุบัติเป็นเทวดาและพระเจ้าจักรพรรดิในชาติสุดท้ายได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระโพธิสิญจกเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้นำดอกไม้และน้ำหอมไปโปรดและรดที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า " วิปัสสี " ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย ในชาตสุดท้ายท่านได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระเอกาสนิยเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้บรรเลงดนตรีและฟ้อนรำบูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า " อัตถทัสสี " แล้วบำเพ็ญสมาธิภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นันด้วยจิตเลื่อมใส ด้วยอานิสงส์นั้น จึงไปเกิดเป็นท้าวสักกเทวราชและพระเจ้าจักรพรรดิ ในชาติสุดท้ายท่านได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i)พระอนุโลมทายกเถระ (i)
ในอดีตชาติ ท่านได้ทำแท่นบูชาที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า " อโนมทัสสี " ด้วยอานิสงส์นั้น จึงไปเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ในชาติสุดท้ายท่านได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระตัมพปุปผิยเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านเคยนำดอกไม้ไปบูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า " วิปัสสี " แล้วทำสมาธิภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย ในชาติสุดท้ายท่านได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระเอกทีปปิยเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้ถวายประทีป 1 ดวง บูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าของพระนามว่า "ปทุมุตตระ" ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย เคยเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิถึง 4 ชาติ ในชาติสุดท้ายท่านได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระโพธิอุปัฎฐายกเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านเป็นคนตีตะโพน ได้บำรุงต้นพระศรีมหาโพธิ์อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า(ไม่ระบุพระนาม)เป็นประจำ ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านไม่เคยไปสู่ทุคติเลย เคยเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีอานุภาพมาก ในชาติสุดท้ายท่านได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระสีหาสนทายกเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านมีจิตเลื่อมใสได้กราบไหว้บูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า "ปทุมุตตระ " ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิถึง 8 ครั้ง ในชาติสุดท้ายท่านได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระมิญชวฎังสกิยเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้นำพวงมาลัยประดับศีรษะไปบูชารต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า " สิขี " ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านไม่เคยไปสู่ทุคติเลย เคยได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่มีอนุภาพมาก ในชาติสุดท้ายท่านได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระเวทิทายกเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้สร้างแท่นบูชาไว้ที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า "สิขี" ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านไม่เคยไปสู่ทุคติเลย เคยได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่มีอานุภาพมาก ในชาติสุดท้ายท่านได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ
(i) พระเตลมักขิยเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านใช้น้ำมันทาแท่นบูชาที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า " สิตธัตถะ " ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านไม่เคยไปสู่ทุคติเลย เคยได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่มีอานุภาพมาก ในชาติสุดท้ายท่านได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ
(i) พระอัฒจันทิยเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้ถวายอัฒจันทร์ไว้ที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานทีตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า " ติสสะ" ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านไม่เคยไปสู่ทุคติเลย เคยได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่มีอานุภาพมาก ในชาติสุดท้ายท่านได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

ข้าพเจ้าขอโมทนาบุญพระทั้งหมดนี้น้อมถวายพระเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ขอพระศาสนาเจริญรุ่งเรืองตั้งมั่นยิ่งๆขึ้นไปและขอคำอธิฐานที่ผมได้ทำตั้งใจถวายพระฯ และเพื่อนิพพานในชาตินี้ จงเป็นผลสำเร็จเทอญ

 

ขอโมทนาบุญในคณะพระธาตุแก้วมณีโชติเป็นอย่างสูงครับ
ขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์พระธรรมพระอริยสงฆ์ทั้งหมด จงช่วยให้คำอธิฐาน ขอคณะพระธาตุแก้วมณีโชติจงเป็นผลสำเร็จเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ...(bb-flower (bb-flower (bb-flower (bb-flower

 

พิธีบวงสรวงพระหัตถ์ฯ ถวายพุทธบูชาฯ

[b-wai]
คุณโต พระหัตถ์ใหญ่มากครับ มีความสูงประมาณตึก9ชั้น เรื่องผ้าห่มอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงฯให้พอดี แต่ยังไงเอาที่คุณโตสะดวกนะครับ จะให้ช่วยทำอะไรบอกได้เลยครับ เรื่องนิมนต์หลวงพี่ฯผมแจ้งให้ท่านทราบแล้ว ท่านปรารถว่างามมาก และคงต้องรอเป็นช่วงที่ท่านว่าง ส่วนท่านผู้ใดมีความคิดเห็นหรืออย่างไรกรุณาแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ จะได้เตรียมการให้ครับ ขอเรียนเชิญทุกท่านไปบวงสรวงพระหัตถ์ ณ เกาะพุทธภูมิ ถวายเป็นพุทธบูชา ด้วยกันครับ

 

สาธุๆๆครับ พอดีกำลังจะขอเบอร์มือถือหลวงพี่จาก"พี่แมว"อยู่พอดี โตทำเบอร์โทรท่านหาย ...พี่Sravnaneครับโตคิดว่า"ตุง"ต้องออกมา"สวย"แน่ๆครับ โตคิดแบบเอาไว้แล้วครับ ส่วนบายศรีก็ได้ไปติดต่อแล้วครับ...พี่ครับเราจะขึ้นไปบวงสรวงที่พระหัตถ์กันยังไงครับ? ต้องเดินขึ้นไปหลือว่าเอารถขึ้นไปครับเพราะเฉพาะตัวตุงก็มีน้ำหนักมากอยู่แล้วต้องเอาผ้ามาต่อกันถึง3ผับเท่ากับ"ม่านโรงละคร" และยังมี"แป็บ"เพื่อใช้ทำให้ตัว"ตุง"อยู่ตัว ขอความเห็นจากพี่ด้วยครับ ...สาธุๆๆ (ปล.โตจะได้เตืยมของที่จะใช้ได้ถูกต้อง และคิดว่าจะทำตะเกียง"น้ำหอม108ดวงไปจุดถวายด้วย)

 

ขอร่วมโมทนาบุญฯ ถวายพุทธบูชาฯ

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง โดยเฉพาะในด้านธรรมทาน ขอบารมีพระทุกพระองค์จงดลบันดาลให้ท่านเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นสุขสมหวังทุกอย่างตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญฯ

 

