หลวงปู่ฤาษีลิงดำ กับ ครูบาบุญชุ่ม

ผมอยากจะทราบว่าครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ฤาษีลิงดำหรือไม่ครับ ถ้าเป็นขอเรื่องราวความสัมพันธ์ของท่านทั้งสองด้วยครับ
อนุโมทนาครับ..

 

ผมได้มีโอกาสได้พบท่านครั้งหนึ่งที่วัดพระธาตุจอมกิตติติ์...ท่านถามอะไรนิดหน่อย....ท่านให้เหรียญท่าน 2 เหรียญ รูปโปรเตอร์ท่านอีก 2 ใบ ได้เงินด้วย.
ก็พึ่งรู้จักท่านก็ตอนนั้น เมื่อมองดูเหรียญที่ท่านให้ผม.

 

ขออนุโมทนากับคุณสัณฐ์ ด้วยและได้เข้าไปเยี่ยมคลับบล๊อค ตื่นเต้นดีครับรู้สึกว่าคุณสัณฐ์เองเป็นช่างปิดทองพระด้วยรึป่าวครับ งานนี้เป็นบุญด้วยเป็นพุทธานุสติ และเลี้ยงชีพชอบด้วย น่าสนใจนะครับ ถ้าว่างๆ ลองบอกมาบ้างนะครับถ้ามีเวลาจะไปร่วมด้วยช่วยงานครับ

 

อนุโมทนาบุญครับ....ตอนนี้เป็นช่างปิดทองครับ....คลับบล๊อก ยังทำไม่เสร็จ เหลืออีกนิดหน่อย...ปิดทองพระทำมาสี่ปีแล้ว ก็ว่าจะหยุดเร็ว ๆ นี้ เลยรวมรูปภาพงานที่เคยทำไว้...อยากเป็นชาวไร่ชาวสวนแล้ว....

 

เคยมีโอกาสไหว้ครูบาตอนมากรุงเทพคับ ท่านมีเมตตามากๆ แต่ไม่ทราบว่าท่านเคยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีหรือเปล่าคับ นับถือครูบาอาจารย์ทั้งสองท่านอย่างสูงคับ

 

พบในหนังสือกระโถนข้างธรรมาสน์ฉบับล่าสุด หรือก่อนล่าสุดนี่ หลวงพี่เล่าถึงก่อนที่จะพบพระองค์ที่สิบ ครูบาบุญชุ่มซึ่งยังเป็นเณร มายืนมองเหมือนแสดงเป็นนิมิตหมายให้ดูว่าจะเจอดี ซึ่งหลวงพี่ระบุไว้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งนั้นว่า ท่านมั่นใจว่าครูบาบุญชุ่มท่านเก่งจริง

จึงนับว่าครูบาบุญชุ่มได้มาวัดท่าซุงไม่น้อยกว่า 2 วาระ ซึ่งครั้งแรกอายุ 8 ขวบ ติดตามหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุยมาร่วมงานครบ 100 ปีหลวงพ่อปาน มีบันทึกว่าท่านเงียบ ไม่พูด ยิ้มกับลมกับแล้งไปเรื่อย จนลูกศิษย์หลวงพ่อหลายคนนึกปรามาส หลวงพ่อเมตตาปรามและบอกว่าท่านคล่องในสมาบัติ 8 จึงเป็นที่ฮือฮามาตั้งแต่ครั้งนั้น

แต่ก็ยังไม่ทราบชัดเจนว่าท่านนับเนื่องเป็นศิษย์หลวงพ่ออย่างไรหรือไม่

 

ในหนังสือกระโถนข้างธรรมาสน์เขียนแบบข้อความข้างบน..ถูกต้องหรือเปล่าค่ะ


" ครั้งแรกอายุ 8 ขวบ ติดตามหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุยมาร่วมงานครบ 100 ปีหลวงพ่อปาน มีบันทึกว่าท่านเงียบ ไม่พูด ยิ้มกับลมกับแล้งไปเรื่อย จนลูกศิษย์หลวงพ่อหลายคนนึกปรามาส หลวงพ่อเมตตาปรามและบอกว่าท่านคล่องในสมาบัติ 8 จึงเป็นที่ฮือฮามาตั้งแต่ครั้งนั้น "

