สมาธิจากการ เพ่งพระอาทิตย์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย โทสะ, 15 พฤศจิกายน 2009.

แท็ก: แก้ไข
หน้า 2 ของ 4
  1. เทพอาถรรพ์

    เทพอาถรรพ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +96
    การเพ่งพระอาทิตย์
    1. อาจตาบอด
    2. อาจตาเป็นต้อ
    3. บ้า (เพ่ง อะไรไม่เพ่ง)
    4. โง่ (เพ่ง อะไรไม่เพ่ง)

    น้องๆ หลานๆ อย่าไปทำเด้อ เล่าฮูขอเตือนเอาไว้ อย่าครับอย่า
     
    เทพอาถรรพ์, 21 มีนาคม 2010

    #21
  2. daruma

    daruma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +533
    ถ้าอยากเพ่งจิงๆผมว่าน่าจะเลือกช่วงเวลาในการเพ่ง เช่น ช่วงเช้าตอนพระอาทิตย์กำลังขึ้น แสงแดดอ่อน แต่ว่าไม่ควรจ้องครั้งละนานๆ ควรจ้องเพื่อให้จำภาพให้ติดตาก้อพอ ตอนเย็นแดดร่มลมตก แดดก้ออ่อน น่าจะได้
    สา...ธุ
     
    daruma, 25 มีนาคม 2010

    #22
  3. selfless

    selfless สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +5
    อนิจจัง ทั้งพระเครื่อง ทั้งสอนเพ่งตะวันชวนคนตาบอด นี่มันก้อนเสื่อมชัดๆ ทำอย่างนี้แล้วกิเลสมันจะลดตรงไหน มีแต่จะเพิ่มไม่ว่า ปฏิบัติธรรมท่านให้ทำเพื่อละ แต่นี่หาเพิ่ม สัตว์โลกหนอสัตว์โลก
     
    selfless, 25 มีนาคม 2010

    #23
  4. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    จิตหยาบ มันจะเข้าใจอะไร

    เห้อ..... พิจารณาแบบสุ่มเดา มิได้ดูเลยว่า ส่งที่แนะนำนั้น เขาทำไปทำไม

    จิตหยาบขนาดคุณ อย่ามาโพสเถอะ เพราะสิ่งที่อธิบายมันละเอียด ลึกซึ้ง กว่าระดับจิตของคุณจะสัมผัสได้

    หากจะด้นเดาไปตามกะแสกิเลส คิดหรือว่าจะสัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้ เช่น คลื่นระดับในภพภูมิที่เรียกว่าผี หรือสัมภเวสี ยังถือว่ายังหยาบสำหรับนักปฏิบัติที่จะรู้จะเห็นได้ หากคิดว่าตนเป็นผู้ปฏิบัติแต่ไม่รู้ ไม่เห็น และมาบอกปาวๆว่าไม่มี นี่มันสุดหยาบกว่าเพราะกิเลสมันบังตา แล้วมันจะเห็นอะไร นอกจากกิเลสตัวเอง

    น่าสังเวชใจ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 มีนาคม 2010
    โทสะ, 26 มีนาคม 2010

    #24
  5. daruma

    daruma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +533
    บัวมีหลายเหล่า บัวพ้นน้ำ บัวปริ่มน้ำ บัวใต้น้ำ บัวในโคลนตมที่ไม่มีวันโผล่พ้นน้ำ รังแต่จะเป็นอาหารของเหล่าสัตว์น้ำและฝูงเต่า ใครอยากเป็นแบบไหนก้อเลือกเอาสุดแต่ใจเถิด
    สา.....ธุ
     
