ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

charoen.b · 24 มกราคม 2011

phattharaphong said: ↑

ปี 07 เหมือนกันครับ หลวงพ่อทวดนวล สั่งเด็ดขาดให้สร้างพระเครื่องท่านแค่ครั้งเดียว ส่วนหลวงพ่อทวดหมาน ปี 07 นี้ไม่มั่นใจเหมือนกันครับว่ามีการสร้างย้อนยุคหรือเปล่า แต่ส่วนใหญ่วัดทางใต้เกจิรุ่นเก่า ถ้าสร้างพระจะไม่นิยมทำแบบพิมพ์เดิม หรือถ้าทำแบบพิมพ์เดิมจะไม่ทำเนื้อว่านให้เหมือนเดิมเด็ดขาดต้องมีอะไรแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย หรือแม้แต่วัดเดียวกันพระแต่ละรุ่น แต่ละพิมพ์ แต่ละพ.ศ. ก็ไม่นิยมทำเนื้อว่านให้เหมือนกัน (หมายถึงเกจิยุคเก่า)
Click to expand...

รู้กว้าง รู้ลึก รู้จริง ข้อมูลแน่นปึ๊กเลยครับ ขอบคุณครับผม

ล้างใจ · 24 มกราคม 2011

หลวงพ่อทวดหมาน องค์แบบไหนครับ..................^^
...
ผมก็ชอบองค์แรกครับ ....อยากรู้ประวัติการสร้างจัง ..มีอยู่องค์เดียวซะด้วย
...

องค์จัมโบ้ น่าจะร้านทองยะลาสร้างนะครับ .........^^

charoen.b · 24 มกราคม 2011

หลวงปู่ทวดหมานปี 07 แบบเต็มเพื่อพิจารณาร่วมกันครับ

ล้างใจ · 24 มกราคม 2011

charoen.b said: ↑

หลวงปู่ทวดหมานปี 07 แบบเต็มเพื่อพิจารณาร่วมกันครับ
Click to expand...

โห....แบบนี้ไม่มีแน่เรา...ดูเก่าโบราณจัง..^^

charoen.b · 24 มกราคม 2011

หลวงปู่ทวด อ.นอง ปี 34 ทับหลัง น 72 รางๆไม่ค่อยชัด

ล้างใจ · 24 มกราคม 2011

อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ charoen.b
พิมพ์ คล้ายวัดนาประดู่นะ องค์นี้ต้องมีคนอยากจะแปลงกายหลวงปู่จากพิมพ์เตารีดให้เป็นลอยองค์แน่เลย หรือไม่ก็เอาเนื้อพระไปซ่อมองค์อื่น

ถ้าคำตอบถูกใจขอรางวัลด้วย........
</td> </tr> </tbody></table>

phattharaphong said: ↑

เป็นไปได้ไหมครับว่าเจ้าของเดิมอาจจะขูดว่านไปผสมน้ำตามความเชื่อของคนรุ่นเก่า ๆ ว่าเนื้อว่านของพระเครื่องหลวงพ่อทวด สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้ แต่ผมก็สงสัยไปอีกว่าทำไมต้องขูดองค์พระให้เป็นรูปทรงแบบนี้ด้วย เท่าที่เคยทราบมาคนรุ่นเก่า ๆ นิยมขูดพระจากด้านหลังหรือด้านหน้าก็มี แต่ขูดให้เป็นรูปทรงแบบนี้ไม่เคยเจอ หรือว่าเจ้าของเก่าเขาชอบของเขาแบบนี้เลยแต่งพิมพ์ซะ ซ้าย - ขวา ได้รุปทรงขนาดนี้ ... งง..เหมือนกันครับ
Click to expand...

ความคิดเหนของคุณcharoen.bถูกใจมากครับ
แต่ถ้าถูกหลักต้องเปนของคุณphattharaphong 555

ล้างใจ · 24 มกราคม 2011

charoen.b said: ↑

หลวงปู่ทวด อ.นอง ปี 34 ทับหลัง น 72 รางๆไม่ค่อยชัด
Click to expand...

ไม่เหมือนของผมเลย สงสัยคนละพิมพ์ คนละเนื้อ

ballaman · 24 มกราคม 2011

พี่ ๆ น้า ๆ อา ๆ เค้าคุยอะไรกัน .......

เด็กน้อยอย่างเรา ... อ่านแล้วทำตาปริบ ๆ ๆ ......

phattharaphong · 24 มกราคม 2011

ล้างใจ said: ↑

ไม่เหมือนของผมเลย สงสัยคนละพิมพ์ คนละเนื้อ
Click to expand...

เรื่องเนื้อพระรุ่นนี้มีประสบการณ์ส่วนตัวครับ คือ ตอนแรกได้มาเนื้อสีดำสนิท เอาพระใส่ซองยาตั้งไว้บนหิ้งพระ ช่วงมีฝนตกหนัก ๆ ความชื้นในอากาศค่อนข้างสูงพอสมควร พระจากเนื้อสีดำเปลี่ยนเป็นเนื้อสีเทาครับ สีแบบที่พบเห็นกันบ่อย ๆ นั้นแหละ อีกองค์เป็น พิมพ์หน้าอาปาเช่ วัดศรีมหาโพธิ์ ตอนได้มาเนื้อสีดำสนิทเหมือนกัน หลังจากโดนความชื้น พระกลายเป็นสีน้ำตาลพอดีเห็นซะก่อนเลยจัดการเก็บให้ปลอดภัยจากความชื้นครับ ความชื้นนี้ตัวอันตรายกับพระเนื้อว่านเลยน่ะ บางองค์วางไว้บนหิ้งพระเฉยใส่ไว้ในกล่องใส่พระด้วย แต่ช่วงนั้นมีความชื้นในอากาศสูง อยู่ ๆ เนื้อยุ้ยเกือบกลายเป็นผงไปเลยก็มีครับ
_________________
วิศวกร => วิศวกรรม => คนมีกรรม

phattharaphong · 24 มกราคม 2011

charoen.b said: ↑

หลวงปู่ทวดหมานปี 07 แบบเต็มเพื่อพิจารณาร่วมกันครับ
Click to expand...

