สำนักสงฆ์พุทธนิมิต ขอเชิญร่วมบริจาคสร้างสถานปฏิบัติธรรม

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย พระภาคภูมิ, 29 มกราคม 2011.

  1. พระภาคภูมิ

    พระภาคภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    เจริญพร อาตมาภาพ พระภาคภูมิ รักษาการเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์พุทธนิมิต หนองจิก
    ขอเชิญญาติโยมผู้ใฝ่บุญ ร่วมบริจาคสร้างสถานปฏิบัติธรรมสำนักสงฆ์แห่งนี้เพื่อใช้เป็นสถานที่อบรมญาติโยมที่เข้าร่วมปฏิบัติธรรมในวันอาทิตย์ของทุกสัปดาห์และวันสำคัญต่างๆเช่น วันปีใหม่ วันสงกรานต์ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา
    วันอาสาฬหบูชา วันลอยกระทงและในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เป็นต้น ซึ่งมีสิ่งที่จะต้องสร้างและบูรณดังต่อไปนี้

    ๑. สร้างลานธรรมพร้อมพระพุทธรูปหน้าตัก ๒ เมตร
    ราคาประมาณ ๘๐,๐๐๐ บาทขออนุโมทนาในทรัพย์ภายในที่ลูกหลานหรือผู้ใดไม่อาจมาแย่งชิง
    ๒. เหลือสร้างห้องสุขา ๓ ห้องๆละประมาณ ๗,๐๐๐ บาท(ยังไม่แล้วเสร็จ)บูรณะส้วมร้างข้างโรงอบสมุนไพร
    ๓. บูรณะศาลาและรางน้ำฝนเพื่อฉันในฦดูแล้ง
    ประมาณ ๒๕,๐๐๐ บาท(ยังไม่ดำเนินการ)
    ๔. กุฏิพระกรรมฐานหลังละ ๑๕,๐๐๐ บาทพร้อมห้องน้ำ
    เสร็จแล้ว๑หลังได้เจ้าภาพภายในพื้นที่และโยมยุทธวิน(ดอนเมือง)
    ขออนุโมทนายังวิมานโลกนี้และโลกหน้า
    จึงเจริญพรบอกบุญมายังญาติโยมทั้งหลายร่วมบริจาคสร้างตาม
    กำลังศรัทธาได้ที่
    หรือติตต่อสอบถามได้ที่พระภาคภูมิ สุภัทโท0807417059

    หรือบริจาคได้ที่

    พระภาคภูมิ สุภัทโท
    ธ.เกษตรและสหกรณ์(ธกส)
    สาขา นาแก จ.นครพนม
    เลขที่บัญชี 4382878066
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2011
  2. suvaco

    suvaco สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +9
    Anumodantu

    I personally know of no other monk that selflessly advances Buddhism .
    Anumodantu
     