ถวายปัจจัย หล่อพระเจ็ดกษัตริย์ หน้าตัก 39 นิ้ว ประดิษฐานณ วัดประชานิยม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
หล่อหลวงปู่เสาร์ หล่อเท่าองค์จริง ประดิษฐาน ณ วัดอำมาตยาราม ประเทศลาว
ขอบุญที่ข้าพเจ้าได้หล่อพระสร้างพระมาแล้วหลายอสงไขยหลายแสนมหากัปล์ จงมารวมตัวกันขอโมทนาบุญในการหล่อพระทั้งหมดของคณะพระธาตุแก้วมณีโชติ น้อมถวายพระเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และขอบุญทั้งหมดนี้ ให้การสร้างพระแก้วมณีโชติ มีความอลังการสวยงามมากยิ่งๆขึ้น เพื่อน้อมถวายพระฯทั้งหมด

 

อันเป็นเหตุ๑ กรณีหลวงพ่อฯลาพุทธภูมิ (3)

[b-wai]
จากนั้นท่านก็พากันบำเพ็ญเพียรเจริญทาน ศีล ภาวนา สร้างพระพุทธรูปฯลฯถวายเป็นพุทธบูชาฯ พร้อมทั้งทำการหาแก้วมณีโชติฯมาสร้างพระฯถวายเป็นพุทธบูชาฯตามปณิธาณที่ได้ตั้งใจไว้ต่อไป
หลังจากหลวงพ่อฯท่านละสังขารเข้าสู่พระนิพพานแล้ว ทุกท่านก็มีความประ สงค์เหมือนกันคือต้องการพระนิพพาน เบื่อหน่ายกับการเดินทางอันยาวไกล
และความทุกข์ที่ไม่มีสิ้นสุดเสียที ท่านจึงประชุมกันตัดสินใจลาพุทธภูมิและเป็นกำลังใหญ่ในการค้ำจุนพระศาสนาจนครบ5000ปีตามพุทธพยากรณ์ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ ในการนั้นปรากฏว่าท่านได้พบวิธีการหาแก้วมณีโชติฯมาสร้างพระฯโดยบังเอิญพอดี

 

พระหัตถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เกาะพุทธภูมิ

(bb-flower (verygood)
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ถะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ข้าพเจ้าทั้งหลายขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ทั้งหมด พรหมเทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา
อันมีหลวงปู่ปานและหลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นที่สุด

ลูกตั้งจิตอธิษฐานกราบอาราธนาขอบารมีพระท่านไปยังเกาะพุทธภูมิน้อมถวายบุญ
ทั้งหมดเป็นพุทธบูชา ตอนกลางคืนฝันว่าได้ไปที่เกาะพุทธภูมิกับพี่ๆที่โคราช ขณะที่พี่ๆมาถึงที่บ้านก็เกิดฝนตกอย่างหนักแต่พอทุกคนลงจากรถแล้วฝนก็หยุดตกทันที แล้วเราก้เดินทางไปยังเกาะพุทธภูมิภาพที่ปรากฏคือเห็นรอยพระหัตถ์ขนาดใหญ่ลักษณะเหมือนในรูปที่ได้ลงไว้ พี่ท่านได้ทำพิธีบวงสรวง ได้ทำการสำรวจอย่ครู่หนึ่งก่อนจะกลับนั้นเราได้เห็นรอยพระหัตถ์ปรากฏบนแผ่นหินขนาดใหญ่อยู่ถัดลงมาจากรอยเดิม ยังความปิติกับคณะเรายิ่งนัก พี่ท่านได้เล่าถึงตำนาน
ณ ที่บริเวณแห่งนี้ให้พวกเราฟังแต่ลูกจำไม่ค่อยได้จึงไม่ขอลงไว้ หลังจากนั้นเราทุกคนได้ลาพระท่านกลับออกมา ตื่นขึ้นก็ได้ตั้งจิตอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตา ให้กับท่านทั้งหลาย เจ้ากรรม
นายเวร และผู้มีพระคุณทุกท่าน และด้วยบุญกุศลที่ได้ทำแล้วนี้ จงยังดวงจิตของเราทุกคนจงตั้งมั่นใน ศีล สมาธิ และปัญญา ดำรงตนอย่ในความไม่ประมาท บำเพ็ญเพียรแห่งการไม่มีภพ
ไม่มีชาติอีกต่อไป นิพพานชาตินี้นะค่ะ สาธุ

 

พิธีบวงสรวงพระหัตถ์ฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

[b-wai]
พระหัตถ์อยู่บนเกาะเล็กๆในทะเลใต้ครับ จากรูปซ้ายขวาให้ลากเส้นลงไปถึงพื้น
ด้านล่างรูปลงมาอีกนิดก็เป็นน้ำทะเลพอดีครับ ต้องนั่งไปจากฝั่งเรือไปประมาณ30นาที พระหัตถ์ที่เห็นในภาพซ้อนกัน2รอยครับ โดยเหลื่อมกันเล็กน้อย ขวาสุดเป็นปางห้ามฯขยับมาอีกนิดหนึ่งเป็นปางประทานพรฯ หลวงพี่ฯท่านก็ยังไม่เคยไปเหมือนกันครับ นับโดยอย่างเป็นทางการแล้วการบวงสรวงคราวนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่พระฯท่านประทานพระหัตถ์ฯไว้ ขอโมทนาบุญคุณโตและทุกๆท่านอีกครั้งเป็นอย่างสูง ที่ได้ถวายเครื่องบวงสรวงฯลฯ ส่วนกระผมตั้งใจมากคือนำทองคำเปลวปิดจักรแก้วกลางรอยพระหัตถ์ถวายเป็นพุทธบูชาฯ ขอบารมีพระทุกพระองค์ดลบันดาลให้พระศาสนาเจริญรุ่งเรืองตั้งมั่นสืบไปตลอดกาลนาน ให้ทุกท่านได้บรรลุธรรมตลอดจนอภิญญาสมาบัติทั้งหลายได้เป็นกำลังใหญ่ในกาค้ำจุนพระพุทธศาสนาจนครบ5000ปีตามพุทธพยากรณ์ด้วยเทอญฯ

 

(f) ถวายปัจจัยทำบุญทุกอย่างกับพระฯ ร่วมทอดกฐินพระราชทาน ณ วัดมัญชมาวาส อ.เมือง จ.สงขลา

(i) ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้เคยถวายผ้าไตรกฐิน ,ผ้าป่า,สังฆทาน ฯลฯ นับหลายอสงไขยกับแสนมหากัปล์และโมทนาบุญทังหมดในพระศาสนา ขอน้อมถวายพระฯ อธิฐานเหมือนพื่ท่านนี้เหมือนกัน(เพื่อประสงค์ขอให้พุทธบารมีและบุญที่ข้าพเจ้าได้มีจิตเลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัยได้ประกอบแล้ว ส่งผลให้ในศาสนาข้างหน้าขององค์สมเด็จพระพิชิตมารฯทุกพระองค์ ปรากฏเป็นผ้าไตรจีวรพร้อมอัฏฐบริขารสำหรับพระที่ได้บรรลุธรรมประสงค์จะออกบวชแต่ไม่เคยถวายผ้าฯตลอดกาลฯ เช่นกันครับ สาธุ สาธุ สาธุ..(i)

(f) ขอโมทนาพี่ท่านเป็นอย่างสูง ซึ่งทำให้ผมมีกำลังใจมีความสุขในการถวายบุญบูชาพระฯและมีส่วนช่วยเหลือพระสาวกขององค์สมเด็จพระพิชิตมารในกาลข้างหน้า ..

