มาดูสมเด็จกัน

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย wasabi san, 25 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. THANIT LINE

    THANIT LINE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +261
    เข้ามาชมและให้กำลังใจท่าน wasabi กับ ท่าน xlmen และพี่ๆเพื่อนๆทุกคนที่กราบใหว้บูชา องค์สมเด็จโตครับ
     
  2. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    โอววว.....คุณวาซาบิช่างล้ำลึกรอบรู้หลายด้านจริงๆ ครับ นับถือครับนับถือ....
    ถ้าไม่รังเกียจข้าน้อยขอคารวะผู้เยี่ยมยุทธ 1 จอก (ที่เหลือยกขวดข้าน้อยขอนะขอรับ....อิอิ)
     
  3. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ต้องขออภัยที่ตอบช้านะครับ...
    เมื่อวานผมนำพระไปเปลี่ยนที่วัดอาวุธ แถวบางพลัดมาครับ...แล้วก็ถือโอกาสเดินสนามหลวงก่อนกลับบ้านครับ....เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานพระเก๊ใหม่กิ๊กหนะครับ....หุหุหุ

    [​IMG]<SCRIPT id=id_predict_include_script type=text/javascript src="http://cdn1.predictad.com/scripts/publishers/sweetim/predictadme.js"></SCRIPT>
    ตอบพระของคุณ krit90<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4088073", true); </SCRIPT> (ต่อ)
    อย่างพระสมเด็จพิมพ์พุทธกวักองค์นี้นั้น....ถ้าพิจารณาพิมพ์แล้วทีแรกผมก็มองว่าพิมพ์นี้ค่อนข้างแปลกๆ กำลังชั่งใจอยู่ว่าใช่พิมพ์ของลป.นาค หรือไม่ ?

    พอค้นในเน็ตดูก็พบว่าพระพิมพ์นี้ของลป.นาคนั้น...ถ้าเป็นพิมพ์ที่สร้างก่อนปี 2495 ส่วนใหญ่พระจะต้องผ่านการลงรักมาด้วย....
    เมื่อได้ข้อมูลพอสมควรแล้วเราก็มาวิเคราะห์พิมพ์ทรงกันครับว่าฝีมือช่างจะทันยุคสมเด็จโตหรือไม่ ?

    ตามบันทึกของลป.คำ ระบุไว้ว่าพิมพ์ปรกโพธิ์นั้นท่านสร้างเมื่อคราวที่ฉลองเลื่อนสมณะศักดิ์ สูงสุดมีเพียงแค่ปรกโพธิ์ข้างละเก้าใบเท่านั้น....
    ในองค์นี้นับใบโพธิ์แล้วด้านขวาของพระมี 9 ใบ ส่วนด้านซ้ายของพระน่าจะประมาณ 12 ใบ....เมื่อเป็นเช่นนี้ก็แปลว่าพระองค์นี้ต้องไม่ทันยุคของสมเด็จโตแน่นอนอย่างมิต้องสงสัยครับ....

    พิจารณาจากเนื้อเป็นปูนเปลือกหอยมีผงพุทธคุณจับตัวเป็นเม็ดๆ...
    ที่ขอบพระด้านบนขวา ช่วงใบโพธิ์ เส้นซุ้ม เส้นฐานกระดานด้านขวาของพระ ซึ่งผงที่ผุดนี้ได้จับตัวเป็นเม็ดแข็งแล้วถือว่าเก่าถึงยุคดีทีเดียวครับ....

    ผิวเนื้อมีการแตกลายงาเห็นคราบรักเช็ดฝังเข้าไปในเนื้อพระ...
    แสดงว่าพระผ่านการลงรักมาจริงเหมือนในประวัติการสร้างพระของลป.นาค.....

    สรุป โดยส่วนตัวผมคิดว่าองค์นี้น่าจะเป็นพระของลป.นาค วัดระฆัง น่าจะสร้างก่อนปี 2495 ครับ....
    ถ้าเป็นหลังปีนี้พิมพ์น่าจะงดงามกว่านี้ครับ...เสียดายที่ถ่ายรูปมาไม่ชัดเลยครับการพิจารณามวลสารระดับลึกคงจะดูยากอยู่ครับ...

    ส่วนพระสมเด็จพิมพ์อื่นๆ นั้น....อาจจะเป็นพระเกจิสร้างก็เป็นได้ครับ หุหุหุ
     
  4. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    [​IMG]
    พระสมเด็จพิมพ์ชายจีวรบาง เกศทะลุซุ้ม อกกระบอกของคุณแจ๊คสแปโร่ว....
    องค์นี้พิมพ์ทรงสวยมากครับฝีมือทางศิลป์แนวของหลวงวิจารชัดเจนมากครับ....

    เนื้อปูนเปลือกหอยผุแล้ว....ความแกร่งของเนื้อไม่มากนักเนื้อออกจะฟ่ามอมแกร่งแต่เปราะ...
    ลักษณะสีของปูนเปลือกหอยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนเป็นตัวบ่งชี้ว่าพระองค์นี้น่าจะเคยเป็นพระบรรจุกรุมาก่อนครับ...

    ถ้าให้ผมวิเคราะห์คิดว่าไม่น่าจะใช่กรุบางขุนพรหม...และก็ไม่ใช่วัดระฆังครับ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นกรุวัดใหม่อมตรสครับ...
    ถ้าเป็นพระที่บรรจุอยู่บริเวณด้านบนสภาพผิวจะดูดีไม่ค่อยมีคราบฟองเต้าหู้เกาะพระนัก....

    องค์นี้จึงจัดเป็นพระที่พิมพ์สวย....มวลสารเยอะดี ผ่านครับ

    ส่วนพระหลวงปู่ทวดนั้นผมดูไม่แตกครับ....แต่ถ้าตอบแบบแนวเน้นอานุภาพลป.ทวดแล้วไม่ว่าจะพิมพ์อะไรถ้าเป็นรูปลป.ทวด ถือว่าดีหมดครับ...
    อานุภาพไม่แพ้พระใหม่แต่ประการใดครับ....ห้อยได้หาง่ายสบายใจแถมสบายกระเป๋าอีกตะหาก อิอิ
     
  5. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    แนวทางการศึกษาพระสมเด็จ

    แวะมาโพสต์บทความดีๆ ก่อนจะไปทำงานต่อ พอดีเคยอ่านบทความนี้แล้วรู้สึกชอบมาก จึงขอนำมาเสนอให้อ่านเล่น อนุโมทนากับเจ้าของบทความดีๆไว้ ณ โอกาสนี้ครับ


    แนวทางการศึกษาพระสมเด็จ
    ของอาจารย์อริยะ สุพรรณเภษัช
    ศูนย์ศึกษามวลสารพระสมเด็จในประเทศไทย



    1. การค้นหาแนวทางการศึกษา

    เนื่องจากปัจจุบันพระสมเด็จที่จัดสร้างโดยสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทั้งสามวัด ได้แก่วัดระฆัง
    วัดบางขุนพรหม และวัดเกศไชโย มีค่าความนิยมสูงและเป็นที่สุดยอดแห่งการแสวงหาของนักนิยมสะสมพระเครื่องและบุคคลทั่วไป เป็นอย่างมาก
    ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่สนใจในศาสตร์พระเครื่องมามากกว่าสามสิบปี แต่เดิมสนใจในพระกรุเก่าเนื้อดิน-ชินต่างๆอย่างเดียว แต่มาภายหลังได้รับแรงบันดาลใจจากการศึกษา เรื่องสมาธิที่ได้มีการพูดถึงพลังแห่งสีขาวที่มีผลต่อการพัฒนาปัญญาญาณที่ได้จากผงวิเศษของพระสมเด็จของสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี และจากการที่มีผู้ประมูลพระสมเด็จ วัดระฆังที่เรียกว่าองค์เสี่ยหน่ำในราคากว่าสามสิบล้านบาท
    [​IMG]

    พระสมเด็จ วัดระฆัง (องค์เสี่ยหน่ำ) ราคาประมูลสามสิบล้านบาท
    ปัจจุบันอยู่กับคุณวิชัย รักศรีอักษร เจ้าของบริษัทคิงพาวเวอร์

