สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ภูเขาไฟอีกลูกในไอซ์แลนด์อาจปะทุขึ้นในเร็ววันนี้ ซึ่งจะทำให้น่านฟ้ายุโรปมีความเสี่ยงถูกผลกระทบจากเถ้า

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [ 27-05-2553 | 12.45 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่ภูเขาไฟกัลต้าในไอซ์แลนด์ จะเกิดปะทุขึ้นในเร็ววันนี้ โดยภูเขาไฟลูกนี้มีขนาดใหญ่กว่า และจะปะทุรุนแรงกว่าภูเขาไฟลูกก่อน ซึ่งจะทำให้น่านฟ้ายุโรป มีความเสี่ยงถูกผลกระทบจากเถ้าถ่านภูเขาไฟ เหมือนกับที่เคยได้รับ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งประเทศในยุโรปต้องปิดน่านฟ้าครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่สงครามโลก ครั้งที่ 2 ส่งผลให้เที่ยวบินกว่า 100,000 เที่ยวถูกยกเลิก และผู้โดยสาร ติดค้างถึง 8 ล้านคน ขณะเดียวกัน มีรายงานอีกฉบับหนึ่ง ของคณะนักวิจัยอังกฤษ ชี้ว่า พบการเกิดประจุไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ ในเมฆหมอกเถ้าถ่านภูเขาไฟ ที่ปกคลุมสกอตแลนด์ สิ่งนี้มีความเสี่ยง อันตรายต่อเครื่องบิน และผู้โดยสาร เนื่องจากจะเข้าไปขัดขวาง การติดต่อสื่อสารทางวิทยุ และระบบต่าง ๆ บนเครื่องบิน.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงนอกชายฝั่งของญี่ปุ่น แต่ไม่มีคำเตือนเรื่อง คลื่นใต้น้ำสึนามิ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [ 26-05-2553 | 21.25 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.4 ริกเตอร์ ในบริเวณใกล้กับเกาะโอกินาวา ในภาคใต้ของญี่ปุ่นวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำเตือนเรื่อง คลื่นใต้น้ำสึนามิ สำนักงานสำรวจแผ่นดินไหวของสหรัฐ รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดขึ้นที่ระยะ 240 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเกาะโอกินาวา และแผ่นดินไหวดังกล่าว ซึ่งอยู่ลึกใต้ดินถึง 10 กิโลเมตร เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.53 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ดินไหววานูอาตู7.2R,อาฟเตอร์ช็อก5.2

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 28-05-2553 | 07:23:03 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เกิดเหตุ แผ่นดินไหวรุนแรง 7.2 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งประเทศวานูอาตู เตือน สึนามิ อนุภาคทำลายล้างสูง
สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) แจ้งเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.2 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งประเทศวานูอาตู รุ่งเช้าของ วันที่ 28 พ.ค. เวลา 04.14 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 00.14 น. ตามเวลาในประเทศไทย ที่ความลึกราว 36 กม. ใต้มหาสมุทร โดยศูนย์กลางแรงสั่นสะเทือน อยู่ห่างจากเมือง Luganville บนเกาะเกาะเอสปีรีตูซันตู เกาะใหญ่ที่สุดของ วานูอาตู ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 215 กม. ห่างจาก เกาะซานตาครูส ของประเทศหมู่เกาะโซโลมอนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ราว 340 กม.
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเกิดอาฟเตอร์ช็อก วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.2 ริกเตอร์ เกิดขึ้นอีกครั้ง ใกล้เคียงกับจุดเดิมที่ความลึก 35 กม. หลังเกิดเหตุ ศูนย์เตือนภัยสึนามิ ภาคพื้นแปซิฟิก ประกาศเตือนภัยสึนามิ ทั้งในวานูอาตูเอง และประเทศใกล้เคียง อันได้แก่ ประเทศหมู่เกาะโซโลมอน และนิวแคลิโดเนีย อาณานิคมพิเศษ ของประเทศฝรั่งเศส ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันตกเฉียงใต้ โดยศูนย์เตือนภัยสึนามิฯ กล่าวว่า แรงสั่นสะเทือน รุนแรงเพียงนี้ สามารถก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สินามิ ที่มีอนุภาคการทำลายล้างสูง ในพื้นที่ชายฝั่งใกล้กับศูนย์กลางแรงสั่นสะเทือนภายในไม่กี่นาที
หนึ่งชั่วโมงต่อมา จึงยกเลิกประกาศเตือนสึนามิ เนื่องจาก การอ่าน ระดับน้ำทะเลแล้วไม่มีท่าทีว่า จะเกิดสึนามิขึ้นแต่อย่างใด ขณะที่ เจ้าหน้าที่วานูอาตู เผยว่า ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ออกสำรวจความเสียหายแล้ว แต่ยังไม่พบร่องรอยของความเสียหาย หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>
</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"></TD><TD width="92%">
</TR></TBODY></TABLE></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• น้ำท่วมที่โคลอมเบีย,โปแลนด์

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย http://www.krobkruakao.com [ 28/5/2553 ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">โคลอมเบียและโปแลนด์ เผชิญชะตากรรมเดียวกัน หลังจากเกิดฝนตก ลงมาอย่างหนัก เป็นเหตุให้น้ำท่วมอาคารบ้านเรือนและท้องถนน ประชาชนได้รับความเดือนร้อนเป็นจำนวนมาก

สถานการณ์น้ำท่วมที่โคลอมเบีย ประชาชนกว่า 85,000 คน ใน 134 เขต ทั่วประเทศ ต้องกลายเป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วม เนื่องจากฝนที่ตก ลงมาอย่างหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เมืองBucaramanga , Barranquilla และ Caqueta ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้ถนนบางสายของเมือง Barranquilla กลายเป็นแม่น้ำ ประชาชนต้องนำรถยนต์หนีน้ำท่วม ท่ามกลาง กระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ซึ่งบางคันหนีไม่พ้นถูกกระแสน้ำพัดพา แบบไร้ทิศทาง
นอกจากนี้รายงานยังระบุด้วยว่า ระดับน้ำในแม่น้ำในเมือง Bucaramanga ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลายฝ่ายกลัวว่าเขื่อนจะแตก และน้ำในเขื่อนจะไหลทะลัก เข้าท่วมเมือง ทั้งนี้คนในพื้นที่ต่างตำหนิรัฐบาลท้องถิ่น ที่ไม่ได้เตรียมการ ในการช่วยอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ หรือดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า ฝนจะตกลงมาอีกในไม่กี่วันข้างหน้า

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่โปแลนด์เริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีอีกหลายเมือง ทางตะวันตก ของประเทศ ยังน่าเป็นห่วง คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น และอาจทำให้ ตลิ่งจะพังลงมา ทางการจึงระดมเจ้าหน้าที่ เร่งขนถุงทราย มาสร้างเขื่อนริมแม่น้ำ Odra ป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

