เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

สวัสดีค่ะ คุณวัฒฆ์ (ขออนุญาตเรียกอย่างนี้นะค่ะ) ยิ้มไม่ได้สบประมาทว่าโครงการนี้จะไม่สำเร็จนะค่ะ เพียงแต่ว่ามีท่านหนึ่งติงมา ยิ้มก็เลยสมมุติว่าถ้ายิ้มลังเลสงสัยแล้วก็ไม่สำเร็จนะ

ขอบคุณในการเตือนสติว่า "ชีวิตคนเรานั้นสั้น ๆๆๆๆๆ" ค่ะ เป็นมรณานุสติอย่างดีเยี่ยม ยิ้มเป็นคนหนึ่งที่เพิ่งเปิดใจมาทางสายเอกแห่งนี้ได้ ด้วยการประจักษ์ถึง พุทธานุภาพ อย่างมิรู้ประมาณเปรียบเทียบได้ค่ะ และเชื่อว่าผู้ที่มีจิตฝักไฝ่ในการทำบุญกุศลทุกท่านก็ย่อมมีเหตุทีมาทีไปของตนเอง การทำบุญย่อมมีการหวังผลตอบแทนค่ะ แต่สิ่งที่ขอตอบแทนนั้นเป็นอะไร บ้างก็หวังในทรัพย์สินเงินทอง บ้างก็หวังในความสุขต่าง ๆ อย่าลืมว่าการทำทานอะไรก็แล้วแต่ เป็นหนึ่งในสิบของทานบารมี อันมีที่สถานที่ไปแห่งเดียวกันคือ พระนิพพาน นะค่ะ

ยิ้มบอกแล้วแต่ต้นว่า ยิ้มก็ยังเฉย ๆ เพียงแต่ขออนุญาตทัดทานในสิ่งที่รู้สึกว่ายังมิควรค่ะ ยังไม่ได้กล่าวอ้างว่าใครทุจริต หรือว่าตอนนี้ ยิ้มกลายเป็นมาร ไปแล้วค่ะ และก็อย่าลืมว่า ศาสนาที่ง่อนแง่นทุกวันนี้ม่ายช่ายเพราะพวกที่เข้ามาหากินกับพระท่านหรือ (จะใช่ทั้งที่อาศัยผ้าเหลืองและไม่อาศัยผ้าเหลืองก็ตามที่)

ถ้างั้นยิ้มก็คงต้อง ขอวางเฉย หละค่ะ (จริง ๆ ว่าจะถามต่อนะเนี้ย)

 

คุณ มพดา คุณนั้นได้เข้ามา เป็นสมาชิกในจุดเดือด ของกระทู้นี้ ผมก็ไม่รู้จุดมุ่งหมายของคุณว่า จะสมัครเข้ามาตอบกระทู้นี้โดยตรงหรือเปล่า แต่ถ้าคุณลองอ่านย้อนไป คุณจะรู้ว่าผมมีความคิดยังไงกับการสร้างพระ ผมไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับใคร เพียงแต่ผมอยากให้คนที่เข้ามาอ่านนั้น ได้มองเห็นตามความเป็นจริง มีเหตุมีผล และผมก็ได้ให้เหตุผล ทางคณะเขาก็ได้ให้เหตุผล ได้มีหลักฐานต่างๆมาอธิบาย ไม่ดีหรือครับ ดีกว่าจะใช้ความคิดคนเดียว ทางคณะเขาก็รับฟัง ถ้าจะเปรียบ ผมเป็นไฟให้ก็ได้ ทางคณะเป็นทอง ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟเผาไหม้ ยังไงก็เป็นทอง ถ้าคุณไม่มีไฟเผาดูแล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นทองแท้

เรื่องการตายนั้นคุณพูดมาเถอะถึงเวลาตายมันก็ต้องตายเอง ความตายเราไม่อาจรู้ได้ว่าจะตายเวลาใด คุณรู้ได้ก็เก่งแล้ว

 

ตอนนี้ผมกำลังรวบรวมพระสงฆ์และฆราวาสในสายธรรมของครูบาอาจารย์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อมาร่วมกันสร้างเนื้อนาบุญอันยิ่งใหญ่ที่ครูบาอาจารย์ท่านมีมหาเมตตาสงเคราะห์ให้ทำ กาลเวลาของสามร่มโพธิ์ศรี ที่จะต้องรวมตัวกันเพื่อทำนุบำรุงพระศาสนาให้รุ่งเรือง สถาพรต่อไปนั้นใกล้เข้ามาทุกที ใครรีรออยู่ก็ช่วยไม่ได้ครับ การเพิ่มพูนบุญบารมีให้แก่ตัวเองและหมู่คณะนั้นทำได้ไม่ง่าย แต่การตัดบารมีตัวเองและหมู่คณะนั้นก็ทำได้ไม่ยากครับ

ผมจะรอดูว่าหลังกาลเวลาที่โลกที่มืดมิด เจ็ดวัน เจ็ดคืน จะเหลือพวกเราในที่นี้กันสักกี่คน ก็ได้แต่ภาวนาให้เหลือกันเยอะๆ เพราะหลวงปู่ท่านเคยบอกว่า ทั่วโลกจะเหลือคนไม่มากเมื่อครูบาอาจารย์ท่านมีสัจจะวาจาหนึ่งไม่มีสอง สำหรับผมเองเข้าใจว่าจากกาลเวลาที่หลวงปู่ท่านบอกผมไว้จนถึงเวลานี้ก็เป็นเรื่องน่าคิดแล้วครับ