    ทำให้ข้าพเจ้าสนใจมาศึกษาในพระสมเด็จของสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี อย่างจริงจัง แต่ได้พบอุปสรรคและความยากลำบากในการศึกษาเป็นอย่างมาก ด้วยสาเหตุแห่งการที่ไม่มีพระสมเด็จแท้ ๆ ให้ศึกษาเลย ซึ่งการศึกษาพิจารณาพระสมเด็จที่กล่าวมาจากตำราพระสมเด็จที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ตำราพระสมเด็จฯ ของตรียัมปวาย เป็นต้น ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการพิจารณาพระสมเด็จไว้ว่าควรศึกษาพิจาณาพระสมเด็จจากหลักใหญ่ ๆ สามประการ ได้แก่ พิมพ์ทรงหนึ่ง เนื้อหามวลสารหนึ่ง และธรรมชาติความเก่าหนึ่ง
    แนวทางการศึกษาพระสมเด็จจากพิมพ์ทรง การที่จะให้เกิดความกระจ่างในการศึกษาพระสมเด็จด้านพิมพ์ทรงให้พอวินิจฉัยได้ด้วยตนเองจำเป็นต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการศึกษามาก เนื่องจากสมเด็จนั้นแต่ละวัดมีหลายพิมพ์ทรง และแต่ละพิมพ์ทรงยังมีไม่ต่ำกว่า 4-5 บล๊อกขึ้นไป ทำให้มีพิมพ์ทรงที่ต้องศึกษาเป็นร้อย ๆ พิมพ์ทรง ทั้งการศึกษาด้านพิมพ์ทรงการดูแต่รูปนั้นย่อมจะไม่ได้ผลดีเท่าการที่ได้ดูองค์จริงเพื่อจะได้ดูมิติเส้นสายในองค์พระต่าง ๆ ด้วยตาตนเอง แต่โอกาสดังกล่าวคงเป็นไปได้ยากลำบากอย่างยิ่งเนื่องจากคงไม่มีใครที่จะให้นำพระสมเด็จที่แท้ๆและสวย ๆสักองค์ออกมาให้พิจารณากัน เนื่องจากค่านิยมของพระสมเด็จทั้งสามวัดในปัจจุบันมีราคาสูงมากถึงหลักล้านบาทถึงหลักสิบล้าน นอกจากผู้ซึ่งมีโอกาสได้เป็นกรรมการในการตัดสินพระเบญจภาคีจะมีโอกาสได้ศึกษาอย่างใกล้ชิด เราท่านซึ่งเป็นคนธรรมดาย่อมขาดโอกาสและเกิดอุปสรรคยากลำบากต่อการศึกษาความรู้เกี่ยวกับพระสมเด็จด้านพิมพ์ทรงเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังมีสามารถที่มีอยู่อย่างจำกัด ต่อทักษะความรู้ในการจดจำลักษณะพิมพ์ทรงพระสมเด็จที่มีอยู่จำนวนมาก ทำให้ข้าพเจ้าให้ความสนใจในการศึกษาในข้อที่เหลือ ได้แก่เนื้อหาและธรรมชาติความเก่าของพระสมเด็จแทน

    2. การค้นพบแนวทางการศึกษาพระสมเด็จจากมวลสารพระสมเด็จและสภาพธรรมชาติความเก่า

    จากการศึกษาจากผู้รู้ที่เป็นเซียนที่คร่ำหวอดในพระตระกูลสมเด็จ ท่านได้ให้ข้อเคล็ดลับ
    ในการศึกษาพระสมเด็จมาแก่ข้าพเจ้าไว้ดังนี้


    เคล็ดลับที่ 1
    ถ้าอยากศึกษาพระสมเด็จแบบเรียนลัดต้องทำดังนี้
    ถ้าอยากศึกษาพระสมเด็จวัดระฆัง ต้องไปหาพระสมเด็จหลวงปู่ปั้น วัดสะพานสูง เนื้อจัด ๆ มาดู
    ถ้าอยากศึกษาพระสมเด็จบางขุนพรหม ต้องไปหาพระกรุวัดเงินคลองเตย เนื้อจัด ๆ มาดู
    ถ้าอยากศึกษาพระสมเด็จวัดเกศไชโย ต้องไปหาพระสมเด็จกรุวั้ดเฉลิมพระเกียรติ เนื้อจัดมาดู
    ทำครบสามประการนี้แล้ว ริดสีดวงด้านดูพระสมเด็จจะขึ้นตาท่านแล

    เคล็ดลับที่ 2
    ตรียัมปวายได้ให้ข้อเตือนใจนักนิยมพระสมเด็จว่า
    จุดชี้ขาดของพระสมเด็จนั้นวัดกันที่เนื้อหาเป็นประเด็นสำคัญเหนือกว่าพิมพ์ทรง
    ไม่มีพระสมเด็จแท้องค์ใด ที่พิมพ์ใช่แต่เนื้อไม่ใช่ หรือพิมพ์ไม่ใช่แต่เนื่อใช่

    เคล็ดลับที่ 3
    การศึกษาพระสมเด็จเมื่อเริ่มศึกษา ควรศึกษาเนื้อพระเป็นหลัก แล้วจึงค่อยไปพิจารณาพิมพ์ทรง
    การศึกษาพระสมเด็จเมื่อเริ่มเก่งแล้ว ควรศึกษาพิมพ์ทรงเป็นหลัก แล้วจึงค่อยไปพิจารณาเนื้อพระ

    เคล็ดลับที่ 4
    การไปสู่บันไดแห่งผู้รู้ในพระสมเด็จ สามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ โดยอาศัยการก้าวบันไดเจ็ดขั้นเรียนไต่เต้าไปโดยใช้การพิจารณาเนื้อพระเป็นหลัก หรือจะเดินบันไดก้าวเดียวเรียนจากพิมพ์ทรงพระสมเด็จโดยตรง ไม่ว่าจะไต่บันไดแบบใด สุดท้ายก็นำพาไปสู่สิ่งเดียวกัน
    เคล็ดลับที่ 5


    ถ้าท่านศึกษาพิมพ์ทรง พระสมเด็จจะมีให้ท่านบูชาน้อยมาก
    พระสมเด็จที่ท่านบูชาได้ คือพระสมเด็จพิมพ์หลวงวิจารฯ
    ถ้าท่านศึกษาเนื้อหา พระสมเด็จจะมีให้ท่านบูชามากมาย
    พระสมเด็จที่ท่านบูชาได้ คือพระสมเด็จพิมพ์โบราณ พิมพ์ช่างสิบหมู่ และพิมพ์หลวงวิจารฯ

    เคล็ดลับที่ 6
    ถ้าท่านไม่เคยพบพระสมเด็จ ท่านย่อมไม่อาจหาพระสมเด็จพบ
    การไม่ได้พบพระสมเด็จ
    ถ้าสามารถเปรียบเทียบได้กับ การที่ท่านไม่ได้เคยพบสรพงษ์ ชาตรี ท่านย่อมไม่รู้จักสรพงษ์ ชาตรี
    แม้ว่าท่านได้เคยพบสรพงษ์ ชาตรีมาแล้ว ท่านก็ไม่รู้จัก ท่านอาจเข้าใจด้วยตนเองว่า สรพงษ์ ชาตรี หน้าตา เป็นเช่นนั้น เช่นนี้ เมื่อใดก็ตามที่ท่านได้พบสรพงษ์ ชาตรี สักครั้ง ท่านก็ย่อมที่จะรู้จักสรพงษ์ ชาตรีการหาพระสมเด็จเช่นเดียวกัน ถ้าท่านพบพระสมเด็จที่แท้จริงสักครั้ง รู้จักพิมพ์ทรง รู้จักมวลสารท่านก็ย่อมที่จะพบพระสมเด็จองค์ต่อไปเรื่อย ๆ


    เคล็ดลับที่ 7
    พระสมเด็จพิมพ์นิยม ของหลวงวิจารฯ เปรียบได้กับนางงามจักรวาล
    พระสมเด็จพิมพ์ช่างสิบหมู่ เปรียบได้กับนางสาวไทย
    พระสมเด็จพิมพ์โบราณ เปรียบได้กับนางงามท้องถิ่น
    ท่านสามารถเลือกสินสอดที่จะไปสู่ขอนางงามต่าง ๆ ตามฐานานุรูปของท่านแล

    เคล็ดลับที่ 8
    ทำไมขายพระสมเด็จองค์เป็นล้านๆ อย่างเขาไม่ได้ ทั้งที่พระของเราก็สวยก็แท้
    ให้คิดถึงลูกสาวของท่าน
    ถ้าท่านเป็นข้าราชการธรรมดา พ่อค้าเล็กๆ สินสอดมาสู่ขอลูกสาวท่าน ห้าแสน ก็หรูแล้ว
    ถ้าท่านเป็นนายพลเอก ผู้ยิ่งใหญ่ สินสอดมาสู่ขอลูกสาวท่าน ก็คงต้องเป็นหลักสิบล้าน
    ถ้ายิ่งท่านเป็นนักการเมืองใหญ่คับประเทศ สินสอดมาสู่ขอลูกสาวท่าน ก็คงเป็นหลักร้อยล้าน
    แต่ทางกลับกัน ถ้าท่านเป็นชาวเขา สินสอดขอลูกสาว อาจเป็นแค่หมูดำ 1 ตัว
    ยกเว้นส่งลูกสาวของท่านไปประกวด ได้เป็น นางงามท้องถิ่น นางสาวไทย นางงามจักรวาล
    สินสอดก็คงต้องปรับขยับกันได้มาก ๆ

