นักวิจัยยุ่นเตรียมโคลนนิงปลุกชีพ “ช้างแมมมอธ” ภายใน 5 ปี

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=565><TBODY><TR><TD vAlign=top width=565 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ซากลูกช้างแมมมอธในพิพิธภัณฑ์เมือง เลอ พุย ออง เวอเลย์ ของฝรั่งเศส (แฟ้มภาพ)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพี - นักวิจัยญี่ปุ่นจะใช้เทคโนโลยีโคลนนิง เพื่อทำให้สัตว์ดึกดำบรรพ์อย่าง “ช้างแมมมอธ” กลับมาเดินบนโลกนี้อีกครั้งภายใน 5 ปี รายงานเผยวันนี้(17)

หนังสือพิมพ์ โยมิอุริ ชิมบุน รายงานว่า นักวิจัยญี่ปุ่นจะเริ่มต้นปลุกชีพสัตว์โบราณชนิดนี้ โดยใช้เนื้อเยื่อจากซากช้างแมมมอธ ซึ่งเก็บรักษาไว้ในห้องแล็บแห่งหนึ่งของรัสเซีย

“ขณะนี้เราได้เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว” อาคิระ อิริทานิ หัวหน้านักวิจัยและศาสตราจารย์กิตติคุณของมหาวิทยาลัยเกียวโต ให้สัมภาษณ์

นักวิทยาศาสตร์จะใส่นิวเคลียสในเซลล์ของช้างแมมมอธเข้าไปในไข่ของช้างธรรมดาที่ผ่านการดึงนิวเคลียสออกแล้ว เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิเป็นเอ็มบริโอที่มียีนของช้างแมมมอธ จากนั้นจะนำเอ็มบริโอใส่เข้าไปในมดลูกของช้างตัวเมีย โดยหวังว่าแม่ช้างจะให้กำเนิดลูกช้างแมมมอธได้ในที่สุด

นักวิจัยคาดว่า โครงการนี้จะประสบความสำเร็จภายใน 5-6 ปี โยมิอุริ ชิมบุน รายงาน

ทีมวิจัยซึ่งประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น, นักวิจัยช้างแมมมอธจากรัสเซีย และผู้เชี่ยวชาญด้านช้างอีก 2 คนจากสหรัฐฯ เพิ่งประสบความสำเร็จในการแยกดีเอ็นเอออกจากเซลล์แช่แข็งของช้างแมมมอธ ทั้งที่ก่อนหน้านี้โครงการต้องเป็นอันพับไประยะหนึ่ง เนื่องจากเซลล์ผิวหนังและเซลล์กล้ามเนื้อของช้างถูกผลึกน้ำแข็งทำลายจนไม่สามารถใช้ได้








</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=569><TBODY><TR><TD vAlign=top width=569 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กระดูกช้างแมมมอธซึ่งบริษัทคริสตี้ส์จะนำออกประมูลในวันที่ 16 เมษายน ที่จะถึงนี้ (แฟ้มภาพ)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ต่อมา เทรุฮิโกะ วากายามะ นักวิจัยจากศูนย์พัฒนาด้านชีววิทยาริเค็น ประสบความสำเร็จในการ “โคลน” หนูจากเซลล์ที่แช่แข็งไว้นานถึง 16 ปี ทีมของ อิราทานิ จึงนำเทคนิคของ วากายามะ มาปรับปรุง จนได้วิธีการดึงนิวเคลียสจากไข่ช้างแมมมอธ โดยที่เซลล์ไม่ถูกทำลาย

“หากเราโคลนเอ็มบริโอได้สำเร็จ ก่อนที่จะใส่มันเข้าไปในมดลูกของช้างปกติ เราคงต้องหารือกันก่อนว่า จะขยายพันธุ์ช้างแมมมอธต่อไปอย่างไร และจะเปิดเผยต่อสาธารณชนหรือไม่” อิราทานิ กล่าว

“หลังจากที่ลูกช้างเกิดมา เราจะต้องศึกษาเรื่องยีนและระบบนิเวศที่มันอาศัยอยู่ เพื่อให้ทราบสาเหตุที่พวกมันสูญพันธุ์ รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ”

ซากช้างแมมมอธร้อยละ 80 ถูกขุดพบในสาธารณรัฐซาฮาทางตะวันออกของไซบีเรีย โดยซากที่มีสภาพดีที่สุดยังคงหลงเหลือเส้นขนและอวัยวะภายใน


Manager Online -

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่หน้าสนใจครับ

แต่ชาวเวปพลังจิดมีความก้าวหน้าทางจิตใจสูงขึ้นทุกวันครับ

ไปไกลกว่าอีกนิ...อิอิ

 

