เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ผมมีรูปที่ถ่ายที่วัดพันเตา จ.เชียงใหม่ ในวันสงกรานต์ วงสีขาว ๆ ที่พบในรูปนั้นคืออะไร

ก่อนหน้า ผมถ่ายบริเวณเจดีย์ 3 รูป ก็ไม่ปรากฎวงสีขาว แต่พอถ่ายในอุโบสถก็ปรากฎวงขาว ๆ อย่างที่เห็น

 

ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพ สังเกตุให้ดีว่า แสงขาวๆ นั้นจะเกิดบริเวณเดิม ตำแหน่งเดิมของภาพ ตรงบริเวณวงรีสีเขียวที่วงไว้ นั่นหมายความว่า ปัญหาอยู่ที่กล้อง หน้ากล้องมัวมีรอย กล้องเราก็เป็น บางภาพเห็นชัด บางภาพไม่ชัดเพราะปัจจัยทางด้านแสง

ถ้าถามความรู้สึกเกี่ยวกับภาพ ก็ รู้สึกเย็นดี (หรือเราอารมณ์ดีมะรุ๊ ฮี่ๆ)

 

NCK 2046 เป็นพณานาคเก่า มาเกิดเป็น คนเพื่อ รับ แรงบุญ ด้วยตัวเอง..เพื่อการหลุดพ้น..ขอให้สมหวังครับ

Balloon การเอารูปพระแทนตัว..แปลว่า เรานับถือ ในแง่พุทธบารมี..ไม่เป็นไร
ให้พลังแห่งการรู้จักวาง

 

เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ (ต่อ)
ตอนเส้นทางสู่ อุทธยานศรีเทพ
..................................................
หลังจาก รับพร จาก องค์วิษณุ..และขอบคุณ พระองค์ไปแล้ว
เราก็ถอยกลับออกมา..ทางด้านหน้า ของ ลานกว้างนั้น
ออกมาแล้ว ก็มีสองทางที่ควรรจะไปดูต่อ
..........................................................
เส้นทางแรก..คือ เดินต่อ ไป..ตรงไปยัง องค์ปรางค์ ศรีเทพ
ที่อยู่ห่างออกไป อีก กว่า 200 เมตร..
ไกลพอสมควร สำหรับคนอายุเลย 60 ปี
.................................................................
อีกทางหนึ่ง แยกไปทางขวา..อันเป็นที่ตั้ง ของ เขาคลังใน
ที่อยู่ไม่ไกลนัก ประมาณ 50 เมตร ซึ่งใกล้กว่า
เราคนแก่ มี สามตา / ลุงแหนม / อรัญไชย..ก็เดินไปทางสู่ เขาคลังใน
คนหนุ่ม แข็งแรง ชอบเดิน..."เห็ดหอม "..
แยกไป สู่ ปรางค์ศรีเทพ คนเดียว
...........................................................................
เราเดินไป ยัง เขาคลังใน
ตรงหน้า เขาคลังใน มี ต้นไม้ใหญ่ มีที่นั่ง พัก
เราก็เลยนั่งลงใต้ร่มไม้นั้น
มองเพ่งไปยัง เขาคลังใน ที่ เหมือนกองเศษ อืฐ อยุ่ ตรงหน้า
...................................................................

 