    daruma, 26 มีนาคม 2010

    #25
  6. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    โดยส่วนตัว เคยเพ่งดวงอาทิตย์ทั้งตอนเช้า และเย็น ถึงไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ เพราะโดน
    คนทีสอนมวยให้เราบังคับมา จึงต้องเพ่งมันทุกเช้า-เย็น ตอนแรกก็ไม่ได้เห็นประโยชน์
    ของมันเท่าไรแต่ตอนนี้เห็นแล้ว...คนโบราณท่านก็ฉลาดนะที่หาอุบายในการฝึกใจให้นิ่งโดย
    วิธีนี้...ของทุกอย่างเป็นดาบสองคม ใช้ไม่เป็นก็บาดมือ ตอนนี้ก็ฝึกปราณควบคู่กันไปด้วย
    ประโยชน์มันก็มีถ้าใช้เป็น ตอนไปเที่ยวดอยช่วงหน้าหนาว ไม่คอยเปลืองเสื้อหรือผ้าห่มอะไรเลย แค่นึกถึงภาพดวงอาทิตย์อยู่ในท้องเราก็ค่อยๆร้อนจนเหงื่อออก ทั้งๆก็รู้ว่า
    อากาศมันหนาว เวลาง่วงจัดๆ ไม่มีเวลานอน ก็ทำให้หายง่วงได้โดยเร็ว ไม่ได้บอกว่าดี
    แต่มันได้ผลกับตัวเราเท่านั้น ..... ฝึกอะไรก็ตามถ้าขาดสติ ก็ล้มเหลวหมดนั้นแหละ
    เหมือนกับกิ่งไม้อยู่ในมือจอมยุทธ กับ ยอดกระบี่อยู่ในมือคนผ่าฝืน.....ประสิทธิภาพสูงสุด
    จะบังเกิดกับใครละระหว่าง จอมยุทธ กับ คนผ่าฝืน...
     
    vergo shaka, 24 มิถุนายน 2010

    #26
  7. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    " เหมือนกับกิ่งไม้อยู่ในมือจอมยุทธ กับ ยอดกระบี่อยู่ในมือคนผ่าฝืน.....ประสิทธิภาพสูงสุดจะบังเกิดกับใครละระหว่าง จอมยุทธ กับ คนผ่าฝืน...<!-- google_ad_section_end -->"

    พูดได้ดี ! นี่ก็แสดงว่าท่านคงเริ่มเห็นผลจากการฝึกสมาธิแบบนี้บ้างแล้วซินะ
    ขออนุโมทนาครับ
     
    โทสะ, 24 มิถุนายน 2010

    #27
  8. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
    ผมได้ฟังท่านแล้ว ท่านอาจจะสำเร็จวิชาพลังสุริยะ

    ข้าพเจ้านับถือเป็นหยิ่งนัก

    ข้าพเจ้าเอง ก็หาน้อยไปกว่าท่าน ข้าพเจ้านี้ ได้สำเร็จวิชา

    พลังจันทราเทพ หรือพลังจันทรา

    วิชาวิทยายุทธ์สองเรา คงไม่มีใครด้อยกว่าใครเป็นแน่ ถ้าวันใดได้เจอกัน คงได้ประลองวิทยายุทธิ์กันนะท่านจอมยุทธ์
    ข้าขอตัวลา...............จากMr.Warning
     
    ผู้เตือน warn, 24 มิถุนายน 2010

    #28
  9. lightmagician

    lightmagician Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +38
    จะเพ่งกสินไฟก้ต้องรู้ว่าต้องพิจารนาอย่างไร
    พิจารนาความร้อนมากร้อนน้อยของไฟ

    ท่าไปยืนจ้องพระอาทิตย์ แต่ไม่รู้จักความร้อนของมันเห็นแต่สีแดงๆก้เป็นกสินสีไป ไปพิจารนาแสงที่ส่องมาสว่างๆๆ ก้เป็นพิจารนากสินแสงไป

    ทีนี้ต้องการไปจ้องพระอาทิต เพราะมันเป็นแหล่งกำเหนิดแสง จริงๆแล้วมีแหล่งกำเหนิดแสงมากมาย เปลวเทียน แสงจันรท์ ท่าเอากันที่แสงไม่ได้หมายกำหนดกันที่ความร้อนนะ

    ตกลงที่เพ่งพระอาทิตนี้จะเพ่งสีสัน จะเพ่งความร้อน หรือจะเพ่งแสง

    จะฝึกกสินต้องรู้เป้าหมายด้วย ไม่ก้พอใจอันไหนก้จับอารมนั้นอย่าไห้คลาดเคลื่อน แต่ท่าจับมั่วๆสุ่มๆๆไป เหนพระอาทิตโตดีสว่างดีก้จับไปไห้แสบตาเล่นหรือไปเล่นมองทน สมาทิไม่เกิดก้ตามใจ

