แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    คำพ่อสอน

    "... การทำให้คนอื่นรัก ยากกว่าการทำให้ เกลียดมากนัก
    กว่าจะเป็นที่รักของใครได้ต้องใช้เวลานาน
    ความรักมันต้อง อาศัยการซึมลึก
    ไม่เหมือนความเกลียดที่ทำง่ายแต่ซึมนาน
    เราดีใจที่รู้ ว่ามีคนรักเรามากมายรอบๆตัว
    มันเป็นภูมิต้านทานความท้อแท้ที่ดีสำหรับเรา
    เป็นเกราะคุ้มภัยให้เราอุ่นใจเสมอ

    ลองดูสิ.. ทำให้คนรอบข้างมีความ สุขเวลาที่มีเรา
    ถ้าเธอทำได้เขายิ้มได้..ทำให้เขาคิดถึง..
    ทำให้เขา ผูกพัน..เธอก็จะรู้ว่า..
    นี่คือกำลังใจที่ดีที่สุด ที่ทำให้ชีวิตเรามีความ หมาย
    ทำให้เรารักตัวเอง และทำให้เรารู้ว่า..
    ลมหายใจของเรายังมีความ หมายสำหรับใคร
    ...อีกหลายคน... "


    แม่สอนว่า

    " ... เรา ควรให้คนอื่น
    มากกว่าการที่คอยให้แต่คนอื่นหยิบยื่นให้เรา
    ลองคิดดู สิ.. ถ้าเธอได้รับของขวัญจากใครสักคน
    ที่เธอรู้จัก หรือไม่รู้จัก
    บางทีอาจเป็นแค่สิ่งของที่ไม่มีค่าอะไรเลย
    แต่ความรู้สึกที่ได้ รับ มันตรงกันข้ามกับราคา
    หรือสิ่งของที่คนอื่นหยิบยื่นให้เรามากกว่าเป็น สิบเท่า
    ความรู้สึกนั้นนะ ไม่ใช่แค่ดีใจที่ได้รับของขวัญนะ


    แต่มันเป็น ความรู้สึกที่คิดว่า
    เขาจำมันได้หรือ เขาคิดถึงเราด้วยหรือ
    มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเหมือนกันนะ
    ถ้าเธอเป็นผู้รับ แล้วเธอเป็นผู้รู้สึก ดี
    ขอให้เธอรู้ไว้ว่า คนที่เป็นผู้รับจากเธอ
    เขาก็รู้สึกดีไม่แพ้กับเธอ หรอกนะ
    แล้วเธอจะรู้ว่าการทำให้คนอื่นมีความสุขได้
    ตัวเธอเองนั่นแหล่ะ ที่จะมีความสุขยิ่งกว่า... "
     
  2. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    10 ปีที่ผ่านมาไม่เท่า 1 วันที่เหลืออยู่

    ความทรงจำเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับคนบางคน

    โดยเฉพาะคนที่มีเวลาดีๆ ที่ใช้กับคนรัก
    ยิ่งเป็นช่วงเวลา ที่หลายคนหวงแหน
    ต้องระลึกไว้ในความทรงจำ ต้องถนอมดูแลให้ดี

    หลายคนจึงไม่อาจตัดใจจากวันเก่าๆ ได้เสียที
    เพราะว่ามีความสุขกับการได้คิดถึงอะไรดีๆที่ผ่านไป
    โดยลืมนึกไปว่าสิ่งที่ผ่านไปแล้วจะไม่มีวันย้อนกลับคืนมาได้อีก
    หากจะต้องตัดใจลืมหรือเดินจากอดีตมาก็ไม่ได้อีก

    เพราะเหตุผลที่ว่า "เสียดายเวลา" ที่คบกันมา
    บางคนคบกันมานานจนแทบจำไม่ได้ว่า
    เคยยิ้มให้กับความรักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
    เพราะหลังๆ มาก็อยู่แต่กับความทุกข์
    จนนึกภาพความสุขไม่ออกแต่ที่ไม่กล้าเลิกเพราะยังคิดถึงวันเก่าๆ

    แค่เสียดายเวลาที่คบกันมาเนิ่นนาน
    โดยไม่คิดเลยว่า ทุกๆวันของวันนี้ พรุ่งนี้และวันต่อๆไป
    ก็จะกลายเป็นเพียงวันเก่าๆ ที่น่าเสียดาย
    และ...เวลาที่น่าเสียดายก็จะเพิ่มขึ้นๆจริงๆ แล้ว วันคืนในอดีต
    ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับเราเลย
    นอกจากมีไว้ให้ นึ ก ถึ ง

    อาจจะทำให้เรายิ้มได้บ้าง แต่ทำให้เราคาดหวังไม่ได้
    เราจะไปหวังว่าวันหนึ่ง วันเหล่านั้นจะกลับา
    หรือจะไปเฝ้าฝันว่าความสุขเหล่านั้นยังคงเป็นปัจจุบัน
    หรือหลอกตัวเองว่าตอนนี้ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเดิม
    จะยังไงก็แล้วแต่คือการหลอกตัวเองทั้งนั้น

    ยอมรับเถอะว่าทุกอย่างได้ผ่านไปแล้ว และจบไปแล้ว
    ความทรงจำเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
    เวลาที่ผ่านมาไม่ว่าจะ 1 ปี 5 ปี หรือกี่สิบปี
    ก้อไม่ได้มีความหมายมากไปกว่า..

    หนึ่งวันข้างหน้าที่เราจะต้องมีชีวิตใหม่
    ที่เราจะต้องเริ่มต้นใหม่
    เมื่อคนเราต้องอยู่กับปัจจุบัน
    เพื่อที่จะสร้างอนาคตให้ตัวเองได้อยู่ในอนาคตที่ดี
    เวลา 10 ปี กับวันคืนที่เคยหวานชื่น
    ไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปกว่า 1 วันแห่งการเริ่มต้น
    1 วันแห่งการแปรเปลี่ยนชีวิตของเราทั้งชีวิต
    ใ ห้ ดี ก ว่ า ที่ เ ป็ น

    " หากจะเสียดายเวลาน่ะ ไม่ต้องเสียดายเวลาที่คบกันมาหรอก
    ให้เสียดายเวลาในวันข้างหน้า
    ที่จะอดทนคบไปทั้งที่ไม่มีอะไรแล้วจะดีกว่า
    แล้วยังจะมาเสียดายอดีต..
    นึกดูดีๆ ว่าเสียดายอนาคต ดีกว่าไหม ลองย้อนกลับไปดูตัวเองด้วยนะ"
     
  3. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    สิ่งที่ควรเป็น สิ่งที่ควรทำ


    ในบางครั้งตัวเรามักจะเกิดคำถามมากมาย ในบางคำถามอาจต้องการคำตอบ และบางคำถามอาจจะสูญหายไปเฉย ๆ พร้อมกับเวลา ส่วนคำถามสำหรับผู้ค้นหาบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไปจากชีวิต ที่มุ่งเน้นของความสำคัญแห่งการดำรงชีวิตอยู่ อาจจะเป็นคำถามนี้ "เราเกิดทำไม?"