มองด้วยตาธรรมดา..ก็เหมือน ทราก พัง ยุบ ของ ลิ่งก่อ สร้าง เก่า แก่
ที่มีอายุมากกว่า 1000 ปี..ส่วนยอด ที่เคยสูงตระหง่านก็ ยุบตัวลง
ที่ ฐาน ของ เขาคลังใน..มีการปั้น /แกะสลัก รูป สัตว์ โบราณ..ไว้โดยรอบ
กรมศิลป์กลัว การเสียหาย เนื่องจาก ..ถูก ฟ้า / ลม /ฝน
จึงทำหลังคาคลุมไว้..เพื่อความคงทน
..........................................................................
พอดุด้วยตาธรรมดา..ก็เข้าใจในสิ่งที่เห็น
จึงเพิ่ม ขึ้นด้วยการดู ด้วยตาใน..ย้อนหลัง
พบว่า แต่เริ่ม แรก เป็นการสร้าง ที่ สูง..ในรูปแบบ ของ ปีรามิด
ในทำนองเดียวกับ มหาปีรามิด ใน ประเทศ อีจิปต์
หรือ วิหารบูชาเทพ ของ ชาว อินคา ในอเมริกาใต้
.....................................................................
แหงนหน้าขึ้นมองสูง ที่ ยอด..เพราะเห็นอะไร แวบๆๆ
ก็เห็น ควงตา ข้างเดียว ขนาดใหญ่ กว้างกว่า 1 เมตร
ดวงตานั้นสภิตย์อยู่ที่ ยอด ปลายสูงสุด
.......................................................................
ดวงตานั้น หัน กวาดจ้อง ไปได้ โดยรอบ
ไม่ว่า เราจะเดิน ไป ด้านไหน..นัยตานั้นก็ หันมองตาม
เหมือน ตา นกฮูก ที่หันได้ แทบจะรอบคอ
.........................................................................
สายตา จากดวงตานั้น..คงเป็นตา ของ สิ่งศักดิ์ สิทธิ์ ที่ เฝ้า มอง
กระแส แห่งสายตา ค่อน ข้างแรง..และน่้าจะดุ พอ สมควร
แต่ สำหรับ เรา..ที่ เป็นคนดี..สายตานั้น ก็ อ่อนโยน..
ให้พลังแห่งเมตตา
..........................................................................
ทำให้คิดถึง ธนบัตร 1 ดอลล่าร์ ของ อเมริกา
ที่มีรูป ปีรามิด และมีลูกตาข้างเดียว ..อยู่ที่ ยอด ปีรามิดนั้น
นั่น..มี เรื่องลึกลับใดซ่อนอยู่ หรือ ???
อเมริการ เพิ่ง สร้างประเทศ กว่า 200 ปี
แต่เขาคลังใน..มีอายุ เก่า แก่ กว่า 1200 ปี
เรียกว่า คนละรุ่น..แล้วใคร ก๊อปปี้ ใคร
เพื่อสิ่งใด......................................
.........................................................

 

ลองเพ่งทะลุ เข้า ภายใน ของ เขา นั้น
พบว่า ข้างใน มีช่องว่าง แบบ ส่วนในของ มหาปีรามิด ของ อีจิปต์
เรียงรายไปด้วย สมบัติโบราณมากมาย วาง กองอยู่ อย่างเป็นระเบียบ
วางเป็น ชั้นๆ..แบบสโตร์เก็บ พัศดุ แบบมีระบบ
.........................................................................
ของเหล่านี้ ..ดูได้ หยิบ ไม่ได้..เพราะมีเจ้าของ
ใครมาหยิบเอาไป...ถ้าไม่ใช่เจ้าของเดิม ที่ จะเกิดมาใหม่
ก็ จะเดี้ยง แน่นอน
............................................................................
(มีต่อ)

 

สวัสดีท่าน คุรุ ทุกท่าน แนะนำผมหน่อยครับ
ผมเพิ่งได้ติดตามอ่านกระทู้นี้มากได้สี่ ห้าวันแล้วครับ ตอนนี้ก็อ่านได้ถึงหน้าที่ ๒๔ เอง เวปนี้ทำให้ผมได้รู้อะไรมากมายที่ผมสงสัย ตอนแรกผมก็แค่อ่านสนุกๆ และก็จะถามอ.สามตา เรื่องที่ผมพบเห็นและฝันเห็นอะไรต่างๆ เท่านั้น พออ่านไปเรื่อยๆ ก็สะดุดที่อ.สามตาเล่าเรื่องงานถวายเพลิงพระศพพระพี่นางฯ ผมก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง จึงถามท่านอาจารย์ไปอย่างใจร้อน ตอนนี้ผมเริ่มปฏิบัติมั่งแล้ว

