มาดูสมเด็จกัน

ท่านผู้ถามมีพระคุณกับผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมต้องแสดงความคิดเห็นสักหน่อย ว่าทำไมผมไม่หลังไมค์

หากการรู้ของผม ได้พาโจร หรือบุคคลที่เป็นมิจฉาชีพเข้าบ้านของผู้ที่ผมเคารพ ชีวิตหลังจากนี้ต่อไป ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนในสังคมของผม หากมีการประทุษร้ายต่อเจ้าทรัพย์จนถึงแก่ความตาย ผมคงต้องชดใช้ด้วยชีวิตเช่นกัน ด้วยเหตุผลนี้ หวังว่าสิ่งที่ถามมา ทุกท่านคงเข้าใจนะครับ

 

สวัสดีครับไม่ได้ออนเสียนานก็สวัสดีปีใหม่เพื่อนชาวพลังจิตกันทุกท่านนะครับ
วันนี้นำพระมาลงให้ช่วยวิเคราะห์กันครับ ติชมได้เต็มที่ครับเพื่อความรู้

 

ไปถ่ายนางพญามาท่านอาวุโสทุกท่านช่วยพิจรณาหน่อยครับ

 

หากมององค์รวม มวลสารลอยที่เห็นและทรงพิมพ์ องค์นี้ไม่ผ่านครับ เป็นพระฝีมือเกรด3 การแกะพิมพ์ไม่เน้นมิติสมจริง จุดสำคัญของพิมพ์แกะผิดทั้งองค์ครับ

 

พระนางพญา เนื้ออย่างนี้ไม่ผ่านครับ ทรงพิมพ์ดูกระด้างมาก ขาดความอ่อนช้อย ลองศึกษาดูใหม่ เอาภาพในหนังสือพระบางเล่มมาลองอ่านดูก่อน แล้วค่อยเช่า จะได้ไม่เสียทรัพย์

 

ถ่ายมาใหม่แล้วครับ

ลองถ่ายใหม่โดยใช้แสงธรรมชาติ รบกวนช่วยดูอีกทีนะครับ ขอบคุณครับ

รูปถ่ายด้านหลังองค์พระ รบกวนช่วยดูกระทู้เก่าได้มั้ยครับ เพราะกว่าจะโพสลงได้ ผมใช้ความพยายามไปสักสามสิบครั้งได้ อิอิ เป็นกระดานที่โพสรูปได้ยากเย็นทีเดียวครับ หรือ net เราไม่ดีหว่า

รบกวนหน่อยนะครับพี่ๆทั้งหลาย

 

เมื่อคืนนอนดึก ครับ ได้ความรู้ดีดีจากบอร์ดนี้ มากมาย ได้รับรู้สิ่งที่ไม่เคยรู้ ได้เรียนรู้สิ่งที่แตกต่าง ไม่เฉพาะเรื่องพระที่เราชื่นชอบ บูชา ศรัทธา เท่านั้น/เรื่องบางเรื่องที่เราไม่รู้ และไม่เคยรับรู้ยังอีกมากมาย/ยังมีเรื่องต่างๆอีกมาก/ขอบพระคุณที่มีบอร์ด ดี ดี อย่างนี้
{(ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ/ผมว่าสิ่งที่สะท้อนใจในปัจุบันคือ ...คนปลอม ...มนุษย์ปลอมครับ...ไม่ใช่พระปลอมครับ/เรื่องที่เป็นเรื่อง อดีตที่เรา ไม่เคยรู้ ปัจุบันมีกระบวนการทางประวัติศาสตร์ ขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ สามารถสืบค้นเสาะหาได้... แต่ใจมนุษย์ นี่ ยากแท้หยั่งถึงครับ...หุหุหุ(ขอใช้ด้วยนะครับ)}

ขอบพระคุณอาจารย์ wasabi ที่ได้ให้ความรู้จากประสบการณ์ตรง ขอบพระอาจารย์ xlmenที่วิเคราะห์อย่างมีเหตุผล ขอบพระคุณผู้อาวุโส บุพนิมิต...ขอบพระคุณมากครับ

