หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง เพชรบุรี

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย lekpluto, 17 พฤษภาคม 2010.

  1. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    สวัสดีครับคุณน้ำ เพิ่งกลับจากทำงานนอกบ้าน ตอนนี้ที่เมืองไทยไม่เช้าแล้ว ใกล้เที่ยงแล้วกระมัง ขอบคูณมากครับที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกัน เดี๋ยวจะเข้าไปเยี่ยมเยียนกระทู้คุณน้ำบ้างครับ สานต่อเรื่องเมื่อวานแหละครับ
     
  2. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    คำสนทนาของพระอริยเจ้า ๒ รูป เมื่อพบกัน<O:p</O:p
    ภาพอันน่าประทับใจ ๒ พระเกจิดังแห่งยุค หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน ส่งกำลังใจ โดยเข้าเยี่ยม หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง ซึ่งท่านพักรักษาตัวที่ ร.พ. วิชัยยุทธ กรุงเทพ ฯ (๘ กันยายน ๕๒)<O:p</O:p
    ช่วงหนึ่งของการสนทนา ท่านทั้งสองได้ประสานมือกันนิ่ง ๆ เข้าสมาธิ นานสักระยะหนึ่ง ว่ากันว่า ท่านคุยกันทางสมาธิจิต สุดปัญญาที่จะอธิบายว่า คุยเรื่องอะไรกัน แต่หลังจากนั้น หลวงพ่อแห่งเพชรบุรี กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายว่า พวกเราก็ใกล้ฝั่งของชาติสุดท้ายกันแล้วนะหลวงพ่อ<O:p</O:p
    ท่านไม่ได้โอ้อวดนะครับ เพราะท่านสนทนากัน คนอยู่ใกล้บังเอิญได้ยิน แล้วนำมาบอกเล่ากันต่อ ท่านจะเชื่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของท่านเอง ส่วนผมนั้น เชื่ออย่างหมดหัวใจ และสนิทใจมานานแล้วล่ะครับ ว่าท่านต้องบรรลุธรรมขั้นสูงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ขออภัย ภาพไม่ค่อยชัดเท่าไร ขยายใหญ่ไม่ได้ เพราะเอามาจากเน็ต)
    <O:p</O:p
    ประสบการณ์จากวัตถุมงคลที่นำให้หลวงพ่ออุ้นปลุกเสก<O:p</O:p
    เมื่อประมาณปี ๔๘ ผมกับญาติน้องเขย นำเหรียญ ครูบาอุ่น อรุโณ วัดป่าแดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งทำถวายวัด เพื่อหารายได้ไปสร้างพระมณฑป คือ เอาเหรียญรุ่นนั้นไปให้ หลวงพ่ออุ้นท่านเสกเป็นปฐมฤกษ์ พร้อมกับไปรับแท่งโลหะ ที่ฝานให้ท่านอธิฐานจิตด้วยครับ เมื่อท่านเสกเหรียญพระเสร็จท่านบอกว่า เอาลง ๓ จังหวัดภาคใต้ได้เลย ตอนนั้นผมก็ได้ให้ท่านลงกระหม่อมให้ เสร็จแล้วไปวัดห้วยมงคลต่อ เพื่อไปเอามวลสารกับพระครูไพโรจน์ รออยู่นานกว่าจะกลับก็ค่ำ <O:p</O:p
    ระหว่างทางกลับนั้น มีวัยรุ่น ๖ คน ซ้อนแมงกาไซด์ ๓ คัน วางประทัดยักษ์กลางถนน พอดีจังหวะคนขับรถชลอรถ เพื่อหยิบขนมกิน ทันใดนั้นเสียงประทัดขนาดขวดน้ำโพลาลิส ๑๐ บาท ระเบิดขึ้น ลูกไฟลอยสูงเท่าเสาไฟฟ้า จุดที่ระเบิดกับรถที่นั่งไป ห่างกันประมาณ ๓ เมตร เองครับ โอโห ใจหายวาบเลย กลุ่มวัยรุ่นก็ออกรถหนีทันทีเลยครับ แสดงว่าแคล้วคลาดดีครับ <O:p</O:p
    พอวันรุ่งขึ้น ตื่นตี ๔ ไปกราบ หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร ที่นครสวรรค์ต่อ ก็เอาพระไปให้ท่านเสกอีก เอาไปถวายตรงที่ท่านนั่งรับแขก หลวงพ่อท่านถาม อะไรนะ ท่านเอามือเขี่ยลงในกล่องเหรียญ ท่านสะดุ้งตกใจ ท่านบอกว่า ไม่ได้ เสกตรงนี้ไม่ได้ เอาไปไว้ที่หน้ากุฏิ จากนั้นท่านเข้ากุฏิไปแต่งตัวห่มจีวรออกมาเรียบร้อยมาก และให้ทางพี่ชายน้องเขยจุดธูป ผมกับพี่น้องเขยนั่งวิเคราะห์ดูคิดว่า ที่หลวงพ่อจ้อยท่านจับเหรียญแล้วสะดุ้งนี้ ท่านต้องเจออะไรของหลวงพ่ออุ้น แน่นอนครับ หลวงพ่ออุ้นท่านชำนาญในกสิณ ๑๐ ครับ ท่านเก่งมาก ๆ เลยครับ
    <O:p</O:p
    อภินิหารผ้ายันต์<O:p</O:p
    เมื่อวันเสาร์ ๒ ส.ค. ๒๕๕๑ " ลุงเยี้ยน ลูกอินทร์ " ฆราวาสคนหนึ่ง ที่เชี่ยวชาญไสยศาสตร์ ได้เดินทางมาพูดคุยที่วัด กับพรรคพวกที่มาทำบุญ ได้เล่าให้ฟังเกี่ยวกับ ความเชี่ยวชาญด้าน คาถาอาคมของ ลพ.อุ้น ว่าสมัยที่ลุงแกบวชใหม่ ๆ ราว ๆ พ.ศ. ๒๕๐๗ ในวัดได้จัดให้มีการแข่งขันยิงโคมไฟกระดาษกัน โดยแขวนโคมไฟกับเสา ชักรอก สูงสักประมาณ ๔๐ เมตร แล้วใช้พลุตะไล ที่แต่ละคนทำมา นำมาลองยิงกัน ใครยิงถูกโคมไฟกระดาษ จนไฟลุก ก็ได้รางวัลไป รางวัลก็เป็นพวก พัดลม หรือ พวกผ้าเช็ดตัว ตลอดจนของใช้ทั่วไป มีคนเข้ามาเล่นกันเป็นร้อย ๆ คน ซึ่งในจำนวนนั้น ก็จะมีบางคนที่นำเอาผ้ายันต์ ตลอดจนพระเครื่องพระอาจารย์ต่าง ๆ มาติดที่โคมไฟ ทดสอบความขลังกันมากมาย <O:p</O:p