เมื่ิอคืนนี้ตอนประมาณตีสี่ ตีห้า ผมได้นั่งสมาธิ นั่งไปเรื่อยๆให้จิตใจสงบ ตอนแรกความคิดผมมันจะผุดขึ้นมาเองจนผมต้องคิดเตือนตนว่า ฟุ้งซ่านอย่าคิด ซักพักก็มีความคิดอยากฆ่าคนบางคนขึ้นมา ผมเผลอไปกับมันพักนึง ก็คิดได้ว่ากำลังเผลอ แล้วรีบแผ่เมตตาให้กับคนที่ผมเผลอคิด และพอเห็นว่าในความมืดนั้นมีความสว่างเหมือนกับเปิดไปก็ตั้งจิตอุทิศบุญกุศลให้แก่ เจ้ากรรมนายเวร เทพอารักษ์ วิญญาณศักสิทธิ์ทั้งหลายที่อยู่บริเวณนี้ จากนั้นผมก็เริ่มมีรู้สึกว่า กายเราเอนไปข้างหน้าเล็กน้อย แต่ไม่สนใจ ก็ตั้งใจจับที่แสงต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะหลับตานั้นแสงนั้นไม่ได้สว่างมากนักแต่ก็แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกับการเพิ่งหลับตาใหม่ๆ จากนั้นผมก็รู้สึกตัวอีกว่าตัวเรากำลังงอมากทีเดียวก็เลยเปลี่ยนอิริยาบทเป็นการนอนหงาย
ภาพแสงนั้นก็หายไปขณะหนึ่ง จากนั้นก็กลับมาอีก แล้วผมก็เริ่มผ่อนคลาย ก็จับแสงไปเรื่อย
จนเห็นภาพอะไรสักอย่างเล็กๆตรงหน้าเกิดขึ้นเหมือนมีทีวีอยู่ตรงหน้าเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผมนึกอยากเห็นใกล้ๆ ก็ได้เห็น ภาพที่เห็นเป็นที่อยู่ผมตอนเด็ก ผมเห็นบริเวณนั้นมีหมอกควัน และก็เห็น ชายชุดขาวเิดิน ถือธูปหนึ่งกำ หอมเชียวเดินหายเข้าไปในควันนั้น ผมก็ตามเข้าไปบริเวณนั้นจะเป็นหน้าบ้านคนที่ผมรู้จัก ทุกบ้านจะเปิดไว้ แต่ผมไม่กล้าเข้าไป ผมได้แต่ตามชายชุดขาวไปตามทางเท่านั้น จนสุดทาง ผมไม่เจอเค้าอีกเลย
จากนั้นก็คิดถึงพ่อกับแม่ขึ้นมา ภาพก็เปลี่ยนไป เป็นภาพพ่อของผมนอนอยู่บนเตียงโรงพยายาล ในใจก็คิดว่าแล้วแม่ผมล่ะ แม่อยู่ไหน เท่านั้นแหละ ผมกลับได้ยินเสียงทหารเปิดเพลงเสียดังมากจนผมต้องลืมตาและไม่ได้นั่งต่ออีก

ขอผุ้มีตาทิพย์ชี้แนะผมทีว่า ผมปฏิบัติถูกไหม หรือภาพที่เห็นนั้นเป็นเพียงความฝันที่ผมหลับ
แต่ที่แปลกคือผมลืมตามายังเหมือนไม่ได้นอนหรือง่วงอะไรเลย ผมควรทำอย่างไรต่อไป และภาพที่เห็นเรื่องพ่อผมนั้น จะเป็นอะไรไหมครับ ไม่ได้ตกใจไร แค่เป็นห่วงท่านเท่านั้นเอง

 