แต่กลับพบข้อความนี้ใน
..หนังสือ.. บนเส้นทางพระโยคาวจร หน้าที่ 106ที่วัดเขาวงถ้ำนารายณ์

ไม่ได้ ระบุชื่อ สามเณรองค์นั้นเลย ค่ะ

เพราะเท่าที่ทราบมาเณรองค์ที่ติดตามครูบาชุ่มโพธิโกวัดชัยมงคลวังมุยลำพูน

.ยังไม่มีใคร ทราบเลยว่า...เณร...องค์นี้ อยู่ที่ใด และ..มีชีวิตอยู่หรือไม่

.....ถ้ามรณะภาพแล้ว... กลับมาเกิดใหม่ ตอนนี้...อายุเท่าใด......

อนุเสาวรีย์ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดชัยมงคล วังมุย ลำพูนค่ะ

 

อ่านแล้วค่ะ

ในกระทู้..พบพระองค์ที่ 10...ของคุณJdin_buddhism มีดังนี้ค่ะ

ทำอย่างไรใจก็ไม่ยอกสงบ อาตมาจึงทิ้งเพื่อนๆ ให้นอนต่อ เปิดประตูออกไปเพื่อเดินเล่น ก็พบกับ สามเณรบุญชุ่ม ทาแกง ยืนจ้องเป๋งอยู่หน้าห้อง...อาตมาถามว่า

 

แต่

ข้อความตัวอักษรสีเขียว จากหนังสือ เส้นทางพระโยคาวจร น่ะค่ะ

ส่วน" จึงนับว่าครูบาบุญชุ่มได้มาวัดท่าซุงไม่น้อยกว่า 2 วาระ " อยู่ในหนังสือเล่มไหนค่ะ

ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร วัดพระธาตุดอนเรือง
ไม่น่าจะเกี่ยวเนื่องกับครูบาชุ่ม โพธิโก...

ส่วน ครูบาชุ่ม โพธิโก (สหธรรมิกของหลวงพ่อ) วัดชัยมงคล วังมุย ลำพูน ท่าน ละสังขารแล้ว ส่วนใหญ่ ในปัจจุบัน ..ไม่ค่อยมีใครรู้จักครูบาชุ่ม ถ้า เอยชื่อในปัจจุบัน ก็จะคิดถึง ครูบาบุญชุ่มมากกว่า (ชื่อคล้ายๆกัน)

 

เคยพบ

 

ค่ะ..จากหลักฐานในหนังสือทั้งสองเล่ม..ได้ว่า
สามเณรที่กล่าวมา เป็นคนละองค์กันค่ะ
องค์แรกคือ ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโรวัดพระธาตุดอนเรือง
......"ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คนเก่า
พบในหนังสือกระโถนข้างธรรมาสน์ฉบับล่าสุด หรือก่อนล่าสุดนี่ หลวงพี่เล่าถึงก่อนที่จะพบพระองค์ที่สิบ ครูบาบุญชุ่มซึ่งยังเป็นเณร มายืนมองเหมือนแสดงเป็นนิมิตหมายให้ดูว่าจะเจอดี ซึ่งหลวงพี่ระบุไว้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งนั้นว่า ท่านมั่นใจว่าครูบาบุญชุ่มท่านเก่งจริง".....

จาก หนังสือ เส้นทางพระโยคาวจร

" ครั้งแรกอายุ 8 ขวบ ติดตามหลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุยมาร่วมงานครบ 100 ปีหลวงพ่อปาน มีบันทึกว่าท่านเงียบ ไม่พูด ยิ้มกับลมกับแล้งไปเรื่อย จนลูกศิษย์หลวงพ่อหลายคนนึกปรามาส หลวงพ่อเมตตาปรามและบอกว่าท่านคล่องในสมาบัติ 8 จึงเป็นที่ฮือฮามาตั้งแต่ครั้งนั้น "
เป็นสามเณรองค์ที่ติดตามครูบาชุ่ม โพธิโก วัดชัยมงคล วังมุย ลำพูน คือ ............. สามเณรอีกองค์หนึ่ง เจ้าค่ะ

 

คือเป็นที่ถกเถียงสอบถามกันในหมู่ผู้เคารพหลวงพี่เล็ก จึงกราบเรียนถามท่านว่า สามเณรสมาบัติ 8 ที่เคยติดตามหลวงปู่ครุบาชุ่มไปงานครบ 100 ปีหลวงพ่อปาน วัดท่าซุงนั้น ปัจจุบันคือผู้ใด หลวงพี่เมตตาตอบอย่างชัดเจนว่าคือครูบาบุญชุ่มครับ

 

ขอบคุณครับ..

