ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    โลกของ Facebook-โลกของดวงดาว


    .....................

    ...วันนี้ อาจารย์ "กรหริศ บัวสรวง" ท่านให้ความรู้ด้านดวงดาวมาเผยแพร่อีก อาจเป็นประโยชน์สำหรับท่านบ้าง อ่านดูนะครับ
    ดวงดาวกับคุณธรรม
    ผมคงต้องพึ่งคอลัมน์ของคุณเปลว สีเงิน อีกสักครั้งเพื่อแสดงถึงเหตุผลทางโหราศาสตร์ต่อดวงเมืองและดวงของนายกรัฐมนตรีที่มีโหรบางคนหรือหลายคนกลับคำพยากรณ์ของตัวเองไปตามสถานการณ์ อย่างเช่น คุณ.......ที่มีฉายาว่า.......ผมเองนั้นเบื่อหน่ายความสับปลับของคนในสังคมเป็นอย่างมาก ความหวั่นไหวของคนไทยจึงเกิดขึ้นยิ่งกว่าคลื่นสึนามิ ยิ่งมีคำทำนายทายทักออกมามาก ความน่าเชื่อถือของโหราศาสตร์ก็ถูกทำลายไปด้วย
    ประเด็นที่ขอนำเสนอต่อไปนี้ คือการพิจารณาการโคจรของดาวอาทิตย์ที่เป็นดาวประจำดวงเมือง และ "ดาวประจำตัวผู้นำประเทศ" ได้เข้าสู่ราศีเมษมาหลายวันแล้ว ดาวอาทิตย์เป็นตนุเศษของดวงเมือง มีดาวอังคารเป็นตนุลัคน์ ดาว 2 ดวงนี้คือดาวแห่งขุมพลังอำนาจ ซึ่งมีผลต่อประเทศเป็นอย่างมาก ส่วนดาวเทพเทวาที่คุ้มครองบ้านเมืองอยู่คือดาวพฤหัสบดี แต่ก็มีดาวราหูคือดาวกบฏรกแผ่นดินเข้ามาแทรกแซงตั้งแต่ปีก่อนจนถึงปัจจุบันนี้ ดวงดาวได้ชี้นำให้เห็นว่า ถึงวันเวลาที่จะจัดการให้บ้านเมืองเป็นปกติสุขได้แล้ว
    ในช่วงที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ดาวพฤหัสบดีในดวงเดิมเป็นราชาโชคที่ราศีเมษ เล็งลัคนาที่มีดาวอาทิตย์เป็นมหาจักรกุมลัคน์ และยังส่งกระแสไปยังภพกัมมะที่หมายถึงการได้ตำแหน่ง และในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คือ วันที่ 26 เมษายนนี้ ดาวพฤหัสบดีจะย้ายเข้าสู่ราศีมีนเป็นเกษตรที่หมายถึงความมั่นคง ทำมุมโยคหลังไปยังถึงลัคนาที่มีดาวอาทิตย์รออยู่แล้ว เป็นการเกื้อหนุนให้ดวงชะตานายกฯ อภิสิทธิ์ดียิ่งขึ้นไปอีก ทำให้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ได้จนครบวาระ รวมถึงจะทำให้มีการใช้กฎหมาย ความถูกต้อง ความเป็นธรรมได้อย่างชัดเจน และได้รับความคุ้มครองจากความบริสุทธิ์ใจในการบริหารจัดการให้เกิดความสงบเรียบร้อย
    ในส่วนของดวงเมืองนั้นได้ก้าวเข้าสู่ ร.ศ.229 (กรุงรัตนโกสินทร์อายุย่าง 229 ปี) ดาวพฤหัสบดีจรทับดาวราหูในภพวินาศ แต่ดาวพฤหัสบดีได้มาตรฐานเป็นเกษตรเข้าเรือนของตนเอง และยังเป็นศรีจรในทางทักษา และดาวเสาร์จรที่อยู่ในภพอริจะเป็นเดชจรในทางทักษา ตรงนี้แหละที่ทำให้ความเห็นของนักโหราศาสตร์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
    ฝ่ายหนึ่งว่าจะเกิดความวิบัติหายนะแก่ประเทศ เพราะดาวโคจรเข้ามุมอับ ซึ่งก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง เพราะจากสถิติที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2494 เกิดกบฏแมนฮัตตัน เนื่องจากทหารเรือกลุ่มหนึ่งจับตัวจอมพล ป. พิบูลสงคราม ไปไว้ในเรือรบหลวงศรีอยุธยา ในปีนั้นดาวเสาร์จรอยู่ในภพอริเล็งดาวพฤหัสบดีจรในภพวินาศเหมือนในปี 2553 นี้ จึงต้องมีการปราบกบฏ.... (อย่างที่คุณเปลวเขียนไว้) และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการเสียเลือดเนื้อ บาดเจ็บล้มตาย ถ้าไม่ยอมยุติการชุมนุม รัฐบาลและทหาร ตำรวจมีความชอบธรรมที่จะใช้กฎหมายและอำนาจเด็ดขาดจัดการเหมือนอย่างที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด พูดว่า "อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด" แต่ก็จะพยายามให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ส่วนความเห็นของผมนั้นจะอยู่ตรงกันข้ามกับการนำดวงเมืองจรในอดีตมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะในทางทักษาจรที่กล่าวมาแล้วมีอำนาจหักล้างกันได้ ดวงประเทศไม่มีทางล่มจม และดวงนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ขนาดดาวพฤหัสบดีจรก่อนวันที่ 26 เมษายน จะเข้าสู่ภพมรณะ ก็มีผลเพียงให้ต้องปิดบังตัวเองให้อยู่ที่ลับและไม่อาจตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาดเท่านั้น
    ผลจากคำพยากรณ์ของโหรบางคนที่กลับลำกลางคันและเห็นแตกต่างกันนั้น มีข่าวว่านายกฯ มีความอ่อนไหวอยู่บ้าง เพราะห่วงชาติบ้านเมือง แม้ว่าท่านจะไม่ได้เชื่อโหราศาสตร์เหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคน นอกเหนือจากเรื่องของดวง ผมยังเชื่อว่าประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพระบารมีของ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" คอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา
    ส่วนที่สี่แยกราชประสงค์นั้น ทุกมุมมีเทพชั้นสูงประจำอยู่ ใครทำชั่วทำไม่ดี ทำความสกปรกในบริเวณนั้น เท่ากับเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นและย่อมได้รับการลงโทษ เสื้อแดงหลายคนเกิดอุบัติเหตุถึงตาย และบาดเจ็บเมื่อเดินทางกลับไป ไม้ไผ่ ไม้รวก ที่เหลาให้เป็นปลายแหลมนั้นจะทิ่มแทงเข้าตัวเอง ตาข่ายหรือแสลนสีดำนั่นก็เป็นสื่อมรณะได้เหมือนกับเป็นลางร้ายบอกเหตุ
    ในที่สุดก็คงเหมือนที่ผมเคยพยากรณ์ไว้ว่า "ต้นร้ายปลายดี" จึงอยากให้ประเทศได้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปโดยเร็ว ทุกคนจะได้สบายใจ และอย่าได้เศร้าสลดใจกับความสูญเสีย เพราะพวกเขาเลือกที่จะมากันเอง
    "กรหริศ บัวสรวง"
    ครับ...อีเมล์ถึงผมมากมาย จะค่อยๆ นำมาแบ่งปันกันอ่าน "หนุ่ม-สาว" รุ่นใหม่ เขาคิดกันอย่างไร จะให้อ่านเป็นตัวอย่างซัก ๑ ฉบับก่อน ดังนี้
    เรียน คุณเปลวสีเงินที่เคารพ
    หลังจากที่หนูได้อ่านบทความล่าสุดของคุณเปลวในวันที่ 21 เมษายน 2553 ก็ไม่อาจที่จะหลับตาลงได้โดยไม่ทำอะไรสักอย่าง หนูจึงตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับนี้มาเพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่แท้จริงให้คุณเปลวทราบว่า "เรารักชาติและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยิ่งชีวิต จะไม่มีวันยอมให้ไอ้คนชาติชั่ว ที่เห็นแก่ตัว มาทำลายชาติและราชวงศ์ได้ หากนายทหารและรัฐบาลทำอะไรไม่ได้หรือไม่ทำอะไรเลย เราจะออกมาทำหน้าที่เพื่อปกป้องประเทศชาติและราชบัลลังก์ด้วยตัวเอง"
    "จะมีประโยชน์อะไรที่จะรักษาตัวให้รอดและปลอดภัย หากประเทศชาติต้องถูกทำลาย และจะมีประโยชน์อะไรที่จะรักษายศและตำแหน่งไว้ หากไม่มีความดีให้จดจำ" คำพูดหรือคำเรียกร้องของคุณจะมีความหมายอย่างแน่นอน เพราะเมื่อถึงเวลาอันสมควร เราจะออกมาปราบกบฏชั่วพวกนี้ด้วยมือของเราเอง และจะตามล่าหาตัวมันจนสุดขอบฟ้า เพื่อจบปัญหาทั้งหมดที่ต้นเหตุ"
    หนูสัญญาค่ะว่าคุณจะไม่มีวันเดียวดาย พ.อ.ร่มเกล้า และเหล่าทหารกล้า จะไม่มีวันตายฟรี ประเทศไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องดำรงคงอยู่ตลอดไป
    ด้วยความรักและเคารพอย่างสูง
    ภัชญาดา
    สมาชิกกลุ่ม Facebook มั่นใจคนไทยเกิน 1 ล้านคนต่อต้านการยุบสภา
    ป.ล. หนูเขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ และยินดีให้คุณเปลวเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์และกำลังใจให้กับทุกคนที่รักชาติ โดยไม่จำเป็นต้องออกนาม และยินดีช่วยเหลือ สนับสนุนทุกอย่างอันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและส่วนรวม........


