เค้าว่าคนที่ฝึกกสิณไฟจะอายุสั้นใช่มั้ยครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Supop, 22 มิถุนายน 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    ผมเองก็ปฎิบัติกรรมฐานมา 11 ปีแล้ว เมื่อก่อนผมสนใจการปฎิบัติแบบไหนก็ลองหมด แต่จะเน้นด้านเมตตามากกว่า โดยไม่สนใจว่าแบบไหนจะถูกกับจริตของตัวเอง จนเมื่อ 4 ปีหลังนี้ ผมพบแบบที่ผมต้องการแล้วและก็ตั้งใจปฎิบัติอยู่ ผมจะนั่งครั้งละ 1-2 ชม. และผมก็เคยฝึกกสิณไฟด้วยตัวเอง (คือฝึกตามตำรา) เพราะเค้าว่ากันว่าการฝึกกสิณไฟจะมีอภิญญาและฤทธิ์มากที่สุดในกรรมฐานทั้ง 40 กอง โดยการฝึกแค่กรรมฐานกองเดียว ผมก็เลยสนใจ ฝึกอยู่ประมาณ 4-5 เดือน จนมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับผมดังนี้
    1.ผมสามารถจำภาพที่มองได้แม้จะผ่านไปนานแล้วเป็นวันๆ เหมือนยังอยู่ต่อหน้าอยู่เลย จนบางครั้งมันมาหลอนผม ตอนนั้นกำลังส่องกระจกอยู่ อยู่ดีๆภาพคนที่ผมจำมานั้นก็มาปรากฎตรงหน้าผม ใจหายวาบนึกว่าผีหลอก พอตั้งสติได้ผมเพ่งพินิจดู อ๋อคนที่เราจำหน้ามานี่นา
    2.ร่างกายระบายน้ำได้ดี ตอนนั้นผมนั่งรถ ปอ.ส้ม ซึ่งใครที่เคยนั่งจะรู้ดีว่าแอร์เย็นมาก ผมนั่งไปจนถึงที่หมาย พอลุกขึ้นปรากฎว่ามีน้ำเต็มที่นั่งผมเลย เหมือนมีใครมาทำน้ำหกไว้ ซึ่งก่อนนั่งผมก็สำรวจดูแล้วจึงได้นั่ง เป็นอยู่ 2 ครั้งจนผมไม่กล้านั่งอีกเลย ทนยืนเอาแม้ว่ารถจะว่างก็เถอะ
    3.ร่างกายจะร้อนมาก ใครมาจับตัวผมก็บอกว่าเป็นไข้หรือเปล่า ทำไมตัวร้อนจัง ผมก็สำรวจตัวเองก็ปกติดีนี่นา ผมก็เลยไปอ่านตำราดูแบบละเอียดถึงผมกระทบจากการปฎิบัติฝึกกสิณไฟ ก็เลยรู้ว่าคนที่ฝึกกสิณไฟในร่างกายจะมีธาตุไฟมาก ถ้าไม่รู้จักวิธีระบายจะทำให้มีอาการตัวร้อน จนถึงขั้นไม่สบายและสุดท้ายคือตายเพราะร่างกายรับไม่ไหว เค้าบอกวิธีให้ระบายความร้อนด้วยการเอาเท้าแช่น้ำพอน้ำมันอุ่น ก็เปลี่ยนน้ำมาแช่ใหม่จนกว่าน้ำจะเป็นอุณหภูมิปกติตามอุณหภูมิห้อง ผมจึงรีบทำตามเลยครับ
    4.เวลาโกรธจะแรงมาก ผมสังเกตว่าหลังจากฝึกกสิณไฟเวลามีเหตุอะไรให้รู้สึกไม่พอใจหรือโกรธอารมณ์จะแรงมากจนกลัวตัวเอง ไม่กล้าโกรธใครเลยจะรีบระงับอารมณ์และตั้งสติทันที
    แต่จากการฝึกผมยังไม่ก้าวหน้าเท่าไหร่ ก็ได้ยินคนรู้จัก (เป็นคนที่ชอบปฎิบัติกรรมฐานเหมือนกัน) เค้าบอกว่าคนที่ฝึกกสิณไฟจะอายุสั้น ผมก็เลยกลัวและก็เลยไม่ฝึกอีก จนมาเจอหนทางของตัวเองที่รู้สึกว่าถูกกับจริตของตัวเองที่สุด นั่นคือหนทางแห่งความสงบ (แต่บางครั้งดวงไฟก็จะมาปรากฎในนิมิตของผมในขณะที่จิตกำลังสงบ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจแล้ว - แหมทีตอนฝึกอยากให้โผล่หน่ะมายากจังนะ)
    ปล.ทุกอย่างที่ผมเล่ามานั้นอาจเป็นเพราะผมฝึกด้วยตัวเองโดยที่ไม่มีครูบาอาจารย์คอยควบคุมดูแลก็เป็นได้ จึงเป็นแบบนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2010
  2. หนังสือเก่าเก่า