ตลอดเกือบสองสัปดาห์ จากภาวะน้ำท่วมในโปแลนด์เป็นเหตุให้ประชาชน กว่าแสนคน ในพื้นที่ตอนกลางและใต้ของประเทศต้องอพยพออกจากบ้าน ขณะที่ทางการ ประเมินความเสียหายคิดเป็นมูลค่า กว่า 2,460 ล้านเหรียญสหรัฐ

ด้านนายกรัฐมนตรี Donald Tusk ได้จัดงบประมาณ 590 ล้านเหรียญสหรัฐ มาช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว ขณะที่สหภาพยุโรปและรัสเซีย รับปากว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยชนด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เมืองหลวงกัวเตมาลาเต็มไปด้วยเถ้าภูเขาไฟ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 28-06-2553 | 14.11 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">กรุงกัวเตมาลาซิตีของกัวเตมาลาเต็มไปด้วยเถ้าภูเขาไฟหนาทึบหลังจาก ภูเขาไฟปากายาระเบิดพ่นเถ้าถ่าน ทำให้ต้องปิดท่าอากาศยาน และอพยพชาวบ้านใกล้ภูเขาไฟ

ประธานาธิบดีอัลวาโร โคลอม ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ใกล้ภูเขาไฟ ห่างจากกรุงกัวเตมาลาซิตี 40 กิโลเมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่การบินพลเรือน ปิดท่าอากาศยานลาออโรรา เนื่องจากต้องทำความสะอาดเถ้าภูเขาไฟ ออกจากทางวิ่ง จากนั้นจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเปิดท่าอากาศยาน ได้ภายในเที่ยงวันนี้ตามเวลา ท้องถิ่นหรือไม่ ขณะที่ถนนหนทางในกรุงกัวเตมาลาซิตี้ เต็มไปด้วยเถ้าภูเขาไฟและทรายสีดำ

นักภูเขาไฟวิทยาเผยว่า ภูเขาไฟปากายาพ่นเถ้าถ่านขึ้นไปในอากาศ สูงถึง 1.5 กิโลเมตร ภูเขาไฟลูกนี้ อยู่ใกล้แหล่งปลูกกาแฟคุณภาพดีของกัวเตมาลา ปะทุต่อเนื่องมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษหลังปี 1960 แต่หยุดพ่นเถ้าถ่านไป ตั้งแต่ปี 2541 ด้านเจ้าหน้าที่ภัยพิบัติ ได้เริ่มอพยพประชาชนในหมู่บ้าน ใกล้ภูเขาไฟแล้วแต่ ไม่แน่ชัดว่า มีชาวบ้านยอมอพยพมากน้อยเพียงใด.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• กัวเตมาลาประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากภูเขาไฟปาซาย่า ปะทุอย่างรุนแรง ในภาคใต้ของประเทศ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [ 28-05-2553 | 21.05 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ประธานิบดีอัลวาโร โคลอมของกัวเตมาลาประกาศภาวะฉุกเฉิน ในพื้นที่ใกล้ภูเขาไฟ 3 แห่งอย่างน้อย 15 วัน หลังจากภูเขาไฟปาซาย่าปะทุ พ่นเถ้าถ่านและลาวาออกมา อย่างรุนแรงในภาคใต้ของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและเด็กอีก 3 คน หายสาบสูญ นอกจากนี้ ทางการยังต้องอพยพประชาชน 1,600 คน ออกจากเนินเขาอีกด้วย ขณะเดียวกัน ยังทำให้ทางการต้องสั่งปิดสนามบิน นานาชาติลาออโรร่า เพื่อไม่ให้เครื่องบินบินฝ่ากลุ่มเถ้าภูเขาไฟ หรือบินลงจอดบนทางวิ่ง ที่เต็มไปด้วยเถ้าภูเขาไฟ ภูเขาไฟปาซาย่าสูงจาก ระดับน้ำทะเล 2,552 เมตรลูกนี้ เริ่มปะทุเมื่อคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่น และรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนทางการสั่งปิดท่าอากาศยานระหว่างประเทศ เที่ยวบินที่เดินทางเข้า กัวเตมาลาทั้งหมด ถูกเปลี่ยนไปลงจอดที่ท่าอากาศยานอื่น ๆ แทน กัวเตมาลาเป็นประเทศในอเมริกากลางที่มี ภูเขาไฟทั้งหมด 288 ลูกในจำนวนนี้ยังปะทุอยู่ 8 ลูก
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• สหรัฐคาดปีนี้จะมีพายุเฮอริเคนพัดเข้าแอตแลนติก 14 ลูก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [ 28-05-2553 | 18.45 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">สำนักงานบริหารบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติสหรัฐ หรือเอ็นโอเอเอ พยากรณ์ว่า ปีนี้จะมีพายุราว 14-23 ลูก โดยในจำนวนนี้ ราว 8-14 ลูก จะทวีความรุนแรง กลายเป็นพายุเฮอริเคน และในจำนวนนี้ราว 3-7 ลูก จะเป็นเฮอริเคน ที่มีความรุนแรงมาก ตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไป ซึ่งจะมีความเร็วลมคงที่ อย่างน้อย 178 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ฤดูเฮอริเคนปีนี้ ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มิถุถนายนนี้ - 31 พฤศจิกายน เป็นปีที่มีพายุมากเป็นประวัติการณ์.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• แผ่นดินไหว5.4ริกเตอร์มณฑลชิงไห่ของจีน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 29-06-2553 | 10:56:45 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ริกเตอร์บริเวณมณฑลชิงไห่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ริกเตอร์ บริเวณมณฑลชิงไห่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนในวันนี้ โดยเป็นบริเวณเดียวกัน กับที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงมีผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 คนเมื่อเดือนที่แล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ชาวเอกวาดอร์อพยพหนีภูเขาไฟระเบิด

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 29-06-2553 | 09.30 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ชาวเอกวาดอร์อพยพออกจากบ้านเรือน หลังภูเขาไฟตุนกูราฮัว ปะทุพ่น เถ้าถ่านร้อน เมื่อวานนี้ นับเป็นภูเขาไฟลูกที่สอง ในละตินอเมริกาที่ปะทุ ในสัปดาห์นี้ หลังจากภูเขาไฟในกัวเตมาลาเริ่มปะทุเมื่อวันพุธ

ภูเขาไฟตุนกูราฮัวสูงจากระดับน้ำทะเล 5,020 เมตร อยู่ห่างจากกรุงกีโต ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 130 กิโลเมตร ระเบิดเสียงดังจนพื้น และหน้าต่าง ของบ้านเรือนใกล้เคียงสั่นสะเทือน ชาวบ้านต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และทางการต้องเปลี่ยนเส้นทางบินบางเส้นทาง เพื่อเลี่ยงเถ้าภูเขาไฟ เจ้าหน้าที่เผยว่า ภูเขาไฟพ่นเถ้าถ่านขึ้นในไปในอากาศสูงถึง 10 กิโลเมตร ภูเขาไฟลูกนี้ ถูกจัดให้เป็นภูเขาไฟที่ยังคุอยู่ตั้งแต่ปี 2542 และเคยปะทุใหญ่เมื่อปี 2551 เป็นภูเขาไฟ 1 ใน 8 ลูกของเอกวาดอร์ที่ยังคุอยู่