    อยากฝึกให้ได้ผลดีลองไปฟังหลวงพ่อท่านเทศในวิทีการฝึกกสินและกิจก่อนการฝึกกสินจะดีมาก จะได้ไม่ฝึกแบบหลงๆ ฝึกตามพระดีกว่านะ
     
    lightmagician, 24 มิถุนายน 2010

    #29
  10. สุภิญโญ

    สุภิญโญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +325
    แนะนำจากคนเคยฝึก

    อย่าเพ่งเลยครับ อาจเสียใจทีหลังได้

    ผมเคยพูดถึงเรื่องเพ่งกสิณไฟจากดวงอาทิตย์ไว้แล้ว

    จำไว้ว่า พระอาทิตย์ร้อนแรงกว่าไฟใดๆโลกใบนี้ อานุภาพรุนแรงมาก

    ตาบอดได้นะครับ ถ้าเป็นของคู่กันแล้ว ไม่แคล้วกันครับ

    บารมีใครทางไหนถึงเวลากรรมจะพาไปเอง ขอให้อย่าผลีผลาม

    ฝึกที่ง่ายๆ ไม่เสี่ยงก่อน แต่อย่างว่า กรรมใครกรรมมัน กรรมจะชักจูงไปเอง
     
    สุภิญโญ, 25 มิถุนายน 2010

    #30
  11. ทำเป็นงง

    ทำเป็นงง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +557
    ครับ ด้วยความเคารพ ครับ ตำราการฝึกกสิน นี้ เป็นของศาสนาใด ครับ
    เพราะในเนท และตำราอื่น ๆ ไม่มีกล่าวไว้เลย น่ะ ที่ถามเพราะ หาที่มาของตำราไม่เจอ หรือเป็นการ คิดค้น ขึ้นมาเอง ครับ ขอความกรุณา ให้ความกระจ่าง พลีสสสสสสสสสสส
     
    ทำเป็นงง, 25 มิถุนายน 2010

    #31
  12. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    พุทธในวิสุทธิมรรค หัวข้อกรรมฐาน40กอง ในหมวด กสิน 10
    ว่าด้วย การ เพ่งรูปฌาน โดยใช้อุบาย เพ่งสี และธาตุ เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ
    สมาธิแบบเพ่งกสินที่จริง พระพุทธเจ้า ได้จากการเรียนสมาบัติ จากท่าน ฤาษี
    2ท่าน แล้วเห็นว่าไม่ใช่ทางหลุดพ้นจึงแสวงหาทางหลุดพ้นด้วยตนเอง...
    ต้นกำเนิดจริงๆของการเพ่งกสินมีมานานก่อนพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นอีก ถ้าอยากรู้
    เพิ่มเติม หาได้จากพระไตรปิฏก ส่วนตัวเราเองเป็นคริสต์ เวลาทำสมาธิจะเพ่ง
    กสินซะส่วนใหญ่ เช่น ไม้กางเขน ดวงจันทร์ แสงสว่าง
    แต่ที่ทำอยู่จนปัจจุบันคือ ปราณ(อานาปานสติ) ทุกศาสนาก็ทำได้ เข้าถึงกันทุกคน ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ แค่ ตามลมหายใจ และ ส่งลมที่กระบังลมเท่านั้น
    กรรมฐานแต่ละกองขึ้นอยู่กับอุปนิสัยของตนเอง ถ้าทำกองใดแล้วไม่ได้ผลก็
    เปลี่ยนให้เหมาะกับตน ก็เท่านั้น..
    อนึ่ง กสินไฟ เป็น กสินที่ทรงพลังที่สุด ฝึกยาก ข้อควรระวังมาก ถ้าพลิกแพลง
    ไม่เป็น หรือ ไม่ฉลาดในการฝึกก็ควรหากองอื่นที่เหมาะกับตน
     
    vergo shaka, 25 มิถุนายน 2010

    #32
  13. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    การให้ทาน รักษาศีล เจริญสติ เจริญสมาธิ เจริญปัญญา สิ่งเหล่านี้เกื้อหนุนกัน

    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->การ ปฏิบัติ จำเป็นยิ่งที่จะต้องเริ่มจากสิ่งหยาบไปหาละเอียด มันไม่มีทางลัดที่ไหนหรอก ที่จะสอนการบรรลุ ๓ วัน ๗ วัน หรือคนบ้าก็เห็นนิพพานได้การจะก้าวข้ามสู่การเป็นนักปฏิบัติธรรมนั้น ผู้นั้นต้องตรวจสอบสภาพจิตตนเอง ก่อนว่าพร้อมแล้วหรือยัง ซึ่งหลักเกณฑ์ที่พอจะนำมาตรวจสอบได้ นั่นก็คือ
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->
     