อ่าโอ้ ... พิมพ์เดียวกับของผมเลยครับ เนื้อพระใช้เนื้อว่าน 97 เพิ่มกล้าข้าว กับ ข้าวเหนี่ยวดำ ด้วยความเชื่อในด้านคงกระพันชาตรี และ ความเจริญงอกงามในชีวิตครับ พรุ่งนี้เดี่ยวเอาท่านขึันคอดีกว่าครับ ไม่ได้แขวนท่านนานแล้ว :boo:

Aimee2500 · 24 มกราคม 2011

“หลวงพ่อทวดหมาน”

(ข้อมูลพร้อมรูปค่ะ)

 <table class="MsoNormalTable" style="width: 100%;" width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0cm;">
[FONT=&quot]พระรูปเหมือนเนื้อว่าน “รุ่นพินัยกรรม”
จาก..... ท่านอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ บรรจงสร้าง....และปลุกเสกเพื่อมอบให้กับท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาวเป็นกรณีพิเศษ.......[/FONT]
[FONT=&quot]หลวงพ่อทวด”หมาน” อิทธิปาฎิหาริย์สะท้านปฐพี....รุ่นแรก ปี05 - ปี06 วัดทรายขาวปัตตานี[/FONT]
[FONT=&quot]“หลวงพ่อทวดหมาน”[/FONT][FONT=&quot] อดีตเจ้าอาวาส วัดทรายขาว จ.ปัตตานี เมื่อประมาณ 100 กว่าปีล่วงมาแล้ว เดิมท่านนั้นนับถือศาสนาอิสลาม ต่อมาท่านเกิดเลื่อมใสในพุทธศาสนาจึงได้บวชเป็นพระภิกษุ และต่อมาได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดทรายขาว “พ่อทวดหมาน” เป็นพระผู้ทรงบุญญาภินิหาร และวิทยาคมเข้มขลัง เจ้าตำรับ“เสื้อยันต์กาขาว” อันเลื่องชื่อ โดยมีเรื่องเล่าว่าในปี พ.ศ.2484 กองทัพญีปุ่นได้บุกเข้ายึดประเทศไทย โดยยกพลขึ้นบกที่ชายฝั่งทะเล จังหวัดปัตตานีดด้วย และได้เกิดการต่อสู้กันขึ้นระหว่างตำรวจ และประชาชนผู้รักชาติกับทหารญี่ปุ่น ได้มีตำรวจนายหนึ่งได้สวมใส่ "เสื้อยันต์กา” ขาวของ ..หลวงพ่อทวดหมาน .. เอาปืนปีนขึ้นไปอยู่บนต้นมะพร้าว แล้วยิงทหารญี่ปุ่นตายไปหลายคน ทหารญี่ปุ่นพยายามมองหาว่าใครเป็นคนยิง และยิงมาจากจุดไหน ในที่สุดก็ได้พบว่า ตำรวจไทย ยิงปืนลงมาจากต้นมะพร้าว ทหารญี่ปุ่นจึงยิงปืนสวนขึ้นไปบนต้นมะพร้าว ถูกตำรวจผู้นั้นตกลงมาจากต้นมะพร้าว แต่ปืนของทหารญี่ปุ่น ซึ่งยิงปืนไล่หลังมาอีกหลายนัด แต่ก็ไม่ถูกต้องตัว ทำให้รอดชีวิตมาได้[/FONT]
[FONT=&quot]ด้วยประสบการณ์ อิทธิฤทธิ์เดชา เกิดอัครอภินิหาร บันลือเลื่องใน “เสื้อยันต์กาขาว” ของหลวงพ่อทวดหมาน คนปัตตานีจึงหวงแหนกันมาก เพราะลือลั่นในด้านอมตะกฤษฎาภินิหาร สยบห่ากระสุน M.16 อสัญญีพิษสง ระเบิดสงคราม อีกทั้งสร้างสมความร่ำรวยให้ผู้ศรัทธานับไม่ถ้วน[/FONT]
[FONT=&quot]“หลวงพ่อทวดหมาน” ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้มีบุญญาธิการอันยิ่งใหญ่ มีบารมีที่เข้มขลังในพลังจิตญาณสูงส่ง บรรลุปุพเพนิวาสนุสติญาณ และอิทธิวิธิญาณ อย่างแก่กล้าในอากาศกสิณ จนสามารถล่องหนตัวได้อย่างอัศจรรย์ยิ่งนัก[/FONT]
[FONT=&quot]สาธุชนผู้เคารพศรัทธาประจักษ์เห็นในบุญญาภินิหารหลากหลายรอบด้าน กิตติศัพท์ของ “หลวงพ่อทวดหมาน” เป็นที่ลือเลื่องสถิตก้อง และเลื่อมใสของชาวบ้านทั่วทั้งจังหวัดปัตตานี[/FONT]
[FONT=&quot]อีกทั้งมี จิตโตปริยญาณ สามารถล่วงรู้ถึงวิบากกรรมของแต่ละคน และล่วงรู้วิธีการแก้ไข ผ่อนหนักให้เป็นเบา หรือที่เบาก็บันดาลให้หมดสิ้นไป ปรากฏเป็นที่อึงคะนึงว่า ผู้คนที่ประสบปัญหาต่างๆ อาทิเช่น เรื่องธุรกิจการค้ามีปัญหา การทำมาหากินฝืดเคือง ค้าขายไม่เจริญรุ่งเรือง ไม่ราบรื่นติดๆ ขัดๆ ตลอดจนบรรดาข้าราชการที่ไม่ประสบความเจริญก้าวหน้า ต่างไปกราบไหว้ขอให้ท่านช่วยเหลือ ก็ได้รับผลบันดลให้สำเร็จไปตามๆ กัน นอกจากนี้ กฤตยาคม ในจิตญาณของท่าน ยังแก่กล้าด้วยพุทธาคมอย่างเข้มขลังเอกอุ ยอดเยี่ยมเป็น “หนึ่ง” ไม่เป็นสองรองใคร[/FONT]
[FONT=&quot]ซึ่ง สถูปบรรจุอัฐิของ “หลวงพ่อทวดหมาน” ได้ประดิษฐานอยู่ ณ วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ให้ผู้เคารพศัรทธาที่เดินทางไป ได้กราบไหว้สักการบูชา[/FONT]
