สงสัย....16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย ayoo, 12 กันยายน 2010.

  1. ayoo

    ayoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +233
    วันนี้ได้ดูดวงไพ่ป๊อกที่ปากน้ำมาน่ะค่ะ เค้าเอา วัน เดือน ปี เราไปคำนวณหลังจากดูไพ่เสร็จ เค้าบอกว่าดวงชะตาเรา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน คืออะไร งง ...??
    แล้วดีหรือไม่ดี รบกวนผู้รู้ตอบให้ที เราก็ไม่อยากสงสัยมากเพราะ แม่หมออายุเยอะแล้วก็เลยพยายามทำความเข้าใจเองก็ยังสงสัยอยู่ดี...
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    <TABLE borderColorDark=#f3f3f3 width="80%" borderColorLight=#f3f3f3 border=1><TBODY><TR bgColor=#6699ff><TD class=white10bc width="100%">Religion : ภพ 31 ภูมิ ในตำแหน่งต่างๆ ของจักรวาฬ</TD></TR><TR><TD style="MARGIN-LEFT: auto; WIDTH: 99%; COLOR: #000000; MARGIN-RIGHT: auto" width="100%" bgColor=#ffffff>[​IMG]


    -วัฏสงสาร-



    การที่สัตว์ในโลกทั้งปวงทุกรูปทุกนาม ต้องท่องเที่ยววนเวียนอยู่ในภูมิทั้งหลายคือต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลกต่างๆ อย่างไม่มีวันสิ้นสุดนั้นในทางพระพุทธศาสนาเรียกชื่อว่า วัฏสงสาร = การท่องเที่ยวเวียนตายเวียนเกิด เพราะวัฏฏะวนเวียน วัฏสงสารนี้ เมื่อจะจำแนกเป็นประเภทใหญ่ๆ เพื่อให้จำได้ง่าย ก็มีอยู่ด้วยกัน ๓ ประเภท คือ ๑. เหมฐิมวัฏสงสาร การท่องเที่ยวเวียนเกิดเวียนตายอยู่ในภูมิชั้นต่ำชั้นทรามอันมีความทุกข์มากหรือมีทุกข์โดยส่วนเดียว กล่าวคือ นิรยภูมิ เปตติวิสยภูมิ อสุรกายภูมิ ติรัจฉานภูมิ ๒. มัชฌิมวัฏสงสาร การท่องเที่ยวเวียนเกิดเวียนตายอยู่ในภูมิชั้นกลาง เป็นโลกชั้นดี มีโลกิยสุขพอประมาณคือมีสุขบ้างทุกข์บ้างหรือมีสุข โดยส่วนเดียวแต่เป็นสุขชั้นโลกีย์ ซึ่งมีอยู่ ๗ ภูมิ คือ มนุสสภูมิ จาตุมหาราชิกาภูมิ ตาวติงสภูมิ ยามาภูมิ ตุสิตาภูมิ นิมมานรดีภูมิ ปรนิมมิตวสวัตตีภูมิ ๓. อุปริมวัฏสงสาร การท่องเที่ยวเวียนเกิดเวียนตายอยู่ในภูมิชั้นสูง อันเป็นภูมิชั้นดีวิเศษมีสุขมากแต่ยังเป็นสามิสสสุข คือเป็นสุขเจือทุกข์ ซึ่งมีอยู่ ๒๐ ภูมิคือรูปภูมิ ๑๖ ภูมิและอรูปภูมิ ๔ ภูมิ บรรดาภูมิทั้ง ๓๑ ภูมินี้ ยกเว้นสุทธาวาสภูมิทั้ง ๕ แล้ว ย่อมเป็นที่ อุบัติเกิด เป็นที่อยู่และเป็นที่ตายแห่งสัตว์ทั้งหลายทุกรูปทุกนามสัตว์โลกทั้งหลายย่อมต้องท่องเที่ยวเวียนเกิดเวียนตาย อยู่ในภูมิ เหล่านี้เรื่อยไปไม่มีวันสิ้นสุดลงได้ต้องอยู่ภายในวัฏสงสารนี้ มิภูมิใดก็ภูมิหนึ่งอย่างแน่นอน


    </PRE>
    [​IMG]

    ภูเขาสิเนรุ
    เป็นศูนย์กลางของมงคลจักรวาล คือ จักรวาลที่เราอาศัยอยู่นี้
    เป็นเขาที่ละเอียดมองไม่เห็นด้วยตา