ส่วนภูเขาไฟปากายาใกล้กรุงกัวเตมาลาซิตี้ของกัวเตมาลาที่ปะทุรุนแรงเช่นกัน ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพหนีราว 2,000 คน มีผู้เสียชีวิต 1 คน ทางการต้องปิด ท่าอากาศยานระหว่างประเทศ และยกเลิกเที่ยวบินออกจากเมืองหลวง ทุกเที่ยวบิน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดเหตุไฟป่าเผาไหม้พื้นที่ 38,000 เฮกเตอร์ ในควิเบก ทำให้ต้องอพยพประชาชนกว่า 300 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [ 29-05-2553 | 15.05 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เกิดเหตุไฟป่าเผาไหม้กินพื้นที่มากกว่า 38,000 เฮคเตอร์ของป่า ในรัฐควิเบก ประเทศแคนาดา ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ยังคงพยายามสกัดไฟ ที่กำลังลุกไหม้ 13 จุด เจ้าหน้าที่หน่วยบริการ พิทักษ์ไฟป่า ในควิเบก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไฟป่าได้ลุกลามในพื้นที่รัฐควิเบก ในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้ทั่วทั้งพื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยควันสีดำ ด้านโฆษกหน่วยบริการพิทักษ์ไฟป่า กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชน กว่า 300 คนออกจากเขตป่าสงวน และเมื่อวันพุธที่ผ่านมาประชาชน 1,300 คน ต้องอพยพออกจากเขตป่าสงวน เวโมตาซี ขณะที่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 940 คน ที่ระดมกำลังกันมาจากหลายพื้นที่ รวมทั้งจากสหรัฐด้วย สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วหลายจุดจากทั้งหมด 59 จุดในควิเบก
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ภูเขาไฟปะทุในกัวเตมาลา

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 29-05-2553 | 05:29 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ภูเขาไฟ "ปาคายา" ในกัวเตมาลา เริ่มพ่นลาวา และก้อนหินออกมา จากปากปล่อง ภูเขาไฟ ตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พ่นเถ้าถ่าน ออกมาปกคลุมทั่วกรุง "กัวเตมาลา ซิตี้" ส่งผลให้ทางการ กัวเตมาลา ต้องสั่งปิดสนามบินนานาชาติ พร้อมประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติ ขณะที่มีรายงานว่า นักข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ในกัวเตมาลาเสียชีวิต หลังถูกก้อนหิน จากภูเขาไฟพ่นใส่ เนื่องจากเข้าใกล้บริเวณภูเขาไฟ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุง "กัวเตมาลา ซิตี้" ราว 25 กิโลเมตร โดยลูกอีก 3 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 7 ถึง 12 ขวบ ยังคงสูญหาย เจ้าหน้าที่ต้องสั่งอพยพ ประชาชนกว่า 1,600 คน ในหมู่บ้านใกล้เคียง ไปพักยังเต้นท์ที่พักชั่วคราวแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• กัวเตมาลาปิดสนามบินจากปัญหาเถ้าถ่าน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"></TD><TD width="92%">โดย http://www.krobkruakao.com [ 30/5/2553</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">กัวเตมาลาต้องเผชิญทั้งวิกฤตเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ทำให้ต้องปิดสนามบิน ขณะที่พายุโซนร้อนพัดกระหน่ำซ้ำสร้างความเสียหายและมีผู้เสียชีวิต

สนามบินนานาชาติกัวเตมาลาต้องปิดให้บริการหลังจากภูเขาไฟปากาย่า พ่นเถ้าถ่านออกมา ส่งผลให้ผู้โดยสารตกค้างหลายพันคน โดยมีเครื่องบินอย่างน้อย 3 ลำที่จอดอยู่ในลานบินถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่าน เช่นเดียวกันลานบินที่มีเถ้าถ่านปกคลุมหนา ทำให้ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ด้านการบินพลเรือนกัวเตมาลา ได้ตัดสินใจระงับเที่ยวบินพาณิชย์ทุกเที่ยวไป จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ขณะที่การกวาดเถ้าถ่านออกจากลานบิน ก็ทำได้อย่างยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน Agatha จากมหาสมุทรที่เคลื่อนตัวพัดถล่ม กรุงกัวเตมาลาซิตี้ตั้งแต่เมื่อวานนี้

ความรุนแรงของพายุดังกล่าวทำให้เกิดอุทกภัยและแผ่นดินถล่มในหลายจุด คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 12 คน และสูญหายอีก 11 คน โดยมีรายงานว่าเด็ก 4 คน เสียชีวิตอยู่ใต้โคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือน ซึ่งทางการได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ออกมาเตือนว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นอาจจะเลวร้ายกว่าปกติ เนื่องจากเถ้าถ่านภูเขาไฟ ไปทับถมจนปิดกั้นทางระบายน้ำ-พายุโซนร้อน Agatha นับเป็นพายุลูกแรก ในฤดูเฮอริเคนของมหาสมุทรแปซิฟิค คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักวัดได้ 20 นิ้ว เช่นเดียวกับที่เอล ซาลวาดอร์ และที่เม็กซิโก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ภัยธรรมชาติกระหน่ำกัวเตมาลา ภูเขาไฟปะทุ-พายุถล่มซ้ำ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 30-05-2553 | 10.57 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">อกาธา พายุโซนร้อนลูกแรกของฤดูกาลนี้ พัดเข้ากระหน่ำกัวเตมาลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน ขณะที่ยังมีเถ้าถ่านจากภูเขาไฟปากายาปกคลุม ส่งผลสถานการณ์ลำบากมากขึ้น

เจ้าหน้าที่สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติกัวเตมาลา กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรวมถึงเด็ก 4 คน ที่ถูกฝังทั้งเป็น หลังโคลนถล่มทับบ้านเรือนของพวกเขา ห่างไปทางตะวันออกของเมืองหลวง ราว 17 กิโลเมตร ศูนย์พยากรณ์อากาศคาดว่า อาจมีฝนตกหนักถึง 20-30 นิ้วในบางพื้นที่ นอกจากนี้พายุอกาธา ซึ่งมุ่งหน้าพัดกระหน่ำกัวเตมาลาด้วยความเร็ว 65 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยังทำให้ฝนตกหนักที่เอลซัลวาดอร์ด้วย คาดว่าพายุลูกนี้อาจสร้างความเสียหายมากกว่าพายุลูกอื่นในปีที่ผ่าน ๆ มา