 

แหมผมนี่คงโชคดีนะครับ ได้พบท่านแม้เพียงครั้งเดียวก็รู้สึกมีค่ามาก.....เห็นคนบอกว่าพบท่านยากมาก....ผมก็พึ่งรู้จักท่านก็เมื่อวันที่ได้พบท่านนั่นหละครับ....พอดีได้ไปปิดทองพระในโบสถ์พระธาตุจอมกิตติติ์ ฝนก็ตกแต่ไม่เป็นไรปิดทองข้างใน...บุญพาไปจริง ๆ ....เคยตั้งใจไว้ว่าอยากไปกราบพระธาตุที่นี่.
หลังจากที่พบท่านได้ไม่นาน ผมก็เกิดปรารถนาพุทธภูมิขึ้นมา.

 

เณรองค์นั้นคือท่านองค์นี้เอง

เป็นองค์เดียวกันครับ และที่เถียงกันว่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อพระราชพรหมยานหรือไม่ ขอตอบว่าเป็นครับ เพราะขณะนี้มีหนังสือรวบรวมประวัติของครูบาบุญชุ่ม ออกมาแล้ว โดยศิษย์ใกล้ชิดเป็นผู้ขออนุญาติจัดทำ และบางส่วนมีการเรียงลำดับ ครูบาอาจารย์ที่ครูบาบุญชุ่มได้ฝากตัวไว้เป็นศิษย์ซึ่ง ครูอาจารย์ลำดับที่ 7(อาจจะคลาดเคลื่อน) คือหลวงพ่อพระราชพรหมยาน และในหนังสือยังกล่าวถึงเรื่องที่ครูบาบุญชุ่มได้ จาริกธุดงค์ไปยังเนปาล โดยได้เข้าไปถึงเทือกเขาหิมาลัย จนกระทั่งไปพบกับ สถานที่ที่พระพุทธองค์ได้ทรงเสด็จมาบำเพ็ญบารมี ณ.เทือกเขาแห่งนั้นด้วย และเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดด้วยในหลายเหตุการณ์ แต่ด้วยวิริยะ ที่สูงส่งของท่าน จึงได้ธุดงค์อยู่ได้จนตลอดรอดฝั่ง และได้กลับเข้าสู่เมืองไทย ใครสนใจประวัติพร้อมเรื่องราวของท่านไปหาอ่านได้ครับ เข้าใจว่ามีวางตามร้านหนังสือใหญ่ๆ ครับ ส่วนผมอ่านได้ไม่ละเอียดมาก เลือกอ่านเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อ แต่ก็ไม่ได้อ่านจนจบเล่มครับ เพราะหนังสือหลวงพ่อมีมาก ยังอ่านไม่หมดเลย*-*

 

เป็นศิษย์หลวงปู่โง่นด้วยค่ะ

 

ครูบาบุญชุ่มท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ที่สั่งสมบารมีมามากแล้วครับ

ดูจากการทำบารมีแล้ว เข้าใจว่าท่านอาจจะไม่ใช่ลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤษีลิงดำ เอาไว้ปลายปี 2551นี้ เมื่อท่านมารับพระศรีอริยเมตตรัยจากมูลนิธิพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ที่ จ.หนองคาย ผมจะสอบถามให้ว่าท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤษีลิงดำ หรือเปล่า

สำหรับหลวงปู่โง่นนั้น ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร ครับ อันนี้หลวงปู่ใหญ่ท่านบอกผมเอง สำหรับครูบาบุญชุ่ม ท่านศิษย์หลวงปู่โง่น เมื่อถึงกาลเวลา สายธรรมของหลวงปู่ใหญ่ก็มาพบเจอกัน