[FONT=&quot]สำหรับ วัตถุมงคล – พระเครื่อง “หลวงพ่อทวดหมาน” นั้น มีการจัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2505-ปีพ.ศ.2506 ซึ่งถือได้ว่าเป็น “ครั้งแรก” และ “รุ่นแรก” ของวัดทรายขาวเลยก็ว่าได้ โดย ท่านอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ ผู้ซึ่งเป็นพระสหธรรมิก กับท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ตลอดจนเป็นศิษย์ สำนักนาประดู่เช่นเดียวกันอีกด้วย ได้เป็นประธานดำเนินการจัดสร้าง และกดแม่พิมพ์พระเป็นปฐมฤกษ์ด้วยตนเอง โดยกดพิมพ์พระทั้งหมดที่วัดช้างให้ ควบคู่ไปกับพระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ เนื้อว่านปี พ.ศ.2505 หรือ”รุ่นพินัยกรรม”ของท่านอาจารย์ทิม ที่กำลังโด่งดังในขณะนี้นั่นเอง และได้ประกอบพิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลังไปพร้อมๆกันทั้ง 2 พิมพ์ทรง[/FONT]
[FONT=&quot]โดยได้ประกอบพิธีบวงสรวงอันเชิญดวงวิญญาณของ หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด, หลวงพ่อทวดไกร, หลวงพ่อทวดลิ้นดำ, หลวงพ่อทวดสิทธิชัย และหลวงพ่อทวดหมาน ประทับสู่อาสนะในปะรำพิธี เพื่อเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดช้างให้ เป็นระยะเวลายาวนานถึง 3 ไตรมาส ต่อจากนั้นก็นำไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถมาหาอุด ของวัดทรายขาว เป็นระยะเวลายาวนานถึง 3 ไตรมาส เฉกเช่นเดียวกัน และหลังจากนั้น ท่านอาจารย์ทิม ก็ได้นำพระทั้งหมดกลับไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดช้างให้ อีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ปีขาล ซึ่งถือว่าเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญที่สุดของวัดช้างให้[/FONT]
[FONT=&quot]ครั้นพิธีพุทธาภิเษกได้เสร็จสิ้นลง ท่านอาจารย์ทิม ก็ได้เก็บพระทั้งหมดไว้ในอุโบสถวัดช้างให้และทำการปลุกเสกเรื่อยมา เพื่อรอมงคลโอกาสอันสำคัญ จนถึงปี พ.ศ. 2506 ท่านอาจารย์ทิม จึงได้นำพระทั้งหมดย้อนกลับไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถมหาอุด ของวัดทรายขาว อีกครั้งหนึ่ง เป็นระยะเวลานานถึง 3 ไตรมาส อีกคำรบหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายในการประกอบพิธีพุทธาภิเษก “พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน ปี พ.ศ. 2505 หรือ รุ่นพินัยกรรม” และ “พระหลวงพ่อทวดหมาน เนื้อว่านรุ่นแรก”[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อพิธีพุทธาภิเษกครั้งสุดท้าย ในปี พ.ศ. 2506 ได้เสร็จสิ้นลง ท่านอาจารย์ทิมก็ได้นำ”พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน ปีพ.ศ. 2505 หรือ “รุ่นพินัยกรรม” ทั้งหมด และ “พระหลวงพ่อทวดหมาน” ส่วนหนึ่งนำกลับไปไว้ยังวัดช้างให้ ส่วน “พระหลวงพ่อทวดหมาน” ในส่วนที่เหลือ ท่านอาจารย์ทิม ได้มอบให้เป็น”พินัยกรรม” แต่ท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว โดยมีปณิธานว่าให้นำออกให้ผู้เคารพศรัทธาเช่าบูชา ก็ต่อเมื่อต้องการปัจจัย – รายได้ เป็นทุนทรัพย์ในการบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ต่อไปในภายภาคหน้า[/FONT]
[FONT=&quot]ครั้นเมื่อ ท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ได้รับมอบ “พระพินัยกรรม” หรือ “พระหลวงพ่อทวดหมาน” จากท่านอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้แล้ว ท่านอาจารย์นอง ก็ได้นำ “พระหลวงพ่อทวดหมาน” ทั้งหมดมาเก็บไว้ที่วัดทรายขาว...และก็ได้นำพระบางส่วนมาแจกให้กับลูกศิษย์ และคนใกล้ชิดที่ได้ทำบุญในกรณีพิเศษกับท่าน อ.นอง ส่วนที่เหลือก็ได้เข้าร่วม พิธีพุทธาภิเษกกับพระหลวงพ่อทวดที่ท่าน อ.นองได้จัดสร้างขึ้นมา ตั้งแต่ ปี2514 และเรื่อยมาจนถึงปี2542...จนท่านได้มรณะภาพลง...เพราะฉนั้นจึงถือได้ว่าเป็น พระที่ได้เข้าพิธีมาร่วม50ปี...ที่ยาวนานมากๆ...[/FONT]
</td> </tr> </tbody></table>

ล้างใจ · 24 มกราคม 2011

nuanpan said: ↑

หลวงปู่ทวดองค์นี้ งดงามเจ้า....
Click to expand...

