พระเดชพระคุณ หลวงปู่ดี ธมฺมธีโร วัดส้มเกลี้ยง จ.จตาก(เสกเหรียญท้าวเวสสุวรรณ)

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ ถึงตัวไปไกลแต่ใจยังห่วงหลวงปู่ท่านไว้วันหยุดนัดถวายเพลท่านกันดีมั้ยครับ...

 

ถ้าท่านอยากไปเที่ยวอ่างทอง คุณเด็กไทรน้อยก็อาสาขับรถพาหลวงปู่ไปเลยครับ ได้บุญแถมได้กราบครูบาอาจารย์ท่างโน้นด้วยครับ แหะๆๆๆ

 

ดีครับผม...หากับข้ามมากันคนละอย่างสองอย่าง มาสมทบกัน ได้ถวายเพลหลวงปู่ แถมยังได้พบปะพูดคุยกันด้วยครับ สวนขลังก็เคยทำครับ

 

หลวงปู่ดีท่านเขียนว่าอะไรบ้างครับ...

 

สวัสดีศิษย์พี่ๆทุกๆท่านนะครับ
คำสอนของหลวงปู่ที่ท่านบอกโดนจัยผมมากครับ อันที่จิงแล้ว ผมก็แค่อยากจะได้คำสอนที่หลวงปู่สอนตอนนั้นเท่านั้นเองนะครับ
ท่านเขียนให้ไว้เป็นสิ่งตืนจัย สำหรับคำของท่านฟังแล้วคิดพิจารณาผมมีความรู้สึกว่าประทับจัยหลวงปู่เป็นอย่าง มากครับ
ผมเห็นหลวงปู่ยิ้มหัวเราะมีความสุขก็ชื่นจัย ครับ เอาไว้ให้พี่หนูเล่าก็แล้วกันนะครับ
ผมคาดว่าวันที่ ๒๗ ที่จะถึงนี้ผมจะไปกราบหลวงปู่อีกครั้งครับแต่ก็ไม่แน่จัยว่าท่านจะอยู่หรือเปล่า
พี่ๆใครพอทราบบอกด้วยนะครับ

 

สวัสดีครับ

ประมวลภาพเมื่อวันที่ ๒๑ พย ๒๕๕๓(วันเพ็ญ เดือน ๑๒) หลวงปู่ดีท่านนั่งปลุกเสกมวลสารต่างๆที่เคยเอาไปฝากไว้ที่กุฏิท่านรวมถึง เบี้ยแก้ และ เพชรหน้าทั่ง เพื่อใช้บรรจุในรูปเหมือนหลวงปู่ดีที่กุฏิท่าน ตอนไปถึงกุฏิหลวงปู่ได้สอบถามท่านในเรื่องต่างๆ ภายหลังได้ถามท่านว่า มวลสารและของที่เอาไปฝากไว้ได้อธิฐานจิตปลุกเสกบ้างรึเปล่า ท่านบอกว่า " ปลุกเสกให้ทุกวันเลย " ผมก็เลยบอกท่านว่า " วันนี้ได้นำเพชรหน้าทั่งและเบี้ยแก้มาให้อธิฐานจิตปลุกเสก " หลวงปู่ท่านก็เลยส่งม้วนสายสิญย์ออกมาให้เพื่อให้ผมจัดทำและดำเนินการ เมื่อจัดทำสถานที่เสร็จหลวงปู่ท่านก็ดำเนินการอธิฐานจิตปลุกเสกให้เป็นเป็นเวลาประมาณ ๔๐ นาที จนหมดแรงและต้องนอนพักต่อเพื่อเตรียม นั่งปรกงานของวัดราษฏ์ฯและวันกลางบางแก้วต่อในช่วงค่ำ(กว่าจะตื่นอีกครั้ง ๕ โมงเย็นกว่าๆ) ในระหว่างที่ท่านอธิฐานจิตปลุกเสกมวลสารในช่วงบ่ายอยู่นั้น เรื่องแปลกๆก็เกิดขึ้นเมื่ออยู่ๆฝนก็ได้ตกมาอย่างแรง เมื่ออธิฐานจิตเสร็จหลวงปู่ท่านก็กล่าวแบบอารมณ์ดีว่า " ดีๆ เย็นดี เหล็กมันดีตีทีเดียวก็ดี " แล้วท่านจึงขอตัวจำวัดเพราะหมดแรง

