รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 28 กันยายน 2006.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ทางรอด **** รอดด้วยความเชื่อ.... รอดด้วยสติปัญญา... รอดด้วยศรัทธา ....รอดด้วยสัจจะ.......รอดอย่างปฏิหาริย์ - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 align=center border=0><!--DWLayoutTable--><TBODY><TR><TD vAlign=center bgColor=#ded321 colSpan=8 rowSpan=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width=19 height=16><!--DWLayoutEmptyCell--></TD><TD width=14></TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#b6a90a rowSpan=12></TD><TD height=40></TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ded321 colSpan=2 rowSpan=11>[​IMG]</TD><TD vAlign=center bgColor=#ffcc00 colSpan=5 height=23></TD><TD vAlign=top width=58 bgColor=#ded321 rowSpan=11>[​IMG]</TD><TD></TD></TR><TR><TD width=23 height=22></TD><TD width=84></TD><TD width=251></TD><TD width=86></TD><TD width=22></TD><TD></TD></TR><TR><TD height=20></TD><TD></TD><TD vAlign=center bgColor=#f7ef73>
    ประวัติความเป็นมาของมูลนิธิพระดาบส

    </TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD height=18></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top colSpan=5 height=120>[​IMG]

    </TD><TD></TD></TR><TR><TD height=24></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD height=552></TD><TD class=style1 vAlign=top colSpan=3>ความเป็นมา
    โครงการพระดาบสเป็นโครงการตามกระแสพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 มีวัตถุ ประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ยังไม่มีอาชีพ และความรู้พื้นฐานเพียงพอที่จะเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาขั้นสูง หากแต่มีความยินดีสนใจใฝ่ศึกษาและมีความเพียรอย่างจริงจังให้ได้รับโอกาสฝึกวิชาชีพ และฝึกอบรมคุณธรรมศีลธรรมโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เขาเหล่านั้น ออกไปประกอบสัมมาอาชีวะ สร้างตนเอง ช่วยเหลือครอบครัว และ และประเทศชาติ
    เมื่อปี 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน กระแสพระราชดำริให้ดำเนินการทดลองเปิดหลักสูตรวิชาช่างไฟฟ้า วิทยุ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนประเดิมในการดำเนินโครงการและต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตจดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิพระดาบสตามกฎหมายเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ . ศ . 2533

    แนวคิดในการบริหาร

     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร
    <B><BIG>ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ</BIG></B>
    <B><BIG></BIG></B>
    <B><BIG></B>
    [​IMG]
    </BIG>
    <B><BIG></BIG></B>
    การดำเนินงานฝึกอบรมศิลปาชีพ
    <SMALL></SMALL>
    <SMALL></SMALL>
    <SMALL>ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ เปิดฝึกอบรมให้กับบรรดาเกษตรกร และราษฎร</SMALL><SMALL>ผู้ยากไร้ ปีละ 2 รุ่น ใช้เวลาในการฝึกรุ่นละ 6 เดือน ฝึกอบรมทุกวัน ตั้งแต่ </SMALL><SMALL>เวลา 08.00 - 16.30 น. และจะมีวันหยุด 1 วันในแต่ละสัปดาห์ มีแผนก</SMALL><SMALL>ฝึกอบรมรวมทั้งสิ้น 30 แผนก ดังนี้คือ</SMALL>
    <SMALL></SMALL>
    <TABLE width="88%" border=0><TBODY><TR><TD width="47%" bgColor=#ffffd7>
    <SMALL></SMALL>
    <SMALL>1. แผนกช่างตัดเย็บเสื้อผ้าและปักจักร </SMALL>

    <SMALL>2. แผนกช่างทอผ้าลายตีนจก</SMALL>
    <SMALL>3. แผนกช่างเป่าแก้ว</SMALL>
    <SMALL>4. แผนกช่างเครื่องเคลือบดินเผา</SMALL>
    <SMALL>5. แผนกช่างจักสานไม้ไผ่ลายขิด</SMALL>
    <SMALL>6. แผนกช่างเครื่องเรือนไม้</SMALL>
    <SMALL>7. แผนกช่างเครื่องยนต์</SMALL>
    <SMALL>8. แผนกช่างศิลปประดิษฐ์</SMALL>
    <SMALL>9. แผนกช่างประดิษฐ์หัวโขน</SMALL>
    <SMALL>10.แผนกช่างเครื่องเรือนหวาย</SMALL>
    <SMALL>11.แผนกช่างจิตรกรรมประยุกต์</SMALL>
    <SMALL>12.แผนกช่างปั้นตุ๊กตาชาววังและ</SMALL>
    <SMALL>ดอกไม้ขนมปัง</SMALL>
    <SMALL>13.แผนกช่างปฎิมากรรม</SMALL>
    <SMALL>14.แผนกเกษตรกรรม</SMALL>
    <SMALL>15.แผนกช่างเจียระไนพลอย</SMALL>
    <SMALL></SMALL>
    </TD><TD vAlign=top width="53%" bgColor=#ffffd7>
    <SMALL></SMALL>
    <SMALL>16.แผนกช่างโลหะ</SMALL>

    <SMALL>17.แผนกช่างสอดย่านลิเภา</SMALL>
    <SMALL>18.แผนกช่างผักตบชวา</SMALL>
    <SMALL>19.แผนกช่างเขียนภาพลายไทย</SMALL>
    <SMALL>20.แผนกช่างสีและชักเงา</SMALL>
    <SMALL>21.แผนกช่างเครื่องหนัง</SMALL>
    <SMALL>22.แผนกช่างทอผ้าไหม</SMALL>
    <SMALL>23.แผนกช่างปักผ้า</SMALL>
    <SMALL>24.แผนกโภชนาการ</SMALL>
    <SMALL>25.แผนกช่างดอกไม้ประดิษฐ์</SMALL>
    <SMALL>26.แผนกช่างแกะสลักไม้</SMALL>
    <SMALL>27.แผนกช่างผ้าบาติก</SMALL>
    <SMALL>28.แผนกขนมไทย</SMALL>
    <SMALL>29.แผนกช่างวาดภาพสีน้ำมัน</SMALL>
    <SMALL>30.แผนกช่างภาพกระจกสี</SMALL>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <SMALL>หมายเหตุ : </SMALL>
    <SMALL>ข้อมูลจากเอกสารแผ่นพับ ของ ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร</SMALL>
    <SMALL>ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา</SMALL>
    <SMALL>โทร. 035 366-252 - 4, โทรสาร 035 366-092</SMALL>
    <SMALL></SMALL>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2006
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แดนเร้นภัยในมิติลี้ลับ
    (คัดลอกมาจากเว็บคนเมืองบัว)

    นิมิตอย่างนี้ ใครประสบบ้าง เล่าสู่กันฟังบ้างครับ


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle><TD class=row1 bgColor=#ffffff><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>
    ทั้งที่เป็นสุบินนิมิต และเป็นสมาธินิมิต ทำนองว่า เกิดภัยพิบัติใหญ่ แดนหลบภัยชั่วคราว โลกใหม่เมืองใหม่หลังภัยพิบัติ....


    เมื่อคืน(คืนวันที่13 หรือเช้าของวันที่14) ประมาณ ตีห้า ฝันว่า

    เกิดภัยธรรมชาติอันรุนแรง (จำไม่ค่อยได้ว่าคืออะไร) ทำให้คนที่จิตไม่ดีหรือคนบาป ต้องเปลี่ยนกายใหม่ที่เหมาะสมกับจิตของพวกเขา (ตาย)
    ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ใช้อะไรในการตัดสิน เห็นในฝันเพียงว่า มีวัตถุอย่างหนึ่งมาเร็วมากคล้ายลูกปืน ลอยกระทบผู้คน แล้วแตกเป็นสีแดงบ้าง สีเขียวบ้าง ที่เป็นสีแดง-ต้องตาย ที่เป็นสีเขียว-ไม่ต้องตาย ผมก็โดนเหมือนกัน (โดนหลายลูกด้วย) พอโดนแล้ว เหมือนกับโดนยิง แต่ไม่เจ็บ มองดูอีกที วัตถุนั้นแตกเป็นสีเขียวติดที่เสื้อ และผมก็ไม่ตาย ยังรอดชีวิต จึงเข้าใจเองว่า วัตถุนั้น เมื่อลอยมาโดนคนจิตใจหยาบช้า น่าจะแข็งและทะลุเนื้อเข้าไป เลือดไหลออกมาเป็นสีแดง จนผู้นั้น ๆ ต้องตาย แต่เมื่อลอยมาโดนคนจิตใจไม่หยาบช้า วัตถุนั้น น่าจะเบาบางลง จนไม่มีแรงกระแทก มีแต่แรงกระทบหน่อย ๆ รู้แต่ว่ามีอะไรมากระทบหน่อย ๆ จึงไม่เจ็บและไม่ตาย (ไม่เข้าใจว่า ทำไม่ต้องเป็นสีเขียว)