    ส่วนมากโคมไฟแขวนอยู่ได้ไม่นาน ก็ถูกยิงจนตก เป็นที่สนุกสนานกัน ลุงเยี้ยนเล่าว่า ตอนนั้นแกก็เอาโคมแกแขวนไว้เหมือนกัน ไม่นานก็ถูกยิงจนตก แต่ด้วยว่านิสัยคนไทย มีการแข่งขันอะไร ก็มักมีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง พอสนุกสนาน ว่าของคนนั้นคนนี้จะแขวนอยู่ได้นานเท่าไร ลุงเยี้ยนก็ได้ไปขอความเมตตา ลพ.อุ้น ให้ช่วยเขียนผันต์ใส่ผ้าขาว ก่อนบอกหลวงพ่อว่าจะนำไปติดโคมให้เขายิงทดสอบตะไล (แต่ไม่ได้บอกว่าชาวบ้านมีการติดปลายนวมพนันกัน)<O:p</O:p
    ลพ.อุ้น ท่านเมตตาลงยันต์ในผ้าขาว พร้อมเสกเป่าอยู่สักพัก ก่อนยื่นผ้ายันต์ให้และบอกว่า<O:p</O:p
    " ให้พวกมันยิงไปเถอะ กูให้ยิงจนตะไลหมดเป็นร้อยก็ยิงไม่ถูก" เมื่อได้ผ้ายันต์ที่ ลพ.ลงให้เสร็จ ก็นำไปติดที่โคมไฟแล้วชักรอกนำ ขึ้นไปแขวนบนเสา ให้คนที่มาร่วมงานทดลองยิง ปรากฏว่า ตะไลแต่ละลูกที่ถูกยิงออกไป เมื่อวิ่งจนใกล้จะถึงโคมที่แขวนไว้ ก็จะเบี่ยง ออกซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ขึ้นบนบ้าง ล่างบ้าง ไม่ถูกโคมสักอันเดียว ยิงกันจนตะไลหมดกันรวมเป็นร้อยลูก (ดั่งคำ ลพ.อุ้น ท่านพูดว่า ให้ยิงเป็นร้อยก็ยิงไม่ถูก) ไม่มีถูกสักนัด จนชาวบ้านต้องสอบถามกันว่า เป็นตะไลของใคร มีของดีอะไร พอลุงเยี้ยนบอกว่า มีผ้ายันต์ ลพ.อุ้น ท่านติดอยู่เท่านั้นแหละ ผู้คนต่างเข้าไปแย่งกันวุ่นวาย จนทุกวันนี้ยังไม่รู้ว่าผ้ายันต์ ผืนนั้นอยู่ที่ใคร ลุงเยี้ยนท่านเล่าไป หัวเราะไป เป็นที่สนุกสนาน
    <O:p</O:p
    อภินิหาริย์ ตะกรุดลูกปืน คุ้มครองชีวิต ประสบการณ์ตรงของหมู่เอก<O:p</O:p
    เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ชุดลาดตระเวนของหน่วยเฉพาะกิจที่ ๒๕ จำนวน ๔ นาย ซึ่งลาดตระเวนกลับฐาน หลังจากคุ้มครองครู ที่ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี (หน่วยนี้เป็นหน่วยที่หมู่เอกอยู่ด้วยครับ) ได้ถูกคนร้ายประมาณ ๖ นาย ใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าใส่เป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันขึ้น<O:p</O:p
    หลังเสียงปืนสงบ คนร้ายได้ล่าถอยไป กำลังพลชุดคุ้มครองครู ได้รับบาดเจ็บสาหัส ๑ นาย ไม่สาหัสมาก จำนวน ๓ นาย แต่ในที่นี้ มีกำลังพลทหารเพียงหนึ่งนายเท่านั้น ที่แทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย ทั้งที่อยู่ด้านข้างคนขับ และตรงกับวิถีกระสุนที่คนร้าย ยิงทะลุกระจกพอดี กระสุนกลับไม่พุ่งเข้าทะลุร่างกายของเขา แต่กลับไปติดที่ปากกระบอกปืนเอ็ม ๑๖ อย่างน่าอัศจรรย์<O:p</O:p
    หลังจากส่งคนเจ็บไป รพ. พลทหารคนนี้ได้ถูกผู้บังคับบัญชา ตลอดจนพรรคพวกสอบถามเป็นการใหญ่ว่ามีอะไรดี เจ้าตัวตอบว่า มีเพียงตะกรุดลูกปืน วัดไหนก็ไม่รู้ ที่ผู้พันนำมาแจกให้ ด้วยความสงสัยว่า เอ๊ะ เราก็เคยนำตะกรุดลูกปืน ลพ.อุ้น มามอบให้กับผู้พันเหมือนกัน เลยเข้าไปขอดู เมื่อได้ดูแล้วก็จำได้ในทันทีว่า เป็นตะกรุดลูกปืน ของหลวงพ่ออุ้นแน่นอน เนื่องจากมีการตอกโค๊ดตัว อ.ไว้ และ โค๊ดยันต์ไว้ เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปตะกรุดลูกปืน ลพ.อุ้น ก็หมดจากหน่วยเฉพาะกิจที่ ๒๕ อย่างรวดเร็ว<O:p</O:p
    หลังจากกลับมาจากพักที่สนาม ผมนำเรื่องนี้มาเล่าให้ ลพ.อุ้นฟัง พร้อมนำภาพถ่ายมาให้ท่านดูด้วย ท่านหัวเราะชอบใจใหญ่ ก่อนตอบว่า “ไอ้โจรใต้กิ๊กก๊อก คนตัวออกจะใหญ่โต ยิงไม่ถูก เสือกยิงโดนปากกระบอกปืน ยิงไม่ออก ออกไม่ถูก ถูกไม่เข้าโว้ย มึงว่าป่ะไอ้ทหาร” แล้วท่านก็หัวเราะเสียงดัง<O:p</O:p
    หมู่เอกได้แต่ยิ้มแอบปลื้ม และขอบคุณ ลพ.อุ้นครับ !!! ที่ท่านได้เมตตาคุ้มครองชีวิตผมและกำลังพลภายในหน่วย เฉพาะกิจที่ ๒๕
    <O:p</O:p
    เส้นเกศากลายสภาพเป็นผลึกแก้วใส โดย หมู่เอก<O:p</O:p
    หลังจากกลับจากเดินทางไปหาข้อมูลการสร้างพระรุ่นเก่า ๆ ของหลวงพ่ออุ้น ในพื้นที่บ้านตาลกง ก็ได้รับโทรศัพท์ของท่านผู้ใหญ่ที่เคารพกันท่านหนึ่ง ซึ่งฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อตั้งแต่ ปี ๒๕๓๕ ได้โทร. มาเล่าให้ฟังถึงความอัศจรรย์ใจเกี่ยวกับ "เส้นเกศาที่เคยขอหลวงพ่ออุ้นไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ กลายเป็นผลึกแก้ว” ได้ฟังดังนั้น ผมรีบซิ่งเจ้าแมงกะไซด์คู่ชีพ ไปบ้านผู้ใหญ่ท่านนี้ในทันที (อยากเห็นกับตา)<O:p</O:p