    จักรวาลหนึ่ง ๆ วัดโดยรอบได้ ๓,๖๑๐,๓๕๐ โยชน์
    ส่วนที่เป็นพื้นดินหนา ๒๔๐,๐๐๐ โยชน์
    โดยมีพื้นน้ำรองรับหนา ๘๔๐,๐๐๐ โยชน์
    น้ำนี้ตั้งอยู่บนลม ซึ่งมีความหนา ๙๖๐,๐๐๐ โยชน์


    เขาสิเนรุ เป็นภูเขาสูงสุดตั้งอยู่ท่ามกลางจักรวาล
    ยอดเขาสิเนรุ เป็นผืนแผ่นดินแห่งแรก
    ที่โผล่ขึ้นหลังจากโลกธาตุได้ถูกทำลายลงด้วยน้ำ
    ซึ่งทำลายขึ้นไปจนถึงเทวโลก และพรหมโลก
    คือ ถึง ชั้นสุภกิณหา (ตติยฌานภูมิ ๓)


    แผ่นดินที่โผล่เป็นครั้งแรกนี้ เป็นที่ตั้งของเทวดาชั้น ดาวดึงสาภูมิ
    ภูมิที่อยู่สูงขึ้นไป คือ ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตดี
    ต่อจากนั้นก็เป็นภูมิของ รูปพรหม ๑๖ ชั้น และ อรูป พรหม ๔ ตามลำดับ
    ภูมิเหล่านี้สถิตอยู่สูงขึ้นไป ต่อจากยอดเขาสิเนรุทั้งสิ้น

    [​IMG]

    ขุนเขาสิเนรุ สูง ๑๖๘,๐๐๐ โยชน์
    จมอยู่ในมหาสมุทรสีทันดรครึ่งหนึ่ง
    คือหยั่งลงสู่ห้วงน้ำ ๘๔,๐๐๐ โยชน์
    และสูงขึ้นไปในอากาศ ๘๔,๐๐๐ โยชน์
    วัดรอบเขาได้ ๒๕๒,๐๐๐ โยชน์ พื้นดินยอดเขาประกอบด้วย
    รัตนะ ๗ ตามไหล่เขา ๔ ด้าน...ด้านตะวันออกเป็น เงิน
    ด้านตะวันตก เป็น แก้วผลึก...ด้านใต้ เป็นแก้ว มรกต
    ด้านเหนือเป็น ทอง...น้ำในมหาสมุทร อากาศ ต้นไม้ ใบไม้
    ที่อยู่ในด้านนั้น ๆ จะเป็น สีน้ำเงิน สีผลึก สีเขียว สีทอง
    ตามสีของไหล่เขานั้นด้วย

    กลางเขาสิเนรุ เป็นที่ตั้งของเทวดาชั้น จาตุมหาราชิกาภูมิ
    รอบเขาทั้ง ๔ ทิศ เป็นที่สถิตของท้าวมหาราชทั้ง ๔ คือ
    ท้าวธตรัฏฐ ประจำอยู่ทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหก ประจำอยู่ทิศใต้
    ท้าววิรุฬปักข์ ประจำอยู่ทิศตะวันตก และท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ
    ประจำอยู่ทิศเหนือ มหาราชทั้ง ๔ เป็นเทวดาชั้นผู้ใหญ่ที่ดูแล
    เทวดาในชั้นจาตุมหาราชิกาภูมิ ทั้งหมด รวมทั้งมนุษยโลกของเราด้วย

    ตอนกลางของภูเขาสิเนรุ ลงมาจนถึงตอนใต้พื้นมหาสมุทร
    มีชานบันไดเวียน ๕ รอบ คือ
    ชั้นที่ ๑ ที่อยู่ใต้พื้นน้ำ เป็นที่อยู่ของพญานาค
    ชั้นที่ ๒ เป็นที่อยู่ของครุฑ
    ชั้นที่ ๓ เป็นที่อยู่ของ กุมภัณฑ์เทวดา
    ชั้นที่ ๔ เป็นที่อยู่ของยักเทวดา
    ชั้นที่ ๕ เป็นที่อยู่ของ จาตุมหาราชิกา ๔ องค์