    โทสะ, 25 มิถุนายน 2010

    #33
  14. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->๑. ทานซึ่งโดยหลักสำคัญของการให้ทานนี้ก็เพื่อ การสลัดออกซึ่งอารมณ์แห่งการยึดติด จากหยาบ เข้าหาละเอียด
    สิ่งหยาบ คือ สิ่งนอกกายต่างๆที่จิตไปยึด ไปถือว่าเป็นของๆตนนั้น เช่น บ้าน เรือน ทรัพย์ สิน เงิน ทอง ฯลฯ ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่ใช่ของๆตนแม้แต่น้อย
    สิ่งที่ละเอียดเข้ามาอีก คือ ร่างกาย ที่เป็น ธาตุ ขันธ์ นี้ ก็ไปยึด ไปถือว่าเป็นของๆตน ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่
    ละเอียดลึกลงไปอีก เช่น อารมณ์แห่งโลภ โกรธ หลง ตัณหา อุปาทาน ที่จิตไปยึดถือ
    ลึกสุดๆ ก็คือ อวิชา ซึ่งเป็นตัวสุดท้ายที่ละเอียดยิ่งที่เหล่านักปฏิบัติมุ่งหวังที่จะถอดถอนความยึดติด
    การ ที่เราสามารถสละออกซึ่งอารมณ์แห่งการยึดติดของภายนอก แล้วเผื่อแผ่สิ่งต่างๆ เหล่านั้นเพื่อยังประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นที่เป็นเพื่อร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้น เสมือนเป็นบันไดขั้นต้นที่พร้อมจะก้าวไปต่อ แต่หากยังวนเวียนหลงยึดนั่น ยึดนี่มาเป็นของๆตน ก็อย่าหวังจะก้าวข้ามมาได้ หากลุ่มหลงมากตายไปก็เป็นได้แค่เพียงเหล่าเปรต สัตว์เดรัจฉาน
     
    โทสะ, 25 มิถุนายน 2010

    #34
  15. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ๒. ศีล คือความปกติ ผู้ใดที่ผิดศีลอยู่เสมอ แสดงว่าจิตผู้นั้นก็ผิดปกติ แค่ศีล ๕ เป็นศีลเพื่อการเป็นมนุษย์โดยปรมัตถ์ก็มิอาจรักษาได้ แสดงว่าการเป็นมนุษย์ก็เป็นแบบครึ่งๆกลาง
    ๑)ด้วยการที่ไปฆ่า ไปทำลาย คิดร้าย มุ่งร้ายใส่ผู้อื่น จากหยาบไปละเอียดอันนี้ จิตนี้เยี่ยงของสัตว์นรก
    ๒) ด้วยการมุ่งเอาทรัพย์ของผู้อื่น จะด้วยแบบใดก็แล้วแต่ สะสมอารมณ์แห่งความละโมบ อยากได้ จากหยาบไปละเอียดจิตนี้เยี่ยงเปรต
    ๓) ด้วยหมกมุ่นในกาม ราคะแรงกล้า ครอบงำจิต มุ่งเสพสมไม่เลิก อารมณ์ติดใจในกาม จากหยาบไปละเอียด จิตนี้เยี่ยงเดรัจฉาน เช่นเสมือนเหล่าสุนัขที่เห่าหอนในคืนเดือนเก้า วิ่งตามกันเป็นทิวแถว
    ๔) ด้วยโกหก หลอกรวง เพื่อประโยชน์แห่งตน ทั้งระดับที่หยาบ เช่น เพื่อให้ได้ทรัพย์สิน เงินทองผู้อื่น หรือลึกเข้ามาอีก โกหกเพื่อให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าตนดี วิเศษ จะด้วยบางครั้งคราว หรือ เป็นประจำจนติดเป็นนิสัย ก็ขอให้ทราบว่า ยิ่งสั่งสมสันดานชอบโกหกมากเพียงใด ปากอบายรออยู่ ทั้ง ๓ ภูมิ ด้วยโกหก เพื่อมุ่งร้ายต่อผู้อื่น จิตนี้เยี่ยงสัตว์นรก ด้วยโกหกเพื่อเอาทรัพย์ผู้อื่น จิตนี้เยี่ยงเปรต ด้วยโกหกเพื่อได้สนองราคะ ตัณหาตน จิตนี้เยี่ยงเดรัจฉาน
    ๕) ด้วยการมุ่งเสพของมึนเมา เป็นการสร้างความผิดปกติให้แก่ ธาตุ ขันธ์ สามารถทำสิ่ง ที่เหล่า สัตว์นรกก็ทำได้ สามารถทำในสิ่งที่เหล่าเปรตก็ทำได้ สามารถทำในสิ่งที่เหล่าเดรัจฉานก็ทำได้ สติขาดปากอบายก็เปิดรอรับ
    ศีล ๕ พร้อม หรือยัง สำรวจจิตตนว่าเป็นปกติแล้วหรือยัง หากยังขาดตก บกพร่อง ก็ควรที่จะตั้งหน้า ตั้งตา ยกระดับจิตตนให้เป็นปกติ อย่าถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะผิดศีล เห็นเป็นแบบนิยมโลก ด้วยเห็นว่าคนอื่นเขาก็ทำ ไม่เห็นเป็นไร
    ข้อวัตร นอกจากจิตที่เป็นปกติ แล้ว ต้องหมั่นสร้างให้ตนมีข้อวัตร ที่เกื้อหนุน ดังนี้
    ๑.มีจิตที่เมตตา สงสาร อยากให้เขาพ้นทุกข์ ชอบช่วยเหลือ ต้องการให้คนอื่นมีความสุข
    ๒.มีจิตที่อยากแต่จะให้ เพื่อผู้ที่ลำบากกว่าตนได้พ้นทุกข์
    ๓.มีจิตมีสันโดษ เป็นหนึ่ง ไม่ยึดติด วุ่นวายในกามราคะ
    ๔.มีจิตที่มุ่งแสดงแต่ความจริง ถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้อง มุ่งเพื่อยังประโยชน์ให้ผู้อื่นเกิดสัมมาทิฐิ
    ๕. สร้างความปกติแก่ธาตุ ขันธ์ เพื่อการมีสติที่ตั่งมัน<o:p></o:p>
     