  3. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    รูปห้องน้ำที่กำลังก่อสร้างนะครับ
    กำลังกายและศัทธาทางใจของชาวบ้านมาช่วยกันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1,010.4 KB
      เปิดดู:
      67
  4. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    รูปพระคุณเจ้าภาคภูมิ ผู้ดำเนินการพลิกฟื้นสำนักสงฆ์ร้าง
    โดยการนำเอาธรรมะมาอบรมชาวบ้านให้หันมาปฎิบัติธรรม
    และได้รับเสียงตอบรับจากญาติโยมด้วยดี ปัจจุบันมีญาติโยม
    มาฟังธรรม และปฎิบัติมากขึ้นเรือยๆๆๆ และรูปงานแสดงธรรม
    สำนักสงฆ์แห่งนี้เน้นการปฎิบัติบูชาครับ ไม่เน้นการก่อสร้างและศาสนาวัตถุ
    สิ่งนี้เป้นสิ่งที่พระคุณเจ้าภาคภูมิท่านตั้งใจไว้ครับ
    ท่านใดมีปัญหาในการปฎิบัติ-หาแนวทางเริ่มปฎิบัติสนทนาธรรมกับท่านได้ครับ
    ท่านมีอุบายในการเพิกถอนกิเลสที่น่าสนใจหลายอย่าง ผมได้รับคำแนะนำจากท่านมาบ้าง
    เห้นว่าน่าสนใจและเป้นแนวทางที่ทำได้ไม่ยากอยากให้ท่านทั้งหลายได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับท่านดูครับ ส่วนผมการปฎิบัติยังเป้นวุ้นอยู่เลยครับ 5555 หัวเราะให้กับคงามไม่เอาถ่านของตัวเอง ๆๆ 55555 ;)
    (แต่อย่าโทรไปดึกมาก ปกติท่านจะปฎิบัติธรรมทุกคืนครับ )
    กราบอนุโมทนาสาธุการเป้นอย่างสูงครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      364.6 KB
      เปิดดู:
      116
    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      770.5 KB
      เปิดดู:
      92
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2011
  5. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    รูปด้านบนเป้นรูปพระพุทธรูป ที่พึ่งจัดสร้างขึ้นเมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมานี้ครับ
    แต่กระทู้เดิมหายไป ท่านใดที่เคยอ่านกระทู้เดิมคงจำได้
    กราบอนุโมทนาสาธุการในกุศลของท่านพระคุณเจ้า ภาคภูมิ พระคุณเจ้า ไพโรจน์ และพระคุณเจ้าอีกหลายรูป ตลอดจนชาวบ่านและเราๆๆท่านๆๆที่ได้ตั้งใจร่วมจัดสร้างพระพุทธรูปพระประธานลานปฎิบัติธรรมองค์นี้ด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ

    ขอเล่าเหตุอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นที่ได้รับฟังมาเป้นเรื่องเล่าสู่กันฟังครับ
    ผมได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุ พระธาตุ ถวายต่อพระคุณเจ้าภาคภูมิ เพื่อนำไปประดิษฐานบนองค์พระร่วมกับ พระธาตุอรหันต์อื่นๆๆด้วย เมือได้บรรจุในพระธาตุและจัดสร้างองค์พระแล้ว (คืนวันที่ 1 มค 54 ) เกิดเหตุแปลกน่าอัศจรรย์ใจพอสมควร กล่าวคือ ในคืนนั้นมีกล่มวัยร่นประมาณ 10 คนนั่งทานอาหารฉลองปีใหม่ ที่บ้านตนที่อยู่ใกล้ๆๆกับสำนักสงฆ์ กล่มวัยร่นได้เห้นแสงสีขาวสว่างพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทุกๆๆคนในกล่มเห้น อย่างเดียวกันหมดเป้นที่โจษขานกันมากในหมู่บ้าน เด๋วยังมีต่ออีกนะครับพร่งนี้ผมจะมาเล่าต่อครับ ๆๆๆๆๆ มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นอีก อดใจรอนะครับๆๆๆๆๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2011
  6. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    เชิญทุกท่านร่วมกุศลได้ครับ
    สำนักสงฆ์แห่งนี้ก่อสร้างเฉพาะที่จำเป็น
    แรงงานก้อมาจาก ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านในหมู่บ้านที่ว่างจากการทำงาน และมาช่วยงานวัดตลอดจนปฏิบัติธรรมนั้นแหละ ผมได้สนทนากับพระคุณเจ้าแล้วกราบเรียนเชิญนะครับ หรือ
    หรือติตต่อสอบถามได้ที่
    พระภาคภูมิ สุภัทโท 0807417059

    ถ้าสะดวกทางบัญชี ชื่อบัญชี ครับ
    พระภาคภูมิ สุภัทโท
    ธ.เกษตรและสหกรณ์(ธกส)
    สาขา นาแก จ.นครพนม
    เลขที่บัญชี 4382878066

    โอนได้ทาง ATM สะดวกมากครับมี
    ค่าธรรมเนียมนิดหน่อยๆๆ
    ไม่ต้องวิ่งหา ธนาคาร ธกส ครับใน กทม หายาก
    กราบอนุโมทนาสาธุการเป้นอย่างสูงครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2011
  7. ฐิติตา

    ฐิติตา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +65
    นมัสการ A nu mo ta na ครับผม
     
  8. พระบุญ

    พระบุญ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    สวัสดีครูบา ขอให้สำเร็จผลตามความตั้งใจทุกๆประการ เทอญ.
     
  9. พระภาคภูมิ

    พระภาคภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    กราบนมัสการ ขอเจริญพรญาติธรรมผู้มีจิตใจสูงในตระกูลเหล่ากออันเป็นมงคล
    กำลังพาญาติโยมทำน้ำปะปาวัดได้แรงงานจากชาวบ้านผู้ที่หยุดงานตรุษจีนมาช่วย
    บุญกุศลเปรียบเหมือนส่องกระจกปราถนาดีย่อมตอบสนองพวกท่านในทางที่ดีเทอญสาธุฯฯ
    เจริญพร
     
  10. พระภาคภูมิ

    พระภาคภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    ขออนุโมทนามายังนักบุญในโลกไชเบอร์ถึงโลกเราจะเจริญทางวัตถุสักเท่าไร
    กิเลสตัณหาก็ตัวเก่า ราคะ โทสะ โมหะ
    ความหลง ถ้าไม่พิจารณาตามความเป็นจริงโดยใช้หลักธรรมะก็เป็นทุกข์ถ้าให้ความสุขของใจเสริมปัญญาให้กับจิต
    ก็จะประคับประคองร่างกายอันนี้ อันที่ที่จะเดินทางไปหาความแก่และความตายทุกวันของธาตุ4อันนี้ให้มีความสุขก่อนที่จะเข้าไปรวมกันหนึ่งธาตุคือ ธาตุกระดูก อันจะเป็นของเก่าและหลงลืมของลูกหลาน
    บุญทานทุกบาทของท่านในวันนี้จงดลให้ท่านมีความสุขในโลกนี้และโลกหน้าเทอญ เจริญพร
     
  11. พระภาคภูมิ

    พระภาคภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    พระอรหันต์ในบ้าน

    พ่อ-แม่ให้มรดกอันมหาศารคือให้ ธาตุ ดินและ ธาตุน้ำที่หาซื้อยังที่ใดมิได้สมบูรณ์ขนาดนี้ บุคคลใดปล่อยไห้พ่อแม่อดอยากบุคคลนั้นเนรคุณสูงสุด
    ท่านย่อมได้อานิสงส์เป็นลูก กำพร้าทุกชาติเมื่อผิดพลาดกับพ่อแม่ที่เสียไปแล้วจะใช้ทาสที่ท่านให้ทำดีเพื่อท่านอย่างไรหรือจะเป็นทาสที่ซื่อสัตย์ของลูกของครอบครัวอย่างเดียว
     
  12. พระภาคภูมิ

    พระภาคภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    ได้ใบอนุโมทนามาแล้ววันจันทร์จะส่งให้ครับพระอาจารย์ เฉลิมชาติพร้อมลูกศิษยานุศิษย์
    ขออนุโมทนาในกุศลของพวกท่านด้วย สาธุ ฯ ฯ
     
  13. tamdede

    tamdede สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +17
    นมัสการ ร่วมกันส่งส่งจิตนมัสการหลวงตามหาบัว..ขอรับ
     
  14. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    เรื่องอัศจรรย์ที่ 2 กล่าวคือ ในคืนวันที่ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ พระธาตุบนองค์พระแล้วนั้น (1 มกราคม 2554) พระคุณเจ้ารูปหนึ่งที่ได้มาร่วมงานสร้างพระพุทธรูปและงานบำเพ็ญกุศลวันปีใหม่ที่สำนักสงฆ์ ประมาณว่า ท่านได้ฝันเห้นพระอรหันต์เสด็จมา มีแสงสีขาวปรากฎที่องค์พระ นับว่าเป้นนิมิตรหมายที่ดีเป้นอย่างยิ่งครับ กาลต่อมา(หลังจากวันปีใหม่) ได้รับทราบจากพระคุณเจ้าภาคภูมิ ผู้ดูแลสำนักสงฆ์แห่งนี้ว่า มีญาติโยม(ชาวบ้าน) มาปฎิบัติธรรมกันมากขึ้นและได้มาช่วงเป็นแรงงานในการดำเนินการต่างๆๆของวัดมากขึ้นครับ นับว่าน่าดีใจจริงๆๆ ผมคิดว่าคนเราขอเพียงได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับพระพุทธศาสนา ที่แท้จริง ได้พบกับพระสงฆ์ผู้เป้นนาบุญที่แท้จริง ได้มีโอกาสศึกษา รับฟังคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แท้จริง จะค่อยๆๆโน้มนำเข้าสู่ธรรมขั้นสูงและบรรลุมรรคผลนิพานได้ในอนาคตช้าบ้างเร็วบ้างขึ้นกับเหตุปัจจัย บุญกรรม ต่างๆๆของแต่ละท่านที่ได้ทำมาในอดีต และกรรมปัจจุบัน เป้นเหตุสำคัญเกื้อหนุนครับ ท่านใดที่ยังไม่ได้เร่งบำเพ็ญความเพียรก้อดี สร้างสมบุญไว้ก้อดี ขอให้ท่านรีบขนขวายกันนะครับ ผู้เขียนเองยอมรับว่าคนเองยังไปไม่ถึงไหนยังวนอยู่กับการทำมาหากินและกามกิเลสเป้นอันมาก ก้อจะพยายามตามเหตุปัจจัยเหมือนกันครับ ให้สมกับชีวิตนี้ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาที่แท้จริงแบบนี้ นับว่าโอกาสดีหละครับ กราบเรียนทุกท่านเร่งปฎิบัติ สั่งสมบุญ ดังพระพุทธสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า

    สยํ กตานิ ปุญญานิ ตํ เว อาเวณิยํ ธนํ
    ความดีที่ทำไว้เองนี่แหละ เป้นทรัพย์ส่วนเฉพาะของตัวแท้ๆๆ

    สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ

    ยังมีเรื่องอัศจรรย์อีกนะครับ ๆๆๆๆไว้ค่อยทยอเล่าไป อีก 1 เรื่องเกิดในคืนเดียวกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2011
  15. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ขอกราบเรียนเชิญทุกท่านร่วมบริจาคตามกำลังคนละเล็กน้อย
    เพื่อฟื้นฟูสำนักสงฆ์แห่งนี้ให้กลับมา เป้นศูนย์กลางในการปฎิบัติธรรม
    เป้นวัดแท้ๆๆๆ ตามแนวทางวัดป่า ไม่เน้นสิ่งก่อสร้างใดๆๆ แต่คงจำเป้นต้องมี
    สิ่งก่อสร้างไว้ให้ญาติโยมที่เข้ามาทำบุญ-ปฎิบัติธรรมได้รับความสะดวกตามสมควรเป้นมาตราฐาน
    เช่น การจัดสร้างห้องน้ำที่สะอาด ห้องครัวสะอาด ลานธรรมะ ที่เก็บน้ำ ทางเดินจวงกรม
    กุฎิเล้กๆๆไว้จำนวนหนึ่งสำหรับพระ-ฆารวาส ที่ได้เดินธุดงค์
    ผ่านมาพักฟื้นร่างกายหรือที่มาปฎิบัติธรรมะครับ กราบเรียนเชิญ ทุกท่านครับ
    ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆๆ แต่ได้สนทนาธรรมกับพระคุณเจ้าท่านบ้างตามสมควร
    เป้นความตั้งใจจริงของท่าน และพิจารณาคำสอนที่ท่านเมตตาสั่งสอนเห้นว่าดี เป้นกุศลกรรม เป้นไปในทางให้ลดละเลิก อบาย กามกิเลสทั้งหลาย ให้หน่ายทุกข์-สุข ผมเห้นว่า
    เป้นไปตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนไว้ครับ อยากให้ท่านทั้งหลายได้มีโอกาสสนทนากับพระคุณเจ้าบ้าง หรือร่วมทำบุญในการฟื้นฟุสำนักสงฆ์นี้ให้ยังประโยชน์แด่สัตว์ทั้งหลายต่อไปในอนาคต แม่เราตายแล้วกุศลที่ทำไว้คงเป้นประโยชน์ต่อชนหมูมากต่อไปแน่แท้กราบเรียนเชิญครับผมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :)

    สงสัยอย่างไร(ของแท้ต้องสอบถามได้โปร่งใส)
    -ประสงค์สนทนาธรรมะ- ไปร่วมปฎิบัติธรรม เรียนเชิญครับ
    พระภาคภูมิ สุภัทโท 0807417059

    ถ้าสะดวกทางบัญชี ชื่อบัญชี ครับ
    พระภาคภูมิ สุภัทโท
    ธ.เกษตรและสหกรณ์(ธกส)
    สาขา นาแก จ.นครพนม
    เลขที่บัญชี 4382878066

    โอนได้ทาง ATM สะดวกมากครับมี
    ค่าธรรมเนียมนิดหน่อยๆๆ
    ไม่ต้องวิ่งหา ธนาคาร ธกส ครับใน กทม หายากให้ปวดหัวซะเปล่าๆๆกราบอนุโมทนาสาธุการเป้นอย่างสูงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2011
  16. พระภาคภูมิ

    พระภาคภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    สิ่งที่พาญาติโยมสร้างไว้เพื่อผู้มีบุญญาบารมีได้มาพักมาปฏิบัติ อาตมาภูมิใจกว่า หาสมบัติภายนอกใว้ให้ลูกหลานขายกิน และ ลืมเราผู้ล่วงลับพร้อมเหตุผลของกิเลสที่ว่า ไม่มีเวลา ต้องทำงาน ต้องหาเงินตัวเป็นเกียว อยากทำบุญให้อยู่แต่ขอเวลาพร้อมมากก่อน มีค่าใช้จ่ายเยอะแล้วก้อลืมผู้มีคุน โอ้ลูกหลานที่น่ารักช่างตอบแทนดีหนอ
     
  17. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    บุญ กับ กุศล .....จากท่านพุทธทาสภิกขุ

    บุญ กับ กุศล .....จากท่านพุทธทาสภิกขุ

    บุญ กับ กุศล

    คำว่า บุญ มีความหมายว่า ทำให้ฟู หรือ พองขึ้น บวมขึ้น นูนขึ้น

    ส่วนคำว่า กุศล นั้น แปลว่า แผ้วถาง ให้ราบเตียนไป

    โดยความหมาย เช่นนี้ เราย่อมเห็นได้ว่า เป็นของคนละอย่างหรือเดินคนละทาง

    บุญ เป็นสิ่งที่ทำให้ฟูใจพอใจชอบใจ เช่น ทำบุญให้ทานหรือรักษาศีลก็ตาม แล้วก็ฟูใจ อิ่มเอิบ หรือ แม้ที่สุดแต่รู้สึกว่า ตัวได้ทำสิ่งที่ทำยาก ในกรณีที่
    ทำบุญเอาหน้า เอาเกียรติ อย่างนี้ ก็ได้ชื่อว่า ได้บุญ เหมือนกัน แม้จะเป็น บุญชนิดที่ไม่สู้จะแพ้ หรือแม้ในกรณีที่ทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อเอาบุญกันจริงๆ ก็ยังอดฟูใจไม่ได้ว่า ตนจะได้เกิดในสุคติโลกสวรรค์ มีความปรารถนาอย่างนั้น อย่างนี้ ในภพนั้น ภพนี้ อันเป็น ภวตัณหา นำไปสู่การเกิดในภพใหม่ เพื่อเป็น อย่างนั้น อย่างนี้ ตามแต่ ตนจะปรารถนา ไม่ออกไปจาก การเวียนว่ายตายเกิด ในวัฎสงสาร ได้ แม้จะไปเกิดในโลกที่เป็นสุคติ อย่างไรก็ตาม ฉะนั้น ความหมายของคำว่า บุญ จึงหมายถึง สิ่งที่ทำให้ฟูใจ และ เวียนไปเพื่อความเกิดอีก ไม่มีวันที่สิ้นสุดลงได้

    ส่วนกุศลนั้น เป็นสิ่งที่ ทำหน้าที่ แผ้วถาง สิ่งกีดขวาง ผูกรัด หรือ รกรุงรัง ไม่ข้องแวะ กับความฟูใจ หรือ พอใจ เช่นนั้น แต่มีความมุ่งหมายจะกำจัดเสียซึ่งสิ่งต่างๆ อันเป็นเหตุ ให้พัวพัน อยู่ใน กิเลสตัณหา อันเป็น เครื่องนำให้ เกิดแล้วเกิดอีก และมีจุดมุ่งหมาย กวาดล้างสิ่งเหล่านั้นออกไปจากตัว

    แต่ว่า บุญ กับ กุศล สองอย่างนี้ ทั้งที่มี เจตนารมณ์ แตกต่างกัน ก็ยังมี การกระทำทางภายนอกอย่างเดียวกัน ซึ่งทำให้เราหลงใหลในคำสองนี้อย่างฟั่นเฝือ เพื่อจะให้เข้าใจกันง่ายๆ เราต้องพิจารณา ดูที่ตัวอย่างต่างๆ ที่เรา กระทำกัน อยู่จริงๆ คือ ในการให้ทาน ถ้าให้เพราะจะเอาหน้าเอาเกียรติ หรือ เอาของตอบแทน เป็นกำไร หรือ เพื่อผูกมิตร หาพวกพ้อง หรือ แม้ที่สุดแต่ เพื่อให้บังเกิดในสวรรค์ อย่างนี้ เรียกว่า ให้ทานเอาบุญหรือได้บุญ แต่ถ้าให้ทาน อย่างเดียวกันนั่นเอง แต่ต้องการ เพื่อขูดความขี้เหนียว ของตัว ขูดความเห็นแก่ตัว หรือให้เพื่อค้ำจุนศาสนา เอาไว้ เพราะเห็นว่า ศาสนาเป็น เครื่องขูดทุกข์ ของโลก หรือ ให้เพราะ เมตตาล้วนๆ โดยบริสุทธิ์ใจ หรืออำนาจเหตุผล อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่ง ปัญญาเป็นผู้ชี้ขาดว่า ให้ไปเสีย มีประโยชน์มากกว่าเอาไว้อย่างนี้ เรียกว่า ให้ทานเอากุศล หรือได้กุศล

    ซึ่งมันแตกต่างๆ ไปคนละทิศ ละทางกับการให้ทานเอาบุญ ในการรักษาศีล ก็เป็นทำนองเดียวกันอีก รักษาศีลเอาบุญ คือรักษาไปทั้งที่ไม่รู้จัก ความมุ่งหมายของศีล เป็นแต่ยึดถือในรูปร่างของการรักษาศีล แล้วรักษาเพื่ออวดเพื่อนฝูง หรือ เพื่อแลกเอาสวรรค์ ตามที่ นักพรรณนาอานิสงส์ เขาพรรณนากันไว้ หรือ ทำอย่างละเมอไปตามความนิยมของคนที่มีอายุล่วงมาถึงวัยนั้นวัยนี้ เป็นต้น ยิ่งเคร่งเท่าใด ยิ่งส่อความเห็นแก่ตัว และความยกตัว มากขึ้น เท่านั้น ยิ่งมีความยุ่งยากในครอบครัว หรือวงสังคม เกิดขึ้นใหม่ๆ แปลกๆ เพราะ ความเคร่งครัดในศีลของบุคคลประเภทนี้อย่างนี้ เรียกว่ารักษาศีลเอาบุญ ส่วนบุคคลอีกประเภทหนึ่ง รักษาศีลเพียงเพื่อให้เกิดการบังคับตัวเอง สำหรับจะเป็นทางให้เกิดความ บริสุทธิ์ และความสงบสุขแก่ตัวเองและเพื่อนมนุษย์เพื่อใจสงบ สำหรับเกิดปัญญาชั้นสูง นี้เรียกว่า รักษาศีลเอากุศล รักษามีจำนวน เท่ากัน ลักษณะเดียวกัน ในวัดเดียวกัน แต่กลับเดินไป คนละทิศละทาง อย่างนี้เป็นเครื่องชี้ ให้เห็นภาวะ แห่งความแตกต่าง ระหว่างคำว่า บุญ กับคำว่า กุศล คำว่า กุศลนั้น ทำอย่างไรเสีย ก็ไม่มีทางตกหล่ม จมปลักได้เลย ไม่เหมือนกับคำว่า บุญ และกินเข้าไป มากเท่าไร ก็ไม่มีเมา ไม่เกิดโทษ ไม่เป็นพิษ ในขณะที่ คำว่า บุญ แปลว่า เครื่องฟูใจนั้น

    คำว่า กุศล แปลว่า ความฉลาดหรือ เครื่องทำให้ฉลาด ในการเจริญสมาธิ ก็เป็นอย่างเดียวกันอีก คือ สมาธิเอาบุญ ก็ได้ เอากุศลก็ได้ สมาธิเพื่อดูนั่นดูนี่ ติดต่อกับ คนโน้นคนนี้ ที่โลกอื่น ตามที่ ตนกระหาย จะทำให้เก่งกว่าคนอื่น หรือ สมาธิ เพื่อการไปเกิด ในภพนั้น ภพนี้ อย่างนี้เรียกว่า สมาธิเอาบุญ หรือ ได้บุญ เพราะทำใจให้ฟู ให้พอง ตามความหมายของมันนั่นเอง ซึ่งเป็นของที่ปรากฏว่า ทำอันตราย แก่เจ้าของ ถึงกับต้อง รับการรักษา เป็นพิเศษ หรือ รักษาไม่หาย จนตลอดชีวิต ก็มีอยู่ไม่น้อย เพราะว่า สมาธิเช่นนี้ มีตัณหาและทิฎฐิเป็นสมุฎฐาน แม้จะได้ผลอย่างดีที่สุดก็เพียงได้เกิดในวัฏสงสารตามที่ตนปรารถนาเท่านั้น ไม่เป็นไป เพื่อนิพพาน ส่วนสมาธิ ที่มีความมุ่งหมาย เพื่อการบังคับใจตัวเอง ให้อยู่ในอำนาจ เพื่อกวาดล้าง กิเลส อันกลุ้มรุมจิตให้ราบเตียน ข่มขี่มิจฉาทิฎฐิ อันจรมา ในปริมณฑลของจิต ทำจิตให้ผ่องใส เป็นทางเกิดของวิปัสสนาปัญญา อันดิ่งไปยังนิพพาน เช่นนี้เรียกว่า สมาธิได้กุศล
    ไม่ทำอันตรายใคร ไม่ต้องหาหมอรักษา ไม่หลงวนเวียน ในวัฎสงสาร จึงตรงกันข้าม จากสมาธิเอาบุญ

    ครั้นมาถึงปัญญา นี้ไม่มีแยกเป็นสองฝ่าย คือไม่มีปัญญาเอาบุญ เพราะตัวปัญญานั้น เป็นตัวกุศล เสียเองแล้ว เป็นกุศลฝ่ายเดียว นำออกจากทุกข์อย่างเดียว แม้ยังจะต้อง เกิดในโลกอีก เพราะยังไม่แก่ถึงขนาด ก็มีความรู้สึกตัว เดินออกนอกวัฎสงสาร มีทิศทางดิ่งไปยังนิพพานเสมอ ไม่วนเวียนจนติดหล่ม จมเลน โดยความไม่รู้สึกตัว ถ้ายังไม่ถึงขนาดนี้ ก็ยังไม่เรียกว่า ปัญญาในกองธรรม หรือ ธรรมขันธ์ ของพุทธศาสนา ดังเช่น ปัญญาในทางอาชีพหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เป็นต้น

    ตามตัวอย่าง ที่เป็นอยู่ในเรื่องจริง ที่เกี่ยวกับ การกระทำ ของพวกเราเองดังที่กล่าวมาแล้วนี้ ทำให้เราเห็นได้ว่า การที่เราเผลอ หรือ ถึงกับหลงเอาบุญ กับ กุศล มาปนเป เป็นอันเดียวกันนั้น ได้ทำให้เกิด ความสับสนอลเวงเพียงไร และทำให้คว้าไม่ถูกตัวสิ่งที่เราต้องการ จนเกิดความยุ่งยากสับสนอลหม่าน ในวงพวกพุทธบริษัทเองเพียงไร ถ้าเรายังขืนทำสุ่มสี่สุ่มห้า เอาของสองอย่างนี้ เป็นของอันเดียวกัน อย่างที่ เรียกกัน พล่อยๆ ติดปากชาวบ้านว่า "บุญกุศลๆ" เช่นนี้อยู่สืบไปแล้ว เราก็จะไม่สามารถ แก้ปัญหา ต่างๆ อันเกี่ยวกับการทำบุญกุศล นี้ ให้ลุล่วงไป ด้วยความดี จนตลอดกัลปาวสาน ก็ได้

    ถ้ากล่าวให้ชัดๆ สั้นๆ บุญเป็นเครื่องหุ้มห่อ กีดกั้นบาป ไม่ให้งอกงาม หรือปรากฏ หมดอำนาจบุญเมื่อใด บาปก็จะโผล่ออกมา และงอกงามสืบไปอีก
    ส่วนกุศลนั้น เป็นเครื่องตัด รากเหง้าของบาป อยู่เรื่อยไป จนมันเ่ยวแห้งสูญสิ้นไม่มีเหลือ ความต่างกัน อย่างยิ่ง ย่อมมีอยู่ ดังกล่าวนี้ คนปรารถนาบุญ จงได้บุญ คนปรารถนากุศล ก็จงได้กุศลและปลอดภัย ตามความปรารถนา แล้วแต่ใคร จะมองเห็นและจะสมัครใจ จะปรารถนาอย่างไร ได้เช่นนี้ เมื่อใดจึงจะชื่อว่า พวกเรารู้จัก บุญกุศล กันจริงๆ รู้ทิศทางแห่งการก้าวหน้า และทิศทางที่วกเวียน ว่าเป็นของที่ไม่อาจจะเอามาเป็นอันเดียวกันได้เลย แม้จะเรียกว่า "ทางๆ" เหมือนกัน ทั้งสองฝ่าย
     
  18. พระบุญ

    พระบุญ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    นมัสการ ขอให้จัดงานปฏิบัติธรรมเนื่องในวันมาฆบูชาให้เป็นแบบแผนในการปฏิบัติธรรมให้ลุล่วงไปด้วยดี เทอญ. ขออนุโมทนา ครับ
     
  19. anatata

    anatata Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +39
    นมัสการ หล่อพระประธานที่มหาสารคามเสร็จแล้วช่างจึงจะขึ้นไปหล่อที่วัดพระอาจารย์นะครับ ขอเจริญธรรม
     
  20. พระภาคภูมิ

    พระภาคภูมิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +18
    อนุโมทนา ทางญาติโยมรู้ข่าวว่าจะมีเจ้าภาพจะมาเทองค์พระดีใจกันมากหลายคนปราถนาจะร่วมสร้างสิ่งอันเป็นมงคลใว้ให้ลูกหลานสักการะบูชาบอกว่าดีกว่ารถราและบ้านหลังใหญ่ที่ลูกหลานจ้องจะแบ่งปันกันทุกวัน
    วันนี้ญาติโยมมาทำวัตรสวดมนต์นั่งภาวนาเกือบสามสิบคนผู้ใหญ่บ้านมามอบทุนผู้นำทางศาสนาของกองทุนแม่พระราชทานหนึ่งพันบาทก่อนเลิกเลยให้เป็น งปประมาณในวันมาฆบูชาจะให้ทำขนมจีนแจกบีบขนมจีนสดสดและทำขนมจีนน้ำนัวสูตรเรณูนครและน้ำยาต่างฯแจกเลี้ยงนักแสวงบุญในวันมาฆและเป็นการฝึกอาชีพให้ผู้สนใจในการขายขนมจีนเลี้ยงชีพใครสนใจมาศึกษาได้ไม่หวงวิชากลางคืนร่วมเวียนเทียนรอบองค์พระองค์เล็กหน้าตักหนึ่งเมตรที่เสร็จในวันปีใหม่และรอบมายังฐานองค์ใหม่ เจริญพร
     

แชร์หน้านี้

Loading...