    ดังนั้น ถ้าใครจะขายพระสมเด็จได้เท่าไร ก็ทางใครทางมันแล้วกันนะครับ อย่าไปอิจฉาบุญวาสนา
    เขาเลย


    เคล็ดลับที่ 9
    เรื่องแปลกแต่จริงแต่น่าสนใจจากเซียนพระสมเด็จ
    ท่านทราบไหมว่าพระสมเด็จแท้ ๆ ที่เขาซื้อขายกันจริงในตลาดพระ ราคาเท่าไรเป็นส่วนมาก
    เป็นน่าประหลาดใจที่พระสมเด็จที่แท้ ๆ นั้นส่วนใหญ่ ซื้อหากันในหลักร้อย-หลักพัน กับหลักล้านเท่านั้น
    พระสมเด็จหลักร้อย-หลักพัน เป็นพระสมเด็จที่พบฟลุ๊คตามท้องตลาดสนามพระทั่วไป ราคาเท่านี้เพราะคนขายดูไม่ขาดหรือจำต้องขายตามวรรณะที่ถูกกำหนดให้ต้องขายถูกเท่านั้น
    พระสมเด็จหลักล้าน เป็นพระที่อยู่ในมือเซียนใหญ่โครตเซียนทั้งหลาย ราคาเท่านี้เพราะคนขายดูขาด เลยตั้งราคาแพง และคนซื้อก็อยากซื้อกับเซียนใหญ่เพราะมีความเชื่อมั่นในตัวเซียนและใจถึง
    พระสมเด็จที่ซื้อหา ในราคาหลักหมื่นกลางและราคาหลักแสน กลับเป็นพระปลอมมากกว่า อย่างไม่น่าเชื่อ มันแปลกจริงนะ แล้วท่านซื้อพระสมเด็จในราคาเท่าไรจ๊ะ




    เคล็ดลับที่ 10
    การศึกษาเนื้อพระสมเด็จ จัดเป็นวิทยายุทธที่มี 7 ขั้นตอน เหมือนบันได 7 ขั้น และศึกษากันอย่างวิทยาศาสตร์ เพิ่มการใช้สายตาตน ลดการใช้ศรัทธาพึ่งพิง
    ขั้นที่ 1 ต้องสามารถใช้สายตาจำแนกได้ว่า เนื้อพระสมเด็จที่กำลังส่องอยู่นั้นมีมวลสารเก่าปนอยู่หรือไม่ ถ้ามี มีมาก หรือน้อย
    ขั้นตอนนี้ ต้องศึกษาจากตัวอย่างพระสมเด็จแท้ ๆ หรือพระตระกูลสมเด็จยุคต้น ๆ ที่เนื้อจัดมาก ๆ เช่น พระกรุวัดทัพข้าว พระสมเด็จหลวงปู่ภู หลวงปู่อ้น หลวงปู่ปั้น พระสมเด็ววัดเฉลิมพระเกียรติ ฯลฯ
    ขั้นที่ 2 ต้องสามารถใช้สายตาจำแนกได้ว่า เนื้อพระสมเด็จที่กำลังส่องอยู่นั้นมีอายุอยู่ในยุคใด ยุคก่อนสมเด็จ ยุคสมเด็จ ยุคหลังสมเด็จ
    ขั้นตอนนี้ ต้องศึกษาจากตัวอย่างพระสมเด็จ และพระตระกูลสมเด็จทั้งหมด เพื่อศึกษาเนื้อและเปรียบเทียบอายุ
    ขั้นที่ 3 ต้องสามารถใช้สายตาจำแนกได้ว่า มวลสารสำคัญที่อยู่ในเนื้อพระสมเด็จนั้นมีความเก่าแก่ถึงยุคหรือไม่
    ขั้นตอนนี้ ต้องศึกษาจากตัวอย่างสภาพมวลสารในเนื้อพระสมเด็จ เช่น เม็ดผงวิเศษ เกสรดอกไม้ ดินกำแพง ฯ
    ขั้นที่ 4 ต้องศึกษาริ้วรอยต่าง ๆ ในเนื้อพระสมเด็จที่เกิดในสภาพธรรมชาติ ที่จะบอกความเก่าแก่หรืออายุพระสมเด็จได้ เช่น รูพรุนปลายเข็ม รอยปูไต่ รอยปริแยก ฯ
    ขั้นตอนนี้ ต้องศึกษาจากตัวอย่างพระสมเด็จที่มีร่องรอยสภาพธรรมชาติแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะเน้นทางด้านหลังเป็นพิเศษ
    ขั้นที่ 5 ต้องศึกษาริ้วรอยๆ ในเนื้อพระสมเด็จที่พบบนด้านหน้าและด้านหลังพระสมเด็จที่เกิดจากขั้นตอนการสร้างพระี
    เช่น รอยตอกตัด รอยปาดหลังองค์พระ ฯ หรือขั้นตอนการปลอมพระ เช่น นำพระตระกูลสมเด็จที่เนื้อจัดมาทำ
    การเซาะ กรอ แกะ
    ขั้นตอนนี้ ต้องศึกษาจากตัวอย่างพระสมเด็จที่เกิดจากขั้นตอนการสร้างพระ โดยเฉพาะเน้นทางด้านหลังเป็นพิเศษ และพิจารณาพื้นผิวพระสมเด็จที่เป็นสภาพธรรมชาติและที่ผ่านการเซาะ กรอ แกะ
    ขั้นที่ 6 ต้องศึกษาพิจารณารอยแตกหักที่พบในพระสมเด็จ
    ขั้นตอนนี้ ต้องศึกษาจากตัวอย่างพระสมเด็จทั้งแท้และเทียมที่ปรากฎรอยแตก เพื่อเปรียบเทียบรอยแตก ซึ่งจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ฟันธงได้เลย
    ขั้นที่ 7 ต้องศึกษาสภาพธรรมชาติโดยภาพรวมของพระสมเด็จที่เกิดกับองค์พระและเส้นพิมพ์ทรง เช่น สภาพธรรมชาติของเส้นสายในองค์พระสมเด็จ มิติแห่งพิมพ์ทรง เป็นพระถอดพิมพ์หรือเป็นพระกดจากพิมพ์ต้นแบบแท้ ๆ
    ขั้นตอนนี้ ต้องศึกษาและแนะนำโดยศึกษาจากตัวอย่างพระสมเด็จที่มีปรากฎการณ์เหล่านี้

    ถ้าฝึกได้ 7 ขั้นตอนนี้ ก็ย่อมพึ่งพาตนเองได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าอยากพึ่งพอตนเองได้ร้อยเปอร์เซนต์ ก็ต้องไปศึกษาพิมพ์ทรงและหาประสบการณ์เพิ่มเติมมาก ๆ


    เคล็ดลับที่ 11
    การที่มีครูบาอาจารย์เป็นโค้ชสอนการดูพระที่จริงใจกับเรา จะเป็นประโยชน์ ถ้าเรานำพระที่เราเช่าบูชามา เอามาให้โค้ชของเราดู เหมือนกับการตรวจข้อสอบว่าเราผ่านหรือไม่ผ่าน ผ่านหรืี่อสอบได้กี่องค์ และ ไม่ผ่านหรือสอบตกกี่องค์ วิธีนี้จะช่วยทำให้เราเป็นพระได้เร็วมาก แต่เสียเงินมากหน่อยนะ

    เคล็ดลับที่ 12
    ถ้าอยากได้พระสมเด็จนอกจากจะมีสายตาในการเสาะแสวงหาพระที่ดี และ มีเงินหนาแล้ว สิ่งหนึ่งที่จำเป็นมากคือเราต้องสร้างบารมีธรรมร่วมกับสมเด็จโตเพื่อให้ท่านมีเมตตาต่อเรา สิ่งที่ดีที่สุดคือการที่เราสามารถท่องพระคาถาชินบัญชรได้เป็นอย่างดีและถ้าทำได้ควรหาโอกาสไปสวดพระคาถานี้ที่ศาลาหน้ารูปหล่อของสมเด็จโตที่วัดระฆัง สัก 3 จบ 7 จบ หรือ 9 จบ จากนั้นทำบุญกุศลกับวัดระฆังใส่เงินทำบุญมากน้อยตามกำลัง กุศลที่ได้จะดลบันดาลให้ท่านสักวันหนึ่งจะได้มีโอกาสครอบครองพระสมเด็จแท้ ๆ ตามที่ท่านปรารถนาแล

