๙๙๙"เหรียญเก่า เหรียญขลัง เหรียญดัง เมืองกรุงเก่า โดย เด็ก ฅนอโยธยา"๙๙๙

รวมๆไปอีกชุด แก้เซ็งครับพี่น้องงงง!!!

รวมๆไปอีกชุด แก้เซ็งครับพี่น้องงงง!!!

 

รวมๆไปอีกชุด แก้เซ็งครับพี่น้องงงง!!!

รวมๆไปอีกชุด แก้เซ็งครับพี่น้องงงง!!!

 

เข้ามาชมบารมีครับ สุดๆทุกองค์เลย ใครที่อยากได้ความรู้ต้องเข้ามาที่นี่ครับ

 

ปิดตาไม้แกะของหลวงพ่ออะไรครับพี่ สวยดีจัง พระของพี่ดูง่ายสบายตาจริงๆ ของวัดรางจระเข้ดีป่าวครับ

 

อลังการ....สภาพสวยดูง่ายๆครับ

 

เลิกหาพระกันดีไหมแบบนี้...เพราะของดีๆสวยๆหลายองค์อยู่ที่พี่เขาแล้วอะ...

แต่ของที่ดีและสวยที่สุดขอให้มาอยู่ที่ผมและกัน...อิอิ

 

ต้องขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะครับ

ต้องขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะครับ
พระปิดตาไม้แกะ เป็นของหลวงพ่อวัดพิชัยสงคราม เมืองกรุงเก่าครับ
หลวงพ่อโต วัดรางจระเข้ ดีทางคงกระพันครับผม

 