    จากนั้น ได้เข้าไปสู่แดนหนึ่ง เข้าใจว่าเป็นแดนมนุษย์นี่แหละ (อาจเรียกได้ว่า "แดนรอดตาย" หรือ "แดนเร้นภัย") ที่นี่มีชุมชนดั้งเดิมของเขาอยู่แล้ว เพียงแต่ผู้รอดตาย มาพักพิงเท่านั้น (ชั่วคราวหรือตลอดไป ไม่ทราบครับ) ที่นี่ มีต้นไม้มากมาย ภูเขาสูงใหญ่ พืชพันธุ์ธัญญาหาร สมบูรณ์ดี ในบรรดาเขาต่าง ๆ นั้น มีภูเขาลูกหนึ่งสูงมาก และที่เขานี้ ก็มีผาที่มีชื่อเสียงมาก ผมมองจากด้านล่าง ก็เห็นยอดผาสูงเสียดฟ้า เสียดเมฆ (จินตนาการเอาจากยอดเขาในหนังจีนนะครับ) เห็นเฉย ๆ ครับ ไม่ได้ขึ้นไปเที่ยว ได้ยินเขาบอกว่า หากขึ้นไปบนยอดผานี้ จะมองเห็นสวรรค์ชั้นฟ้า เห็นน้ำตกสวรรค์สวยงามมาก (มองแบบไม่ต้องแหงนหน้ามาก) ผู้คนจึงตั้งชื่อว่า "ผาสบสวรรค์" หรือ "ผาสพสวรรค์"

    ผมแหงนหน้ามองจากหมู่บ้าน เห็นผาสบสวรรค์ อยู่ด้านตะวันออก เห็นสีขาว ๆ ลาง ๆ คล้ายสายน้ำตกอยู่ทางทิศใต้ (เหมือนสายน้ำตกจากอากาศลงอากาศ) คนที่หมู่บ้านเห็นผมท่าทางสนใจจึงชวนผมขึ้นไปเที่ยวดู ผมตกลง

    ตรงทางขึ้น (จากพื้นดินสู่สายน้ำตก) เห็นมีเพียงลูกกลม ๆ คล้ายไข่อยู่สองอัน อันนี้แหละคือยานพาหนะที่จะนำพาไปสู่จุดหมาย เห็นกลางอากาศ มีเส้นเถาวัลย์อยู่สองเส้น (เส้นหนึ่งขาขึ้น อีกเส้นหนึ่งขาลง) เป็นเหมือนรางรถ พอขึ้นนั่งบนยานกลม เห็นเขาใช้มือทั้งสองสาวเถาวัลย์ ฟับ ฟับ ฟับ ยานก็ลอยขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ถึงจุดจอด ซึ่งก็เป็นพื้นดินนั่นเอง (ไปไงมาไงก็ไม่เข้าใจ) มันเป็นเหมือนเมืองอีกเมืองนึง ที่อยู่บนยอดเขาสูงมาก ๆ สูงจริง ๆ

    ผู้คนที่นี่ หน้าตา ไม่เห็นมีใครสวยสดงดงามเลยสักคน ดูธรรมดา ๆ มาก ๆ รูปร่างหรือหุ่น ค่อนข้างกลมยังกะลำไผ่ (ไม่ได้อ้วนครับ) แต่ที่ประหลาดมากสำหรับผมก็คือลิ้นของพวกเขาครับ ทุกคนมีลิ้นยาว ใหญ่ แลบลิ้นออกมาให้ดู ยาวประมาณเป็นฟุตเลย ตรงปลายลิ้นที่แลบออกมา โค้งกระดกขึ้นข้างบนวกเข้าหาปาก ตรงปลายลิ้นจึงมีลักษณะเป็นเมือนภาชนะใส่น้ำได้ (จินตนาการเอานะครับ --หรือลองหงายมือขึ้น แบมือ แล้วงอนิ้วทั้งสี่เข้ามา--จะคล้าย ๆ ครับ เพียงแต่ด้านข้าง ๆ ต้องมีแนวกั้นไว้ด้วย--ไม่งั้นไหลออกด้านข้างหมดสิ) และลิ้นของพวกเขา ก็ไม่เป็นสีแดง ๆ เหมือนเรา ๆ ครับ เป็นสีออกดำ ๆ ลาย ๆ ดูแล้วเป็นตาขี้เดียด

    ดูอาหารสดของพวกเขา (เหมือนเป็นตลาดแลกเปลี่ยนข้างทาง) เห็นเป็นพืชทั้งหมด เห็นมีสีแดง ๆ เหมือนเนื้อบ้างเหมือนกัน แต่ความรู้สึกบอกว่าเป็นพืชชนิดหนึ่ง

    ที่นี่ เป็นแดนที่ไม่ต้องกลัว ไม่น่ากลัว (ถ้าไม่รังเกียจลิ้นพวกเขา) เพราะว่า ผู้คนจิตใจดี ไม่มีเบียดเบียนกัน นับถือพุทธศาสนา

    จากนั้น ผมมองขึ้นไปตรงสายน้ำตกที่ว่านั้น เห็นมีเพียงสองชั้น จึงเดินไต่ตามทางลาดขึ้นไป ตรงชั้นแรก ด้านหน้าอ่างน้ำ มีลานหินสำหรับ นั่งเล่น กินลม ชมวิว มีผู้คนนั่งเล่นพักผ่อนอยู่มากพอสมควร มองจากจุดนี้ไปทางที่น้ำตกไหลมา เห็นมีน้ำตกใหญ่สองชั้น ฟังคนพามาบอกว่า มองจากที่นี่ลงไปทางโน้น จะเห็นผาไกลลิบ เรียกว่าผาสบสวรรค์ เมื่อผมเห็นแล้วก็เข้าใจทันทีว่า ที่ที่คนเมืองล่าง มองจากผาสบสวรรค์แล้วเห็นสวรรค์นั้น ความจริงคือเห็นที่นี่ เห็นน้ำตกนี้นี่เอง มันสวยงามเปรียบดังสวรรค์ จึงบอกว่าเห็นสวรรค์

    จากนั้น ผมเห็นว่ายอดบนสุด ด้านหลังน้ำตก มีวัดอยู่ จึงเดินต่อขึ้นไปอีก ไปถึงแค่ครึ่งทาง ก็บังเอิญพบคนผู้หนึ่ง คนที่ผมรู้จัก กำลังเดินสวนทางลงมา คนผู้นั้นบอกว่า มาอยู่ที่นี่นานแล้ว สบายดี คนผู้นั้น ไม่ใช่ใครอื่นไกล ก็คือ "พี่เทพ" ผมประหลาดใจไม่น้อย ที่พี่เทพมาอยู่ที่นี่ มีโอกาสอาศัยอยู่ในแดนอันสวยงาม แดนอันคนเมืองล่างบอกว่า สวรรค์

    บัดนั้น ผมพลันรู้ว่า ขณะนี้ เรากำลังฝันอยู่ เราไม่ได้มาจริง ๆ จึงบอกพี่เทปว่า ตอนนี้ผมฝันอยู่ พี่เทปก็ฝันอยู่ พวกเราต่างคนต่างฝันมาเจอกัน

    ณ ตอนนั้น แม้ผมรู้ว่าตัวเองฝัน แต่ก็ยังไม่อยากหลุดออกจากความฝัน เพราะกำลังสนุก ที่นี่ก็สวยงาม ยังอยากดูต่อไปว่ามีอันใดพิเศษ มีอันใดประหลาดอีกบ้าง......จากนั้น ไม่นาน ผมก็ตื่น...ตื่นตอนตีห้า สี่สิบ ลูก ก็ตื่น หิวนม (ได้ยินเสียงดิ้น) ใช้เวลาหลับตาเรียบเรียงทบทวนความฝันประมาณ 10 นาที จึงลุกมาป้อนนมลูก

    </TD></TR><TR align=right><TD>
    จากคุณ นิมิต เมื่อวันที่ 15/6/2547 13:02:20
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>
    ข้อความที่ 1​



    ผมก็เห็นคล้ายอย่างนี้ แต่ไม่ละเอียดเท่านี้ เห็นตอนนั่งสมาธิ อยู่บ่อย ๆ ยังไม่แน่ใจเลยว่าเป็นดินแดนใหม่ หรือเป็นดินแดนในอดีต มีลักษณ เป็นภูเขาสูงเหมือนกัน มีลักษณะเหมือนกับว่ามีความชื้นของอากศอยู่สูงมาก วิวสวยจัง แต่ไม่เห็นคนนะครับ...ผมเข้าใจไปก่อนว่า เป็นอุปทาน อาจจะเกิดจากความเบื่อหน่าย สังคมยุคปัจจุบันก็ได้ครับ
    อนุโมทนาและขอให้เจริญในธรรมยิ่งขึ้นไปครับ
    </TD></TR><TR align=right><TD>
    จากคุณ นพดล เมื่อวันที่ 15/6/2547 14:35:49
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54><TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD>