 

ผมไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นที่คุณอัญญาสิทธ์ว่าผมคงไม่อยู่แล้ว

โลกที่มืดนั้นมันยังไม่ได้ทำร้ายอะไรมาก เพราะคนสามารถผลิตไฟฟ้าได้

ผมจะเล่าให้ฟัง ถึงตอนนั้น จะมีพระอาทิตย์ เกิดขึ้นหลายดวง ไฟบรรลัยกัลป์จะเผาทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ถึงตอนนั้นจะมีแค่ผู้อยู่รอด ที่เขาเรียกว่า ผู้รอด ไฟจะไหม้ถึง 3 โลก คุณหนีไปอยู่สวรรค์ ยังโดนไฟไล่ไปถึง มีทางเดียว คุณต้องอยู่ชั้นที่พระโพธิสัตว์เจ้าอยู่และสูงกว่าคือพรหมเท่านั้น ท่านเหล่านั้นหล่ะคือผู้รอด ผู้ที่จะมาสร้างโลกขึ้นมาใหม่
ฉนั้นผมจะบอกทางรอดให้คือ ต้อง มีศีล ที่บริสุทธ์ ทำศีลที่บริสุทธิ์นี้ให้เป็นฐานของจิต (โกหกก็ไม่ได้นะ)

 

แหมในฐานะ "สื่อ" และคนกลาง ฟังดูแล้วมันขัด ๆ ใจนะคุณผู้พัน ขอถามหน่อยนะครับ
1. การสร้างพระเจ้า 5 พระองค์ได้บารมีขนาดไหน อย่างไรบ้างครับ
2. คุณผู้พันนี่อยากเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตใช่ไหมครับเนี่ย
3. 3 ร่มโพธิ์ศรีที่ว่านี่ มีใครบ้างครับ ผู้พันด้วยหรือเปล่า
4. คุณผู้พันได้ฝึกจิตตัวเองอย่างไรมาบ้างแล้วครับ ลดละกิเลสไปได้ขนาดไหนแล้ว

อ่อ ที่ท่านว่าผมพิจารณาจาก ตา อย่างเดียวนะ คงไม่ใช่นะครับ ประสบการณ์ในการไปเปิดโปงขบวนการหลอกลวงวัดวา หาผลประโยชน์กับวัดเนี่ย ผมมีเยอะ ผมอ่านออกนะว่าใครจริงใจ ใครหลอก จริง ๆ แล้วผมตั้งใจจะสืบเรื่องของที่วัดนี้อยู่เหมือนกัน น้อง ๆ มันแนะนำมาว่าน่าสนใจ มีการระดมเงินหลายล้านบาท ถ้าเป็นเรื่องขึ้นมาหละก็ดังแน่ ๆ แต่หลังจากที่ผมไปกราบนมัสการพระอาจารย์มา ผมก็เปลี่ยนความคิด ผมไม่อยากให้ข่าวไปทำให้วัดเสื่อมเสีย ผมก็แต่ความตั้งใจที่อยากให้เรื่องนี้ลงเอยด้วยดียังคงอยู่ ผมก็เลยปรากฎตัวทางเว็บบอร์ดนี่แหละครับ คุณผู้พัน ผมไม่ได้ตั้งตัวเป็นศัตรูอะไรกับคุณนะครับ มานี่ก็ด้วยความเป็นห่วง เห็นเป็นข้าราชการด้วย ยิ่งน่าเห็นใจ ความเป็นห่วงประการแรกนะครับ คุณผู้พัน บัญชีต่าง ๆ ควรจะทำในนามวัดนะครับ ไม่ควรใช้ชื่อส่วนตัวเด็จขาด หลาย ๆ วัดที่มีปัญหาก็เพราะไม่ได้เข้าบัญชีวัดนี่แหละครับ
ประการที่สองนะครับ ต้องให้ท่านเจ้าอาวาสวัดอนุญาต หรือมีส่วนรู้เห็นด้วยนะครับ ในทางกฎหมายเขาจะให้เกี่ยรติพระเจ้าอาวาสนะครับ ประการที่สาม การทำบัญชีรายรับรายจ่าย จะต้องมีการทำอย่างละเอียดนะครับ มีการรับรองบัญชีด้วย ไม่งั้นไม่โปร่งใส ถ้าเป็นคดีขึ้นมาแล้วจะลำบาก

...... เห็นด้วยไหมครับ

 

ผมน่ะโคตรเบื่อเลย พวกชอบขู่เนี่ย

พระครูเทพโลกอุดรที่ พวกคุณว่าเคยเจอเนี่ย เป็นใครที่ไหน ช่วยแนะนำผมหน่อยได้ไหมครับ ผมเองก็อยากมีวาสนาได้กราบท่านเหมือนกัน

อย่างที่มีคนยกตัวอย่างมานั่นแหละครับ พระสร้างยากแล้ว แต่วิหารที่ประดิษฐานพระนั้น สร้างยากกว่าครับ อย่างที่คุณ มพดาบอกน่ะครับ