๙๙๙"สุดยอดตำนาน"เหรียญเหนียว" ที่หาของแท้ๆชมยากที่สุด"๙๙๙

๙๙๙"สุดยอดตำนาน"เหรียญเหนียว" ที่หาของแท้ๆชมยากที่สุด"๙๙๙
...........................................คนท้องที่ อ.ผักไห่ หายใจเข้าออกเป็นหลวงพ่ออิ่ม วัดลาดชะโดกันทั้งอำเภอแหละครับ ด้วยประสบการณ์เรื่อง"มหาอุด คงกระพัน"โดนกันมาแบบจะจะลูกตาเลยทีเดียว แต่ของแท้ๆท่านสร้างใว้น้อยครับ แค่ไม่กี่ร้อยเหรียญเอง แค่คนในพื้นที่ตามเก็บกัน ก็แทบจะไม่มีของออกมาให้เห็นแล้วครับ เหรียญนี้ เป็นเหรียญเนื้อทองแดง สภาพสวยแชมป์ๆของเมืองกรุงเก่า และก็เป็นเหรียญที่แท้ดูง่ายๆ เด็ก ฅนอโยธยา นำมาแบ่งกันชม แบ่งกันศึกษา ครับผม...........................................................................หลวงพ่ออุปัชฌาย์ (อิ่ม ธัมมสาโร) หลวงพ่ออุปัชฌาย์ (อิ่ม ธัมมสาโร) เกิดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๑๓ บิดาชื่อนายดิษฐ์ มารดาชื่อนางหนู มีพี่น้องร่วมท้อง ๕ คน คือ ๑ นางหรุ่น ๒ นางทิม ๓ พระอุปัชฌาย์อิ่มธัมมสาโร ๔นายหลำ ๕หรุ่ม หลวงพ่ออุปัชฌาย์อิ่ม ในช่วงเป็นเด็กครอบครัวได้ส่งมาเรียนหนังสืที่วัดสะแกและได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่เด็ก ต่อมาได้อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดสะแก อำเภออุทัย จังหวัดอยุธยา โดยหลวงพ่อหร่าย วัดสะแกเป็นอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นท่านได้ศึกษาวิชากับหลวงปู่หร่ายซึ่งสมัยนั้นท่านเป็นพระที่มีวิชากล้าแข็งซึ่งแม้แต่หลวงพ่อกลั่นยังได้มาศึกษาวิชากับท่าน หลังจากนั้นท่านได้ไปศึกษาวิชาต่อกับหลวงพ่อกลั่น ต่อมาท่านได้กลับมาอยู่ที่วัดลาดชะโดต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจากหลวงพ่อทองและเป็นเจ้าอาวาสลำดับที่๑๓แห่งวัดลาดชะโด จากนั้นได้เป็นพระอุปัชฌาย์บวชพระเณรแถวนี้ทั้งหมดตั้งแต่ ลาดชะโด ดอนลาน นาคู ลำตะเคียน ลานช้าง ลาดตาล ในสมัยยุคนี้ถือว่าวัดรุ่งเรืองเป็นอย่างมากบางปีมีพระจำพรรษาถึงร้อยกว่ารูปก็มี ท่านชอบทำยาแผนโบราณแจก เช่น ยาเขียว ยาเหลือง ยาดำ ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมายถึงกรุงเทพฯ เจ้านายผู้ใหญ่ เช่น หม่อมเจ้าคำรพ ทรงนับถือท่านนักโดยเฉพาะพวกบ้านแป้งบ้านขนมจีน อำเภอเสนานับถือท่านมาก ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ที่เห็นในปัจจุบันก็เกิดในสมัยท่าน นอกจากนั้นยังมีพระเกจิอาจารย์มาขอเรียนวิชากับท่านมากมายเช่น หลวงปู่โต๊ะวัดลาดตาล,หลวงพ่อกร่ายวัดโพธิ์ศรีเป็นต้น หลวงพ่ออิ่มท่านมรณภาพในเดือน๑๐ปีพุทธศักราช ๒๔๙๐ สิริอายุได้๗๗ปี ๕๗ พรรษา หล่อรูปหลวงพ่ออิ่ม ลูกศิษย์ต่างๆให้ความเคารพหลวงพ่ออิ่มมาก จึงต้องการหล่อรูปเหมือนของหลวงพ่ออิ่มไว้เพื่อทำการบูชาต่อไป จึงได้ไปขออนุญาติหลวงพ่ออิ่มเพื่อทำการหล่อรูปเหมือน แต่หลวงพ่อกับบอกว่าถ้าหล่อรูปเหมือนแล้วตนจะต้องตาย จึงบอกไม่ให้หล่อ แต่ลูกศิษย์ด้วยความนับถือต้องการจะหล่อรูปเหมือนให้ได้ จึงไปตามช่างมาปั้นหุ่นแกะรูปของท่านโดยหลวงพ่อก็นั่งเป็นแบบให้ช่างแกะและมีน้ำตาไหลตลอดเมื่อช่างแกะเรียบร้อยแล้วปรากฎว่าเหมือนหลวงพ่อมาก หลวงพ่อจึงพูดออกมาว่ากูตายแน่ วันที่ทำการหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อได้สร้างวัตถุมงคลมาปลุกเสกพร้อมกันโดยสร้างเหรียญรุ่นหนึ่งมา๒แบบ แบบที่๑ คือแบบพุ่มข้าวบิณฑ์ แบบที่๒ แบบใบเสมา และมีแหวนพิรอด ซึ่งพันด้วยผ้าดิบสีขาว,ธง๓ชาย โดยทำพิธีหล่อที่หน้าโรงเรียนวัดลาดชะโด มีหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก มาปลุกเสกรูปหล่อและเหรียญของท่านซึ่งวันนั้นมีประชาชนมากันมากมาย เมื่อทำการปลุกเสกเสร็จได้มีการจำหน่ายเหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ในราคา ๑ บาทและแหวนพิรอดในราคา ๑บาท ส่วนเหรียญรูปใบเสมาหลวงพ่อบอกว่าให้นำใส่ขันลงหินนำมาเก็บไว้ที่กุฏิ ซึ่งได้นำมาจากภายหลังและถือได้ว่าเป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวของหลวงพ่ออิ่ม การหล่อรูปเหมือนได้ทำการหล่อในช่วงกลางเดือนห้า พ.