ด้านท่าอากาศยานระหว่างประเทศลาออโรราของกัวเตมาลา จะยังคงปิด บริการต่อไปอีก 5 วัน ขณะที่ยังมีเถ้าถ่านจากภูเขาไฟปากายา ปกคลุม และมีฝนตกหนัก เพราะพายุอกาธายิ่งทำให้สถานการณ์ลำบากมากขึ้น สนามบินดังกล่าวปิดบริการตั้งแต่เมื่อวันศุกร์จากเถ้าถ่านครั้งใหญ่ พัดปกคลุมทั่วกรุงกัวเตมาลาซิตี้และพื้นที่โดยรอบ หลังภูเขาไฟปากายา ปะทุครั้งใหม่ นับจากที่เริ่มคุกรุ่นเมื่อวันพุธ เจ้าหน้าที่การบินกล่าวว่า เวลานี้จำเป็นต้องทำความสะอาดเอาเถ้าถ่านหนาทึบออกจากรันเวย์ แต่พายุฝนที่ตกหนัก ยิ่งทำให้การทำงานลำบากมากขึ้น ภูเขาไฟปากายาปะทุครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ซึ่งรวมถึงผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ที่มารายงานข่าวในครั้งนี้ รวมทั้งต้องอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบราว 2,000 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุเขตร้อนอกาธา ถล่มกัวเตมาลามีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 30-05-2553 | 17:25 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">พายุเขตร้อน"อกาธา"ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งกัวเตมาลาในเช้าวันนี้ อิทธิพลของพายุ ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ และมีดินถล่มตามมา บ้านเรือนหลายหลังพังเสียหาย มีรายงานผู้ประสบภัยเสียชีวิตแล้ว 14 คน ยังมีผู้สูญหายอีก 11 คน ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในบางพื้นที่ และเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง และถึงแม้พายุจะอ่อนกำลังเป็นดีเพรสชั่นแล้ว แต่เป็นที่หวั่นกันว่าในพื้นที่จะยังคงมีฝนตกหนักต่อไป ที่เอล ซัลวาดอร์ ซึ่งได้รับอิทธิพลของพายุ มีฝนตกหนัก และมีผู้ประสบเหตุเสียชีวิต 1 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุโซนร้อนถล่มหลายพื้นที่ในอเมริกากลาง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 31-05-2553 | 01:20 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">กัวเตมาลา 31 พ.ค. - หลายพื้นที่ในภูมิภาคอเมริกากลางและเม็กซิโก เกิดน้ำท่วมและฝนตกหนัก จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนลูกแรก ของภาคพื้นแอตแลนติกประจำปีนี้

พายุโซนร้อน “อกาธา” พัดถล่มบริเวณพรมแดนระหว่างกัวเตมาลากับเม็กซิโก ด้วยความเร็วลม 80 กม./ชม. แม้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว แต่อิทธิพลของพายุลูกนี้ก็ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกกรุงกัวเตมาลา ซิตี้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน เนื่องจากถูกฝังทั้งเป็น หลังโคลนถล่มทับบ้านเรือน และยังมีผู้สูญหายอีก 11 คน ชาวบ้านหลายพันครอบครัวไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้

ขณะที่เม็กซิโกและเอลซัลวาดอร์ก็เกิดฝนตกหนักเช่นกัน ส่งผลให้เกิดโคลนถล่ม มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน คาดว่าพายุลูกนี้ อาจสร้างความเสียหายมากกว่าพายุลูกอื่นในปีที่ผ่าน ๆ มา
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดพายุอย่างรุนแรงพัดกระหน่ำภาคตะวันออกของออสเตรเลีย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 30-05-2553 | 20.05 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เกิดพายุอย่างรุนแรงพัดกระหน่ำชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ ของออสเตรเลียในวันนี้ ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายประมาณ 9 พันหลัง และประชาชนนับแสนคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ พายุลูกนี้ มีความเร็วลมสูงถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดกระหน่ำเขตชายฝั่งใกล้กับเมืองโมรูย่า ในรัฐนิวเซาธ์เวลล์ และกำลังเคลื่อนตัวขึ้นเหนือ ไปทางนครซิดนี่ย์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 300 กิโลเมตร ส่งผลให้รัฐบาลออกประกาศเตือน ประชาชน ในเขตชายฝั่งทางใต้ของซิดนี่ย์ ให้เตรียมพร้อมรับมือ เนื่องจากพายุลูกนี้ อาจทวีความรุนแรงขึ้นอีก ในช่วงเย็น.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อิทธิพลพายุโซนร้อนพัดถล่มอเมริกากลางและที่ออสเตรเลีย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 31-05-2553 | 05:25 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ภัยพายุโซนร้อน"อากาธ่า"พัดถล่มหลายประเทศแถบทวีปอเมริกากลาง ตลอดจนพื้นที่ตอนใต้ของเม็กซิโกเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ ส่งผลให้เกิดฝนตก น้ำท่วม และดินถล่มอย่างหนัก และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 16 คน โดยในกัวเตมาลามีรายงานผู้เสียชีวิต 12 คน สูญหายอีก 11 คน โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตเนื่องจากดินและโคลนถล่ม ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า อาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้แต่ยังไม่มีการยืนยัน

ใน"เอล ซัลวาดอร์"มีผู้เสียชีวิต 3 คน หลังอิทธิพลพายุทำให้เกิดฝนตก และดินถล่มหนัก ขณะที่ฮอนดูรัสมีรายงานน้ำท่วมและดินถล่ม และมีผู้เสียชีวิต 1 คน
ส่วนที่ออสเตรเลีย อิทธิพลพายุฝนพัดกระหน่ำหลายพื้นที่บริเวณชายฝั่ง ตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้เสาไฟฟ้าล้มระเนระนาด ทำให้บ้านเรือนกว่า 9 พันหลังไม่มีไฟฟ้าใช้ นอกจากนี้ลมพายุยังทำให้ต้นไม้หักโค่น บ้านเรือน ได้รับความเสียหายหลาย หลัง ขณะที่ทางการเตือนพื้นที่ชายฝั่ง ตอนใต้ เตรียมรับมือพายุและฝนตกหนักหลังจากนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• กัวเตมาลา-อิทธิพลพายุโซนร้อนอกาธา