สวยจริงครับ

ล้างใจ · 24 มกราคม 2011

phattharaphong said: ↑

เรื่องเนื้อพระรุ่นนี้มีประสบการณ์ส่วนตัวครับ คือ ตอนแรกได้มาเนื้อสีดำสนิท เอาพระใส่ซองยาตั้งไว้บนหิ้งพระ ช่วงมีฝนตกหนัก ๆ ความชื้นในอากาศค่อนข้างสูงพอสมควร พระจากเนื้อสีดำเปลี่ยนเป็นเนื้อสีเทาครับ สีแบบที่พบเห็นกันบ่อย ๆ นั้นแหละ อีกองค์เป็น พิมพ์หน้าอาปาเช่ วัดศรีมหาโพธิ์ ตอนได้มาเนื้อสีดำสนิทเหมือนกัน หลังจากโดนความชื้น พระกลายเป็นสีน้ำตาลพอดีเห็นซะก่อนเลยจัดการเก็บให้ปลอดภัยจากความชื้นครับ ความชื้นนี้ตัวอันตรายกับพระเนื้อว่านเลยน่ะ บางองค์วางไว้บนหิ้งพระเฉยใส่ไว้ในกล่องใส่พระด้วย แต่ช่วงนั้นมีความชื้นในอากาศสูง อยู่ ๆ เนื้อยุ้ยเกือบกลายเป็นผงไปเลยก็มีครับ
_________________
วิศวกร => วิศวกรรม => คนมีกรรม
Click to expand...

ขอบคุณใากสำหรับข้อมูลครับ....โชคดีพระทุกองค์เก็บไว้แบบนี้
ถึงว่าดำทุกองค์..

บังรอน · 24 มกราคม 2011

phattharaphong said: ↑

ชอบครับ 4 ทวด
ผมเคยคิดจะแขวน 7 หลวงพ่อทวด ครับ

1.หลวงพ่อทวด วัดช้างให้
2.หลวงพ่อทวดหมาน วัดทรายขาว
3.หลวงพ่อทวดบุญฤทธิ์ วัดศรีมหาโพธิ์
4.หลวงพ่อทวดเอียด วาจาสิทธิ์ วัดบุราณฯ
5.หลวงพ่อทวดนวล วัดตุยง
6.หลวงพ่อทวดไกร วัดลำพระยา
7.หลวงพ่อทวดสีพุฒ วัดกะโผะ

แต่ก็ไม่ได้ทำครับ แต่ละองค์ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น (หนัก)
Click to expand...

ผมก็เคยคิดจะแขวนเป็นหมู่สหธรรมมิกของหลวงปู่ทวด
แต่เป็นสี่สมเด็จนะครับ(ตามประวัติที่อ.ทิม ได้บอกเล่า)
๑.สมเด็จเจ้าพะโค๊ะ
๒.สมเด็จเจ้าเกาะยอ
๓.สมเด็จเจ้าเกาะใหญ่
๔.สมเด็จเจ้าจอมทอง
แต่ยังมีไม่ครบนะครับ อิอิ

phattharaphong · 24 มกราคม 2011

บังรอน said: ↑

ผมก็เคยคิดจะแขวนเป็นหมู่สหธรรมมิกของหลวงปู่ทวด
แต่เป็นสี่สมเด็จนะครับ(ตามประวัติที่อ.ทิม ได้บอกเล่า)
๑.สมเด็จเจ้าพะโค๊ะ
๒.สมเด็จเจ้าเกาะยอ
๓.สมเด็จเจ้าเกาะใหญ่
๔.สมเด็จเจ้าจอมทอง
แต่ยังมีไม่ครบนะครับ อิอิ
Click to expand...

สมเด็จเจ้าจอมทอง วัดเขาอ้อ มีสร้างพระเครื่องด้วยหรือครับ

ppoonsuk · 24 มกราคม 2011

วันนี้ผมมองรูปนี้มาทั้งวัน สวยกว่าวันอื่นๆ รอของคุณนอร์ด้วย

ppoonsuk · 24 มกราคม 2011

phattharaphong said: ↑

ชอบครับ 4 ทวด
ผมเคยคิดจะแขวน 7 หลวงพ่อทวด ครับ

1.หลวงพ่อทวด วัดช้างให้
2.หลวงพ่อทวดหมาน วัดทรายขาว
3.หลวงพ่อทวดบุญฤทธิ์ วัดศรีมหาโพธิ์
4.หลวงพ่อทวดเอียด วาจาสิทธิ์ วัดบุราณฯ
5.หลวงพ่อทวดนวล วัดตุยง
6.หลวงพ่อทวดไกร วัดลำพระยา
7.หลวงพ่อทวดสีพุฒ วัดกะโผะ

แต่ก็ไม่ได้ทำครับ แต่ละองค์ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น (หนัก)
Click to expand...