    รอบเขาสิเนรุ มีภูเขาล้อมรอบอยู่ ๗ รอบ
    เป็นภูเขาทิพย์ เรียกว่า สัตตบรรพ์
    รอบที่ ๑ ชื่อว่า ยุคันธร
    รอบที่ ๒ ชื่อว่า อีสินธร
    รอบที่ ๓ ชื่อว่า กรวิก
    รอบที่ ๔ ชื่อว่า สุทัสสนะ
    รอบที่ ๕ ชื่อว่า เนมินธร
    รอบที่ ๖ ชื่อว่า วินัตตถะ
    รอบที่ ๗ ชื่อว่า อัสสกรรณ

    นอกจากนี้ ยังมีภูเขาจักรวาล ซึ่งเป็นภูเขาที่กั้นระหว่างจุฬโลกธาตุด้วย

    ในสารัตถทีปนีฎีกา กล่าวไว้ว่า
    มหานรก ทั้ง ๘ ขุม และ อุสสทนรก ซึ่งเป็นนรกบริวารของมหานรก
    ตั้งอยู่ที่ใต้พื้นดินธรรมดา ลึกลงไปตรงกันกับชมพูทวีป
    รวมเนื้อที่กว้าง ๑๐,๐๐๐ โยชน์ สูง ๑๐,๐๐๐ โยชน์ เป็นรูปสี่เหลี่ยม
    </TD></TR></TBODY></TABLE></P>

    http://palungjit.org/threads/ภพ-31-ภูมิ-ในตำแหน่งต่างๆ-ของจักรวาฬ.11395/

    .
     
  3. ucon888

    ucon888 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2009
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +992
    โมทนาบุญกับเฮียปอ ตำมะลังด้วยครับ
    ขอให้บุญที่เฮียทำเป็นธรรมทานในครั้งนี้ ส่งผลให้เฮียเป็นเหมือนชอลิ้วเฮียงทุกชาติไป
    จนกว่าจะเข้านิพพาน
     
  4. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    <TABLE class=tborder id=post3780612 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 08:51 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #4 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ucon888<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3780612", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Sep 2009
    ข้อความ: 274
    Groans: 16
    Groaned at 6 Times in 2 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 3,725
    ได้รับอนุโมทนา 1,293 ครั้ง ใน 227 โพส
    พลังการให้คะแนน: 103 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_3780612 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->โมทนาบุญกับเฮียปอ ตำมะลังด้วยครับ
    ขอให้บุญที่เฮียทำเป็นธรรมทานในครั้งนี้ ส่งผลให้เฮียเป็นเหมือนชอลิ้วเฮียงทุกชาติไป
    จนกว่าจะเข้านิพพาน<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ชอลิ้วเฮียง (จีน: 楚留香; Chu Liu Xiang) ขุนโจรทิ้งกลิ่นหอม ผู้ที่ไม่มีสิ่งใดที่เขาปรารถนาจะขโมยแล้วขโมยไม่ได้ กำลังภายในสูงส่ง วิชาตัวเบาลึกล้ำ ไม่ทราบสังกัดสำนักอาจารย์ ไม่ใช้อาวุธคู่กายใด ๆ มีเพียง หนึ่งสมอง สองมือ และ ดรรชนีปาฏิหาริย์ เท่านั้น รูปพรรณสัณฐาน และ อายุ ไม่ระบุชัด แต่มีพฤติกรรมแปลก ๆ ที่ชอบจับจมูกของตนเอง เวลาคิดเรื่องต่าง ๆ เนื่องจากเป็นโรคทางจมูก(ไซนัส)จึงทำให้ชอลิ้วเฮียงฝึกวิชาที่สามารถหายใจผ่านผิวหนังได้ ขุนโจรแซ่ชอ อาศัยอยู่บนเรือสำราญ กับหญิงสาวสะคราญโฉมคู่ใจ 3 นางที่มีความเป็นมาลึกลับไม่ต่างกับเขา
    • โซวย่งย้ง ผู้ชำนาญการแปลงโฉม อ่อนหวาน เยือกเย็น แต่มีความลับซ่อนอยู่ในใจ
    • ซ่งเตี๊ยบยี้ น่ารัก ทำอาหารเก่ง และอายุน้อยที่สุดบนเรือสำราญ
    • ลี้อั๊งซิ่ว ผู้รอบรู้เรื่องราวในยุทธจักรกระจ่างดุจเส้นบนฝ่ามือ
    เพื่อนสนิทที่สุด เติบโตมาด้วยกันแต่เยาว์วัย คือ โอ๊วทิฮวย แมวเมามาย ศัตรูสำคัญของเขา มีทั้ง หลวงจีนบ้อฮวย (ไร้บุปผา) เจี๊ยะกวนอิม (กวนอิมศิลา) เจ้าแม่วังน้ำทิพย์ ฯลฯ แต่ด้วยปฏิภาณไหวพริบ ทำให้เขารอดพ้นภัยอันตรายมาได้ทุกครั้ง

    +++++++++++++++++++++++++++++++


    ขอบคุณมากครับ แต่ไม่เอาโรคไซนัส น่ะครับ

    .
     