    ข้อความที่ 2​


    คืนวันที่ 8 (หรือเช้าวันที่ 9 ) ต.ค.2546 เวลาประมาณตีสี่ถึงตีห้า ฝันประหลาด
    ผมฝันเห็นสะพานประหลาดสำหรับข้ามลำห้วยหรือคลอง (ประมาณนี้แหละ) เป็นคลองที่อยู่ด้านหน้าหมู่บ้าน คือจะเข้าหมู่บ้านนั้น ต้องข้ามสะพานไม้นี้ จะออกจากหมู่บ้านนั้น ก็ต้องข้ามสะพานไม้นี้ (หากมาทางนี้มั้ง)
    สะพานนี้ จริง ๆ แล้วมันก็ไม่เชิงว่าเป็นสะพานหรอกครับ เพราะมันเป็นขอนไม้เท่านั้น (คล้าย ๆ ขัวข้ามห้วย ผมเปลี่ยนเป็นเรียกมันว่าขัวก็แล้วกันนะครับ) หนึ่งขัว มีขอนไม้ยาว ๆ สองท่อน ท่อนหนึ่งหัวโต ๆ บานออกเอาไว้ทรงน้ำหนักคน (มั้ง) พอมีคนเดินขึ้นไป มันก็จะค่อย ๆ เอียงลงตามน้ำหนักของคนข้าม พอเดินถึงตรงปลายขอนซึ่งสุดอยู่ประมาณกลางคลอง ก็จะมีอีกขอนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ต่อเชื่อมกันเลย แยกกันโดยเด็ดขาด การจะเดินจากปลายขอนแรกไปสู่ปลายขอนที่สองนี่แหละครับ เป็นเรื่องยากมาก (สำหรับผมในฝัน) เพราะระดับมันต่างกัน ปลายขอนท่อนที่สองนี้ มีระดับที่ต่ำกว่าปลายท่อนแรกประมาณหนึ่งก้าว หรือประมาณครึ่งเมตร การก้าวลงเหยียบ ไม่ใช่เรื่องลำบากนักกับระยะห่างแค่นี้ ที่น่ากลัวคือ...
    ตอนนั้นผมเห็นแล้วยืนลังเลในวิธีการข้ามอยู่ หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง (สงสารผมมั้ง) เลยมาสาธิตให้ดูว่าเหยียบข้ามแบบนี้ ... หญิงคนนั้นเหยียบเท้าแรกลงไปและตามด้วยเท้าอีกข้างโดยเร็ว (คล้ายกระโดด แต่ก็ไม่เชิง) และแล้วปลายไม้ท่อนที่สองนี้ ก็ลดระดับต่ำลงไปอีก ตามน้ำหนักคนข้าม ลดระดับลงไปอย่างเดียวยังไม่พอ ไม้ท่อนนี้ยังมีการส่ายไปมาซ้าย-ขวา อีกต่างหาก แต่หญิงคนนั้นยังทรงตัวอยู่ได้ ไม่ตก เมื่อท่อนไม้ทรงตัวนิ่ง ก็เดินต่อไปขึ้นฝั่ง แล้วก็ร้องบอกให้ผมข้ามตามไป
    ตรงนี้แหละครับที่ผม ไม่กล้าเหยียบข้าม เพราะกลัวว่า ตกแน่ ๆ
    จากนั้นผมเลยขอร้องให้หญิงคนนั้นช่วยหาไม้มาต่อ ขณะยืนรออยู่บนปลายขอนไม้นั้น ผมก็พยายามมองดูสังเกตขัวนี้ ก็พบว่าแม้จะมีสองขัวใกล้ๆ กัน แต่เป็นแบบ one way คือสำหรับข้ามเข้าอย่างเดียว และข้ามออกอย่างเดียว (เพราะความสูงต่ำที่ต่างระดับกันตรงปลายนั่นแหละทำให้ไปไม่ได้) นอกจากนั้นยังข้ามได้ทีละคนอีกด้วย คือตรงขอนท่อนแรกอาจจะมารออยู่ได้หลายคน แต่การเหยียบข้ามไปยังขอนท่อนที่สอง ต้องทำทีละคนเท่านั้น... เมื่อหญิงคนนั้นนำไม้มาต่อให้แล้ว ผมก็ไต่ไปจนถึงฝั่ง และหันมองกลับมายังสะพานนั้น พลางคิดว่า คนโบราณคิดได้ยังเนี่ยเทคนิคแบบนี้ สะพานแบบนี้ น่าอัศจารย์จริง ผมพยายามจำรายละเอียดต่าง ๆ ไว้ กะว่า ตื่นขึ้นมาจะไปเล่าให้พี่เทพฟัง ถามพี่เทพว่าลักษณะกลไกแบบนี้ มันทำงานยังไง (ฝันอยู่และรู้ว่าตัวเองฝัน) ในความฝันนั้น รู้สึกว่าสัญญามันใสชัดมาก จำได้ทุกอย่างชัดเจนเลย ขณะผมกำลังเรียบเรียงสัญญาในฝันอยู่นั้น ผมก็ตื่น (สงสัยเป็นเพราะจิตเคลื่อนจากฐานเดิม เลยตื่น) พอตื่นขึ้นมาจริง ๆ สัญญาแสดงตัวอนิจจังทันทีเลย ความใสชัดกลายเป็นขุ่นมัว จำภาพสะพาน รวมถึงกลไกต่าง ๆ ได้เพียงลาง ๆ เท่านั้นครับ

    ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ขัวข้ามน้ำแบบนี้ มีข้อดียังไง ทำไมไม่ทำให้มันเป็นท่อนเดียวกันตลอด หรือเป็นการป้องกันผู้ร้าย ป้องกันข้าศึก ไม่ให้ข้ามได้ง่าย ๆ ????
    ไม่ใช่คนโบราณ ก็เลยไม่เข้าใจคนโบราณ...

    การประกอบติดตั้ง ผมไม่ได้เข้าไปดูใกล้ ๆ เลยไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้เลยครับ ไม่ทราบว่ามีเสาค้ำกี่ต้น หรือเป็นเสาแบบไหน ประกอบรองรับขอนไม้แบบไหน ไม่ทราบครับ เห็นและจำได้เพียงลักษณะขอนไม้และการทำงานเท่านั้นครับ


    [​IMG]


    </TD></TR><TR align=right><TD>
    จากคุณ นิมิต เมื่อวันที่ 15/6/2547 15:49:40
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54>
    <TABLE width=550 align=left border=0><TBODY><TR><TD>
    ข้อความที่ 3​


    ผมไม่ฝันครับแต่ผมเห็นตามที่คุณบรรยาย
    </TD></TR><TR align=right><TD>
    จากคุณ <<<XXX>>> เมื่อวันที่ 15/6/2547 17:37:11
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR bgColor=#000000><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=600 border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#b2e57f><TD class=row1 bgColor=#ffffff height=54>
    <TABLE width=550 align=left border=0><TBODY><TR><TD>

    ข้อความที่ 4​


    ทั้งที่เป็นสุบินนิมิต และเป็นสมาธินิมิต ทำนองว่า เกิดภัยพิบัติใหญ่ แดนหลบภัยชั่วคราว โลกใหม่เมืองใหม่หลังภัยพิบัติ....

    .../..ขอโมทนาที่เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าของโลกในภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดจากความมีราคะโทสะโมหะของคนนักปกครอง ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม ดังนั้นคนดีจึงอยู่ได้ คนร้ายถึงจัดการด้วยกฏแห่งความเป็นธรรมดาของโลกนั่นเอง


    </TD></TR><TR align=right><TD>
    จากคุณ คนเมืองบัว เมื่อวันที่ 13/8/2547 16:09:21
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>









    ที่มา http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=1412

    หมายเหตุ

    เรื่องแดนเร้นภัยแบบนี้ ผมมักได้ยินมาจากนักปฎิบัติ ธรรมหลายๆ ท่าน หากคุณคนานันท์ หรือผู้ปฎิบัติธรรมท่านใดรู้เรื่องเหล่านี้ ช่วยกรุณาให้รายละเอียดเพิ่มเติมด้วยครับ ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากที่จะช่วยเหลือผู้คนให้รอดชีวิตจากภัยพิบัติใหญ่ ที่อาจจะเกิดในไม่ช้านี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2006
  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ถ้าตามความรู้ที่ผมพอทราบอยู่บ้าง สถานที่หลบภัยพิบัตินอกเหนือจากเขต พุทธคุณแล้ว ก็มีเขตที่ผู้คนใช้ความสามัคคีบ้าง สติปัญญาและความรู้ทางวิทยาศาสตร์บ้าง มาช่วยกันทำขึ้น