สุดยอดทั้งนั้น

ล้างใจ · 24 มกราคม 2011

Aimee2500 said: ↑

(ข้อมูลพร้อมรูปค่ะ)

 <table class="MsoNormalTable" style="width: 100%;" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr style=""> <td style="padding: 0cm;"> เปิดดูไฟล์ 1334128 เปิดดูไฟล์ 1334129
[FONT=&quot]พระรูปเหมือนเนื้อว่าน “รุ่นพินัยกรรม”
จาก..... ท่านอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ บรรจงสร้าง....และปลุกเสกเพื่อมอบให้กับท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาวเป็นกรณีพิเศษ.......[/FONT]
[FONT=&quot]หลวงพ่อทวด”หมาน” อิทธิปาฎิหาริย์สะท้านปฐพี....รุ่นแรก ปี05 - ปี06 วัดทรายขาวปัตตานี[/FONT]
[FONT=&quot]“หลวงพ่อทวดหมาน”[/FONT][FONT=&quot] อดีตเจ้าอาวาส วัดทรายขาว จ.ปัตตานี เมื่อประมาณ 100 กว่าปีล่วงมาแล้ว เดิมท่านนั้นนับถือศาสนาอิสลาม ต่อมาท่านเกิดเลื่อมใสในพุทธศาสนาจึงได้บวชเป็นพระภิกษุ และต่อมาได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดทรายขาว “พ่อทวดหมาน” เป็นพระผู้ทรงบุญญาภินิหาร และวิทยาคมเข้มขลัง เจ้าตำรับ“เสื้อยันต์กาขาว” อันเลื่องชื่อ โดยมีเรื่องเล่าว่าในปี พ.ศ.2484 กองทัพญีปุ่นได้บุกเข้ายึดประเทศไทย โดยยกพลขึ้นบกที่ชายฝั่งทะเล จังหวัดปัตตานีดด้วย และได้เกิดการต่อสู้กันขึ้นระหว่างตำรวจ และประชาชนผู้รักชาติกับทหารญี่ปุ่น ได้มีตำรวจนายหนึ่งได้สวมใส่ "เสื้อยันต์กา” ขาวของ ..หลวงพ่อทวดหมาน .. เอาปืนปีนขึ้นไปอยู่บนต้นมะพร้าว แล้วยิงทหารญี่ปุ่นตายไปหลายคน ทหารญี่ปุ่นพยายามมองหาว่าใครเป็นคนยิง และยิงมาจากจุดไหน ในที่สุดก็ได้พบว่า ตำรวจไทย ยิงปืนลงมาจากต้นมะพร้าว ทหารญี่ปุ่นจึงยิงปืนสวนขึ้นไปบนต้นมะพร้าว ถูกตำรวจผู้นั้นตกลงมาจากต้นมะพร้าว แต่ปืนของทหารญี่ปุ่น ซึ่งยิงปืนไล่หลังมาอีกหลายนัด แต่ก็ไม่ถูกต้องตัว ทำให้รอดชีวิตมาได้[/FONT]
[FONT=&quot]ด้วยประสบการณ์ อิทธิฤทธิ์เดชา เกิดอัครอภินิหาร บันลือเลื่องใน “เสื้อยันต์กาขาว” ของหลวงพ่อทวดหมาน คนปัตตานีจึงหวงแหนกันมาก เพราะลือลั่นในด้านอมตะกฤษฎาภินิหาร สยบห่ากระสุน M.16 อสัญญีพิษสง ระเบิดสงคราม อีกทั้งสร้างสมความร่ำรวยให้ผู้ศรัทธานับไม่ถ้วน[/FONT]
[FONT=&quot]“หลวงพ่อทวดหมาน” ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้มีบุญญาธิการอันยิ่งใหญ่ มีบารมีที่เข้มขลังในพลังจิตญาณสูงส่ง บรรลุปุพเพนิวาสนุสติญาณ และอิทธิวิธิญาณ อย่างแก่กล้าในอากาศกสิณ จนสามารถล่องหนตัวได้อย่างอัศจรรย์ยิ่งนัก[/FONT]
[FONT=&quot]สาธุชนผู้เคารพศรัทธาประจักษ์เห็นในบุญญาภินิหารหลากหลายรอบด้าน กิตติศัพท์ของ “หลวงพ่อทวดหมาน” เป็นที่ลือเลื่องสถิตก้อง และเลื่อมใสของชาวบ้านทั่วทั้งจังหวัดปัตตานี[/FONT]
[FONT=&quot]อีกทั้งมี จิตโตปริยญาณ สามารถล่วงรู้ถึงวิบากกรรมของแต่ละคน และล่วงรู้วิธีการแก้ไข ผ่อนหนักให้เป็นเบา หรือที่เบาก็บันดาลให้หมดสิ้นไป ปรากฏเป็นที่อึงคะนึงว่า ผู้คนที่ประสบปัญหาต่างๆ อาทิเช่น เรื่องธุรกิจการค้ามีปัญหา การทำมาหากินฝืดเคือง ค้าขายไม่เจริญรุ่งเรือง ไม่ราบรื่นติดๆ ขัดๆ ตลอดจนบรรดาข้าราชการที่ไม่ประสบความเจริญก้าวหน้า ต่างไปกราบไหว้ขอให้ท่านช่วยเหลือ ก็ได้รับผลบันดลให้สำเร็จไปตามๆ กัน นอกจากนี้ กฤตยาคม ในจิตญาณของท่าน ยังแก่กล้าด้วยพุทธาคมอย่างเข้มขลังเอกอุ ยอดเยี่ยมเป็น “หนึ่ง” ไม่เป็นสองรองใคร[/FONT]
[FONT=&quot]ซึ่ง สถูปบรรจุอัฐิของ “หลวงพ่อทวดหมาน” ได้ประดิษฐานอยู่ ณ วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ให้ผู้เคารพศัรทธาที่เดินทางไป ได้กราบไหว้สักการบูชา[/FONT]
[FONT=&quot]สำหรับ วัตถุมงคล – พระเครื่อง “หลวงพ่อทวดหมาน” นั้น มีการจัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2505-ปีพ.ศ.2506 ซึ่งถือได้ว่าเป็น “ครั้งแรก” และ “รุ่นแรก” ของวัดทรายขาวเลยก็ว่าได้ โดย ท่านอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ ผู้ซึ่งเป็นพระสหธรรมิก กับท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ตลอดจนเป็นศิษย์ สำนักนาประดู่เช่นเดียวกันอีกด้วย ได้เป็นประธานดำเนินการจัดสร้าง และกดแม่พิมพ์พระเป็นปฐมฤกษ์ด้วยตนเอง โดยกดพิมพ์พระทั้งหมดที่วัดช้างให้ ควบคู่ไปกับพระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ เนื้อว่านปี พ.ศ.2505 หรือ”รุ่นพินัยกรรม”ของท่านอาจารย์ทิม ที่กำลังโด่งดังในขณะนี้นั่นเอง และได้ประกอบพิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลังไปพร้อมๆกันทั้ง 2 พิมพ์ทรง[/FONT]
[FONT=&quot]โดยได้ประกอบพิธีบวงสรวงอันเชิญดวงวิญญาณของ หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด, หลวงพ่อทวดไกร, หลวงพ่อทวดลิ้นดำ, หลวงพ่อทวดสิทธิชัย และหลวงพ่อทวดหมาน ประทับสู่อาสนะในปะรำพิธี เพื่อเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดช้างให้ เป็นระยะเวลายาวนานถึง 3 ไตรมาส ต่อจากนั้นก็นำไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถมาหาอุด ของวัดทรายขาว เป็นระยะเวลายาวนานถึง 3 ไตรมาส เฉกเช่นเดียวกัน และหลังจากนั้น ท่านอาจารย์ทิม ก็ได้นำพระทั้งหมดกลับไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดช้างให้ อีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ปีขาล ซึ่งถือว่าเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญที่สุดของวัดช้างให้[/FONT]
[FONT=&quot]ครั้นพิธีพุทธาภิเษกได้เสร็จสิ้นลง ท่านอาจารย์ทิม ก็ได้เก็บพระทั้งหมดไว้ในอุโบสถวัดช้างให้และทำการปลุกเสกเรื่อยมา เพื่อรอมงคลโอกาสอันสำคัญ จนถึงปี พ.ศ. 2506 ท่านอาจารย์ทิม จึงได้นำพระทั้งหมดย้อนกลับไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถมหาอุด ของวัดทรายขาว อีกครั้งหนึ่ง เป็นระยะเวลานานถึง 3 ไตรมาส อีกคำรบหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายในการประกอบพิธีพุทธาภิเษก “พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน ปี พ.ศ. 2505 หรือ รุ่นพินัยกรรม” และ “พระหลวงพ่อทวดหมาน เนื้อว่านรุ่นแรก”[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อพิธีพุทธาภิเษกครั้งสุดท้าย ในปี พ.ศ. 2506 ได้เสร็จสิ้นลง ท่านอาจารย์ทิมก็ได้นำ”พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน ปีพ.ศ. 2505 หรือ “รุ่นพินัยกรรม” ทั้งหมด และ “พระหลวงพ่อทวดหมาน” ส่วนหนึ่งนำกลับไปไว้ยังวัดช้างให้ ส่วน “พระหลวงพ่อทวดหมาน” ในส่วนที่เหลือ ท่านอาจารย์ทิม ได้มอบให้เป็น”พินัยกรรม” แต่ท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว โดยมีปณิธานว่าให้นำออกให้ผู้เคารพศรัทธาเช่าบูชา ก็ต่อเมื่อต้องการปัจจัย – รายได้ เป็นทุนทรัพย์ในการบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ต่อไปในภายภาคหน้า[/FONT]
[FONT=&quot]ครั้นเมื่อ ท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ได้รับมอบ “พระพินัยกรรม” หรือ “พระหลวงพ่อทวดหมาน” จากท่านอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้แล้ว ท่านอาจารย์นอง ก็ได้นำ “พระหลวงพ่อทวดหมาน” ทั้งหมดมาเก็บไว้ที่วัดทรายขาว...และก็ได้นำพระบางส่วนมาแจกให้กับลูกศิษย์ และคนใกล้ชิดที่ได้ทำบุญในกรณีพิเศษกับท่าน อ.นอง ส่วนที่เหลือก็ได้เข้าร่วม พิธีพุทธาภิเษกกับพระหลวงพ่อทวดที่ท่าน อ.นองได้จัดสร้างขึ้นมา ตั้งแต่ ปี2514 และเรื่อยมาจนถึงปี2542...จนท่านได้มรณะภาพลง...เพราะฉนั้นจึงถือได้ว่าเป็น พระที่ได้เข้าพิธีมาร่วม50ปี...ที่ยาวนานมากๆ...[/FONT]
</td> </tr> </tbody></table>
Click to expand...

