พระเยซู ตายแล้วไปเกิดเป็น เทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย gatsby_ut, 29 พฤษภาคม 2010.

  1. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    พระเยซูตายแล้วไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต

    [​IMG]

    <O:p
    “..ประมาณเกือบ ๒๐ ปีมาแล้วสมัยที่อาตมาไปวัดคริสต์ที่บางนกแขวก มีบาทหลวงบางคนเขาไปที่กรุงเทพฯ และก็ชอบๆ กัน เพราะสมัยนั้นอาตมาเรียนทั้งพุทธทั้งคริสต์ ที่เรียนคริสต์ไม่ใช่ไปเรียนที่โรงเรียนแต่คุยกัน ตอนนั้นพวกกุฎีจีนเขามาคุยแลกเปลี่ยนความรู้กัน ความจริงนักศาสนาจริงๆ เขาไม่ทะเลาะกัน เมื่อไปเยี่ยมเขาคุยไปคุยมา เขาถามว่า “ท่านทราบไหมว่า พระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่ไหน” อาตมาตอบว่า “รู้” เขาถามว่า “เคยคุยไหม” ก็บอกว่า “ฉันไปหาท่านทุกวัน ท่านอยู่ที่นิพพาน” จึงถามเขาว่า “แล้วพระเจ้าของท่านอยู่ที่ไหน” เขาตอบว่า “ไม่รู้” ถามว่า “เคยเห็นไหม” เขาตอบว่า “ไม่เคยเห็น” เขาเลยถามว่า “ท่านเคยเห็นพระเยซูของผมไหมครับ” ตอบว่า “ไม่เคยสนใจ” แล้วก็คุยเรื่องอื่นต่อไป

    [​IMG]

    ต่อมากลับมาที่พัก ธรรมดาของพระก่อนจะนอนต้องทำจิตใจให้สะอาดสบาย ไม่อย่างนั้นนอนไม่สบาย พอเริ่มทำสมาธิจับอารมณ์ จิตมันหลุดโผล่ปั๊บถึงดาวดึงส์ ไปโผล่ช่วงระหว่างพระจุฬามุณีกับบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ไปเดินป๋อที่นั่น พอเดินไปก็มีบาทหลวงคนหนึ่งเดินสวนทางเดินตรงมาข้างหน้า ก็เลยถามว่า “พระเยซูใช่ไหม” ตามธรรมดาอารมณ์เป็นทิพย์มันจะบอกเลยว่าใครเป็นใคร ถ้ายังสงสัยก็ยังใช้ไม่ได้ ความเป็นทิพย์จะบอกชัดจะไปสงสัยไม่ได้เลย

    [​IMG]

    ท่านก็ตอบว่า “ใช่ครับ” อาตมาถามว่า “ทำไมถึงแต่งตัวรุ่มร่ามอย่างนี้ บนสวรรค์เขาแต่งตัวแบบนี้เหรอ” ท่านบอกว่า “ถ้าผมไม่แต่งตัวแบบนี้ เกรงว่าท่านจะจำไม่ได้ จะสงสัย” บอกว่า “ถ้าอย่างนั้นสภาพความเป็นจริงของท่านเป็นอย่างไร” ท่านก็ทำให้ดู ภาพนั้นหายไปกลายเป็นภาพเทวดาสวยงามมาก เครื่องประดับขาวเป็นประกายแวววับ ชฎาก็แหลมเปี๊ยบ เรียกว่างามจับตาเลย ถามว่า “อยู่ที่ไหน” ตอบว่า “อยู่ชั้นดุสิต”

    [​IMG]

    พอบอกอยู่ชั้นดุสิตอาตมาก็ตกใจ ต้องเป็นพระโพธิสัตว์แน่ๆ คุยไปคุยมา อาตมาก็บอกท่านว่า “คำสอนของท่านมันผิดอยู่ข้อหนึ่งนะ” ท่านถามว่า “ผิดอย่างไรครับ” บอกว่า “ล้างบาปนั่นนะ คนที่ทำความชั่วแล้วมันทำลายได้เรอะ อย่างกับเนื้อของเราถูกตัดเฉือนไปเป็นแผล เราจะเอาเงินไปแลกซื้อเนื้อใครเขามาได้ที่ไหน จ่ายเงินให้เขาแล้วแผลมันหายหรือ” ท่านตอบว่า “ความจริงผมไม่ได้สอนอย่างนั้นนะครับ ที่ผมสอนนั้น ผมสอนให้สารภาพบาปแบบพระแสดงอาบัติ อาการสารภาพบาปคือ ไปทำความชั่วมาจากไหน เราจะได้ไม่ทำต่อไป” คำสอนของท่านเป็นแบบนี้ มา ตอนหลังมาดัดแปลง พอล้างบาป สารภาพบาปแล้วบาปหาย ก็เลยบาปทั้งสองคน คนก่อนก็ไม่หมดบาป คนหลังบาปเพราะโกหก