    โทสะ, 25 มิถุนายน 2010

    #35
  16. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> เมื่อสำรวจ ตรวจตราตนว่า ๒ อย่างพร้อมแล้ว ก็พร้อมกับการก้าวสู่การเป็นนักปฏิบัติธรรม เพื่อแสวงหาทางหลุดพ้น
    การเจริญสติ การเจริญสมาธิ การเจริญปัญญา ๓ สิ่งนี้เกื้อหนุนกัน ไม่มีทางลัดที่ไหนที่จะไปบรรลุธรรมชนิดสำเร็จรูปได้ดอก การบำเพ็ญเพียรนี้ มันมีลำดับขั้น มันเกี่ยวเนื่องกัน การเจริญ เป็นการทำให้มาก และก็มากขึ้นๆ จนจิตเองยอมรับสภาพตามความเป็นจริง คลายความยึดติดออกไปๆ จนหมดสิ้น คิดหรือว่า กิเลสมันจะขาดออกไปในวัน สองวัน คิดดูเอาเอง แม้แต่บรมศาสดาท่านบำเพ็ญอยู่นานเพียงใด อริยะสาวกท่านปฏิบัติแบบเอาเป็นเอาตายนานขนาดไหนถึงรู้แจ้งเห็นจริง แล้วปุถุชนคนที่ยังหน้า ยังเสพกาม ยังวุ่นวายกับโลก มันจะไปมีทางลัดที่ไหน กิเลสยังเต็มหัวใจ
    ศาสนา บางศาสนาสอนเพื่อการไปเป็นเทพชั้นพรหม ศาสนาบางศาสนาสอนให้ไปเป็นเทพ เทวา ลัทธิเช่นกัน ส่วนใหญ่ก็ไปติดที่สุข ชั้นเทพ เทวา แต่ยังมีลัทธิอีกแบบที่สอนกันไปลงนรก อันนี้ก็แปลก แล้วพวกไม่มีศาสนาส่วนใหญ่มีแต่พากันลงอบายภูมิ ก็มีเพียงพุทธศาสนานี้ ที่มุ่งสอนให้ก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นออกมา มันสอยยอดมั้ยละ คิดดูเอาเอง<o:p></o:p>
     