เห็น อาจารย์สามตา โพสกระทู้นี้บ่อย

จะถาม อาจารย์ว่า วันที่ 13 เดือนนี้ อาจารย์ไปไหนรึเปล่าคับ

จะลงจากเชียงใหม่ ไปหาอาจารย์ คับ

 

ขอบพระคุณอาจารย์ที่กรุณาค่ะ คงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆแหละเพราะเคยระลึกย้อนได้ถึงครั้งยังเป็นนาคเจ้าชู้อยู่ใต้บาดาล แต่ต้องขึ้นมาเกิดเป็นคนเพื่อดูแลพระพุทธศาสนาให้ครบ 5000 ปี ตามที่เคยอธิษฐานไว้กับสมเด็จองค์ปฐมฯ (ท่านลงไปตามเองถึงถ้ำเลย อายซะไม่มีเพราะมัวแต่ติดหญิง)

แต่ตอนนี้ยังหลุดพ้นไม่ได้ค่ะ ตอนแรกก็กะจะให้พ้นชาตินี้แหละแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจทำบารมีต่อแล้ว

 

เห็นอาจารย์บอกว่าจะเขียนเรื่องพระวิษณุ เลยแวะเข้ามาอ่านค่ะ

มีเรื่องนึงสงสัยมานานแล้วค่ะ เมื่อตอนเริ่มฝึกเจริญสติใหม่ๆ มีครั้งนึงไปฝังเข็มก็นอนทำสมาธิไปด้วย
หลังจากนั้นเนื่องจากกำลังรีบทำธุระมากเลยยังไม่ทันสังเกต พอเริ่มว่างแล้วถึงรู้สึกตัวว่ามันแปลกๆไป
เหมือนแยกออกมาเป็น 2 คน มีคนนอกกะคนใน คนในก็นั่งมองคนนอก ตอนทำโน่นทำนี่มันยังไม่ชัด
แต่พอพูดนี่รู้สึกชัดเลย นี่ใครพูด 2 ตัวมันห่างๆกันยังไงชอบกล เป็นอยู่ 1 วันก็หาย อยากรู้ว่าที่เป็นยังนี้
เพราะ 1.เกิดจิตผู้รู้จากฌาณ 2 2.เพราะฝังเข็มที่กลางหัวเลย 3.ของเก่ามาให้ดูเล่นๆ อยากถามผู้รู้
ไม่ได้ถามซะที อาจารย์อาชวิน หรือท่านอื่นจะช่วยกรุณาให้ความกระจ่างได้ไหมคะ

ปล. หนูคือคนที่ไปหาอาจารย์ที่ booth เมื่อบ่ายวันเสาร์น่ะค่ะ ส่ง PM ไปไม่ทราบอาจารย์จะได้อ่านหรือยังคะ

 

เมื่อวาน วันศุกร์ไปหาอาจารย์สามตามา

ดีนะคะ ที่ได้ไปเจออาจารย์ แบบตัวต่อตัวมา เพราะว่าเราจะได้รู้ละเอียดกว่า ถึงความสามารถ หรือกรรมที่มาประกอบเป็นปัจจัตตังของแต่ละคน เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน (แบบสัมมาทิฐฏิ) ซึ่งบางครั้งเราอาจสงสัยว่าทำแบบไหน จะใช่ หรือเปล่า
ในกรณีศึกษาของตัวข้าพเจ้าเอง มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องร่างกายที่หนักมาก เพราะวิญญาณมาเกาะเยอะ ถือว่าเป็นทุกข์เกินไป ไม่อยู่ในทางสายกลาง ยังงัยเราก็ต้องแบกสังขาร ร่างกายสมควรที่จะสงเคราะห์มันหน่อย ไปศึกษากับอาจารย์มาแล้วนะคะ ถือว่าสามารถรับรู้ได้ทั้งที่ไม่ได้มีความสามารถอะไรวิเศษมากมาย ร่างกายเบาขึ้น สบายขึ้น ถึงแม้ว่าเจ้าวิญญาณจะมาเกาะอีกแล้ว ปวดอีกแล้ว วิญญาณที่มาร้อนมาก นอนไม่หลับเลยทั้งคืน แต่ก็ถือว่าดีมากที่ได้ไปพบอาจารย์ ยิ่งตอนร่วมทำบุญแบบและรับบุญแบบทันทีทันใดนั้น ถือว่าน่าประทับใจมาก ตัวเบามาก เหมือนกับว่า ไชโย ไม่ต้องรับผิดชอบสังขารแล้ว
ลองไปดูนะคะ ชีวิตมีกรรมต้องเดินอีกไกล ทำดีกันไป ยังไงก็ถึง

