พระเดชพระคุณ หลวงปู่ดี ธมฺมธีโร วัดส้มเกลี้ยง จ.จตาก(เสกเหรียญท้าวเวสสุวรรณ)

พี่เ็ด็กด่านฯคะ... เวลาพี่เรียกหนูขอให้ตัดคำว่า "ท่าน" ออกได้มั้ยคะ ขอให้เรียกว่าหนูเฉยๆ ฟังแล้วจั๊กกะจี้ยังงัยไม่รู้ค่ะ หนูอ่อนกว่าพี่ตั้งหลายปี ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นน้องสาวพี่ชายคนนี้นะคะ ถ้าไม่รังเกียจ (พี่คงมีน้องเยอะแล้วก่อนหน้านี้) แล้วแต่พี่เ็ด็กด่านฯจะรับไว้พิจารณาค่ะ ^^

 

สาธุ... สาธุ... สาธุ...

 

ถูกต้องแล้วคร๊าบบบบบบบบบบ

 

ก็ทุกอย่างอยากจะให้สำเร็จที่กุฏิครับ เพราะจะได้ช่วยๆ กันทำ แบ่งบุญและสร้างความสามัคคีกันครับ

 

ก็อยากจะแกะเป็นรูปลอยองค์หลวงปู่อยู่เหมือนกัน ติดที่ต้นทุน กะว่าให้พี่มีเงินมากกว่านี้สักหน่อยก็คงจะทำ พี่เลยเก็บเสาหัวเตียงเอาไว้ก่อน มีเงินค่อยจ้างช่าง ให้แกะรูปหลวงปู่ครับ

 

ผมให้เกียรติพวกเราทุกคน จึงเรียกว่า "ท่าน" แต่ต่อไปถ้า Noo Norway ไม่สดวกให้ผมเรียก ต่อไปนี้ผมขออนุญาตเรียกว่า "น้องหนู" ได้มั๊ยครับ และยินดีและดีใจที่มีน้องสาวเพิ่มอีกหนึ่งคน

 

ช่วงที่จะทำ... ถ้าหนูไปเมืองไทยพอดีขอมีเอี่ยวไปช่วยงานด้วยคนนะคะ... เรื่องแบบนี้ถนัดเลยค่ะ... ทำเพื่อหลวงปู่ค่ะ

 

ด้วยความยินดีค่ะ... พี่ชาย

 

สืบจากช่างที่แกะเสือให้ผมแล้วครับพี่ ราคาเอาเรื่องเหมือนกัน ใหนจะตีเงินหุ้มใต้ฐานอีก หุหุหุ :'(

 