 

อัศจรรย์แห่งบุญ

<TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">

เมื่อข้าพเจ้าได้มีความรู้สึกอยากเข้ามาโมทนา ในกระทู้พุทธภูมิ



ในวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 15 ก.ย. นี้ได้เข้ามาอ่านข้อความที่ท่านผู้เจริญทั้งหลายได้บอกเล่า เพื่อร่วมโมทนา แต่ก็แปลกใจที่ข้อความใหม่ ๆ หลายข้อความได้มีชื่อของข้าพเจ้าได้ร่วมโมทนาแล้วเมื่อวานนี้
โดยที่เมื่อวาน ข้าพเจ้ามีภาระต่าง ๆ ต้องทำอยู่จึงยังไม่มีโอกาส
ได้เข้ามา คงเป็นสิ่งอัศจรรย์ที่ไม่เคยได้พบ (หรืออาจผิดพลาดทางเทคนิค)
แต่หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ขอยกให้เป็นคุณงามความดีของพระ และท่านผู้มีคุณสงเคราะห์ ให้มีความมั่นใจในบุญ เชื่อมั่นในบารมี ที่ได้สร้าง ได้บำเพ็ญเป็นปัจจตัง
ขอพลังแห่งบุญอันประมาณมิได้ ด้วยเดช อำนาจ แห่งพุทธะบารมี
ที่จะยังประโยชน์เกื้อกูลแก่ข้าพพระพุทธเจ้า และท่านผู้เจริญทั้งหลายให้ได้รับรู้เพื่อเป็นการเจริญแห่งศัทธา ในคุณแห่งพระบารมีทั้งปวง
ขอท่านผู้เจริญทั้งหลาย จงเป็นผู้เจริญแห่งโลก เพื่อเป็นกำลังแห่งพระศาสนาให้ตั้งมั่นสืบไป

ขอเหตุแห่งธรรมอัศจรรย์แห่งบุญ ด้วยคุณพระพุทธเจ้าทั้งปวง พระธรรม พระอริยสงฆ์ คุณแห่งบิดามารดา ครูบาอาจารย์ คุณแห่งเทพ พรหม
จงดลบันบาลให้ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายให้ถึงเหตุแห่งธรรม พ้นทุกข์
ให้มีคุณแห่งอภิญญา บารมีธรรมทั้งปวงเพื่อถึงนิพพาน พลันเทอญ



นำธรรม อนันตชัย
</TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอร่วมโมทนาบุญฯ ถวายเป้นพุทธบูชาฯ

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ ขอบารมีพระทุกพระองค์จงปกป้องคุ้มครองท่านให้มีกำลังกายกำลังใจฯ สามารถปฏิบัติตนให้บรรลุในสิ่งที่ประสงค์ได้โดยง่ายและเร็วเทอญฯ
นิพพานัง ปรมัง สุขขัง

 

ประชุมพงศาวดารฉบับราษฏร์พระอนาคตวงศ์(๔)

พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา​

(i) น้อมเกล้ากราบขอขมาฯพระรัตนตรัย อารธนาบารมีแก้วประกายพรึก ๓ ประการคลุมกายและจิตของข้าพเจ้าและทุกท่าน ขออนุญาตินำเรื่องราวการบำเพ็ญเพียรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในกาลข้างหน้า ๑๐ พระองค์ เพื่อเผยแพร่แด่ท่านผู้เจริญทั้งหลายได้สดับตรับฟัง และร่วมโมทนาบุญกุศลทั้งหลายของพระมหาโพธิสัตว์เจ้าผู้เจริญด้วยบารมี ๓๐ ทัศ นั้นไซร้

อุเทศที่ ๔: ธรรมสามีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

​

(f) สมเด็จพระผู้ทรงพระภาคเจ้าตรัสแสดงพระสัทธรรมเทศนาแก่พระสารีบุตรว่า ในกาลเมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าสองพระองค์ คือ พระรามและพระเจ้ากรุงโกศลราชได้ตรัสในมัณฑกัปป์อันเดียวกันล่วงลับดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานแล้ว ในมัณฑกัปป์อันนั้นตั้งอยู่ถ้วนกำหนดกาลช้านานครบ ๖๔ อันตรากัปป์เข้าแล้ว แผ่นดินนั้นก็บังเกิดกัปป์วินาศฉิบหายไปด้วยไฟ ไฟไหม้อยู่สิ้นกาลช้านาน จนถึง ๓ อสงไขยล่วงไปได้ ๖๔ อันตรากัปป์ ๓ หนแล้ว ในกาลนั้นมีแผ่นดินตั้งขึ้นใหม่ เป็นกัปป์อันหนึ่ง ชื่อว่าสารกัปป์ ในสารกัปป์แผ่นดินนานได้ ๖๔ อัตรากัปป์นั้น บังเกิดมีพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งมาตรัสในสารกัปป์นั่นคือ พระยามาราธิราช จักได้ตรัสเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามชื่อว่าพระธรรมสามีสัพพัญญูผู้ประเสริฐพระองค์มีพระชนมายุได้ ๑๐ หมื่นปีเป็นกำหนด พระบวรกายสูงได้ประมาณ ๘๐ ศอก มีไม้รังเป็นพระโพธิประกอบไปด้วยพระพุทธรัศมีรุ่งเรืองสว่างประดุจดวงพระจันทร์พระอาทิตย์ และสายฟ้าแลบ ในเมื่อพระองค์ทรงพระดำเนินก็ดี ทรงนั่งก็ดี ไสยาสน์ก็ดี อยู่ในที่ใด ๆ บังเกิดมีพระบวรเศวตฉัตรสูงและกว้างใหญ่ได้ประมาณ ๓๐ โยชน์ ผุดขึ้นมาในประเทศเวหา ด้วยเดชานุภาพพระพุทธสัพพัญญูเจ้าบังเกิดมีขุมทองอันหนึ่งใหญ่สำเร็จในโลกมนุษย์ทั้งหลาย ในพระพุทธศาสนาพระยามาราธิราชนั้น ได้อาศัยขุมทองประพฤติเลี้ยงชีวิตเป็นสุข