ขอบคุณมากๆ..ขอมูลสมบูรณ์แบบ

^^

ppoonsuk · 24 มกราคม 2011

Aimee2500 said: ↑

(ข้อมูลพร้อมรูปค่ะ)

<TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0cm; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-TOP: 0cm"> เปิดดูไฟล์ 1334128 เปิดดูไฟล์ 1334129
[FONT=&quot]พระรูปเหมือนเนื้อว่าน “รุ่นพินัยกรรม”[/FONT]
[FONT=&quot]จาก..... ท่านอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ บรรจงสร้าง....และปลุกเสกเพื่อมอบให้กับท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาวเป็นกรณีพิเศษ.......[/FONT]
[FONT=&quot]หลวงพ่อทวด”หมาน” อิทธิปาฎิหาริย์สะท้านปฐพี....รุ่นแรก ปี05 - ปี06 วัดทรายขาวปัตตานี[/FONT]
[FONT=&quot]“หลวงพ่อทวดหมาน”[/FONT][FONT=&quot] อดีตเจ้าอาวาส วัดทรายขาว จ.ปัตตานี เมื่อประมาณ 100 กว่าปีล่วงมาแล้ว เดิมท่านนั้นนับถือศาสนาอิสลาม ต่อมาท่านเกิดเลื่อมใสในพุทธศาสนาจึงได้บวชเป็นพระภิกษุ และต่อมาได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดทรายขาว “พ่อทวดหมาน” เป็นพระผู้ทรงบุญญาภินิหาร และวิทยาคมเข้มขลัง เจ้าตำรับ“เสื้อยันต์กาขาว” อันเลื่องชื่อ โดยมีเรื่องเล่าว่าในปี พ.ศ.2484 กองทัพญีปุ่นได้บุกเข้ายึดประเทศไทย โดยยกพลขึ้นบกที่ชายฝั่งทะเล จังหวัดปัตตานีดด้วย และได้เกิดการต่อสู้กันขึ้นระหว่างตำรวจ และประชาชนผู้รักชาติกับทหารญี่ปุ่น ได้มีตำรวจนายหนึ่งได้สวมใส่ "เสื้อยันต์กา” ขาวของ ..หลวงพ่อทวดหมาน .. เอาปืนปีนขึ้นไปอยู่บนต้นมะพร้าว แล้วยิงทหารญี่ปุ่นตายไปหลายคน ทหารญี่ปุ่นพยายามมองหาว่าใครเป็นคนยิง และยิงมาจากจุดไหน ในที่สุดก็ได้พบว่า ตำรวจไทย ยิงปืนลงมาจากต้นมะพร้าว ทหารญี่ปุ่นจึงยิงปืนสวนขึ้นไปบนต้นมะพร้าว ถูกตำรวจผู้นั้นตกลงมาจากต้นมะพร้าว แต่ปืนของทหารญี่ปุ่น ซึ่งยิงปืนไล่หลังมาอีกหลายนัด แต่ก็ไม่ถูกต้องตัว ทำให้รอดชีวิตมาได้[/FONT]
[FONT=&quot]ด้วยประสบการณ์ อิทธิฤทธิ์เดชา เกิดอัครอภินิหาร บันลือเลื่องใน “เสื้อยันต์กาขาว” ของหลวงพ่อทวดหมาน คนปัตตานีจึงหวงแหนกันมาก เพราะลือลั่นในด้านอมตะกฤษฎาภินิหาร สยบห่ากระสุน M.16 อสัญญีพิษสง ระเบิดสงคราม อีกทั้งสร้างสมความร่ำรวยให้ผู้ศรัทธานับไม่ถ้วน[/FONT]
[FONT=&quot]“หลวงพ่อทวดหมาน” ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้มีบุญญาธิการอันยิ่งใหญ่ มีบารมีที่เข้มขลังในพลังจิตญาณสูงส่ง บรรลุปุพเพนิวาสนุสติญาณ และอิทธิวิธิญาณ อย่างแก่กล้าในอากาศกสิณ จนสามารถล่องหนตัวได้อย่างอัศจรรย์ยิ่งนัก[/FONT]
[FONT=&quot]สาธุชนผู้เคารพศรัทธาประจักษ์เห็นในบุญญาภินิหารหลากหลายรอบด้าน กิตติศัพท์ของ “หลวงพ่อทวดหมาน” เป็นที่ลือเลื่องสถิตก้อง และเลื่อมใสของชาวบ้านทั่วทั้งจังหวัดปัตตานี[/FONT]
[FONT=&quot]อีกทั้งมี จิตโตปริยญาณ สามารถล่วงรู้ถึงวิบากกรรมของแต่ละคน และล่วงรู้วิธีการแก้ไข ผ่อนหนักให้เป็นเบา หรือที่เบาก็บันดาลให้หมดสิ้นไป ปรากฏเป็นที่อึงคะนึงว่า ผู้คนที่ประสบปัญหาต่างๆ อาทิเช่น เรื่องธุรกิจการค้ามีปัญหา การทำมาหากินฝืดเคือง ค้าขายไม่เจริญรุ่งเรือง ไม่ราบรื่นติดๆ ขัดๆ ตลอดจนบรรดาข้าราชการที่ไม่ประสบความเจริญก้าวหน้า ต่างไปกราบไหว้ขอให้ท่านช่วยเหลือ ก็ได้รับผลบันดลให้สำเร็จไปตามๆ กัน นอกจากนี้ กฤตยาคม ในจิตญาณของท่าน ยังแก่กล้าด้วยพุทธาคมอย่างเข้มขลังเอกอุ ยอดเยี่ยมเป็น “หนึ่ง” ไม่เป็นสองรองใคร[/FONT]
[FONT=&quot]ซึ่ง สถูปบรรจุอัฐิของ “หลวงพ่อทวดหมาน” ได้ประดิษฐานอยู่ ณ วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ให้ผู้เคารพศัรทธาที่เดินทางไป ได้กราบไหว้สักการบูชา[/FONT]