    ขอขอบคุณแหล่งที่มา : http://www.thaipost.net/news/220410/21128


    ปล.ผมขออนุญาตช่วยคุณเปลว เผยแพร่ด้วยคนครับ ในยามนี้ใครช่วยอะไรได้
    ก็ช่วยกัน ใครทำอะไรได้ก็ต้องทำครับ เหตุการณ์ที่บ้านบางระจัน ทุกคนเกิดไม่ทันแน่ แต่รับรู้กันได้ในจิตวิญญาณใช่ไหมครับ
     
  2. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    เฟซบุ๊ค พลังแห่งเทคโนโลยี่

    ...ประชาชนคนเฟซบุ๊ก

    คณิต ผลเพิ่มศีลกุล นักศึกษา เล่าถึงการเข้าร่วมกลุ่มในชุมชนเฟซบุ๊ก 'มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคนต่อต้านการยุบสภา' ว่า ที่รู้จักกลุ่มนี้ได้เพราะเพื่อนส่งลิงก์มาให้ และก็เคยเห็นหน้าของเฟซบุ๊กกลุ่มนี้มาก่อนก็เกิดความอยากรู้ว่าเกี่ยวข้องกับอะไร จึงเข้าร่วมกลุ่มด้วย

    “จากที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก อ่านข้อความที่มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นสามารถบอกได้ว่าทุกคนต้องการแสดงออกถึงอุดมการณ์ทางการเมืองที่ไม่ต้องการให้ยุบสภา หรือบางคนที่เข้ามาเพื่อเกาะกระแสเห็นเพื่อนเข้าก็เข้าด้วยแต่คิดว่ามีไม่ค่อยเท่าไหร่นะ บางส่วนเข้าไปเพราะความอยากรู้อยากเห็นขอมีส่วนร่วมนิดหนึ่ง

    “เฟซบุ๊กเป็นโซเชียล เน็ตเวิร์ก อย่างหนึ่ง ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าถึงกันหมด รับรู้ข่าวสาร แสดงความคิดเห็น อาจจะเรียกได้ว่าเป็นกระบอกเสียงของประชาชนอย่างหนึ่งก็ได้ อย่างตอนนี้มีคนเข้าร่วม 3 แสนกว่าคน มีการนัดชุมนุมกันโดยผ่านเฟซบุ๊ก ทำให้กลุ่มนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นรวมทั้งสื่อก็ช่วยประโคมข่าวด้วย

    “โดยส่วนตัวคิดว่าคนที่ออกมาชุมนุมโดยผ่านการนัดหมายหรือทราบข้อมูลจากทางเฟซบุ๊กนั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาขอมีส่วนร่วมในการที่จะทำให้ประเทศไทยกลับมาสงบอีกครั้ง มีการรวมพลังด้วยความสงบไม่มีการใช้คำหยาบคายหรือข้อความที่ก่อให้เกิดความรุนแรงแต่อย่างใด และตนเองก็ไม่ได้ออกไปชุมนุมด้วย เนื่องจากเพิ่งได้รับทราบข่าวหลังจากที่มีการชุมนุมไปแล้ว และประกอบกับระยะหลังก็ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านข่าวหรือประกาศอะไรต่างๆ เลย”

    เช่นเดียวกับสมาชิกของกลุ่มอีกคนที่ใช้ชื่อ yayhang K-khuan ได้บอกเล่าการเข้ากลุ่มในครั้งนี้ว่า เกิดจากมีเพื่อนเข้าร่วมก่อน ตนเองเลยกดรับเป็นสมาชิกด้วย แต่อย่างไรเสียก็อยากจะพิสูจน์ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเห็นว่า มีคนไม่เห็นด้วยกับพวกเขาที่ออกมาชุมนุมอีกเยอะ โดยที่ไม่ต้องออกไปชุมนุมหรือก่อม็อบอย่างที่พวกเขาทำกัน และเขาก็ไม่ใช่คนกลุ่มใหญ่ในสังคม