    โทสะ, 25 มิถุนายน 2010

    #36
  17. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->เอากันแบบไปปฏิบัติเลยไม่ต้องพูดให้ยาวอย่างนักปริยัติ
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->
     
    โทสะ, 25 มิถุนายน 2010

    #37
  18. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->๑. เจริญสติ
    เจริญสติคือ การระลึกรู้ พระพุทธองค์ท่านสอนจากหยาบเข้าหาละเอียด เอาข้อที่ว่าด้วยกายที่พอจะเห็นเป็นรูปธรรมนี้ได้ แล้วไปต่อที่เวทนา ที่เป็นนามธรรม ลึกลงไปอีก ในจิต และในสภาวธรรม เมื่อเรามีสติ ระลึกรู้จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปแบบไม่ลดละ จิตจะรวมกันเข้า เกิดความตั้งมั่นขึ้นมา ในอารมณ์นั้นๆ เราเรียกจิตที่รวมกันและตั่งมั่นนั้นว่า สมาธิ เช่น มีสติจดจ่อกับลมหายใจ ไปตลอดแบบไม่ลดละ จิตจะรวมและตั่งมั่นเป็นสมาธิ โดยมีลมหายใจเป็นเครื่องผูกเอาไว้ ที่เรียกว่า อาณาปานสติกรรมฐาน เมื่อจิตเป็นสมาธิ มันก็มีลำดับขั้นๆ จากอารมณ์แบบหยาบ เริ่มที่ ขณิกสมาธิ ไปจนละเอียดที่มีความตั้งมั่นอย่างใหญ่ ซึ่งเรียกว่าขั้น ฌาน
    อันนี้ จึงเรียกว่า สติ หนุน สมาธิ
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->
     
    โทสะ, 25 มิถุนายน 2010

    #38
  19. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ๒. เจริญสมาธิ
    จะ ให้สติไปจดจ่อกับอะไร หรือชอบแบบใด เลือกเอาตามจริตนิสัยตน เพราะมีแบบฝึกตั้ง ๔๐ แบบ แต่มีเพียง กสิณ ๑๐ อาณาปานสติ ๑ และ อุเบกขาในพรหมวิหารธรรม ๑ เท่านั้นที่ไปถึง ฌาน ๔ เมื่อจิตรวมเป็นหนึ่ง จิตจะมีกำลังมาก คิด อ่านประการใด ดูมันจะทะลุ ทะลวง เข้าใจ อย่างแจ่มแจ้ง นักเรียน นักศึกษาหลายคน มุ่งทำสมาธิ เพื่อให้การเรียนดี อันนี้เป็นจริงถ้าผู้ใดจิตรวมเป็นหนึ่งเป็นสมาธิ เวลาพิจารณาอะไรมันจะเข้าใจ ด้วยการที่มันไม่แส่ส่ายไปในอารมณ์อื่น พวก มิจฉาทิฐิ ส่วนใหญ่ก็ไปต่อจากตรงนี้ หรือพวกจิตไม่มีความตั้งมั่นก็ไปโกหกว่ามี หรอกให้คนอื่นเชื่อเพื่อยังประโยชน์แก่ตน คนจะได้นับถือเยอะ คนจะได้จ่ายเยอะๆ เป็นธุรกิจนักบุญ ธุรกิจใหม่ ง่ายๆ แต่รวยไวลงนรกไว โกหกทีคนจะได้จ่ายเป็นแสนๆ คิดว่าตนเป็นผู้วิเศษไป เหนือมนุษย์ธรรมดา หรือพวกที่จิตสงบเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นจากความตั่งมั่นของจิต ไปฝึกต่อก็เกิดฤทธ์เดช แสดงนั่น แสดงนี้ได้ เกิดปาฎิหารย์ ไปตัดกง ตัดกรรม เออแปลก กรรมเวรตัดเอาแบบง่ายๆ แบบเป็นแพ๊กเก๊ต จ่ายเยอะตัดได้มาก หรือพวกไปซื้อบุญกับบางลัทธิ จ่ายเยอะได้บุญมาก มันบ้ากันไปใหญ่แล้ว.... แล้ว พวกที่คิดว่าตนวิเศษ แล้วมันจะวิเศษมาจากไหน กิเลสครอบกบาลมันอยู่ สิ่งเหล่านี้เป็นของสาธารณะ ผู้ใดที่จิตตั้งมั่นมาก สิ่งต่างๆเหล่านี้มันเกิดได้กันทั้งนั้น ก็มีแต่จ่อคิวลงอบายภูมิไม่ใช่เรื่องเล่นนะ ระวัง!
    สำหรับ นักปฏิบัติธรรม ที่จิตสามารถรวมกันเป็นหนึ่ง หากไม่นำออกเดินทางด้านปัญญา ก็ตั้งมั่นอยู่อย่างนั้น จิตมันก็ยังยึดอยู่ ยังไม่ยอมปล่อยวางอะไรเลย เพราะจิตมันยังไม่เข้าใจ และยังไม่ยอมรับ แล้วจะมาให้ปล่อยวางได้รึ หลายคนหลงคิดไปว่า เมื่อมีสมาธิมันจะเกิดปัญญา เอออันนี้ก็แปลกถ้าไม่เรียนมันจะรู้เหรอ ถ้าไม่ทำงานมันจะเสร็จหรืองาน อุปมาดั่งเมื่อได้กินอิ่ม นอนหลับมีกำลังวังชา แต่งานไม่ทำ โดยคิดไปว่า กินอิ่ม นอนหลับมีกำลังวังชา แล้วไปนั่งดูว่างานมันจะเสร็จ เพราะตนได้กินอิ่มแล้ว นอนหลับแล้ว
    เมื่อจิตสามารถตั่งมั่นขึ้นเมื่อใดก็ได้ ตามใจปรารถนา นั่นแสดงว่าจิตกำลังวังชาพร้อมที่ ออกเดินทางด้านปัญญา คือการพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริงแห่งกาย แห่งจิตนี้
    อันนี้ จึงเรียกว่า สมาธิ หนุนปัญญา<o:p></o:p>
     