[FONT=&quot]สำหรับ วัตถุมงคล – พระเครื่อง “หลวงพ่อทวดหมาน” นั้น มีการจัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2505-ปีพ.ศ.2506 ซึ่งถือได้ว่าเป็น “ครั้งแรก” และ “รุ่นแรก” ของวัดทรายขาวเลยก็ว่าได้ โดย ท่านอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้ ผู้ซึ่งเป็นพระสหธรรมิก กับท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ตลอดจนเป็นศิษย์ สำนักนาประดู่เช่นเดียวกันอีกด้วย ได้เป็นประธานดำเนินการจัดสร้าง และกดแม่พิมพ์พระเป็นปฐมฤกษ์ด้วยตนเอง โดยกดพิมพ์พระทั้งหมดที่วัดช้างให้ ควบคู่ไปกับพระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ เนื้อว่านปี พ.ศ.2505 หรือ”รุ่นพินัยกรรม”ของท่านอาจารย์ทิม ที่กำลังโด่งดังในขณะนี้นั่นเอง และได้ประกอบพิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลังไปพร้อมๆกันทั้ง 2 พิมพ์ทรง[/FONT]
[FONT=&quot]โดยได้ประกอบพิธีบวงสรวงอันเชิญดวงวิญญาณของ หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด, หลวงพ่อทวดไกร, หลวงพ่อทวดลิ้นดำ, หลวงพ่อทวดสิทธิชัย และหลวงพ่อทวดหมาน ประทับสู่อาสนะในปะรำพิธี เพื่อเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดช้างให้ เป็นระยะเวลายาวนานถึง 3 ไตรมาส ต่อจากนั้นก็นำไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถมาหาอุด ของวัดทรายขาว เป็นระยะเวลายาวนานถึง 3 ไตรมาส เฉกเช่นเดียวกัน และหลังจากนั้น ท่านอาจารย์ทิม ก็ได้นำพระทั้งหมดกลับไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดช้างให้ อีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ปีขาล ซึ่งถือว่าเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญที่สุดของวัดช้างให้[/FONT]
[FONT=&quot]ครั้นพิธีพุทธาภิเษกได้เสร็จสิ้นลง ท่านอาจารย์ทิม ก็ได้เก็บพระทั้งหมดไว้ในอุโบสถวัดช้างให้และทำการปลุกเสกเรื่อยมา เพื่อรอมงคลโอกาสอันสำคัญ จนถึงปี พ.ศ. 2506 ท่านอาจารย์ทิม จึงได้นำพระทั้งหมดย้อนกลับไปประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถมหาอุด ของวัดทรายขาว อีกครั้งหนึ่ง เป็นระยะเวลานานถึง 3 ไตรมาส อีกคำรบหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายในการประกอบพิธีพุทธาภิเษก “พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน ปี พ.ศ. 2505 หรือ รุ่นพินัยกรรม” และ “พระหลวงพ่อทวดหมาน เนื้อว่านรุ่นแรก”[/FONT]
[FONT=&quot]เมื่อพิธีพุทธาภิเษกครั้งสุดท้าย ในปี พ.ศ. 2506 ได้เสร็จสิ้นลง ท่านอาจารย์ทิมก็ได้นำ”พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน ปีพ.ศ. 2505 หรือ “รุ่นพินัยกรรม” ทั้งหมด และ “พระหลวงพ่อทวดหมาน” ส่วนหนึ่งนำกลับไปไว้ยังวัดช้างให้ ส่วน “พระหลวงพ่อทวดหมาน” ในส่วนที่เหลือ ท่านอาจารย์ทิม ได้มอบให้เป็น”พินัยกรรม” แต่ท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว โดยมีปณิธานว่าให้นำออกให้ผู้เคารพศรัทธาเช่าบูชา ก็ต่อเมื่อต้องการปัจจัย – รายได้ เป็นทุนทรัพย์ในการบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ต่อไปในภายภาคหน้า[/FONT]
[FONT=&quot]ครั้นเมื่อ ท่านอาจารย์นอง แห่งวัดทรายขาว ได้รับมอบ “พระพินัยกรรม” หรือ “พระหลวงพ่อทวดหมาน” จากท่านอาจารย์ทิม แห่งวัดช้างให้แล้ว ท่านอาจารย์นอง ก็ได้นำ “พระหลวงพ่อทวดหมาน” ทั้งหมดมาเก็บไว้ที่วัดทรายขาว...และก็ได้นำพระบางส่วนมาแจกให้กับลูกศิษย์ และคนใกล้ชิดที่ได้ทำบุญในกรณีพิเศษกับท่าน อ.นอง ส่วนที่เหลือก็ได้เข้าร่วม พิธีพุทธาภิเษกกับพระหลวงพ่อทวดที่ท่าน อ.นองได้จัดสร้างขึ้นมา ตั้งแต่ ปี2514 และเรื่อยมาจนถึงปี2542...จนท่านได้มรณะภาพลง...เพราะฉนั้นจึงถือได้ว่าเป็น พระที่ได้เข้าพิธีมาร่วม50ปี...ที่ยาวนานมากๆ...[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>
Click to expand...