    เคล็ดลับที่ 13
    การเรียนรู้พระสมเด็จ บ้างก็ถือพิมพ์ทรงเป็นสำคัญ บ้างก็ถือเนื้อหามวลสารเป็นสำคัญ บ้างก็ถือความเก่าแก่ของสภาพธรรมชาติเป็นสำคัญ จะยึดถือสิ่งใดเป็นหลักสำคัญก็ขึ้นอยู่กับความถนัดและการได้รับการถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์ของตน แต่สำหรับผู้ที่สนใจการการศึกษาด้านพิมพ์ทรงฝากข้อคิดไว้ดังนี้

    การถือพิมพ์ทรงเป็นสำคัญ

    นอกจากจะมีความลำบากในการหาผู้สอนที่ชำนาญการในเรื่องพิมพ์ทรงแล้วยังต้องมีโอกาสได้ดูพระแท้ใกล้ ๆ ส่องกันจะ ๆ ที่องค์พระ เพื่อหามิติของพระสมเด็จให้ฝังเข้าตา ฝังเข้าสมอง และต้องดูพระสวยพระแท้จำนวนหลาย ๆ องค์เปรียบเทียบกัน ทั้งในสภาพพิมพ์ทรงที่สวยร้อยเปอร์เซนต์ และพิมพ์ทรงที่อาจสึกเลือนไปแต่ยังทิ้งร่อยรอยไว้ให้ศึกษา

    การศึกษาด้านพิมพ์ทรงจากภาพพระ ก็อาจช่วยได้บ้าง แต่ถ้ายังไม่มีโอกาสดังกล่าวก็จะเรียนรู้ได้ยาก ตัวอย่างเช่นมีผู้รู้กล่าวถึงพระสมเด็จว่าได้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบถึง วงแขนของพระสมเด็จที่แท้ ๆ สวย ๆ อุปมาเปรียบเทียบได้ว่า มีความคมลึกจนสามารถเก็บน้ำได้เป็นตุ่ม เป็นต้น ถ้าดูจากภาพทั้งยังไม่เคยเห็นของจริงก็คงจะเข้าใจได้ยาก

    นอกจากนี้มีข่าวลือกันถึงนักปลอมพระระดับตำนาน ชื่อ.............................ได้มีบล๊อกหินมีดโกนที่เป็นแม่พิมพ์พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ของแท้ ๆอยู่กับมือและ ได้ทำพระสมเด็จปลอมออกมาอาละวาดจัดจ้านทั้งเนื้อหาและแม่นตรงทั้งพิมพ์ทรง จนสะท้านวงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถ้าเป็นเรื่องจริงดังว่า ก็คงลำบากถ้าจะศึกษาด้านพิมพ์ทรงอย่างเดียวเพราะต้องถูกทุบแน่นอน


    เคล็ดลับที่ 14
    ข้อคิดสำหรับพระสมเด็จปลอม
    ท่านเชื่อหรือไม่ว่าพระสมเด็จปลอมทุกองค์ต้องมีสักคนหนึ่งที่มีคนดูว่าเป็นพระแท้

    พระสมเด็จปลอมนั้นมีการปลอมในหลายระดับ การจะแยกให้ออกว่าแท้หรือปลอมก็อยู่ที่สายตาคนดูพระเป็นหลัก ว่ามีสายตาในระดับไหน
    ถ้าสายตาดีระดับเซียนใหญ่ด้านพระสมเด็จสายตรง ก็จะจำแนกความแท้หรือปลอมได้สำเร็จเด็ดขาด
    ถ้าสายตาระดับเซียนเล็กด้านพระสมเด็จ,ผู้นิยมพระสมเด็จสายตรง นักนิยมพระทั่วไป และชาวบ้านธรรมดาที่ไม่สนใจเรื่องพระ ก็ย่อมสายตาในการจำแนกพระสมเด็จแตกต่างกันและทั้งยังจำแนกได้ไม่สำเร็จเด็ดขาดต่าง ๆ กันไป

    ดังนั้นอาจเกิดเหตุการณ์ดังนี้
    พระสมเด็จที่เซียนใหญ่ด้านพระสมเด็จสายตรง ดูว่าเป็นพระสมเด็จปลอม แต่ในสายตาเซียนเล็กก็อาจดูว่าเป็นพระสมเด็จแท้
    พระสมเด็จที่ เซียนใหญ่ด้านพระสมเด็จสายตรง เซียนเล็กด้านพระสมเด็จ ดูว่าเป็นพระสมเด็จปลอม แต่ในสายตานักนิยมพระสมเด็จสายตรงอาจดูว่าเป็นพระสมเด็จแท้
    พระสมเด็จที่เซียนใหญ่ด้านพระสมเด็จสายตรง เซียนเล็กด้านพระสมเด็จ นักนิยมพระสมเด็จสายตรง ดูว่าเป็นพระสมเด็จปลอม แต่ในสายตานัยนิยมพระทั่วไปก็อาจดูว่าเป็นพระสมเด็จแท้
    พระสมเด็จที่เซียนใหญ่ด้านพระสมเด็จสายตรง เซียนเล็กด้านพระสมเด็จ นักนิยมพระสมเด็จสายตรง นักนิยมพระทั่วไป ดูว่าเป็นพระสมเด็จปลอม แต่ในสายตาชาวบ้านธรรมดาก็อาจดูว่าเป็นพระสมเด็จแท้

    ทำให้มีข่าวเกี่ยวกับพระสมเด็จชาวบ้านที่ผ่านตานักนิยมพระและเซียน ๆ ต่าง ๆ มา โดยไม่มีใครกล้าซื้อทำให้พระผ่านมาถึงเซียนใหญ่แล้วนำมาขายได้ราคาแพง ๆ บ่อย ๆ

    ดังนั้นพระสมเด็จเป็นพระที่คลาสสิกที่สุด และมีความสุดยอดที่สุดในการเล่นสะสม เหตุจากความดูยากของพระสมเด็จเนื่องจากมีหลายพิมพ์และหลายเนื้อ ตลอดจนแรงจูงใจในด้านราคาทำให้มีการปลอมแปลงพระสมเด็จในระดับสุดยอดทั้งด้านพิมพ์ทรงและเนื้อหา ทำให้กล่าวว่าพระสมเด็จปลอมทุกองค์ต้องมีคนสักคนดูว่าเป็นพระสมเด็จแท้เนื่องจากฝีตาต่างกันนั้นแล

    เคล็ดลับที่ 15
    คำกล่าวจากผู้รู้ในวงการพระสมเด็จ
    พระสมเด็จแท้พันตา ได้รับความนิยมมากกว่าพระสมเด็จที่สวย ๆ ท่านเชื่อหรือไม่
    เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าพระสมเด็จที่สวย ๆ ไม่เคยผ่านการใช้มาก่อน อาจจะเป็นพระสมเด็จที่ดูยากและเสี่ยงต่อการถูกสวดจากประชาชีเซียน ใครที่ได้ไปต้องมีฝีตาและฝีใจที่แข็งมาก ๆ
    แต่พระสมเด็จที่แท้และดูง่ายที่เรียกว่าพระแท้พันตานั้นหายากสุด ๆ เพราะพระแบบนี้ยากที่จะผ่านมาถึงมือเราเพราะว่าใคร ๆ ก็ดูเป็นนั้นเองและยังเป็นพระที่นักนิยมพระแย่งกันบูชา เพราะดูง่าย ไร้เสียงสวดทั้งยังเปิดราคาได้สูงเป็นพิเศษ ดังนั้นตัวท่านเองชอบพระสมเด็จแบบไหนเอ่ย