อิอิ ...วันนี้ ผมนำมา สมเด็จเกศไชโย มาขอความอนุเคราะห์อาจารย์ทั้งสอง พี่ ๆ เพื่อน่วยช่วยวิเคราะห์ด้วยครับ...ขอบพระคุณอย่างมาก
องค์ที่สามมีสีน้ำตาลอมดำ เหมือนผงยา น้ำหนักเบา แต่หนาหมือนพิมพ์คะแนน ไม่ทราบว่าสมเด็จเกศไชโย พิมพ์นี้มีไหมครับ/ ...ขอบพระคุณครับ

 

ขอบพระคุณๆ วาซาบิที่เอื้อเฟื้อภาพพระกริ่งปวเรศแท้จากวัดบวรให้เพื่อนๆ ได้ชมเป็นบุญตากันครับ.....
เวลาผมเปิดเจอพระกริ่งปวเรศสวยๆ ในหนังสือทีไร....น้ำลายมันอดจะไหลไม่ได้เลยครับคุณวาซาบิ 555+

มีอยู่ช่วงนึงที่ผมฟิตเข้มพระกริ่งจัด....อุตส่าห์นั่งดูนั่งจำหาตำหนิพระกริ่งปวเรศอยู่ตั้งนาน....
แต่พอเดินตลาดมาทั้งบนและล่างจนน่องบวม (เดินมาหลายปี) ก็ชักจะหมดแรงเพราะหาของแท้ไม่เจอเลยซักองค์ครับ หุหุหุ.....

ไอ้ที่เจอพระกริ่งนวโลหะกลับดำก็ดำแบบงั้นๆ ครับ...บางองค์กลับดำยังสู้พระกริ่งใหม่ๆ ยังไม่ได้เลย....
ดำเป็นหย่อมๆ ตามซอกไม่ยักกลับ ที่ร้ายกว่านั้นกลับดำโดยเคมีผิวนี่ด้านซะน่าเกลียดเลยก็มีครับ....

เอาเป็นว่างานนี้ผมขอชมบารมีพระกริ่งปวเรศของคุณ Natachai
เป็นบุญตาหน่อยเถอะครับ...ถึงจะไม่ใช่รุ่น ๑ ก็ไม่เป็นรัยครับ....ผมแค่อยากรู้ว่าพระกริ่งรุ่น ๒ เนื้อจะสู้พระกริ่งยุคใหม่ 254x ได้หรือไม่เท่านั้นเองครับ

 

พระของคุณลำปางหนา....องค์นี้มีลุ้นเหมือนกันครับ ถ้าถ่ายรูปด้านหลังและด้านข้างมาด้วยจะดีมากเลยครับ....
ลักษณะพิมพ์เป็นพิมพ์เกศไชโยฐาน ๗ ชั้นเศียรเม็ดพริกไทย มีคอ หูช้าง พิมพ์ถือว่าใกล้เคียงมากครับ

ส่วนเนื้อนั้นเป็นปูนเปลือกหอย มีมวลสารพอสมควร มีคราบน้ำอ้อยเคี่ยวที่ผ่านการล้างมาให้เห็นที่ด้านหน้าพอสมควรครับ...

เอาเป็นว่าตอนนี้ผมขอดูด้านหลังองค์พระก่อนที่จะวิเคราะห์ต่อนะครับ

 

...การให้ข้อมูลก็คือการให้ทราบข้อเท็จจริง แต่เชื่อหรือไม่นั้นก็ว่ากันไปตามต่างๆนาๆ เอาง่ายๆ เห็นมีแต่คนชอบอ้างองค์ที่อยู่ในเก๋งของวัดบวรนิเวศ แต่ไม่มีใครเคยบอกว่าเป็นพระกริ่งปวเรศ รุ่น 1 ที่สร้าง พ.ศ.อะไรและในวาระอะไร...ผมบอกให้เป็นความรู้เบื้องต้นองค์นี้เป็น พระกริ่งปวเรศที่สร้างในวาระ 1 พ.ศ.2416 เนื่องในวาระที่ ร.5 ทรงผนวช หากเป็นวาระที่ 2 ว่าด้วยเรื่องครองราชย์ ก็จะเป็นพระกริ่งฯอีกชุดหนึ่งที่ได้สร้างขึ้น