ศ. ๒๔๙๐ และต่อมาหลวงพ่อได้มรณะภาพเดือนเก้า พ.ศ.๒๔๙๐ ซึ่งได้เป็นไปตามที่หลวงพ่อได้บอกลูกศิษย์ไว้ว่าถ้ารูปหล่อเหมือนของตนแล้วตัวเองต้องตาย การฌาปนกิจศพหลวงพ่ออิ่ม มีขึ้นในเดือนห้าของปีต่อมาโดยก่อนที่ฌาปนกิจมีประชาชนที่ให้ความเคารพมาขอจีวรของหลวงพ่ออิ่มไปเป็นจำนวนมากเมื่อฌาปนกิจเสร็จแล้ว กระดูกและเศษเถ่าก็มีประชาชนที่ศรัทธาจำนวนมากมาขอไปจนหมด ต่อมาภายหลังมีบางคนนำกระดูกของหลวงพ่อไปขาย ซึ่งมีราคาสูงมาก ขัดรูปหล่อ ครั้งหนึ่งชาวบ้านได้เห็นว่ารูปหล่อหลวงพ่ออิ่มเก่ามากแล้วชาวบ้านต้องการจะขัดให้ใหม่จึง ได้วางแผนไปให้ช่างขัดแต่ปรากฎว่าหลวงพ่อมาเข้าฝันว่าไม่ต้องนำมารูปหล่อมาขัดเพราะท่านกลัวเจ้บแต่ชาวบ้านก็ไม่เชื่อจึงได้ยกหลวงพ่ออิ่มไปขัดต้องใช้คนยกถึงสิบคนจึงจะสามารถยกรูปหล่อของหลวงพ่ออิ่มขึ้น เมื่อไปถึงโรงขัดปรากฎว่าหลวงพ่ออิ่มได้เข้าฝันคนขัดว่าไม่ให้ขัดรูปหล่อของตนเพราะกลัวเจ็บแต่ช่างไม่เชื่อจึงได้ลงมือขัดปรากฎว่าช่างมีอาการปวดไหล่เมื่อมีอาการขัดส่วนต่างๆ ก็มีอาการปวดตามจุดที่ขัดดังนั้นจึงไม่มีการขัดต่อได้จึงได้ ไปบอกให้ชาวบ้านว่าไม่สามารถขัดรูปหล่อหลวงพ่อต่อได้ให้ชาวบ้านมายกกลับขากลับใช้คนยกเพียงสองคนก็ยกขึ้นได้สบาย ประสบการณ์เหรียญรุ่นแรก เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่ออิ่มจัดสร้างในปี๒๔๙๐ แบ่งเป็น๒พิมพ์ คือ ๑.เหรียญพิมพ์พุ่มข้าวบิณฑ์ ๒.เหรียญพิมพ์เสมาคว่ำ ทั้ง๒พิมพ์สร้างรวมกันประมาณ๑,๐๐๐เหรียญ ปัจจุบันเป็นเหรียญหายากเหรียญหนึ่งของจ.พระนครศรีอยุธยา ประสบการณ์เหรียญก็มากมายพอยกตัวอย่างได้ดังนี้ กรณีตาสนิทกับตาผัน ตาสนิทนั้นท่านมีไข่ทองแดงซึ่งถือว่าเป็นเครื่องรางตามธรรมชาติสร้างมาและมีความคงกระพันสูง ส่วนตาผันนั้นแกนับถือหลวงพ่ออิ่มมากและได้คล้องเหรียญหลวงพ่ออิ่มติดกายไว้ตลอดเวลา วันหนึ่งทั้งสองท่านเกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขั้นนำมีดดาบออกมาฟันกัน ปรากฏว่ามีดดาบนั้นไม่ระคายผิวของทั้ง๒ท่านเลยทีเดียว กรณีตำรวจที่ผักไห่ ในสมัยก่อนในย่านผักไห่ลาดชะโดถือว่าไกลปืนเที่ยง โจรผู้ร้ายชุกชุม วันหนึ่งเกิดกรณีโจรได้บุกมาชิงตัวผู้ต้องหาที่โรงพัก ในช่วงนั้นมีตำรวจเข้าเวรไม่กี่นาย และปรากฎว่ามีตำรวจนายหนึ่งได้ถูกโจรยิงเข้าอย่างจังจนตกจากชั้นบนลงมาข้างล่างแต่ปรากฏว่าตำรวจคนดังกล่าวกลับไม่เป็นอะไรเลย ปัจจุบันหากมีนายตำรวจย้ายไปที่ผักไห่ก็จะถามถึงเหรียญหลวงพ่ออิ่มทุกครั้งไป กรณีเด็กรถที่สัตหีบ ในสมัยก่อนเถ้าแก่ศรีนวล วิเศษสุวรรณซึ่งเป็นคนลาดชะโดแต่ได้ไปทำธุรกิจรถสองแถวโดยสารที่สัตหีบ ท่านจึงได้นำเด็กที่ลาดชะโดไปเป็นเด็กรถ วันหนึ่งเด็กรถของแกเกิดทะเลาะเบาะแว้งกับนักเลงที่นั่นถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน นักเลงถิ่นสู้ไม่ได้จึงชักปืนยิงเด็กรถของเถ้าแก่ศรีนวลอย่างจัง แต่ปรากฏว่ากระสุนนัดดังกล่าวไม่ได้ระคายผิวของเด็กรถแต่อย่างใด เนื่องจากเด็กคนนั้นแขวนหลวงพ่ออิ่มไว้นคอนั่นเอง นอกจากนั้นยังเกิดประสบการณ์มากมายกับเหรียญรุ่นนี้ จนในสมัยก่อนยังมีคนนำเหรียญของท่านไปแขวนไว้ตามหน้าบ้าน,เล้าเป็ดและคอกสัตว์เพื่อป้องกันสัตว์ร้ายและภูติผีต่างๆด้วย .......................................ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ ของพี่"จักร ฅนอโยธยา"ใว้ ณ.ที่นี้ด้วยครับ........................................