​

(f) ดูก่อนสำแดงสารีบุตร พระยามาราธิราชบรมโพธิสัตว์ได้ก่อสร้างบารมี ๑๐ ประการ มีทานและศีลเป็นอาทิมามากแล้ว แต่กองบารมีอันหนึ่ง ปรากฏเป็นยอดยิ่งมงกุฏ บารมีเป็นปรมัตถคุณควรจะได้สำเร็จ ซึ่งพระพุทธสมบัติทั้งปวง พระองค์ตรัสดังนี้แล้ว จึงนำมาซึ่งอดีตนิทานแห่งพระยามาราธิราชบรมโพธิสัตว์ เป็นใจความว่า

​

(f) เมื่อครั้งพระพุทธศาสนาพระพุทธกัสสปทศพลญาณเจ้านั้น พระยามาราธิราชองค์นี้ ได้บังเกิดเป็นมหาเสนาบดีใหญ่แห่งสมเด็จพระเจ้ากิงกิสสมหาราช มีนามกรชื่อว่าโพธิอำมาตย์ อยู่มาวันหนึ่ง องค์สมเด็จพระพุทธกัสสปสัพพัญญูเจ้าเข้าสู่ผลสมาบัติเชยชมพระนิพพานเป็นบรมสุข ถ้วนกำหนดกาลแล้ว ออกจากผลสมาบัติในที่ภายใต้ต้นไทรใหญ่ ส่วนสมเด็จบรมกษัตริย์พระเจ้ากิงกิสสราชทรงพระจินตนาในพระหฤทัยว่า แท้จริงอันว่าพระมหากรุณาธิคุณเจ้า เสด็จออกจากผลสมาบัติใหม่ ๆ นี้ ถ้าแม้นบุคคลผุ้ใดได้ถวายทานแก่พระพุทธองค์เจ้าแล้ว จะบังเกิดผลอานิสงส์หาที่สุดมิได้ บัดนี้ควรเราจะทำทานรักษาศีล สดับตรับฟังพระสัทธรรมเทศนาขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า ทรงพระจินตนาการดังนี้แล้ว จึงมีพระราชโองการดำรัสสั่งราชบุตรทั้งหลายให้ตีกลองร้องป่าวชาวเมืองให้ทั่วกันว่า ถ้าบุคคลใดไปถวายทานแก่สมเด็จพระพุทธเจ้าก่อน เราจะให้ลงพระราชอาชญาบุคคลผู้นั้น แล้วตรัสสั่ง สหชาติโยธาทั้งหลาย ไปแวดล้อมพิทักษ์รักษาพระเชตุพนมหาวิหารไว้โดยรอบ

​

(f) ในกาลครั้งนั้นโพธิอำมาตย์ ได้ทราบเหตุดังนั้นแล้ว ก็มีความปราถนาจะถวายทานแก่องค์สมเด็จพระพระพุทธเจ้าบ้าง ถึงว่าราชบุรุษทั้งหลายจะจับตัวอาตมาไปถวายพระมหากษัตริย์ ๆ จะประหารชีวิตเราเสียด้วยความเพียรในการกุศลครั้งนี้ เสยฺโย ประเสริญโดยวิเศษอันยิ่งแล้วเราจะคิดเกรงกลัวพระราชอาชญานั้นด้วยเหตุใด โพธิอำมาตย์คิดดังนั้นแล้ว ก็ไปบอกกับบุตรภรรยาให้แจ้งดังพรรณนามนี้ว่า เจ้าจงจัดแจงแต่งอาหารเครื่องไทยทาน กระทำให้เป็นห่อใหญ่ให้แก่เราสักห่อหนึ่ง กับผ้าสักผืนหนึ่ง ฝ่ายภรรยาได้ฟังสามีบอกดังนั้นก็เกิดมีศรัทธารับวาจาว่าสาธุแล้ว ครั้นเวลารุ่งเช้า นางก็ไปจัดแจงแต่เครื่องไทยทานทั้ง ๒ สิ่งนั้น เสร็จแล้วนำมาให้แก่สามีแล้วกระทำเครื่องไทยทานอีกส่วนหนึ่งให้เป็นของแห่งตน ฝากสามีให้ไปถวายทานด้วย ครั้นโพธิอำมาตย์ได้เครื่องไทยทานดังปราถนาแล้วก็ตรงไปยังพระวิหารโดยเร็ว

​

(f) ครั้งนั้นพวกเสนาทั้งหลายที่แวดล้อมอยู่นั้นเห็นโพธิอำมาตย์ตรงเข้ามาจึงถามว่า โภ เสนาปติ ดูก่อนท่านเสนาบดี เหตุดังรือ ท่านจึงองอาจมายังสำนักสมเด็จพระพุทธเจ้า โพธิอำมาตย์ได้ฟังก็คิดว่า ถ้าเราจะบอกแก่คนทั้งหลายด้วยถ้อยคำมุสวาทว่า พระมหากษัตริย์ใช้ให้เรามาอารธนาองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าเข้าไปยังพระราชนิเวศน์ ก็จะได้ แต่ทว่าหาควรที่เราจะกล่าวมุสาไม่ เราก็ตั้งใจว่าจะถวายทานแก่สมเด็จพระพุทธเจ้า เมื่อเรากล่าวมุสาวาทแล้ว ทานของเราจะมีผลานิสงส์หามิได้ ควรเราจะบอกแก่คนทั้งหลายโดยความจริงเถิด เสนาบดีคิดแล้วก็บอกแก่ราชบุรุษทั้งหลายว่า เราจะไปถวายทานแก่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า