    มีหลายครั้งหลายครา ที่เหล่าผู้คนต่างแสวงหาคำตอบจนเสียความเป็นตัวของตัวเอง แต่สำหรับเรื่องง่าย ๆ เช่นนี้ หรืออาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนอื่นกลับถูกเติมเต็มด้วยคำตอบของเด็กสาวที่อายุเพียง 19 ปี ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นและจริงใจตอบกลับมาว่า "คนเราเกิดมาเพื่อมีความสุข" ด้วยประสบการณ์ทั้คุณวุฒิและวัยวุฒิที่สั่งสมผลงานทางด้านวิชาการ การวิจัยหาเหตุผลในบางสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นไป รวมถึงปรัชญาที่ลุ่มลึกสุดหยั่ง ถึงจุดสิ้นสุดในคำถามที่ยากจะเข้าใจด้วยคำตอบง่าย ๆ ไร้เดียงสา

    การแก้ไขปัญหาในชีวิต มีอยู่ 3 รูปแบบใหญ่ ๆ คือ การเข้าสู้กับปัญหา การประนีประนอมกับปัญหา และการปล่อยวางปัญหา หลายท่านอาจจะแก้ไขปัญหาได้ไม่เหมือนกัน เมื่อถึงจุดสิ้นสุดของสิ่งนั้น เราจะได้คำตอบเองโดยธรรมชาติ และเหลือร่องรอยของความสูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป

    การชั่งน้ำหนักทางอารมณ์ เรา ณ เวลานี้ควบคุมสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ด้วยตรรก และจินตภาพ เพื่อคาดหวังสิ่งที่ดี ที่ควรจะได้รับจากใครสักคนหนึ่ง หรือจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งเสมอ ด้วยความอดทน ความพยายาม การยอมรับสรรพสิ่ง ที่ถือว่าเป็นภาระ ซึ่งใช้คำเปรียบเปรยว่า "แบกโลก" ทั้ง ๆ ที่ตนเองนั้นเหยียบพื้นโลกอยู่โดยนัยสำคัญ

    ความฉลาด ไม่สามารถรองรับสิ่งที่เจ็บปวดจากการบั่นทอนสภาพร่างกาย-จิตใจ ได้เลยแม้แต่น้อย หนทางเหล่านั้นถูกปิดกั้น ด้วยความกลัวสูญเสีย การไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าข่ายหลอกลวงตนเองอย่างเห็นได้ชัด รู้ทั้งรู้ว่าหากสิ่งนั้นเป็นจริง เมื่อพิสูจน์แล้วจะสร้างความเสียหาย แต่ผู้คนก็ยังดิ้นรนค้นหาสิ่งเหล่านั้นเสมือนแมงเม่าที่บินเข้ากองไฟอย่างบ้าคลั่ง เล็งเห็นผลที่จะเกิดขึ้นจากความร้อนที่แผ่ออกมา เพื่อต้องการรับรู้ถึง "ความจริงที่ไม่มีประโยชน์"

    หากสักวันนึงเราก้าวสู่จุดมุ่งหมาย สามารถปักธงปลิวไสวอยู่บนยอดเขาที่สูงชันยากที่คนธรรมดาจะไปถึงได้ แต่ความสำเร็จนั้นกลับเป็นเพียงความอ้างว้าง ท่านคิดว่าเหมาะสมหรือไม่ แล้วคำตอบนั้นเล่า

    คนเราเกิดมาเพื่อมีความสุข หรือ เรามิได้เกิดมาเพื่อสิ่งนั้น
    ... กฎ - ไร้กฎ การบังคับ การปล่อยวาง
     
  4. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    กลัวนรก

    ถ้าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่เชื่อเรื่องนรก แต่เคยพลาดก่อบาปหนักไปแล้ว พอได้ยินใครพูดถึงนรกทีไร คงหนาวๆร้อนๆ หรือเย็นวาบที่สันหลังเหมือนมีชนักปักอยู่ทุกที และนั่นอาจเป็นเหตุหนึ่งให้ไม่อยากเชื่อ ไม่อยากฟังเรื่องนรกสวรรค์เอาเลย

    ก่อนอื่นถ้าไม่มีอภิญญา ไม่เคยเห็นนรกด้วยจิต ก็ขอให้ปลอบตัวเองว่าคุณแค่กลัวความคิดมากของตน ไม่ใช่กำลังกลัวนรกของจริง

    มองไปรอบๆตัวดีกว่า ถ้านรกมีจริง เผลอๆตอนนี้อาจโหรงเหรง เพราะวิญญาณที่ควรอยู่แถวๆนั้นมาอยู่แถวๆนี้กันหมด!

    หากกลัวนรก วิธีที่ดีที่สุดคือ ให้เตรียมใจ ลงนรก
    คนที่เตรียมพร้อมจะลงนรกมักไม่ต้องลงนรกกัน ส่วนคนที่มั่นใจว่าฉันขึ้นสวรรค์แน่นั่นแหละมักพลาดลงนรกมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

    นั่นเพราะอะไร? เพราะเมื่อทะนงว่าฉันทำบุญมาก ต้องได้ขึ้นสวรรค์แน่ ก็มักประมาท เลิกสำรวจตัวเอง และไม่ยับยั้งชั่งใจในการคิดฟุ้งซ่าน ในการพูดทิ่มแทงใจคนอื่น หรือกระทั่งในการลงมือทำร้ายใครๆ

    แต่เมื่อระลึกอยู่ว่าฉันทำบาปไว้ไม่น้อย มีสิทธิ์ลงนรกถ้าขาดใจตายเดี๋ยวนี้ ก็มักสังวรระวัง จะคิด จะพูด หรือจะทำอะไรร้ายกาจ
    ก็มักยั้งๆ เหมือนคนรู้ว่าถ่านร้อน เมื่อนึกสนุกอยากสัมผัสก็ย่อมยั้งมือ ไม่จับเต็มกำ