"หลังจากงานสมโภชในวันที่ 2 ธ.ค. วันที่ 3 ธ.ค. 50 คณะสร้างพระฯ ก็ได้เดินทางตามครูบาอาจารย์ท่านไปปฏิบัติธรรมที่ภาคเหนือ ตั้งแต่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง และโดยเฉพาะที่ จ. เชียงราย ก็ได้เห็นบรรยากาศที่ ครูบาอาจารย์ท่านสนิทสนมคุ้นเคยกับครูบาบุญชุ่ม เป็นพิเศษ โดยที่ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าทั้งสองท่านเคยพบเจอ ผูกพันธ์กันมานานแสนนาน

ครูบาบุญชุ่มท่านก็ทักทายว่า เอ้าอาจารย์มาจากไหน เราเคยเจอกันไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่อาจารย์สิ แต่เป็นหลวงปู่ จากภูเขาควาย ท่านกลับชาติมาเกิด จากนั้นครูบาบุญชุ่มท่านก็ถวาย ผ้ารัดหน้าอก ผ้าเช็ดตัว ตาลปัตร อาสนะ ฯลฯ ซึ่งเป็นของประจำตัวของครูบาบุญชุ่มให้ครูบาอาจารย์จนหมด เท่าที่ดูแล้วอะไรที่พอจะหยิบจับได้ในขณะนั้น ครูบาบุญชุ่ม ท่านถวายครูบาอาจารย์หมด

ครูบาบุญชุ่มท่านบอกว่า "พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ที่หลวงปู่นำสร้างนี้ บุญกุศลยิ่งใหญ่มาก ในโลกนี้นอกจากหลวงปู่แล้วไม่มีใครสามารถสร้างได้ ในคราวนั้นที่ผมได้จารแผ่นทองไปร่วมหล่อ ตอนวันหล่อผมก็พิจารณาดูอยู่ หล่อเสร็จแล้ว ผมปิตินอนไม่หลับไปสามวันสามคืนเลย เดี๋ยวผมจะไปช่วยสร้างด้วย"

ในระหว่างที่ครูบาบุญชุ่ม ท่านสนทนากับครูบาอาจารย์ ท่านบอกว่าผมต้องการพระศรีฯองค์นึงมาไว้ที่นี่ ที่เจดีย์กำลังสร้าง ท่านก็บอกลักษณะไว้ ครูบาอาจารย์ท่านก็บอกว่าเดี๋ยวจะหามาถวาย แล้วท่านก็ให้ผมปวารณาถวายพระศรีฯแก่ครูบาบุญชุ่ม ผมก็ปวารณาทันที

ครูบาอาจารย์ท่านถามครูบาว่า จะให้นำมาถวายในวันเกิดของครูบา ดีไม๊ ครูบาท่านบอกว่า วันเกิดคนเยอะ เดี๋ยวผมจะไปรับถึงหนองคายที่วัดหลวงปู่เลยน่ะ ได้พระมาเมื่อไหร่บอกผม ผมจะไปแห่แหนกันมาจากหนองคายถึงเชียงรายนี่เลย

จากนั้นครูบา ท่านก็บอกว่า นิมนต์หลวงปู่ว่า จำวัดกับผมที่นี่สักคืนนะ ไปนมัสการพระธาตุเขี้ยวแก้วที่บ้านน้องสาว น้องในคณะก็บอกครูบาว่าหลวงปู่ท่านต้องฉันในบาตร แต่หลวงปู่ไม่ได้นำบาตรมาเพราะว่าตั้งใจจะไปจำวัดที่เชียงใหม่ ครูบาท่านบอกว่า ไม่เป็นไรอาตมามีบาตร อาตมาถวายให้หลวงปู่เอง ฯลฯ

ขากลับมา กทม. พี่น้องในคณะฯ รวมทั้งผมเองก็พลอยได้อานิสงส์ ครูบาอาจารย์ท่านก็แจกจ่ายของใช้ส่วนตัวของครูบาบุญชุ่มให้คนละหนึ่งอย่าง ผมเองก็ได้พัดเงินพัดทอง ของครูบาบุญุชุ่มมาบูชา"