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    น่าจะแปลว่าคุณเป็นคนเหนือดวงนะคะ จะทำอะไรก็ได้ ถ้าคุณจะทำ คุณตัดสินใจ ชะตาตัวเองได้อ่ะ
     
  6. ayoo

    ayoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +233
    อ่อ..... ขอบคุณค่ะ
    คุณยายแม่หมอ..ชอบพูดสั้นๆๆ
    มีคำหนึ่งที่พูดว่า เราทำดีก็ดีมาก...ทำชั่วก็ชั่วมาก
    " ดีชั่วอยู่ที่ตัวทํา สูงต่ำ่อยู่ที่ทําตัว "
    แต่ติดเป็นคนที่โลเล ไม่แน่นอน ใจอ่อน
    อย่างเช่นวันนี้เราจะเข้มแข็ง...เด็ดเดี่ยว
    ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง ไม่เอาแหละ เดี๋ยวแหละกัน
    เฮ้อๆๆเบื่อตัวเอง เกิดธาตุลม พัดไปก็พัดมา.......
     
  7. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    ^^
    เฮียปอเก่งจังค่ะ รอบรู้สารพัด
     
  8. namitta

    namitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,061
    ค่าพลัง:
    +3,517
    อย่าลากเข้าข้าง ครับ


    ในหนังสือ"ตำนานต้นผีไทย"เขียนโดย ธัมมทัตโตภิกขุ พ ณ ประมวญมารค กล่าวถึง "๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดินไว้ว่า "๑๖ ชั้นฟ้า ไล่จากชั้นบนสุดลงมา คือ

    ชั้น ๑๖ สรวงสางฟ้า ต้นผีฟ้า (เทพสูงสุดของชนเผ่าไท) ขุนสรวง ขุนนางสาง (เทียบกับชั้นอาภัสรพรหมในพุทธศาสนา)...

    ชั้น ๑๕ แถนเทียนฟ้า ขุนแถน (ผีฟ้าพญาแถน)

    ชั้น ๑๔ แผนเมืองฟ้า หรือ แผนดวงฟ้า

    ชั้น ๑๓ เมืองแมนฟ้า ขุนแมนเมืองฟ้า

    ชั้น ๑๒ ร่วงเมืองฟ้า ขุนร่วงเมืองฟ้า หรือ จ้าวพ่อนารายณ์ จ้าวแม่ทับทิม

    ชั้นที่ ๑๑ สันซื่อฟ้า ขุนสันแสงฟ้า ขุนหญิงยาซื่อฟ้า (ย่าซื้อนาง)

    ชั้นที่ ๑๐ ลายขวัญฟ้า ขุนลายเรืองฟ้า จ้าวแม่โพสพ เป็นเทพปกครองสูงสุดของชั้นนี้

    ชั้นที่ ๙ อินขวัญฟ้า ขุนอิน(พระอินทร์) จ้าวแม่กวักทองมา พระขวัญเมือง (เจ้าแม่นางกวักที่ถูกเชิญมารำแม่ศรี)

    ชั้นที่ ๘ ฟ้าสรวง หรือ ฟ้าสูง ๑ ขุนตะวันร่วงฟ้า (พระเสื้อเมือง)

    ชั้น ๗ ฟ้าหนหาว หรือ ฟ้าสูง ๒ เทียบกับท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ ทิศ ขุนออก หรือ ขุนทิศตะวันออก(เป็นที่มาของสมัญญานามที่ใช้เรียกขุนนาง ว่า "ออกขุน,ออกญา"ท้าวธตรฐ) เพศวัยรุ่นแต่งตัวเป็นกุมารไว้ผมจุกมีปิ่นเพชรสีต่างๆ (กุมารทอง?) ฯลฯ

    ชั้นที่ ๖ ใต้ฟ้าสรวง ขุนขวัญเมืองสูง เป็นเทพผู้ปกครองชั้นนี้ เทพชั้นนี้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ มีทุกชนชั้นวรรณะ พระ เณร ชีอุบาสก อุบาสิกา ผู้ใหญ่ และเด็ก เทียบกับชั้นอากาสัฏฐเทวดา(ผีฟ้า)

    ชั้นที่ ๕ จ้าวฟ้าเมือง ขุนคุ้มเมือง ขุนหญิงร่มสีเมือง(จ้าวแม่ร่ม(เย็น)ศรีเมือง?)