    เมื่อไปถึงท่านเล่าให้ฟังว่า หลังจากทำความสะอาดโต๊ะหมู่บูชาพระ เป็นประจำทุกวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์ ก็ได้หยิบองค์พระเครื่องต่าง ๆ ของหลวงพ่ออุ้น มาส่องดูตามปกติ (ตามประสาคนชอบสะสม) และหยิบขวดผลึกแก้วที่ใช้เก็บ "เส้นเกศาของหลวงพ่ออุ้น" มาส่องดูด้วย <O:p</O:p
    เมื่อส่องดูก็ต้องพบกับความอัศจรรย์ใจ เป็นอย่างมาก ว่า" เส้นเกศาของหลวงพ่อที่เคยเป็นเส้นสีดำ ๆ บ้าง ขาว ๆ บ้าง เหมือนมนุษย์ ที่ล่วงเลยเข้าสู่วัยชรา "กลับกลายเป็นเส้นสีขาวใส และแข็งเป็นผลึกแก้ว ส่วนเส้นเกศาสีดำนั้น ก็ดำสนิททั้งเส้น และแข็ง เหมือนผลึกหิน”<O:p
    </O:pกระผมลองหยิบมาจับดู ปรากฎว่า แข็งเหมือนหินจริง ๆ ครับ โอ้ว!!! อัศจรรย์มาก โดยสามารถมองดูได้ด้วยตาเปล่า แต่ถ้ายิ่งส่องกล้องจะเห็นได้ถึงความอัศจรรย์ใจ กระผมได้ขออนุญาตท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ถ่ายรูปมาให้ผู้ที่รัก และศรัทธาในวัดตาลกง ตลอดจนองค์หลวงพ่ออุ้น ได้รับทราบถึงเรื่องอัศจรรย์ดังกล่าว ซึ่งท่านก็อนุญาต (ขอสงวนชื่อและที่อยู่ของท่าน) เพราะท่านกลัวคนอื่นที่ทราบข่าว จะมาขอไปครับ (หวงมากกว่าเก่า) <O:p</O:p
    ขนาดผมท่านยังบอกว่า ให้ถ่ายอย่างเดียวนะ ห้ามขอ ผมก็บอกกับท่านว่า แค่ผมได้เห็นก็เป็นบุญตาแล้วครับ แต่ก็เสียดายนะ นึกในใจ คงต้องกลับไปดูที่หิ้งพระที่บ้านบ้าง เพราะกระผมก็มีไว้บูชาเหมือนกันครับ
    <O:p</O:p
    พุทธคุณเศษผ้าอาบ-จีวร <O:p</O:p
    วันนี้อาการอาพาธของ ลพ.ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน (เสาร์ที่ 24 ม.ค.52) มากเลยครับ ไม่มีอาการไอแล้วครับ ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นอีกวันที่โชคดีของหมู่เอก ที่มีโอกาสได้สรงน้ำหลวงพ่อ เห็นท่านอารมณ์ดีก็เลยแย็บ ๆ ถามเกี่ยวกับเรื่อง "ผ้าจีวร " ที่ลูกศิษย์อยากได้กันนักกันหนา....<O:p</O:p
    หมู่เอก : หลวงพ่อ หลวงพ่อ ลูกศิษย์จากที่ต่าง ๆ ที่เขาเช่าวัตถุมงคลหลวงพ่อ เขาอยากได้เศษจีวรหลวงพ่อครับ จะเอาไปติดตัวบูชา<O:p</O:p
    ลพ.อุ้น : (มองหน้าหมู่เอก) ยิ้ม ๆ อ้าว ถ้าให้แล้วกูจะใส่อะไร มึงไปเอาผ้าอาบ มาโน่น แล้วกูเสกให้<O:p</O:p
    หมู่เอก : จริงเหรอครับ รีบจ้ำอ้าวไปหยิบผ้าอาบ มาทันที นึกในใจ วันนี้หลวงพ่อใจดีจังวุ้ยหลวงพ่ออุ้น หยิบผ้าอาบนำไปอธิษฐานจิตประมาณ ๑๐ นาที ก่อนยื่นให้และกำชับว่า...
    "ไปไร่ ไปนา ไปป่า ไปดง สารพัดกัน มึงอยากได้อะไรไม่ผิดศีลธรรม อธิษฐานเอา กูเสกให้ดีแล้ว ไปตัดแบ่งกันเอง"<O:p</O:p
    หมู่เอกได้มายิ้มแก้มปริ !! เดินออกจากห้องลพ. คุณหมอแคน ที่ดูแล ลพ. รีบเดินมาพร้อมกับ กรรไกร ก่อนพูด"ลพ.บอกว่าอะไรผมได้ยินนะ มาแบ่งกัน" (โดนแบ่งไปบูชา ๑ ส่วน) ส่วนที่เหลือหมู่เอกตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้ตอบแทนทุกท่านที่เช่าบูชาวัตถุมงคลของทางวัดครับ
    <O:p</O:p
    อยู่ที่ไหนก็เป็นศิษย์หลวงพ่อได้ทุกคน<O:p</O:p
    หมุ่เอกเคยถาม ลพ.อยู่เหมือนกันครับ ว่า..."หลวงพ่อ หลวงพ่อ ถ้าคนอยากเป็นศิษย์หลวงพ่อ แล้วเขาไม่มีโอกาสได้มาหาหลวงพ่อ เขาจะทำได้ยังไงครับ หลวงพ่อจะรับเขาเป็นศิษย์หรือเปล่าครับ"<O:p</O:p
    "ศิษย์กูไม่เลือกสอน จะดี จะจน กูก็บอกเหมือนกันหมด ศีล ๕ ให้พยายามรักษากันไว้ สอนได้เท่าไร ก็แล้วแต่วาสนาแต่ละคน ตอนมาหากูก็เห็นเป็นคนดีมาทั้งหมด ไม่เห็นเป็นเสือ เป็นนักเลงอะไร พ้นกูไปมันจะเป็นอะไรก็เรื่องของมัน..........อยู่ไกลไม่มีโอกาสได้มา ระลึกถึงครูบาอาจารย์ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นกู ศิษย์เคารพนับถือครูอาจารย์ อาจารย์ที่ไหนเขาจะเกลียดได้ลง"<O:p</O:p
    ครับ ดังนั้น ผู้อ่าน หรือ สมาชิกเวปพลังจิตท่านใด ทั้งใกล้ ไกล ในและต่างประเทศ หากใครอยากเป็นศิษย์หลวงพ่ออุ้น ก็ให้รำลึกถึงหลวงพ่อ ตั้งจิตถึงท่าน ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ได้ทุกคน เมื่อเป็นศิษย์อาจารย์กันแล้ว เดือดร้อนเรื่องใด บอกกล่าวท่าน ถ้าท่านช่วยได้เนื่องจากไม่ขัดกับกฎแห่งกรรมแล้ว ท่านช่วยแน่นอนครับ<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2010
  3. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ผ้ายันต์หลวงพ่ออุ้น รุ่นห้า (สุดท้าย)