...พระกริ่งปวเรศที่ผมห้อยอยู่ที่คอนั้น เป็นพระกริ่งปวเรศ รุ่น 1 พ.ศ. 2434 สร้างวาระที่ 2 และวาระที่ 3 รายละเอียดให้ไปดูในบล๊อกของผม

...ผมไม่ได้มาขายของบังเอิญเห็นมีการกล่าวอ้างถึงเลยเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น...เพื่อให้คนที่ไม่ทราบหรือไม่มีความรู้เรื่องพระกริ่งปวเรศรุ่น 1 จะได้ทราบว่ามีข้อมูลที่ผู้เขียน(นั่งดูกราฟแท่งเทียนหุ้น ทองคำ FOREX(ค่าเงิน) แล้วพิมพ์ข้อมูลในบล๊อก) เป็นการดูแท่งทียนแล้วก็เขียนจริงๆ ไม่เชื่อไม่เป็นไร ไม่ได้ว่าอะไรกัน ความเห็นล้วนขัดแย้งกันได้ แต่ความจจริงย่อมหนีความจริงไม่พ้น "ของแท้จะให้เป็นของปลอมย่อมเป็นไปไม่ได้ และถ้าเป็นของปลอมจะให้เป็นของแท้ก็เป็นไปไม่ได้อีกเช่นกัน"

รายละเอียดต่างๆมีในบล๊อกที่ผมเขียนประมาณ 90% อัพ นับว่าเพียงพอสำหรับผู้ที่ยังยึดถือตามตำราได้หูตาสว่างยกเว้นคนตาบอด

ในนิตยสารบุญพระเครื่อง ฉบับที่ 67 ปีที่ 6 พ.ศ.2553 ได้ลงพระกริ่งปวเรศรุ่น 1 พ.ศ.2434 หน้าผากหมุดทองคำ วงการเซียนตำราต่างตีว่าเก๊ แต่พระขึ้นหน้าปก ผู้ซื้อ(ผู้เช่า) กลับเช่าไปราคาสูงถึงเก้าล้านบาท พร้อมทั้งให้ข้อมูลในเชิงลึกอีกหลายๆเรื่องที่ผู้ขายเองยังไม่ทราบ...ไปๆมาๆกลายเป็นว่าผู้ซื้อรู้มากกว่าผู้ขาย...ของอย่างนี้หลอกกันไม่ได้ครับ...เรื่องเหล่านี้จะจริงหรือเท็จก็ฟังหูไว้หู...เพราะผู้ฟังหรือผู้อ่านไม่ได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์

ถ้าเชื่อหรือศึกษาเล่นๆไว้ประดับเป็นความรู้ว่าแบบนี้ก็มีนะ ในบล๊อกผมเชิญครับ...(เป็นเรื่องขำๆฮาๆของเซียนตำราก็ได้) แต่ถ้ามาอ้างแค่องค์ของวัดบวรนิเวศเพียงองค์เดียวอย่ามาคุยกับผมเสียเวลา...เพราะผมเห็นของจริงมามากจึงกล้าสรุปเรื่องราวต่างๆตั้งแต่การสร้างวาระที่ 1 ถึงวาระที่ 10 รวม 6 พ.ศ. เคยเห็นม๊ยการนั่งเทียนเขียนแบบนี้ขึ้นมา มีที่ไหนคิดขึ้นมาได้บ้าง

 

พระของคุณ PSOM องค์นี้พิมพ์เจตนาถอดพิมพ์มาจากพิมพ์ 7 ชั้นนิยมครับ....
เนื้อหาพิมพ์ถือว่าทำได้ดีมากครับ....แต่ถ้าพิจารณาความเก่าของเนื้อ + ความหดตัวแล้วผมว่าดูจะใหม่เกินไปนิดนะครับ...



ส่วนองค์นี้ผิดพิมพ์ชัดเจนครับ....
บริเวณอกช่วงรอยต่อที่คอตามหลักต้องเว้าเข้าไปไม่ใช่ปูดนูนขึ้นอย่างในรูปนี้ครับ....