    นอกจากนี้ ต้องการให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี หลังจากมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะกลัวว่านายกฯ จะไม่มีขวัญและกำลังใจในการทำงาน

    “สมาชิกที่เข้าร่วมส่วนใหญ่จะมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ต้องการให้ประเทศสงบสุข ต้องการให้ปัญหาแก้ไขโดยเร็ว แต่ไม่ใช่ด้วยการยุบสภา สมาชิกของกลุ่มตอนนี้มีประมาณ 3 แสนกว่าก็ถือว่ามีจำนวนเยอะพอสมควร แต่เราก็คิดว่ายังมีคนที่ไม่เห็นด้วยกับเสื้อแดงอีกหลายล้านคนที่ไม่ได้เล่นอินเทอร์เน็ต หรือคนบางกลุ่มก็ถูกปิดกั้นข่าวสารได้รู้ข้อมูลเพียงด้านเดียว แต่ตอนนี้ก็เดือนกว่าๆ แล้วก็คงทำให้รัฐบาลเกิดความมั่นใจมากขึ้นที่มีคนรวมกลุ่มกันให้กำลังใจท่าน”

    พลังแห่งเทคโนโลยี

    หากถามว่าจุดเริ่มต้นของม็อบเทคโนโลยีในเมืองไทยนั้นเริ่มต้นเมื่อใด คงต้องย้อนไปไกล สมัย พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2535 ซึ่งมีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก เพื่อประท้วงรัฐบาลทายาทเผด็จการบนถนนราชดำเนิน แต่ด้วยความที่สื่อมวลชนในยุคนั้นถูกปิดกั้น ทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีใช้มือถือเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร และชักชวนให้ผู้ที่รักประชาธิปไตยออกมารวมตัว จนกลายเป็นฝูงชนขนาดมหึมา

    อีกครั้งหนึ่งก็สมัยของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ในเดือนกรกฎาคม ปี 2540 ที่มีการใช้เอสเอ็มเอสเป็นกระบอกเสียงในการรวบรวมสมัครพรรคพวก เพื่อกดดันรัฐบาล จนในที่สุด พล.อ.ชวลิตก็ตัดสินใจลาออกใน 2-3 เดือนต่อมา

    ส่วนปี 2548 ถือเป็นอีกยุคของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกว่า ทีวีดาวเทียม โดยผู้จุดกระแสนี้ก็คือ เอเอสทีวี ซึ่งเป็นตัวกระจายข่าวสำคัญในการประจานความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ จากเหตุการณ์ครั้งนั้นเอง ทำให้เกิดการตื่นตัวของประชาชน จนนำไปสู่การเคลื่อนไหวทางการเมืองของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

    ขณะที่ใน ปี 2550 คลิปในเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Youtube.com ก็ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการแสดงความรู้สึกนึกคิดของประชาชนต่อสถานการณ์การเมืองในยุคนั้น ที่สำคัญมันยังเป็นตัวผลักดันสำคัญที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากตื่นตัวและรู้จักใช้สิทธิของตนในฐานะที่เป็นมนุษย์

    นอกจากเรื่องการเมืองแล้ว เทคโนโลยียังถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในการช่วยเหลือและตรวจสอบปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม อย่างเช่นเมื่อ 2552 มีดารากลุ่มหนึ่งใช้ทวิตเตอร์ เพื่อระดมคนให้ออกมาช่วยเหลือและบริจาคสิ่งของให้แก่ประชาชนชาวเฮติที่ประสบเหตุแผ่นดินไหว หรือก่อนหน้านั้น ช่วงต้นปี 2546 ที่ผู้คนจากทั่วโลกใช้ไอทีสื่อสารเชื่อมโยง จนก่อเกิดการชุมนุมครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์และกว้างขวางทั่วโลก เพื่อต่อต้านสงครามจากการที่สหรัฐอเมริกาคิดจะบุกอิรัก

    เฟซบุ๊กไม่ใช่โลกเสมือนอีกต่อไป

    ผศ.ดร.พิรงรอง รามสูต หัวหน้าภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายปรากฏการณ์นี้ได้อย่างน่าสนใจว่า การเกิดขึ้นของม็อบมือถือกับม็อบเฟซบุ๊กนั้นต่างกัน เพราะมือถือจัดเป็นโลกอะนาล็อก ขณะเฟซบุ๊กเป็นโลกดิจิตอล

    สำหรับเฟซบุ๊กถือเป็นการก้าวไปอีกขั้นของผู้ใช้ในโลกไซเบอร์ซึ่งปกติเป็นคนชั้นกลางขึ้นไป ถือเป็นระดับที่เหนือไปกว่าเว็บไซต์ปกติ หรือที่เรียกว่าเว็บ 1.0 ที่ส่วนใหญ่จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้อ่านหรือดู หรืออย่างมากก็มีช่องที่อนุญาตให้แสดงความคิดต่อท้ายข่าวหรือบทความเท่านั้น ทำให้การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ไม่มากเท่าใด ไม่มีปฏิสัมพันธ์กันทันที และผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเปิดเผยตัวหรือใช้นามแฝงแทน หรือแม้จะเปิดให้มีเว็บบอร์ด แต่ก็ยังข้อจำกัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประเภทของเนื้อหาที่จะตั้งกระทู้ กฎ กติกา มารยาทต่างๆ ซึ่งผู้ใช้เองก็ต้องเคารพในข้อจำกัดนั้น โดยมีคนที่รับผิดชอบคอยตรวจสอบอีกที เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำที่ผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

    แต่ในกรณีของเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ บล็อก หรือไฮไฟว์นั้นจัดเป็นเว็บ 2.0 โดยมีจุดแตกต่างที่สำคัญสุดก็คือ ผู้ใช้มีอำนาจในการสร้างเนื้อหาเอง อยากจะอัปโหลดหรือเขียนอะไรใส่ไปก็ได้

    “เฟซบุ๊กอาจถือเป็นอีกขั้นที่สูงกว่าบล็อกปกติด้วยซ้ำ เพราะลักษณะการออกแบบมาให้เป็นเครือข่ายทางสังคม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับว่าคุณจะ add ใครเป็นเพื่อน ไม่ก็อาจจะเปิดโอกาสให้ใครก็เข้ามาดูคุณได้ หรือบางคนทำเป็นหน้าแฟนคลับ เช่น พวกของนักการเมืองหรือดารา หรือแม้แต่ร้านค้า ธุรกิจอะไรต่างๆ ก็มีเฟซบุ๊กทั้งนั้น”