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 31/5/2553 ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลของพายุอะกาธา AGATHA พายุโซนร้อนลูกแรกในฤดูพายุปี 2010 ที่พัดถล่มทวีปอเมริกากลาง และภาคใต้ของเม็กซิโก กระตุ้นให้เกิดแผ่นดินถล่มที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตขึ้น หลายครั้งทั่วภูมิภาค ยอดผู้เสียชีวิตเมื่อวานนี้ อยู่ที่อย่างน้อย 63 คน แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตจะสูงขึ้น
พายุอกาธากำลังสลายตัวอยู่เหนือเทือกเขา ทางตะวันตกของกัวเตมาลา หนึ่งวันหลังพัดขึ้นฝั่งใกล้ชายแดนด้านที่ติดกับเม็กซิโกของกัวเตมาลา ด้วยความเร็วลม 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แม้ขณะนี้พายุอกาธาไม่ได้เป็นหนักกระทั้งพายุดีเปรสชั่น แต่พายุก็ยังมีแนวโน้มจะสร้างความเดือดร้อนให้กับภูมิภาคนี้ เพราะส่วนที่ยังเหลือของพายุ คาดว่าน่าจะทำให้เกิดฝนตกหนัก 10 ถึง 20 นิ้ว หรือ 25 ถึง 50 เซนติเมตร ทั่วภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเม็กซิโก กัวเตมาลา และส่วนต่างๆ ของเอลซัลวาดอร์ ทำให้มีความเป็นไปได้ ที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและโคลนถล่มตามมา

ประธานาธิบดีอัลบาโร โกลอม ผู้นำตัวเตมาลากล่าวว่า แม่น้ำสายต่างๆ ในภาคใต้ของประเทศกำลังเอ่อท้นฝั่น หรือใกล้จะเอ่อท้นฝั่ง

ผู้นำกัวเตมาลากล่าวว่า ฝนในปริมาณ 4.3 นิ้ว หรือ 10.8 เซนติเมตร ตกในเขตหุบเขาของกรุงกัวเตมาลาซิตี้ นครหลวงที่มีพลเมืองกว่า 1 ล้านคนของประเทศ ตลอดช่วง 12 ชั่วโมง ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่ามากที่สุด เป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2492 หรือ ในรอบ 61 ปี

โฆษกศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติกัวเตมาลา นายเดวิด เดเลออง แถลงว่า จนถึงเช้าวานนี้ ชาวกัวเตมาลากว่า 6 หมื่น 9 พันคน ถูกอพยพ หลายคนต้องเข้าไปอาศัยในที่หลบภัยชั่วคราว บางส่วนสูญเสียบ้านเรือนไป เมื่อวันเสาร์ ในเหตุแผ่นดินถล่มที่ชุมชนริมเชิงเขาแห่งหนึ่ง ของกรุงกัวเตมาลาซิตี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และอีก 11 คนสูญหาย

เด็ก 4 คนเสียชีวิตในเหตุโคลนถล่มอีกครั้งหนึ่งในเมืองซันตากาตารีน่า ห่างจากกรุงกัวเตมาลาซิตี้ไปประมาณ 10 กิโลเมตร และในจังหวัด กลยต์ซาเตนังโก ห่างจากกรุงกัวเตมาลาซิตี้ไปทางตะวันตกประมาณ 200 กิโลเมตร หินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่งกลิ้งลงมาทับบ้านหลังหนึ่งพัง คร่าชีวิตเด็กไป 2 คนกับผู้ใหญ่อีก 2 คน

เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันฝ่ายพลเรือนของเอลซัลวาดอร์ เปิดเผยว่า แม่น้ำอาเซลอัวเต้ ที่ไหลผ่านกรุงซานซัลวาดอร์ นครหลวงของเอลซัลวาดอร์ มีระดับน้ำสูงขึ้นจนน่ากลัวอันตราย และมีแนวโน้มจะไหลบ่าเข้าท่วมสองฟากฝั่ง

ในฮอนดูรัส สำนักงานฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ โกเปโก้ของประเทศ รายงานว่า ผู้ชาย 1 คน ถูกกำแพงพังถล่มลงมาทับ ในเมืองซานดาอานา ทางตอนเหนือของกรุงเตกูซิกัลปา นครหลวงของฮอนดูรัส

น้ำท่วมและแผ่นดินถล่มยังทำลายอาคารบ้านเรือนไปอย่างน้อย 45 หลัง ในฮอนดูรัส และกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนประมาณ 1 พัน 800 คน -พายุอกาธา ก่อตัวเป็นพายุโซนร้อน เมื่อเช้าวันเสาร์ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก

ก่อนฝนตกหนัก กัวเตมาลาต้องเผชิญกับการระเบิดของภูเขาไฟปากาย่า ความสูง 8 พัน 373 ฟุต ทางตอนใต้ของกรุงกัวเตมาลาซิตี้ ทำให้เถ้าถ่านภูเขาไฟปกคลุมกรุงกัวเตมาลาซิตี้ ที่มีประชากรกว่า 1 ล้านคน และทำลายบ้านเรือนไป 800 หลัง

อาคาร 3 ชั้นหลังหนึ่ง ทางตอนเหนือของกรุงกัวเตมาลาซิตี้ จมหายไปในแอ่งขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

นายเซซาร์ จอร์จ จากสถาบันอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติกัวเตมาลา เปิดเผยว่า ชุมชนชัมเปรีโก ของกรุงกัวเตมาลาซิตี้ ได้รับฝนในปริมาณถึง 11.8 นิ้ว หรือ 30 เซนติเมตร ใน 30 ชั่วโมง เขากล่าวว่า ฝนตกที่นี่ใน 1 วัน เท่ากับฝนที่ปกติจะตกในช่วง 1 เดือน

จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปถึงชุมชนแห่งนี้ได้ ไม่ว่าจะทางอากาศ ทางบก หรือ ทางทะเล -ในเอลซัลวาดอร์ เพื่อนบ้าน นายเมารีเซียว ฟุเนส ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ประกาศการเตือนภัย รหัสแดง ซึ่งเป็นระดับสถานการณ์ฉุกเฉินสูงสุดของประเทศ หลังฝน จากอิทธิพลของพายุอกาธากระตุ้นให้เกิดแผ่นดินถล่มขึ้นอย่างน้อย 140 ครั้งทั่วประเทศ และคร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 3 คน เป็นเด็กวัย 10 ขวบ 1 คนกับผู้ใหญ่อีก 2 คน