ถ้าให้ดี ก็ให้คุณ มพดา ช่วยสร้างเลยแล้วกันครับ พระมูลค่า11ล้าน วิหารประดิษฐานระ คงไม่มากครับ น่าจะ10เท่า ก็เท่านั้นเอง คนล่ะไม้ล่ะมือก็คงสำเร็จ

แต่ปัญหาคือ จะแข่งขันกันสร้างไปทำไมครับ วัดโน้นก็สร้าง วัดนี้ก็สร้าง

ที่วัดแถวบ้านผมก็มีโครงการสร้างโบสถ์ ใหม่ในวัด ประดิษฐานพระพุทธเจ้า5พระองค์ รู้ไหมครับ แค่คิด พระก็สำเร็จแล้วครับ เพราะพระพุทธรูปสร้างด้วยหินแกะสลัก ทุกวันนี้พระสร้างเสร็จแล้ว รอโบสถ์ ครับ 2ปีแล้วมั้ง ยังไม่ขึ้นเสาเลยครับ พระพุทธรูป5องค์ ไม่เกิน300000บาท เจ้าภาพจ่ายตังค์เรียบร้อย หลวงพ่อผมยังมานั่งหาตังค์สร้างโบสถ์อยู่เลย เก็บเงินผ้าป่า กฐิน ทีล่ะ แสน สองแสน ค่อยๆรวมแล้วก็ค่อยๆสร้าง

งบประมาณสร้างโบสถ์ทั้งหมด น่าจะ20ล้านได้ครับ

ส่วนที่คุณขู่เรื่องระบบน่ะ ใครทำอะไรได้อย่างนั้น เค้าไม่ทำกับคุณ เค้าทำอย่างอื่น แล้วเค้าจะไม่รอดเหรอครับ

อย่าทำให้ศาสนาพุทธต่ำลงไปเลยครับ จากศาสนาที่ใช้ปัญญาพิจารณา กลายเป็นศาสนาที่ต้องเชื่ออย่างเดียว

พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนครับ

 

เรียนทุกท่านที่เคารพ

ผมหลายท่านที่เข้ามาก็มีแต่พูดๆๆๆๆ ตำหนิคนนั้น คนนี้ที ผมขอถามจริงๆเถอะชั่วชีวิตของทุกท่านที่ผ่านมาเคยตำหนิตนเองบ้างมั้ย หรือว่าหาไม่เจอ ยิ่งพวกสื่อด้วยแล้ว หาแต่ความผิดคนอื่น จับผิดคนอื่น ตนเองดีขนาดไหนแล้ว บุญทำไปขนาดไหนแล้ว มากพอหรือยัง

เห็นหลายท่านหลายคนในนี้ต่างบอกว่า เรียนรู้ธรรมะกันมาเยอะ รู้จักอาจารย์นั้น อาจารย์นี้ รู้จักตนเองบ้างหรือเปล่า เห็นตนเองยัง หรือว่ามัวแต่มองคนอื่นไม่มองตนเอง พวกสื่อก็เหมือนกัน เปิดโปงความจริง เป็นกันอย่างไรละตอนนี้บ้านเมืองพังพินาศกัน ตนของตนยังไม่เห็น แล้วหาความผิดของคนอื่นอีก

ผมถามจริงๆว่า พระที่อยู่วัดตอนนี้มีใบแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสมั้ย ถามทุกคนด้วยว่า แต่งกายเหมือนครูบาอาจารย์ เอาจีวรครูบาอาจารย์มาห่มเนี่ย น่าเคารพมั้ย

ไม่มีใครบังคับใครทำบุญกันครับ ใช้ปัญญากันบ้าง โจมตีกันไปมา มันได้ประโยชน์อะไร เอ้าศรัทธาครูอาจารย์เดียวกัน ช่วยกันทำงานซิ ทำให้มันเป็นรูปธรรมขึ้นมา พวกสื่อก็ช่วยสิ วัดป่าสีดาฯเป็นที่บำเพ็ญของพระมหาโพธิสัตว์ ป่าวประกาศออกไป ช่วยกันทำบุญ หรือว่าพวกสื่อประกาศบุญไม่เป็น หรือว่าเป็นแต่จ้องหาความผิดคนอื่นเท่านั้น ประกาศแต่สิ่งไร้สาระ

ใครอยากทำอะไร ก็ปล่อยเค้าไป ดีชั่วทุกคนรู้แก่ใจดี กรรมมันตามสนองเอง ธรรมชาติลงโทษและให้รางวัลเองครับ ใช้ปัญญากันให้มากๆ วัฏฏสงสารยาวนานนัก

ผมรู้ว่าตนเองต้องตายนะภาย 7 วันนี้แหละ จันทร์ อังคาร พุธ นี่แหละใน 7 วัน

 

อ้างอิง 1003 ที่วัดแถวบ้านผมก็มีโครงการสร้างโบสถ์ ใหม่ในวัด ประดิษฐานพระพุทธเจ้า5พระองค์ รู้ไหมครับ แค่คิด พระก็สำเร็จแล้วครับ เพราะพระพุทธรูปสร้างด้วยหินแกะสลัก ทุกวันนี้พระสร้างเสร็จแล้ว รอโบสถ์ ครับ 2ปีแล้วมั้ง ยังไม่ขึ้นเสาเลยครับ พระพุทธรูป5องค์ ไม่เกิน300000บาท เจ้าภาพจ่ายตังค์เรียบร้อย หลวงพ่อผมยังมานั่งหาตังค์สร้างโบสถ์อยู่เลย เก็บเงินผ้าป่า กฐิน ทีล่ะ แสน สองแสน ค่อยๆรวมแล้วก็ค่อยๆสร้าง

งบประมาณสร้างโบสถ์ทั้งหมด น่าจะ20ล้านได้ครับ

อนุโมทนาบุญครับ.....