    โดยจุดสำคัญที่ทำให้เฟซบุ๊กต่างจากเว็บ 2.0 ทั่วไป นอกจากจะมีการเปิดเผยตัวอย่างชัดเจนว่าเป็นใคร รูปร่างหน้าตาอย่างไรแล้ว ในสภาวะการเมืองที่มีการแบ่งขั้วและแสดงความเกลียดชังกันอย่างชัดเจนเช่นนี้ เฟซบุ๊กยังเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้สามารถแสดงตนในเบื้องลึก ซึ่งไม่สามารถแสดงได้ในที่สาธารณะเช่นเว็บบอร์ด เพราะเฟซบุ๊กไม่มีใครดูแล และถ้าลองเปิดเฟซบุ๊กทางการเมืองบางแห่งก็จะพบภาษาที่ปกติไม่สามารถใช้ได้ในเว็บทั่วไป

    และจากการที่เฟซบุ๊กเป็นสังคมที่เปิดเผยมากถึงขนาดนี้ ทำให้สังคมในเฟซบุ๊กไม่เป็นเพียงแค่โลกเสมือนอีกต่อไป แต่กลายเป็นโลกของความจริงแทน

    “การที่คุณโพสต์ข้อความหรือตั้งกลุ่มในเฟซบุ๊ก สังเกตดูก็ได้เพียงเวลาไม่ถึง 10 นาที การแสดงความคิดเห็นมันต่อไป 30-40 ข้อความ แล้วมันก็จะเตือนคุณให้รู้ว่าใครเขียนเข้ามา เกิดอะไรขึ้นในหน้ากระดานของคุณหรืออัปเดตอะไร พูดง่ายๆ คือมันไม่ได้เป็นแค่ภาพอีกแล้ว แต่มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ที่ทำให้เราสามารถบูรณาการพร้อมกับสิ่งอื่นๆ ได้พร้อมกัน เป็นการต่อเนื่องกันแบบไร้ตะเข็บ”

    ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่คนในเฟซบุ๊กจะเกิดการรวมตัวกันจริงๆ เมื่อปัจจัยต่างๆ สุกงอม ที่สำคัญมันง่ายต่อการขยายไปสู่คนภายนอก ซึ่งไม่ใช่คนเล่นเฟซบุ๊กอีกต่างหาก...

    "นักรบหน้าแป้นพิมพ์-แปลงร่างสู่ท้องถนน"

    ขอขอบคุณแหล่งที่มา : Daily News - Manager Online
     
  3. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ....“ตัวโยเองไม่มีเสื้อนะคะ ไม่มีเสื้อสีอะไรทั้งนั้น โยเป็นแค่คนไทยคนนึงธรรมดาที่มีความรู้สึกว่า อยากให้ทุกคนลองถามตัวเองว่าวันนี้ได้ทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง แล้วสิ่งที่แต่ละสีทำกันอยู่นั้นทำเพื่อใคร แล้วก็มีใครได้ผลประโยชน์จากตรงนั้นเหรอ แล้วทุกๆ คนในประเทศนี้ได้ผลประโยชน์จากตรงนั้นบ้างไหม หรือแค่คนๆ เดียวที่ได้รับแค่นั้นเอง อยากให้ประเทศชาติสงบสุขค่ะ ไม่อยากให้มีสีใดทั้งนั้น เราไม่เคยมีสีอะไรมาก่อน หลายสิบปีที่แล้วเคยมีไหม เราก็ไม่มี โยเป็นคนรุ่นใหม่คนนึงที่โยเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมาแบ่งสี นี่ไม่ใช่โรงเรียน ไม่ใช่กีฬาสีทุกคนคือเลือดคนไทยเหมือนกัน”

    เมื่อถามถึงประเด็นที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศสะเทือนใจที่สุด นั่นก็คือมีการดึงเบื้องบนลงมาเกี่ยวข้อง สาวโยซัด เป็นสิ่งที่ไม่สมควรที่สุด
    “ประเทศไทยเราเป็นประเทศที่ถูกปกครองด้วยพระมหากษัตริย์ และสิ่งที่เราเคารพรักมากที่สุดก็คือในหลวงของเราเพราะฉะนั้นโยไม่อยากให้ใครไปแตะต้องท่าน หรือว่าดึงท่านลงมา ให้ท่าน…เหมือนกับดึงท่านลงมาคลุกคลีกับสิ่งต่ำช้าที่ทุกคนกำลังทำอยู่แบบนี้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับท่านค่ะ”......


    แหล่งที่มา : "โย" โผล่ม็อบหลากสี ทนไม่ได้โดนคุกคาม จวกอย่าดึงสถาบันลงมาต่ำ Entertainment - Manager Online

    ขออนุโมทนา สาธุ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2010
  4. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย : ปิ่น บุตรี


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เสาหลักเมืองกรุงเทพฯพิเศษกว่าที่อื่นเพราะมี 2 เสาด้วยกัน </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>...ทั้งหลายคิดจะตั้งเสาหลักเมือง ตั้งรัฐขึ้นมาเอง นอกจากเป็นการไม่บังควรแล้ว ยังเป็นการ“บังอาจ”และ”เหิมเกริม”อย่างร้ายกาจอีกด้วย

    1...


    หากพูดถึงเสาหลักเมืองที่สำคัญที่สุดในบ้านเราคงจะหนีไม่พ้น “เสาหลักเมืองกรุงเทพฯ” เพราะเป็นทั้งเสาหลักเมืองกรุงรัตนโกสินทร์และเสาหลักเมืองประเทศ แถมยังเป็นเสาหลักเมืองที่ 2 เสาอีกต่างหาก(เรื่องนี้ผมจะกล่าวถึงต่อไปในช่วงหน้า)

    สำหรับเสาหลักเมืองกรุงเทพฯมีประวัติความเป็นมาคร่าวๆดังนี้

    หลังพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกปราบดาภิเษกเสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ท่านทรงสั่งให้ย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรีฝั่งตะวันตกมาฝั่งตะวันออก เพื่อสถาปนาเป็นเมืองหลวงใหม่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งตามประเพณีโบราณการสร้างเมืองสำคัญจำเป็นต้องมีการยกหลักเมืองขึ้น

    พระองค์ท่านจึงโปรดเกล้าฯให้ทำพิธียกเสาหลักเมืองสถาปนาพระนครใหม่(กรุงเทพฯ)ขึ้น ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2325 โดยใช้ไม้ชัยพฤกษ์ทำเป็นเสาหลักเมือง ประกอบด้านนอกด้วยไม้แก่นจันทน์ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 75 ซ. สูง 27 ซม. และกำหนดให้ความสูงของเสาหลักเมืองอยู่พ้นดิน 10 นิ้ว ฝังลงในดินลึก 79 นิ้ว มีเม็ดยอดรูปบัวตูม สวมลงบนเสาหลัก ลงรักปิดทอง ล้วงภายในไว้เป็นช่องสำหรับบรรจุดวงชะตาเมือง

    ส่วนลักษณะของศาลหลักเมืองในยุคนั้นเป็นเช่นไรไม่มีหลักฐานยืนยัน ซึ่ง ส.พลายน้อย ได้เขียนไว้ว่า เข้าใจกันว่าในชั้นเดิมคงเป็นเพียงศาลาปลูกกันแดดกันฝนแบบธรรมดา เพราะเป็นการรีบด่วนบ้านเมืองยังไม่สงบเรียบร้อย...