 

สาธุ แล้วผมจะลองหาเวลาไปพบอาจารย์สักครั้งครับ

ตอนนี้คงต้องอยู่นราธิวาสไปก่อน

ขอให้ได้พบสักวันเถอะครับ สาธุ

พบครูดีอาจารย์ดี ขอแค่สักครั้งคงจะได้ดีติดตัวกลับมาบ้าง

ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ทำตัว

 

อาจารย์ช่วยตรวจออร่าให้หลานสาวค่ะ ^_^

พอดีหลานสาวนก สอบติดคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เลยพาไปกราบสวัสดีอาจารย์อาชวิน เพื่อเป็นศิริมงคลชีวิต

อ.ได้ตรวจออร่าให้ บอกว่าเมื่อคืนนอนดึก ฟันผุ มีลมในท้องเยอะ ปวดหลัง
ให้ระวังเรื่องไส้ติงด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ ดีหมดไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
(และพูดถึงรายละเอียดต่างๆ ได้ถูกต้องแม่นยำมากค่ะ)
หลานสาวหันมาอมยิ้ม กระซิบบอกว่าตรงหมดเลยง่ะ อานก
(คือเด็กสมัยใหม่เค้าจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ค่ะ)
ได้ปรึกษาอ.เรื่องเรียนต่อ โท เอก ต่างประเทศ
อ.บอกว่าความจำดี ขยัน เรียนต่อได้ถึงด็อกเตอร์ ได้ไปต่างประเทศแน่นอน

ระหว่างทางกลับบ้าน หลานถามตลอดทางว่า อ.รู้ได้ยังไง
นกจึงแนะนำให้หลานนั่งสมาธิ รักษาศีล 5 ให้ครบ และเอาหนังสือของอ.ให้หลานอ่าน (มีเล่ม 1 - 13 ตอนนี้รออาจารย์เขียนเล่มใหม่อยู่ค่ะ)

หลังกลับจากไปกราบอ.หลานนกเริ่มนั่งสมาธิก่อนนอน ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษมากขึ้นกว่าทุกวัน ดูเค้ามีความสุขมากค่ะที่จะได้จบถึงด็อกเตอร์ ได้ไปต่างประเทศ

ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อาชวิน เป็นอย่างสูง
สำหรับ ขวัญ กำลังใจ ในครั้งนี้ค่ะ สาธุ ^_^

 

ไม่ได้ เข้ามาอ่าน 3 วัน
มีสมาชิกเข้ามาต่อหางยาว..จนค้องกลับไปอ่านของตัวเอง ว่า
เขียนเล่าถึงไหนแล้ว
.......................................................................
สรุปว่า ภายใน เเขาคลังใน เป็น กอง ซาก สิ่งก่อสร้าง
แบบ ปีรามิด แลัว ยุบลงมา ตามกาลเวลา..ที่ผ่านมา กว่า 1000 ปี
แต่ก็ยัง มี ดวงตาแห่งเทพ เฝ้าอยู่ที่ยอดบน ที่สูง
...................................................................
ภายในยังคงมี มหาสมบัติ กองอยู่เต็ม..
รอ เจ้าของเดิม มาเกิด แล้ว นำออกมา..เพื่อช่วยชาติ
ไม่รู้ว่า มีเขาคลังนอก ที่ใหญ่กว่า (ตามคำบอกของคุณ "ดาวทะเลทราย" )
ที่อยู่นอกคูเมือง...วันหลังจะต้องแวะไป ดู อีกที
ลองสะแกนด้วยจิต อย่างง่ายๆๆ..พบว่า มีพลังไม่มาก..และไม่มีสมบัติ
มากเท่า เขาคลังใน