ข้อมูลละเอียด เยี่ยม

บังรอน · 25 มกราคม 2011

phattharaphong said: ↑

สมเด็จเจ้าจอมทอง วัดเขาอ้อ มีสร้างพระเครื่องด้วยหรือครับ
Click to expand...

ที่วัดแหลมจองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ซึ่งจะอยู่ฝั่งตรงข้ามของทะเลสาป กับเกาะใหญ่ อ.กระแสสินธ์ จ.สงขลา จะมีเขื่อนสมเด็จเจ้าจอมทอง ประดิษฐานอยู่
ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขื่อนท่านมาอยู่ที่นี่ ไม่เป็นที่วัดเขาอ้อ
พระเครื่องที่ทำเป็นรูปท่านก็จะเป็นรุ่นใหม่ๆนะครับ

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

DSC04154 (Small).jpg

DSC04156 (Small).jpg

ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

DSC04159 (Small).jpg

DSC04161 (Small).jpg

ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

ballaman เป็นที่รู้จักกันดี

phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

IMG_2175.jpg

บังรอน เป็นที่รู้จักกันดี

phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

ppoonsuk เป็นที่รู้จักกันดี

ppoonsuk เป็นที่รู้จักกันดี

ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

ppoonsuk เป็นที่รู้จักกันดี

บังรอน เป็นที่รู้จักกันดี

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ไฟล์ที่แนบมา:

DSC04154 (Small).jpg

DSC04156 (Small).jpg

ไฟล์ที่แนบมา:

DSC04159 (Small).jpg

DSC04161 (Small).jpg

ไฟล์ที่แนบมา:

IMG_2175.jpg

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา