ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิต พระเณร

เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2550 ผมขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัย ,บารมีหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ,สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ และสิ่งศักดิ์ที่ทุกๆท่านเคารพนับถือ โปรดจงดลบันดาลให้ทุกๆท่านมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง เงินทองไหลมาเทมา ประสบแต่ความสุขความเจริญ ทุกๆท่าน คิดสิ่งใดที่เป็นสิ่งที่ดีที่งามขอให้ประสบกับความสำเร็จอย่างรวดเร็วครับ
ด้วยรักจากใจ
sithiphong


.
<!-- / message --><!-- sig -->

 

โต..(กุมารน้อย)...เมื่อวานนี้มีคณะของคุณฮาร์และคุณโจ๊ด...อยู่ที่กรุงเทพพร้อมทั้งคณะ เดินทางมาเลี้ยงภัตตาหารส่งท้ายปีเก่า...คุณโยมทั้งสองท่านนี้จะพาคณะเพื่อนๆ มาเลี้ยงพระ-เณรหลายครั้งแล้ว...ก่อนกลับคุณฮาร์ได้ สอนการฝึกสมาธิ..ถวายความรู้ให้แก่สามเณรอีก 2 ชั่วโมง...เพราะคุณโยมท่านนี้เป็นผู้มีญาณพิเศษ...(ในอดีตชาติ)..ฆราวาสผู้ครองเรือน...ก็สามารถปฏิบัติธรรมได้..โดยที่ไม่ต้องบวช..และอาจจะปฏิบัติได้ดีกว่าพระ-เณรเสียอีก..พระเดชพระคุณหลวงพ่อ "วัดท่าซุง"ท่านบอกว่าพระ-เณร สู้ฆราวาสไม่ได้
หลายท่านด้วยกัน..ที่เดินทางมาทำบุญที่นี่..มีญาณพิเศษ.....
ใกล้จะปีใหม่แล้ว..วันนี้ 31/12/49 พระอ. ท่านแจ้งให้พระ-เณรได้ทราบว่า..วันนี้ตั้งแต่ภาคบ่ายเป็นต้นไปจะมีการปฏิบัติธรรม..สวดมนต์เจริญภาวนา..จนกระทั่งถึงวันใหม่ ในเวลา 24.00 น.(เที่ยงคืนของวันที่ 1 มกราคม)..ก็จะมีโยมมาร่วมปฏิบัติด้วย...พระ-เณร ประมาณเกิบ 70 รูป (บางรูปป่วย) จะร่วมกันปฏิบัติ....ในเวลาเที่ยงคืนเข้าเขตของวันใหม่..พระ อ. ท่านจะประพรหมน้ำพระพุทธมนต์ให้..พระ-เณร..สวดชะยันโต...ฯลฯ...เพื่อความเป็นศิริมงคล...ตลอดปี พ.ศ. 2550...จึงขอแผ่บุญกุศลถึงญาติโยมทุกๆ ท่านในการปฏิบัติธรรมในครั้งนี้..ก็ขอให้ทุกท่านอนุโมทนาบุญ..ในช่วงของตอนเย็นเป็นต้นไป...และในวาระใกล้จะปีใหม่นี้...ขอให้ทุกท่านที่ได้สงเคราะห์การศึกษาของพระภิกษุ-สามเณร ณ. สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง ทุกๆ ท่าน จงมีแต่ความสุข..ความเจริญ..แคล้วคลาด..ปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งปวง...มีความร่ำรวย ๆ ๆ ในชาติปัจจุบันนี้..และให้ได้ดวงตาเห็นธรรม..ตามสมควรแก่การประพฤติและปฏิบัติ..เทอญ ขอเจริญพร..คณะพระภิกษุ-สามเณร โรงเรียนพระปริยัติธรรม สำนักสงฆ์บ่อเงินบ่อทอง....
<!-- / message --><!-- sig -->

 