    เคล็ดลับที่ 16
    การที่จะรู้ว่าพระสมเด็จนั้นแท้หรือไม่ วิธีการหนึ่งที่นิยมกันก็คือการนำไปแห่เซียนพระเพื่อการหยั่งประชามติว่าเป็นพระสมเด็จแท้หรือไม่ ท่านรู้หรือไม่คำพูดที่เซียนผู้รู้ทั้งหลายชอบใช้เพื่อตอบคำถามของท่านการเช็คพระของท่าน แล้วทำให้ท่านเกิดความเบิกบานใจหัวใจพองโตกลับไปทั้ง ๆ ที่พระสมเด็จของท่านเก๊ นั้น มีความหมายเป็นนัยว่าอะไร
    ลองยกตัวอย่างคำตอบของเซียนสักสี่ข้อครับ
    คำตอบที่ 1 พระสวยครับ แปลว่า สวยแต่รูปจูบไม่หอม
    คำตอบที่ 2 พระดูดีครับ แปลว่า พระก็ไม่ได้แตกหักนี่
    คำตอบที่ 3 พระดูง่ายครับ แปลว่า พระองค์นี้เก๊ดูง่าย
    คำตอบที่ 4 พระทันยุคครับ แปลว่า พระองค์นี้ทันยุคปัจจุบันคือเก๊นั่นเอง
    ทำไมต้องตอบแบบนี้ เพราะเซียนที่ไปแห่มีความรู้จริงด้านพระสมเด็จ แต่มองเห็นว่าพระสมเด็จที่ไปแห่เป็นพระเก๊ หรือเป็นพระที่ไม่อยู่ในสเป๊กของตน จึงอาจบอกปัดเพื่อถนอมน้ำใจ และถนอมตัวเองที่อาจโดนของแข็งเพราะไปขวางทางปืนของคนที่ขายพระเก๊มาให้ท่านนั้นเอง
    ดังนั้นการที่จะรู้ความจริงเรื่องพระสมเด็จต้องพึ่งตนเองมาก ๆ แล

    เคล็ดลับที่ 17 คำพูดที่เป็นคำพูดยอดฮิตในการตอบคำถามการพระสมเด็จของท่านที่ท่านนำไปแห่เซียนพระ คำพูดที่เซียนดูพระสมเด็จท่านแล้วพูดบอกปัดพระท่านอย่างไม่ใยดีทั้งที่พระสมเด็จองค์นี้ในสายตาท่านเป็นพระที่แท้ดูง่ายมาก ๆ แล้วทำให้ท่านเกิดความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสฉกาจฉกรรณ์ต้องแห้งเหี่ยวหัวโตเสียความรู้สึกและเสียกำลังใจในสายตาและศรัทธาในพระสมเด็จที่ท่านมีอยู่คือคำตอบดังนี้

    คำตอบที่ 1 พระผิดพิมพ์ครับ แปลว่า พระเก๊ครับ
    คำตอบที่ 2 พระผิดเนื้อครับ แปลว่า พระเก๊ครับ
    คำตอบที่ 3 พระดูยากครับ แปลว่า พระเก๊ครับ
    คำตอบที่ 4 พระผิดธรรมชาติครับ แปลว่า พระเก๊ครับ
    ทำไมต้องตอบแบบนั้น เป็นเพราะเหตุดังนี้
    1. เซียนที่ไปแห่เป็นเซียนที่มีศีลธรรมดีมีความรู้จริงด้านพระสมเด็จ และมองเห็นว่าพระสมเด็จที่ไปแห่เป็นพระเก๊จริง ๆ จึงตอบความจริงให้ด้วยความเมตตา
    2. เซียนที่ไปแห่เป็นเซียนที่มีความรู้จริงด้านพระสมเด็จแต่ขาดศีลธรรมที่ดี มองเห็นว่าพระสมเด็จที่ไปแห่เป็นพระแท้ จึงตอบให้ท่านเสียกำลังใจและทำลายความมั่นใจในการดูพระของท่าน เพราะการตอบว่าเป็นพระแท้จะเหมือนช่วยสอนและสร้างตัวท่านให้มาเป็นเซียนพระสมเด็จมาแข่งขันในเส้นทางของเขา
    3. เซียนที่ไปแห่เป็นเซียนที่มีความรู้จริงด้านพระสมเด็จแต่ขาดศีลธรรมที่ดี มองเห็นว่าพระสมเด็จที่ไปแห่เป็นพระแท้ จึงตอบให้ท่านเสียกำลังใจและทำลายความมั่นใจในการดูพระของท่าน แล้วหาเทคนิควิธีต่าง ๆ เช่น ขอแลกเปลี่ยนหรือซื้อถูก ๆ ไปเล่นในฐานะพระเก๊ หรือ ส่งคนไปขอซื้อขอแลก
    4. เซียนที่ไปแห่เป็นเซียนที่ไม่มีความรู้จริงด้านพระสมเด็จและขาดศีลธรรมที่ดี มองไม่รู้ว่าพระสมเด็จที่ไปแห่เป็นพระแท้หรือเก๊ แต่ก็ตอบว่าเป็นพระเก๊ไว้ก่อน เพื่อโชว์อัตตาของเขา
    5. เซียนที่ไปแห่เป็นอาจเป็นทั้งเซียนที่มีความรู้จริงด้านพระสมเด็จและเป็นเซียนที่ไม่มีความรู้จริงด้านพระสมเด็จ แต่มีความต้องการขายพระสมเด็จที่เขามีอยู่ จึงตอบพระสมเด็จที่ท่านนำไปแห่ว่าเป็นพระเก๊ และถ้าท่านอยากได้พระแท้ควรมาซื้อกับเขาเท่านั้น


    ดังนั้นการที่จะมีใครบอกว่าพระสมเด็จของท่านเป็นพระเก๊ ก็อย่าเพิ่งเสียกำลังใจและผ่องถ่ายพระสมเด็จองค์นั้นออกไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอให้ท่านเก็บพระสมเด็จองค์นั้นไว้ แต่ศึกษาหาความรู้ความจริงจากพระสมเด็จให้มากขึ้น วันหนึ่งพระสมเด็จองค์ที่ท่านดูเก๊ในอดีต อาจจะเป็นพระสมเด็จแท้ในอนาคตได้ เรื่องพระสมเด็จต้องพึ่งตนเองมาก ๆ แล



    เคล็ดลับที่ 18
    การศึกษาเนื้อมวลสารพระสมเด็จท่านต้องมองความเก่าของมวลพระสมเด็จให้เป็น โดยใช้หลักการพิจารณาศึกษาแบบวิทยาศาสตร์แบบนักโบราณคดี ซึ่งอาศัยความเก่าความโบราณของวัตถุเป็นหลักในการพิจารณา โดยไม่สนใจคำบอกเล่าของใคร ๆ หรือความศรัทธาในตัวบุคคลเป็นสรณะ เพื่อการฝึกฝีตาการเป็นตัวของตัวเอง
    ให้ท่านใช้จินตนาการเปรียบเทียบให้พระสมเด็จเป็นเสมือนโจ๊กหมูชามหนึ่ง
    ชามโจ๊ก เปรียบได้กับ กรอบพระสมเด็จที่เป็นสี่เหลี่ยม
    เนื้อโจ๊กที่เป็นข้าวบดเหลวสีขาวเปรียบได้กับเนื้อพระสมเด็จ ที่ประกอบด้วยปูนหอยและตัวประสาน เช่น น้ำมันตังอิ๊ว น้ำอ้อยเคี่ยว น้ำผึ้ง เป็นต้น
    ก้อนหมูในโจ๊ก เปรียบได้กับ มวลสารพระสมเด็จ เช่น มวลสารที่เป็นสีดำ สีแดง สีขาว กรวดเทา ทรายทอง ฯลฯ
    ดังนั้น โจ๊กหมูที่ดี เนื้อโจ๊กที่เป็นข้าวบดเหลวต้องร้อน มิใช่เป็นข้าวบดแข็ง ๆ และก้อนหมูในโจ๊กต้องสุกหอมหวานอุ่นกำลังพอดี มิใช่เป็นก้อนหมูดิบ เปรียบได้กับพระสมเด็จ พระสมเด็จที่แท้เนื้อพระต้องทำจากปูนหอยและตัวประสานที่ถูกต้องและได้อายุ ส่วนมวลสารพระสมเด็จ มวลสารต่าง ๆ เหล่านั้นต้องมีความเก่าทันยุค
    ถ้าไปส่องพระดูแล้วมวลสารพระสมเด็จที่อยู่ในเนื้อพระสมเด็จเหล่านั้นดูแล้วสดใหม่ เหมือนโจ๊กหมูที่เนื้อหมูก้อนที่ใส่ไว้ในโจ๊กชามนั้นมันยังดิบอยู่ แปลว่าโจ๊กชามนั้นมีปัญหา พระสมเด็จก็เช่นกัน ถ้ามวลสารภายในองค์พระใหม่สด ถ้าเรามีฝีตาสามารถดูความใหม่สดของมวลสารพระสมเด็จได้เด็ดขาด พระสมเด็จที่ท่านส่องดูองค์ไหนมีความผิดปกติดังกล่าว พระสมเด็จองค์นั้นย่อมส่งสัญญาณให้ท่านทราบได้ว่าพระสมเด็จองค์นั้นเป็นพระเก๊
    การปฏิบัติการดังนี้ทำให้ท่านพิจารณาพระสมเด็จอยู่บนรากฐานของการเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดี ถ้าท่านพบว่ามวลสารในพระสมเด็จมีความใหม่สดชัดเจน ท่านก็สามารถฟันธงด้วยความมั่นใจพระสมเด็จองค์นั้นเก๊ แม้แต่เซียนที่ท่านนับถือ อาจจะให้ความเห็นตรงข้ามกับที่ท่านได้ฟันธงไว้ ท่านก้ย่อมไม่สนใจ ทำให้ท่านพร้อมสามารถปลดแอกตัวท่านเองได้ในระดับหนึ่งทีเดียว