    สรุปเบื้องต้นคือ ความประมาทมักอยู่กับคนเชื่อมั่นเกินเหตุว่า ข้าคือเทวดา มีที่หมายเป็นสวรรค์
    ส่วนความสังวรระวังมักอยู่กับคนที่รู้ตัวว่าก่อบาปก่อกรรมมาไม่น้อย อยากกลับตัวกลับใจหนีนรกกัน


    เพื่อสำรวจให้รู้ว่าคุณเป็นพวกมีสิทธิ์ลงหรือไม่ต้องลงนรก มีวิธีง่ายๆ คือถามตัวเองว่าในเวลาส่วนใหญ่ คุณสบายใจหรือไม่สบายใจ
    สภาพทางใจนั่นแหละ กำลังฟ้องอยู่อย่างโจ่งแจ้งว่าสภาพที่เหมาะสมกับใจควรเป็นอย่างไร โดยเฉพาะหลังจากไร้กายหยาบนี้ให้อาศัยอีกต่อไป


    ความสบายใจ คือ อะไร?
    คือเย็น คือโล่ง คือเบา...
    ส่วนความไม่สบายใจ คือ อะไร?
    คือร้อน คือทึบ คือหนัก...

    โลกนี้เหมือนป่าที่ไฟกำลังลามไล่สัตว์ทั้งหลาย เมื่อไม่ฝึกหนีไฟ ไฟย่อมถึงตัวและคลอกคุณมอดไหม้ได้ทั้งหมด

    ถึงแม้จะเห็นตนเองเป็นคนดี ทำบุญไว้มาก และไม่คิดเบียดเบียนใครก่อน แต่ถ้าไม่ฝึกหนีไฟแล้ว ไฟโกรธจะเป็นบทลงโทษขั้นต้น
    ไฟแค้นจะเป็นบทลงโทษขั้นกลาง ไฟนรกจะเป็นบทลงโทษขั้นสุดท้าย และสิ่งที่ถูกเผาผลาญก็ไม่ใช่อะไรอื่น คือจิตวิญญาณของคุณเอง!


    เมื่อจิตวิญญาณถูกไฟโทสะเผาผลาญอยู่ คำว่า "ไม่สบายใจ" คงนับว่าน้อยไป

    หนักกว่านั้น ถ้าเลือกจะยืนอยู่ข้างคนเลว ก่อบาปทั้งรู้ ระราน มุ่งประทุษร้ายหมายขวัญใครต่อใคร จนจิตใจด้านชา ปราศจากความละอาย ก็เปรียบได้กับนักสะสมของเหม็น เพราะความชั่วเปรียบเหมือนของเหม็นและ กลิ่นเหม็นแห่งบาปนั้น ก็น่าขยะแขยงกว่ากลิ่นเหม็นจากรักแร้ที่สะสมแบคทีเรียไว้เป็นไหนๆ เนื่องจาก กลิ่นเหม็นแห่งบาปจะเป็นชนวนให้เกิดความไม่ยอมรับตนเอง รังเกียจตนเอง ตลอดจนเกลียดกลัวตนเองได้ตลอดเวลา ล้างด้วยสบู่ไหนๆก็ไม่ออก

    เมื่อทราบว่าประตูนรกใหญ่ๆมีอยู่สองบาน บานหนึ่งคือประตูแห่งความร้อนใจที่ให้อภัยใครต่อใครไม่ได้
    กับอีกบานคือประตูแห่งความเหม็นที่ต้องเป็นนักทำร้ายชาวโลก แค่นี้ก็เท่ากับคุณเห็นทางหนีนรกได้ไกลๆแล้ว


    หลังจากเย็นใจที่อภัยได้ และโล่งใจไม่ต้องทำร้ายใคร นานเข้าคุณจะสบายใจ ไม่นึกกลัวนรก แม้บาปเก่ายังคอยหลอกหลอนอยู่ ก็ทำให้ทรมานใจได้เพียงเล็กน้อย เปรียบความรู้สึกเหมือนเตรียมพร้อมจะลงไปใช้กรรมครู่เดียวในนรกขุมตื้นๆ เดี๋ยวก็ได้ขึ้นมา ในเมื่อสะสมความเย็น ความโล่งไว้มากกว่า

    และเมื่อได้ความสบายใจเป็นเกณฑ์วัดความห่างนรก คุณก็จะเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงจิต ว่าการบำเพ็ญตบะให้มาก ตั้งมั่นในทาน ตั้งมั่นในศีล และตั้งมั่นในศรัทธาบนทางนิพพานนั่นเอง คือของจริงที่จะช่วยให้ไม่ต้องกลัวนรกอย่างถาวรครับ เพราะความตั้งมั่นในกรรมอันสว่างขาวเหล่านั้นเอง คือตัวบันดาลให้เกิดความสบายใจหายห่วงไปจนชั่วชีวิต

    ดังตฤณ
     
  5. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    เรื่องสั้นสอนใจ ~ "บันทึกของนักโทษประหาร"

    ผมคือนักโทษประหารคนหนึ่ง เช้าวันนี้ผมและเพื่อนนักโทษอีกคนจะถูกนำไปลานประหาร แล้ว ไม่ช้าห่ากระสุนก็จะจบชีวิตอันชั่วร้ายของผม แต่ก่อนผมและพรรคพวกอยู่ท่ามกลางตีรันฟันแทงหลายครั้ง ต่างคิดว่าไม่กลัวตาย ไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตมีค่าอะไร แต่ขณะนี้ความตายกำลังจะมาถึง กลับรู้สึกหวาดกลัวและรักชีวิตขึ้นมา ตอนนี้ถ้าสามารถให้ผมมีชีวิตยืดต่อไปอีกหน่อยแม้จะเพ ียงไม่กี่นาที จะให้แลกกับอะไรผมยอมทั้งนั้นก่อนหน้านี้เพื่อนร่วมก๊วนคนหนึ่งได้ถูกจับ ทำให้โอกาสที่จะยืดชีวิตต่อไปสิ้นหวัง ตั้งแต่ถูกศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิต ทำให้ความหวังของผมทุกอย่างพังทลายหมด เสียงฝีเท้าของพญามัจจุราชคืบคลานใกล้เข้ามาทุกขณะ ทุกครั้งที่คิดถึงว่าจะถูกนำไปลานประหาร ทำให้ร่างกายสั่นสะท้านทุกที ทุกคืนนอนไม่ค่อยหลับ เรื่องความหวังที่จะได้ยืดชีวิตต่อไปหรือได้รับอิสรภ าพ แม้จะรู้ว่า เป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะทุกอย่างสายไปแล้ว ผมสำนึกผิดและเสียใจกับเรื่องราวในอดีตทั้งหมด ถ้ารู้แต่แรกว่าจะลงเอยแบบนี้ผมคงไม่กล้าทำ