ขอบคุณครับ

เบี้ยแก้และเพชรหน้าทั่งถูกบรรจุลงในถุงผ้ายันต์ลายมือและจีวรของหลวงปู่ดี เป็นถุงผ้ายันต์ที่เคยได้รับการใส่มวลสารและวัตถุมงคลเพื่ออธิฐานจิตมาแล้วในหลายๆงานและสถานที่



เมื่อถึงที่กุฏิหลวงปู่ดี จึงดำเนินการจัดเตรียมและล้อมสายสิญย์รอบๆ



หลวงปู่ดีทำการชุมนุมเทวดา สวดชัยมงคลคาถา ก่อนทำการนั่งอธิฐานจิตต่อไป



หลังจากสวดชัยมงคลคาถาเสร็จท่านจึงดำเนินการนั่งอธิฐานจิตปลุกเสกต่อ



หลังจากนั้นจึงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ลงสู่ วัตถุมงคลและมวลสารต่างๆ

 

สวัสดีครับ

ขณะนี้หลวงปู่ดี ท่านได้เดินทางกลับไปที่วัดราษฏ์ประคองธรรมแล้วครับ เมื่อเช้าได้มีโอกาสคุยทางโทรศัพท์กับ คุณพี่ poon-pan เรื่องการเดินทางกลับของหลวงปู่ คุณพี่ poon-pan ก็ตอบรับมาในทันทีด้วยความจริงใจว่า " ผมขอรับโอกาสนี้เอง " แล้ว คุณพี่ poon-pan ก็ได้ทำการลางานออกมาเพื่อมารับหลวงปู่ดีท่าน ที่ จ.นครปฐม ในเวลาเกือบๆบ่าย ๒ โมงตามที่ได้นัดหมายกันไว้ หลังจากออกจากวัดสิงห์แล้วต่อรอ คุณพี่ poon-pan มาเล่าต่อครับ ขออนุโมทนาบุญในความเมตตาและกรุณาต่อพระภิกษุผู้ชราและอาพาธของคุณพี่ poon-panครับ

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ

ที่หลวงปู่ดีท่านเขียนไว้คือ อุ อา กะ สะ เป็นคาถาหัวใจเศรษฐี



๑ ขยัน ๒ รักษาทรัพย์ ๓ ใช้ทรัพย์พอหามามาก ใช้น้อย



ขอบคุณครับ

 

อนุโมทนาครับ วันที่๒๗ วัดเสาร์ หลวงปู่ไม่น่าไปใหนครับ

 

หลวงปู่อยู่วัดราษฎร์เรียบร้อยแล้วครับ

เมื่อจันทร์เช้า หลวงพี่โทรมา ผมก็นึกว่าจะโทรมานัดล่วงหน้าก่อนสักวันสองวัน แต่กลับเป็นวันนี้เลย ดีใจมากครับที่จะได้ไม่ต้องรอนานวัยรุ่นใจร้อน พอหลังจากไปส่ง ลูก ๆ ไปโรงเรียน และ ภรรยาไปทำงานเสร็จแล้วก็เริ่มปปฎิบัติการ โทรไปลางานก่อนเลย ฝากให้น้อง ๆช่วยดูแลงานต่อ

ผมขับรถกลับมาตั้งหลักที่บ้านก่อน กลับมาทำความสะอาด ภายในรถ ดูดฝุ่น ดูดเศษอาหารที่เด็ก ๆ กินตอนเช้า ไม่อยากให้หลวงปู่ขึ้นรถแบบสกปรก
ขับรถจากบางบัวทองไม่นานก็ถึงวัดสิงห์ หลวงพี่เข็นรถหลวงปู่ออกมา ผมก็รับช่วงต่อ นิมนต์ท่านขึ้นรถผม ท่านขึ้นรถเองได้แบบชิลด์ ชิลด์ ผมแค่ช่วยพยุงนิดหน่อยพอได้เอาบุญ

หลวงพี่ถวายปัจจัยให้หลวงปู่แต่หลวงปู่ไม่รับ หลวงพี่เลยมอบให้ผม มาไว้ช่วยค่าน้ำมันกับ ซื้อส้มโอถวายหลวงปู่....อนุโมทนาบุญกับหลวงพี่ สาธุ