 

"แจ้งข่าวร้าย กระจายข่าวดี" มันมาอีกแล้วครับผม???
.............................................ข่าวดีก็คือ นี่คือเหรียญสุดยอดคงกระพันของเมืองกรุงเก่าอีกเหรียญ ที่ประสบการณ์ดีมากๆ และเป็นเหรียญที่"หายาก"อีกเหรียญหนึ่งด้วย เพราะสร้างใว้เพียงแค่ ๕๐๐ เหรียญเท่านั้น เหรียญรุ่นแรกของ หลวงพ่อไปล่ วัดธรรมจริยา สร้างในปี ๒๔๙๘ เป็นเหรียญคงกระพัน ที่คนในพื้นที่นิยมกันมาก เป็นเหรียญเนื้อทองแดง กะหลั่ยทอง แต่เนื่องจากสร้างน้อย จึงไม่ค่อยพบเห็นกัน.......................ส่วน"ข่าวร้าย"ก็คือ มี"ของเก๊"ฝีมือดี ออกมาอาระวาดพักใหญ่ๆแล้วครับ เซียนเล็ก เซียนใหญ่ ในท้องที่ โดนกันเป็นแถวครับ ............................ที่เห็นเป็นเหรียญหลวงพ่อไปล่ วัดธรรมจริยา รุ่นแรก ปี ๒๔๙๘ เนื้อทองแดง กะหลั่ยทอง สภาพสวยเดิมๆ แท้ ดูง่ายๆ ครับผม................................................