    เมื่อไม่นานมานี้ ผมเริ่มเชื่อเรื่องผีสางเทวดามีจริง ตั้งแต่ผมถูกจับกุมอยูในเรือนจำ ได้อ่านหนังสือธรรมะไม่น้อยแต่ก่อนหนังสือเหล่านี้ผม ไม่เคยสนใจเลย ซ้ำยังหาว่าเป็นเรื่องงมงาย ไร้ สาระ ทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์ระหว่างที่ผมหลบหนีคดีแล้ วถูกวิญญาณพยาบาทตามรังควานจนถึงเดี่ยวนี้ก็ยังมีอยู ่เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีตามที่หนังสือธรรมะว่าไว้ไม่ม ีผิด ผมคิดว่า ถ้าผมเชื่อเรื่องราวในหนังสือธรรมะตั้งแต่แรก ความชั่วร้ายเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้นเป็นแน่ อยู่ในคุกผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ?ท่องเมืองนรก? ทำให้ผมรู้สึกเสียใจและหวาดกลัวมาก ที่แท้คนเราตายแล้วไม่ใช่จบสิ้นทุกอย่างนักโทษประหารเช่นผม ที่ได้สร้างบาปกรรมไว้มากมาย ในภายหน้าคงไม่อาจหนีพ้นการลงโทษจากนรก ไม่รู้ว่าจะได้พ้นทุกข์เมื่อไหร่ และเมื่อไหร่จึงจะได้มาเกิดเป็นคนอีก

    เมื่อวานลูกเมียได้มาเยี่ยม เราต่างรู้ว่านี่เป็นการพบหน้าครั้งสุดท้าย ผมได้หลั่งน้ำตาแห่งความสำนึกผิด เวลา 15วินาทีของการเยี่ยม เราต่างนิ่งเงียบ ผมจะพูดอะไรได้ภรรยาอุ้มลูกน้อยไร้เดียงสา ผมจะทอดทิ้งพวกเขาลงคอได้อย่างไร แต่ผมจะทำอะไรได้ เวลา 15 นาทีผ่านไปเร็วมาก ผมบอกเมียว่าให้ถนอมสุขภาพ เพราะความประพฤติของผมที่ผ่านมาแท้ๆ จึงทำให้ลูกเมียต้องพลอยลำบาก ขอให้เธอให้อภัย และย้ำแล้วย้ำอีก ต่อไปเธอจงอบรมลูกให้ดีควรดูการทำชั่วของพ่อเป็นบทเร ียน อย่าได้เจริญรอยตาม ครั้นลูกเมียเดินจากไป ผมมองตามหลังจนลับสายตา ผมปวดร้าวในหัวใจ ร้องไห้จนสลบไปแต่ก่อนผมไม่เคยสนใจลูกเมียเลย ภรรยาแต่งกับผมมาหลายปี ไม่รู้ว่าต้องทนกับการด่าว่าและเตะถีบจากผมเท่าไหร่ ผมไม่เคยทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีเลย ผมไม่สมควรเป็นคน ผมตำหนิตัวเอง ผมสำนึกผิดเมื่อใกล้จะถูกประหารน้ำมันตะเกียงกำลังจะ หมด ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว

    ไม่นานมานี้ได้ความรู้จากหนังสือธรรมะ ผมยอมรับว่าตอนนี้ผมกลัวตายที่สุด เพราะผมเชื่อแน่ว่าตายแล้วไม่สูญหมด แต่เป็นเพียงวิญญาณหลุดออกจากกายเนื้อเท่านั้น แล้วไปเริ่มต้นอีกมิติหนึ่ง โดยผมจะต้องไปรับโทษอีกตามที่หนังสือ ?ท่องเมืองนรก? บันทึกไว้ ซึ่งเป็นการลงโทษที่โหดร้ายทารุณยิ่งกว่ากฎหมายเมือง มนุษย์หลายร้อยหลายพันเท่า โอ... แล้วจะมีใครช่วยผมได้นี่ ! ขณะนี้ผมกำลังก้าวไปหาความตาย แม้ผมจะสำนึกผิดแล้ว แต่ในตัวผมเต็มไปด้วยบาปกรรม ตอนนี้ผมไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะกลับตัวใหม่ หรือไถ่บาปได้เลย ได้แต่ใช้เวลาและลมหายใจอันจำกัดเล่าบาปกรรมที่ทำมาท ั้งหมดอย่างหมดเปลือกหนึ่งนั้นเป็นการสารภาพบาปสองนั้นเพื่อเป็นบทเรียนอุทาหรณ์เตือนใจแก่ผู้หลงผิด ให้กลับตัวใหม่
    ขอพระโพธิสัตว์โปรดเมตตา ลดโทษทัณฑ์ที่นรกให้บ้างเถิด


     
  6. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ผมเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย ผมเป็นลูกเพียงคนเดียวของพ่อแม่ ดังนั้นตั้งแต่เด็กผมจึงได้รับการตามใจทุกอย่างผมอยา กได้อะไรก็จะได้เสมอ พ่อวุ่นอยู่กับธุรกิจทั้งวัน ส่วนแม่ก็เอาแต่เล่นไพ่นกกระจอก ผมนั้นพ่อแม่รู้แต่เอาใจน้อยนักที่จะอบรม เมื่อนานเข้าทำให้ผมติดนิสัยเที่ยวเตร่เสเพลวันๆ เอาแต่กินดื่มหาความสำราญู ไม่รู้จักความยากลำบากของชีวิต ตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมก็กลายเป็นแก๊งวัยรุ่นที่ เป็นขาประจำของโรงพักแล้ว ซึ่งทุกครั้งพ่อแม่ก็ไปประกันตัวผมออกมา อย่างมากก็แค่ว่าสั่งสอนผมไม่กี่คำ ไม่นานผมก็ประพฤติเหมือนเดิมอีก ตำรวจพอเห็นผมก็ส่ายหัวด้วยความ เอือมระอา