ดูดวงและช่วย

วันหนึ่งเมื่อสองสามเดือนที่แล้ว ผมเข้าไปกราบหลวงปู่ตามปกติ รับใช้ท่านเหมือนที่ผ่านๆมา แต่วันนี้ผมมีเรื่องราวที่ไม่สบายใจนิดหน่อย นั้นก็คือเรื่องบ้านที่เล็งๆไว้ว่าจะซื้อ แต่โครงการเค้าบอกว่าแบบที่ผมจะซื้อน่ะมีคนจองหมดแล้ว เหลือแต่แบบอื่น แต่คุณภรรยาไม่ชอบครับ ก็เลยฝากเบอร์โทรฯไว้ว่าถ้าเปิดเฟรทใหม่ให้โทรมาบอกด้วย แต่ก็ไม่ได้คลาดหวังอะไรเท่าไรนัก จนมากราบหลวงปู่ หลังจากเก็บปัดกวาดเรียบร้อยแล้วก็กราบเรียนถามท่านเรื่องบ้าน ว่าในปีนี้จะมีเกณฑ์ได้บ้านใหม ท่านก็ถามอายุ วันเดือนปีเกิด แล้วท่านก็นับนิ้วมือและฝามือของท่าน แล้วก็หันมาบอกว่า "ได้ แต่ต้องพยายามหน่อยนะ นี่ปีนี้ตกมนตรี มีเกณฑ์ที่จะได้ แต่ต้องพยายามถึงจะได้" ผมก็เลยกราบท่าน แล้วท่านก็ชวนคุยว่าจะซื้อที่ใหน กี่บาทกี่ตางค์ ไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั้งกราบลาท่านครับ หลังจากนั้นไม่นานผมก็โทรฯเช็คกับโครงการ พอบอกชื่อไปเค้าก็บอกว่า อ๋อ...คุณ..(ปื๊ด)...ใช่ใหมค่ะ โทรติดต่อพี่ไม่ได้เลย(ผมเป็นคนติดต่อยากครับแหะๆๆ) พอดีแบบบ้านที่ต้องการมีอยู่๑หลัง คนที่จองไว้เค้ากู้ไม่ผ่าน บ้านหันไปทางทิศใต้ด้วย ลมดีแดดไม่ร้อน ผมก็เลยให้คุณภรรยาเข้าไปดู ถ้าถูกใจก็จองไว้เลย ผมกลับกทม.แล้วก็จะได้ทำสัญญา ไม่ต้องคิดอะไรมากเพราะโครงการนี้เข้าดูจนเซล์จำหน้าได้แล้ว ก็เลยทำสัญญาเรียบร้อย คราวนี้ก็เรื่องกู้ กู้หลายแบงค์ จนมาถึงคราวที่ผมปวดหัวมากๆก็คือ ผมดันไปลืมจ่ายสินเชื่อ๑รายการ แล้วทีนี้เค้าเช็คเจอว่าผมค้างสถาบัญการเงินอยู่๑๕๐๐บ. (หนึ่งพันห้าร้อยบาท) กลุ้มมากกลุ้มมายครับในช่วงนั้น เงินแค่พันห้าจะทำให้เราชวดบ้านเลยหรือนี้ ไม่อยากจะเชื่อตัวเอง ต้องวิ่งเคลียร์กับสถาบัญการเงินนั้น วิ่งเอกสาร วิ่งคุยกับแบงค์ที่จะกู้ เหนือยจริงๆครับ ต้องพยายามอย่างที่หลวงปู่ท่านดูให้จริงๆ ปกติธนาคารอาคารสงเคราะห์ต้องใช้เวลาในการยื่นเรื่องประมาณ๒-๓สัปดาห์ ผมก็ต้องลุ้นว่าจะทันมาตรการณ์รัฐลดอัตราการจำนองหรือไม่ จนวันที่หลวงปู่ไปที่วัดราษฏร์ประคองธรรมวันแรก แต่ตอนที่ท่านกำลังจะเดินทางจากวัดเทพากรมายังวัดราษฏร์ฯ ผมก็ขอให้หลวงปู่ช่วย "ท่านก็บอกว่า ก็อธิฐานเอาสิ ของก็ให้ไปแล้ว อยากให้ช่วยอะไรก็อธิฐานในใจเอา" ผมก็เงียบแต่ใจคิดว่า ก็หลวงปู่นั้งอยู่ตรงนี้แล้วจะให้ผมไปขอกับอะไรอีกล่ะครับ แต่ผมก็เฉย รอให้ท่านอารมณ์ดีก่อน แล้วก็พาท่านไปที่วัดราษฏร์ฯตามที่พี่เด็กด่านฯนิมนต์เอาไว้ และท่านก็มาสนทนากับท่านเจ้าอาวาสจนหลวงปู่ท่านตกลงปรงใจที่จะย้ายมาอยู่ที่วัดนี้ พวกเราก็เลยนิมนต์หลวงปู่ท่านมาดูกุฏิหลังใหม่ที่ท่านเจ้าอาวาสยกให้หลวงปู่จำวัด ท่านนั้งพักผ่อนในกุฏิหลังใหม่ของท่าน อารมณ์ดี ยิ้มแย้มเมตตาเป็นอย่างยิ่ง ผมได้ทีสบโอกาสงามๆ ก็เลยคุกเขาคลานเข้าไปกราบบนตักท่านแล้วกราบเรียนท่านว่า "หลวงปู่ได้กุฏิหลังใหม่แล้ว แต่ลูกศิษย์ยังไม่มีบ้านอยู่เลย หลวงปู่ช่วยลูกศิษย์ด้วยนะครับ" ท่านก็บอกว่า "เออๆ...ได้ๆๆ ได้อยู่แล้ว จะช่วย จะช่วย" ผมก็กราบท่านด้วยความตื้นตันใจครับ ในความรู้สึกส่วนตัวผม ผมว่านี้คือกำลังใจ กำลังใจที่ทำให้ผมได้มีกำลังกายเพื่อสู้กับอุปสรรคต่อไป วันนั้นพี่เด็กด่านฯก็อยู่ในเหตุการณ์ตลอดครับ วันที่กราบหลวงปู่ผมเข้าใจว่าไม่วันเสาร์ก็วันอาทิตย์ครับ เพราะวันจันทร์ที่๒๑มิ.ย ผมวิ่งเอาเอกสารไปให้แบงค์เพิ่ม วันที่๒๒ แบงค์โทรมาสัมภาษผม แบงค์บอกว่าเร็วสุดก็น่าจะ๑สัปดาห์ ผลถึงจะออก ลุ้นอีกแล้วครับ ลุ้นทั้งผ่านไม่ผ่านเพราะมีแผลอยู่ในบุโร และถ้าผ่านจะทันกับมาตรการณ์รัฐ๐.๐๑% หรือไม่ ถ้าไม่ทันก็ต้องจ่ายอีกหลายหมื่น ชีวิตช่วงนั้นมีแต่ลุ้นกับลุ้นครับ วันที่๒๒โทรมาสัมภาษใช่ใหมครับ ผมก็ลงใต้วันนั้นเลยเหมือนกัน จะลางามมารอฟังผลแบงค์ก็ใช่ที่ วันพุธที่๒๓บ่ายๆ ภรรยาโทรมาบอกว่า โครงการโทรมาบอกว่าเรื่องผ่านแล้ว นัดวันเซ็นสัญญาได้เลย ผมก็ยังงง เพราะแบงค์บอกว่าอย่างเร็วน่าจะอีก๑สัปดาห์ แต่นี้สัมภาษไปได้แค่วันเดียวก็ทราบผลเลย กราบหลวงปู่เลยครับ ผมก็เลยต้องขึ้นมาจัดการเรื่องบ้านให้เรียบร้อย เมื่อวันที่๒๙มิ.ยครับ เสร็จเรื่องก็ลางานต่ออีกวัน วันที่๓๐มิ.ย ได้เข้าไปกราบหลวงปู่ และช่วยหลวงปู่ท่านย้ายกุฏิครับ วันที่ย้ายกุฏิก็เข้าไปกราบเรียนหลวงปู่ว่า ได้บ้านแล้วนะครับหลวงปู่ ท่านก็ถามอย่างที่เคยถามว่า อยู่ที่ใหน กี่บาทกี่ตังค์ อย่างนั้นล่ะครับ ต้องกราบหลวงปู่ในความเมตตาด้วยความศรัทธายิ่งครับ