    ส่วนอีกสองสามกลุ่มก็ได้แก่ ประตูมิติแห่งเมืองลับแลที่จะเปิดออกรับกัลยาณชนคนดีให้อยู่รอดเพื่อรักษาพระศาสนา ผู้ที่จะได้เข้าไปอยู่ที่นั้นต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจที่ดีงาม มีศีลห้าเป็นปรกติ มีคุณธรรมประจำใจ

    เมืองพญานาคที่รับลูกหลานเก่าไว้พึ่งพิงชั่วคราว

    ยานแม่ของชาวดาวดวงอื่นที่จะมารับบุคคลที่ถูกคัดเลือกไว้

    ทั้งสามประเภทนี้ ผมยังไม่อยากให้หวังกัน ขอให้สู้ด้วยกำลังตนจนสุดกำลังกันก่อนครับ เพราะผมไม่อาจรับรองได้ว่าท่นจะได้ถูกรับเลือกหรือไม่

    แต่อันที่จริงโดยส่วนตัวผมและเพื่อนอีกสามคน เคยได้เห็นยานแม่ขนาดเท่าภูเขากับตาตัวเองจริงๆ มาแล้วที่เขตรอยต่อจ.ลพบุรีไปนครสวรรค์ครับ แล้วจะค่อยๆเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปครับ

    ส่วนเมืองลับแล กับ เมืองพญานาค ไปดูด้วยกำลังของมโนมยิทธิครับ แต่มีผู้ที่ท่านสามารถพาลูกศิษย์ท่านเข้าไปในเมืองลับแลได้จริงๆด้วยกายเนื้อจริงๆได้ครับ เสียดายที่ตอนนี้ท่านสิ้นเสียแล้ว เป็นศิษย์ในดงของหลวงปู่เทพโลกอุดรครับ ดังนั้นผมจึงคาดว่าน่าที่จะมีท่านอื่นๆที่ทำได้แต่ยังไม่เปิดเผยตัวครับ
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    http://www.selfprotectiontips.com/

    เวปน่าสนใจ ป้องกันตัวจากภัยต่างๆ
     
  7. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    อีกหนึ่งประการ ขออย่าได้ละเลยความเป็นผู้อยู่ในศีลในธรรมอันดี หนึ่งศีลไม่ยากเย็น ควรมีไว้ดั่งอาภรณ์คือ ศีลห้า ถือให้มั่นเคร่งครัดอย่าละวาง แม้นอยู่ถิ่นฐานใดก็จักปลอดภัย
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิธีการใช้เข็มทิศ
    [​IMG]

    เข็มทิศ ใช้คู่กับแผนที่ครับ ในแผนที่จะบอกทิศว่าทิศเหนืออยู่ทางใหน ขณะนี้เราอยู่ตรงใหนในแผนที่ แล้วทางหรือจังหวัดที่เราจะไปนั้น อยู่ทิศไหนของเรา เดินไปตามทิศนั้น คุณจะไม่หลงทาง แผนที่ดีๆ ละเอียดๆ จะบอกแม่น้ำ ถนน ภูเขา ทุ่งโล่ง อย่างละเอียด สรุปนะครับ เข็มทิศ ใช้คู่กับแผนที่ สำหรับนักเดินทางธรรมดาครับ ​
    [​IMG] สิ่งแรกที่คุณต้องเรียนรู้ให้ชัวร์ ๆ ก่อนคือทิศทาง อย่าพึ่งบอกว่าเกิดมาฉันก็รู้ทิศเหนือใต้แล้วนายโอบีวัน แต่ต้องรู้ให้จริง ๆ เหนือ ใต้, ตะวันออกและก็ ตะวันตก ลองดูที่รูป ทิศเหนือเป็นทิศที่สำคัญ และมักใช้เป็นหลักในการหาทุกสิ่งต่อ ๆ ไปโดย เข็มทิศ มี เข็มทิศ อยู่หลายแบบ บางแบบใช้ทาบกับแผนที่ บางแบบก็วางบนฝ่ามือ ไม่ก็ติดที่หัวแม่โป้ง เข็มทิศ แบบติดกับนิ้วมักใช้กับคนที่เดินเร็ว แต่ว่าในตอนนี้จะเป็นชนิดมาตรฐานแบบง่าย ๆ ลองดูที่รูปนะครับ
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    มองเห็นลูกศรแดงกับดำไหมครับ เราเรียกมันว่าเข็มบอกทิศ ในบางแบบของ เข็มทิศ จะเป็นสีแดงกับสีขาว แต่จุดสำคัญอยู่ที่ว่าลูกศรแดงนั้นจะชี้ไปที่ขั้วแม่เหล็กโลกทางเหนือ นี่คือพื้นฐานอย่างแรกที่คุณต้องรู้ ถ้าคุณไม่ต้องการที่จะเดินไปทางเหนือ แต่อยากจะไปทิศอื่น ก็ให้วางเฮ้าซิ่งของ เข็มทิศ บน เข็มทิศ ซึ่งจะมีสเกลอยู่ อาจจะเป็น 0 ถึง 360 หรือ 0 ถึง 400 เป็นหน่วยองศาอซิมุส (azimuth) หรือบางที่ก็เรียกว่าแบริ่ง (bearing) จะเห็นตัวอักษรแยกทิศ N,S,W,E แทนทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก ตามลำดับ ถ้าคุณต้องการที่จะไปทางทิศเหนือ อยากไปในทิศระหว่างสองทิศใด ๆ เราก็เรียกรวมกัน เช่น ตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นต้น ดูในภาพ ที่จะไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อเจอแล้วก็ให้หมุนจนทิศนั้นตรงกับลูกศรใหญ่ชี้ทางเดิน เสร็จแล้วก็วางบนมือ หมุนไปมาจนเข็มสีแดงชี้ตรงทิศเหนือ
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER> </CENTER>
    การกำหนดตำแหน่งในแผนที่ เมื่อใช้แผนที่ในภูมิประเทศ
    เมื่อนำแผนที่ไปใช้ในภูมิประเทศ สิ่งที่ผู้ใช้แผนที่ควรจะต้องทราบและสามารถปฎิบัติได้ซึ่งถือเป็นความรู้พื้นฐานสำหรับผู้ใช้แผนที่ มีอยู่ 3 เรื่อง ดังนี้

    1) การวางแผนที่ให้ถูกทิศทาง การวางแผนที่ให้ถูกทิศทางเป็นการปฎิบัติขั้นแรกของการใช้แผนที่ในภูมิประเทศเมื่อแผนที่ถูกวางให้ถูกทิศทางแล้ว ทิศเหนือในแผนที่จะชี้ไปทางทิศเหนือในภูมิประเทศ ทิศทางของรายละเอียดใดๆ ที่มีแสดงไว้ในแผนที่ก็จะอยู่ในทิศทางที่สมจริงกับรายละเอียดที่ตรงกันซึ่งปรากฏอยู่ในภูมิประเทศ
    ก) วิธีวางแผนที่ให้ถูกทิศทางที่สามารถกระทำได้เร็วที่สุด คือ วิธีการใช้เข็มทิศ โดยวางเข็มทิศให้ขอบตลับเข็มทิศทาบขนานไปตามแนวทิศเหนือในแผนที่ หมุนแผนที่ซึ่งมีตลับเข็มทิศวางทาบทับอยู่นั้นไปจนกว่าปลายเข็มทิศแม่เหล็กจะชี้ตรงเครื่องหมายแสดงทิศเหนือในตลับเข็มทิศ ขณะหมุนแผนที่จะต้องคอยระวังอย่าให้ขอบตลับเข็มทิศเคลื่อนจากแนวทิศเหนือของแผนที่