    [​IMG]

    <O:p
    ผู้ที่มีสิทธิไปเกิดอยู่ชั้นดุสิต<O:p</O:p

    พอกลับลงมาก็มานั่งคิดว่า พระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ชั้นดุสิต ต้องมีบารมีเข้มแข็งมาก ถ้าไม่เข้มแข็งเข้าชั้นนี้ไม่ได้ เพราะชั้นดุสิตนี้เข้าได้ ๓ พวกคือ
    <O:p
    ๑) พุทธบิดาพุทธมารดาของพระพุทธเจ้า<O:p
    ๒) พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเข้มแข็งแล้ว<O:p
    ๓) พระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปจึงจะอยู่ชั้นนี้ได้
    <O:p
    สวรรค์ทุกชั้นไม่ใช่ใครจะอยู่ได้ทุกชั้นนะ ต้องเป็นไปตามขั้น ก็เลยมานั่งนึกว่า ทำไมพระเยซูมาอยู่ชั้นดุสิตได้ มาดูอารมณ์ตอนหนึ่งของท่านคือ ถูกตอกตะปูกับไม้กางเขน ถ้าจิตไม่ดีพอ ท่านจะเป็นเทวดาไม่ได้ ตามพระบาลีบอกว่า “ถ้าจิตเศร้าหมองก่อนจะตาย ตายไปก็ต้องลงอบายภูมิ” นั่นเขาเจ็บขนาดนั้นเขายังไม่โกรธ ลองคิดดูให้ดีไม่ใช่เรื่องเล็กนะเรื่องใหญ่มาก ทำความดีไว้มากตลอดชีวิต แต่เวลาตายจิตเศร้าหมองหน่อยเดียวก็ต้องลงนรกหน่อยอย่าง พระนางมัลลิกาเทวี เป็นคนดีตลอดชาติ เวลาตายจิตคิดถึงที่เคยไปสะดุดเท้าของสามีนิดเดียว ความจริงโทษท่านไม่มี ถ้าจิตท่านไม่เศร้าหมองก็ไม่ลงนรก แต่ท่านแต่งตัวเป็นนางฟ้า เท้าแหย่ในนรก ๗ วัน..”

    อ้างอิง .หนังสือ ตายแล้วไปใหน

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.964956/[/MUSIC]

    <O:p

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 พฤษภาคม 2010
  2. noonei789

    noonei789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +6,958
    ขออนุโมทนากับธรรมทาน ดนตรีนี้ทำให้นึกถึงมรณานุสติกรรมฐานมากจ้ะ เเละ ทำให้เห็นถึงบุญที่บำเพ็ญมาของเเต่ละท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2010
  3. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    อนุโมทานา สาธุ

    [​IMG]

    ขอบคุณ กับข้อเขียน ด้วย นะคะ คุณลุง
     
  4. pinya

    pinya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +842
    อนุโมทนา คะคุณลุง
    ลุงคะ(สมมุติถ้าคนคนนั้นทำดีมาตลอดทั้งชีวิตแล้วก่อนตายจิตเศร้าหมอง)แล้วคนคนนั้นจะได้ไปอบายภูมิเหรอคะความดีที่ทำไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยเหรอ
    วัดกันที่จิตก่อนตายอย่างเดียวเหรอคะ
    แล้วในทางกลับกันถ้าคนคนนั้นเป็นคนชั่ว(แต่ก่อนตายจิตดี)แล้วเขาจะได้ไปสวรรค์เหรอคะลุง
     
  5. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291

    องค์สมเด็จ พระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านตรัสไว้ นะ
    สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง<O:p
    การไม่กระทำบาปทั้งปวง ด้วย กาย วาจา ใจ<O:p

    กุสะลัสสูปะสัมปะทา<O:p
    การทำกุศลให้ถึงพร้อม ด้วย กาย วาจา ใจ<O:p
    สะจิตตะปะริโยทะปะนัง<O:p
    การทำจิตของตนให้บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งเศร้าหมอง<O:p
    เอตัง พุทธานะสาสะนัง
    นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

    จิตฺเต สงฺกิลิฏเถ ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา.
    เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคติเป็นอันต้องหวัง.

    อะจิตฺเต อสงฺกิลิฏฺเถ สุคติ ปาฏิกงฺขา .
    เมื่อจิตไม่เศร้าหมองแล้ว สุคติเป็นอันหวังได้.