    (มีเคล็ดลับที่น่าสนใจมาเพิ่มเติมให้ท่านศึกษาอย่างต่อเนื่องโปรดติดตามเคล็ดลับต่อไปได้ที่นี่)


    จากข้อคิดในเคล็ดลับดังกล่าวทำให้ข้าพเจ้าสนใจที่จะศึกษาพระสมเด็จโดยศึกษาจากมวลสารและและสภาพธรรมชาติของความเก่าของพระสมเด็จ ดังนั้นจากการที่เคยมีประสบการณ์ที่เคยศึกษาพระกรุเก่าโบราณ ที่เมื่อเริ่มศึกษาข้าพเจ้าจะชอบซื้อพระกรุที่สภาพสึก ๆ หรือเศษหักของพระกรุแท้ ๆ ที่มักมีราคาไม่แพงนักมาศึกษา ซึ่งจะทำให้มีความรู้เกี่ยวกับเนื้อหามวลสารทั้งภายนอกภายในได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้สามารถวินิจฉัยถึงสภาพความเก่าและประเมินอายุของพระนั้น ๆ ได้ว่าเป็นพระกรุของเมืองไหน ยุคใด สมัยใด จึงได้นำหลักการดังกล่าวมาใช้เมื่อต้องการศึกษาพระสมเด็จ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เป็นต้นมา
    ทำให้ข้าพเจ้าจึงได้ใช้ความพยายามกำลังเวลาและกำลังทรัพย์ในการรวบรวมพระสมเด็จแท้ ๆ ที่มีสภาพสึกเลือนเหลือแต่แก่น พระสมเด็จที่ผ่านการเซาะ การกรอ การแกะ หรือชิ้นส่วนพระสมเด็จและพระตระกูลสมเด็จที่ชำรุดแตกหักโดยเก็บทุกสภาพ เอาไว้จำนวนมากโดยในช่วงแรกได้พยายามเช่าหาจากนิตยสารพระเครื่องต่าง ๆ และจากสนามพระทั่วไปจากนั้นก็นำพระที่ซื้อหามาได้ตรวจสอบกับผู้ชำนาญการด้านพระเนื้อผง จากนั้นก็นำพระที่ผ่านการตรวจสอบแล้วมาศึกษาเพื่อเป็นพื้นฐานของการพิจารณาเชิงเปรียบเทียบด้านเนื้อหามวลสารและธรรมชาติความเก่า โดยพิจารณาคำนวณอายุของเนื้อผงจากการประเมินทางสายตา พร้อมกันนั้นก็ทำการค้นหา ความแตกต่างระหว่างมวลสารของพระสมเด็จแท้กับพระสมเด็จปลอม และความแตกต่างระหว่างพระสมเด็จแท้กับพระตระกูลสมเด็จที่เนื้อจัด ภายใต้เนื้อหาทฤษฎีที่ได้ด้านเนื้อหามวลสารจากตำราพระสมเด็จที่มีอยู่ทั่วไป ถึงจะทำเช่นนี้ก็ไม่ใช่งานง่ายที่จะเข้าใจอะไรได้ลึกซึ้งเพราะศาสตร์เกี่ยวกับพระสมเด็จเป็นศาสตร์สูงสุดสำหรับเซียนพระ ถ้าให้ชำนาญจริงก็คงต้องใช้เวลานานมาก แต่อย่างไรก็ตามโอกาสที่ได้ศึกษาเนื้อพระสมเด็จแท้ ๆ ทุกตระกูลเป็นจำนวนมากก็เป็นแนวทางหนึ่งที่พอจะสร้างพื้นฐานที่ดีทำให้เป็นตัว ของตัวเองมากขึ้นในการพิจารณาพระสมเด็จ แต่ในปัจจุบัน พบว่านิตยสารพระเครื่องและตามสนามพระที่เคยมีเศษหักพระสมเด็จแท้ๆ และพระเนื้อผงตระกูลสมเด็จพิมพ์ต่างๆ ก็หายากมากไม่มีพระให้บูชา หรือมีก็ราคาแพงมาก ทำให้คนรุ่นหลังที่คิดจะศึกษาพระสมเด็จจากเนื้อหามวลสารเช่นข้าพเจ้าย่อมเกิดความยากลำบากต่อการศึกษามากขึ้น


    3. การค้นพบสิ่งที่เรียกว่าสูตรเนื้อพระสมเด็จ จากพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง

    ซึ่งในช่วงระยะแรกเริ่มในการศึกษาพระสมเด็จนั้นได้ไปที่วัดระฆังบ่อย ๆ เพื่อไปสวดมนต์พระคาถาชินบัญชรต่อหน้าพระรูปหล่อสมเด็จพุฒาจารย์โต ณ วัดระฆังโฆสิตาราม และใส่เงินทำบุญกับตู้บริจาคของมูลนิธิพระสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พร้อมกันไปด้วย ซึ่งผู้นิยมพระสมเด็จมีความเชื่อกันว่าผลบุญที่เกิดจะทำให้มีโอกาสได้ครอบครองพระสมเด็จแท้ๆ สักองค์หนึ่ง ทำให้ได้มีโอกาสศึกษาพระสมเด็จที่สร้างโดยหลวงปู่นาค วัดระฆังที่สร้างไว้มากมายหลายพิมพ์ทรง โดยเฉพาะที่สร้างไว้ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2484 และ ปี พ.ศ. 2495 ซึ่งเป็นพระสมเด็จที่ท่านได้จัดสร้างไว้โดยมีมวลสารของพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักผสมไว้เป็นจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งเป็นเศษพระแตกหักจากผู้ที่นำมาไว้ที่วัดและพระสมเด็จวัดระฆัง ที่พบบนหลังคาโบสถ์จำนวนมาก ทำให้ได้ความรู้ว่าพระสมเด็จของหลวงปู่นาคบางองค์ที่เนื้อจัด ๆ นั้น เซียนพระบางท่านนำมาใส่ตลับทองตีว่าเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง และเปิดราคาเป็นหลัก หมื่นหลักแสนนั้น ความจริงแล้วเป็นพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆัง ที่สร้างในยุคต้น ๆ ที่มีเนื้อหาส่วนผสมของพระสมเด็จวัดระฆังอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง
    จากประสบการณ์ที่ได้ผ่านสายตาพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆังหลายร้อยองค์ทำให้มีความเข้าใจในธรรมชาติของเนื้อหาพระยุคดังกล่าวมากขึ้น จนเกิดข้อสรุปภายในใจเกี่ยวกับคำว่าสูตรเนื้อพระสมเด็จตำรับวัดระฆัง เพราะการดูเนื้อพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆังจำนวนมาก ๆ จะทำให้เกิดความเข้าใจในคำดังกล่าวมากขึ้น ทำให้ต่อไปไม่ว่าจะดูพระสมเด็จหรือพระตระกูลสมเด็จองค์ใด ก็ไม่พ้นคำว่าสูตรเนื้อพระสมเด็จทุกองค์
    เซียนผู้ศึกษาพระสมเด็จท่านใดที่บอกว่าพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆังที่ท่านพิจารณาอยู่ว่าเป็นพระสมเด็จเก๊ แสดงว่าท่านยังไม่เข้าใจคำดังกล่าวอย่างแท้จริง
    จากการศึกษาการสร้างพระสมเด็จพบว่าพระสมเด็จที่กล่าวกันว่ามีเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จวัดระฆังเป็นจำนวนมากที่สุดนั้น ก็คือพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆังนั่นเอง และอีกวัดหนึ่ง ก็คือ พระสมเด็จของพระครูมูล วัดสุทัศน์ โดยเฉพาะพระสมเด็จพิมพ์ทรงเจดีย์ ที่สร้างปี พ.ศ. 2485 มีเนื้อหามวลสารจัดมาก จนเซียนสมองใสบางคนทำการเซาะพิมพ์และขายเป็นพระสมเด็จ พิมพ์ทรงเจดีย์ วัดระฆังไปเป็นจำนวนมาก จนทำให้ท่านต้องสร้างแม่พิมพ์ใหม่เป็นพระสมเด็จพิมพ์มีหน้าตา ปี พ.ศ. 2495 ทำขึ้นให้แตกต่างจากพิมพ์ทรงของพระสมเด็จเพื่อป้องกันการนำพระของท่านไปหลอกลวงคนอื่น
    ส่วนพระสมเด็จที่มีเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จบางขุนพรหมเป็นจำนวนมาก ก็คงได้แก่ พระสมเด็จของหลวงตาพัน วัดอินทรวิหาร ,พระสมเด็จของหลวงปู่ลำภู วัดอินทรวิหาร,สมเด็จบางขุนพรหม ปี พ.ศ.. 2509 และพระชุดวัดประสาทบุญญาวาศ โดยเฉพาะ พิมพ์หลวงปู่ทวดสีขาว ,หลวงพ่อโต ,จันทร์ลอย เป็นต้น ที่มีส่วนผสมของเนื้อพระสมเด็จบางขุนพรหม ผสมอยู่จำนวนมาก