    ข) ในกรณีที่ไม่มีเข็มทิศใช้ก็สามารถวางแผนที่ให้ถูกทิศได้ โดยอาศัยการวางแผนที่ให้รายละเอียดที่มีอยู่ในแผนที่ ชี้ไปในทิศทางเดียวกันกับรายละเอียดที่ตรงกัน ซึ่งปรากฏอยู่ในภูมิประเทศ เพื่อความมั่นใจในการจัดวางโดยวิธีนี้ควรจะใช้รายละเอียดที่เห็นเด่นชัดอย่างน้อย 2 ที่หมาย
    1. ค)ในกรณีที่ไม่มีรายละเอียดในภูมิประเทศเพียงพอหรือมีแต่ไม่สามารถใช้เป็นที่หมายในการจัดวางแผนที่ให้ถูกทิศทางได้ก็จำเป็นต้องใช้วิธีหาแนวทิศเหนือในภูมิประเทศ ซึ่งจะได้อธิบายไว้ในเรื่องการหาทิศทางโดยอาศัยธรรมชาติช่วยในตอนต่อไป เมื่อกำหนดแนวทิศเหนือในภูมิประเทศได้แล้วก็สามารถวางแผนที่ให้ทิศเหนือในแผนที่ชี้ไปทางทิศเหนือในภูมิประเทศได้
    2) การหมายจุดที่อยู่ของตัวผู้ใช้ลงในแผนที่ ผู้ใช้แผนที่ในภูมิประเทศจะต้องทราบอยู่ตลอดเวลาว่าขณะที่ตนอยู่ในภูมิประเทศนั้นอยู่ตรงจุดใดในแผนที่ วิธีหมายจุดที่อยู่ของตัวผู้ใช้ลงในแผนที่มีวิธีปฏิบัติได้หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของผู้ใช้ เครื่องมือและอุปกรณ์ ย่านเวลาและสิ่งแวดล้อมฯ ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นวิธีการง่ายๆ ซึ่งผู้ใช้แผนที่โดยทั่วไปสามารถปฏิบัติได้
    1. ก) วิธีหมายจุดที่อยู่ของตัวผู้ใช้ลงในแผนที่อย่างง่ายที่สุด คือ การตรวจสอบดูว่าใน ภูมิประเทศบริเวณใกล้เคียงที่ตนอยู่นั้นมีอะไรเป็นที่สังเกตได้บ้าง เช่น ทางร่วม ทางแยก ลูกเนิน หนอง คลอง บึง ชายป่า อาคาร ฯลฯ แล้วตรวจดูรายละเอียดที่ตรงกันในแผนที่ประมาณตำแหน่งลงไปให้ใกล้เคียงที่สุด
      ข) วิธีเล็งสกัดกลับ (Resection) เป็นวิธีหมายจุดที่อยู่ของตัวผู้ใช้ลงในแผนที่วิธีหนึ่งซึ่งอาศัยแนวเล็งผ่านจุดที่กำหนดได้แน่นอน ซึ่งมีอยู่ตรงกันทั้งในแผนที่และใน ภูมิประเทศ 2 ทิศทาง ขีดแนวเล็งทั้งสองนั้นกลับมาตัดกัน จุดตัดกัน ของแนวเล็ง ดังกล่าวคือตำแหน่งของผู้ใช้แผนที่
    3) การกำหนดตำแหน่งของที่หมายในภูมิประเทศลงในแผนที่ วิธีที่จะกำหนดตำแหน่งของที่หมายใดๆ ในภูมิประเทศลงไปในแผนที่ กระทำได้หลายวิธี ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะวิธีการง่ายๆ ซึ่งผู้ใช้แผนที่ทั่วไปสามารถปฏิบัติได้ ดังนี้ ​
    1. ก) วิธีที่ง่ายที่สุด คืออาศัยพิจารณารายละเอียดที่ปรากฏอยู่ใกล้ๆ โดยรอบที่หมายนั้นในภูมิประเทศ และรายละเอียดดังกล่าวมีแสดงไว้แล้วในแผนที่เป็นหลักประมาณระยะห่างและทิศทางเทียบเคียงแล้วก็กำหนดตำแหน่งของที่หมายลงไปในแผนที่ได้ทันที
      ข) วิธีเล็งสกัดตรง( Intersection ) เป็นวิธีการกำหนดตำแหน่งของที่หมายใดๆ ในภูมิประเทศ ที่ไม่มีปรากฏอยู่ก่อนในแผนที่เพิ่มเติมลงในแผนที่ โดยอาศัยการเล็งแนวจากจุดที่กำหนดได้แน่นอนในแผนที่อย่างน้อย 2 จุด ไปยังที่หมายนั้น

      ที่มา http://203.155.220.230/gis_online/gis/map/readmap_n.html

      http://www.trekkingthai.com/gear/G011/G011.htm
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิธีดูดาวเหนือ

    [​IMG]

    (ภาพจาก http://www.bloggang.com)
    [​IMG]
    [FONT=AngsanaUPC, BrowalliaUPC, CordiaUPC, DilleniaUPC, DSU_AdiRek] [/FONT][FONT=AngsanaUPC, BrowalliaUPC, CordiaUPC, DilleniaUPC, DSU_AdiRek] ดาวเหนือ North Star เป็นดาวที่มีความสำคัญกับเรามาก สามารถใช้เป็นตำแหน่งบอกทิศเหนือสำหรับ คนเดินทางในยามค่ำคืน ได้ หากไม่มีอุปกรณ์นำทางอย่างเข็มทิศ เราจึงควรมารู้จักและหาตำแหน่งดาวเหนือกันก่อน

    [​IMG] เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า โลกมีแกนเอียงทำมุม 23 1/2 องศา กับระนาบ ตั้งฉากกับเส้น Ecliptic ด้วยอธิพลจากแรงดึงดูด ของดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ แต่แกนโลกนี้ไม่ได้นิ่งอยู่กับที่ แต่ส่าย เป็นวงเหมือนลูกข่าง ที่เราเรียกว่า
    [/FONT] การส่ายของแกนโลก Cone of Precession โดยมีคาบอยู่ที่ 25,800 ปี

    ในปัจจุบันขั้วเหนือของแกนโลกชี้อยู่ที่ดาวโพลารีส (Polaris) ในกลุ่มดาวหมีเล็ก Ursa Minor ที่เราเรียกกันว่าดาวเหนือ แต่เมื่อ 5,000 ปีก่อน ยุดของชาวอียิปต์โบราณแกนโลกชี้อยู่ที่ ดาวทูบาน Thuban ในกลุ่มดาวมังกร Dracoซึ่งชาวอียิปต์ใช้ดาวนี้เป็นดาวเหนือในการสร้างปิรามิด และในอีก 13,000 ปีข้างหน้า แกนโลกจะชี้ไปที่ดาวเวก้า Vega ในกลุ่มดาวพิณ Lyra และนับจาก ปัจจุบันไปอีก 25,800 ปี แกนโลกก็จะกลับมาชี้ที่ดาวโพลาลิส อีกครั้งแผนที่ดาวในระบบศูนย์สูตร ค่า R.A กับ Dec จะเปลื่ยนแปลงไปตามตำแหน่งดาวเหนือ ดังนั้นเราจึงต้อง มีการระบุด้วยว่าเป็นแผนที่นั้น ใช้ระหว่างปีใด

    [​IMG]

    การหาตำแหน่งดาวเหนือ


    ผู้สังเกตุที่อยู่บนเส้นศูนย์สูตร จะเห็นดาวเหนือ อยู่บนข้ามฟ้าด้านทิศเหนือพอดี ส่วนผู้สังเกตุที่อยู่ต่ำกว่าเส้นศูนย์สูตร หรือซีกโลกใต้ ดาวเหนือจะหายลับจากขอบฟ้าด้านทิศเหนือไป


    แต่ผู้สังเกตุที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร หรือซีกโลกเหนือ จะเห็นดาวเหนืออยู่สูงจากข้ามฟ้าด้านทิศเหนือ มีค่ามุมเดียวกับ ค่าละติจูดของ ผู้สังเกตุ เช่น ผู้สังเกตอยู่ในประเทศไทยที่ละติจูด 15 องศาเหนือ(โดยเฉลี่ย) ดาวเหนือจะอยู่สูงจากขอบฟ้าด้านทิศ เหนือ 15 องศาเช่นกัน

    แต่ดาวโพลาลิส มีความสว่างน้อยมาก (mag 1.80) และอยู่สูงจากขอบฟ้าน้อย การสังเกตดาวเหนือจึงทำได้ยาก แต่เราสามารถใช้กลุ่มดาวบริเวณ ขั้วฟ้าเหนือช่วยหาได้ ซึ่งมีสองกลุ่มคือ

    1.ดาวหมีใหญ่ หรือ URSA MAJOR ใช้เป็นดาวนำทางได้ เพราะกลุ่มดาวหมีใหญ่ อยู่สูงจากขอบฟ้ามากกว่า และสังเกตง่ายกว่า โดยที่แนวของดาวสองดวงแรก จะชี้ไปที่ดาวโพลาลิสพอดี โดยห่างไปอีก 5 เท่าตัวของระยะห่างระหว่างดาว สองดวงที่ชี้ หรือ 25 องศาพอดี

    [​IMG]

    2. กลุ่มดาวคาสซิโอเปีย Cassiopia คืนใดที่ไม่มีกลุ่มดาวหมีใหญ่ให้สังเกตุ คืนนั้นจะมีมีกลุ่มดาวคาสซิโอเปีย ช่วยบอกตำแหน่งดาวเหนือแทนได้ เพราะ ursa major กับ cassiopia จะอยู่คนละฝากกับดาวโพลาลิส โดยจุดกลางจะชี้ไป ที่ดาวเหนือ ห่างประมาณ 25 องศาเช่นกัน


    [​IMG]