    ต่อมาใน พ.ศ. 2379สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงตรวจดวงพระชะตาของพระองค์พบว่าเป็นอริแก่ลัคนาดวงเมือง จึงโปรดเกล้าฯให้สร้างเสาหลักเมืองขึ้นใหม่อีก 1 ต้น เพื่อแก้เคล็ด พร้อมบรรจุดวงชะตาเมืองขึ้นมาใหม่

    หลังจากนั้นศาลหลักเมืองก็ได้มีการปรับปรุงบูรณะตามความเหมาะสมเรื่อยมา จนกลายเป็นศาลหลักเมืองอันสวยงามดังเช่นในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละวันมีผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบไหว้ขอพรพระหลักเมืองอยู่ไม่ได้ขาด เพื่อเป็นสิริมงคลและเป็นหลักชัยในการดำรงชีวิต

    2...

    การสร้างเสาหลักเมืองตามโบราณพิธีนอกจากจะมีความเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งมงคลต่างๆแล้ว ยังมีความเชื่อในเรื่องของไสยศาสตร์อาถรรพ์ลี้ลับอีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องการนำคนเป็นๆฝังลงไปในหลุมหลักเมือง ดังตัวอย่าง การยกหลักเมืองใหม่ถลาง(ภูเก็ต)ที่มีเรื่องเล่าว่า ได้มีการให้แม่หลักเมือง(ผู้จะเป็นแม่หลักเมืองได้ต้องเป็นคนสี่หูสี่ตาซึ่งก็คือคนมีครรภ์นั่นเอง)คือนางนาค ท้อง 8 เดือน ไปกระโดดหลุมก่อนฝังกลบเสาหลักเมืองตาม

    หรืออย่างเรื่องเล่าที่นิยมกันแพร่หลายก็คือ การสร้างเมืองต้องฝังอาถรรพ์ 4 ประตูเมือง ด้วยการนำ
    คนเป็นๆ ที่ชื่อว่า อิน จัน มั่น คงฝังในหลุมเพื่อให้เป็นผู้ดูแลรักษาบ้านเมือง ซึ่งจะมีการปล่าวประกาศร้อง ใครขานรับก็ถูกจับลงหลุม

    อย่างไรก็ดี สำหรับเสาหลักเมืองกรุงเทพฯ แม้ไม่มีเรื่องเล่าเหล่านี้แต่ว่าก็มีเรื่องเล่าชวนพิศวงว่า ตอนทำพระราชพิธีอัญเชิญเสาหลักเมืองลงหลุม ได้เกิดปรากฏการณ์อัศจรรย์ขึ้นเมื่อจู่ๆก็มีงูเล็ก 4 ตัวมาจากไหนไม่รู้เลื้อยลงไปในหลุม ซึ่งเมื่อหางูดังกล่าวในก้นหลุมปรากฏว่าหาไม่พบ ทำให้ต้องเลยตามเลยนำเสาลงหลุมและฝังกลบดินโดยปล่อยให้งูทั้ง 4 อยู่ในหลุมอย่างไม่รู้ชะตากรรม

    สำหรับเรื่องเล่าเหล่านี้แม้พิสูจน์ไม่ได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ความเชื่อในเรื่องอาถรรพ์สิ่งลี้ลับที่พิสูจน์ไม่ได้นั้นอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านานแล้ว
    ..............

    ส่วนเรื่องการตั้ง“รัฐไทยใหม่”นั้น ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าใครหน้าไหนมิอาจมาแบ่งแยก แต่ถ้าใครคิดจะแบ่งแยกมันผู้นั้นย่อมเป็น“กบฏ”สถานเดียว
    .............


    แหล่งที่มา:Travel - Manager Online


    เสาหลักเมือง ตั้งอยู่ข้างกระทรวงกลาโหม เยื้องกับวัดพระแก้ว ครับ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    ขอร่วมเป็นกำลังใจ ให้แก่พี่ น้อง ทหาร ทุกท่าน

    ขอให้เชื่อมั่นในเรื่อง กฎแห่งกรรม ยึดมั่นในการทำดี

    ผู้ที่ทำดี ย่อมได้รับผลที่ดี ความดีก็จะคุ้มครอง

    ขอให้ประเทศชาติ พ้นภัย
     
  6. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210

    ขอเป็นกำลังใจ ให้แก่คุณ แทนคุณ ด้วยค่ะ

    ชื่อของคุณแทนคุณ เหมาะสมกับสิ่งที่ ได้สร้างไว้ตอนนี้อย่างยิ่งแล้ว

    (มงคลจริงๆ ค่ะ)
     
  7. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    มาอธิษฐานร่วมกันขอให้คนบริสุทธิ์ปลอดภัยค่ะ พรุ่งนี้คงเข้าสีลมไม่ได้ น่ากลัวมากที่ยิงระเบิดเข้ามาแบบนี้

    พรุ่งนี้จะไปลานพระบรมรูปทรงม้ากับกลุ่ม facebook เอาให้รู้ไปเลยว่า ไผเป็นไผ คนไทยรักชาติ ยังมีอีกนับไม่ถ้วนค่ะ
     
  8. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    เมื่อถึงครา"นครา"คล้ายใกล้กรุงแตก


    <!-- main-content-block --><!-- 23 เมษายน 2553 - 00:00 -->
    23 เมษายน 2553 - 00:00





    http://www.thaipost.net/news/230410/21190



    รายละเอียดอ่านกันเอาเองนะครับ !!!
     
  9. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ธรรมะ จากแม่ชีมโนรา

    .........<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“คนที่เป็นผู้นำต้องมีความอดทน อดกลั้น เมื่อถึงคราวคับขัน สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย แต่ถ้าสู้ก็ยังมีทางรอด ขณะนี้รัฐบาลก็ตกอยู่ในสภาพนั้น แต่จะผ่านไปได้ อย่างไรก็ตาม คนที่มีดวงเป็นกาลกิณีต่อบ้านเมือง ขายชาติขายแผ่นดินก็มีไม่น้อย ซึ่งเขาก็ จะได้รับผลกรรมของเขาไปเอง บาปกรรมจะกัดกินเขาไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต แม่ชีได้เคยพูดไว้แล้วว่าคนพวกนี้ตายไปจะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เพราะแผ่นดินนี้บูรพกษัตริย์ไทยทุก ๆ พระองค์ เหล่าทหารกล้าได้สละเลือดและชีวิตรักษาไว้นับร้อยนับพันปีมาแล้ว” แม่ชีมโนรา กล่าว