องค์นี้ผมไม่ทราบว่าออกวัดไหนนะครับ

 

ของผมพอมีลุ้นมั้ยครับอาจารย์

 

ผมลองเข้าไปชม Blog ของคุณ Natachai
แล้วนะครับ....ขอบอกว่า....การศึกษาค้นคว้าเป็นสิ่งที่ดีครับแต่การเชื่อมั่นในดุลพินิจของตนเองมากจนเกินไปอาจทำให้เกิดมานะทิฐิและหลงผิดได้นะครับ....

เอาแค่ง่ายๆ นะครับ ถ้าเราทุกคนเชื่อว่าสมเด็จกรมพระยาปวเรศท่านเป็นผู้สร้างพระกริ่งด้วยตัวท่านเองแล้ว....??
ผมขอถามสั้นๆ ง่ายๆ ไม่ต้องใช้เครื่อง XRF อะไรนั่นด้วยว่า....

การเขียนอักขระขอมนั้นผู้คงแก่เรียนเขาเขียนอักขระหวัด และวิบัติแบบในรูปนี้หรือครับ ???
เส้นขาดในทางไสยเวช หรือในทางอักขระเวทย์ ถือว่าผิดหลักวิชานะครับ....

และเรื่องคำนิยามคำว่า "บาท" ที่คุณ Natachai กำลังคิดว่าคนสมัยก่อนเขาไม่น่าจะชั่งน้ำหนักขนาด 15.2 กรัมได้ ผมว่าคุณคิดผิดแล้วนะครับ...
คนไทยสมัยก่อนเขาไม่ได้โง่นะครับเครื่องช่างเขาก็มี...ถึงจะไม่ใช่ระบบดิจิตอลก็สามารถชั่งได้ครับ...

และการบัญญัติใช้เรียกสกุลเงินว่าบาท นั้นเริ่มขึ้นสมัยรัชกาลที่เท่าไหร่เอ๋ย ??
ลองค้นคว้าดูก่อนด่วนสรุปดีกว่าไหมครับคุณ Natachai

ถ้านับจากสมัยกรุงศรีอยุธยามา การใช้เงินก็เป็นเงินพดด้วงมิได้เรียกว่าเงินบาท

ส่วนสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้วท่านก็อยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา (ยุคสมเด็จพระนเรศวรมหาราช) การจะบัญญัติมาตรวัดในการชั่ง ตวง ว่า "บาท" คงไม่เกี่ยวอะไรกับจำนวนเงินพดด้วงในสมัยนั้นแน่ครับ...


มาถึงยุคกรุงรัตนโกสินทร์...การเรียกค่าเงินก็มิได้เรียกว่าเงินบาทเพียงอย่างเดียว...
มีทั้ง สลึง อัฐ ซีก เสี้ยว โสฬส การเรียกมูลค่าของเงินกับการเรียกมาตรวัดของน้ำหนักนั้นเป็นคนละเรื่องกันครับ...

การเรียกมาตรวัดน้ำหนักว่า "บาท" นั้นเป็นความรู้ทางช่างที่ตกทอดสืบกันมาตั้งแต่
อดีตกาล...เผลอๆ อาจจะเรียกมาตรวัดบาทนี้มาตั้งแต่สมัยสุโขทัยด้วยซ้ำไปครับ...

การที่คุณ Natachai คิดเอาเองว่าการใส่ทองคำ ๙ บาท คือ ทองราคาขาย ๙ บาทในสมัยโบราณจึงเป็นความคิดที่หลุดกรอบ...และก็หลุดกรอบความรู้พื้นฐานช่างอย่างมากครับ


และเท่าที่ผมได้เข้าไปชมพระกริ่งปวเรศใน Blog มา...
ก็ดูแล้วเนื้อจะออกเป็นสัมฤทธิ์ทองเหลือง ทองแดง ที่โดนน้ำยาแอมโมเนียแต่งผิวให้ดำมาเป็นส่วนใหญ่นะครับ...