    สำหรับผ้ายันต์รุ่นนี้ ดีทางเมตตาค้าขาย พวกพ่อค้า แม่ค้า นิยมไปเช่าบูชากันครับ โดยนำไปติดบ้านเรือนบ้าง ใส่กระเป๋าสตางค์บ้าง หรือว่า ใส่ในตะกร้าเก็บเงิน บ้าง<O:p</O:p
    หลวงพ่ออุ้นเคยเล่าให้ฟังว่า ได้ศึกษาพระยันต์นี้จาก ตำราเก่าของครูอาจารย์ ทำให้รู้ว่า มีคุณประโยชน์สารพัดประการ และเด่นทางด้านเมตตามหานิยม อุปเท่ห์ในผ้ายันต์ หลวงพ่อเมตตาเล่าให้ฟังอีกว่า "ใน ตำรา กล่าวไว้ว่าผ้ายันต์นี้มีคุณวิเศษนานับประการ อย่าว่าแต่จะใช้ทำศึกกับมนุษย์เลย หากแม้จะใช้ทำศึกกับเทวดา เสียก็ยังได้"<O:p</O:p
    ผ้ายันต์รุ่นนี้ท่านปลุกเสกเดี่ยวในพระอุโบสถเก่าวัดตาลกง ใน ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ นับเป็นผ้ายันต์รุ่นสุดท้ายของทางวัด และไม่มีการสร้างขึ้นมาอีกจนกระทั่งทุกวันนี้ ราคาที่ให้บูชาจากทางวัดล่าสุด คือ ผืนละ ๑,๕๐๐ บาท<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ตะกรุดลูกปืน สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๐ นับเป็นตะกรุดลูกปืน รุ่นเดียว และ รุ่นสุดท้าย ของหลวงพ่ออุ้น มีประสบการณ์ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างโชกโชน เพราะหมู่เอก ศิษย์รับใช้ใกล้ชิดนำไปมอบให้ผู้พัน แจกแก่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ เมื่อคราวที่หมู่เอกไปราชการภาคใต้เป็นเวลา ๒ ปี ที่วัดยังมีให้ทำบุญ ดอกละ ๗๐๐ บาท เหลือไม่มากนัก ช้าหมด อดแน่ และราคาก็จะขึ้นพรวด เหมือนกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อหลายรุ่น ที่ตอนนี้ราคาพุ่ง จนจับไม่ลง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    เส้นเกศาของหลวงพ่ออุ้น ที่แข็งใสเป็นใยหิน ข่าวดี หากใครบูชาพระหลวงพ่ออุ้นจากทางวัดโดยตรง (ผ่านทางหมู่เอก) ทางวัดจะมอบเส้นเกศา เศษผ้าจีวร ฯลฯ เป็นของสมนาคุณ ของที่แจก แจกจริง แจกมานานแล้ว ใกล้จะหมดแล้ว ขอบอก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. จักราช

    จักราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +511
    จะสามารถติดต่อที่ไหนได้บ้างครับ
     
  7. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    เข้าไปที่เวปบอร์ดของวัดตาลกง ดังนี้
    วัดตาลกง

    จากนั้นก็คลิกเข้าไปที่ "ตู้วัตถุมงคล" หรือ ตามลิงค์นี้
    Picasa Web Albums - bigfish - Amulets#

    เลือกวัตถุมงคลที่ต้องการ แล้วอีเมล์ หรือ จะสั่งบูชาในเวปบอร์ด ตามลิงค์นี้
    http://bbznet.pukpik.com/scripts/view.php?user=bigfish&board=1&id=28&c=1&order=numtopic
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2010
  8. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    เท่าที่ผมทราบ หากบูชาวัตถุมงคล ผ่านทางหมู่เอก จะได้รับของสมนาคุณชุดใหญ่ มีด้วยกัน ๖ รายการ คือ (เป็นของส่วนตัวหมู่เอกที่ตั้งใจแจกแก่ศิษย์หลวงพ่อ หรือ ผู้ที่บูชาวัตถุมงคลกับทางวัด ไม่ใช่ของทางวัดดังที่บอกแต่แรก ดังนั้น ใครไปบูชาของจากตู้ที่วัดโดยตรง แล้วไม่เจอหมู่เอก อาจจะไม่ได้รับของแจก อย่ามาว่ากันนะ)

    ๑. รูปถ่ายของหลวงพ่ออุ้น ขนาด ๔ คูณ ๖ นิ้ว
    ๒. สติ๊กเกอร์ติดหน้ารถ รูปหลวงพ่ออุ้น
    ๓. หวายลูกนิมิต ปี ๒๕๔๕
    ๔. สายสิญจน์ในงานฝังลูกนิมิต หรือ พิธีพุทธาภิเษก
    ๕. เศษผ้าจีวร
    ๖. เส้นเกศา

    เบอร์โทร. หมู่เอก (089) 088-8850 (มือถือ) อีเมล์ toyai123@hotmail.com

    ขั้นตอนการบูชา มีรายละเอียด ตามลิงค์
    http://bbznet.pukpik.com/scripts/view.php?user=bigfish&board=1&id=22&c=1&order=numtopic

    ข้อสำคัญ อย่าลืมเน้นเรื่องของแจกด้วยนะครับ ถามไถ่ก่อนว่า หมดหรือยัง จะได้ไม่มาเคืองกันทีหลัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2010
  9. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ผ้ายันต์รุ่นหนึ่ง ถึง รุ่นสาม ของวัดตาลกง ส่วนรุ่นสี่ ถ่ายรวมกับรุ่น ๑-๓ เจอที่ไหนอย่าให้หลุดมือนะครับ เล่นง่ายครับ เพราะมีชื่อรุ่นบอกเอาไว้อย่างชัดเจน ตอนนี้ยังไม่เจอของปลอม อย่างไรก็อย่าประมาทนะครับ บูชาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือ ที่เขารับประกันความแท้ตลอดกาล

    เหรียญหลวงพ่ออุ้น รุ่นมั่งมีทรัพย์ มีของปลอมระบาดแล้ว โปรดระวัง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2010
  10. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    หลวงพ่ออาพาธอยู่ที่ ร.พ.วิชัยยุทธ ได้ ๒-๓ สัปดาห์แล้ว เข้า-ออก ห้องไอซียูมาแล้ว ๒-๓ ครั้ง อาการล่าสุด ท่านแข็งแรงดี ฉันอาหารได้มาก เป็นที่พอใจของคณะแพทย์

    ภาพนี้เป็นภาพล่าสุด ถ่ายเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๓ ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    พระปิดตาหลวงพ่ออุ้น

    เชื่อหรือไม่ ยังมีอีกหลายคนมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับพระปิดตา ที่พูดเล่นพูดหัวเอาสนุกก็ว่าแขวนพระปิดตา ระวังตาปิดนะ ที่พูดกันอย่างเอาจริงเอาจังก็ว่า พระปิดตาน่ะหรือ ไม่เอาล่ะ แขวนแล้วเดี๋ยวปิดโชคปิดลาภ ปิดช่องทางทำมาหากินเล่นเอาคนที่ฟังไม่กล้านำมาแขวนขึ้นคอ แม้จะได้มาฟรี ๆ ก็ตาม ไอ้ที่หนักกว่านั้นก็คือ อย่าเอาพระปิดตามหาอุด หรือ ปิดทวารทั้ง ๙ เข้าบ้านเชียวนา ถ้ามีให้นิมนต์ออกไปไว้ที่อื่น เดี๋ยวใครมีลูกจะคลอดลูกยาก หรือ คลอดลูกไม่ได้ ลูกตายทั้งกลม ตายทั้งแม่และลูก ใครฟังเข้าก็ขนหัวลุกซู่ ถ้ามีพระปิดตาที่ว่าอยู่ รีบกุลีกุจอเอาไปถวายวัด บางรายที่กลัวว่าพระท่านจะไม่รับถวาย ก็นำไปวางไว้ใต้ต้นโพธิ์ หรือ ต้นไม้ใหญ่ในวัดก็มีไม่น้อย