    ที่มา http://www2.se-ed.net/tippawan26/
     
  10. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    โปรแกรมดูดาวครับ เอาไปหัดดูกันเลย อย่างน้อยก็ใช้บอกทิศบอกเวลาได้

    CybetSky
    Planetarium

    stellarium

    สองอันแรกไม่เคยใช้ เคยใช้แต่ stellarium โปรแกรมนี้จะแสดงตำแหน่งของดวงดาวบนท้องฟ้าตามเวลาจริง แต่ตอนแรกเราต้องระบุตำแหน่งที่เราอยู่ก่อน เอาไว้หัดดูว่ากลุ่มดาว แต่ข้อมูลจะเป็นข้อมูลกลุ่มดาวของฝรั่งเค้า

    กลุ่มดาวเต่า, ที่มีดาวไถอยู่ข้างใน, ก็คือกลุ่มดาวนายพรานของฝรั่ง
    ดาวหมีใหญ่(URSA MAJOR) ถ้าจำไม่ผิด ก็คือกลุ่มจรเข้ของเรา และถ้าจำไม่ผิด สมัยก่อนเค้าดูเวลาจากดาวจรเข้ได้ (ดาวไถก็ใช้บอกเวลาได้เช่นกัน)
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เวปต่างประเทศที่เกี่ยวกับภัยพิบัติ จากคุณ Zipper
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->สวัสดีครับ วันนี้อ่านกระทู้เกี่ยวกับภัยพิบัติ ก็เลยนึกถึงเรื่องที่มีคนต่างประเทศพูดถึงแผนที่โลกในอนาคต ก็เลยลอง search หาคำว่า "earth change" จากกูเกิลดู ก็ปรากฏว่าเจอเยอะเหมือนกัน ก็เลยลองเอาบางลิงค์มาแนะนำ คุณเกษมลองใช้กูเกิลหาคำว่า "earth change" แล้วลองดูข้อมูลจากเวปต่างประเทศดูก็ได้ เพราะผมก็ดูไม่กี่อันเอง

    http://www.earthchangestv.com/
    อันนี้เป็นเวปรายงานพวกภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก

    http://www.bright.net/~gshaffer/earthchange.htm#5-1-96 ส่วนอันนี้ก็มีพูดถึงแผนที่โลกที่เปลียนไป โดยเค้าเห็นจากสมาธิ

    http://www.georgedreams.com/NewMaterial.html
    อันนี้ก็เป็นอันเดียวกัน แต่ข้อมูลจะใหม่กว่า

    http://www.greatdreams.com/maps.htm
    ส่วนอันนี้ก็เป็นเวปที่มีรวมลิงค์พวกเวปที่พูดถึงแผนที่โลกในอนาคต และข้างล่างเวปก็จะเป็นลิงค์เกี่ยวกับหน่วยงานต่างๆ ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจสอบสภาพสิ่งแวดล้อมโลก เช่น บรรยากาศ, กระแสน้ำในมหาสมุทร ฯลฯ ข้อมูลเยอะมากดูแค่ผ่านๆ เอง

    ที่ผมแนะนำมาก็ส่วนนึงจากทั้งหมดที่หามาได้จากกูเกิ้ล คุณเกษมจะลองหาดูเวปอื่นๆ ก็ได้ เผื่อเจอข้อมูลที่น่าสนใจ

    ขอบคุณ คุณ Zipper มากครับผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับส่วนรวมมากกว่า ก็ขออนุญาตนำมาลงไว้ในกระทู้นี้ด้วยนะครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  12. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอขอบคุณพี่เกษม และคุณ Zipper อย่างสูงครับ เพราะเมื่อวันอาทิตย์ก็พึ่งบ่นกันว่ายังใช้เข็มทิศไม่เป็นกันเลย รู้แต่ว่ามันจะชี้ไปทางทิศเหนือเสมอเท่านั้น

    คราวนี้จะได้ลองหัดใช้กันดูครับ อาจจัดเป็นWorkshop ในการฝึกพื้นฐานการดำรงชีพ ในการนัดพบปะครั้งต่อๆไปครับ
     
  13. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ผมว่าเรามาเปิด กระทู้ใหม่รวม Link ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องภัยพิบัติต่างๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศกันดีไม๊ครับ เพื่อเป็นฐานข้อมูล และการรับรู้ข่าวสารของทางต่างประเทศครับ

    ใครเจอเวบอะไรที่มีความเกี่ยวข้องและน่าสนใจ ก็ช่วยกันมาลงไว้ครับ

    มีบางเวบสอนวิธีสร้างหลุมหลบภัยด้วย

    ส่วนท่านที่เก่งด้านภาษา ก็รบกวนช่วยแปลช่วยถอดความหมายมาเล่าให้เพื่อนๆท่านอื่นได้ทราบเป็นภาษาไทยด้วยครับ
     
  14. chakrit

    chakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +966
    เห็นด้วยครับ
    ยินดีช่วยเหลือครับ สิรภัทร 086-7860931(f) :cool:
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "รัศมีสีม่วง" รัศมีแห่งพุทธคุณ

    [​IMG]
    วันที่ 30 มกราคม เวลาเช้า 9.00 น. อันเป็นเวลาฝึกสมาธิ ดรุณีน้อยเอี้ยนอี๋ (เทียนไฉ) ก็ได้ถอดจิตติดตามพระอาจารย์จี้กง ไปดูสถานที่เกิดเหตุมหันตภัยต่อไปดังนี้:-<O:p</O:p
    </O:p
    ขณะนั้น ลมมหาประลัย โหมมาทั้งสี่ทิศพร้อมกันตึกใหญ่ ๆ ที่ยังมิได้พังทลายทั้งหมด ท่ามกลางแรงระเบิดและแสงไฟโชติช่วงได้พังคลืนลงมาทั้งหมด เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แม้แต่ต้นไม้ขนาดสิบคนโอบรอบ ก็ถอนรากถอนโคน ล้มระเนระนาด ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในสายตาล้วนเป็นสภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก แล้วเธอก็ได้เห็นหมู่บ้านใหม่แห่งหนึ่ง

    ตรงกลางเป็นพุทธสถาน บ้านเรือนที่อยู่ในรัศมีโดยรอบหลายร้อยเมตร ถูกห่อหุ้มด้วย "แสงสีม่วงเรืองรอง" ผู้คนที่อยู่ในพุทธสถานและภายใต้การห่อหุ้มของแสงสีม่วงพ้นภัยโดยทั่วกัน ส่วนที่อยู่ห่างไกลออกไปแต่เป็นคนที่มีจิตใจดี ดูเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะดลใจให้เขาวิ่งเข้ามาหลบภัยในพุทธสถานด้วย

    โลกภายนอกมืดมิดไปทั่ว ไม่มีแสงสว่างจากไฟฟ้าหรือดวงไฟจากสิ่งใดเลย สายฟ้าแลบพร้อมกับฟ้าคะนอง หยดน้ำสีแดง ๆ เหมือนสายฝน แต่มิใช่ โกรกลงมาจากฟ้าแต่ละหยดมีน้ำหนักเหมือนเศษแก้ว กลิ่นเหม็นเอียนจัด เหมือนยาพิษร้ายแรง มันทะลุผ่านอิฐ หิน ปูน เหล็กกล้าและทุกอย่างแต่ที่น่าอัศจรรย์คือ เมื่อมันหยดลงมาบนรัศมีครอบที่เป็นสีม่วง มันจะสลายตัวหายไปจนหมดสิ้น ในตำหนักพระมีพระพุทธประทีป 3 ดวง บนแท่นบูชาสาดส่องประกายไฟอยู่สว่างไสว ไม่นานต่อมาเธอก็ได้เห็นพื้นดินแยกออกเป็นร่องลึกใหญ่ทั่วไป ผีนรกทั้งหลายกรูกันออกมาจากรอยแยกเหล่านั้น ทุกคนดูกระเหี้ยนกระหือรือ พอเห็นศัตรูคู่อาฆาตลูกหนี้ในชาติก่อนของเขาก็ฉุดกระชากตัวลงไป ในร่องลึกใต้ดินโดยทันทีโดยไม่มีการพูดจาต่อรองใด ๆ เป็นภาวะที่ผีคร่ำครวญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ร่ำร้องโดยแท้สยองขวัญยิ่งนัก พระอาจารย์จี้กงบอกหนูเอี้ยนอี่ว่า นั่นคือการหักล้างบัญชีครั้งใหญ่ ในรอบหกหมื่นปีที่ผ่านมา

    (แหล่งที่มา หนังสือพระศรีอาริย์เจ้าโลก รวบรวมโดย รหัสยญาณ สำนักพิมพ์ ลานอโศก เพรส กรุ๊ป)

    วิเคราะห์ภาพเหตุการณ์เมื่อโลกถูกระเบิดนิวเคลียร์ทำลาย

    จากคำบอกเล่าของหนูน้อยเทียนไฉ ที่ได้บรรยายสภาพเหตุการณ์เมื่อโลกถูกระเบิดนิวเคลียร์และภัยธรรมชาติทำลายนั้น เราจะเห็นได้ว่าสถานที่จะเป็นแหล่งหลบภัยที่ดีที่สุดก็คือพุทธสถานนั่นเอง ดังนั้นหากเราจะมองหาที่หลบภัยควรจะคิดถึงพุทธสถานก่อนเป็นอันดับแรกสุด ก่อนที่จะไปหาที่หลบภัยจากแหล่งอื่นๆ เพราะไม่ต้องไปเตรียมหลุมหลบภัยที่ป้องกันอันตรายจากรังสีนิวเคลียร์อะไรเลย บารมีแห่งพุทธคุณเท่านั้นที่จะป้องกันอันตรายจากภัยพิบัติต่างๆ ได้อย่างแท้จริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2006
  16. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    คุณเกษม พระพุทธรูปนี้ใครคนสร้างครับ?