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แม่ชีมโนรา เขตภูเขียว จากสำนักปฏิบัติธรรมแม่ชีมโนรา ต.หนองสาหร่าย อ.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แม่ชีมโนรา ให้ธรรมะด้วยว่า ผู้นำที่ดีควรเอาชนะมาร 5 คือ 1.ขันธมาร คือ เนื้อหนังเอ็นกระดูก เราเพียงแค่ยืมมารมาใช้เท่านั้น 2.กิเลสมาร คือ ความโลภ โกรธ หลงเข้าครอบงำ การยุแยงให้เกิดความแตกแยก ก็ถือเป็นกิเลสมารอย่างหนึ่ง 3.อภิสังขารมาร คือ การปรุงแต่งต่างๆ นานา โดยขาดสติจะนำมาซึ่งความเดือดร้อน

    4.เทวบุตรมาร คือ สิ่งที่มาทดสอบเราว่าเราจะผ่านไปได้หรือไม่ มีเรื่องเล่าตั้งแต่พุทธกาลสมัยพระพุทธเจ้าในภพของพระโพธิสัตว์ บำเพ็ญภาวนา พลันพระอินทร์ได้แปลงกายเป็นนกใหญ่ไล่ฆ่านกเล็ก และนกเล็กได้บินมาซุกจีวรของพระองค์ นกใหญ่จึงมาขอนำนกเล็กไปทำลายแต่พระโพธิสัตว์ขอบิณฑบาตรไว้ นกใหญ่ไม่ยอม และบอกว่าเนื้อต้องแลกด้วยเนื้อ พระโพธิสัตว์ท่านก็ได้เฉือนเนื้อของตัวเองจนกว่านกใหญ่จะพอใจเพื่อแลกชีวิตของนกเล็ก เปรียบได้กับสถานการณ์บ้านเมือง ณ ขณะนี้การจะผ่านการทดสอบหรือผ่านพ้นวิกฤติไปได้ บางครั้งก็ต้องเสียสละเลือดเนื้อบ้าง และมารตัวสุดท้ายคือ มัจจุมาร อันหมายถึงความตายซึ่งทุกคนหนีไม่พ้น แต่คนเราจะเลือกตายแบบไหน ตายเพื่อแผ่นดิน หรือจะตายเพื่อคนขายแผ่นดิน.....

    Local - Manager Online



    อนุโมทนา สาธุ ครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    [​IMG]




    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.739395/[/MUSIC]


    ขอพระบารมีแห่ง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

    ปกป้อง คุ้มครองในหลวง และ ผืนแผ่นดิน นี้

    ให้สงบสุข และร่มเย็นด้วยเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2010
  12. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    ...อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีของ นายเมธี อมรวุฒิกุล ดาราเสื้อแดง ที่ถูกจับกุมในข้อหามีอาวุธสงครามของทางราชการ ซึ่งขณะนี้ทางผู้ต้องหาได้สารภาพบ้างแล้ว โดยเฉพาะเรื่องอาวุธปืนของทหาร ที่หายไปในวันที่ 10 เมษายน ถือว่า เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก โดยขณะนี้ ถูกควบคุมตัวภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยจะถูกคุมตัวในสถานที่ปลอดภัย ไม่สามารถระบุได้ มีระยะเวลาควบคุมตัวต่อครั้งคือ 7 วัน หลังจากนั้น จะขอศาลคุมตัวต่อ จนกว่าจะหมดสถานการณ์ และหลังจากนั้นก็จะถูกดำเนินคดีในสถานการณ์ปกติต่อไป

    ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. นายธาริต ได้ออกแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ที่ศอฉ.ว่า นายเมธียอมรับว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.จริง โดยร่วมเป็นแนวหน้า มีการปะทะกับทหาร ที่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทย์ โดยผลการปะทะมีการยึดเอาอาวุธของทหารไว้จำนวนหนึ่ง บางส่วนเก็บไว้และนำไปแจกจ่ายให้บุคคลอื่น ซึ่งจากการตรวจค้นรถยนต์ของนายเมธีก็พบอาวุธของทหารที่ถูกยึดไป

    "อีกส่วนหนึ่งนายเมธี ยอมรับในข้อเท็จจริงว่า ได้มีการใช้อาวุธร้ายแรงที่ยึดมาได้จากทหาร ยิงเข้าใส่ทหารที่ขอคืนพื้นที่ในคืนวันที่ 10 เม.ย.ด้วย และหลังเสร็จสิ้นการปะทะยังยอมรับว่า มีการประชุมหารือร่วมกับแกนนำในเวทีราชประสงค์ด้วย"นายธาริตกล่าว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ มีการเผยแพร่ภาพส่งต่อไปยังอีเมล์ของบุคคลต่างๆจำนวนมาก ให้ช่วยกันสังเกตว่า ชายชุดดำคลุมหมวกไหมพรม (หมวกไอ้โม่ง) ในมือถืออาวุธปืนอาก้า ที่ถูกระบุว่า บันทึกภาพได้เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย. ในเหตุปะทะระหว่างผู้ก่อการร้ายมราแฝงตัวเข้าไปอยู่ในม็อบเสื้อแดง กับทหาร ว่าเป็นคนเดียวกันกับนายเมธีหรือไม่ โดยให้สังเกตที่ตา และคิ้ว ของคนชุดดำสวมหมวกไอ้โม่งดังกล่าว แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยืนยันว่า ใช่นายเมธีหรือไม่ ............


    คัดลอกจาก Crime - Manager Online
     
  13. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    มีงานด่วนต้องเข้าออฟฟิต เข้ามาปุ๊บก็สางงาน พอสางงานเสร็จ เที่ยงก็ไปร่วมกลุ่มเสื้อหลากสี สีลม
    ได้ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ร้องเพลงชาติ แล้วก็โบกธง หลายคนน้ำตาไหล ตะโกนคำว่า ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ตะโกนไปร้องไห้กันไป

    ตอนเลิก ได้ยินกลุ่มอาเจ๊ 4-5 คน พากันเดินกลับ ต้นเสียงตะโกนว่า กลัวไม๊ ลูกคู่ร้องพร้อมกันว่า กลัว ต้นเสียงก็ตะโกนต่อว่า มาไม๊ ลูกคู่ก็ร้องตอบดังๆพร้อมกันว่า มา พอสิ้นเสียงมาดังๆ ก็หัวเราะ เป็นที่น่าเอ็นดูของคนที่ได้ยินนัก
     
  14. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ตอนไปร่วมม๊อบสีลมนี่ ไม่ลำบากนักเพราะใกล้ แต่ที่เรียกว่าตั้งใจไปม๊อบ ต้องม๊อบที่ลานพระรูปเมื่อวาน ที่ว่าตั้งใจเพราะว่าขับรถไปเลยค่ะ ไปถึงคนก็ค่อยๆทยอยกันมา จนมีคนเยอะมากๆ เต็มลานพระรูปจนเลยสี่แยกมิสกวัน จนไปถึงสะพานมัฆวาน คนเยอะมาก ไปถึงสี่โมงกว่าจนหกโมงเย็นก็กลับ นี่แหละพลังบริสุทธิ์จริงๆ เป็นพวก ตั้งใจมา ไม่มีใครจ้าง จริงๆ
     