    โทสะ, 25 มิถุนายน 2010

    #39
  20. โทสะ

    โทสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +466
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->๓. เจริญปัญญา
    สติ ตั้ง ปัญญา แทง คำนี้ เป็นคำสั้นๆ จะได้จำได้ง่าย
    หลักการมีอยู่ว่า
    ๑. ให้ฝึกระลึกรู้ขึ้นให้เป็นปกติให้ได้ ทั้งที่เป็นแบบหยาบ เช่น ร่างกายที่เป็น ธาตุ ขันธ์นี้ ( กาย ) และทั่งที่เป็นสิ่งละเอียดลงไป เช่น สุข ทุกข์ เฉยๆ (เวทนา ) และลึกลงไปอีก คืออารมณ์แห่งโลภ โกรธ หลง จากหยาบสุด ไปละเอียด (จิต) สุดท้ายสภาวธรรมทั้งหลาย แต่อันดับแรกเอาสิ่งที่หยาบก่อน
    คือให้เริ่มที่กาย แล้วค่อยไล่ลงไปสู่ละเอียดเรื่อยๆคือสภาวธรรมทั้งหลาย อันนี้ขอเรียกว่าเป็น สติตั้ง
    ๒. เมื่อระลึกรู้ขึ้นได้แล้ว ให้พิจารณาลงไปในปัจจุบันนั้นให้เห็นตามความเป็นจริงว่า มันเกิดขึ้น มันตั้งอยู่ แล้วมันก็ดับไป ไม่เห็นมีอะไร จะเอามายึดติด สำคัญมั่นหมายได้ ว่าเป็นนั่น ว่าเป็นนี่ ว่าเป็นเรา จากหยาบเข้าหาละเอียด ดังนี้
    ๒.๑ กาย เมื่อสามารถระลึกรู้ ถึงกายว่า ยืน เดิน นั่ง นอน ก็มีสติระลึกรู้ไปเรื่อยๆได้ ต้องฝึกที่จะทำงานอย่าหนักก่อน ก่อนที่จะมาหางานอย่างเบา ดังนี้
    ๑) งานอย่างหนัก คือ ให้เข้าสมาธิให้ตั้งมั่นแล้ว พิจาณากายโดย ใช้การปลงอสุภะ ๑๐ ให้เห็นจนกายนี้เป็นเพียงสภาวะธาตุ มีเพียง ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม่เห็นมีอะไร โดยใช้กายตนนี้แหละเป็นที่ทำงาน พิจารณามันลงไปๆๆๆๆๆๆๆๆ เอามันมีเวลาเมื่อไหร่ ยกมันขึ้นมาแล้วพิจาณา สิ่งที่ท่านจะเกิดความประหลาดใจคือ ถ้าท่านใดสมาธิตั้งมั่นดีแล้ว จะเกิดนิมิตสมาธิ หรือนิมิตฝันว่าตนกลายเป็นศพ จะแบบใดก็แล้วแต่ ก็แสดงว่า จิตเริ่มคลายความยึดกายตนออกบ้างแล้ว ถ้าเกิดแบบนี้ เอามันให้หนักเข้าไปอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วจิตจะบอกเองว่ามันถอนแล้ว แต่ที่เล่ามาอย่าไปคาดไปหมายเอง เพราะจิตจะบอกเองแต่อย่าไปคิดว่ามันต้องเป็น (ให้ทำงาน ไม่ให้คาดหมาย )
    ๒) งานแบบเบาๆ คือ ในชีวิตประจำวัน (ในเวลาที่ไม่ได้