 

เหรียญนี้"ดัง"เพราะยิงไม่ออก!!!
...........................................เมือ่ซักเกือบ ๑๐ ปีที่แล้ว เซียนเหรียญเมืองกรุงเก่าท่านหนึ่ง(ขอสงวนนาม) ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากสนามพระจะกลับบ้าน ถูกคนร้ายตามไปยิงเพื่อชิงทรัพย์(พระเครื่องในกระเป๋าสะพาย) ซัดไปเต็ม ๓ นัดไม่ออกเลย รอดตายมาได้หวุดหวิด ที่แขวนติดตัวมีพระอยู่ ๒ เหรียญ คือเหรียญหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง และหลวงพ่อกลั่น"เหรียญกลม"ปี ๒๔๗๘ นี่แหละครับ จากเหรียญราคาไม่แพง ปัจจุบัน ถ้าสวยๆก็หลักแสนแล้วครับ เหรียญนี้ สภาพแค่พอสวย ห่วงเชื่อมหลุดไปแล้ว หน้าเห็น หลังเห็น ไม่ถึงกับขี้เหร่ เลี่ยมทองพร้อมใช้ ถ้าหวังใช้พึ่งพุทธคุณ ก็คิดว่าคุ้มแน่ ครับผม...............................

 

เหรียญ"มหาอุด"อันดับ ๑ แห่งบางไทร???
........................................ถ้าพูดถึงเหรียญที่มีประสบการณ์เรื่อง"มหาอุด"มากที่สุดในย่านบางไทรแล้วล่ะก็ นักเลงยุคเก่าต่างก็ยกให้ เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อโชติ วัดป้อมแก้ว เป็นอันดับ ๑ ครับ เพราะโดนกันมาเยอะ โดนกันแบบจะจะ จังๆทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ คนแถวบางไทร จึงนิยมแขวนเหรียญหลวงพ่อโชติ คู่กับเหรียญหลวงพ่อจงเสมอ นอกจากจะขอพึ่งพุทธคุณของท่านแล้ว ทั้งหลวงพ่อโชติ และหลวงพ่อจง ต่างก็เป็น"ศิษย์พี่-ศิษย์น้อง"ร่วมสำนักกันอีกด้วย เหรียญหลวงพ่อโชติ วัดป้อมแก้ว รุ่นแรก สร้างในปี ๒๔๙๓ ที่เห็นเป็นเนื้อทองแดง ตามประวัติว่าสร้างใว้เพียง ๔๐๐ เหรียญเท่านั้น เรื่องความหายาก คงไม่ต้องพูดถึง เหรียญนี้ สภาพสวยเดิมๆ และเป็นเหรียญที่แท้ ดูง่ายๆอีกด้วย ครับผม..........................................

 

เหรียญดัง เพราะคนแขวนเหรียญนี้ ถูกยิง แต่ไม่เข้าซักนัด???
......................................ลูกน้องของ"คนมีสี"ชื่อดังคับประเทศ ซึ่งแต่ก่อนท่านอยู่อยุธยา ลูกน้องท่านโดน"ดักยิง"ในท้องที่บางปะหัน ซัดกันเต็มข้อ แต่ไม่เข้าซักนัด ในคอแขวนเหรียญหลวงพ่ออุป วัดตานิม รุ่นแรก เพียงเหรียญเดียวเท่านั้น ถ้าพูดถึงในด้านราคา ท่านอาจจะ"เป็นรอง"เหรียญหลวงพ่อเพ็ชน์ วัดนนทรีย์ แต่ถ้าพูดถึงเรื่อง"พุทธคุณ"กันแล้ว ท่านไม่ได้เป็นรองเลยครับ เหรียญหลวงพ่ออุป วัดตานิม รุ่นแรก สร้างในปี ๒๔๙๐ เป็นอีกเหรียญที่คนในท้องที่ มีประสบการณ์กันมาก โดยเฉพาะเรื่อง"มหาอุด คงกระพัน"มีประสบการณ์กันเยอะจริงๆ เหรียญรุ่นแรกของท่านสร้างใว้น้อย จึงค่อนข้างจะเป็นเหรียญหายากไปซักนิด แถม"ของเก๊"ก็ออกมาระบาดแล้วหลายฝีมือ จนเป็นที่ครั่นคร้ามของนักสะสมที่มีใจรักใจศรัทธา อยากได้เหรียญของท่านใว้บูชา ที่เห็นเป็นเหรียญรุ่นแรก สร้างในปี ๒๔๙๐ เนื้อทองแดง สภาพน่ารัก เด็ก ฅนอโยธยา นำมาแบ่งกันชม แบ่งกันศึกษา ครับ