ภูเขาไฟปากายา เริ่มพ่นลาวาและหินออกมาเมื่อบ่ายวันหฤหัสบดี บังคับให้ต้องมีการปิดสนามบินนานาชาติของกรุงกัวเตมาลาซิตี้ ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ 1 คน เสียชีวิตจากหินร้อนที่โปรยปรายลงมา จากภูเขาไฟลูกนี้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ภูเขาไฟกัวเตมาลาและที่เอกวาดอร์เริ่มปะทุน้อยลง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 31-05-2553 | 05:25 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ความคืบหน้าปฏิกิริยาของภูเขาไฟ"ปาคายา"ในกัวเตมาลา และภูเขาไฟ"ตันกูราฮัว" ในเอกวาดอร์ ที่เกิดปะทุใหญ่ พ่นเถ้าถ่าน ลาวาและหินจำนวนมากออกมา ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ล่าสุดพบว่าการปะทุเริ่มบรรเทาลง ขณะที่ทางการของทั้ง 2 ประเทศยังคงเฝ้าจับตาปฏิกิริยาการปะทุ และเตรียมพร้อมรับมือ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการอพยพประชาชนหลายพันคน ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยรอบภูเขาไฟ และสั่งห้ามการให้บริการเที่ยวบิน และสนามบินหลายแห่ง ในภูมิภาคเพื่อป้องกันอันตรายแล้ว /อย่างไรก็ดีล่าสุดสนามบินนานาชาติในเมือง"กัวยาควิล" ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเอกวาดอร์ ก็ได้เปิดให้บริการอีกครั้ง หลังมั่นใจในสถานการณ์การปะทุของภูเขาไฟที่ลดลง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ภูเขาไฟ2ลูกที่อเมริกาใต้อาจลดการปะทุ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 31-05-2553 | 08:46:27 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">สื่อนอก เผย ภูเขาไฟ 2 ลูก ในเอกวาดอร์และกัวเตมาลา อาจลดการปะทุ หลังมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย และต้องอพยพประชากรกว่า 2,000 คน ออกจากพื้นที่

สำนักข่าวต่างประเทศ เผยว่า ภูเขาไฟ 2 ลูก ในเอกวาดอร์และกัวเตมาลา อาจลดการปะทุรุนแรงลง หลังจากปะทุลาวาและเถ้าถ่านออกมา ตลอดหลายวันที่ผ่านมา

มีรายงานว่า ภูเขาไฟปากายาปะทุลาวาออกมาตั้งแต่ช่วงเย็นวันพฤหัสบดี ทำให้กรุงกัวเตมาลา ซิตี ถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันและเถ้าถ่าน ก่อนที่จะมีผู้เสียชีวิต 2 คน รวมถึงผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ที่มารายงานข่าวในครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยด้วยว่า ทางการกัวเตมาลา ต้องอพยพประชาชน ที่อาศัยอยู่โดยรอบ ราว 2,000 คน

ขณะที่ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศลาออโรราของกัวเตมาลา จะยังคงปิดบริการต่อไปอีก 5 วัน เพื่อทำความสะอาดเถ้าถ่านหนาทึบ ออกจากรันเวย์ หลังจาก ปิดบริการมาตั้งแต่วันศุกร์

นอกจากนี้ ที่ประเทศเอกวาดอร์ ภูเขาตุงกูราฮัว ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงกิโต ก็เริ่มลดความรุนแรงของการปะทุลงแล้ว หลังเกิดการระเบิดพ่นลาวาและเถ้าถ่าน จนทำให้ต้องอพยพชาวบ้าน 2,600 คน และยกเลิกการเดินทางของเที่ยวบินจำนวนมาก

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ออสเตรเลีย-พายุพัดถล่มภาคใต้

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%"> [ 31/5/2553 ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">พายุรุนแรงยังพัดผ่านชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ทำให้บ้านเรือนอย่างน้อย 9,000 หลัง ไม่มีไฟฟ้าใช้ หลังลมความเร็วกว่า 150 กม.ต่อชั่วโมง ทำให้สายไฟฟ้าขาด เครือข่ายไฟฟ้าเกิดโกลาหลครั้งใหญ่

ในเขตนารูมา ทางตอนใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ต้นไม้ล้มลงมาทับบ้านเรือน และทำให้สายไฟฟ้าขาด ถนนหลายสายถูกปิดจากต้นไม้ที่ล้มลงมาขวางถนน ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถเข้าไปในเขตประสบภัยได้ บ้านเรือนหลายสิบหลังพังเสียหาย หลายหลังหน้าต่างแตกเสียหาย และต้นไม้ถอนรากถอนโคน สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติออสเตรเลีย หรือ BOM ออกคำเตือนเรื่องพายุรุนแรงสำหรับฝั่งทางตอนใต้ เขตที่ราบสูง รูปโต้วทางภาคใต้ และเขตอิลลาวาร์ร่า คาดกันว่า ลมที่จะพัดกระหน่ำ มีความเร็วถึงกว่า 125 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีฝนตกตามมาด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันตามมา

หน่วยฉุกเฉินของรัฐนิวเซาท์เวลส์ หรือ SES เปิดเผยว่า จนถึงเที่ยงวานนี้ มีฝนตกระหว่าง 80-100 มิลลิเมตร ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ประชาชนได้รับคำเตือนให้อยู่แต่ในบ้าน และหลีกเลี่ยงชายหาด ห้วยหนองคลองบึง รางระบายน้ำ และทางน้ำไหล แต่บรรดานักเล่นกระดานโต้คลื่น ในเมืองวูลลองกอง ใกล้นครซิดนีย์ พากันฝ่าคลื่นลมที่แรงจัดออกไปโต้คลื่น ท่ามกลางการเฝ้ามอง ของประชาชนในท้องถิ่น คาดว่านครซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐนิวเซาววอส์ จะไม่ถูกลมแรงนี้พัดเข้าเล่นงานโดยตรง แต่มีโอกาสจะได้รับอิทธิพล จากฝนที่ตกหนักและลมแรงจากพายุ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุโซนร้อนถล่มอเมริกากลาง คร่าชีวิตไป 74 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 31-05-2553 | 09.57 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">พายุโซนร้อนอะกาธาทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วอเมริกากลางเมื่อวานนี้ คร่าชีวิตผู้คนไป 74 คน และคาดว่าจะทำให้เกิดโคลนถล่มอีกใน 3 ประเทศ

อะกาธาเป็นพายุลูกแรกประจำปี 2553 ของมหาสมุทรแปซิฟิก พัดกระหน่ำชายฝั่งกัวเตมาลา ใกล้เม็กซิโกเมื่อวันเสาร์ ทางการกัวเตมาลายืนยันมีผู้เสียชีวิต 63 คน สูญหาย 24 คน อพยพออกจากบ้านเรือนมากกว่า 74,000 คน โดยที่เมืองซานอันโตนิโอปาโลโป ห่างจากกรุงกัวเตมาลาซิตี ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 160 กิโลเมตร เกิดโคลนถล่มขนาดใหญ่ พบผู้เสียชีวิต 14 คน และเชื่อว่ายังถูกฝังอยู่ใต้โคลนอีก 8-10 คน ฝนตกหนักสร้างความวิตกว่า จะสร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตกาแฟ ในกัวเตมาลา ผู้ผลิตกาแฟใหญ่ที่สุดในอเมริกากลาง และผลผลิตกาแฟ ในเอลซัลวาดอร์ เจ้าหน้าที่เตือนว่าอาจเกิดฝนตกหนักอีกหลายวัน ประธานาธิบดีอัลวาโร โคลอม ของกัวเตมาลา แถลงข่าวว่า หลายพื้นที่เกิดฝนตกหนักวัดระดับได้สูงกว่า 1 เมตร ถนนหนทางถูกตัดขาด แต่คาดว่าสภาพอากาศจะดีขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ เอื้อต่อการส่งสิ่งของบรรเทา ทุกข์ทางอากาศ เจ้าหน้าที่กัวเตมาลาเกรงว่า น้ำท่วมจากฝนตกหนัก อาจเลวร้ายลงเพราะเถ้าภูเขาไฟปากายาที่ปะทุตั้งแต่วัน พฤหัสบดี ทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน ขณะนี้ภูเขาไฟยังปะทุอยู่แต่ลดความรุนแรงลงแล้ว