ขับอออกมาได้สักพักหลวงพี่โทรมาบอกว่า หลวงปู่ลืมยา ต้องขับกลับมารับยา แล้วก็ขัยออกมาถึงปากซอยที่อยู่ติดกับวัดท่าตำหนัก พอเลี้ยวซ้ายสักแป๊ปเดียว ไม่ห่างจากซอย เห็นมีร้ายขายส้มโอริมทาง ไป จ.นครปฐม
เลยขอหลวงปู่แวะเข้าไปซื้อสัมโอ แต่เห็นมีมะพร้าวเผาขายเลยซื้อถวายหลวงปู่ ลูกนึง เข้าไปซื้อสัมโอ แม่ค้าใจดี พอรู้ว่าจะซื้อถวายพระ ลดราคาให้ใหญ่เลย (ถ้าใครมีโอกาสผ่านไป นครปฐม อย่าลืมไปช่วยอุดหนุนของเขาหน่อยนะครับ ร้านนี้เขาเลี่ยงหมาพันธ์แคระ ตัวเล็ก ๆ )

น้องเขาลดราคาให้เยอะมากว่าที่เคยลดให้เจ้าอื่น ผมเลยต้องพาน้องมากราบหลวงปู่ และก็เรียนหลวงปู่ให้ทราบถึงความใจบุญของน้องเคัา หลวงปู่ก็ให้พร เราสองคนนั่งรับพร อยู่ตรงข้างรถจนเสร็จ แล้วผมก็ขับรถออกมา หลวงปู่ท่านก็ว่า ดีแล้วที่เขาทำบุญ เพราะเรือกสวนไร่นา มีเทวดารักษาอยู่ เขาจะได้มีความสุข และก็จะได้ช่วยเหลือให้น้องเค้าดีไปด้วย (อะไรทำนองนี้)

หลวงปู่ท่านคิดถึงกุฎิมาก ผมก็ว่าไม่ไกลหรอกครับหลวงปู่เดี๋ยวก็ถึงแล้ว ขับมาถึงวัดราษฎร์ ฯ ก็ประมาณ บ่ายสามโมงนิด ๆ หลวงปู่ท่านเดินขึ้นกุฎิเองเลย ผมไปรับไม่ทันมัวแต่เปิดประตูอยู่ ท่านขึ้นมาได้ก็ ล้มตัวลงนอนเลย ผมก็รินน้ำให้ท่านแก้วนึงแล้วก็ขอลาหลวงปู่ไปดูอาหารที่จะถวายให้หลวงปู่ตอนเย็น ไปเสียอยู่นานเลย ...นู้นไปโผล่อยู่ที่วัดตะเคียน ดอดไปรับเสือประธานกฐิน (ใบรับเลข 243 ยังเจ็บใจไม่หาย) 1 ตัว เสือรองประธาน 1 ตัว และเสือจันทร์เพ็ญ อีก 2 ชุด ทำบุญถวายค่ารักษาหลวงปู่แย้มไป ห้าร้อยบาท

กว่าจะได้ออกมาก็สี่โมงเย็น ขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนใหญ่ เห็นมีร้านขายโจ๊กอยู่ชื่อร้านเจ๊หุย แหมเข้าทางพอดี กำลังว่าจะไปหาซื้อที่ไหนหว่าที่จะสะดวก ไม่เสียเวลาเพราะเดี๋ยวต้องรีบขับรถไปรับลูกที่ รร. แถมยังต้องไปรับภรรยาอีก ทันทีที่คิดเสร็จก็รีบจอดรถเข้าซ้ายเลย ร้านก็ยังเตรียมไม่เสร็จดี เลยต้องนั่งรออยู่สักพัก นึกขึ้นมาได้ว่า ที่กุฎิหลวงปู่มีอุปกรณ์พร้อมนี่น่า เลยรีบบอกเจ๊แกว่า เดี๋ยวผมเอาไปตั้งไฟต่อเอง แล้วก็ได้มา โจ๊ก สองถุง ถุงนึงเป็นโจ๊กเปล่า อีกถุงโจ๊กใส่หมู รีบขับไปวัดตะเคียนไปถึงหลวงปู่ตื่นพอดี
เลยเรียนหลวงปู่ว่า ผมซื้อโจ๊กมาครับ หลวงปู่จะฉันเลยหรือเปล่า หลวงปู่บอกว่า จะฉันเลยเพราะต้องกินยา ผมก็เลยนำมาใส่หม้อตั้งเตา และตักแบ่งเป็นสองชาม จะได้เย็นไว ๆ ส่วนกับข้าวนั้นก็เป็นปลาที่หลวงปู่นำมาจากวัดสิงห์เป็นปลาทอดตัวเล็ก กับเนื้อทอด ผมก็เลยตักไชโป๊ว ใส่ชามถวายเพิ่มให้แก้เลี่ยน