 

ฐานล่างสุด ของ เจาคลังใน..โดยรอบ
มีรูปปั้น / รูปแกะ เป็น สรรพสัตว์ ทั้งหลาย เรียงรายอยู่ที่ ฐาน
เพื่อแสดงให้ รู้ว่า..ทุกสรรพสัตว์ ที่เกิด มา ต้อง แบกโลก ไว้
แบก กรรม ไว้ เช่นเ้ดียวกับ ยักษ์ ที่แบกโลกไว้ ที่รูปปั้น ใน วัดพระแก้ว กทม
................................................................................
ดูรายละเอียด ของ รูปปั้น..ก็พบว่า กว่้า 1000 ปี สัตว์ ทั้งหลาย
ที่อยู่ในยุคนั้น กับ ตอนนี้ แทบไม่ต่างกัน เลย
แปลว่า การเปลี่ยนแปลงทา่งยีน และ รูปร่างสังขาร..
แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง
เช่นเดียวกับ รูปสัตว์ ที่ ผาแต้ม ริมฝั่งแม่น้ำโขง จ. อุบลราชธานี
..........................................................................

 

เมื่อสำรงจ เขาคลังใน ทั้ง ข้างนอก และภายใน จบสิ้น
ก็ถอดจิตกลับออกมา
มองไป รอบๆๆบริเวณ อีกครั้ง...พบว่า ทางซ้ายมือ
มี สิ่งก่อสร้าง เป็น วงกลม..ก่อเป็น ขอบสูง ประมาณ เอว
ภายในมี ทราย ถมไว้เต็ม..ลักษณะเหมือน จะสร้างอะไร อย่างหนึ่ง
ทำให้ฉุกใจคิดว ่า..อะไร ที่กลม..จะต้อง มี อะไร พิเศษ
..........................................................................
จึงเดินไปดู และสัมผัสใกล้ๆๆ..ก็พบว่า มีพลัง แห่ง การยก ขึ้นลอย
และมีแสงสีม่วง จางๆๆ ลอยขึ้นสูง...นี่คือ บัวยอก ที่ สร้างเพิ่มขึ้นมา
เพื่อการบูชา ติด ต่อ กับ เบื้องบน อีกแห่งหนึ่ง..สำหรับ การบูชา เขาคลังใน
...............................................................................
จากการสัมผัส และ มีาสีม่วงจางๆๆ..
แปลว่า เป็น ที่ ติด ต่อ กับเบื้องบนได้ จริง
แต่พลัง อ่อน..เพีบง 1 ใน 3
เมื่อ เทียบกับ พลังบัวยอด ที่อยู่ หน้า ปรางค์ สอง พี่ น้อง
ที่เราดูและสัมผัส ก่อนหน้า นั้น
..................................................................

 

พอดี คุณ "เห็ดหอม" เดินกลับมา จาก สำรวจ ปรางคฺศรีเทพ และ บริเวณ โดยรอบ
ที่มีบางส่วนเป็น สิ่งก่อสร้างในแนวพุทธ..มี ธรรมจักรขนาดใหญ่ ตั้ง อยู้ ด้านหน้า
สามตา และ สมาชิก อื่นๆๆ ไม่ได้ ไป..
จึงต้องรอ คุณ "เห็ดหอม" เข้ามาเล่า ด้วยตัวเอง ว่า...เจออะไร บ้าง
...........................................................................
(มีต่อ)

 

เอารูปลงให้อีกทีครับ

 

เรื่องเล่าเสริมเก็บตกปรางค์ศรีเทพ

เมื่อออกจากปรางค์สองพี่น้องคณะสว.ไม่ไปปรางค์ศรีเทพ

ซึ่งจะต้องเดินไปอีกประมาณ200 เมตรแยกไปเขาคลังในที่อยู่ทาง

ขวามือเห็ดหอมก็ต้องฉายเดี่ยวซิครับ ด้านหน้าปรางค์ศรีเทพจะมี

ศิวะลึงค์ที่แกะจากหินทรายที่แกะขึ้นมาใหม่ก็ลองทดสอบพลังพบว่า

ต่างจากศิวะลึงค์องค์เดิมมากก็สงค์น้ำสักการะแล้วเดินสำรวจองค์

พระปรางค์ซึ่งพลังไม่แรงเท่าปรางค์สองพี่น้อง ถึงว่าอ.สามตา

ไม่เดินมาด้วย สำรวจและถ่ายภาพเสร็จก็เดินมาทางขวามือ

ก็มาสดุดพลังมาจากทางซ้้ายมือก็เดินเข้าไปพบว่าเป็นแผ่นหิน

ประมาณทับหลังที่ชำรุดและทางเจ้าหน้าที่นำมาตั้งให้ชม

เสร็จแล้วก็เดินมาทางเขาคลังในที่บรรดาคณะ สว.หลบแดด

อยู่ใต้ต้นไม้เห็ดหอมก็เดินสำรวจแบบเวียนทักษิณานุวัตร

เมื่อมาถึงด้านหน้าก็พบพระธรรมจักรใหญ่มากเส้นฝ่าศูนย์กลาง

ประมาณ 1.5 เมตรพลังสุดยอดก็ทำการสักการะและสงค์น้ำ

ตามประเพณีสงกรานต์ เรียบร้อยก็เดินทางสำรวจรอบเขาคลังในต่อ

สภาพโดยรอบก็ทรุดโทรมเสียหายจากลมและฝนตามการเวลาที่

ล่วงเลยมานานตามสัจจะธรรม พบว่าฐานล่างบางส่วนที่ยังพอจะมี

รูปปั้นประดับที่ไม่เสียหายหมดเจ้าหน้าที่ก็ทำหลังคากันแดดกันฝน

เพื่อชลอการชำรุดเสียหายให้เหลือไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาภูมิปัญญา

และความยิ่งใหญ่ของบรรพชนต่อไป เมื่อเดินมาครบรอบก็พบว่า

ใกล้ๆที่คณะอ.อาชวินนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ทางด้านขวามือมีสิ่งก่อสร้าง

ที่สูงประมาณครึ่งเมตรและอาจารย์ก็ชี้มือบอกให้เข้าไปสำรวจหน่อย

ก็พบว่าเป็นบัวแปดกลีบอีกสองดอกขนาดใหญ่มากเส้นฝ่าศูนย์ประมาณ

10 เมตรแต่พบว่าพลังไม่แรงเท่าไหร่ก็เชิญพี่วิโรจน์(พี่แหนม)ข้นมาพิสูจน์

พลังเมื่อเรียบร้อยก็มาใต้ต้นไม้สมทบกับคณะอาจารย์อ.อาชวินก็ให้กำหนดดู

ตาที่สามที่อยู่บนยอดเขาคลังในที่ไม่ว่า่เราจะเดินไปทางไหนก็จะหันมองตาม

ส่วนสมบัติที่อยู่ด้านในคลังก็ตามที่อาจารย์บอกละครับดูได้แต่จับต้องไม่ได้

ถ้าไม่อยากเดือดร้อน เมื่อพักผ่อนเรียบร้อยก็เดินทางต่อไป

 

ภาพถ่ายปรางค์ศรีเทพและเขาคลังใน