มีความตั้งใจที่จะเป็นเจ้าภาพบวชพระหรือเณรซักครั้ง อยากทราบว่ามีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ต่อหนึ่งรูป รบกวนช่วยบอกหน่อยน่ะค่ะ

 

เท่าไหร่ก็ได้จ้ะ สาธุ ๆ ๆ

 

มีความตั้งใจที่จะเป็นเจ้าภาพบวชพระหรือเณรซักครั้ง อยากทราบว่ามีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ต่อหนึ่งรูป รบกวนช่วยบอกหน่อยน่ะค่ะ
โต..(กุมารน้อย) ถ้าจะรับเป็นเจ้าบวชทั้งรูป..ๆ ละ 1,000 บาท..โดยทางวัดเป็นผู้จัดเครื่องบวชให้...ถ้าจะร่วมเป็นเจ้าภาพก็ตามกำลังศรัทธา...
ถ้าคุณโยม..จะรับเป็นเจ้าภาพบวชต้องรอในช่วง..เดือน เมษายน โดยปีการศึกษานี้จะรับเข้ามาบวชเรียน 60 รูป...โดยรับเป็นเจ้าภาพรูปละ 1,000 บาท...
<!-- / message -->

 

ก่อนกลับวัด..ขอเทศน์เรื่องความตาย..หน่อยนะ..ก็โยมลองดูสิ...ตั้งแต่วันสิ้นปีเก่า-ต้อนรับวันปีใหม่..ไปไม่กลับ..หลับไม่ตื่น...ฟื้นไม่มี...ท่านที่ไปก็ไปไม่ถึงบ้าน..กับไปถึงที่วัด...ท่านที่เดินทางกลับก็ไม่ถึงที่เดิม..กลับถึงที่วัด...นิมิตหมายอย่างนี้เราท่านทั้งหลาย..ไม่มีใครรู้ใครทราบก่อนล่วงหน้าเลย...พระท่านจึงบอกว่า..ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง..แต่ความตายเป็นของเที่ยง..อันที่จริงแล้ว..ความเป็น-ความตาย อยู่เพียงแค่ปลายจมูกเท่านั้น..แต่พวกเราทำไม่ถึงได้นึกถึง..หนอ...เมื่อสิ้นลมหายใจแล้ว..ก็เรียกกันว่า "ศพ" หมดค่า หมดราคา..ไม่เป็นที่ปราถนาของใครๆ อีกแล้ว..มีคุณโยมท่านหนึ่งแฟนแกถูกรถชนตาย..แกก็มาทำบุญให้แฟน...แกก็เล่าให้พระ อ. ฟังถึงเหตุการณ์แกก็ร้องให้..พระ อ. บอกว่า..อย่าลืมร้องให้ๆ กับตัวเองบ้าง..นา..เพราะเราก็จะต้องตายเหมือนกัน...ก่อนจะกลับพระ อ. ท่านก็ให้พระองค์เล็กๆ ..แกก็ถามว่า..พระองค์ป้องกันฝีได้หรือเปล่า..เพราะแกกลัวแฟนที่ตายจะมาหา....ร้องให้คิดถึง...แต่กลัวแฟนจะมาหา...ร่างกายนี้เมื่อมีวิญญาณไปปราศแล้ว..ก็เหมือนท่อนไม้...แต่ท่อนไม้ยังนำไปใช้ประโยชน์ได้..อวัยวะเล็ก-ใหญ่ในร่างกายนี้..ไม่มีใครต้องการเลย...
ท่านจึงสอนให้พิจารณาความตายไว้บ้าง...จะได้ไม่ประมาทในชีวิต...ดูเพือนมนุษย์ของเรา...เรากับเขาไม่ได้ต่างอะไรกัน...เมื่อมีเกิด..ก็มีเจ็บป่วย..มีพลัดพรากจากกันไป...และจะต้องจบลงด้วยความตาย...เหมือนกันหมด..ดีชั่ว..ยากจนร่ำรวย..มีเดชมีอำนาจอย่างไร..ก็ต้องจบลงด้วย "ความตาย"...นาทีนี้..ชั่วโมงนี้..วันนี้..เดือนนี้..และปีนี้..ที่ผ่านไปก็เท่ากับว่า..เราใกล้"มัจจุราช"ผู้มีอำนาจไม่มีใครจะต่อรอง..ติดสินบน..ได้..เมื่อถึงเวลาก็ต้องไป..โดยที่ไม่มีสั่งลา...ไม่กำหนดกาลเวลา..เช้า..สาย..บ่าย..เย็น..ค่ำมืด..ไปแล้วไม่มีวันที่จะกลับมาอีก..เอาอะไรไปได้บ้าง...แม้แต่ร่างกายนี้เป็นที่รักยิ่ง..มีใครเคยเอาไปได้...แต่ที่ยืนยัน..กัน..สิ่งที่นำไปได้นั่น "บุญ-บาป"...ทำไมนำไปได้หละ...เพราะสิ่งเหล่านี้มันสะสมอยู่ในดวงจิต...(อทิสมานกาย..กายที่ไม่ปรากฏตัว) ขอให้ทุกท่านโชคดี..มีความสุข..อย่าลืม..ฝึกลมหายใจ..เข้า..ออก..เขียนไว้ที่หน้ากระจก..หน้าห้องน้ำ..หรือที่ไหนๆ ที่เราเตือนตัวเองได้..(อย่าลื่ม ลมหายใจ เข้า-ออก)..สาธุ..สาธุ..สาธุ..
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ขอบคุณค่ะ จะเริ่มโอนไปเพื่อรับเป็นเจ้าบวชทั้งรูปเดือนละ 1000 บาท จนกว่าจะถึงวันบวช ส่วนญาติๆที่จะร่วมรับเป็นเจ้าบวชด้วยนั้นจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