 

สุดยอด"มหาอุด"ท่านท้าให้นักเลงยิงมาแล้ว แต่ไม่ออกครับ???
............................................ไปสืบประวัติดูได้ ว่าจริงหรือเท็จ ลูกศิษย์ยุคเก่าๆ ท่านเล่าให้ฟัง ว่ามีนักเลงขี้เมา มาพูดจาดูถูกท้าทายท่าน ท่านก็เลย"ท้าให้ยิง"ตัวท่าน ไอ้ขี้เมาก็บ้า!!! ดันยิงจริงๆ ปรากฏว่า"ไม่ออก"ซักนัด เรื่องนี้ คนเก่าๆที่ท่าเรือ เขารู้กันทั้งนั้น ก็ขนาดหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ยังต้องมาขอเรียนวิชาจากท่านเลย แล้วจะว่าท่านไม่เก่งได้อย่างไรครับ ที่เห็น เป็นเหรียญรุ่นแรก สร้างในปี ๒๔๙๖ พิมพ์นิยม ยันต์ใหญ่ เนื้อเงิน ซึ่งพบเจอยากมากๆ สภาพน่ารัก และเป็นเหรียญแท้ดูง่ายๆ เก่าคร่ำสมอายุ ครับผม............................................

 

สุดยอด"มหาอุด"ท่านท้าให้นักเลงยิงมาแล้ว แต่ไม่ออกครับ???
............................................ไปสืบประวัติดูได้ ว่าจริงหรือเท็จ ลูกศิษย์ยุคเก่าๆ ท่านเล่าให้ฟัง ว่ามีนักเลงขี้เมา มาพูดจาดูถูกท้าทายท่าน ท่านก็เลย"ท้าให้ยิง"ตัวท่าน ไอ้ขี้เมาก็บ้า!!! ดันยิงจริงๆ ปรากฏว่า"ไม่ออก"ซักนัด เรื่องนี้ คนเก่าๆที่ท่าเรือ เขารู้กันทั้งนั้น ก็ขนาดหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ยังต้องมาขอเรียนวิชาจากท่านเลย แล้วจะว่าท่านไม่เก่งได้อย่างไรครับ ที่เห็น เป็นเหรียญรุ่นแรก สร้างในปี ๒๔๙๖ พิมพ์นิยม ยันต์ใหญ่ เนื้ออัลปาก้า ซึ่งพบเจอยากมากๆ สภาพสวยเดิมๆ(หน้าตาเป็นอย่างนี้ในบล็อคนะครับ ไม่ใช่ใช้จนสึก) และเป็นเหรียญแท้ดูง่ายๆ เก่าคร่ำสมอายุ ครับผม............................................

 