    หนังสือเก่าเก่า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +22
    ฝึกกสิณสีเขียวคะ พอภาวนา ไฟฟ้าดับเลย ไม่รู้บังเอิญหรือเปล่า
     
  3. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    การฝึกกสิณสีเขียวสำหรับโทสะจริตนี่ครับ เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นขณะปฎิบัติสมาธิ ถ้าเราไม่ตกใจหรือตื่นเต้นกับเหตุการณ์ เราจะสามารถระสึกรู้ได้ครับว่าเกิดจากอะไร (ตามดูเหตุการณ์ด้วยจิต)
    ปัจจุบันผมฝึก วิปัสสนากรรมฐานกับกสิณลมครับ (ที่ฝึกกสิณลมเพราะลมที่บ้านมันแรง บ้านใกล้ทะเลหน่ะครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2010
  4. พงษ์ศักดิ์

    พงษ์ศักดิ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +65
    พี่ ๆ ครับ

    กสิน ฝึกไง มั้ง อ่า ครับ
     
  5. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    เขาว่ากันว่า จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้

    นั่งรถเมล์แล้วกางเกงเปียก -> ตูดใหญ่ ใส่กา่งเกงหนา หรือระบายอากาศไม่ดี
     
  6. สุภิญโญ

    สุภิญโญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +325
    ในชีวิต ฝึกกสิณไฟ กับ กสิณสีแดง

    ในใจผมรู้ดีเรื่องมองดวงอาทิตย์

    แต่ตลอดการฝึกผมมองตลอด อ่านที่ไหนก็ว่าตาจะบอดเอา

    แต่จำไม่ได้ว่าไปเจอที่ไหน เขามาเล่าประสบการณ์ยาวมากครับ เรื่องการเพ่งดวงอาทิตย์

    ผมเลยทำบ้างติดตาแล้วก็เลิก

    แต่สายตาผมยังปกติดี

    แต่มีผลด้านอารมณ์ กลายเป็นคนอารมณ์แบบว่า ถ้าโมโหนี่เปลี่ยนคนเลย

    อันนี้ใครก็คงบอกปกติ แต่ไม่ใช่นิสัยของผม เพราะผมเป้นคนใจเย็นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    เป้นคนที่วางเฉยได้สุดๆ ทุกเรื่องในชีวิต อะไรจะเกิดผมก็นิ่งได้

    แต่พอฝึกกสิณไฟ ถ้ามีเรื่องมาให้ฉุน เราจะแทบจะเผาคนที่ทำให้เราโมโหได้เลย

    แต่นิสัย เฉยชาก็ยังอยู่นะครับ คือถ้าไม่สุดๆจริงๆ จะเย็นมากๆ ปล่อยทุกอย่างไปตามธรรมชาติ ไม่ค่อยรู้ร้อนรู้หนาว