​

(f) ราชบุรุษได้ฟังถ้อยคำโพธิอำมาตย์ ก็มีความขึ้งโกรธ พูดกะเขาว่าท่านอำมาตย์ผู้เจริญ ท่านไม่ทราบราชทัณฑ์หรือ ท่านสำคัญว่าคอของท่านเป็นดุจดังคอช้าง คอม้า คอภูเขา คอเหล็กกระนั้นหรือ เออท่านไม่สำคัญหรือว่า คอของท่านเป็นประดุจดังต้นกล้วย กรูกันจับเอาตัวโพธิอำมาตย์มัดมือไพล่หลัง ไปถวายแก่พระมหากษัตริย์ กราบทูลเหตุนั้นให้ทรงทราบพระเจ้ากิงกิสสราชทอดพระเนตรเห็นอำมาตย์นั้นแล้ว ก็ทรงพระพิโรธสั่งให้นายเพชฌฆาตและนักการทั้งหลายว่า ดูก่อนเพชฌฆาตทั้งหลายผู้เจริญ จงลงราชทัณฑ์แก่อำมาตย์ฯ เพชฌฆาตเหล่านั้นฟังคำของพระราชา ก็พาเอาตัวโพธิอำมาตย์ไปตามรับสั่ง เพื่อว่าจะฆ่าเสียฯ

​

(f) ขณะนั้น องค์สมเด็จพระกัสสปทศพลญาณเจ้า ทรงทราบประพฤติเหตุดังนั้นแล้ว ทรงคิดว่าโพธิอำมาตย์นี้ เป็นหน่อโพธิสัตว์ เสมอวงศ์แห่งพระตถาคตมีอภินิหารเหตุได้กระทำมาแต่ก่อน จะกระทำกาลกิริยาตายเสียในเวลาวันนี้ สมเด็จพระกัสสปสัพพัญญูเจ้าทรงพระมหากรุณาแก่โพธิอำมาตย์จึงนิรมิตเป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าให้สถิตอยู่ในพระเชตวันวิหาร ส่วนพระองค์ยังพระพุทธรูปขององค์ให้อันตรธานหายเสด็จไปประดิษฐานอยู่ในที่สุสานประเทศ ครั้งนั้น บังจักษุแห่งนายเพชฌมาตไว้ ให้เป็นมหาละลวยละลายไป นายเพชฌฆาตเห็นรูปสมเด็จพระพุทธเจ้า เปรียบเหมือนกับเหล่าราชบุรุษทั้งหลายที่มานั่งอยู่นั้น กระทำแต่จักษุโพธิอำมาตย์ผู้เดียว ให้เห็นเป็นรูปพระพุทธองค์ จึงมีพระพุทธฏีกาตรัสว่า ดูก่อนโพธิอำมาตย์ผู้เจริญท่านจงละชีวิตของท่านเสียเถิด อย่ากระทำอาลัยในชีวิตอยู่เลย อันว่าปัจจัยทานของท่านมีประการใด ท่านจงให้ทานยังน้ำจิตต์ให้เลื่อมใสในพระตถาคตเถิด

​

(f) อันว่าเครื่องปัจจัยทานของโพธิอำมาตย์นั้น ราชบุรุษทั้งหลายเอามาวางไว้ตรงหน้าแห่งโพธิอำมาตย์ด้วยเดชะพระพุทธานุภาพ โพธิอำมาตย์ได้สดับฟังพระพุทธฏีกาตรัสดังนั้น ก็บังเกิดมีจิตต์โสมนัสส์ หาที่จะอุปมามิได้ ก็ถือเอาเครื่องปัจจัยทานของอาตมาส่วนหนึ่ง ของภรรยาส่วนหนึ่งถวายแก่สมเด็จพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเบญจางคประดิษฐ์ แล้วกราบทูลว่าข้าแต่พระองค์ผุ้เป็นที่พึ่งแก่สรรพสัตวโลกทั้งหลาย อันว่าชีวิตนี้ข้าพระบาทเสียสละแล้ว ด้วยเดชะผลทานของข้าพระพุทธเจ้า ในกาลบัดนี้ขอให้ได้บังเกิดเป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าเห็นปานดังพระองค์ในอนาคตกาลโน้นเถิด โพธิอำมาตย์กระทำปณิธานความปราถนาดังนั้น สมเด็จพระภควันตบพิตรผู้ประเสริฐทรงพระอนุเคราะห์ยื่นพระหัตถ์ไปปรามาสเหนือศีรษะแห่งโพธิอำมาตย์ แล้วมีพระพุทธฏีกาว่า ตัวท่านยังความสุขเป็นอันมากให้บังเกิดแก่ตน จะได้พ้นจากวัฏฏทุกข์ในสงสารท่านปราถนาประการใดความปราถนานั้น จงพลันสำเร็จแก่ท่านเถิด

​

(f) ดูก่อนโพธิอำมาตย์ผู้จำเริญเอ๋ย กัปป์อันหนึ่งอันเป็นไปในอนาคตเบื้องหน้าโน้น ท่านจะได้บังเกิดเป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง สมดังความปราถนาของท่าน ทรงพยากรณ์ทำนายโพธิอำมาตย์ แล้วก็เสด็จกลับยังเชตวันมหาวิหาร กระทำภัตตกิจซึ่งปัจจัยทานบิณฑบาตที่โพธิอำมาตย์ถวายสำเร็จแล้ว ขณะนั้นนายเพชฌฆาต ก็ตัดศรีษะโพธิอำมาตย์ผู้เจ้าของท่านขาดตกลงกะเด็นไปจากกาย โพธิอำมาตย์กระทำกาลกิริยาตาย มหาปฐพีอันใหญ่ ก็ไหวหวาดเป็นมหัศจรรย์โกลาหล ครั้งนั้นเศวตฉัตรแห่งสมเด็จพระเจ้ากิงกิสสราช ก็หักทบลง พระองค์เห็นเศวตฉัตรหักประหลาดพระทัยนักให้สะดุ้งพระทัยไหวหวั่น สั่งให้ปิดประตูพระทวารไว้ให้มั่นฯ ลำดับนั้นอันว่าทิพย์วิมานทองอันประกอบไปด้วยนางเทพอัปสรสาวสวรรค์ ประมาณพันนางก็บังเกิดผุดขึ้นมาในสุสานประเทศที่กระทำกาลกิริยาตายแห่งโพธิอำมาตย์นั้นกับขุมทองทั้งหลาย ๑๖ ขุม และไม้กัลปพฤกษ์ด้วยต้นหนึ่ง ประกอบไปด้วยสรรพสิ่งสาระพันต่าง ๆ บังเกิดขึ้นในที่นั้น อันว่าบุตรภรรยาโพธิอำมาตย์ ก็ได้อาศัยอยู่ในวิมานทอง ได้บริโภคซึ่งขุมทองและไม้กัลปพฤกษ์ ประพฤติเลี้ยงชีวิตสืบมาถ้วยถึง ๕๐๐ ปีเป็นกำหนด ฝ่ายโพธิอำมาตย์ก็ได้ขึ้นไปบังเกิดในดุสิตาสวรรค์ เสวยทิพยสมบัติด้วยเดชะผลทานนั้นฯ