    การเคลื่อนของจิตไปยังภพภูมิอื่น (ตาย) มี ๒ อย่าง นะ คือ
    ๑.. เคลื่อนตามกำลัง ของอารมณ์ ในขณะดับจิต ถ้าทำกรรมใดมาก กรรม นั้น ๆ ก็จะมาในรูปนิมิต ต่าง ๆ จิตก็จะเคลื่อน ไปตามภพภูมิ นั้น ๆ

    ๒.. ถ้าจิตมิได้จับ กุศล และ อกุศลใด ๆ อันนี้โดยมาก ต้องผ่านสำนักพระยายม เพื่อพิจารณา ตามกรรม เพื่อนำไปสู่ ภพภูมิ นั้น ๆ

    กรรมใด ๆ ก็ตาม เมื่อทำแล้ว ย่อมมีผลเสมอ เพียงแต่จะให้ผล เร็ว หรือช้า เท่านั้น เราจึงไม่ควร ประมาทกับกรรม แม้นเพียง เล็กน้อย

    การปฏิบัติใน ทาน ศิล ภาวนา ก็เป็นพื้นฐาน ของความสุข ในชาตินี้ และ ชาติ หน้า
    แต่ถ้าเราปฏิบัติ ใน ศิล สมาธิ ปัญญา เราก็อาจจะพ้นทุกข์ได้ ถ้าเป็นผล นะ (ทานเรามีการให้เป็นปกติ ตามโอกาส จะอำนวย)
    ทาน ตัดความโลภ
    ศีล ตัดความโกรธ
    ภาวนา ตัดความหลง

    ครูบาอาจารย์ ท่านสอนมาอย่างนี้ นะ ลุงเอง ก็ยังไม่ได้อะไร
     
  6. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เว็บทางนิพพาน
    เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p</O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p</O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com<O:p</O:p

    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา


    [​IMG]</O:p>
     
  7. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    [​IMG]
    ...กราบอนุโมทนาค่ะ...
     
  8. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ครับ พระท่านจึงได้สอนว่า ไห้เรานึกถึงแต่ความดี นึกถึงแต่สิ่งดีๆ

    แรงบุญ แรงกรรม นะครับ ทาน ศีล ภาวนา จึงเป็นสิ่งจำเป็น

    คนที่ทำความไม่ดี มาตลอดชีวิต อกุศลกรรม หรือความชั่ว มันก็จะฝังอยู่

    ในกระมลสันดานหรือดวงจิต โดยทั่วไป พอคนถึงคราว ใกล้ตายจริงๆ ก็จะไห้ภาวนา

    ญาติๆนะ พุทโธบ้าง สัมมาอรหังบ้าง ก็พยายาม จะไห้ผู้ตายมีกำลังใจที่เกาะ

    พระก่อนสิ้นใจ อันนี้ก็อาจจะช่วยได้บ้าง หรือไม่ก็อาจจะสายเกินแก้ ถ้าอดีต

    ผู้ที่จะตายนั้น ไม่เคยนึกถึงพระ ไม่เคยทำอะไรที่เป็นความดี ที่เป็นชิ้น

    เป็นอันมาเลย มันยากนะ แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยไช่ไหม

    คนที่ทำความดีมาตลอด ความดีก็ฝังอยู่ในกระมลสันดานหรือดวงจิตเช่นกัน

    อารมณ์ใจ ก็จะมีความชินแตกต่างกันไป ชินในทางด้านชั่ว กับชินในด้านดี

    ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็น ถ้าอารมณ์ใจ ชินอยู่ในความดี มีสูงกว่า ชินอยู่ในด้านชั่ว

    ก็เหมือนการสอบไล่ ยังไง เราก็ต้องสอบผ่านไช่ไหม

    ไห้สังเกต เวลาเราอยู่เฉยๆ แล้วเราอดแว๊บนึกถึงเรื่องที่เป็นอกุศลกรรม โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ

    รู้ได้เลย ว่าตอนนั้น เราถูกอกุศลกรรมเล่นงานแล้ว ถ้าตายตอนนั้น

    ก็เสร็จ ลงล่างแน่ พระท่านจึงสอนไห้เรามีสติ สติจะเป็นตัวช่วย

    ถ้าอีกอย่าง พระท่านสอนไห้รู้จัก การภาวนา การภาวนานี่สำคัญนะ เป็นการเจริญสติ เป็นการยังยั้บ ความชั่วที่เกาะกินใจ