มูลนิธิพระพุทธเจ้าห้าพระองค์สร้างพระศรีอริยเมตตรัย ถวายครูบาบุญชุ่ม
http://palungjit.org/showthread.php?t=130549

 

ขอยืนยันว่ามีใหนหนังสือของหลวงพ่อฤษีค่ะ แต่เป็นหนังสือที่ลูกศิษย์บันทึก

 

สำนักปู่ฤาษี 4 ปรางค์

สำนักปู่ฤาษี 4 ปรางค์
มีปู่ฤาษีบรมครู ปู่ฤาษีหน้าวัว(ปู่โสม) ปู่ฤาษีนารอด(ปู่พร)
และปู่พราหมณ์
<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o> </o>
สำนักอยู่ที่ ทางเข้าวัดโตนดเตี้ย อำเภออุทัย พระนครศรีอยุธยา
<o> </o>
ปู่ฤาษีทั้ง 4 ปรางค์ บำเพ็ญบุญบารมีมามากกว่า 1,000 ปี
ก่อนหน้านี้ ปู่โสม(ฤาษีหน้าวัว)และปู่พร(ฤาษีนารอด) ท่านอยู่ที่
ตำหนัก4 แถวหลัก4 กรุงเทพ เป็นตำหนักใหญ่มีลูกษิตย์ลูกหามาก
มาย โดยมีร่างทรงชื่อพร คนจะรู้จักชื่อปู่ฤาษีนารอดว่า"ปู่พร"เพราะ
ร่างทรงชื่อพร ตอนนี้ร่างทรงคนนี้แก่มากแล้ว ปู่ฤาษีจึงไม่อยากลง
ร่างทรงนี้อีก จึงได้หาร่างทรงใหม่ซึ่ง ปู่พรและปู่โสม จะเป็นคนหา
ร่างทรงเอง ต่อมาได้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อโด่ง อายุประมาณ 20 ปี
ได้เข้ามาให้ปู่ช่วยเหลือ และได้รับปากว่าถ้าปู่ฤาษีช่วยได้จะยอมเป็นร่างทรงให้ปู่พรและปู่โสม หลังจากนั้นเด็กหนุ่มคนนี้ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ระยะเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง โด่งซึ่งเป็นร่างทรงของปู่ฤาษี
ทั้ง 2 ปรางค์ ได้ไปกินเหล้าสังสรรกับเพื่อนฝูงแล้วไปกินเดนของ
เพื่อน เพียงแค่เหล้าก้นแก้วที่กินเข้าไปทำให้ของในตัวที่ปู่สักไว้
ออกอาการของขึ้นไม่ว่าจะเป็นหนุมานเป็นต้นและในตัวโด่งเอง
ได้สักปู่พร(ปู่ฤาษีนารอด) เอาไว้ปรากฏว่า ปู่ฤาษีนารอดลงร่าง
แสดงอภิปาฏิหาริย์ ทีแรกเพื่อนๆในวงเหล้าหาว่าเมาเหล้าแล้วแกล้ง
กันเล่น ได้ทักเพื่อนในกลุ่มว่าชะตาถึงคาดแล้วแต่เพื่อนพากัน
หัวเราะไม่สนใจ ต่อมาไม่กี่วันเพื่อนคนนั้นถูกรถชนตาย ข่าวเริ่ม
รู้ขยายเป็นวงกว้าง โด่งก็ได้รับเป็นองค์ปู่เต็มตัว ได้ตั้งสำนักปู่ฤาษี
4 ปรางค์ ขึ้น พร้อมกับศิษย์เอกอีก 9 คน ขึ้นที่ทางเข้าวัดโตนดเตี้ย
อำเภออุทัย คอยช่วยเหลือผู้ตกทุกได้ยากเป็นต้นว่า แก้คุณไสย
เพิ่มศิริมงคลให้ชีวิต ดูดวงชะตา โชคลาภ ค่าบูชาครูแค่ดอกไม้ธูป
เทียรก็เพียงพอแล้วซึ่งแตกต่างจากสำนักอื่น
<o> </o>
ท่านใดเดือดร้อน อยากพึ่งบุญบารมีสำนักปู่ฤาษี 4 ปรางค์
สอบถามล่วงหน้าถ้ามาไม่ถูก โทร 0890813950