​

(f) ดูก่อนสำแดงสารีบุตร เมื่อครั้งศาสนาของพระยามาราธิราชนี้ มหาชนทั้งหลายได้บริโภคซึ่งเข้าสาลีเป็นนิจกาล ด้วยเดชะผลทานข้าวสุกห่อหนึ่งถวายแก่พระพุทธกัสสป ในกาลเมื่อเป็นโพธิอำมาตย์ เมื่อพระยามาราธิราชได้ตรัสแล้ว บังเกิดมีเศวตฉัตรแก้วสูงได้ ๓ โยชน์ ด้วยเดชะผลทานถวายผ้าผืนหนึ่ง และพระองค์มีชนมายุประมาณถึงแสนปีนั้น ด้วยเดชะผลทานที่สละซึ่งชีวิต

​

(f) ดูก่อนสำแดงสารีบุตร พระยามาราธิราชองค์นี้ ไปในอนาคตกาล จักได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามชื่อว่าพระธรรมสามี ดูก่อนสารีบุตร ผู้มีธรรมราชาผู้เจริญสัตว์ทั้งปวง ถ้าไม่ได้บรรลุธรรมอันเลิศในศาสนาของเรา ไม่ได้บรรลุในศาสนาพระอริยเมตไตรย ไม่ได้บรรลุในศาสนาพระรามสัมมาสัมพุทธ และในศาสนาของพระธรรมราชสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทั้งหลายจงปราถนาถึงพระธรรมสามีสัมมาสัมพุทธเจ้า

​

(f) สำแดงมาด้วยเรื่องราวพระยามาราธิราชบรมโพธิสัตว์เคารพ ๔ ก็ยุติแต่เพียงนี้ฯ

​

(f) อุเทศของพระญามาร ผู้จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อุเทศที่ ๔ จบแล้วด้วยประการฉะนี้

 

ประชุมพงศาวดารฉบับราษฏร์พระอนาคตวงศ์(๕)

พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา​

(i) พนมมือน้อมเกล้ากราบขอขมาฯพระแก้วรัศมีโชติ อารธนาบารมีแก้วประกายพรึก ๓ ประการคลุมกายและจิตของข้าพเจ้าและทุกท่านให้ยั้งจิตอยู่ในพุทธนุสติกรรมฐาน ขออนุญาตินำเรื่องราวการบำเพ็ญเพียรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในกาลข้างหน้า ๑๐ พระองค์ เพื่อเผยแด่ท่านผู้เจริญทั้งหลายได้สดับตรับฟัง และร่วมโมทนาบุญกุศลทั้งหลายของพระมหาโพธิสัตว์เจ้าผู้เจริญแล้วด้วยบารมี ๓๐ ทัศ

อุเทศที่ ๕ : พระนารทสัมมาสัมพุทธเจ้า

​

(f) สตฺถา สมเด็จพระบรมครูสัพพัญญูเจ้าของเราตรัสพระสัทธรรมเทศนาว่าในกาลเมื่อสิ้นศาสนาพระยามาราธิราช ผู้เป็นพระธรรมสามีสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว โลกทั้งหลาย จะศูนย์จากสมเด็จพระพุทธเจ้าสิ้นกาลช้านานถึง ๘ กัปป์ แผ่นดินตั้งขึ้นมาใหม่ได้แสนแผ่นดิน ๆ นั้น ศูนย์เปล่าเป็นสุญญกัปป์ หาบังเกิดสมเด็จพระพุทธเจ้าไม่ ในเมื่อสุญญกัปป์นับได้แสนแผ่นดิน ล่วงไปแล้วจึงบังเกิดแผ่นดินขึ้นมาใหม่ มีนามชื่อว่ามัณฑกัปป์นั้นเป็นแผ่นดินทรงในกัปป์นั้น พระเจ้าได้ตรัส ๒ พระองค์ คือ พระยาอสุรินทราหู ๑ โสณพราหมณ์ ๑ อันว่าพระอสุริทราหูจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อน ลำดับนั้นโสณพราหมณ์ จักได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าสืบไปฯ

​

(f) เมื่อพระยาอสุรินทราหู ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ทรงพระนามว่าพระนารทะมีพระองค์สูงใหญ่ได้ ๒๐ ศอก มีพระชนมายุยืนได้หมื่นปีเป็นกำหนด มีไม้จันทร์เป็นพระโพธิ ประกอบไปด้วยรัศมีสว่างรุ่งเรืองทั้งกลางวันกลางคืน เปรียบประดุจดังว่าสายฟ้าในกลีบเมฆ พระพุทธรัศมีที่เป็นแผ่นทึบเป็นแท่งเดียวนั้น ปรากฏสัณฐานดุจดอกปทุมชาติอันตั้งขึ้นมา ครั้นศาสนาพระอสุรินทราหูนั้น ในประเทศแผ่นดินทั้งปวงเกิดรสภักษาหาร ๗ ประการ มนุษย์ทั้งหลายได้บริโภคภักษาหาร ๗ ประการ อันเกิดแก่แผ่นดินก็ประพฤติเลี้ยงชีวิตของอาตมาเป็นสุขสำราญมิได้ขาด

​

(f) ดูก่อนสำแดงสารีบุตร อันว่าพระนารทะผู้ทรงพระภาคนั้น มีพระรัศมีเห็นปานดังนี้ คือ อสุรินทราหูแต่ก่อนได้สร้างบำเพ็ญพระบารมีทั้งหลาย ๑๐ ประการมาเป็นอันมากแล้ว จึงได้ตรัสเป็นพระเจ้าในอนาคตกาลฯ แต่กองบารมีอันหนึ่ง อสุรินทราหูได้กระทำเป็นปรมัตถบารมีอันยิ่ง ปรากฏเป็นอัศจรรย์พระองค์มีพระพุทธฏีกาดังนั้นแล้ว จึงนำมาซึ่งอดีตนิทานมาตรัสพระสัทธรรมเทศนาว่า