ส่วนที่เอลซัลวาดอร์ มีผู้เสียชีวิต 9 คน และต้องอพยพไปอยู่ที่พักชั่วคราว มากกว่า 8,000 คน ขณะที่ฮอนดูรัสมีผู้เสียชีวิต 1 คน เพราะบ้านพังทับ และมีเด็กถูกน้ำซัดหายไป 1 คน เจ้าหน้าที่เตือนว่า อาจเกิดโคลนถล่มจากเนินเขาที่ซับน้ำไว้ไม่ไหว


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ความรุนแรงของภูเขาไฟปากาย่าในกัวเตมาลากับภูเขาไฟตุงกูร่า ในเอกวาดอร์กับเริ่มลดลงแล้ว

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 31-05-2553 | 09.10 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">ภูเขาไฟ 2 ลูก ในเอกวาดอร์และกัวเตมาลาได้ลดการปะทุรุนแรงลง หลังจากการปะทุพ่นลาวา และเถ้าถ่านออกมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ภูเขาไฟปากาย่าปะทุลาวาออกมา ตั้งแต่ช่วงเย็น วันพฤหัสบดี ทำให้กรุงกัวเตมาลา ซิตี้ ถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันและเถ้าถ่าน และทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน รวมถึงผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ที่มารายงานข่าวในครั้งนี้ รวมทั้งต้องอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบราว 2,000 คน ขณะที่ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศลาออโรราของกัวเตมาลา จะยังคงปิดบริการ ต่อไปอีก 5 วัน เพื่อทำความสะอาดเถ้าถ่านหนาทึบออกจากรันเวย์ หลังจากปิดบริการมาตั้งแต่วันศุกร์ ส่วนที่เอกวาดอร์ ภูเขาตุงกูราฮัว ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงกิโต ก็เริ่มลดความรุนแรงของการปะทุลงแล้ว หลังเกิดการระเบิดพ่นลาวาและเถ้าถ่าน จนทำให้ต้องอพยพชาวบ้าน 2,600 คน และยกเลิกการเดินทางของเที่ยวบินจำนวนมาก
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ลือ! เกิดภัยพิบัติ 12 มิ.ย. 53 นักวิทย์ยันไม่จริง

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

นักวิทย์ชี้ ข่าวลือ 8 มิ.ย.2553 ดาวเคราะห์เรียงตัวแนวเดียวกัน-แกนโลกเอียง-ขั้วแม่เหล็กโลกเปลี่ยนทิศ ส่งผล 12 มิ.ย.เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกเหมือนในหนัง 2012 ไม่เกิดขึ้นจริง ยันไม่มีหลักฐานพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

นายสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีข่าวลือภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในวันที่ 8-12 มิ.ย.2553 เนื่องจากมีการกล่าวอ้างว่าจะเกิดปรากฏการณ์ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาลเรียงตัวเป็นแนวเดียวกันในวันที่ 8 มิ.ย. จนทำให้เกิดปฏิกิริยาจากดวงอาทิตย์ ประกอบกับแกนโลกเอียงตัว อันจะส่งผลต่อโลกในวันที่ 12 มิ.ย. ทำให้เกิดแผ่นดินไหว และเกิดการเปลี่ยนขั้วแม่เหล็กของโลก

ทั้งนี้ อาจารย์สธน ระบุว่า ปรากฎการณ์แผ่นดินไหวทั่วโลกในวันที่ 12 มิ.ย. คงไม่เกิดขึ้นแน่ เพราะไม่มีหลักฐานพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และเรื่องการสลับขั้วแม่เหล็กของโลกนั้น ไม่ใช่เป็นการพลิกกลับของโลก หรือเปลี่ยนขั้วโลก แต่เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีต แต่ละครั้งใช้เวลาเป็นพันถึงแสนปี จะมีผลแค่เพียงสนามแม่เหล็กของโลกจะอ่อนลงบ้างเท่านั้น ส่วนเรื่องการเรียงตัวของดาวเคราะห์ ยืนยันว่าไม่มีอิทธิพลต่อแรงดึงดูดมากไปกว่าปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง

ขณะที่ นายบัญชา ธนบุญสมบัติ นักวิชาการจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ผู้ที่ออกมาให้ข้อมูลภัยพิบัติโลกในเดือน มิ.ย.2553 น่าจะมีเจตนาดีในการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนตื่นตัว เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ แต่ในการให้ข้อมูลอะไรก็ตาม ควรมีเอกสารวิชาการที่อ้างอิงได้ เพราะนั่นอาจทำให้ผู้คนตื่นกลัวได้

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ มีการพูดถึงจุดจบของโลกคล้ายกับปรากฎการณ์ดังกล่าว จากคำบอกเล่าของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ที่ระบุว่า จุดจบของโลกใกล้เข้ามาทุกที หลังองค์การนาซ่าค้นพบระบบสุริยะจักรวาลอื่นที่เหมือนกับระบบสุริยะของโลกเราอีกกว่า 20 ระบบ อยู่ใกล้เคียงกัน และพบจุดดำ หรือแบล็กโฮลในดวงอาทิตย์ ซึ่งหากมีการส่งรังสีออกมาจากแบล็กโฮลของดวงอาทิตย์ทั้ง 20 ดวงพร้อมกัน ในเวลาใกล้เคียงกันก็จะส่งผลกระทบต่อโลก ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง โดยความร้อนจากของเหลวภายในโลกจะดันเปลือกโลกขึ้นมา เหมือนในภาพยนตร์เรื่อง 2012 สอดคล้องกับความเชื่อของชนเผ่ามายัน

"ผิวของดวงอาทิตย์ถ้ามีการระเบิดออกมา เรียกว่า ลมสุริยะ รังสีนี้จะมากระทบกับผิวโลก บางครั้งจะทำให้ระบบการเสื่อสารหายไปเลย แต่ถ้ารุนแรงกว่านั้น มันจะทำให้ผิวโลกเคลื่อนตัว นี่เป็นทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ แล้วคือไม่ได้มีระบบสุริยะอันเดียว มันมีหลายอัน ถ้าถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน ก็จะส่งผลต่อโลกเราอย่างรุนแรงมาก จะทำให้โลกวินาศ เกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรง" ดร.สมิทธ กล่าว