เหรียญนี้ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ท่านเสกจน"นาฬิกาหยุด"!!!
.......................................เรื่องจริง!!!ไม่ต้องอิงนิยาย เพราะเขารู้กันทั้งอำเภอ เหรียญหลวงพ่อแจ่ม วัดไผ่ล้อม รุ่นแรกปี ๒๕๐๖ เป็นเหรียญที่สร้างหลังจากหลวงพ่อแจ่มท่านมรณภาพไปแล้ว แต่ได้จัดพิธีปลุกเสกโดยนิมนต์สุดยอดเกจิหลายท่านมาปลุกเสกเช่น หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ หลวงปู่สังข์ วัดน้ำเต้า หลวงพ่อโบ วัดโคก และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ปรากฏว่า ถึงเวลาเสก มีคนมานิมนต์หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกเข้ากรุงเทพฯ ท่านเลยไม่ได้มาเสกร่วมในพิธี แต่ในตอนเย็น คนที่นิมนต์ท่านไป นำท่านมาส่งที่วัดในตอนเย็น หลวงพ่อจง ท่านจึงทำการปลุกเสกท่านเดียวอีกครั้งในตอนเย็น ที่อุโบสถหลังเก่า ปรากฏว่า ขณะที่หลวงพ่อจงท่านทำการปลุกเสก เป็นเวลา ๖ โมงเย็นพอดี นาฬิกาทุกเรือน ทั้งที่ตั้งพื้น และตั้งโต๊ะ รวมทั้งนาฬิกาของคนที่มาเข้าร่วมพิธีทุกคน ก็หยุดอยู่ที่ ๖ โมงเย็นทั้งหมด จนท่านปลุกเสกเสร็จ นาฬิกาทุกเรือนจึงเดินเป็นปรกติ แบบนี้ จะเรียกว่า"สุดยอดอริยสงฆ์"ของจริงได้ใหมครับ เหรียญรุ่นนี้ สร้างในปี ๒๕๐๖ เป็นเนื้อทองแดง กะหลั่ยเงิน จำนวน ๒๐๐๐ เหรียญ ประสบการณ์ เรื่อง มหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน เจอกันมาอย่างโชกโชน แถมคนในท้องที่ ยังเคยเอาเหรียญไปลองมาแล้ว ผลเป็นยังไง ไปถามคนแถววัดไผ่ล้อมดูได้ คนที่เอาไปลอง ก็ยังมีชีวิตอยู่ครับ เหรียญนี้ สภาพสวยมากๆ กะหลั่ยเงินเต็มๆ และก็แท้ ดูง่ายๆ เด็ก ฅนอโยธยา นำมาแบ่งกันชม แบ่งกันศึกษา ครับผม................................

 

ดาวรุ่ง มาแรง แห่งบางบาล
........................................พระสุนทรธรรมมานุวัตร หรือหลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม ชื่อนี้ คนนอกพื้นที่อาจจะไม่รู้จักท่าน ที่คนเมืองกรุงเก่า เขารู้จักท่านดี หลวงพ่อเอียด ท่านนี้ เป็นศิษย์สืบทองสายวิชาของ"หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ"เทพเจ้าแห่งบางบาล ที่เหลือเพียงท่านเดียวในปัจจุบันครับ เรื่องประสบการณ์ในวัตตถุมงคลของท่าน ไม่ต้องพูดถึง เอาเป็นว่า ชาวบ้าน"เขาหวง"ก็แล้วกัน ที่เห็น เขาเรียกว่า"สมเด็จหลังไผ่" เป็นพระเนื้อผงรุ่นแรกของท่าน สร้างในปี ๒๕๑๓ โดยกดพิมพ์กันที่วัด อาจจดู"พิมพ์ตื้นๆ"ไม่สวยงาม แต่พุทธคุณสุดยอดมากๆ แถม"ของเก๊"ก็เยอะซะด้วย ประมาทเป็น"โดนน๊อค"แน่ๆครับ องนี้ สภาพสวยเดิมๆ(มีหน้าตาขนาดนี้ ท้องที่เขาถือว่าสวยมากแล้วครับ) ไม่มีหัก ไม่มีซ่อม ให้ปวดใจ และก็เป็นพระแท้ ดูง่ายๆ ครับผม...............................

 