 

สาธุ... ยินดีด้วยนะคะ... ครูบาอาจารย์ไม่เคยทอดทิ้งลูกศิษย์ค่ะ... มีแต่ลูกศิษย์ (เลวๆ) เท่านั้นที่จะทอดทิ้งครูบาอาจารย์

 

จริงครับคุณหนู...ครูบาอาจารย์ท่านไม่ทิ้งเราแน่นอนครับ แต่เราต้องเหลี่ยวกลับมาดูตัวเราเองด้วยนะครับ บุญทานไม่เคยสร้างไม่เคยสะสม หวังแต่จะพึ่งท่านให้ช่วยอย่างเดียวก็คงจะยากอ่ะครับ มีธนาคารแต่ไม่เคยฝากตังค์ แล้วใครเค้าจะให้ถอนมาใช้ ใช่ใหม๋ครับ แหะๆๆ

 

โดนใจเต็มๆค่ะ

 

มารายงานตัวยามเช้า ก่อนไปทำงานครับ

 

ขอให้เดินทางปลอดภัย การงานราบรื่นตลอดวัน ด้วยบารมีหลวงปู่ครับ

 

ขอขอบคุณ และขอให้พรนั้นสนองกลับครับ...

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ดี

สวัสดีครับพี่ปื้ด พี่เด็กด่านฯ

พี่ปื้ดมาเล่าเรื่องอยู่แท่นผลิตกลางทะเล ผมอะอยากไปครับ เพราะปัจจุบันเขียนรายงานผลกระทบยังนึกภาพจริงๆ ไม่ค่อยออก ได้ดูแต่ในรูปถ่าย เพราะจะขึ้นแท่นได้ต้องมีใบรับรองเยอะแยะเลย อิอิ

 

ใช่ครับค่าแกะไม้คงหลายตังค์อยู่ครับพี่ แต่วิธีประหยัดต้นทุนมีอยู่ครับคือ จ้างให้ช่างปั้นต้นแบบด้วยขี้ผึ้ง ค่าปั้นอยู่ที่ราว ๆ 2000 กว่าบาทขึ้นไป อยู่ที่ฝีมือช่าง แล้วนำมาถถอดพิมพ์ปั๊มครับ อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

 

แหะๆๆ...ขออนุญาตไม่เล่าครับผม บางอย่างอาจจะเป็นฟามลับ อิอิอิ(sing)

 

ไม่เป็นไรครับพี่ แค่นี้ก็รู้มาบ้างแล้วครับ