ประธานมูลนิธิเตือนภัยพิบัติฯ กล่าวต่อว่า ได้ข้อมูลจุดจบของโลกมาจาก ดร.ก้องภพ อยู่เย็น นักวิทยาศาสตร์ชาวไทยที่ได้รับเลือกให้ไปร่วมงานกับองค์การนาซ่านานกว่า 6 ปี แม้ว่าข้อมูลนี้จะยังถูกเก็บเป็นความลับ แต่เมื่อนำมาวิเคราะห์แล้ว พบว่ามีความเป็นไปได้ แต่จุดจบของโลกอาจไม่ใช่ปี 2012 อาจจะช้ากว่านั้นสัก 2-3 ปี

"ทุกคนคงไม่ตายหมด แต่ก็คงไม่รอดหมด กลุ่มคนที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก ๆ คงรอด แต่ประเทศไทยบริเวณเส้นศูนย์สูตรคงไปหมด ถ้าเปลือกโลกขยับปรับตัวใหม่ หาจุดสมดุลใหม่ ขั้วโลกก็จะปลี่ยนไป อย่างเช่น กรณีเจอช้างแมมมอธที่ขั้วโลก ก็เกิดจากระบบขั้วโลกเปลี่ยนกะทันหัน จะเห็นได้ว่าช้างที่ขุดขึ้นมาได้ ยังเคี้ยวหญ้าอยู่ในปาก หญ้าก็ยังเป็นหญ้าสด แสดงว่ามันตายโดยไม่รู้ตัว ถูกแช่แข็งอย่างกระทันหัน และจากการพิสูจน์พบว่าตายมาแล้วกว่า 40,000 ปี อีกทั้งการที่ตรงนั้นมีหญ้า ก็แสดงว่าพื้นที่นั้นอาจไม่ใช่ขั้วโลกมาก่อน อาจจะเป็นเส้นศูนย์สูตรมาก่อนก็ได้"

ทั้งนี้ ดร.สมิทธ กล่าวว่า คงต้องคอยสังเกตกันต่อไปว่า หลังจากนี้มีเหตุแผ่นดินไหวบ่อยครั้งหรือไม่ ถ้าเกิดรุนแรง หรือเกิดบ่อยครั้งทั่วโลก นั่นหมายความว่าทฤษฎีนี้น่าเชื่อถือ แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นก็หมายความว่าทฤษฎีนี้ไม่ถูกต้อง

ถึงแม้ทฤษฎีของ ดร.สมิทธ จะไม่ใช่การกล่าวเตือนภัยพิบัติในเดือน มิ.ย. แต่ประเด็นจุดจบของโลกที่ใกล้จะมาถึงนั้น ก็ยังไม่มีหลักฐานข้อมูลยืนยันแน่ชัดเช่นกัน อย่างไรเสีย คงต้องใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร และติดตามการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของโลกใบนี้กันต่อไป

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุถล่มกัวเตมาลา-อเมริกากลางดับ142

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 01-06-2553 | 07:50:53 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เจ้าหน้าที่กู้ภัย ใช้พลั่วและจอบ เพื่อค้นหาหาร่างผู้สูญหายที่ติดอยู่ใต้โคลน ในประเทศ กัวเตมาลา หลัง พายุโซนร้อน "อกาธา" พัดถล่ม กินพื้นที่ เป็นวงกว้าง ในอเมริกากลาง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม แล้วอย่างน้อย 142 ราย
พายุโซนร้อน "อกาธา" พายุโซนร้อนลูกแรกของฤดูเฮอริเคน ในภูมิภาค แปซิฟิกตะวันออก ของปีนี้ พัดผ่านกัวเตมาลา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา มีระดับสูงถึง 20 นิ้ว ในพื้นที่ ภาคตะวันออก เฉียงใต้ของเม็กซิโก , กัวเตมาลา และพื้นที่ในเอลซัลวาดอร์ รวมทั้ง เกิดดินถล่มในหลายพื้นที่ ล่าสุดพายุโซนร้อน "อกาธา" ได้อ่อนกำลังลง เป็นพายุดีเปรสชั่น ขณะเคลื่อนตัวอยู่เหนือเทือกเขาในกัวเตมาลา

โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่มีเพียงจอบและพลั่ว และปราศจากเครื่องมือ ขนาดใหญ่ในการค้นหา พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 113 ราย โดยเป็นประชากร กัวเตมาลา 92 คน , เอลซัลวาดอร์ 9 คน และฮอนดูรัส 12 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้สูญหายอีกกว่า 50 คน ประชาชนกว่า 94,000 คน ถูกอพยพออกไปอยู่ ในศูนย์พักพิง ขณะที่ ยอดรวมผู้เสียชีวิตในพื้นที่อเมริกากลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่รับผลกระทบโดยตรง รวมทั้งสิ้น 142 ราย

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเมาริซิโอ ฟูเนส แห่งเอลซัลวาดอร์ ได้ประกาศเตือนภัยขั้นสูงสุด โดยเตือนว่า หลายพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิด เหตุแผ่นดินถล่ม และน้ำท่วม หลังฝนที่เกิดจากพายุอกาธา ทำให้เกิดแผ่นดินถล่มไปแล้ว 140 แห่ง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ดินไหว6.4R.หมู่เกาะอันดามัน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น [ 01-06-2553 | 08:15:45 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#666666 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="7%">
</TD><TD width="93%">เกิดเหตุแผ่นดินไหว 6.4 ริกเตอร์ บริเวณหมู่เกาะอันดามัน เตือนระวังสึนามิ
สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งเหตุแผ่นดินไหวใต้ทะเลความรุนแรงขนาด 6.4 ริกเตอร์ ใกล้กับหมู่เกาะอันดามัน ประเทศอินเดีย เมื่อเวลา 01.21 น. ของวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 02.51 น. ตามเวลา ในประเทศไทย ที่ความลึกประมาณ 128 กม. โดยศูนย์กลางแรงสั่นสะเทือน อยู่ห่างจากเมืองพอร์ตแบลร์บนเกาะอันดามัน ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 120 กม. และห่างเมืองโมเฮียน บนเกาะนิโคยาร์ ไปทางเหนือราว 350 กม.

ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิภาคพื้นแปซิฟิก ประกาศให้ประชาชน ในพื้นที่เฝ้าระวัง คลื่นยักษ์สึนามิ โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์เตือนภัยกล่าวว่า แรงสั่นสะเทือน ที่มีความรุงแรงเพียงนี้ ในบางครั้งอาจก่อให้เกิดคลื่นสึนามิ กระจายกินพื้นที่เป็นวงกว้างหลายร้อนกิโลเมตร จากจุดศูนย์กลาง แรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานของผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือรายงานความเสียหายแต่อย่างใด

โดยล่าสุดศูนย์เตือนภัยฯ ประกาศยกเลิกเฝ้าระวังสึนามิแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>