ส่วนส้มโอ กับ มะพร้าวเผาที่ซื้อมาจะให้แม่ไปถวายตอนเพลครับ ผมบอกแม่แล้วให้ยำปูเค็มกับซื้อก๋วยเตี๋ยวปลาเส้นใหญ่ หลวงปู่จะฉันได้เยอะดี

จบรายงาน ไม่รู้จะทนอ่านกันไหวหรือเปล่า ผมเล่าเสียซะละเอียดเลยครับ

ส่วนตอนเช้า วันอังคารนี้เหมือนเดิม ข้าวต้มปลากะพง

 

ขออนุโมทนาด้วยครับ...

หลวงปู่ท่านคงอยากกลับวัดเร็วๆ ได้พี่อุปฐากอีกคน

เราลูกศิษย์ไกลๆก็คลายกังวลครับ ขอบพระคุณครับ

 

เช้าวันนี้....กราบนมัสการหลวงปู่ดีครับ

 

ขอบคุณครับ พี่ puedpunon ไม่ทราบว่าหลวงปู่ท่าน ฉันอาหารบำรุงประเภทไหน เช่น แบนไหมครับ หรือแบบไหน ช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ
วันเสาร์คนเยอะไหมครับ
อยากให้ท่านอารมดีเหมื่อนวันที่ผมไปกลับพี่หนูนอเวย์ แบบนั้นตลอดๆเลยนะครับ ท่านยิ้มๆดูเหมื่อนท่านมีความสุขมากครับในวันนั้นท่านได้สอนอะไรๆหลายๆอย่างเป็นความประทับจัยผมมากที่สุด

 

สวัสดีครับ

ในวันที่ ๒๑ พย ๕๓(วันเพ็ญ เดือน ๑๒)ช่วงค่ำหลวงปู่ท่านออกมาเพื่อนั่งปรกอธิฐานจิต ในระหว่างนั่งรอพระนั่งปรกรูปอื่น พอมีคนรู้ว่ารูปนี้คือ หลวงปู่ดี พระเกจิที่เคยอยู่วัดเทพากร ญาตโยมก็กรูเข้ามาขอพรและทำบุญกับหลวงปู่ดีท่านไม่ขาดสาย (มุมที่ท่านนั่งอยู่ยุงเยอะมากๆ)จนถึงเริ่มพิธี

ขอบคุณครับ




หลังจากนั้นท่านจึงเดินทางมาต่อที่ วัดกลางบางแก้ว ในสภาพที่อ่อนเพลีย เมื่อถึงอุโบสถวัดกลางบางแก้ว หลวงปู่ถึงกับอุทานออกมาว่า " สูงจังเลย " แล้วท่านก็ลุกขึ้นจากรถเข็ญเอามือไพล่หลังเตรียมเดินขึ้นไป แต่เจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้นให้ท่านนั่งลงแล้วช่วยกันยกรถเข็ญขึ้นไปแทนทั้งขึ้นและลง



ท่านนั่งปรกอยู่ที่วัดกลางประมาณชั่วโมงกว่า จึงออกมาด้วยสภาพที่อิดโรยมาก เมื่อมาถึงกุฏิที่วัดสิงห์ ท่านชวนคุยอยู่แปล๊ปนึงพอหันไปอีกทีท่านก็หลับไปแล้ว

 

สวัสดีครับ

ในระหว่างรอหลวงปู่ดีท่านตื่นตอนช่วงเย็น วันที่ ๒๑ พย ผมก็แอบไปวัดตะเคียนมาเพราะได้ยินข่าวว่าแจกเสือ พอสอบถามเจ้าหน้าที่ของวัดตะเคียนเขาตอบว่า แจกหลังพิธีเสร็จตอน ๕ ทุ่ม-เที่ยงคืน(ประมาณนี้จำเวลาไม่ได้)ก็เลยอดเพราะติดภารกิจในช่วงค่ำอยู่ ได้บูชามาแต่เสือขี่ปลัด๔-๕ตัว ก็เลยเอามาแจกพระและคนแถววัดสิงห์หมดไปแล้ว ตอนไปถึงวัดตะเคียนช่วง ๔ โมงเย็นคนเยอะมากๆ