​

(f) อตีเต กาเล ในอดีตกาลล่วงแล้วช้านาน ในเมื่อพระศาสนาพระพุทธกัสสปทศพลญาณ อสุรินทราหูนี้ได้เสวยพระชาติเป็นบรมกษัตริย์ เสวยศิริราชสมบัติอยู่ในมัลลนคร เป็นเอกราชอันประเสริฐ ทรงพระนามชื่อว่าพระยาสิริคุตตมหาราช มีพระราชอัครมเหสีพระองค์หนึ่งทรงพระนามชื่อว่าลัมภุราชเทวีมีพระราชบุตรพระราชธิดา ๒ พระองค์พระราชบุตรมีนามชื่อว่า เจ้านิโครธกุมาร พระราชธิดาชื่อว่านางโคตมี อยู่มาวันหนึ่งยังมีพราหมณ์ ๘ คน พากันมาสู่สำนักแห่งพระยาสิริคุตต์กราบทูลขอพระนคร พระองค์ก็ทรงพระโสมนัสส์บังเกิดพระราชศรัทธา โปรดพระราชทานพระนครให้แก่พราหมณ์ทั้ง ๘ ยังแต่พระราชอัครมเหสีและพระราชโอรสทั้ง ๒ ก็พากันออกจากพระนครเข้าไปในอรัญญประเทศป่าสูงขึ้นสู่ยอดดอยชื่อธรรมิก กระทำอศรมอาศัยอยู่บนยอดเขาใหญ่ พร้อมกันทั้งสี่กษัริย์ทรงเพศเป็นบรรพชิตอยู่ในอาศรมบทฯ

​

(f) ในกาลครั้นนั้น ยังมียักษ์ตน ๑ มีนามชื่อว่ายันตยักษ์ใหญ่สูงได้ ๑๒๐ ศอก ออกจากประเทศราวป่ามาฉะเพาะต่ออาศรมแห่งกษัริย์ทั้ง ๔ องค์ยืนอยู่ในที่นั้นจึงกล่าวว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นกษัตริย์อันประเสริฐข้าพเจ้านี้เกิดมาเป็นยักษ์รักษาพนาลีมีแต่เลือดและเนื้อเป็นภักษาหารเลี้ยงชีวิตวันนี้ข้าพระองค์กินช้าง ๗ ตัว ม้า ๑๔ ตัว เนื้อ ๒๐ ตัว ยังไม่อาจห้ามความหิวโหยนั้นได้ ข้าแด่มหาราชบัดนี้ ข้าพเจ้ามาทั้งนี้ ปรารถนาจะขอพระราชโอรส ๒ พระองค์เป็นอาหาร ถ้าพระองค์ทรงพระราชทานศรัทธาโปรดพระราชทานให้แล้ว ไปในอนาคตเบื้องหน้า พระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง เป็นมั่นคง

​

(f) เมื่อหน่อพระชินวงศ์ ได้ทรงฟังยันตยักษ์ทูลขอพระราชโอรสทั้ง ๒ ดังนั้นพระยาสิริคุตตราชฤาษีผู้แสวงหาพระโพธิญาณ ก็ชื่นบานในกลมหฤทัยแสนทวี ท้าวเธอจึงมีสุนทรวาทีตรัสแก่ยันตยักษ์ว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญเอ๋ย เรารักใคร่ในพระโพธิญาณยิ่งกว่ากุมารทั้ง ๒ ได้แสนเท่าพันทวี เราจะสละพระราชโอรสทั้ง ๒ ศรีให้เป็นทานแก่ท่านในกาลบัดนี้ ตรัสแล้วเท่านั้น ก็เสด็จลุกจากอาสน์ จูงเอาข้อพระหัตถ์พระราชโอรสทั้ง ๒ ผู้ร่วมพระราชหฤทัยมาพระราชทานให้แก่ยันตยักษ์ แล้วหล่อหลั่งอุทกธารา ให้ตกลงเหนือมือแห่งยักษ์ พระองค์จึงประกาศแก่ฝูงเทพยเจ้าและนางพระธรณีให้เป็นสักขีทพพะยานว่า ดูก่อนมหาปฐพีและหมู่เทวดาทั้งหลาย ผู้เจริญ ท่านผู้เจริญทั้งหลายโปรดเป็นพยานแก่ข้าพเจ้า พระสัพพัญญุตญาณเท่านั้น เป็นที่รักยิ่งกว่าบุคคลผู้เป็นที่รักคือบุตรและธิดาทั้งหลาย ร้อยเท่า พันเท่า แสนเท่า แล้วทำความปราถนาว่า ด้วยเดชะผลทานี้ (ผลแห่งการให้บุตรและธิดาอันเป็นที่รักนี้) ข้าพเจ้าไม่ปราถนาจักรพรรดิสมบัติ ไม่ปราถนาอินทรสมบัติ ไม่ปราถนามารสมบัติ ไม่ปราถนาประเทศราชสมบัติ ปราถนาพระสัพพัญญุตญาณ ขอการให้บุตรและธิดา จงเป็นปัจจัย สำเร็จแก่พระสร้อยสรรเพชุดาญาณในอนาคตกาลเถิด

​

(f) พอสิ้นความปราถนา ก็บังเกิดมหัศจรรย์ทั่วโลกทุกห้องจักรวาล ปานแผ่นพสุธาจะทรุดจะทำลาย สาครก็คะนองคลื่นฯ ภูเขาสิเนรุราช ก็โน้มยอดสู่ภูเขาธรรมิกะ ประดุจหนึ่งลูกหวายถูกอัคคีลน ฟ้าฝนก็คำรนคำราม ยังฝนให้ตกชั่วขณะฯ สายฟ้าที่มิใช่ฤดูกาล ก็แลบแปลบปลาบฯ ท้าวสักกเทวราชทรงเป่าวิชบุตตรสังข์ ท้าวมหาพรหมทรงปรบพระหัตถ์ฯ พระศาสดาเมื่อทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงตรัสว่า

​

(f) แผ่นดินถูกท่านทำให้คำรนคำรามแล้ว เสียงของท่านดังถึงแดนไตรทิพย์สายฟ้าแลบแปลบปลาบโดยรอบ ประดุจทำลายเขาทั้งหลาย พระอินทร์และท้าวเวสสุวัณ เทวดาเหล่านั้น พากันสรรเสริญท่าน ว่าเป็นพระราชาของนรชนผู้ประเสริฐ