ยิ่งถ้าพูดถึงศิลปะการทำเม็ดพระศก (มวยผม)
องค์ในรูปบุญพระเครื่องเม็ดพระศกหยาบมากครับ (ช่องไฟวางได้ห่างและน่าเกลียดมากครับ)

ถ้าเทียบกับเม็ดพระศกองค์ที่เห็นๆ กันของวัดบวรที่คุณวาซาบินำมาให้ชมกันบอกได้ว่าแท้ตาเปล่า...
ส่วนพระของนิตยสารถึงผมไม่ใช่เครื่อง XRF ผมก็ตอบได้ครับว่าฝีมืองานหยาบเก๊ตาเปล่าเช่นกันครับ

สรุป พระกริ่งปวเรศ ถ้าสมเด็จกรมพระยาปวเรศเป็นผู้สร้างเองกับมือ...ควรหรือที่จะเขียนอักขระวิบัติไว้ที่ก้นกริ่งแบบนี้ครับ ???

 

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งสองมากครับ ดีใจมากๆครับที่สมเด็จท่านมาโปรดผม

 

โอ้โฮ..... ผมอ่านแล้วสุดยอดมากเลยน๊ะคุณ xlmen คุณ wasabi san และคุณ natachai ต่างก็มีเหตุและผลของแต่ละท่าน ส่วนผมไม่เคยได้ศึกษาพระกริ่งเลย ก็ต้องขออนุญาตินำมาเป็นข้อมูล เหตุและผลเพื่อศึกษาบ้าง ด้วยคนเด้อ
เหมือนเดิมเลยน๊ะคุณ xlmen ข้อมูลปึกเหมือนเดิม สุดยอดๆ นับถือๆ
แต่ก็เพียงเพื่อความรู้น๊ะครับ มิบังอาจค้นหา เพื่อให้ได้มาบูชาดอกน๊ะ วาสนา บ่ ถึงจ๊ะ แต่รู้ไว้เผื่อคุยกับเขาได้ จะได้ไม่ไปโดนเขาหลอกเอา อิอิอิ

 

คุณxlmen วิเคาระห์ได้ดีมาก พระที่โพสต์เป็นพระฉีดพิมพ์มา พระศกอย่างนี้ มีสิทธิ์ตอกพิมพ์มาด้วยซ้ำ บวกกับหนังสือพระฉบับนี้แล้ว ไม่ต้องบรรยาย ตกม้าตายตั้งแต่ขึ้นปก

ส่วนใครต้องการพระกริ่งปวเรศ คงต้องนั่งเทียนอ่านกันอีกนานครับ เพราะเท่าที่เดินดูหนังสือมา ส่วนใหญ่ผู้เขียนแต่งวรรณกรรมขึ้นเองทั้งสิ้น เอาเวลาไปศึกษาสิ่งที่เป็นไปได้จะดีกว่านะครับ

หลงทางเสียเวลา หลงศึกษาพระมีปัญหาเสียอนาคต

 

ขอมองต่างมุมเล็กน้อยครับ สิ่งที่ยาก คือ ไม่เห็นของจริง

องค์นี้เป็นพิมพ์นิยมA มีบางจุดที่ดี โดยเฉพาะมวลสาร หากผมมองไม่พลาด น่าจะมีโอกาสแท้สูงนะครับ ลองให้ท่านอื่นวิเคาระห์อีกครั้งนะครับ

 

ทัศนะส่วนตัว ผมมองว่ามวลสารไม่ใช่พระสมเด็จวัดเกศไชโย เนื่องจากเนื้อมวลสารดูแกร่งเกินไป มวลสารลอยอย่างเศษไม้กุ๊กไก่ จุดแดง ไม่ปรากฏชัด ทางที่ดีขอชมด้านหลังอย่างที่ท่านxlmen สอบถามมาน่าจะดีที่สุดครับ

 

คราบอย่างนี้ไม่มีในพระสมเด็จวัดเกศไชโยครับ

 

สวัสดีครับอาจารย์ ลูกศิษย์ใหม่ๆครับ ผมกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อศึกษาครับ พอมีพระของคุณพ่อดีๆอยู่บ้างครับ