  15. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=baseline><TD class=PageTab vAlign=baseline align=left></TD><TD class=PageTab align=right></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=left width=3>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=164><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#f6f6f6><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left>ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ทรงเตือนสติคนไทย ถ้าแผ่นดินล่มสลาย ไม่มีใครมีความสุข[​IMG]
    สถาบันพระมหากษัตริย์
    24 เม.ย. 53 00:24 น.
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ทรงตรัส "ในหลวง-พระราชินี" ทรงสอนหากไม่มีประชาชน ไม่มีพวกเรา เตือนสติคนไทยถ้าไม่มีแผ่นดิน ไม่มีใครมีความสุข นอกจากนี้โอกาสนี้ ตรัสถึงพระอาการ "ในหลวง" ว่าทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงดี ไม่ต้องกังวล
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=164><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#f6f6f6><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left>“พ่อหลวง” ห่วงบึ้มสีลม รับคนเจ็บไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์-ช่วยค่าทำศพ
    สถาบันพระมหากษัตริย์
    23 เม.ย. 53 10:55 น.
    "ในหลวง-ราชินี" ทรงห่วงใยผู้บริสุทธิ์เจ็บ-ตาย เหตุระเบิดสีลม พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์รับผู้บาดเจ็บไว้ดูแล พร้อมช่วยเหลือค่าใช้จ่ายผู้เสียชีวิต
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=164><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#f6f6f6><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left>“ในหลวง-ราชินี” พระราชทานค่ารักษาพยาบาล-ค่าทำศพเหตุ 10 เม.ย.[​IMG]
    สถาบันพระมหากษัตริย์
    16 เม.ย. 53 19:21 น.
    "ในหลวง-ราชินี" พระราชทานค่ารักษาพยาบาลแก่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสำหรับค่าทำศพ ทรงพระราชานุเคราะห์ค่าใช้จ่ายรายละ 50,000 บาท ทางญาติสามารถนำหลักฐานมาแจ้งได้ตั้งแต่ 19 เม.ย.นี้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=164><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#f6f6f6><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left>สมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จฯเยี่ยมทหารบาดเจ็บที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า[​IMG]
    สถาบันพระมหากษัตริย์
    16 เม.ย. 53 00:24 น.
    เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 15 เมษายน 2553 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ถนนราชวิถี เพื่อทรงเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>"ในหลวง-ราชินี" พระราชทานค่ารักษาผู้บาดเจ็บ-ค่าใช้จ่ายทำศพ เหตุปะทะ 10 เมษาฯ
    สถาบันพระมหากษัตริย์
    13 เม.ย. 53 12:19 น.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานค่ารักษาผู้บาดเจ็บ-ค่าใช้จ่ายทำศพ จากเหตุการณ์ปะทะ เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา


    ทุกพระองค์ทรงมีพระเมตตาและห่วงใยต่อราษฎรของพระองค์อย่างเสมอเหมือน ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ
    ปกเกล้าปกกระหม่อมโดยถ้วนหน้ากัน

    ขอทุกพระองค์จงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน พระบารมี
    แผ่ไพศาลปกเกล้าปกกระหม่อมปกป้องปวงประชา
    ชาวไทยและแผ่นดินไทยให้ร่มเย็นเป็นสุขสืบไป

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ....วันที่ ๒๕ เมษายน ตรงกับวันสำคัญอะไรอีกอย่างท่านทราบไหมครับ ก็คือเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า" พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๑๘ แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อ ๔๐๕ ปีล่วงมาแล้ว และทุกครั้งที่ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า" ทรงออกทำศึก พระองค์จะสวดมนต์บท "พาหุง-มหากา" อย่างที่จะสวดกัน ณ วัดพระแก้วพรุ่งนี้แหละ.


    แหล่งที่มา : http://www.thaipost.net/news/240410/21233
     
  17. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ....
    ในอดีต เราเคยมีไส้ศึกคนไทยคอยเปิดประตูเมืองให้ข้าศึกเข้ามาตี จนไทยแตกพ่าย
    แต่เราก็มีบูรพมหากษัตริยาธิราช พระองค์ต่างๆ เข้ามากอบบ้านกู้เมือง
    พร้อมขุนศึกผู้จงรักภักดี

    .....มองกลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน แล้วมองย้อนกลับไปในอดีต
    .....จึงเห็นว่าวงล้อประวัติศาสตร์กำลังหมุนกลับมาซ้ำรอยอีกครั้ง
    .....ไทยเคยรุ่งเรืองแล้วแตกพ่าย และเคยแตกพ่ายแล้วรุ่งเรือง

    หากแต่...วันนี้ การรบทัพจับศึกมิใช่การประดาบฟัดฟาดเช่นในยุคโบราณ
    อาวุธของข้าศึกวันนี้ คือ การป้อนข้อมูลข่าวสารอันบิดเบือน ด้วยการสื่อสารอันทันสมัย
    ผสมกับการสื่อสารระบบดั้งเดิม ที่ยังคงใช้ได้ผลดี นั่นคือการเคาะประตูบ้าน
    ไปบอกกล่าวให้ร้าย แล้วพรั่งพรูถ้อยคำเท็จ ราวนิทานหลอกเด็ก
    ก็เพื่อหวังจำนวนมวลชนมหาศาลมาเป็นพวกตน
    มันน่าเศร้าใจตรงที่ ข้าศึกของเราวันนี้ คือคนไทยด้วยกันเอง

    การปรามาส ชาวบ้านว่าเข้าร่วมชุมนุมเพราะอำนาจเงิน
    บางทีคงต้องคิดใหม่ ด้วยวิธีการเกณฑ์มวลชนมหาศาลเข้ามายึดกรุงนั้น
    เงินคือส่วนสำคัญก็จริง แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า
    ...ผู้คนบางส่วนมาเพราะเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจจริง ๆ
    ...ว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกต้องดีงาม
    ...นี่อาจเนื่องมาจากการได้รับการป้อนข้อมูล
    ...ให้รับรู้ ให้รัก ให้เกลียด ให้คล้อยตาม

    ..........ผู้คนบางส่วนเข้ามาด้วยเกรงกลัวอิทธิพลท้องถิ่น
    ..........เกรงว่าจะอยู่ร่วมกับสังคมเดิมของตนไม่ได้

    ...............................
    … อย่าให้ปฏิบัติการคนไทยฆ่าคนไทยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ... อย่าให้คนไทยต้องเกลียดกันเอง
    ... แล้วลืมใครที่เราทุกคนเทิดทูนไว้เหนือสิ่งอื่นใด
    ... เพราะนั่น จะเป็นการ เข้าแผนล่อเหยื่อ
    ... “พลิกฟ้า...โค่นแผ่นดิน” ของกองกำลังสามานย์ (ที่ทราบฝ่าย)

    "ชาลี” เขียน
    20 เมษายน 2553

    แหล่งที่มา: http://mblog.manager.co.th/chaleejang/th-94796/
     
  18. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466


    เนื่องในวาระดิถีวันคล้ายวันสวรรคต ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ของพระองค์