​

(f) ดูก่อนสารีบุตรผู้มีธรรมราชา ผู้เจริญ เบื้องหน้ายันตยักษ์ ครั้นได้รับพระราชทานสองกุมารศรีไปยังหลังพระบรรณศาลา ก็ก้มศรีษะลงกัดเอาคอกุมารทั้ง ๒ ให้ขาด ด้วยอำนาจของอาตมา แล้วก็ดื่มโลหิตกินเป็นภักษาหาร แล้วก็เคี้ยวซึ่งเนื้อและกระดูกกลืนเข้าไป เสียงเคี้ยวนั้นกร้วม ๆ พระฤาษีผู้เป็นบิดาและมารดาเห็นหยาดเลือดย้อยลงจากปากยันตยักษ์ ในเทพเจ้าทุกหย่อมหญ้าลดาวัลลิ์ทั้งปวง จงมายินดีชื่นชมด้วยทานของเราบัดนี้เป็นอันประเสริฐแล้วฯ

​

(f) ดูก่อนสำแดงสารีบุตร ในเมื่อพระศาสนาของพระยาอสุรินทราหูได้ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ฝูงชนทั้งปวงประกอบไปด้วยรูปศิริวิลาสเป็นอันงาม ควรจะนำมาซึ่งความสิเนหาด้วยเดชะผลานิสงส์ ที่ให้ลูกทั้งสองเป็นทานฯ ซึ่งพระองค์ประกอบได้ด้วยพระพุทธรัศมีส่องสว่างสิ้นทั้งกลางวันกลางคืนนั้น ด้วยเดชะผลนิสงส์ ที่เห็นโลหิตกุมารทั้ง ๒ หยดย้อยลงจากปากยักษ์ มิได้มีความหวาดหวั่นไหวในมหาทานเลย

​

(f) ดูก่อนสารีบุตรผู้มีธรรมราชา ผู้เจริญ ประชาชนทั้งปวงยังไม่ได้มรรคผลในศาสนาของเรา ไม่ได้มรรคผลในศาสนาของพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์ วคือ ของพระอริยเมตไตรย ของพระรามสัมมาสัมพุทธเจ้า และของพระธรรมสามีสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทั้งหลาย จงปรารถนามรรคผล ในศาสนาอสุรินทราหูราชานารทสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาเถิด แสดงมาด้วยเรื่องราวพระยาอสุรินทราหูบรมโพธิสัตว์คำรบ ๕ ก็ยุตติแต่เพียงนี้ฯ

​

(f) อุเทศของพระอสุรินทราหู ผู้จะมาเป็นพระนารทสัมมาสัมพุทธเจ้า

อุเทศที่ ๔ จบแล้วด้วยประการฉะนี้แล​

 

นโมฯ นโมฯ นโมฯ
กรรมอันใดที่ข้าฯได้เคยประมาทล่วงเกินต่อคุณพระฯ และผู้มีคุณทุกท่าน ขอท่านได้โปรดอดโทษให้กับข้าฯนับแต่บัดนี้ตราบเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ

นโมฯ นโมฯ นโมฯ
ขอโมทนาบุญทั้งหมดในพระศาสนา ร่วมกับพระฯ ทุกพระองค์ และท่านทั้งหลายฯ สาธุ สาธุ สาธุ

นโมฯ นโมฯ นโมฯ
ขออาราธนาพุทธบารมี ธรรมบารมี สังฆบารมี ได้โปรดปกป้อง ข้าฯและผู้ประพฤติดีทั้งหลายให้พ้นจากภัยทั้งหลาย ได้ทำกิจอันพึงปรารถนาอันเป็นส่วนช่วยจรรโลงพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองได้สำเร็จลุล่วงด้วยดีด้วยเทอญ ตราบเท่าได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

(||)(||)(||) เชียร์ เชียร์ เชียร์

 

อานิสงส์แห่งการบูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตอน3

(i) พระสกิงสัมมัชชกเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้กวาดลานต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า "วิปัสสี" ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านไปเกิดในชาติใดๆ ก็ไม่เคยเป็นโรคผิวหนังเลย และไม่รู้จักทุคติ ในชาติสุดท้ายนี้ได้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระเอกสังขิยเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้เป่าสังข์บูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้านามว่า "วิปัสสี" ในงานสมโภชต้นพระศรีมหาโพธิ์ ท่านไม่เคยรู้จักทุคติจะเกิดในภพใดๆ ก็มีดนตรีขับกล่อมตลอดเวลา ในชาติสุดท้ายนี้ได้บรรลุวิชชา 3 พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระอุปมาปุปผิยเถระ(i)
ในอดีตชาติ ในภัทรกัปนี้ท่านใช้ดอกผักตบบูชาต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ( ไม่ระบุพระนาม ) ด้วยอานิสงส์แห่งการบูชานั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย ในชาติสุดท้ายนี้ได้บรรลุวิชชา 3 พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระเวทิการกเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้สร้างไพที (แท่นบูชา) ถวายไว้ที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า "ปทุมตตระ" ด้วยอานิสงส์นั้น เครื่องใช้สอยอย่างดีเลิศ ทั้งวิมานอันงดงามและที่นอนอันมีค่า ได้บังเกิดแก่ท่านๆไม่รู้จักทุคติเลย ในชาติสุดท้ายนี้บรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระโพธิฆรการกเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้สร้างเรือนโพธิ์ (ซุ้ม) ถวายพระพุทธเจ้าพระนามว่า "สุเมธ" ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านได้ไปเกิดในเรือนแก้วสรรค์ชั้นดุสิต และได้เคยเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ในชาติสุดท้ายนี้ได้บรรลุวิชชา 3 พร้อมด้วยคุณวิเศษ

(i) พระชคติทายกเถระ(i)
ในอดีตชาติ ท่านได้สร้างแท่นบูชาที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า "ธรรมทัสสี" ด้วยอานิสงส์นั้น ท่านจะตกไปในที่ใดก็มีที่รองรับ รอดพ้นจากศัตรูทุกหมู่เหล่า ได้รับการบูชาจากเทวดาและมนุษย์ ท่านไม่รู้จักทุคติเลย ในชาติสุดท้ายนี้ได้บรรลุวิชชา 3 พร้อมด้วยคุณวิเศษ


(i) ข้าพเจ้าขอโมทนาบุญทั้งหมดนี้น้อมถวายพระเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ขอพระศาสนาเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไปและขอคำอธิฐานที่ผมได้ทำตั้งใจถวายพระฯ และนิพพานในชาตินี้ จงเป็นผลสำเร็จเทอญ...
(verygood) (f) (f) (f) (f) (f) (verygood)