    พุทธลักษณะงดงามมากๆๆ ทั้งความอ่อนช้อยแสดงพระเมตตา
    โครงร่างที่ดูมั่นคง ดูแล้วมีสมาธิ ผ้าบางๆ และพระหัตถ์ที่จีบเบาๆ
    แสดงความมหากรุณาธิคุณได้เยี่ยมมากๆ ท่านทรงห่มเรียบง่าย
    ดูแล้วสงบนิ่งเย็นมั่นคงและเปี่ยมเมตตาสุดๆ ดวงพระเนตรเปี่ยม
    เมตตามากๆ พระพักต์อิ่มเอิบสมบูรณ์ พระโอษฐ์แย้มพองาม พระ
    โขนงปราศจากความกังวลใดๆ ทั้งปวง (อุเบกขา) พระกรรณสวย
    แบบไม่เคยเห็นมาก่อนเลยครับ


    อยากติดต่อกับช่างคนที่สร้างครับผม (เผื่อให้เขาช่วยสร้างอีกมากๆ)


    (ปล. นี่ครั้งแรกในชีวิตที่หาที่ตำหนิไม่ได้เลยสักนิดเดียว อิๆๆๆ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 ธันวาคม 2006
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เมื่อเกิดเหตุฟ้าผ่ารุนแรงมาก ๆ **** ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่เก็บไว้จะสูญเสียได้....ฟ้าจะผ่ารุนแรงมากยิ่งกว่าที่เราเคยเห็น โดยเฉพาะพื้นที่ๆ กำลังจะมีลาวา หินละลายระเบิดออกมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2006
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    ---ข้อมูลภัยพิบัติ---- *** ศึกษาภูมิประเทศภาคเหนือ...เพื่อรับสถานการณ์แม่โขงทะลักเข้าไทย **** เมื่อถึงวันนั้น...น้ำแข็งบนยอดเทือเขาหิมาลัย คงทะลายไหลลงสู่แม่น้ำโขงอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำจะมีพลังมหาศาลคณานับ พุ่งชน กระแทก กัดเซาะ ท่วมทะลักทั้งตามลำน้ำ และพื้นราบ....เมื่อมาถึง "เชียงแสน" คุ้งลำน้ำที่มีจุดอ่อนเป็นรูป ตัวยู กระแสน้ำจะไหลขึ้นเหนือไม่ทัน....ระดับน้ำจะทะลักเข้าแผ่นดิน แถบเชียงแสน เชียงของ...กระแสน้ำและคลื่นจะ กลืนบ้านกลืนเมือง ที่ขวางทาง...ทำลายภูเขาหลุดออกเป็นลูกๆ...เกิดน้ำวนขนาดใหญ่คลุมพื้นที่เกือบทั้งจังหวัด...ก้อนหินยักษ์จากภูเขา จะกลิ้งทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า...ป่าไม้จะกลายเป็นท่อนซุงยักษ์กวาดทุกอย่างไปตามกระแสน้ำ....น้ำมหาศาลที่อยู่บนจังหวัดทางเหนือพยายามหาทางออกไหลลงที่ต่ำกว่า คือ ภาคกลาง....กว่าก้อนหินใหญ่จะสิ้นแรงแถวตาก แถวกำแพงเพชร ก็กลายเป็นกรวดเป็นทรายจำนวนมาก....จะเกิดเนินเขาใหม่ๆ มากมาย จากการทับถมสิ่งต่างๆ ที่พัดมากองรวมกัน (ที่จังหวัดตาก มี แหล่งท่องเที่ยว ต้นไม้ใหญ่โบราณกลายเป็นหินขนาดใหญ่จำนวนมาก ในอดีตคงเกิดเหตุการณ์นี้มาแล้ว) บ้านเมืองต่างๆ จะถูกดินหินทรายทับจนหาไม่เห็นทรากสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ....แผ่นดินบางแห่งจะมีพื้นดินสูงกว่าเดิมมาก (ที่จังหวัดเชียงใหม่ มี เวียงกุมกาม ในอดีตก็คงเกิดเหตุการณ์นี้เช่นกัน แล้วยังมีตำนานอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับ เมืองที่เจริญรุ่งเรืองและจมหายไปทั้งในดิน และกลายเป็นทะเลสาป)....แล้วปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลจะไหลท่วมจนไปถึง เมืองหลวงกรุงเทพฯ...ส่วนภาคอีสานก็ท่วมเช่นกัน...อย่าเชื่อว่าฉันอยู่จังหวัดสองเชียง สองลำ แล้วจะปลอดภัยแน่นอน....เพราะทั้ง ๔ จังหวัดนี้ ล้วนมีเส้นทางที่น้ำจากแม่น้ำโขงไหลมาถึงอย่าแน่นอน....การท่วมครั้งนี้ ไม่เหมือนน้ำท่วมทุกครั้ง ที่ระดับน้ำค่อยๆเพิ่มทั้งจากฝนตก และน้ำในแม่น้ำ...แต่การท่วมครั้งนี้เสมือนยักษ์หิ้วถังน้ำใหญ่เท่าน้องๆ อ่าวไทยมาเทลงใส่ที่แม่น้ำโขง....หากเหตุการณ์นี้ มีสาเหตุจาก "การใช้ระเบิดนิวเคลียร์"....ก็ต้องมีผลต่อเนื่องทั้งเรื่องแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก พายุขนาดใหญ่ พายุหมุนโหมกระหน่ำซ้ำเติม...จะเกิดการระเบิดจากใต้ดิน...ลาวาจะทะลักออกมาลุกเป็นไฟสีเขียว....แม่น้ำเจ้าพระยาจะกลายเป็นลาวา แผ่นดินสองฝั่งเจ้าพระยาจะไหลลงแม่น้ำ...ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว....เกาะต่างๆ จะท่วมหายไป ประเทศที่ทำกรรมไว้มากหลายประเทศจะล่มจมหายไปในทะเล...เกิดคลื่นขนาดยักษ์ยิ่งกว่าในหนังภาพยนต์ทำลายกลืนกินเมืองต่างๆ ทั่วโลก....เปลือกโลกทั้งหมด จะขยับตัวครั้งยิ่งใหญ่ ประชาชนที่เหลือหลายแห่งจะไม่มีแผ่นดินอยู่....กลับไปเรื่องแม่น้ำโขงทะลักเข้าไทย...ก็ขอให้เริ่มศึกษาลักษณะภูมิประเทศ ศึกษาที่ต่ำ ที่สูงรีบค้นหาที่ปลอดภัย...เพราะเรื่องนี้ต้องเตรียมการนาน หาที่ปลอดภัยจริงๆ จึงจะรอด...ผู้ที่อ่านแล้วมองเห็นภาพ....ผู้นั้นอาจจะรอดตาย หากไม่ประมาท และรู้จักศึกษาเตรียมตัวให้พร้อม....โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต...น่าสงสารผู้ที่ยังลุ่มหลงวัตถุ ยังใช้ชีวิตอย่างประมาท ยังไม่รู้ "กรรมที่ยิ่งใหญ่" กำลังใกล้มาถึง....ขอให้ผู้ที่เชื่อใน "หลักสัจจะธรรม" ได้มีโอกาสอ่านข้อมูลนี้ ก่อนเกิดสถานการณ์จริง - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192