    ท่าน สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมรำลึก ในพระมหา

    กรุณาธืคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาลที่ทรงมีต่อชาติไทยและต่อประชาชนชาวไทย ที่

    ได้ทรงกอบกู้เอกราชให้ประเทศชาติได้รอดพ้นจากการเป็นทาสจากการเป็น

    เมืองขึ้นของพม่าสามารถดำรงคงความเป็นไทตราบจนทุกวันนี้

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
     
  19. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา
    กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง การเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมเพื่อสังคมไทยใสสะอาด


    ... พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งเมื่อ 2532 ว่าการมุ่งสอนให้คนเก่งนั้น อาจทำให้จุดบกพร่องต่างเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเราจึงพยายามเดิมคำที่ 2 ด้วยว่าเก่งแล้วต้องดีด้วย คนเก่งและดีหายาก เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร หากเก่งอย่างเดียวจะเกิดข้อบกพร่องอย่างไรบ้าง ในหลวงรับสั่งประการที่ 1 คนเก่งจะบกพร่องในความคิดพิจารณาที่รอบและกว้างไกล เพราะใจร้อนอยากทำให้เสร็จเร็วๆ ทำให้ผิดพลาดล้มเหลวได้ง่าย เพราะคนเก่งเชื่อมั่นจิตใจสูง ดูถูกคนแก่ 2.บกพร่องในความนับถือและเกรงใจผู้อื่นเพราะถือตนเป็นเลิศ ดูถูกคน มองข้ามความสำคัญบุคคลอื่น ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ทำลายไมตรีจิต หาเพื่อนยาก 3.บกพร่องในบกพร่องในความมัธยัสถ์ มุ่งให้ตัวเองโดดเด่น อยากก้าวหน้าเร็ว จึงเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น และ 4.บกพร่องในจริยธรรมและรู้จักรับผิดชอบชั่วดี มุ่งหาประโยชน์เฉพาะตัว พลิกแพลงจนจับไม่ได้ ยิ่งเก่งแล้วเกิดไม่ดี สลับสับซ้อนยากที่คนธรรมดาจะตามได้
    ดร.สุเมธระบุว่า พูดเท่าไรไม่พอ แต่เราจะยอมแพ้ไม่ได้ ในหลวงรับสั่งให้รักษาคุณธรรม 4 ประการ 1.ให้รักษาความสัจจะ เปิดทีวีจะเห็นว่าโกหกทุกนาที จะเอาความสัจจะมาจากไหน คนจีนรักษามาก พูดแบบใดต้องรักษาคำพูด ตัวอย่าง สันติ อหิงสา กี่คนแล้ว อย่าไปเทียบเหตุการณ์ปัจจุบัน 2.ให้รู้จักข่มใจ ฝึกใจตนเองให้ปฏิบัติอยู่ในความสัตย์ ต้องมีความเพียร ต้องมีหิริโอตตัปปะ ต้องมีความเข้มแข็งในจิตใจต่อสู้กิเลสตัณหา เพราะต้องมีหิริโอตตัปปะ เผลอไม่ได้ 3.ความอดทนอดกลั้นและอดออม ความอดทนคือความสำคัญ แม้ใครจะเจอเรื่องใด แต่สุดท้ายก็รอดไม่ต้องแก้ ให้เวลาแก้ไขจัดการเอง เหตุการณ์จะคลี่คลายเหมือนรอพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า แต่ต้องผ่านความทุกข์ก่อนถึงพบ
    "ในหลวงทรงเป็นต้นแบบของความอดทน เคยรับสั่งว่าทรงนั่งอยู่สูงสุดบนยอดพีระมิด สูงสุดอยู่บนยอด แต่ประเทศไทยเป็นพีระมิดหัวกลับ ทุกสิ่งทุกอย่างเทใส่ท่านหมด ซึ่งพยายามเททุกอย่างใส่ท่าน บ้านเมืองนี้พูดได้แค่นี้ ต้องอดทน ทุกครั้งพอเหตุการณ์วิกฤติชีวิตคนเราธรรมดา มีแดดออกต้องมีพายุ แล้วจะมีฟ้าสดใส ไม่มีสุขหรือทุกข์ตลอด"
    4.ละความชั่ว ให้รู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สละประโยชน์ส่วนน้อยของตนเพื่อประเทศอยู่รอด ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเราเอง จะได้อยู่บนแผ่นดินไทยไม่ใช่ฐานะผู้อพยพในประเทศอื่น แค่บริจาคเพียง 1 ใน 62 ล้านคน แต่นี่ไม่ช่วยกันหยอดแล้วยังทำลาย ไม่เห็นคนไทยฆ่ากันมานานแล้ว พูดแบบนี้เดี๋ยวโดนด่าอีก ในชีวิตไม่เคยเห็นศัตรูต่างชาติสักคน แต่ยังจะเดินซ้ำรอยอดีตอีก เสียของเรื่องเล็ก แต่เสียชีวิตคนคำนวณไม่ได้
    สุดท้ายจึงขอให้ยึดมั่นในทศพิธราชธรรม 10 ข้อของในหลวง โดยคำว่า อวิโรธนะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถือมากเรื่องนี้ ไม่ยอมทำผิดประการใดทั้งสิ้น ไม่ยอมทำผิดนี้ไม่ใช่ผิดหรือถูกกฎหมายเท่านั้น แม้ขนบประเพณีวัฒนธรรม จะทรงปฏิบัติอย่างไร เรื่องใดนั้น
    "พระองค์ท่านจะทรงวินิจฉัยเอง แม้เราจะดูไม่ออกว่าท่านทำไมไม่ทำแบบนั้นหรือทำแบบนี้ นั้นเราคิดตื้นๆ ไม่มีเหตุผล แต่ความจริงพระองค์ทรงรู้ว่าพระองค์ทำผิดไม่ได้ แต่จังหวะใดท่านจะทำอะไร พระองค์ท่านจะทรงพระวินิจฉัยเอง พูดได้แค่นี้ ไปคิดต่อได้ หากพูดแค่นี้ไม่เข้าใจอีก ตามสะดวก ผมขันติไม่รู้สึกอะไรชาด้านหมดแล้ว" ดร.สุเมธกล่าวทิ้งท้าย

    แหล่งที่มา : ถ้าไร้แผ่นดินไม่สุข 'ฟ้าหญิง'เตือนสติประชาชน/เผยในหลวงทรงรู้ทุกเรื่อง | ไทยโพสต์


    สาธุ ขออนุโมทนา
     
  20. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210


    นื่องในวันคล้ายวัน สวรรคต ใน สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 25 เมษายน

    ข้าพพุทธเจ้า น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้

    ด้วยความจงรักภักดี

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ


    ขอหมู่มาร และภัยพาล จงพ่ายแพ้ต่อพระบารมี
     

แชร์หน้านี้

Loading...