 

คุณ มพดา อธิบายด้วย การรู้จักตัวเองเป็นอย่างไร เอาตามที่คุณรู้

ตามที่ผมดูมาก็ไม่ได้เห็นมีใครอวดอ้าง ว่าตัวเองเป็นคนดี คนวิเศษ ซักหน่อยนะคุณ ไม่งั้นเขาจะมาทำบุญกันทำไมถ้าตัวเองดี

 

ในฐานะ "สื่อ" ผมงง ปน ตลก หน่อย ๆ นะเนี่ย ผมเขียนถามไปทาง ผู้พัน แล้วทำไม่คุณ มพดา มาเดือดร้อนแทนหละเนี่ย ผมก็แค่ยิงคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัย ในฐานะสื่อเท่านั้นเอง และก็เป็นห่วงด้วยความจริงใจ เพราะเห็นว่า การจัดการบางอย่างยังไม่เรียบร้อย มั่นคง ก็เลยแนะนำไป

ไม่ทราบว่าในระยะหลัง นี้มีท่านใดได้ไปที่วัดป่าสีดาฯ อีกบ้างไหมครับ อย่างจะทราบว่า ท่านอาจารย์ที่วัดท่านเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม ใครพอที่จะเล่านโยบายของท่านอาจารย์ที่วัด ให้เพื่อน ๆ สาธุชนในเว็บนี้ได้บ้างไหมครับ จากที่อ่านมา คุณจักร น่าจะรู้เรื่องของทางวัดดี ช่วยจัดการให้หน่อยได้ไหมครับ เพื่อที่จะได้เป็นการฟังเหตุผลจากทั้งสองฝ่าย

อย่างที่บอกครับ ผมมีเจตนาดี ตัวผมเองก็ไม่ได้ดีอะไร ใครว่าผิด ผมก็ยอมรับ นะครับ และจะนำไปปรับปรุง ฆราวาสอย่างเรา ๆ กิเลสยังเยอะอยู่ครับ ศิล 5 ข้อ ก็รักษายากจะแย่อยู่แล้ว บางคนก็ไม่ครบ 5 บ้างก็ผิดลูกผิดเมียเค้า เยอะแยะครับยุคนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็อาจารย์ ข่มขืนลูกศิษย์ เพราะฉะนั้นครับ เรื่องบางเรื่องผมว่า ก็ควรจะให้ผู้ที่ไกลจากกิเลสมากว่าเรา เป็นผู้ตัดสินใจนะครับ อย่างน้อย ๆ พระท่านก็อยู่ในพรหมจรรย์ ไม่ได้เกลือกกลั้วกิเลสอย่างพวกเรา ปัญญาหรือว่าเหตุผลที่ท่านมี น่าจะเบาบางจากการเจือปนไปด้วยเหตุผลของกิเลสนะครับ ช่วงนี้แนะนำครับ ฟังธรรมะของหลวงตาบัวหน่อยจะเข้าใจได้ดีครับ ในเว็บ <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD class=j>[SIZE=-1]www.luangta.com/[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE> ท่านเทศได้เข้าใจง่ายดีนะครับ

...... เห็นด้วยไหมครับ

 

ผมชื่นชมความคิดของคุณ f12345 มากครับ ทำอะไรที่สมบูรณ์ก็ทำเถอะครับ...
คุณ ITV Man ที่ถามผมว่าที่วัดเป็นไงมั่ง ก็ปกติดีครับ ผมถามท่านเหมือนกันเรื่องร้อนๆ ที่นี่ ท่านว่าไม่เป็นไร ใครจะสร้างก็ทำไปเถอะ และพอจะเอามาถวายก็คงปฏิเสธลำบาก รับไว้ก็ไม่เป็นไร ญาติโยมจะได้ไม่เสียศรัทธา ดีซะอีก คนมีวาสนาจะได้เข้าวัดมาทำบุญพัฒนาให้ดีขึ้น สำหรับพระเจ้าห้าพระองค์ที่ใครจะสร้างก็คงขัดกันไม่ได้ถ้าเขาว่าดี หากแต่ใครอ่านเว็บแล้วสนใจทำบุญที่วัดก็เชิญ เป็นการบอกบุญวิหารทานที่จะเริ่มในวันพ่อนี้ด้วย และจะป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตจำลองหรือพระเจ้าห้าพระองค์ด้วย โดยคงต้องสร้างใหม่เองด้วยหลักสูตรของหลวงปู่ทองทิพย์ที่บอกพระท่านไว้ สูตรการสร้างบรรจุ หลวงปู่ก็คงไม่ได้บอกใครมาก ครูบาอาจารย์คงรู้มาก่อนแล้วว่าจะขัดกันยังงี้ บางเรื่องจึงควรเปิดเผย บางเรื่องจึงควรลับ บังมารท่านหน่อย เยอะทุกยุค
ผมว่าก็ดีนะจะได้จบๆ ปัญหา ของคณะสร้างในตอนนี้ นำกำลังเชี่ยวมากเชียว ส่วนทางวัดป่าสีดาฯ ก็คงดำเนินกิจกรรมต่างๆ ต่อไป เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น และหลวงพ่อก็คงเริ่มสร้างวิหารกับพวกลูกศิษย์ที่ศรัทธา หรือผู้แวะเวียน และผมเองด้วยที่คงต้องเริ่มเก็บเงินเพื่อร่วมถวาย วันนี้วัดยังมีเงินน้อยมาก แค่ไม่ถึงสองแสน ก็คงประคับประคองเริ่มเดินต่อไป ตามหน้าที่ ตามวาสนา อย่างที่คุณ Aunyasit บอกว่าคนมีวาสนา มีสิทธิเท่านั้นจะสร้างได้ ผมก็จะบอกบุญทุกท่านในที่นี้ไว้เลยว่าถ้าท่านยังไม่มีนาบุญในใจ ก็เชิญมาช่วยทำวิหารทานที่วัดนี้ได้นะครับ ศีล และภาวนา ก็พึงดีตามมา ตามวัตรอันดี และถูกต้องของท่านครับ ขอบคุณครับ