    แต่ถ้าลงได้รู้ขึ้นมา มีอารมณ์โกรธขึ้นมา ก็บ้าไฟลุกเลย

    หลังๆ เริ่มไม่เป็น ควบคุมตัวเองได้


    แล้วจะบอกว่าผมข้างเคียงคือตัวร้อนและไม่สบาย

    อันนี้เรื่องจริง ช่วงที่ผมฝึกกสิณไฟ ไม่สบายหนักๆ มาแล้วสองครั้ง

    แต่พอตรวจหมอวินิจฉัยว่า ไข้หวัดใหญ่ ตอนเป็นไข้ ไข้จะสูงตลอด

    แล้วพอหมดไข้ตัวเย็นมากๆ คิดว่าตัวเองไม่รอดแล้ว นั่งเฉยๆก็เหมือนคนสัปหงก

    จะล้ม จะค่ำเสียให้ได้ แต่ไม่ตาย รอดมาได้

    แล้วอีกเรื่องนึง คือสายตา อย่าได้ไปมองใครมาก เพื่อนจะเกลียดเอา

    ผมเคยมาเล่าที่นี่บ้างแล้ว เรื่องว่าเพื่อนผมไม่ยอมมองหน้าเลย

    มีแต่คนบอกว่าตาน่ากลัว ไม่อยากสบตาด้วย รู้สึกกลัวแล้วก็รู้สึกไม่ดี

    เหมือนคนเห็นสัตว์ร้าย คือ ทั้งกลัวทั้งเกลียด อยากจะหนีไม่อยากสบตาและอยากทำร้ายไปในตัว เหมือนเจองูเงี้ยวเขี้ยวขอก็ไม่ปาน

    เพื่อนทั้งทัก ทั้งบอก ผมก็พยายามไม่สบตาใครมาก

    ครูบาอาจารย์ก็ไม่อยากมองหน้าเลย เพราะเราควบคุมสายตาตัวเองไม่ได้

    แต่แปลก ทำมาค้าขึ้นมากๆช่วงนั้น แถมมีแต่ความเบื่อโลก

    อยากจะนั่งสมาธิอย่างเดียว เอาความไปปรึกษาครูสอนจริยะธรรม ท่านรู้จักกับพระอาจารยษ สอนกรรมฐาน

    ท่านก็บอกว่า ให้ไปปรึกษาท่านดู สุดท้ายไม่รู้ทำอีท่าไหน

    ตกลงปลงใจไปฝึกกรรมฐาน สติปัฎฐาน

    พอทุเลาอาการลงได้ กลับมาก็เลยเปลี่ยนจาก กสิณไฟ เป็นกสิณสีแดง

    ก็ดีขึ้น

    ทีนี้จะแนะนำว่า
    ถ้าเราได้เปิดใจรับความรู้ หรือความเชี่ยวชาญ ด้านใดๆก็แล้วแต่

    เราต้องพร้อมมีเวลาให้และทำความเข้าใจมากๆ

    เรื่องของอภิญญาก็เหมือนกัน อย่างกสิณเขาว่าเป็นโลกียญาณ มันคือเรื่องจริง

    ตอนฝึกกสิณไม่มีความว่าใจสงบเลย ความจริงเป้นแค่ช่วงๆ

    แต่พอเรามีอำนาจลึกลับ หรือผมจะพูดให้เข้าใจง่ายๆว่า เมื่อเราเข้าถึงพุทธศาสตร์ แขนงนี้แล้ว

    ต้องรู้จักควบคุม ไม่อย่างนั้นจะเกิดผลเสีย

    อย่างผมไม่สบายเกือบเอาชีวิตไม่รอดตั้ง 2 ครั้ง ไม่มีใครรู้ว่าเพระอะไร

    นอกจากตัวผมเอง เพราะหลังจากเลิกฝึกกสิณไฟก็ไม่ป่วยอีกเลย

    แต่สุดท้ายก็ได้มา

    แล้วมาฝึกกสิณแดงต่อ พอถึงขั้นก็ไปจบที่เดียวกัน

    จะเห็นเป็นแสงวูบวาบ แสบตามาก แต่ทนไหว สวยงามน่ามอง

    อาการจะเป็น เหมือนลำแสงสีขาว สาดเทเข้ามาที่เบื้องหน้า ดูเหมือนว่าแสงนั้นไกลก็ไกล

    ใกล้ก็ใกล้ ถ้าตกใจจะหลุดจาดสมาธิทันทีแล้วจะเคืองตานิดๆ

    ฉะนั้นควรมีการทำความเข้าใจ ให้หมดและถ่องแท้ ทางที่ดีควรไปฝึกที่มีอาจารย์สอนนะครับ