ขอบคุณครับ

 

เคยเห็นมีคนเอาซูปไก่และรังนกมาถวายหลวงปู่เหมือนกันครับ แบรนก็ได้ครับผม วันเสาร์ถ้าไม่มีอะไรพิเศษคนก็ไม่เยอะหรอกครับ

 

อนุโมทนากับหลวงพี่เอกครับ ที่ดูแลอุปฐากหลวงปู่ ได้ข่าวว่าเหนื่อยมาก

เพราะต้องออกจากวัดสิงห์ไปหาหลวงปู่ตั้งแต่ตี๔ ขอบพระคุณครับ

 

สวัสดีครับ

ช่วงเช้าของวันที่ ๒๒ พย ๕๓ เมื่อหลวงปู่ดีฉันเช้าเสร็จ ท่านก็พักต่ออีกรอบ พอตื่นขึ้นมาท่านก็เลยถูก อาบุญธรรม จู๋ยืนยง ฆราวาสคนดังของวัดสิงห์จับบีบและนวดทั้งตัว โยมที่มาคอยเยี่ยมหลวงปู่ดีต่างกล่าวเสียงเดียวกันว่า ตาธรรม เบาๆหน่อยนะเดี๋ยวหลวงปู่กระดูกหักท่านอายุ ๙๒ แล้ว แต่หลวงปู่กลับกล่าวว่า ดีๆ เขานวดดีมากๆดีกว่าหมอที่เรียนมาตามตำราเสียอีก อาบุญธรรมยังกล่าวแบบติดตลกกับหลวงปู่ว่า " เป็นยังไงก็พูดดังๆนา ผมหูตึง " แล้วถามหลวงปู่ต่ออีกว่า " หลวงปู่มีลูกกี่คน " หลวงปู่บอกว่า " จะมีได้ยังไง บวชมาตั้งแต่อายุ ๑๘ " อาบุญธรรมก็กล่าวแหย่อีกว่า " อ้าว...ธรรมดาผู้ชายจะต้องมีลูก ๒ ติดตัวมาแต่เกิด ไหนลองดูซิ(แล้วทำท่าจะเปิดของหลวงปู่ดู) " แหม๊...งานนี้หลวงปู่รีบปิดแทบไม่ทัน

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ

เรื่องอาหารต้องรอ คุณพี่poon-panหรือคุณพี่praram7 เข้ามาตอบครับ เพราะขณะนี้เรื่องอาหาร คงไม่มีใครรู้ใจเรื่องอาหารการกินของหลวงปู่ได้ดีเท่า คุณพี่poon-panและคุณแม่ของคุณพี่poon-panและคุณพี่praram7แล้วหล่ะครับ คุณพี่ทั้ง๒ และคุณแม่ของคุณพี่poon-pan จะรู้ว่าสิ่งไหนหลวงปู่ฉันได้สิ่งไหนหลวงปู่ฉันไม่ได้

ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณหลวงพี่ที่ให้เครดิต ผมกับแม่

เรื่องของบำรุง เท่าที่ทราบมาสด ๆ ร้อน ๆ ตอนที่ขับรถไปรับหลวงปู่กลับมาจากวัดสิงห็ ก็คือ

เห็ดหลินจือ สกัดเป็นแค็ปซูล สูตร สอง แต่ยี่ห้อจำไม่ได้แล้ว เพราะดูตอนขับรถอยู่ ท่านบอกว่าดีมาก คุณโจ้ ซื้อถวายอยู่เป็นประจำ ยังไงก็ลองถามรายละเอียดกับคุณโจ้ดูอีกทีครับ ไม่รู้ว่า พอจะมีใครมีเบอร์โทรของคุณโจ้บ้างครับ ( ส่วนพวก ชา กาแฟ นั้นหลวงปู่ไม่ฉัน ผมไม่รู้รวมไปถึง พวกโอวัลติน ด้วยหรือเปล่า แต่เท่าที่สังเกต ถ้าเป็นอะไรที่หวาน ๆ หลวงปู่มักจะไม่ฉัน ครับ )