    เมื่อผมเรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้ว ไม่ได้ทำงานทำการอะไร ไปมั่วสุมเสพสารเสพติดกับพวกนักเลง รู้สึกสะใจเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น บางครั้งก็รวมกลุ่มกันไปก่อเรื่องวิวาท ถ้าใครมามองหน้าก็จะถูกผมจัดการทันที มีหลายครั้งที่เกิดการยกพวกตีกันโดยมีผมนำหน้า จนได้รับตำแหน่ง ?พี่ใหญ่? ตอนนั้นผมอายุราว 25 ในวงการนักเลงคนที่จะเป็นพี่ใหญ่ไมใช่เป็นได้ง่ายๆ นอกจากต้องใจเ้ยมแล้วยังต้องมีเงินเพื่อเลี้ยงลูกน้อง ดังนี้ผมจึงมักจะยื่นมือขอเงินกับพ่อแม่ ถ้าไม่ให้หรือชักช้า ผมก็จะด่าใหญ่อย่างไม่เกรงใจหรือข่มขู่ว่าเดี๋ยวน่าด ู มาถึงตอนนี้พ่อแม่เสียใจมากที่แต่ก่อนปล่อยปละละเลยไ ม่ได้อบรม ต่อมาผมได้เปิดบ่อนการพนันครั้งหนึ่งขณะที่ไปทวงหนี้การพนันแทนพรรคพวกได้ทำร้า ยร่างกายฝ่ายตรงข้ามจนบาดเจ็บสาหัส จึงต้องเผ่นหนีไปอยู่ที่อื่น ต่อมาถูกตำรวจจับตัวได้ที่ภาคเหนือ ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี พ่อแม่เสียใจมาก ได้แต่หวังว่าผมจะเข็ดหลาบหรือกลับตัวใหม่ คืนผมออกจากคุก มิเพียงไม่ได้กลับตัว แต่กลับร้ายยิ่งกว่าเก่า พ่อแม่จนปัญญาได้แต่บอกให้ผมแต่งงาน และตั้งใจจะมอบธุรกิจของท่านแก่ผม

    โดยหวังว่าภาระหน้าที่ทางธุรกิจและครอบครัวจะทำให้ผม กลับตัวได้ ต่อมาผมได้แต่งงาน ภรรยาผมเป็นยอดหญิงที่ดีมาก ผมนั้นก่อนแต่งงานเที่ยวผู้หญิงจนเคยตัว จึงไม่เห็นเธออยู่ในสายตา โดยมักจะด่าว่าเธอเสมอ พอมีอะไรไม่สบอารมณ์ ก็มักจะลงมือลงเท้ากับเธอ ปกติเธอเป็นคนยอดกตัญญู ด้วยเกรงพ่อแมจะเสียใจ เธอจึงมักแอบร้องไห้อยู่คนเดียว ผมแต่งงานไมถึงปีก็ถูกตำรวจจับอีกในขณะไปเรียกเก็บค่ าคุ้มครองจากร้านค้า ครั้งนี้ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ติดคุกได้ไม่นาน ภรรยาให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ในวันที่ผมออกจากคุก พ่อแม่และภรรยาได้มารับ เย็นวันนั้นหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ภรรยาผมอุ้มลูกน้อยต่อหน้าพ่อแม่ผม เธอร้องไห้คุกเข่าตรงหน้าผม อ้อนวอนผมให้ตัดสินใจกลับตัวใหม่ ขอให้ผมนึกถึงบุญคุณของพ่อแม่และเห็นใจลูกเมียบ้าง อย่างน้อยที่สุดก็ให้ทำตัวสมเป็นลูกผู้ชายบ้าง เพื่อให้พ่อแม่ ลูกเมียได้เงยหน้าอ้าปาก ผมมองดูลูกชายรู้สึกจะเป็น

    เด็กฉลาดน่ารัก พลันเกิดความละอายใจและเสียใจระคนกัน ได้อยู่ในเส้นทางมืดมากว่า 10ปี ที่จริงก็เบื่อเหมือนกัน จึงรับปากว่าจะกลับตัวใหม่ ทำให้ใบหน้าภรรยาปรากฏรอยยิ้มทั้งน้ำตา พูดตามตรงผมไม่ได้เห็นภรรยายิ้มมานานแล้ว เพราะหลายปีมานี้ ผมไม่เคยมีสีหน้าที่ดีกับเธอ และไม่รู้ว่า ได้ด่าว่าและลงมือลงเท้ากับเธอกี่ครั้งแล้ว พอเห็นรอยยิ้ม ผมรู้สึกว่าภรรยาเป็นหญิงที่สวยมาก ไฉนแต่ก่อนผมจึงไม่เห็น คงเป็นเพราะถูกบดบังด้วยความเศร้าหมองกระมัง ต่อมาคุณพ่อให้ไปทำงานที่โรงงานของท่าน คุณพ่อเห็นว่า ผมยังด้อยประสบการณ์จึงไม่กล้าให้ตำแหน่งหน้าที่ที่ส ูงนัก โดยให้ทำหน้าที่ระดับธรรมดาเท่านั้น เนื่องจากผมเป็นลูกเถ้าแก่ ทุกคนจึงเกรงใจเป็นพิเศษ โบราณว่า ?แผ่นดินเปลี่ยนง่าย สันดานเปลี่ยนยาก? ผมอยู่ในวงการนักเลง เป็นผู้นำจนเคยตัว คิดดูตอนนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน มาบัดนี้ต้องถูกคนอื่นชี้นิ้วบงการ เป็นไปได้อย่างไร

    ผมมักจะโต้เถียงกับผู้จัดการเสมอ โดยเฉพาะขู่ว่าจะให้คน ?จัดการ? เนื่องจากผมเป็นลูกเถ้าแก่ ผู้จัดการไม่อาจทำอะไรได้ เขาถูกกดดันหนักเข้าก็เลยลาออกจากงาน เป็นแบบเดียวกันนี้ติดต่อกันหลายคน ไม่นานผู้บริหารระดับสูงของโรงงานต่างพากันลาออกเกือ บหมด โรงงานอันใหญ่โตถูกผมป่วนจนแทบเป็นโรงงานร้าง เรื่องนี้ทำให้คุณพ่อคิดมากจนล้มป่วย ส่วนผมโรงงานก็ไม่ไปทำแล้ว เมื่อไม่มีอะไรทำก็กลับไปเป็น ?พี่ใหญ่? ในวงการนักเลงเหมือนเดิม รอยยิ้มบนใบหน้าภรรยาเป็นอยู่ไม่ถึงสองเดือนก็กลับมา เศร้าสร้อยอีก คุณพ่อช่วยอยู่หลายเดือน ธุรกิจก็ห่างเหิน ไม่ค่อยได้ดูแลประกอบกับภาวะเศรฐกิจไม่ค่อยดี ธุรกิจทุกอย่างจึงเจ๊งหมดแหล่งเงินส่วนใหญ่ของผมจึงไ ม่มีอีก คุณพ่อถูกกดดันจากเหตุนี้ ทำให้ความดันโลหิตขึ้นสูงจนเสียชีวิต คุณแม่ก็เครียดจากเหตุนี้จนล้มป่วยไปด้วย ส่วนผมก็หลงมัวเมาไม่กลับบ้าน ในใจคิดว่าพวกเขาไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว

    ส่วนภรรยาก็เอาลูกไปฝากแม่เขาเลี้ยง แล้วเช็ดน้ำตากลับมาทำหน้าที่ของลูกสะใภ้ คอยปรนนิบัติดูแลแม่ผม ทุกวันเธอจะตื่นแต่เช้า ทำงานฝีมือจนดึกดื่น เพื่อหาเงินมารักษาแม่ผม คอยดูแลแม่ผมอย่างไม่มีที่ติคนบ้านใกล้เคียงประทับใจ มาก จึงมักจะให้สิ่งของสงเคราะห์ คนชั่วร้ายอกตัญญูไร้คุณธรรมอย่างผม ไม่รู้ว่าถูกคนแช่งชักหักกระดูกแค่ไหน เพื่อรักษาตำแหน่ง ?พี่ใหญ่? เอาไว้ ผมจงจำเป็นต้องตั้งบ่อนการพนัน และเรียกเก็บค่าคุ้มครองรายเดือนจากร้านค้าต่างๆ หากใครไม่รู้จักธรรมเนียมหรือทำอิดเอื้อน ผมก็จะให้ลูกน้อง ?สั่งสอน? ทำให้ร้านค้าต่างๆเกลียดผมเข้ากระดูกดำ ที่สุดทุกคนจึงลงรายชื่อเป็นหางว่าวร้องเรียนไปที่กร มตำรวจ หลังจากทางตำรวจสืบสวนแล้วว่าเป็นความจริง จึงออกหมายจับผมๆ จึงจำต้องหลบหนี
    อีกครั้ง

    ในระหว่างหลบหนีอยู่ ผมได้ข่าวว่าคุณแม่ถึงแก่กรรม ผมนี่นับว่าเป็นลูกอกตัญญูที่สุด ไม่รู้จักว่าความกตัญญูเป็นอย่างไร เพราะไม่มีน้ำใจกับคุณแม่และมีคดีติดตัว ฉะนั้นจึงไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะไปเยี่ยมคุณแม่ คิดแล้วเป็นบาปนักหนา ช่วงเวลาที่หลบหนี เพื่อหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายจึงออกทำการชิงทรัพย์หลายค รั้ง ซึ่งก็ทำสำเร็จทุกครั้งเมื่อ 6 เดือนก่อน ผมกับเพื่อนได้แฝงตัวเข้าไปในบ้านคนรวยหลังหนึ่ง ถือโอกาสไม่มีใครอยู่บ้าน รื้อค้นได้ทรัพย์เป็นจำนวนหนึ่ง และยังเปิดไวน์มาดื่มอย่างสำราญใจ ในขณะที่กำลังจะออกจากบ้าน พอดีหญิงเจ้าของบ้านจูงเด็กสองคนเข้ามา พอเห็นเราทั้งสองเป็นคนแปลกหน้า และเห็นข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้น ก็รู้ว่าโจรเข้าบ้าน จึงกรีดร้องด้วยความตกใจ แม้เราจะห้ามไม่ฟัง
     
  7. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ผมเกิดบันดาลโทสะประกอบกับฤทธิ์สุรา จึงชักมีดแทงออกไป หญิงคนนั้นพอเห็นผมชักมีดก็ยิ่งตกใจร้องเสียงดังลั่น เมื่อถูกผมแทง แกกรีดร้อง ?ช่วยด้วย ช่วยด้วย? ผมแทงซ้ำไปอีกหลายที หญิงคนนั้นใบหน้าบิดเบี้ยวล้มลงสิ้นใจคากองเลือดหลังทำความผิดใหญ่หลวงแล้ว เราก็รีบหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ คดีฆ่าชิงทรัพย์รายนี้ เป็นข่าวครึกโครมอยู่พักหนึ่งพวกเรารู้ดีว่า หากถูกจับได้ต้องตายแน่นอน ดังนั้นเราจึงตกลงแยกย้ายกันหลบหนีช่วงนั้นผมได้แต่อ าศัยเหล้าดับความไม่สงบภายในจิตใจใบหน้าก่อนตายของหญ ิงคนนั้น ผมยังจำติดตาได้ดี

    ต่อมาทุกคืนผมมักจะฝันเห็นผู้หญิงคนนั้น มีเลือดเต็มตัว หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้วพูดว่า ?ไอ้ฆาตกร เอาชีวิตคืนมา? พลางก้าวเข้ามาหาผม ผมกลัวมาก ถอยหลังไปติดมุมห้อง หญิงคนนั้นปรี่เข้ามาบีบคอจนผมสะดุ้งตื่น พอตื่นขึ้นผมไม่กล้านอนหลับอีก เกือบทุกคืนหญิงคนนั้นมักมาปรากฏในฝันของผม หลอกหลอนจนผมขวัญหนีดีฝ่อ ต่อมายิ่งร้ายใหญ่โดยปรากฏร่างให้เห็นขณะยังตื่นอยู่ ไม่ว่าบนเตียงหรือในห้องน้ำ โดยเฉพาะปรากฏอยู่ในแก้วเหล้า ผมถูกหลอกหลอนจนร้องเสียงหลง เนื่องจากตอนนั้นผมอยู่ระหว่างหลบหนีคดี จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนที่อยู่บ่อย ๆ แต่วิญญาณหญิงคนนั้นก็ไม่ยอมเลิกราผมหนีไปอยู่ที่ไหน วิญญาณเขาก็ติดตามไปทีนั่น ทุกครั้งที่ผมเดินอยู่บนถนนจะรู้สึกเหมือนมีคนติดตาม อยู่ข้างหลังทั้ง ๆที่ไม่เห็นมีใคร แต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้า

    ระยะหลังนอกจากได้ยินเสียงฝีเท้าแล้ว ยังได้ยินเสียงโซ่ตรวนกระทบกัน เสียงนั้นทำให้ผมหวนนึกถึงครั้งที่ผมติดคุกที่ขาถูกต ีตรวน หรือว่ายมบาลจะมาเอาตัวผมแล้ว ทำให้ผมหวาดกลัวมาก3 เดือนต่อมาผมเริ่มปรากฏอาการทางประสาทสะลึมสะลือทั้ง วัน ปากบ่นพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์เสื้อผ้าขาดวิ่น หน้าตามอมแมม สารรูปดูไม่ได้มีอยู่วันหนึ่งเงินในกระเป๋าผมหมด ด้วยความหิวโหยจนทนไม่ไหว จึงหยิบฉวยของกินที่เขาวางขายอยู่ริมถนนเจ้าของเหลือ บมาเห็นเข้าร้อง ?ขโมย ขโมย? ผมตกใจวิ่งหนีเข้าไปในตรอก ไม่รู้ว่าสาเหตุใด ผมเกิดหกล้มจึงถูกพลเมืองดีช่วยกันจับส่งโรงพัก เมื่อตรวจสอบประวัติทางตำรวจก็รู้ว่าผมเป็นใคร มีพลังบางอย่างกดดันบังคับให้ผมต้องสารภาพออกมาเอง ถึงการทำผิดกฎหมายต่าง ๆ รวมทั้งคดีฆาตกรรมด้วย