    4. การค้นพบพระสมเด็จพิมพ์โบราณ ที่เรียกกันว่า พระกรุวัดทัพข้าว

    ข้าพเจ้าได้รับความรู้จากนักนิยมพระเครื่องเนื้อผงอาวุโส เกี่ยวกับเรื่องราวของพระผงกรุวัดทัพข้าว ซึ่งเป็นพระกรุที่ได้รับความนิยมมานานแต่ยังไม่มีใครรู้ชัดเกี่ยวกับผู้สร้างพระชุดนี้
    ผู้รู้ที่เป็นนักนิยมพระอาวุโสและสะสมพระกรุวัดทัพข้าวนี้ไว้จำนวนมาก ได้กล่าวว่าพระกรุนี้พบว่ามีการสร้างไว้สองยุค ด้วยกัน
    ยุคแรกสร้างสมัยสุโขทัย เป็นพระผงพุทธคุณแกร่งเป็นหิน มีพิมพ์ทรงต่าง ๆ เช่น พิมพ์ประธานพร พิมพ์ร่วงนั่ง เป็นต้น
    ยุคสองสร้างสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีข้อสันนิษฐานไว้ถึงผู้สร้างพระดังนี้
    ข้อสันนิษฐานที่ 1 สร้างสมัยรัชกาลที่ 3 ผู้สร้างคือ ขรัวตาแสง วัดมณีชลขันธ์ ซึ่งเป็นพระอาจารย์เอกทางกรรมฐานของสมเด็จโต ที่ได้ความรู้ในเรื่องการทำพระเนื้อผงมาจากตำราโบราณในจังหวัดสุโขทัย ท่านได้สร้างพระพิมพ์ต่าง ๆ ไว้มากมายหลายพิมพ์ทรง โดยได้นำไปบรรจุกรุไว้ในจังหวัดอยุธยา พระพิมพ์ที่สร้าง ได้แก่ พระพิมพ์สมเด็จก้างปลา ที่หายากที่สุด พระพิมพ์ที่ล้อพระพิมพ์ต่าง ๆ ในจังหวัดลพบุรี เช่น พิมพ์ทรงนารายณ์ทรงปืน พิมพ์พระสามตรีกาย เป็นต้น พระพิมพ์ที่ล้อพระพิมพ์ต่าง ๆ ในจังหวัดอยุธยา เช่น พระพิมพ์หลวงพ่อโต พระขุนแผนไข่ผ่า พระพิมพ์ขุนแผนห้าเหลี่ยม เป็นต้น ซึ่งข้อสังเกตพระของท่านมักจะทำให้มีเนื้อหาหนาและมีรูสองรูไว้ข้างหลังองค์พระ ที่เรียกว่า ทรงหูไห่ ซึ่งพิมพ์ทรงที่เป็นที่นิยมมากก็คือพิมพ์ทรงหลวงพ่อโตหูไห่ ซึ่งเซียนอาวุโสบางท่านกล่าวว่าพระกรุนี้สมเด็จโตอาจมีส่วนร่วมในการสร้างด้วยก็ได้และเชื่อว่าสมเด็จโตได้นำความรู้การสร้างพระพิมพ์วัดทัพข้าวนี้ ไปเป็นพื้นฐานของการสร้างพระสมเด็จของท่านเองในเวลาต่อมา
    ข้อสันนิษฐานที่ 2 สร้างสมัยรัชกาลที่ 4 ผู้สร้างคือ สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี จัดสร้างตามคัมภีร์ตามใบลานเงินที่ได้จากการขุดเจดีย์ร้างสามองค์เพื่อค้นหาพระบรมสารีริกธาตุตามลายแทงของวัดปทุมวนาราม ทำให้ได้คัมภีร์ที่สอนทำพระเนื้อผงพุทธคุณตามสูตรสมัยสุโขทัย พระเนื้อผงพุทธคุณยุคสุโขทัยและพระกรุกำแพงเพชรจำนวนมาก ซึ่งขนมาเป็นส่วนหนึ่งของมวลสารที่ผสมในพระสมเด็จวัดระฆังในเวลาต่อมา โดยเรียกพระพิมพ์ที่ท่านได้สร้างไว้นี้ว่าพระสมเด็จพิมพ์โบราณ ที่จัดสร้างตามพิมพ์พระกรุโบราณในยุคสมัยนั้น ที่ท่านได้พบเจอในระหว่างการตระเวณธุดงค์ปฏิบัติธรรม
    พระกรุนี้นับว่าเป็นพระผงตระกูลหนึ่งที่น่าสนใจเพราะเป็นพระผงที่มีอายุเก่าแก่กว่าพระสมเด็จและมีเนื้อหาที่จัดจ้านเป็นอย่างมากคล้ายกับพระสมเด็จวัดระฆัง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาในเนื้อหาพระสมเด็จเก็บสะสมไว้เป็นองค์ครู

    5. การค้นพบหลักการสำคัญที่เรียกว่าการศึกษาพระสมเด็จในแนวทางโบราณคดี


    ที่มา :
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2010
  6. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    อย่าโกรธกันนะครับคุณชัยฯ....
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    พระทั้ง 2 องค์นี้เป็นฝีมือการผลิตแนวพระโรงงานครับ....
    องค์แรกรักดำ หรือรักเช็ดสีสดเกินไปไม่แห้งไม่ร่อนไม่เก่าพอครับ...

    สีของชาดแดงก็สดเกินไป....ผิวเนื้อแห้งกระด้างไม่หนึกนุ่ม บ่งบอกว่าเป็นปูนเปลือกหอยใหม่ชัดเจนมากครับ...
    องค์ที่ 2 ด้านหน้าผิวเนื้อทำดูเหมือนว่าจะเจตนาทำเป็นพระสมเด็จเนื้อว่านกวนอูแดง (สบู่เลือด) แต่พอมาเห็นผิวเนื้อด้านหลังพระแล้วก็ต้องบอกว่า...น่าผิดหวังมากครับ หลุมร่องที่ด้านหลังนั้นเกิดจากการกดพิมพ์ลงบนกองกรวดแล้วจึงค่อยปัดเม็ดกรวดออกเพื่อทำให้พระแลดูเก่าครับ....

    เรียกว่าเจตนาทำเก่า...ผิวเนื้อก็เลยผิดปกติอย่างชัดเจนครับ...ที่สำคัญสีด้านหน้ากับด้านหลังแตกต่างกันเหลือเกิน...

    หรือจะเป็นสมเด็จทูโทนเทรนใหม่ล่าสุดของยุคนี้หรืออย่างไรก็มิทราบได้ครับ....หุหุ (สู้ต่อไปครับ...อย่าคิดมากครับ)
     
  7. xlmen

    xlmen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +3,291
    โมทนาสาธุกับเนื้อหาสุดแน่นปึ้กที่คุณวาซาบินำมาฝากด้วยครับ.....ผมอ่านอยู่นานกว่าจะจบแบบกระโดดเล่นเอาเหนื่อยเลยครับ หุหุ
     
  8. sitcy

    sitcy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +151
    ฝากพิจารณาอีกองค์ ครับท่านเจ้านาย:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. อังคาร99

    อังคาร99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2010
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +1,178
    ต้องขออภัยที่ตอบช้านะครับ...
    เมื่อวานผมนำพระไปเปลี่ยนที่วัดอาวุธ แถวบางพลัดมาครับ...
    แล้วก็ถือโอกาสเดินสนามหลวงก่อนกลับบ้านครับ....เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานพระเก๊ใหม่กิ๊กหนะครับ....หุหุหุ

    แหมะคุณ xlmen นี่กลัวตกตลาด ไม่ทันยุค แหงๆเลย อิอิอิ
    อย่าลืมช่วยเล่าสู่กันฟังหน่อย เด้อครับ

     
  10. อังคาร99

    อังคาร99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2010
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +1,178
    โมทนาสาธุกับเนื้อหาสุดแน่นปึ้กที่คุณวาซาบินำมาฝากด้วยครับ.....ผมอ่านอยู่นานกว่าจะจบแบบกระโดดเล่นเอาเหนื่อยเลยครับ หุหุ<!-- google_ad_section_end -->

    ตามนั้นด้วยคนครับ เลยขออนุญาติ copy ไว้อ่าน โตยก๋า............
     