เหรียญนี้ นักเลงนครหลวง ต่างก็ยกนิ้วให้ใน"เรื่องความเหนียว"
.........................................หลวงพ่อฟัก วัดบันได ศิษย์เอกของหลวงปู่กรอง วัดเทพจันทร์ลอย(หลวงปู่กรองท่านเป็นสหธรรม กับหลวงพ่อกลั่น และหลวงปู่นวม) เก่งชนิดลูกไม้หล่นไม่ใกลต้น นักเลงท้องถิ่น อ.นครหลวงแห่งเมืองกรุงเก่า ต่างยกนิ้วให้ ในความเข้มขลังของวัตถุมงคลของท่าน ที่เห็นเป็นเหรียญรุ่นแรก สร้างในปี ๒๕๐๓ เป็นเหรียญที่ประสบการณ์ดีมากๆ(ของเก๊ก็ออกมาดีมากๆเช่นกัน) คนเก่าคนแก่เล่าว่า หลวงพ่อฟัก ท่านได้นำตะกรุดของหลวงปู่กรอง วัดเทพฯ ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่าน ไปเป็นชนวนในการปั๊มเหรียญด้วย ด้วยเหตุนี้ คนในพื้นที่จึงหวงกันจัง เหรียญรุ่นนี้ ด้านหลังมี ๒ บล็อค คือ"บล็อคมี พ.ศ." กับ"บล็อคไม่มี พ.ศ." แต่ไม่ว่าจะเป็นบล็อคใหน ก็หายากทั้งคู่ ราคาก็พอๆกันครับ ๔ เหรียญนี้ เป็นเหรียญสภาพแชมป์ๆ ของพื้นที่เมืองกรุงเก่า เด็ก ฅนอโยธยา ขอนำมาแบ่งกันชม แบ่งกันศึกษา ครับ

 

ท่านนี้เก่ง เขาว่าท่านเสกเหรียญจนตัว"เฑาะ"ลอยออกมาจากปากท่าน
...........................................จากที่ท่านเป็นพระเกจิบ้านนอก ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก แต่หลังจากที่ท่านได้เข้าร่วมปลุกเสก"พิธีจตุรพิธพรชัย"ที่วัดรัตนชัย(วัดจีน)ในตัวเมืองกรุงเก่าแล้ว ชื่อเสียงของท่านก็เริ่มเป็นที่ปรากฏ ก็เพราะเหตุที่ว่า"เกจิชัยนาท"ท่านกล่าวกับลูกศิษย์ของท่านว่า "พระวัดบ้านช้าง"อ.วังน้อย ท่านเก่งคงกระพันชาตรี เวลาปลุกเสก ตัวเฑาะจะลอยออกมาจากปาก ปราชญ์ย่อมรู้ในปราชญ์ หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง ท่านเป็นพระเกจิที่คนในพื้นที่เลื่อมใสศรัทธากันมาช้านาน ด้วยคุณวิเศษของท่าน และท่านเองก็เป็นหนึ่งใน"ศิษย์เอก"ของหลวงพ่อพัน วัดบ้านสร้าง ที่เก่งแบบลูกไม้ใต้ต้นเลยทีเดียว ที่เห็นเป็นเหรียญรุ่นรุ่นสุดท้ายของท่าน ที่เรียกกันว่า รุ่นสร้างศาลา สร้างในปี ๒๕๑๙ เท่าที่พบจะมีเนื้อเงิน และเนื้อทองแดง ส่วนของเก๊ ก็ออกมาระบาดกันหลายฝีมือ และทำได้ดีชนิดประมาทไม่ได้เลย เหรียญนี้ เป็นเหรียญเนื้อเงินที่สร้างน้อย พบเจอยากมากๆ สภาพสวยเดิมๆ แท้ ดูง่ายๆ เด็ก ฅนอโยธยา นำมาแบ่งกันชม แบ่งกันศึกษา ครับผม.............................

 

ชอบความ"เข้มขลัง"ในพุทธคุณ ชอบความ"คลาสสิค"ของเหรียญเก่า แวะชมเพิ่มเติมได้ที่ร้าน"ฅนอโยธยา "ในเวบฯท่าพระจันทร์ ดอทคอม ครับผม WWW.THAPRACHAN.COM ค้นหาร้าน"ฅนอโยธยา"ครับ รวบรวมสุดยอดเกจิเมืองกรุงเก่าล้วนๆ ครับผม รับรองว่า ไม่มีคำว่าผิดหวังครับ
เด็ก ฅนอโยธยา

 

เหรียญสวยๆทั้งนั้นเลยนะครับ