เพื่ออะไร...น่าจะศึกษาเรื่องอื่นๆ มากกว่า ยังมีสิ่งที่เราไม่รู้อีกมาก ส่วนตัวอยากให้ สำรวจทฤษฎีโลกกลวง หรือ อื่นๆ ดีกว่า:boo::boo:

 

ปลุกชีพวิทยาศาสตร์ ฝื่นจากศพ

 

ในโลกนี้ยังมีสิ่งที่คนเรายังรู้อีกเยอะครับ

 

หากการฟื้นครั้งนี้แล้วเรามนุษย์ในปัจจุบีนสามารถถามว่าเกิดอะไรขึ้นบางอดิตเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดในปัจจุบันได้ ผมเชื่อว่าหลายคนจะบอกว่าทำไปเถอะ จะเอาเงินค่างานวิจัยเท่าไหร่ล่ะ เพราะ เงิน ถึงเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายในทางพุธ กลับเป็นตัวกระตุ้นให้คนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อโลกให้เก็บคนเราทุกคน ถามว่าเงินคืออะไร

 

อยากเห็นสัตว์ในตำนานตัวนี้ครับ ถ้าสำเร็จ มันหายถึง รายได้มหาศาลจาก การผสมพันธ์ และการโชว์ตัวอีก มูลค่าไม่ต้องพูดถึง

 

แต่ถ้าไม่โคลนนิ่งสิ่งแวดล้อมเดิมที่มันเคยใช้ชิวิตอยู่ มันจะอยู่รอดไหมล่ะ

 

อนาคต .... ก็คงโคลน มากินกันแน่ๆ เลย.....

 

จะตัวใหญ่เหมือนในหนังไหมหนอ

 

ไม่เข้าใจว่าจะลงทุนใช้เงินวิจัย+โคลนแมมม็อธมาเพื่ออะไร โคลนมาแล้วจะอยู่ได้หรือเปล่า

เท่าที่เคยอ่านข่าวมาอย่างแกะดอลลี่หรือสัตว์ที่โคลนกันมาก่อนหน้านี้ยังมีปัญหาเรื่องความเสื่อมของเซลล์ที่เร็วกว่าปกติเลย (เพราะเอาเซลล์มาจากตัวต้นแบบอายุเท่าไหร่ พอสัตว์ตัวใหม่ที่เกิดจากการโคลนเกิดมาอายุเซลล์ก็เท่าอายุตัวแม่เลย ทำให้แก่เร็วกว่าปกติ แล้วเซลล์แมมม็อธตัวต้นแบบพิสูจน์ได้หรือเปล่าว่าตอนที่ตายอายุเท่าไหร่ เป็นช่วงอายุวัยรุ่นหรือแก่แล้วของช้างสายพันธุ์นั้น ) แล้วไหนจะสภาพแวดล้อมในยุคนี้ที่ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกล่ะ อ้อ! แล้วยังน่าห่วงในประเด็นที่ไม่แน่ใจว่านักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันมีข้อมูลหรือเปล่าอีก คือ เรื่องของอุปนิสัยของช้างแมมม็อธเป็นอย่างไร ดุร้ายก้าวร้าวหรือเปล่า

โคลนมาแล้วสามารถสัมภาษณ์ให้มันตอบเป็นภาษามนุษย์บอกว่ายุคนั้นเกิดอะไรขึ้นกับโลก กับไดโนเสาร์ กับอารยธรรมต่างๆ ที่สูญหาย (เพื่อประโยชน์ในการคาดการณ์และป้องกันเหตุในอนาคต) ได้หรือเปล่า ก็ไม่ได้อีก

แล้วจะโคลนมาทำไมเนี่ย งง!!!

 

ขอให้สำเร็จในทุกๆอย่าง ไม่ลองไม่รู้
อยากเห็นต้องดู อยากรู้ตองถาม อยากรู้กลิ่นต้องดม

ทุกสิ่งถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไงเราต้องลองครับ

ได้ไม่ได้ช่างมัน

 

มันจะไม่มีปัญหากับระบบนิเวศเหรอ

 

ใจจริงก็อยากเห็นเหมือนกัน ถึงจะไม่เกี่ยวกับความหลุดพ้นแต่ก็จะช่วยให้คลายความอยากในบางเรื่องได้

 

มันตัวใหญ่กว่าช้างไม่ใช่เหรอ ถ้าโคลนออกมาอยากให้เปลี่ยนพันธุกรรมให้มีขนาดเท่าช้างเถอะ แค่ช้างเด็ก ๆ ก็กลัวกันแล้ว

 

ทำไมไม่โคลนนิ่ง ประพุทธเจ้า นะ ว่าหน้าตาท่านเป็นอย่างไร เผื่อท่านจะได้โปรดสัตว์โลกต่ออีก อยากฟังธรรมเทศนาของท่าน