  11. kanchit_a

    kanchit_a เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +317
    สุดยอดครับ..:cool:..คุณวาซาบิ..เนื้อหานี้แน่นปึ้...:cool:
     
  12. ASSET ME

    ASSET ME เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +112
    เรียนคุณวาซาบิซัง
    ขอขอบคุณในความเห็นของท่าน และขอบคุณในข้อความดีๆ ที่สรรหามาให้ได้อ่าน
    เมื่อพิจารณาแล้ว การศึกษาพระสมเด็จ คล้ายชีวิตคนนะครับ แรกเกิดก็เหมือนคนเริ่มสะสม ต่างคนก็มีการดูแลต่างกัน จนวันหนึ่งเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ สุดท้ายสิ่งที่ต้องทำก็คือ การก้าวย่างด้วยตนเองเพื่อไปข้างหน้าตามจุดหมาย
    บทสรุป จงฟังทุกสิ่งที่ผู้อื่นพูด แต่อย่าเชื่อทุกสิ่งที่ฟัง
    "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"

     
  13. chaiyaput

    chaiyaput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,146
    ขอบคุณครับท่านอาจารย์
     
  14. chaiyaput

    chaiyaput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,146
    ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์ ผมยังพยามอยู่ครับ
     
  15. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ขอบคุณคร้าาาาา มีพระแท้แล้ว เย้เย้

    :cool::cool:(||)(||)(||)(deejai)(deejai):z5:z5

    ว่าจะติดตามอ่านแบบไม่ล็อคอินซักกะหน่อย เจอเนื้อหา วิเคราะห์พระอดไม่ได้จะต้องเข้ามากล่าวคำ ขอบคุณ คร้าาา พร้อมยกไหว้งามๆๆสักทีสองที

     
  16. krit90

    krit90 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +2,222
    ขอบพระคุณครับอาจารย์
     
  17. krit90

    krit90 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +2,222
    ขอบพระคุณครับท่าน xlmen :cool::cool::boo:
     
  18. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    อิอิอิอิ สวัสดีท่านพี่xlmen

    พรุ่งนี้ดึกๆแล้วเจอกันนะคะ 5555555 อย่าเข้าใจผิดคร้าา เอาพระมาถามคะ องค์แบบนี้ โอ้ มายก๊อด พรุ่งรู้ว่ามีพิมพ์หลวงปู่นาคด้วย พอดีมีองค์นึงคะ เห็นเก่าๆแปลกๆก็เก็บไว้ แต่ไม่รู้จากที่ไหนคะ รู้แต่ว่า พี่ที่นับถือให้ มาเพื่อการค้าขาย หุหุหุ มีพระมาถามแล้วคร้า รอถ่านกล้องก่อนนะคะ ถ่านหมด หุหุหุหุ กล้องโบราณ คนก็แก่ ก็ยังงี้หละ ทำใจคะทำใจ

     
  19. พ่อเลี้ยง2

    พ่อเลี้ยง2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +838
    เซียนผู้ศึกษาพระสมเด็จท่านใดที่บอกว่าพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆังที่ท่านพิจารณาอยู่ว่าเป็นพระสมเด็จเก๊ แสดงว่าท่านยังไม่เข้าใจคำดังกล่าวอย่างแท้จริง
    จากการศึกษาการสร้างพระสมเด็จพบว่าพระสมเด็จที่กล่าวกันว่ามีเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จวัดระฆังเป็นจำนวนมากที่สุดนั้น ก็คือพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆังนั่นเอง และอีกวัดหนึ่ง ก็คือ พระสมเด็จของพระครูมูล วัดสุทัศน์ โดยเฉพาะพระสมเด็จพิมพ์ทรงเจดีย์ ที่สร้างปี พ.ศ. 2485 มีเนื้อหามวลสารจัดมาก จนเซียนสมองใสบางคนทำการเซาะพิมพ์และขายเป็นพระสมเด็จ พิมพ์ทรงเจดีย์ วัดระฆังไปเป็นจำนวนมาก จนทำให้ท่านต้องสร้างแม่พิมพ์ใหม่เป็นพระสมเด็จพิมพ์มีหน้าตา ปี พ.ศ. 2495 ทำขึ้นให้แตกต่างจากพิมพ์ทรงของพระสมเด็จเพื่อป้องกันการนำพระของท่านไปหลอกลวงคนอื่น

    ส่วนพระสมเด็จที่มีเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จบางขุนพรหมเป็นจำนวนมาก ก็คงได้แก่ พระสมเด็จของหลวงตาพัน วัดอินทรวิหาร ,พระสมเด็จของหลวงปู่ลำภูเซียนผู้ศึกษาพระสมเด็จท่านใดที่บอกว่าพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆังที่ท่านพิจารณาอยู่ว่าเป็นพระสมเด็จเก๊ แสดงว่าท่านยังไม่เข้าใจคำดังกล่าวอย่างแท้จริง
    จากการศึกษาการสร้างพระสมเด็จพบว่าพระสมเด็จที่กล่าวกันว่ามีเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จวัดระฆังเป็นจำนวนมากที่สุดนั้น ก็คือพระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆังนั่นเอง และอีกวัดหนึ่ง ก็คือ พระสมเด็จของพระครูมูล วัดสุทัศน์ โดยเฉพาะพระสมเด็จพิมพ์ทรงเจดีย์ ที่สร้างปี พ.ศ. 2485 มีเนื้อหามวลสารจัดมาก จนเซียนสมองใสบางคนทำการเซาะพิมพ์และขายเป็นพระสมเด็จ พิมพ์ทรงเจดีย์ วัดระฆังไปเป็นจำนวนมาก จนทำให้ท่านต้องสร้างแม่พิมพ์ใหม่เป็นพระสมเด็จพิมพ์มีหน้าตา ปี พ.ศ. 2495 ทำขึ้นให้แตกต่างจากพิมพ์ทรงของพระสมเด็จเพื่อป้องกันการนำพระของท่านไปหลอกลวงคนอื่น
    ส่วนพระสมเด็จที่มีเนื้อหามวลสารของพระสมเด็จบางขุนพรหมเป็นจำนวนมาก ก็คงได้แก่ พระสมเด็จของหลวงตาพัน วัดอินทรวิหาร ,พระสมเด็จของหลวงปู่ลำภู วัดอินทรวิหาร,สมเด็จบางขุนพรหม ปี พ.ศ.. 2509 และพระชุดวัดประสาทบุญญาวาศ โดยเฉพาะ พิมพ์หลวงปู่ทวดสีขาว ,หลวงพ่อโต ,จันทร์ลอย เป็นต้น ที่มีส่วนผสมของเนื้อพระสมเด็จบางขุนพรหม ผสมอยู่จำนวนมาก
    วัดอินทรวิหาร,สมเด็จบางขุนพรหม ปี พ.ศ.. 2509 และพระชุดวัดประสาทบุญญาวาศ โดยเฉพาะ พิมพ์หลวงปู่ทวดสีขาว ,หลวงพ่อโต ,จันทร์ลอย เป็นต้น ที่มีส่วนผสมของเนื้อพระสมเด็จบางขุนพรหม ผสมอยู่จำนวนมาก

    ผมอ่านแล้วสับสนจากที่เคยรู้มาอยากถามความเห็นคุณวซบ.หน่อย
    ปู่ภูได้มาก ปู่นากได้น้อย ผมจำได้อย่างนั้นแต่เท่านที่อ่านกลับกลายเป็นปู่นากได้มาก คุณวซบ.มีความคิดเห็นยังไงครับเรื่องนี้
     
  20. kiatti1234

    kiatti1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,839
    ค่าพลัง:
    +811
    ขอบคุณมากครับ ท่านวาซาบิครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...