 

อีกอย่างคุณ Aunyasit ให้ไปถามพระหลังวัดที่เป็นหลานหลวงปู่ ผมก็ไปถามมาแล้วครับ ท่านคิดเห็นเหมือนผมกว่า 95 % ครับ ที่ท่านสอนผมก็คือไม่อยากให้ใครขัดแย้งกัน จริงอยู่ลูกศิษย์หลวงปู่น่ะเยอะ พระอื่นที่มีอภิญญาศักสิทธิ์ก็มาก ต่างคนก็ว่าต่างรับหน้าที่ต่างๆ ไป บ้างว่าใกล้ชิด บ้างว่าต่างๆ นาๆ ผมก็อนุโมทนาด้วย แต่ที่สำคัญท่านไม่ได้เร่งรัดเรื่องพระเจ้าห้าพระองค์เท่าไรนัก ถ้าสร้างแล้วบริสุทธิ์และถูกหลักสูตรก็ดี แต่ถ้าไม่ ก็ต้องทำใหม่ให้ถูกอยู่ดี
ที่สำคัญที่สุดคือท่านก็อยากให้ทุกคนที่ศรัทธาสร้างวิหารรักษาร่างหลวงปู่ก่อนในสิ้นปีนี้ อย่างอื่นค่อยว่ากัน เพราะลูกศิษย์ทุกฝ่าย(เท่าที่ได้ตกลงกันเป็นสัจจะ) ให้คำพูดกันไว้ว่าครบปีที่ห้า จะทำวิหารให้ท่าน ท่านบอกอีกว่าอยากให้ผู้พันช่วยอยู่เหมือนกัน ระยะหลังนี้ห่างหายไป วัดก็วัดป่า อยู่ก็อยากฝากผีฝากไข้บ้างมีทหารดูแลก็ดี ดีที่มีรุ่นน้องแวะเวียนอยู่เสมอ...
ดังนั้น ผมว่าก็ต้องภายในปีนี้แหละ ได้เริ่มก็ยังดีครับจะกี่สิบกี่ร้อยล้านบาท ก็ต้องมีเริ่ม และบุญนั้นพึงบริสุทธิ์ด้วยความเห็นพ้องจากการบริจาคทานแด่สงฆ์ ตามจิตศรัทธา
ผมว่าผมเองชี้ประเด็นต่างๆ ให้เห็นเยอะอยู่ การเริ่มของผมทำให้เว็บร้อนได้ และคงกลั่นกรองผู้ร่วมบารมีในสายต่างๆ ได้บ้าง ผู้พัน Aunyasit ก็คงนำพาหมู่คณะต่ออยู่แล้ว ผมว่าท่านไม่ท้อถอย ปัญหาที่ผมเคยชี้ไปยังไงก็ต้องเจอ และท่านก็ต้องแก้ด้วยสติปัญญาไม่ว่าช้าหรือเร็ว ผมว่าบางที่อาจมีเหตุผลที่ดีก็ได้ คนสนใจเรื่องราวที่คุณสร้างมา เล่ามามาก เมื่อเจอปม ผู้คนก็ยิ่งสนใจในการแก้ และเลือกทางเดินตามต้องการ ปราชญ์จะเข้าใจเองว่าอะไรสำคัญกว่ากันในร่างกาย ผมว่าหัวใจนะ ที่พึงรักษาให้ปลอดภัยที่สุด และสมพระเกียรติของหลวงปู่ (เฉกเช่นที่ใครๆ ก็รักพ่อแม่ของตน )

 