    จะได้หายกังวลในหลายๆเรื่อง อย่างอายุสั้นเป็นต้น

    กสิณเป็นการฝึกที่สนุกครับ แต่ว่าอย่างที่ทราบกันดีถ้าเคยศึกษามา มันเ้ป็นความสนุกความสุขที่ไม่แท้จริง

    เป็นโลกีย์ เสื่อมได้ครับ
     
  7. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    ไม่น่าเกี่ยว ว่า อายุจะสั้นลงเพราะทำกรรมฐาน แต่ถ้าตั้งใจไม่แน่
    ฝึกกรรมฐานกองใดก็จะได้อารมณ์ของกรรมฐานกองนั้นๆ กสิณไฟเหมาะกับคนที่่จิตเฉื่อยชา
    อุ้ยอ้าย ใจเย็นมากเกินไป เพื่อปรับให้เป็นคนที่กระตือลือล้นในสิ่งที่ตนทำอยู่ ถ้าเป็นคนมี
    มานะแรงกล้า โทสะแรงโดยนิสัย ก็เลี่ยงไปฝึกกองอื่นที่เป็นคู่ปรับกัน สุดท้ายกรรมฐานทุกกอง
    ผลสูงสุดคือความสงบ...
     
  8. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    เขาที่ว่าคือใครอ่ะครับ คุณถึงเชื่อ
     
  9. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    จะฝึกหรือไม่ฝึกกสิณไฟ ก็อายุสั้นเหมือนเดิม ไม่น่าจะเกี่ยวกันหรอกนะ ผมว่า :boo:
     
  10. mccimai

    mccimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +119
    เค้าคือใครหนอ

    ไม่สั้นหรอก จะสั้นจะยาว อยู่ที่ กรรมที่เคยทำมาไม่เกี่ยวกับการฝึกกรรมฐานหรอกครับ
     
  11. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    ผมมาตอบนะครับ
    -การฝึกกสิณต่างๆ ในเวปนี้มีอธิบายอยู่แล้วนะครับ แต่ให้ดีควรหาอาจารย์ที่รับฝึกสอนโดยตรงดีกว่า โดยเฉพาะการฝึกกสิณไฟยิ่งต้องมีครูบาอาจารย์คอยชี้แนะสั่งสอน เพราะการฝึกกสิณไฟนั้นอันตรายมาก จริงๆผมก็ไม่แน่ใจว่าจะอายุสั้นจริงแต่เหตุผลที่ผมคิดว่ามันน่าจะเป็น เพราะเท่าที่ผมรู้มานั้น นอกจากผลกระทบที่จะเกิดกับร่างกายและต้องรู้วิธีรักษาหรือวิธีแก้แล้ว ยังมีความอันตรายในขั้นตอนการปฎิบัติด้วย เช่นการถอดจิตเข้าไปในดวงไฟจะอันตรายมาก ฉะนั้นผู้ที่จะฝึกกสิณไฟควรจะต้องมีครูอาจารย์คอยดูแลและต้องเข้าใจหลักการปฎิบัติอย่างถ่องแท้ด้วยนะครับ
    -ที่ผมว่าแปลกที่ก้นของผมเปียกน้ำนั้น เพราะว่าชุดที่ใส่ผมก็ใส่ไปทำงานตามปกติครับก่อนนั้นไม่เคยเป็นมาเป็นหลังจากเริ่มฝึกกสิณไฟ อ้อและยังมีอาการเหงื่อออกเยอะด้วยครับ
    -ที่ว่าตาน่ากลัวนั้น ผมว่าเพราะว่าคนที่ฝึกกสิณนั้นตาจะแข็ง ผมสามารถลืมตาได้นานมากโดยไม่กระพริบตาเลย เคยจ้องกับแมว แมวหนีไปเลย โดยเฉพาะผู้ที่ฝึกกสิณไฟตาจะมีพลังความร้อนของจิตแผ่ออกมาด้วย เลยน่ากลัวน่าเกรงขามมากกว่า เพราะธาตุไฟถือได้ว่าเป็นธาตุที่มีพลังทำลายล้างสูงที่สุด
     
  12. พรเทวราช

    พรเทวราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +426
    เค้าว่าคนที่ฝึกกสิณไฟจะอายุสั้นใช่มั้ยครับ<!-- google_ad_section_end -->​

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>ถ้าพระพุทธเจ้า ตรัสเอง ก็คงใช่ ถ้าไม่ใช่ พระพุทธเจ้าตรัส ก็คง เป็นมาร ศาสนา
    ผมเองก็ไม่แน่ใจ นะครับ ขอผู้รู้ช่วยแนะ ด้วย เพราะไม่เคยได้ยิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2010
  13. หนีนรก

    หนีนรก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +666
    ที่ว่าอายุสั้นนี้ไม่ขอออกความคิดเห็น เพราะจะสั้นบางยาวบ้างก็ไม่เห็นเป็นอะไร
    แต่เรื่องเหงื่อหรือระบายน้ำได้ดี นี้ก็เป็นเหมือนกัน แต่คิดว่าเพราะอากาศที่ร้อนขึ้นทุกปี
    ร่างกายมีอุณหภูมิสูงนี้ก็จริง แต่เมื่อก่อนเป็นเฉพาะมือและเท้า แต่ปัจจุบันแขนแม่ยังไม่อยากจับเลย (แต่ก็ยังคิดว่าเพราะอากาศร้อนขึ้นอีกเหมือนเดิม)
    เวลาโกรธ ก็รู้สึกว่าโกรธง่ายหงุดหงิดง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ รุนแรงร้อนรุ่มเหมือนไฟเผาใจ คราวนี้เกลียดใครแล้วฝังใจเหมือนเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนจะเลิกคบหาไปเฉยๆ ไม่สนใจใยดีอีกต่อไปเท่านั้น แต่ปัจจุบันเหมือนแค้นฝังใจ ถอนเท่าไหร่ก็ไม่ลดลง เหมือนจงเกลียดจงชัง (แต่ถึงยังไงก็ไม่คิดทำใครอยู่แล้ว แค่ให้รู้ว่าเราไม่เป็นมิตรอย่าได้อย่ามายุ่งกับเรา ไม่ยากเห็นหน้าเห็นแล้วไฟลุก มีอารมณ์พยาบาทแต่ก็ไม่อยากทำใคร)
    สายตาจะแข็งก้าวไม่เป็นมิตร ดูน่ากลัวอันนี้ก็รู้สึกว่าจะเป็นเหมือนกัน กำลังหาทางแก้ไข
    แต่ก็ยังไม่อยากเลิกฝึก ถึงยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร คงเพราะยุ่งกับอารมณ์มากเกินไป
    ขอบคุณ จขกท ที่โพสเรื่องนี้เข้ามาทำให้รู้สาเหตุของความผิดปกติ จะได้รู้และระวังมากขึ้น
     
  14. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    ผมมาย้ำอีกครั้งครับว่า ถ้าคุณคิดจะฝึกกสิณไฟ หรือเตโชกสิณ ควรจะระมัดระวังให้มากนะครับ ทั้งการครองสติ และสุขภาพ อันตรายจากการฝึก และภูติผีปิศาจอำนาจลี้ลับต่างๆ เพราะถ้าสิ่งลี้ลับเค้ารู้ว่าคุณมีกสิณไฟอยู่ในตัว พวกเค้าจะลองของกับคุณ คือมักจะไม่ค่อยมาดีเท่าไหร่ แน่นอนว่ากรรมฐานทุกกองย่อมนำไปสู่หนทางแห่งความสุขสงบ และนิพพาน เป็นที่สิ้นสุด แต่กสิณไฟจะทำให้มีฤทธิ์เดชด้วย ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งพอทนการรบเร้าของกิเลสต่ออำนาจของฤทธิ์กสิณไฟไม่ได้ คุณก็จะโดนกสิณนั้นเผาตัวเองจนหลุดจากหนทางแห่งความสุขสงบ

    ที่ผมมาตั้งกระทู้นี้ก็เพราะว่า ผมเห็นมีแต่กระทู้วิธีการฝึกแต่ไม่มีบอกถึงผลกระทบของการฝึกกสิณไฟเลย (หรือผมหาไม่เจอก็ไม่รู้สิ) ก็เลยอยากจะมาบอกกล่าวเท่านั้นเองครับ

    ปล.สำหรับท่านที่ฝึกกสิณไฟได้จนมองเห็นดวงไฟในขณะที่ลืมตาได้แล้ว จะเป็นคนที่ดวงตามีอำนาจมาก และดวงไฟที่แรงที่สุดคือสีน้ำเงินยิ่งบีบให้เล็กได้เท่าไหร่ยิ่งแรงเท่านั้น

    ทดสอบ โดยการจ้องเอาดวงไฟไปจี้ที่ขั้วหางจิ้งจกถ้าจิ้งจกตกลงมาแสดงว่าดวงตาของคุณมีพลังไฟแล้ว (จิ้งจกไม่ตายหรอกครับ) แต่อย่าเอาไปเพ่งใส่คนนะครับบาปหนักเชียว

    อ้อ ผมลืมตอบ เค้าที่ว่าเรื่องการฝึกกสิณไฟนั้น ก่อนจะฝึกผมหาข้อมูลมาจาก หนังสือ,พระ,และผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกันครับ
    ส่วนเค้าที่ว่า คนที่ฝึกกสิณไฟแล้วจะอายุสั้นนั้น คือคนที่ปฎิบัติธรรมด้วยกันอีกคนหนึ่งครับ ผมจึงมาตั้งกระทู้เพื่อหาข้อมูลในนี้ด้วยเป็นอีกเหตุผลนึงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2010
  15. ตรงประเด็น

    ตรงประเด็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +677
    ทราบมาว่า ท่านอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป อ.แม่แตง เชียงใหม่ ท่านเคยสำเร็จกสิณไฟ คุณน่าจะลองหาโอกาสไปกราบท่าน.

    ท่านอายุขนาดนี้แล้ว แต่ สุขภาพท่านยังแข็งแรงมาก... ดังนั้น คุณเลิกกังวลได้เลย...ว่า กสิณไฟทำให้อายุสั้น

    แต่ ถ้าคุณฝึกกสิณไฟแล้วรู้สึกเครียด อาจจะเป็นเพราะจริตนิสัยของคุณอาจจะไม่ถูกกับกรรมฐานนี้ คือ กสิณจะเหมาะกับบุคคลในบางกลุ่ม ครับ.
     
  16. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    ขอบคุณครับ ผมคงไม่เหมาะกับกรรมฐานกองนี้จริงๆ และผมก็เจอแนวทางที่ถูกกับจริตตัวเองแล้วครับ และฝึกมาได้ 4 ปีแล้ว
     
  17. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    อยากถามอีกครั้งนะครับ ถ้าฝึกแล้วอายุจะสั้นลงจริง ๆ คุณจะฝึกต่อไปมั้ยครับ

    อันที่จริงมันไม่น่าเกี่ยวกันเลย แต่ถ้าฝึกแล้วอายุสั้นลงเองโดยธรรมชาติก็น่าจะดีนะครับจะได้หมดกรรมเร็ว ๆ หรืออยากฝึกให้อายุยืน ก็คงเป้นไปไม่ได้
    จุดมุ่งหมายในการฝึกคืออะไร เพื่ออะไร อันนี้ต่างหากที่น่าสนใจมากกว่าครับ
     
  18. May be no one

    May be no one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +232
    สรุปไฟต้องเป็น สีน้ำเงิน หรือ ประกายพฤกษ์ กันแน่ค่ะ
    เริ่ม งง -*-
     
  19. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    แน่นอนว่าในช่วงนั้นผมยังมีความกลัวตายอยู่ ยังไม่ได้คิดละเอียดแบบนักปฎิบัติธรรม ยังไม่แน่ใจในภพภูมิ ยังไม่แน่ใจในเรื่องของความหลุดพ้นที่ได้จากการปฎิบัติกรรมฐานจริงๆ เพราะตอนนั้นผมยังเสพข้อมูลทางโลกอยู่มาก และยังไม่ได้ศึกษาอย่างเข้าลึกในแก่นแท้ของพุทธศาสนา และอีกเหตุผลหนึ่งคือ ผมเรียนโรงเรียนคริสต์มาตั้งแต่ชั้น ป.1-ม.3 ก็นานพอดู แต่แปลกที่ผมไม่ได้ศรัทธาในศาสนาคริสต์เลย นับได้ว่าผมเป็นคนที่ไร้ศาสนาอยู่พักหนึ่ง จนมามีโอกาสได้บวชตอนอายุ 23 ปี ผมจึงเริ่มสนใจการฝึกปฎิบัติกรรมฐาน แต่ก็ยังไร้หลัก ยังทำไปด้วยความสนุก จนเมื่อมีเหตุการณ์แปลกๆเข้ามาในชีวิต และจากการปฎิบัติที่เริ่มจะลึกมากขึ้น ทำให้ผมใคร่อยากจะรู้หลักธรรมและหลักการปฎิบัติมากขึ้น และเริ่มจะปฎิบัติมากยิ่งขึ้น การฝึกกสิณไฟในช่วงนั้นของผมก็อยู่ในช่วงพึ่งเริ่มนั้นเหมือนกัน เลยยังมีความขลาดกลัวอยู่ และผมก็ได้มาเจอหนทางที่ถูกจริตผมและปฎิบัติได้ดี จนผมคิดว่าเวลาทางโลกนั้นช่างมีให้ผมในการปฎิบัติกรรมฐานและศึกษาธรรมะน้อยเหลือเกิน ในตอนนี้แม้ความตายก็ไม่สำคัญสำหรับผมแล้ว สำคัญแต่เวลาที่มีน้อยนิด ที่ผมมาโพสนี้เพื่อบอกกล่าวให้ระวังไว้บ้างในการปฎิบัติ ทุกอย่างมี 2 ด้านเสมอ คุณควรจะอ่านให้ละเอียดและคิดตามให้ดีเพราะถ้าเป็นอะไรไปซะก่อนที่จะได้มากกว่านั้นก็น่าเสียดาย ฉะนั้นการฝึกควรต้องมีครูบาอาจารย์เป็นผู้แนะนำด้วยอย่าฝึกเอง เพราะคุณจะไม่รู้ถึงผลกระทบของมันและวิธีแก้ไขเมื่อเหตุการณ์ที่ไม่ดีมันเกิดขึ้น และนี่ผมแค่เล่าประสบการณ์ให้รับรู้ไว้บ้างเท่านั้น

    จริงๆแล้วผมยังไม่อยากบอกตอนนี้เลยว่า ผมจะตัดทางโลกเข้าสู่ทางธรรมแล้ว ซึ่งมีนิมิตมาบอกไว้แล้ว มีที่ที่ผมจะไปแล้ว และผมตัดทุกอย่างออกหมดแล้ว แฟนผมก็ยินดีในการเข้าสู่ทางธรรมของผมแล้ว แต่ตอนนี้ยังติดปัญหาบางประการอยู่ และยังไม่ถึงเวลาของผม

    และทุกๆกระทู้ของผมในนี้คือประสบการณ์จริง ที่ผมได้ประสบมา ผมแค่อยากจะเล่าทิ้งท้ายไว้ให้ผู้ที่รับรู้เรื่องราวของผมได้เอาไปเป็นประสบการณ์เพิ่มเติมเท่านั้น เหลืออีกไม่กี่เรื่องทนอ่านเอาหน่อยนะครับ จะกระจายอยู่ในหัวข้อต่างๆในเวปนี้แหละครับ

    "ขอให้ทุกท่านจงเป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรม และขอให้เกิดอยู่ภายใต้ร่มเงาของพุทธศาสนาตลอดไปจนกว่าจะสิ้นภพสิ้นชาติเทอญ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2010
  20. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +3,152
    กสิณไฟจริงๆมีหลายสีครับตามกำลังฌาณของแต่ละคน เริ่มจากสีเหลือง ส้ม แดง แต่สีที่ร้อนแรงที่สุดและมีพลังมากที่สุดคือสีน้ำเงินครับ และจากการฝึกปฏิบัติตั้งแต่ไฟชนิดร้อนน้อยที่สุดไปจนถึงร้อนแรงที่สุดไต่ขั้นตามละดับการฝึกคือ การเพ่งเทียน,การเพ่งกองไฟ และสุดท้อยคือการเพ่งดวงอาทิตย์ที่อันตรายในการฝึกที่สุด ระวังผลกระทบด้วยนะครับ ตามที่ผมได้บรรยายมาแล้ว (เออว่าแต่ สีประกายพฤกษ์นี่มันคือสีอะไรหรือครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2010
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...