    หลังจากเจ้าทุกข์ชี้ตัว ผมถูกตั้งข้อหาแล้วส่งเข้าเรือนจำ โดยห้ามติดต่อกับุคคลภายนอก ตำรวจออกตามล่าเพื่อนร่วมก๊วนที่กำลังหลบหนี คืนวันนั้นขณะที่ผมอยู่ในเรือนจำ หญิงคนนั้นก็มาปรากฏตัวให้ผมเห็นอีก ในสภาพหน้าตาเขียวคล้ำ ดวงตาเบิกกว้าง มีเลือดโทรมกาย คล้ายผีดิบ มือถือเหล็กแหลมพลางร้องว่า ?ไอ้ฆาตกร แกควรจะถึงวันนี้นานแล้ว คราวนี้ต่อให้มีปีกก็หนีไม่พ้น ฉันจะไปรอแกที่ลานประหาร? พลางทำท่าจะปรี่เข้ามาหา ทำให้ผมตกใจถอยหนีล้มลุกคลุกคลาน หญิงคนนั้นพูดอีกว่า ?ไอ้ชาติชั่ว ยมบาลรอแกมานานแล้ว อีกไม่ช้าแกจะได้รู้รสชาติของนรกบ้างละ? ผมคุกเข่าอ้อนวอนขอให้เขาอภัย หญิงคนนั้นร้องไห้อย่างโหยหวนแล้วหายวับไปกับตา ผมอกสั่นขวัญผวา ในใจคิดว่าที่วันนั้นผมหกล้มอย่างไร้สาเหตุจนถูกจับได้ คงเป็นการกระทำของหญิงคนนั้นอย่างแน่นอน


    ที่จริงถ้าเพื่อนอีกคนยังไม่ถูกจับ ผมอาจมีชีวิตต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่คงเป็นคราวเคราะห์เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนเพื่อนคู่หูของผมถูกจับได้ เราทั้งสองถูกส่งฟ้องศาลอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่ครึกโครม ศาลได้ลัดคิวพิจารณาตัดสินลงโทษประหารชีวิต กำหนดวันเวลาประหารก็คือเช้าวันนี้

    ที่กล่าวมาข้างต้น ผมสารภาพโดยไม่ได้ปิดบังแม้แต่น้อย เพื่อหวังว่าอาจทำให้จิตใจผมสงบลงบ้าง ช่วงที่อยู่ในเรือนจำผมได้อ่านหนังสือธรรมะไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่อง ?ท่องเมืองนรก? ผมอ่านแล้วเกิดความหวาดกลัวจนขนหัวลุกเป็นครั้งแรกใน ชีวิตที่ผมรู้สึกสำนึกผิด แม้จะเป็นสำนึกผิดที่เกิดจากใจจริง แต่ก็สายไปแล้ว ตามเนื้อเรื่องในหนังสือผมรู้ดีว่านอกจากผมจะทำผิดกฎ หมายบ้านเมืองแล้วยังทำผิดทางคุณธรรม และไม่เคยคิดจะกตัญูญูเลี้ยงดูพ่อแม่ หนำซ้ำยังใช้วาจาก้าวร้าวโต้เถียง ซึ่งผิดในข้ออกตัญญู เนรคุณใหญ่หลวง กับลูกเมียไม่เคยเหลียวแลหรือให้ค่าใช้จ่ายแม้แต่น้อย มีแต่ด่าว่าตบตี ซึ่งผิดในข้อไร้น้ำใจ และตัวเองก็ไม่เคยขยันอดทนในทางสัมมาอาชีวะ ซึ่งผิดในข้อเกียจคร้านเอาแต่กิน ดื่ม เที่ยว คนชั่วร้ายที่อกตัญญู ไม่ซื่อสัตย์ เอาแต่เที่ยวเตร่ทำความชั่วตามที่บันทึกใน ?ท่องเมืองนรก? ?ท่องอเวจี นอกจากนั้นจะต้องตกนรกกระทะทองแดงและนรกอื่นๆ แล้ว

    ยังอาจต้องตกนรกขุมอเวจี ซึ่งไม่มีวันได้ผุดเกิดตลอดกาลหรือถ้ามีบุญสักนิดได้ เกิด ไม่รู้ว่าต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานถูกคนเขาแล่เนื้อ เฉือนหนังเจ็บปวดแสนสาหัสกี่ชาติ ถึงจะได้เกิดเป็นคนยากจนแขนขาพิการด้วยความเสียใจและ หวาดกลัวกรรมสนองในภายหน้าทำให้ผมคิดเพ้อฝันว่าจะได้ ยืดชีวิตออกไปอีกสักหน่อย เพื่อจะได้สร้างบุญกุศลไถ่บาป แต่ชีวิตผมกำลังจะสิ้นสุดในอีกไกี่นาทีข้างหน้านี้แล ้ว ไม่มีใรสามารถช่วยผมได้ ผมปวดร้าวและเสีใจ แต่จะมีประโยชน์อะไร ในขณะชีวิตกำลังจะสิ้นสุด จึงเพิ่งรู้สึกชีวิตมีค่ายิ่งนัก โอ...พ่อแม่ ลูกเมีย โลกอันสวยงาม ไหนผมจึงโง่เขลาเช่นนี้ เมื่อสิ้นายสังขาร เมื่อไหร่จะมีอีก เขียนมาถึงแค่นี้ เมืองผมมืดตื้อคิดอะไรไม่ออก เจ้าหน้าที่มาแล้ว เขากำลังจะนำผมไปที่