แด่ ทุกท่าน
ผมเป็นปุถุชนทั่วไปคนหนึ่ง
ผมเล่าเรียน ใช้ชีวิตทั่วไป กระทั่ง
ผมมาเจอครูบาอาจารย์ เป็นพระสงฆ์ ปฏิบัติดี
กรุณาเมตตาสั่งสอน ตักเตือน ว่ากล่าวให้กระผม ได้ดี
ทั้งทางโลก และทางธรรม โดยเฉพาะทางธรรม ท่านเมตตาสั่งสอน
เล่าให้ฟังเรื่อง ลึกซึ้งของ ธรรมมะของพระพุทธเจ้ามากมาย และน่าทึ่ง
จนปุถุชน กล่าวว่าเหลือเชื่อ แม้ผมเอง ก็เหลือเชื่อ
ที่หากครูบาอาจารย์บอกกล่าว ย่อมตามนั้น
แต่ด้วยความเป็นปุถุชน มีรัก โลภ โกรธ เกลียด ความอยาก และความไม่อยากอยู่ ทำให้ผมมีคำถาม มากมายในสมอง และลังเล สงสัย สิ่งที่รู้ แม้แต่พ่อแม่ ก็ไม่สามารถบอกล่าวได้ เพราะท่านก็เป็นคนทั่วไป
เก็บงำ พูดได้แต่เพียงกลุ่มเพื่อนสายเดียวกัน
กระทั่งบัดนี้ ความลังเล สงสัย ในสิ่งเหลือเชื่อเริ่มมีเค้าความจริง และความเป็นไปได้ และมันก็เป็นของลึกซึ้งของธรรมะ ที่คนทั่วไปยากหยั่งถึง
บัดนี้ เพราะความลังเล สงสัย ในสิ่งที่รับรู้ ในครูบาอาจารย์ ทำให้ต้องห่างเหินธรรม และครูบาอาจารย์ และไม่สามารถสื่อกับท่านได้อีก
ยิ่งมารับรู้ ด้วยสิ่งเหลือเชื่อทางธรรม ว่าครูบาอาจารย์ท่าน ยังไม่ทิ้งเรา ยังดูแลเราอยู่เสมอ อยู่ในสายตาท่านด้วยความห่วงใย ด้วยเครือข่ายของ คุณ พระรัตนตรับ ที่ทำให้เราปลอดดภัย และแคล้วคลาด มันเสียใจครับ ความเลวของเราด้วยความเป็นคนทั่วไป ไม่รู้ลึก รู้จริง เช่นครูบาอาจารย์ แต่อุปทานกินหัวคิดไปเอง เพราะความสงสัย จนเกือบจนหลุดไปในโคจร ของกิเลสของโลกโดยกู่ไม่กลับ
ยิ่งตอนนี้ห่างเหินครูบาอาจราย์ เพราะท่านผิดหวังในตัวเราที่สั่งสอนแล้ว ลังเลสงสัยในคุณธรรมของคุณพระรัตนตรัย จนไม่สามารถติดต่อต่อได้ แต่ท่านก็เมตตาไม่ทิ้งเรา นี่แหละครับความเป็นสาวกของตถาคต ที่เปี่ยมธรรม บุญหลือเกินที่พวกเราเกิดใต้ร่มโพธฺทองของพระพุทธศาสนา มาเถอะเรามาร่วมือกัน รักษาพระพุทธศานาให้คงอยู่ตลอดไป ท่านคิดดูว่า โลกนี้เหลือคนนับถือศาสนาพุทธอยู่เท่าไรแล้ว และพระพุทธศาสนาถูกยำยีขนาดใหน ถูกรังแก ขนาดใหน เรามาอนุโมทนาบุญกัน มาร่วมกันสร้างบุญ แม้ทุกอย่างย่อมเป็นตามกรรม แต่บุญอนุโมทนา จากเจตนาบริสุทธ์ไม่มีข้อสงสัย ย่อมเป็นเครื่องช่วยคำยันพระศาสานา บารมีของพระพุทธเจ้ามากมายเกินหยั่งถึง เกินคาดคิด เกินบรรยาย
ธรรมที่พระองค์สั่งสอนมีมาเหมือนกันทุกข์พระองค์ เว้นชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์หลายครั้งพวกเราถูกครอบงำด้วยตัวอวิชชา อุปทาน การเรียน การอาศัยบนโลกมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยกิเลส ย่อมมีฐิติ ที่สูงหลงไปในทางคงแก่เรียน แต่หารู้ไม่พระองค์ท่านรู้มาแล้ว หลายพันปี และสาวกท่านก็ทำได้ ซึ่งตอนนี้นไม่รู้เรานั้นอยู่ที่ใหน
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ล้ำเลิศ ที่สุดแล้ว
เราโชคดีมาอยู่ในกัปป์นี้ ในชาตินี้ ในโลกมนุษญ์นี้ โลกที่เลือกได้ว่าคุณจะไปโลกใหน เมื่อตายแล้วจะไประดับ เทวดา พรกม นิพพาน หรือนรก ทุกคนย่อมเลือกได้
หาทางที่ถูกต้อง ถุกธรรมให้เจอเดินตามนั้น ทางที่ปราศจากอดติ ทางที่เชื่อมั่น ในศรัทธาแท้ เรานั้นมาเจอกัน มาคุยกัน ย่อมมาจากกรรมชักนำ จงอนุโมทนาในบุญ อนุโมนาในธรรม ยึดพระรัตนตรัยเป็นทึ่สุดอย่าคิดก่อน
อย่าร้อนตน ไปก่อน มากมายเรามาทางที่ถุกต้อง ย่อมเป็นทางที่ถูกต้อง
มนุษย์ทั้งหลาย
จงเชื่อในพระพุทธเจ้า เคารพด้วยความจริงใจ มีศีล เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว
สร้างทาน และภาวนา ในหลักธรรม ย่อมหลุดพ้นได้ในชาตินี้
จงมีศรัทธา
จงคิดไว้เสมอธรรมของพระพุทธเจ้ามีอะไรที่ลึกซึ้งงที่คนทั่วไปอย่างไรไม่รุ้อีกมากมาย ฉะนั้นจงมีศรัทธา มีศีล ทำทาน ภาวนา ละเว้นชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธ์แล้วเราจะพบว่าธรรมนั้นลึกซึ่งจริงๆๆ