    ภาพพระพุทธรูปนี้ผมนำมาจากเว็บพุทธแท้ครับ จึงไม่ทราบว่าใครเป็นคนสร้าง ถ้าคุณ สัปเหร่อ สนใจลองไปสอบถามเว็บมาสเตอร์ ของเว็บพุทธแท้ดูเองนะครับ ลิ้งค์ของเว็บพุทธแท้ตรงนี้ครับ http://www.geocities.com/buddhatatum/index.htm
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิธีป้องกันตัวเองจากภัยมนุษย์
    การระวังไม่ให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย เป็นสิ่งแรกที่คุณต้องกระทำ เพราะมันเป็นการป้องกันตัวที่ดีที่สุด ซึ่งคุณสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ไม่พกสิ่งของมีค่าติดตัวโดยเปิดเผย แต่งตัวให้มิดชิด ไม่เดินในทางที่เปลี่ยวหรือมืด หรือแม้แต่การเดินทางโดยยานพาหนะ เช่นบนรถประจำทาง คุณควรเลือกนั่งข้างสตรีด้วยกัน หรือยืนในส่วนที่ทำให้คนอื่นเห็นคุณได้ชัดเจน ไม่ควรไปอยู่ทางด้านหลังสุดของรถ บนรถตู้ ไม่ควรเป็นผู้โดยสารคนเดียวบนรถ หรือ หากมีผู้โดยสารคนสุดท้ายลงก่อนคุณ คุณก็ควรจะลงไปพร้อมกันเลย บนรถแท็กซี่ คุณควรจดจำ เลขทะเบียน ชื่อคนขับ และระหว่างโดยสารคุณควรโทรศัพท์ ไปบอกพ่อแม่ หรือ เพื่อน ว่าคุณกำลังโดยสารรถอะไร จากที่ไหน และจะไปที่ไหน ด้วย

    หรือแม้กระทั่งบนสะพานลอยในยามค่ำคืน คุณควรระวังตัวให้ดี ถ้ารู้สึกว่าจะเกิดอันตราย คุณอาจจะใช้การข้ามถนนได้
    แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เมื่อคุณได้ระวังเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังมีเหตุร้ายเกิด วิธีป้องกันตัวที่ดี ไม่ใช้การประจันหน้า กับคนร้าย แต่เป็น...การวิ่งหนี และร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ควรศึกษาเส้นทางที่คุณต้องเดินทางก่อน จะช่วยคุณได้ในยามคับขัน

    จุดอ่อนในร่างกายมนุษย์

    หากท่านต้องการจะหยุดคนร้าย ด้วยการโจมตี ไปบนร่างกายคนร้าย หากไม่ถูกจุดอ่อน ต่อให้ท่านเพิ่มกำลังเป็น 2 เท่าก็ยากที่จะหยุด คนร้ายได้ การจะหยุดคนร้ายให้ได้ผลนั้น ท่านจำต้องรู้จุดอ่อนในร่างกายคนเรา ซึ่งไม่ต้องลึกซึ้งขนาดผู้ฝึกศิลปะป้องกันตัวอย่างจริงจัง ก็เพียงพอแล้ว ในการป้องกันตัวท่านเอง
    1. บริเวณศีรษะ มีจุดอ่อนมากมาย จุดที่สำคัญคือ ดวงตา หู จมูก ขมับ ท้ายทอย ปลายคาง ซึ่งเราสามารถใช้นิ้วจิ้มหรือ ใช้หมัดชก ส่วนปลายคางนั้น ใช้อุ้งมือกระแทก บ้องหู เราอาจใช้มือตบ ซึ่งถ้าโจมตีโดนด้วยความแรง จะสามารถหยุดคนร้ายได้
    2. บริเวณลำคอ เราสามรถใช้ปลายนิ้วจิ้ม ใช้หมัดต่อย หรือใช้สันมือสับ ไปที่ลูกกระเดือกได้
    3. ลิ้นปี่ ชก เตะ หรือถีบ
    4. อวัยวะสืบพันธุ์ชาย
    5. จุดอื่นๆ ตามสถานการณ์จะอำนวย เช่น ไหปลาร้า หัวเข่า เป็นต้น
    อาวุธต่างๆ ในร่างกาย

    [​IMG]
    รูป 026 ศีรษะ ใช้โขกไปยังใบหน้า
    [​IMG]
    รูป 027 สันมือ ใช้สับ ไปที่บริเวณใบหน้า ขมับ หรือ คอ
    [​IMG]
    รูป 028 หมัด ใช้ชก หรือ ทุบ
    [​IMG]
    รูป 029 หมัดแบน นิยมใช้ในวิชาคาราเต้ ใช้ชกไปที่ ลูกกระเดือก
    [​IMG]
    รูป 030 ปลายมือ ใช้แทงไปที่ลูกกระเดือก ถ้าได้รับการฝึกฝนมาดี อาจใช้แทงบริเวณลิ้นปี่ได้
    [​IMG]
    รูป 031 ศอก เป็นส่วนที่มีความแข็งแรงมาก ใช้ตี กระทุ้ง ไปยังจุดอ่อนต่างๆ
    [​IMG]
    รูป 032 หัวเข่า ใช้กระแทก บริเวณ ใบหน้า ลิ้นปี่ หรือ ส่วนที่ง่ายที่สุด คือ อวัยวะสืบพันธุ์
    [​IMG]
    รูป 053: จมูกเท้า ส้นเท้า หลังเท้า ใช้เตะตรง ใช้กระทืบ ใช้เตะเหวี่ยงตามลำดับ
    [​IMG]
    รูป 033 ด้านข้างเท้า ใช้ถีบ
    เมื่อเราหนีไม่ได้ หรือ ไม่มีทางที่จะหนี จำเป็นต้องสู้ ก็ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตกใจมากไป หายใจเข้าออกลึกๆ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการป้องกันตัวจากคนร้ายมือเปล่า ผู้ที่จ้องทำร้ายผู้อื่นเพราะเห็นว่าผู้อื่นไม่มีทางสู้ มักจะประมาทไม่ระวังตัว นับเป็นโอกาสที่ดีในการเอาตัวรอดของคุณ

    วิธีป้องกันตัวด้วยมือเปล่า
    1. คนร้ายจับข้อมือข้างหนึ่ง
    [​IMG]
    รูป 005 คนร้ายคว้าข้อมือ ข้างหนึ่งของคุณไว้
    [​IMG]
    รูป 006 ให้คุณใช้มืออีกข้างจิ้มไป ที่ดวงตา ของคนร้าย อย่างแรง
    [​IMG]
    รูป 007 แทงเข่า ไปที่อวัยวะสืบพันธุ์ของคนร้าย แล้ววิ่งหนี ขอความช่วยเหลือ
    2.คนร้ายจับข้อมือทั้งสองข้าง
    [​IMG]
    รูป 009 คนร้ายจับข้อมือทั้งสองข้างของคุณ เอาไว้พร้อมดึงคุณเข้าหา
    [​IMG]
    รูป 010 ใช้แรงที่คนร้ายดึงคุณเข้าหาโดย ไม่ทันระวังตัว ยกเข่าขึ้นแทง ไปที่อวัยวะสืบพันธุ์ของคนร้าย
    [​IMG]
    รูป 011 จากนั้นคนร้ายจะอ่อนแรงลง ให้รีบตีศอก เข้าไปที่บริเวณขมับ หรือ ขากรรไกรของคนร้าย จากนั้นวิ่งหนี ขอความช่วยเหลือ
    3. คนร้ายเข้ามาจับไหล่จากทางด้านหลัง
    [​IMG]
    รูป 012 คนร้ายเข้ามาทางด้านหลัง พร้อมกับจับไหล่ของคุณไว้

    [​IMG]
    [​IMG]
    รูป 013-014 ให้คุณยกขาถีบไปด้านหลัง ไปที่บริเวณหัวเข่าของคนร้าย

    [​IMG]
    รูป 015 ผลักคนร้ายให้เสียหลักแล้ววิ่งหนี ขอความช่วยเหลือ
    4.คนร้ายเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านหน้า
    [​IMG]
    รูป 016 คนร้ายเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านหน้า ด้วยท่าทีประสงค์ร้าย

    [​IMG]
    รูป 017 พยายามใช้มือเค้าไว้ แล้วเตะผ่าหมากใส่ ให้แรงที่สุด จากนั้นวิ่งหนีขอความช่วยเหลือ
    5.คนร้ายจิกหัวจากด้านหลัง
    [​IMG]
    รูป 019 คนร้ายเข้ามาจิกหัวจากด้านหลัง

    [​IMG]
    รูป 020 ให้ท่านรีบนำมือทั้ง สองข้างไป ประกบมือคนร้ายไว้ให้แน่น

    [​IMG]
    [​IMG]
    รูป 021-022 ถอนเท้าด้านใน พร้อมกับเบี่ยงตัวออกไปด้านนอก จะทำให้แขนคนร้ายบิดไปด้วย

    [​IMG]
    รูป 024 ถีบไปที่ขาพับ ของคนร้าย เพื่อให้เค้าเสียหลัก

    [​IMG]
    รูป 025 จากนั้น แทงเข่าใส่บริเวณขมับ หรือขากรรไกร จากนั้น วิ่งหนีขอความช่วยเหลือ

    ที่มา http://knu-kni.prempree.com/def-using-hand.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...