    ลานประหาร ผมขอร้องพวกเขาให้เวลาผมอีก 5 นาที เพื่อให้ผมได้เขียนบันทึกจนเสร็จ ผมอายุแค่ 30 กว่าปี แต่ได้ทำความผิดไว้มากมาย ผมกำลังจะถูกกฎหมายบ้านเมืองลงโทษ แล้วขอฝากถึงผู้ที่ทำผิดกฎหมายทุกคน ขอให้ดูผมเป็นบทเรียน แล้วรีบกลับตัวโดยเร็วอย่างลังเล ชีวิตเป็นของมีค่ากาลเวลาไม่คอยใคร อย่าเป็นเหมือนผมที่คิดจะอยู่ต่อไปอีกสักหน่อยเพื่อไ ถ่บาปก็ยังทำไม่ได้เจ้าหน้าที่เร่งผมแล้ว แม้จะมีความในใจอีกมากที่คิดจะเขียนแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่หวังให้ทุกท่านจงเชื่อ กฎแห่งกรรมมีจริง และหวังว่าผู้ที่ไอ่านบันทึกนี้แล้ว ได้ใช้เป็นบทเรียนเตือนใจ อย่าได้เจริญรอยตาม หากใครอ่านแล้วสามารถกลับตัวใหม่เป็นคนดี ก็ถือเป็นกุศลอย่างหนึ่งหรือทางยมโลกอาจลดโทษให้ผมบ้าง ซึ่งเป็นความหวังอันเลือนลางของผม


    ขอบคุณวัดป่าโนวิเวก
     
  8. q2499

    q2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +1,844
    พระมหาสุรศักดิ์ อัมพวา ได้เมตตาจะปลุกเสกให้อีกเป็นองค์ วันไหนครับกี่โมงครับเผื่อจะได้ไปร่วมด้วยครับ
     
  9. Tawatchai1889

    Tawatchai1889 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6,406
    ค่าพลัง:
    +16,785
    ผมเคยนำพระสิวลีเนื้อดินเผาหลวงพ่อกวย แช่น้ำอุ่น ใช้พู่กันปัดเบาๆ ทำความ
    สะอาดครับ เนื้อแกร่งนะครับ ไม่ร่วนไม่รานครับ เอาออกมาแป๊บก็แห้ง ผึ่งลมไว้
    แต่คราบบางอย่างติดแน่นไม่ออกครับ
     
  10. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    จริงอย่างที่พี่หนุ่มว่ามาเลยครับ ผมว่างๆก็แวะไปเยี่ยมลุงเค้าเหมือนกัน ลุงเค้าเยี่ยมยอดมากเลยครับ และคุณลุงเค้ายังแอบชมพี่หนุ่มด้วยน๊า:cool:
     
  11. sakuda

    sakuda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +2,214
    ขอบคุรมากครับ สำหรับบทความต่างๆ ผมนั่งอ่านไปเรื่อยๆ ก้ได้ขัดเกลาจิตใจผมไปเรื่อยๆเหมือนกันครับ
     
  12. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    ขอบคุณสำหรับเนื้อหาสาระดีๆครับพี่หนุ่ม ผมอ่านจนเห็นภาพเลย
     
  13. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
  14. นำทาง

    นำทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,181
    ค่าพลัง:
    +7,865
    สวัสดีตอนบ่ายๆทุกท่านครับ วันนี้ เอาพระที่ขึ้นคอองค์แรก ตอนเป็นเด็กจนถึงมัธยมต้นนิดๆ มาให้ชมกันครับ
    พระผงปากน้ำ น่าจะรุ่น4 แท้หรือเก๊อันนี้ไม่ทราบครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF2484.JPG
      DSCF2484.JPG
      ขนาดไฟล์:
      321 KB
      เปิดดู:
      51
    • DSCF2485.JPG
      DSCF2485.JPG
      ขนาดไฟล์:
      342.5 KB
      เปิดดู:
      38
  15. นำทาง

    นำทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,181
    ค่าพลัง:
    +7,865
    ตามด้วยองค์ที่สองเลยครับ ประมาณช่วง ม.ปลาย ที่แขวนองค์นี้ครับ
    พระหลวงพ่อปู่ วัดโกรกกราก สมุทรสาคร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF2488.JPG
      DSCF2488.JPG
      ขนาดไฟล์:
      369.4 KB
      เปิดดู:
      41
    • DSCF2489.JPG
      DSCF2489.JPG
      ขนาดไฟล์:
      382 KB
      เปิดดู:
      48
  16. Tawatchai1889

    Tawatchai1889 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6,406
    ค่าพลัง:
    +16,785
  17. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,151
    ผมพึ่งกลับจากวัด หลวงพ่อกวย เมื่อสักครู่....เดินทางไปรับพระรุ่นฉลองเรือนไทย พิพิธภัณฑ์ 2553 ที่จองไว้ และวันนี้ได้เข้าลอดโลงแก้วของหลวงพ่อ เพื่อเป็นศิริมงคลกับชีวิตด้วย

    .....ไม่แน่ใจว่ามีท่านใดโพสต์ไว้หรือยัง ว่าพระเกจิที่เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเศก ในวันลอยกระทง ที่ผ่านมา มี 11 ท่าน....ผมขออนุญาตโพสต์ก็แล้วกันนะครับ เพราะพระรุ่นมงคลชีวิต ก็ได้เข้าพิธีนี้ด้วย ดังที่คณะกรรมการแจ้งให้ทราบแล้ว....

    1. หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน จ.อยุธยา
    2. หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์ จ.อยุธยา
    3. หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.อยุธยา
    4. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.อยุธยา
    5. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา
    6. หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
    7. หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี
    8. หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้ จ.ชัยนาท
    9. หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ จ.ชัยนาท
    10. หลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี จ.อุทัยธานี
    11. หลวงพ่อบุญมี วัดม่วงคัน จ.อ่างทอง
     
  18. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    สวยครับ...คุณนำทาง...(^_^)....
    สำหรับผมก็มีความทรงจำเกี่ยวกับพระเครื่องที่ติดตัวตอนเด็กเช่นกันครับ..
    มีอยู่สององค์ที่จำได้และหนึ่งในนั้นคือ หลวงปู่แหวน ครับ... รายละเอียดต่างๆเลือนไปกับกาลเวลา....

    [​IMG]


    [​IMG]






     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • aaqq22.jpg
      aaqq22.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.2 KB
      เปิดดู:
      544
    • aarhr.jpg
      aarhr.jpg
      ขนาดไฟล์:
      142.5 KB
      เปิดดู:
      530
  19. chumsakchee

    chumsakchee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    488
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ได้รับพระขุนแผนระฆังทองน้ำมันโปและน้ำมันวาสนาแล้วครับ
    ส่วนลูกแก้วของอาจารณ์ท่านใดครับ
    ขอบคุณครับ
     
  20. yanut

    yanut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +185
    ได้รับพระขุนแผนระฆังทองน้ำมันโปและน้ำมันวาสนาองค์ที่ 2 แล้วเหมือนกันครับ และมีลูกแก้วมาด้วยหนึ่งลูก
    ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...