    เข้า สมาธิเพื่อพิจารณา ) ให้มีสติระลึกรู้กายให้ตลอดสาย แล้วแต่อารมณ์ใจว่าในอากัปกริยา ที่ยืน เดิน นั่ง นอนนั้น ชอบแบบไหน ที่จะยกพิจารณา เช่นหากนั่งลง เห็นกายมันนั่ง แล้วกายนี้มัน เป็นอะไรหว่า มันมีเพียงดิน น้ำ ลม ไฟ ที่มาประชุมรวมกันมิใช่รึ พิจารณา พลิกแพลง ตามแต่จริตตน แล้วแต่ชอบ แล้วแต่ปัญญาตน สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ บางครั้งจิตจดจ่อ แล้วพิจารณา กายนี้มันอาจจะพัง เปือยยุ่ย เห็นแต่โครงกระดูกห้อยต่องแต่งก็มี แต่อย่าไปคิดว่ามันต้องเป็น (ให้ทำงาน ไม่ให้คาดหมาย )
    ๒.๒ เวทนา คือ ความรู้สึก สุข ทุกข์ หรือเฉยๆ หากผ่านขั้นที่จิตเริ่มถอดถอนความยึดติดในกาย เชื่อเถอะว่า นามขันธ์ คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มันจะสืบเนื่องกัน มีความเข้าใจ ย้อนกลับไป กลับมา ว่า ด้วยอายตะรับสัมผัสเข้ามา วิญญาณเกิด พอมันเกิดแล้วมันก็อยู่ครู่หนึ่งแล้วมันก็หายไป แต่หากไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อเกิดวิญญาณขึ้น เช่น เกิดวิญญาณทางตาขึ้น มันก็เกิดการคิดนึกปรุงแต่งไป สังขารเกิด คิดนึกแล้วก็จำได้ว่านั่นคือนั้น นี่คือนี้ สัญญาเกิด เมื่อจำได้ก็เตลิดไปว่าชอบ ไม่ชอบ หรือเฉยๆ หากชอบก็สุข ไม่ชอบก็ทุกข์ หรือเป็นกลางๆก็เฉยๆ เวทนาเกิด แล้วก็ไป ว่ายวนในกองทุกข์นั้น เอามาเผาลนจิตใจ
    แต่หากมีสติระลึกรู้ แล้วพิจารณาไป ด้วยจิตที่ตั่งมั่น มันก็จะเข้าใจและยอมรับ ว่า เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เกิดขึ้น แล้วมันก็ตั้งอยู่ แล้วมันก็ดับไป อย่างเช่น รูป ที่เป็น กาย ซึ่งรวมมาจากธาตุทั้ง ๔ เกิดได้ มันก็ดับได้ ไม่มีอะไรมาสัมผัส สัมพันธ์อะไร แต่พิจารณาครั้งเดียว เชื่อหรือว่าจะเข้าใจและยอมรับ ไม่แน่นอน ดังนั้นมันต้องพิจารณาซ้ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ซากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดั่งเช่น พิจารณากาย เช่นกัน จิตจะบอกเอง อย่าไปคิดว่ามันต้องเป็น (ให้ทำงาน ไม่ได้ให้คาดหมาย )
    <!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
    <!--[endif]-->
     
    โทสะ, 25 มิถุนายน 2010

    #40
หน้า 2 ของ 4

แชร์หน้านี้

Loading...