    ชั้นที่ ๔ จ้าวถิ่นที่ หรือ เจ้าที่ ขุนถิ่นที่ ขุนหญิงสีพราย หรือ เจ้าแม่จอมขวัญ เทียบกับ ภุมเทวตา หรือพระภูมิ มีชื่อแยกไปตามประเภทของสถานที่ คือ ๑ พระชัยมงคล ๒ พระนครราช ๓ เทเพนทร์ ๔ พระชัยศพณ์ ๕ พระคนธรรพ์ ๖ พระธรรมโหรา ๗ พระเทวเถร ๘ ธรรมิกราช ๙ พระธาตุธรณ์ พระภูมิเทวี(เจ้าแม่)มี ๙ องค์เช่นกัน คือ ๑ แม่เอื้อยอารี ๒ แม่ศรีอร่าม ๓ ***ามกาหลง ๔ แม่จงคะวดี ๕ แม่มีบุญญา(หรือ แม่ย่าซื้อ เทพธิดาที่คุ้มครองเด็กทารก) ๖ แม่มาเลี้ยงรื่น (แม่เลี้ยง) ๗ แม่ชื่นขวัญมา ๘ แม่พาขวัญใจ ๙ แม่ใสเชิญขวัญ และชั้นนี้ยังแบ่งแยกชื่อตามสถานที่คือ จ้าวทุ่ง จ้าวท่า จ้าวป่า(วนปติเทพ อรัญญาณีเทวี) จ้าวเขา (ปัพพตเทพ ปารพตีเทวี) จ้าวที่ จ้าวทาง จ้าวเรือก จ้าวไร่ จ้าวนา

    ชั้นที่ ๓ จ้าวไม้ (รุกขเทพ รุกขมินีเทวี) ที่นับถือกันมากคือ จ้าวพ่อโพ จ้าวพ่อไทร (พระโพเทพารักษ์ พระไทรเทพารักษ์) จ้าวแม่ตะเคียน จ้าวแม่ตานี หรือนางตานี จ้าวแม่ไทรทอง

    ชั้นที่ ๒ จ้าวพราย (เรียกรวมๆ) ครูเวทย์มนตร์ ครูหมอยาสมุนไพร ครูดนตรีศิลปะการแสดงต่างๆ เทพชั้นสูงต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นอวตารลงมาปรากฎรูปในนามของเทพที่เรานับถือ เช่น ขุนสรวง มาในชื่อ พ่อมด (พ่อหมอ รูปชายเปลือยที่เรียกกันว่า "ไอ้งั่ง"เป็นตัวแทนมนุษย์เพศชายคนแรกที่จุติมาจากอาภัสรพรหม) ขุนนางสาง มาในชื่อ แม่มด หรือ แม่มดลูก(รูปหญิงเปลือยที่เรียกกันว่า"อีเป๋อ"เป็นตัวแทนมนุษย์เพศหยิงคนแรกที่จุติมาจากอาภัสรพรหม ขุนลายสันฟ้า มาในนาม พระร่วง หรือ พ่อเลี้ยง แม่ยาซื่อ มาในชื่อ แม่ซื้อ จ้าวพ่อนา แม่โพสพขุนลายสันฟ้า (อวตาร) มาในชื่อจ้าวพ่อนา แม่โพสพ (อวตาร)มาในชื่อ พระโพสพ ขุนอิน(พระอินทร์) และนางกวัก มาในชื่อ พ่อสิน แม่ศรี คือ จ้าวโชคลาภ ถ้าเป็นชายเรียกว่า จ้าวพราย หรือ ปู่จ้าวสมิงพราย ถ้าเป็นหญิงเรียกว่า แม่ทรง

    ชั้นที่ ๑ ของ ๑๖ ชั้นฟ้า คือ จ้าวเรือน หรือที่รู้จักกันในนาม "ผีบ้านผีเรือน" นั่นเอง




    ๑๕ ชั้นดิน

    ชั้น ๐ หล้าแหล่งไทย คือ พื้นดิน โลก ที่เราอาสัยอยู่นี่เอง

    ชั้นที่ ๑ ผีคน คือ ศพเน่าแล้วมีกลิ่นเหม็นเน่า คนป่าที่ไมีนุ่งผ้า คนชั่วช้าเลวทราม