 

คุณจักรครับ แสดงว่าเรื่องลงตัวแล้วใช่ไหมครับ ถ้าคิดจะทำแบบคุณจักรว่าผมก็ว่า ดีครับ ทำบุญทั้งสร้างวิหารทานและสร้างพระด้วย ดีครับ แต่ทางคุณจักรก็ต้องคุยกับทางคณะคุณอัญญาสิทธิ์ ด้วยว่า คุณอัญญาสอิทธิ์เขาคิดยังไงที่จะเอาพระของเขาไปประทับไว้ที่วิหารทาน เพราะคุณอัญญาสิทธ์ไม่ได้คิดแบบนั้น

 

ดีใจนะครับที่เย็นนี้เราคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ลด Temp หน่อย ความศักดิ์สิทธิ์ของครูบาอาจารย์อันมีมาก่อนมากมาย ก็อยู่ที่ลูกศิษย์ด้วยแหละครับที่จะดำรงเกียรติของท่านช่วยกัน เหมือนหลวงตาบัว ที่เทินทูนพระอาจารย์มั่นผู้เดียว และเป็นคำสอนแห่งความกตัญญุตาที่เราๆ ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างเสมอ

 

ครับก็ขอขยายความนิดนึง ผมไม่ได้คิดว่าจะไม่ทำในบุญนี้เลยซักนิดเดียว ไม่มีลังเลสงสัยว่าจะทำหรือไม่ทำ
เพียงแต่ผมเฝ้้าดูจิตตัวเองอยู่ว่า จะไม่ให้มีอารมณ์อื่นใด มากระทบจิตตัวเองให้กระเพื่อม
ในบุญนี้อยากให้จิตตัวเองใสที่สุด แต่จากการตามดูการโต้ตอบ โดยการใช้กำลังภายในกันทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย โดยที่ผมไม่รู้ต้นสายปลายเหตุใดๆ
จนเกิดความเสียหายต่อจิตและอารมณ์ของทั้งสองฝ่าย และยังกระจายสู่คนรอบข้าง ทั้งศิษย์ และพระอาจารย์ กระทั่งวัดอันสถานที่ที่ควรเป็นสถานที่ที่สงบก็กลับร้อนด้วยความวุ่นวาย
มันทำให้กระทบจิตและอารมณ์ของผมที่อยากทำบุญด้วยจิตสงบ สว่าง กระจ่าง มั่นคง ในบุญ
จนกระเพื่อมไปหมด สำหรับผมไม่คิดหรอกว่า ทำบุญแบบคิดหน้าคิดหลังก่อน มันเป็นการลังเล
เพราะไม่ใช่การรู้แบบปัจจุบันทันด่วน ในขณะที่เขากำลังทำบุญกัน แต่ผมต้องพิจารณาใคร่ครวญ
เพื่อให้เกิดความใส กระจ่าง ในจิตของผม จนเกิดความมั่นคงในบุญนั้นๆ ก่อน และผมก็ได้พยายาม
แล้วที่จะไม่สนใจ ในเรื่องโต้แย้งต่างๆ ไม่รับรู้ปัญหา แต่เมื่อมันกระทบจิตผมจนกระเพื่ิอมแล้ว ผมก็ต้องพยายามชำระใหม่ เคี่ยวจิตผมใหม่อีกและผมก็ไม่กดจิตให้นิ่ง เหมือนเอาหินทับหญ้าหรอก
ผมใช้สติพิจารณาสิ่งต่างๆ ค่อยๆ ขจัดสิ่งที่มากระทบออกครับ

ผมเข้าใจว่าความขัดแย้งในการงานต่างๆ ย่อมต้องมีเป็นธรรมดา การเอาชนะก็เป็นเรื่องธรรมดา
แต่ผมก็ต้องออกมาขอร้องให้คณะทำงานและทุกๆ คนปรึกษาหารือกัน ในงานบุญอันมหาศาล
ทั้งเพื่ออานิสงค์ต่อตนเองและเพื่อให้ผูู้้อื่นได้รับบุญอันนั้นด้วย
หากทุกคนที่มีบุญบารมีสูงๆ ชอบทำบุญและชอบชักชวนให้คนอื่นร่วมทำบุญด้วย
ด้วยความรักและเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ต้องการให้เขาพบแต่ความเจริญด้วยบุญกุศลที่เขาได้ทำ ก็ไม่ควรทำลายบุญนั้นด้วยความสับสนวุ่นวาย
เพราะแทนที่คนที่บุญบารมีน้อยๆจะได้บุญเต็มๆ กลับต้องมาลังเลสงสัยในงานบุญนี้ คงเข้าใจในคำว่า
"คนที่บุญบารมีน้อยๆ นะครับ" ว่าเขาจะคิดอย่างไร เมื่อต้องมาเจอสถานการณ์อย่างนี้
ในเมื่อรู้ว่าการทำบุญไม่ควรเกิดการลังเลสงสัย คิดเผื่อคนอื่นๆ ที่เขาจะมาร่วมบุญด้วย
เพราะผมก็เป็นคนที่บุญบารมีน้อยคนหนึ่ง มองสิ่งต่างๆ ทางภายในไม่ได้หรอกครับ ไม่รู้หรอกว่า
เรื่องไหนจริง เรื่องไหนหลอก และในเมื่อปัญหาต่างๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ได้รับการแจ้งบอกกล่าวให้กระจ่างใจ แม้ไม่ลังเลที่จะทำบุญ ร่วมบุญด้วย แต่จิตกลับไม่มั่นคงในบุญ
อย่างเต็มที่เสียแล้วนะสิครับ เพราะมีความสับสนวุ่นวายมากระทบจิตว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ในสถานการณ์แบบนี้

เคยคิดเหมือนกันหากจะทำบุญแบบตัดปัญหาไม่สนใจสิ่งรอบตัวแล้วจะดีไหม คำตอบมันคือไม่ดีครับ
เพราะว่าการทำแบบนี้ไม่ใชว่า่อยู่เหนือโลกครับ แต่เป็นการหนีโลก

 

ไม่มั่นคงในบุญ ไม่ใช่ว่าสงสัยในบุญที่จะได้นะครับ
แต่ไม่มั่นคงในที่นี้ คือกระเพื่อม ไม่สงบไม่นิ่งใสกระจ่าง ที่จะเป็นฐานส่งพลังให้พุ่งตรงแรงเร็ว

 

สวัสดีค่ะทุกๆท่าน<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
ในการทำบุญนั้นแต่ละครั้งนั้น ผู้ที่ทำบุญย่อมมีเหตุผลต่างกันไป แต่ที่สุดก็เป็นไปเพื่อพระศาสนาทั้งนั้น <o></o>
ดิฉันเชื่อว่าพระพุทธองค์ท่าน ยินดีและชื่นชม ผู้ที่มีจิตบริสุทธิ์ ที่ตั้งใจที่จะทำเพื่อบำรุงพระศาสนา ให้เจริญรุ่งเรือง อย่างแท้จริง<o></o>
ดิฉันมีหลักในการทำบุญ ว่า ตั้งใจทำเพื่อศาสนา ด้วยจิตบริสุทธิ์ ไม่หวังที่จะได้อะไรตอบแทนจากการกระทำนั้น เชื่อว่าพุทธองค์ท่านเห็นเจตนาในการกระทำของเราอย่างแน่นอน และท่านจะประทานพรแก่ผู้ที่มีจิตอันบริสุทธิ์เอง<o></o>
ยกตัวอย่างเช่น วันหนึ่งดิฉันเห็นพระรูปหนึ่งเดินบิณฑบาตรมา และใส่บาตรท่าน โดยไม่รู้ว่าท่านเป็นใครมาจากไหน มีอะไรพิเศษหรือเปล่า ดิฉันทำด้วยจิตที่ระลึกถึงพระพุทธองค์ (พระรูปนั้นคือสาวกของท่าน) ดิฉันก็เชื่อว่าดิฉันได้อานิสงส์ของบุญในครั้งนี้อย่างแน่นอนไม่ว่าพระรูปนี้จะเป็นใคร<o></o>
แต่ถ้าวันนี้ดิฉันเห็นพระรูปนี้เดินมาแล้วต้องการ ให้ท่านชื่นชม และให้พร ต้องการให้ผู้คนมองว่าเป็นผู้ที่บำรุงพระศาสนา ดิฉันว่าการทำบุญครั้งนี้ คงไม่มีอานิสงส์กับดิฉันเลย ถึงแม้ว่าพระรูปนี้จะเป็นพระอรหันต์ก็ตาม<o></o>
เพราะดิฉันเชื่อว่าเจตนาอันบริสุทธิ์นั้น พระพุทธองค์ท่านมองเห็นอย่างแน่นอน และจะประทานพรให้ในที่สุด <o></o>
<o> </o>

 

วันนี้คณะผู้ดำเนินงานได้ไปร่วมทำบุญเททองหล่อพระประธานในอุโบสถของวัดธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม และได้เข้าไปกราบนมัสการหลวงปู่พุทธอิสระ พร้อมกับได้นิมนต์ท่านมาร่วมงานสร้างพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ด้วยครับ ท่านอนุโมทนาในการสร้าง คณะผู้ดำเนินงานจะถวายฎีกานิมนต์ท่านอาทิตย์หน้า

ขออนุโมทนาคุณพรหมิกาด้วยครับ

 

ท่านใดมีภูมิรู้เรื่อง เนื้อนาบุญที่ดี เป็นอย่างไร?
มีกี่อย่าง?
อะไรบ้าง?
อธิบายเป็นทานหน่อยครับ