ส่วนเพลวันนี้ แม่ผมไปถวาย ยำปูเค็ม กับก๋วยเตี๋ยวปลา เส้นใหญ์ และส้มโอ (ไม่น่าจะลืมนะ เพราะผมบอกแม่ไปตอนค่ำ ๆ )

ส่วนตอนเย็นผมขออนุญาตบอกเล่าสู่กันฟังกับเพื่อน ๆ ทุกคนที่อยากไปถวายมื้อเย็นหลวงปู่ ถ้าเป็นไปได้และสะดวกผมว่าน่าจะไปตอน ประมาณ 5 โมงเย็นก็น่าจะดี ผมเห็นจากเมื่อวานที่ได้มีโอกาสถวายโจ๊กครับ คงเหมือนกับมื้ออาหารเย็นที่ รพ. ครับที่เป็นเวลา 5 โมงเย็น

มาถึงตอนนี้แล้วผมก็เริ่มก่อความตั้งใจไว้ว่า จะพยายามขยายกิจการไปถวายมื้อเย็นหลวงปู่หลังงานเลิกให้จงได้ ซึ่งถ้าผมจะผ่านไปถวายก็ยังพอไหวเพราะเป็นทางผ่านไปรับลูกที่ รร. แต่จะอ้อมหน่อย แต่ยังไงก็คงต้องลองปรึกษากับแม่บ้านดูก่อนว่า ok มั๊ย (ไม่อยากเผด็จการ) แต่ใจผมไปแล้ว 100 เปอร์เซนต์ เพราะหลังจากที่ได้มีโอกาสถวายมื้อเย็นแก่หลวงปู่แล้วเห็นว่า เวลา 5 โมงเย็นคงเหมาะสมดีกับการกินยาของหลวงปู่ครับ

อ่านที่คุณเด็กไทรน้อยเล่าให้ฟังในวันที่ไปถวายอาหารเช้าหลวงปู่ ผมขออนุโมทนาบุญด้วยครับ นับว่าเป็นบุญจริงครับ

และขอขอบคุณมากครับ ที่ให้โอกาสผมได้ไปร่วมถวายเพลหลวงปู่ ใจผมนั้นยินดีมากครับ ที่จะได้ร่วมบุญกับเพื่อน กับพี่ กับน้อง ที่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดี ยังไงคงต้องหาโอกาสให้ได้สักวัน เพียงแต่ว่า วันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนมากจะมีภาระเรื่องงานบ้าน หลายอย่าง กอปกับ คิดว่าในวันหยุดคงมีลูกศิษย์ทางไกลมากันบ้างพอสมควร แต่ถ้าจะนัดจริง ก็ยินดีมากครับ แต่กลัวว่าถ้าจะนัดกัน แบบตั้งอกตั้งใจ ส่วนมากตามประสบการณ์ที่ผ่านมานั้น เรามักจะติดอะไรบางอย่าง จะว่างไม่ตรงกันเสียเป็นส่วนใหญ่ เหมือนจะมีอะไรมากีดกันคอยขวางอยู่น่ะครับ ว่ามั๊ย
แต่ถ้านัดกันได้นั้น ผมคงต้อง เคลียร์อะไร อะไรให้ว่าง เพราะตอนที่เจอกันนั้น คงไม่ได้ถวายเพลหลวงปู่เสร็จแล้วก็รีบแยกย้ายกันกลับ คงต้องพูดคุยสอบถามแลกเปลี่ยน กันหลายเรื่อง คงจะเพลิดเพลินกันทีเดียว (เพราะว่าเวลาจะผ่านไปเร็วมาก อันนี้ตามประสบการณ์ที่เคยคุยกับเพื่อนคนที่ชอบทางนี้ครับ ยิ่งคุยกัน ยิ่งได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ยิ่งได้รสชาด รับรอง ลูกเมียจะต้องตาเขียวปัดแน่ จะต้องมาคอยถามว่าทำไมพ่อยังไม่กลับบ้านซักที )...อะไรทำนองเนี้ย ถ้างั้น ผมจะคงต้อง ขอฉายเดี่ยวดีกว่าเนอะ บายใจกว่ากันเยอะ