    ชั้นที่ ๒ เบื้อ เยี่ยว ส่ำ (สัตว์ดิรัจฉาน ดังคำที่พูดกันติกปากว่า"ส่ำสัตว์ทั้งหลาย"แต่ในที่นี้หมายถึง สัตว์หิมพานต์ เช่น คชสีห์ กินนร ) เบื้อ คือ คนที่ตัวเล็กกว่าคนปกติธรรมดาทั่วไป ไม่มีลูกสะบ้าเข่า อาศัยอยู่ในถ้ำลึกเข้าไปในป่าดงดิบ ที่เพชรบุรีเรียกว่า"เยี่ยว" อาจเป็นชาวลับแลที่อยู่อีกมิติหนึ่งก็ได้

    ชั้นที่ ๓ ผีพราย ผีตระกูลกะ เช่น ผีกะสือ ผีกะหัง ผีปอบ ผีโพลง ฯลฯ

    ชั้นที่ ๔ ผีเปรต

    ชั้นที่ ๕ ผีร้าย ผีดุที่เที่ยวหลอกผู้คนให้หวาดกลัว เจ้ากรรมนายเวร ที่ตามอาฆาตจองล้างจองผลาญคนที่เคยทำร้ายเขาเมื่อชาติที่แล้ว

    ชั้นที่ ๖ ผีบอง มี่รูปร่างเหมือนคน ถ้าสัตว์ตายก็มีรูปร่างเหมือนสัตว์ชนิดนั้นๆ แต่มีรูปร่างอัปลักษณ์ เช่นตกกระ มีลาย เช่นลายกลากเกลื้อน มีปุ่ม เช่นหูดต่างๆ มีรูปร่างบิดเบี้ยว เช่น คางเบี้ยว หลังงองุ้ม กลิ่นเหม็นสาบสาง คล้ายกับคำว่า "สัมภเวสี"ในความเข้าใจของคนทั่วไป เป็นวิญญาณเร่ร่อน ที่มีบุญไม่ถึงสวรรค์ มีบาปไม่ถึงนรก ไม่พอที่จะเกิดเป็นคน อาจเรียกได้ว่า"บุญไม่ทำ (บาป)กรรมไม่สร้าง"ก็ได้

    ชั้นที่ ๗ ผีขุนยม หรือ พระยายมราช มัจจุราช ยมบาล

    ชั้น ๘ ผีทุ (อาจมาจาก ทุศีล ทุรชน ทุรกรรม) ผีที่มีรูปร่างเหมือนคนทั่วไป พระ เณร ชี อุบาสก อุบาสิกา ชาย หญิง ทุกวัย มีน้ำเลือด น้ำเหลืองไหลออกจากตัว มีไฟตามตัว กรรมจากการประพฤติชั่วต่างๆ การโกหก หลอกลวง คดโกง ลักเล็กขโมยน้อย เห็นแก่ได้เบียดบังเอาประโยชน์เข้าตัวโดยมิชอบ

    ชั้นที่ ๙ ผีบัน (หรือ บั่น คือ ปาณาติบาต)

    ชั้นที่ ๑๐ ผีบัด (หรือหาย คือ อทินนาทาน) มีอวัยวะไม่ครบ เช่น แขน,ขากุดด้วน ตามกรรมที่ทำผิด

    ชั้นที่ ๑๑ ผีบอด (กาเมสุมิจฉาจาร ความรักทำให้คนตาบอด)

    ชั้นที่ ๑๒ ผีใบ้ (มุสาวาท)

    ชั้นที่ ๑๓ ผีบ้า (สุราเมรยมัชชปมาท)

    ชั้นที่ ๑๔ ผีบ่ง กรรมที่ไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์ พ่อแม่ มือใหญ่เท่าใบตาล

    ชั้นที่ ๑๕ ผีบึ้ง พวกสัตว์นรกในโลกันตนรก มีมิจฉาทิฏฐิ มืดสนิทไม่มีแสงสว่างใดๆลอดเข้ามาได้เลยแม้แต่เท่ารูเข็ม
     
  9. ภูตจิ๋ว

    ภูตจิ๋ว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2012
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +41
    ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเลย :cool:
    (ตอนแรกไม่เข้าใจเหมือนกัน)
     

แชร์หน้านี้

Loading...