    ในสมัยที่ผมเป็นเด็กวัดอยู่วัดชิโนรสฯ กทม. ผมเคยเจอพระปิดตา และพระเครื่องอื่น ๆ บ่อยครั้งที่ใต้ต้นพิกุลข้างโบสถ์ แต่เนื่องจากเป็นเด็กไม่ประสีประสาอะไร ก็เลยไม่ได้เก็บเอาไว้ ยังเสียดายจนทุกวันนี้ เพราะดีไม่ดีอาจเจอ พระวัดระฆัง หรือ บางขุนพรหม องค์ที่แตกหัก หรือ พระปิดตามหาอุตม์ ของ หลวงพ่อทับวัดทอง หลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง กทม. หรือ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรี ฯลฯ เข้าให้ เก็บเอาไว้ตอนนี้ออกตัวก็คงได้เงินเป็นล้านแน่นอน

    ก่อนที่จะนำเสนอเรื่องราวพระปิดตาของหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง หรือ หลวงพ่อองค์อื่น ๆ ที่สร้างพระปิดตาในยุคนี้ และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการพระเครื่องในยุคปัจจุบัน ก็ขอทำความเข้าใจในเรื่องพระปิดตาให้กับนักนิยมสะสมพระเครื่อง หรือ ผู้ที่หัดเล่นพระใหม่ ๆ ได้ทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของพระปิดตากันเสียก่อน เพื่อที่จะได้เข้าใจในเรื่องราวที่ถูกต้อง มีพระปิดตาดี ๆ อยู่กับตัว หรืออยู่ในความครอบครอง ไม่ต้องถูกเขาหลอก พระหลุดลอยไปให้คนอื่นที่เขารู้ความจริงไปอย่างน่าเสียดาย

    พระปิดตา เป็นพระเครื่องรูปพระอรหันตสาวกของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ที่เพียบพร้อมไปด้วยความเฉลียวฉลาดสามารถอธิบายธรรมได้เยี่ยมยอดกว่าพระสาวกองค์อื่น ๆ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ หรือในหมู่สงฆ์ว่า พระภควัมบดีหรือ พระภควัมปติ เนื่องจากมีรูปลักษณะ ละม้ายคล้ายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ ที่เรารู้จักกันดีอีกนามหนึ่งคือพระสังกัจจายน์ นั่นเอง


    พระภควัมบดี ถือกำเนิดในตระกูลพราหมณ์-ปุโรหิต แห่งเมืองอุเชนีเนื่องจากมีวรรณะงดงามดังทอง จึงได้รับการขนานนามว่า กาญจนได้ศึกษาไตรเทพจนเจนจบและเป็นพราหมณ์ปุโรหิตแทนบิดาในสมัยพระเจ้าจันทร์ปัตโชติ

    ต่อมาได้มีโอกาสได้ฟังธรรมในสำนักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดความเลื่อมใส และศึกษาธรรม จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ และอุปสมบทด้วยเอหิภิกขุสัมปทา(พระพุทธเจ้าทำการบวชให้)


    พระภควัมบดีท่านมีความเป็นเลิศ ทางการย่อพระธรรมคัมภีร์ให้สั้นลง และ อธิบายความหมายให้ผู้ฟังเข้าใจได้อย่างละเอียดแจ่มแจ้ง นอกจากนี้ท่านยังมีรูปร่าง และผิวกายงดงามมาก จนได้ชื่อว่า "พระภควัมปติ"อันมีความหมายว่า "ผู้มีความงามละม้ายเหมือนพระผู้มีพระภาคเจ้า"

    <O:p</O:p
    ด้วยเหตุที่ทำให้ผู้คนเข้าใจผิดอยู่เนือง ๆ ไม่เว้นแม้เทวดายังสรรเสริญท่านเห็นว่า หากปล่อยไว้ต่อไปจะเป็นการไม่สมควรหรือ เกิดความมัวหมองต่อองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น พระภควัมบดีจึงอธิษฐานจิตให้ร่างกลายเปลี่ยนเป็น อ้วน เตี้ย พุงพลุ้ย ดูน่าเกลียด จวบจนนิพพานอันมีความหมายที่กล่าวถึง พระสังกัจจายน์ อันเป็นที่รักใคร่นิยมยินดีเต็มไปด้วยลาภสักการะสรรเสริญ


    จนเมื่อครั้งพระพุทธเจ้า ท่านทรงออกเดินทางเพื่อแสดงธรรมซึ่งในครั้งนั้นมีพระสาวกเป็นจำนวนมากที่พร้อมเดินทางไปพร้อมกับพระพุทธองค์ด้วยสถานที่จุดหมายที่จะเดินทางไกลนั้นใช้เวลาหลายเดือนและประกอบกับต้องผ่านในสถานที่อันตรายต่าง ๆ จนเมื่อถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีความแห้งแล้งทุรกันดารมีบรรดาภูตผี และวิญญาณที่มองไม่เห็นอยู่มากมายถึงขนาดเหล่าเทพเทวดาไม่อาจผ่านบริเวณที่แห่งนั้นได้


    ครั้งนั้น พระพุทธองค์ ได้ทรงเรียกประชุมบรรดาพระสาวกที่ตามเสด็จในครั้งนั้นเพื่อหาทางออกของการเดินทางในครั้งนี้ ซึ่งการประชุมถูกแบ่งออกเป็น ๒ ทางเลือก คือ
    ๑.ใช้การเดินทางอ้อม ซึ่งจะทำให้ใช้ระยะเพิ่มอีกเวลาหลายเดือนเกิดความล่าช้ากว่ากำหนด
    ๒.เดินทางต่อโดยใช้เส้นทางเดิม ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีอันตรายตลอดการเดินทางและมีปัญหาในการดำรงชีวิต แต่ในการประชุมครั้งนั้น ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้จนกระทั่งพระพุทธองค์ ได้กล่าวสอบถามในการเดินทางครั้งนั้นว่า พระภควัมบดีได้ติดตามมาในขบวนนี้ด้วยหรือไม่"

    <O:p</O:p
    บรรดาเหล่าพระสาวกจึงตอบกลับไปว่า ในการเดินทางครั้งนี้ พระภควัมบดีได้เดินทางมาด้วยเมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบ ก็ทรงพอพระทัยยิ่งนักและได้ตอบกลับแก่บรรดาพระสาวกที่ติดตามว่า เราจะเดินทางต่อไป และ ใช้เส้นทางเดิม ในการเสด็จครั้งนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี


    ต่อมาภายหลัง เมื่อพระภควัมบดีทบทวนถึงเหตุการณ์ของพระพุทธองค์ ในการประชุมในครั้งนั้น ท่านได้คิดถึงเหตุผลต่าง ๆว่าเพราะอะไร พระพุทธองค์ถึงถามพระภควัมบดีแล้วมีความเกี่ยวข้องถึงการเดินทางได้อย่างไร

    พระภควัมบดีได้ นั่งสมาธิทางใน โดยใช้มือทั้งสองปิดตา เพื่อหาสาเหตุจนกระทั่งพบว่า ในอดีตชาติ ท่านได้เกิดเป็นชายผู้หนึ่งที่มีความรู้แตกฉานในการรักษาโรคต่าง ๆ และเป็นผู้เสียสละในการรักษาผู้ป่วยไม่ยึดติดเงินทอง ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ ชาตินี้มีแต่ผู้รักใคร่ มีปัญญาที่เฉียบแหลม และมีผู้ที่คอยปกปักรักษาคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง

    ด้วยสาเหตุที่พระภควัมบดีได้นั่งสมาธิทางในจึงเป็นที่มาของ "ปางเข้านิโรธสมาบัติ" หรือ "พระปิดตา" ที่เห็นในปัจจุบันโบราณจารย์จึงได้จำลองลักษณะแห่งพระภควัมบดีในรูปพระเครื่องศักดิ์สิทธิ์อันเป็นเอกลักษณ์ไว้ ๓ ประเภท เพื่อแสดงความหมายถึงพระภควัมปติอันเป็นผู้มีความละม้ายเหมือนพระผู้มีพระภาคเจ้านั่นเอง

    -พระสังกัจจายน์ อันเป็นที่รักใคร่นิยมยินดี เต็มไปด้วยลาภสักการะสรรเสริญ
    -พระปิดทวารทั้ง ๙ อันเป็นการปิดกั้นอาสวะกิเลสแห่งทวารเข้าออกทั้ง ๙ของร่างกาย
    -พระปิดตามหาอุตม์อันเป็นการป้องกันสรรพภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง

    จากที่กล่าวมาในข้างต้นพระปิดตาเข้าใจกันว่า มาจากคติการสร้างพระเครื่องของเขมรเผยแพร่เข้าสู่การสร้างพระเครื่องไทย เท่าที่ค้นพบมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

    ส่วนพระสังกัจจายน์นั้น มีพบเห็นได้ชัดเจนในหลาย ๆประเทศ กล่าวถึงความนิยมพระปิดตาในเมืองไทย ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าพระเกจิอาจารย์ผู้สร้างพระปิดตาที่ได้รับความนิยมได้แก่ หลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ซึ่งถือว่าหายากมาก ๆ ราคาหลักล้าน หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เป็นหนึ่งในเรื่องประสบการณ์ หลวงปู่จีน วัดท่าลาด พุทธคุณไม่เป็นสองรองใคร หลวงปู่ไข่ วัดชิงเลน พระปิดตาในตำนานที่หายากเช่นกัน

    หลวงปู่จันทน์ วัดโมลี หรือ พระปิดตาแร่บางไผ่ หลายท่านคงทราบดี หลวงพ่อทับ วัดทอง นื้อหามวลสารที่ไม่มีใครเหมือน มากด้วยประสบการณ์อันยาวนาน หลวงปู่นาควัดห้วยจระเข้ ถึงตอนนี้หาดูแทบไม่มีให้เห็นเช่นกัน

    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านสร้างพระปิดตาไว้หลายรุ่น ต่างมีประสบการณ์ทุกรุ่น คล้องพระปิดตารุ่นปลดหนี้ ต่างก็ใช้หนี้สินจนหมดหรือ จะเป็นรุ่นเงินล้านของท่าน ในระยะเวลาไม่นานก็ต้องมีเงินล้านในกระเป๋า

    ดังนั้น ใครที่เข้าใจผิดคิดว่า แขวนพระปิดตาแล้ว ปิดโชค ปิดลาภ นั่นเป็นความเชื่อที่ผิด ซึ่งความเชื่อผิด ๆ นี้มีมานาน สมัยก่อนเมื่อมีการคลอดบุตรที่บ้าน ถ้าบ้านใดมีพระปิดตาปิดทวารทั้งเก้า ก็จะนิมนต์ท่านอออจากบ้านไปไว้วัด เพราะเกรงว่า จะคลอดลูกไม่ออก คือ เป็นมหาอุด นั่นเอง

    อันที่จริง พระปิดตามหาอุด นั้น เขียนผิด ที่ถูกต้องเป็น พระปิดตามหาอุตม์ ที่แปลว่า พระปิดตาที่ยิ่งใหญ่มากไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ปกป้องภัยอันตรายต่าง ๆ อย่างดีเยี่ยม แต่ที่เขาเขียนเป็น พระปิดตามหาอุด เนื่องจากพระปิดตาบางสำนัก มีพุทธคุณโดดเด่นไปในเรื่องของการปกป้องคุ้มครองภัย แม้แต่กระสุนปืนยังไม่ลั่นออกมาจากปากกระบอก หรือ ยิงไม่ออกนั่นเอง

    <O:p</O:p
    ปัจจุบันจะหาพระเกจิอาจารย์ที่สร้างพระปิดตา จนได้รับความนิยมจากนักนิยมสะสมพระเครื่องนับองค์ได้ เพราะการปลุกเสกพระปิดตาให้ได้ผลดีนั้น องค์พระอาจารย์จะต้องมีฌานสมาธิที่สูง สามารถเข้าฌานสมาธิถึงขั้น นิโรธสมาบัติได้ พระเกจิอาจารย์หลังปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ที่สร้างและปลุกเสกพระปิดตา ที่ได้รับความนิยมจากวงการพระเครื่อง นอกจากหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีแล้ว ยังมีอีกหลายองค์ที่มรณภาพแล้ว เช่น หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี, หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง, หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย อยุธยา, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม, หลวงพ่อทองดำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์, หลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี, หลวงปู่ชื่น วัดตาอี บุรีรัมย์ ฯลฯ ซึ่งถ้าใครได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธีปลุกเสกพระเครื่องของพระเกจิดังกล่าว จะเห็นว่าพระเกจิเหล่านี้ท่านจะนั่งปรก หรือ เจริญสมาธิ ในอริยบถที่นิ่งสงบ ไม่ไหวติง ประดุจแท่งหิน นานหลายชั่วโมง เนื่องจากท่านเจริญฌานสมาธิขั้นสูงสุด คือ จตุตถฌาน หรือ เข้านิโรธสมาบัติ (ดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง)นั่นเอง

    ปัจจุบันพระเกจิอาจารย์ที่ท่านสร้าง ปลุกเสกพระปิดตาที่ได้รับความนิยม และ ยังไม่ละสังขาร เมื่อนำไปบูชาแล้วได้ผลดี เป็นที่นิยมของนักสะสมพระเครื่อง (นักเลงพระ) เท่าที่ผมทราบมีเพียง ๓ องค์ เท่านั้น คือ หลวงพ่อรวย วัดตะโก อ.ภาชี จ.อยุธยา ซึ่งท่านยังสร้างพระปิดตาในโอกาสสำคัญ ๆ หลายรุ่น ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ พระปิดตาเสาร์ห้า ที่สร้างครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๙ และสร้างเป็นครั้งที่สองในปีนี้ ปลุกเสกเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๓ องค์ที่สอง คือ หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว อ.บางไทร จ.อยุธยา ผู้สร้างพระปิดตาคำหมากอันลือเลื่อง
    <O:p</O:p
    องค์สุดท้ายที่สร้างพระปิดตา และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง คือ หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งพระปิดตาเนื้อผงของท่านนั้น มีส่วนผสมของ ผงอิทธิเจหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ทุกรุ่น ปัจจุบันแม้ท่านจะยังไม่ละสังขาร แต่เนื่องจากท่านอาพาธด้วยโรคปอดติดเชื้อจากไข้หวัด หมอต้องเจาะคอท่านเพื่อดูดเสมหะออก ทางคณะกรรมการวัดจึงขอให้ท่าน งดปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังทุกชนิด ทั้งที่วัดสร้างเอง หรือ วัดอื่นสร้าง และนิมนต์ให้ท่านปลุกเสก มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ สนใจที่จะบูชาพระปิดตาของท่าน ที่ยังพอมีตกค้างอยู่ที่วัด ก็ขอเชิญติดต่อทำบุญได้
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2010
  12. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    พระปิดตารุ่นแรก หลวงพ่ออุ้น ปี ๒๕๔๒ เนื้อผงอิทธิเจ (อิธะเจ) มีส่วนผสมผงอิทธิเจหลวงพ่อแก้ว วัดปากทะเล เพชรบุรี (ภายหลังย้ายมาอยู่ วัดเครือวัลย์ ชลบุรี) มีด้วยกัน ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์ลอยองค์ และ พิมพ์เล็บมือ ด้านหลังประทับยันต์นะปัดตลอด พุทธคุณ สุดยอดทางด้านเสน่ห์ เมตตา มหานิยม แคล้วคลาด ปกป้องอุบัติเหตุอันตรายทั้งปวง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    เข้ามาเยี่ยมชมครับพี่เล็ก
     
  14. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    น้องเพชร พี่อีเมล์ไปให้แล้ว ได้รับอีเมล์แล้วตอบด้วยนะ
     
  15. ดู๋ดี๋

    ดู๋ดี๋ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +1,188
    รบกวนพี่เล็กช่วยดูพระกริ่งให้หน่อยครับ อยากทราบเกี่ยวกับรุ่นนี้ครับ

    ขอบพระคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ไม่ใช่ของหลวงพ่ออุ้น วัดตาลกงแน่ ส่วนจะเป็นที่ไหนนั้น คงตอบยาก ดีไม่ดีเป็นของสนาม ทำขึ้นมาหลอกคนก็ได้ ต้องระวังครับ เช่าหาที่มีสำนักแน่นอนดีกว่า อยู่ในวงการพระมามากกว่า ๓๐ ปี ไม่เคยเจอครับแบบนี้ อาจจะมีสำนักที่สร้าง หรือ ไม่มีสำนักก็ได้ เป็นอันว่า ไม่อยู่ในความนิยมของวงการก็แล้วกัน เล่นยาก หากจะเล่นน่ะครับ สำหรับผมแล้ว อะไรที่มันยาก ๆ ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น ไม่เคยเล่น ต้องบอกผ่านไว้ก่อนครับ เดี๋ยวเจ็บตัว เจ็บกระดองใจเปล่า ๆ
     
  17. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    646
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +487
    รับทราบครับผม...
     
  18. อเมริกา

    อเมริกา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +18
    สมเด็จ7ชั้น เนื้อเหม็น มวลสารเหมือนสมเด็จเหม็น มั้ยครับพี่

    ผมมีอยู่ ๑ องค์
     
  19. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,093
    ลักษณะคล้ายพระกริ่งทวาราวดี ปี42 ครับ แต่ผมเคยเห็นแต่พิมพ์อุ้มบาตรครับ ไม่ทราบว่าพิมพ์นี้จะมีหรือไม่
     
  20. lekpluto

    lekpluto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,064
    ดูจากหนังสือรวมพระเครื่องของหลวงปู่ทั้งสองเล่ม ไม่มีพิมพ์นี้แน่นอน แม้ลักษณะจะคล้ายกับพระกริ่งทวารวดี ปี ๔๒ อุ้มบาตรก็ตาม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...