    ถ้าำกำลังจิตสูง มีอารมณ์ เป็นฌาณ อกุศลกรรม ความหมองมัว เข้าแทรกจิตใจไม่ได้

    ถ้าตายด้วยกำลังฌาณ ก็มีสุคติเป็นที่หมาย

    แต่ถ้าตาย แล้วไม่อยากได้ร่างกายแบบนี้อีก มองเห็นแต่โทษ

    ของการที่มีร่างกายแบบนี้ หนทางพ้นทุกข์ อย่างแท้จริง มีแน่

    ตัดภพ ตัดชาติ ตัดการเวียนว่ายต่ายเกิดลงเสียได้ นั่นแหละ คือความสุข

    ที่แท้จริง มีพระนิพพานเป็นที่หมาย

    พระท่านสอนว่า วัตฏะสงสารอันยาวนานนี้ ในการเวียนว่าย ตายเกิด

    หาเบื้องต้น และเบื้องปลายไม่ได้ ไม่มีที่สิ้นสุด


    ดีที่สุด ก็คืออย่าประมาทในความชั่ว แม้ความชั่วสักน้อยนิด

    ทาน ศีล ภาวนา ทำควบคู่กันไปนะครับ

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มิถุนายน 2010
  9. Maxzimon

    Maxzimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +204
    น่าแปลกใจนะครับ ถ้าผมเจอพระเยซู คำถามแรกที่ผมจะถามคือพระเจ้าอยู่ที่ไหน (คำถามเมื่อทราบว่าท่านเป็นใครแล้วนะ ) เพราะผมอยากรู้ว่าพระเจ้านี่ใช่อย่างที่ผมคิดหรือปล่าว

    ขออนุโมทนาบุญที่ได้นำความรู้มาเผยแพร่ครับ หากผมเจอท่านอีกทีช่วยสอบถามด้วยนะครับ เพราะผมอยากทราบข้อนี้มากๆ ตอนนี้ผมทราบถึงข้อมูลต่างๆของศาสนา พุทธกับ อิสลามแล้ว แต่ ยังไม่ทราบว่าพระเจ้าของศาสนาคริสอยู่ที่ใด อันเป็นเหตุให้ผมสงสัยยิ่งนัก หมั่นเฝ้าบอกตนเองว่า เป็นเรื่องอจินไตย ไม่ควรคิดถึง แต่เมื่อมีคนทราบเราก็ควรถามใช่ไหมครับ แม้ว่ารับทราบมาแล้วจะไม่เชื่อ อย่างน้อยก็จะได้มีแนวทางในการพิสูจน์เพื่อที่จะเป็นหนทางสู่ธรรมของผมต่อไปครับ

    เพราะผมไม่เคยเจอพระเยซูเลย ตั้งแต่ผมทำสมาธิมา เคยสัมผัสแต่ บารมีของพระพุทธเจ้า กับ พลังของศาสนาอิสลาม หากแต่ยังไม่เคยพบพระเยซูเลย
    คำถามที่ผมอยากรู้ (ถ้าท่านช่วยสามารถตอบได้ เป็นธรรมทานนะครับ)
    1. พระเจ้าอยู่ที่ไหน คืออะไร และกำลังทำอะไร
    2. มหาเทพ ที่ถูกเอ่ยถึงใช่องค์เดียวกับเทวดาที่อยู่บนสวรรค์หรือปล่าว
    3. สูตรแห่งธรรม ใช่เพียงความรักและความเสียสละ ยังมีความอดทน และมานะ เมื่อมี4อย่างนี้ ก็จะก้าวสู่การหลุดพ้นได้ใช่หรือไม่

    ผมศึกษาธรรมอยู่นะครับ
     
  10. เป็ดเซ็ง

    เป็ดเซ็ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +858
    [​IMG]


    อนุโมทนา สาธุ
    กราบขอบพระคุณ กับ คำสอน ของพระเดช พระคุณ หลวงพ่อ ครับผม
     
  11. bhothisata

    bhothisata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +5,182
    จิตสุดท้ายเป็นที่ไป.. ... องค์สมเด็จท่านจึงทรงให้กำหนดดูลมหายใจ จับภาพพระบ่อยๆให้ชิน เพราะความตายไม่ทราบว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ เมื่อหยุดหายใจจึงจะทราบว่าเราตาย เท่าที่ทราบจากหลวงพ่อ... พระยายมราชจะสอบสวนบุญบาป หากตายขณะจิตไม่จับอะไร ถ้าท่านสอบสวนเราแล้วเรานึกถึงบุญได้ แม้จะทำบาปมาขนาดไหน ท่านบอกว่า พระยายมราชจะให้ไปรับผลบุญก่อน ตามหลักของท่านผู้มีพรหมวิหารธรรม หากเรานึกถึงบุญไม่ออก ท่านจะถามหาพยานบุญ ด้วยเหตุนี้ ในคำกล่าวอุทิศส่วนกุศลของท่านพ่อฤๅษี จึงมีข้อความที่ท่านกันและสงเคราะห์ลูกหลานท่าน ไม่ให้ตกนรกก่อน ด้วยคำกล่่าวที่ว่า " ขออุทิศส่วนกุศลนี้ แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า ฯ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ให้แก่ข้่าพเจ้าทั้งหลายฯ" นี่คือความฉลาดเป็นเลิศที่หลวงพ่อท่านได้กรุณาแก่พวกเรา ลูกหลาน บริวารของท่านครับ บทอุทิศส่วนกุศลของท่านกันครอบจักรวาลก็ว่าได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...