 

อานิสงส์..การบวชพระ-บวชเณร (เราเป็นเจ้าภาพ)อานิสงส์นั้น...ท่านกล่าวว่า..ผู้ที่ไม่ได้เป็นพ่อเป็นแม่ของผู้บวช..ถ้าเป็นเจ้าภาพบวชสามเณร จะได้อานิสงส์ 8 กัปล์ ต่อหนึ่งรูป..ถ้าเป็นพ่อ-แม่ของผู้บวชจะได้อานิสงส์ 15 กัปล์ การคำนวนเวลาหนึ่งกัปล์นั้น...ท่านให้ประมาณดังนี้...อุปมาว่า..มีถังสี่เหลี่ยมสูง 1 โยชน์ กว้าง 1 โยชน์ (โยชน์หนึ่งเท่ากับ 25 เส้น) ภายในถังนั้นมีพันธ์เม็ดผักกาดเต็มถัง ถึงหนึ่งร้อยปีมีเทวดาท่านนำเอาพันธ์เม็ดผักกาดออกไปหนึ่งเม็ด..ถึงร้อยปีก็นำออกไปหนึ่งเม็ด..จนกว่าพันธ์เม็ดผักกาดนั้นหมดถัง...อุปมาอีกอย่าง...ท่านกล่าวว่า มีภูเขาหินแข็งมาก สูงเทียมฟ้างถึงหนึ่งร้อยปี มีเทวดานำเอาผ้านิ่มๆ เหมือนใยแก้ว..มาปัดภูเขาหินครั้งหนึ่ง...ถึงร้อยปีก็มาปัดครั้งหนึ่ง จนกว่าภูเขาหินลูกนั้น ราบเป็นหน้ากลอง...อันนี้เป็นระยะเวลาที่ท่านกล่าวกำหนดไว้..
เมื่อปลายปีมีท่านผู้มีญาณวิเศษ(มีบารมีเก่าในอดีตชาติ) ได้นำลูกศิลย์ของท่าน มาทำบุญบวชสามเณรบอกว่า...ขอรับเป็นเจ้าภาพบวชสามเณร โดยให้พระ อ. ท่านช่วยสงเคราะห์ หาเด็กบวชให้ด้วย...พอดีเป็นช่วงเปิดเทอม(กลางเทอม) มีเด็ก 4 คนอยากบวชจนกว่าโรงเรียนจะเปิด (หนึ่งเดือน) ก็ได้รับบวชให้ท่านเจ้าภาพหลายท่านด้วยกัน...คือเขาเล่าให้ฟังว่า ทำอะไรแล้วมันติดขัด..และมักจะมีเรื่องราวที่ไม่ดีต่างๆ และอีกอย่างคือไม่สบายใจ...เพราะแกเคยไปทำแท้งลูก...(เพราะยังไม่พร้อม)..ผู้มีญาณ..ท่านนั้นก็เลยบอกว่าต้องบวชพระ-บวชเณร อุทิศให้เขาเสียแล้วจะดี....(อันนี้เป็นข้อคิดนะ)...
โยมท่านใด..ที่จะรับเป็นเจ้าภาพบวชสามเณร..ขอให้จองไว้ก่อน..อย่างเพิ่ง..ถวายปัจจัยเข้ามาในช่วงนี้..นะ..เพราะยังอยู่เวลาอีกหลายเดือน...ประเดี๋ยวพระท่านจะเอาปัจจัยไปใช้ส่วนอื่นๆ โดยที่ไม่รู้จะ "ลงนรก" ขอให้จองไว้ก่อน..นะ..จ๊ะ..สาธุ..สาธุ..สาธู..

 

9
วันนี้ผมได้รับโทรศัพท์แจ้งการโอนเงินเข้าบัญชีวัดบ่อเงินบ่อทอง 200บาท
จากกรุงไทย1761050923 จากผู้หญิงคนหนึ่งเธอไห้ผมโพสไห้เพราะเธอไม่ได้เป็นสมาชิกเวบพลังจิตเผอิญผมได้ไห้เบอไว้ตอนผมโพสทำบุญครั้งแรก
ผมเองพลอยปลื้มใจ อิ่มบุญ ที่ลำธารแห่งบุญยังไม่เหือดแห้งไปจากวัดบ่อเงินบ่อทอง(verygood)

 

โต..กุมารน้อย ขอแจ้งอนุโมทนาบุญให้ทุกๆ ท่านได้รับปัตตานุโมทนามัย..(บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนา) แด่สมาชิกทุกท่าน..วันนี้ 7/1/50 ตอนเช้าคุณมณฑล..อยู่ที่กรุงเทพ..ถวายสร้างรับเป็นเจ้าภาพเสาโรงครัว 18 ต้น เป็นจำนวนเงิน 13,000 บาท..คณะของคุณแม่วรรณา ผาสุขธรรม คุณแม่ของคุณธนกา ที่อยู่อเมริกา ได้เดินทางมาถวายปัจจัยสร้างห้องน้ำทั้งหมด 3 ห้องๆ ละ 5,000 บาท โดยคุณฉัตรชัย บุตรโชติ 1 ห้อง คุณธนกา เหลืองจริยกุล 1 ห้อง..คุณกรรณิกา ดีใจ 1 ห้อง...และคุณโยมธนกา-สรกฤช เหลืองจริยกุล ร่วมสร้างองค์พระแม่ 2,000 บาท..คุณโยมพิสิฐ ตรียะวงค์ (เตี๋ย) ถวายเป็นค่าภัตตาหาร (เป็นดอลล่า) 200 ดอลล่า..คุณประชา-ลิ้น แซ่หว่อง 100 ดอลล่า..เพื่อเป็นภัตตาหารพระภิกษุ-สามเณร...(ท่านเหล่านี้อยู่เมืองนอกอเมริกา)
และคณะผ้าป่าคุณโยมที่อยู่ปทุมธานี..ทอดเพื่อสร้างห้องน้ำ ได้เงินทั้งสิ้น 30,235 บาท...คณะพระภิกษุ-สามเณร จึงขออนุโมทนาบุญมา ณ. โอกาสนี้เป็นอย่างยิ่ง...
วันนี้เห็นพระ อ. ท่านรับรับแขกหลายคณะ..และพอดีที่วัดมีงานฌาปนกิจศพอยู่ด้วย....ท่านรับแขกคณะกลับคณะต่อไปก็มา..แล้วก็ไปฉันที่ศาลาเมรุงานศพ...อาตมาว่า..ท่านก็เก่งดีนะ..เห็นท่านก็หัวเราะ..ยิ้ม..ดี..กว่าโยมจะกลับก็เกิบบ่ายโมง...ก็ไปขึ้นธรรมมาสเทศน์หน้าศพ...หายไปเดี๋ยว..ก็มาเป็นประธานประชุมเพลิง....ตอนเย็นทำวัตรสวดมนต์..ประชุมสามเณร....นี่ถ้าเป็นอาตมา..นะ..คงจะแย่แน่ๆ เลย...แต่ท่านก็อดทนดี...ก็ขออนุโมทนาบุญกับท่าน..นะ...แต่ท่านมีจุดเสียอยู่อย่างพระ อ. นี่..เวลาป่วยท่านจะไม่เอาเรื่องเลย...ปิดประตู..ห้ามเข้าพบ..ถึงเวลาเอาข้าวไปให้ท่าน..เท่านั้น..ถ้าใครไปยุ่งนะ...จะต้องเจ็บปวดหัวใจ(เพราะถูกด่า) พระ-เณรท่านรู้ถ้าหลวงพ่อท่านป่วย..จะไม่มีใครไปยุ่งกับท่าน...ถ้าตายก็มีกลิ่นเหม็นเน่า ก็จะรู้ว่าท่านตายแล้ว.....
ขออนุโมทนาบุญกับคุณธนกา ผาสุขธรรม (อยู่อเมริกา) ซื้อยาแก้แพ้อากาศมาให้พระ อ. ฝากสามีมาให้...ตอนนี้เห็นท่านเดือดออกทางจมูก...บ่นว่าปวดฟัน..บางวันก็ปวดศรีษะ..เป็นๆ หายๆ..สังขารเป็นรังของโรค..เป็นความทุกข์..เป็นอนัตตา..เราไม่สามารถจะบังคับให้เป็นไปตามความต้องการของเราได้...เราไม่ต้องการป่วย..มันก็ป่วย..เราไม่ต้องการหิว..กระหาย..หนาว..ร้อน..มันก็ไม่ตามใจเรา..เราไม่อยากแก่..มันก็แก..เราไม่อยากตาย..มันก็ตาย...ลองพิจารณาดูสิ..ว่า ทำไมร่างกายของเรามันไม่ตามใจของเรา เรารักอะไรมากที่สุด....เราให้ทุกอย่างที่เขาต้องการ..หาอาหารให้กิน..หาผ้านุ่งห่มให้..หาที่อยู่อาศัยให้..ยามร้อน..หาเครื่องทำความเย็นให้..ยามหนาว..หาเครื่องอบอุ่นให้...ตามใจเขาทุกๆ อย่าง...แต่เขาเคยตามใจได้บ้างไหม..แล้วเราจะหวังอะไร ทั้งวัตถุสิ่งของที่ไม่จิตวิญญาณ...และกับสิ่งที่มีชีวิตจิตใจ...เราพยายามหาทุกอย่ามาเติมให้เต็มในสิ่งที่ขาดไป...จึงแสวงหา..ไฝ่ฟ้า..คิดว่ามันเป็นความสุข...แต่ไม่เคยมีไครเลย..ได้สมความต้องการ..เพราะว่าแม้แต่ตัวของเราเอง..ยังพร่องอยู่เสมอ..ยังไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ...มีแต่ความ..ว่างเปล่า..ๆ..ๆ...เป็นสิ่งที่สมมุติขึ้นทั้งนั้น....คิดไว้บ้าง..พิจารณาไว้บ้าง...ไม่เสียทีที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนา....ขอลาก่อน..ไม่ตายคงจะได้พบกันอีก...สาธุ..สาธุ..สาธุ
<!-- / message --><!-- sig -->

 

โต..(กุมารน้อย) ครั้งต่อๆ ไปอาตมาภาพขอสิงสถิตย์ ขออยู่ที่กระทู้ "ขอความเมตตาต่อชีวิตพระ-เณร" เป็นหลัก ญาติโยมที่ติดตามการทำงาน เพื่อสงเคราะห์การศึกษาของพระภิกษุ-สามเณร จะได้รับทราบข้อมูล....โยมท่านใด..มีความสงสัย..ในข้อธรรมใด (เท่าที่รู้) หรือการทำบุญก็ใช้หน้าต่างนี้..เป็นเครื่องสือสารก็แล้วกัน..นะ..จ๊ะ..อาตมาภาพจะเข้ามาบ่อยๆ (ทุกวัน) งานสร้างธรรมทายาท..ลงรากให้แก่พระศาสนาจะต้องทำกันอย่างต่อเนื่อง...อาตมาภาพ..มีหน้าที่ในการทำงานสร้างบุคคลากรให้เกิดขึ้นแก่พระพุทธศาสนา..ญาติโยมก็มีหน้าที่ในการ...ทนุบำรุง..สงเคราะห์ด้วยปัจจัยสี่แก่พระภิกษู-สามเณร....เราจะรักษาดูแลมรดก..ที่บรรพบุรุษของเราทำการสืบต่อไว้ให้..จนกระทั่งมาถึงพวกเรา..ที่จะต้องช่วยกัน..ดูและรักษา..สืบต่อพระพุทธศาสนา..เพื่อให้ลูกหลานของเราได้...สืบกันต่อๆ ไปให้สินกาลนาน..เทอญ..สาธุ..สาธุ..สาธุ

 

<TABLE class=tborder id=post445404 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 10:06 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #3002 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ขุนท้าว...<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_445404", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 03:19 PM
วันที่สมัคร: Mar 2006
สถานที่: ทะเล
ข้อความ: 434 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 1,077 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 1,128 ครั้ง ใน 304 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 165


</TD><TD class=alt1 id=td_post_445404 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ นำสาระมาลงค่ะ

อานิสงส์ ของ การรักษาศีล 5
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->

​

คำว่า ศีล ได้แก่สภาพเช่นไร ศีลอย่างแท้จริงเป็นไปด้วยความมีสติ รู้สิ่งที่ควรหรือไม่ควร ระวังการระบายออกทางทวารทั้งสาม คอยบังคับกาย วาจา ใจ ให้เป็นไปในขอบเขตของศีลที่เป็นสภาพปกติ ศีลที่เกิดจากการรักษามีสภาพปกติไม่คะนองทางกาย วาจา ใจ ให้เป็นที่เกลียด นอกจากความปกติงดงามทางกาย วาจา ใจ ของผู้มีศีลว่าเป็นศีล เป็นธรรม

เราควรรักษาศีล 5

1. สิ่งที่มีชีวิต เป็นสิ่งที่มีคุณค่า จึงไม่ควรเบียดเบียน ข่มเหง และทำลายคุณค่าแห่งความเป็นอยู่ของเขาให้ตกไป

2. สิ่งของของใคร ๆ ก็รักและสงวน ไม่ควรทำลาย ฉกลัก ปล้น จี้ เป็นต้นอันเป็นการทำลายสมบัติและทำลายจิตใจกัน

3. ลูก หลาน สามี ภรรยา ใคร ๆ ก็รักสงวนอย่างยิ่ง ไม่ปรารถนาให้ใครมาอาจเอื้อม ล่วงเกิน เป็นการทำลายจิตใจของผู้อื่นอย่างหนัก และเป็นบาปไม่มีประมาณ

4. มุสา การโกหกพกลม เป็นสิ่งทำลายความเชื่อถือของผู้อื่นให้ขาดสะบั้นลงอย่างไม่มีดี แม้เดรัจฉานก็ไม่พอใจคำหลอกลวง จึงไม่ควรโกหกหลอกลวงให้ผู้อื่นเสียหาย

5. สุรา ยาเสพติด เป็นของมึนเมาและให้โทษ ดื่มเข้าไปย่อมทำให้คนดี ๆ กลายเป็นคนบ้าได้ ลดคุณค่าลงโดยลำดับ ผู้ต้องการเป็นคนดีมีสติปกครองตัว อย่างมนุษย์จึงไม่ควรดื่มสุรา เครื่องทำลายสุขภาพทางร่างกายและใจอย่างยิ่ง เป็นการทำลายตัวเอง และผู้อื่นไปด้วยในขณะเดียวกัน

อานิสงส์ของการรักษาศีล 5

1. ทำให้อายุยืน ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน

2. ทรัพย์สมบัติที่อยู่ในความปกครอง มีความปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายมาราวี เบียดเบียนทำลาย

3. ระหว่างลูก หลาน สามี ภริยา อยู่ด้วยกันเป็นผาสุก ไม่มีผู้คอยล่วงล้ำกล้ำกรายต่างครองกันอยู่ด้วยความเป็นสุข

4. พูดอะไร มีผู้เคารพเชื่อถือ คำพูดมีเสน่ห์เป็นที่จับใจไพเราะ ด้วยสัตย์ด้วยศีล

5. เป็นผู้มีสติปัญญาดีและเฉลียวฉลาด ไม่หลงหน้าหลงหลัง จับโน่นชนนี่เหมือนคนบ้าคนบอหาสติไม่ได้ ผู้มีศีล เป็นผู้ปลูกและส่งเสริมสุขบนหัวใจคนและสัตว์ทั่วโลกให้ มีแต่ความอบอุ่นไม่เป็นระแวงสงสัย ผู้ไม่มีศีลเป็นผู้ทำลายหัวใจคนและสัตว์ ให้ได้รับความทุกข์เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า

ศีล นั้นอยู่ที่ไหน มีตัวตนเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้รักษาแล้วก็รู้ว่า ผู้นั้นเป็นตัวศีล ศีลก็อยู่ที่ตนนี้ เจตนาเป็นตัวศีล เจตนา คือ จิตใจ คนเราถ้าจิตไม่มี ก็ไม่เรียกว่าตน มีแต่กายจะทำอะไรได้ ร่างกายกับจิตต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เมื่อจิตไม่เป็นศีล กายก็ประพฤติไปต่าง ๆ ผู้มีศีลแล้วไม่มีโทษ จะเป็นปกติแนบเนียนไม่หวั่นไหว ไม่มีเรื่องหลงหาหลงขอคนที่หา คนที่ขอ ต้องเป็นทุกข์ ขอเท่าไรยิ่งไม่มี ยิ่งอดอยาก ยากเข็ญยิ่งไม่มี

กายกับจิต เราได้มาแล้ว มีอยู่แล้ว ได้จากบิดามารดาพร้อมบริบูรณ์แล้ว จะทำให้เป็นศีลก็รีบทำ ศีลมีอยู่ที่เรานี้แล้ว รักษาได้ไม่มีกาล ได้ผลไม่มีกาล

ผู้มีศีล ย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญ ผู้มีศีล ย่อมมีความสุข ผู้จักมั่งคั่งบริบูรณ์ สมบูรณ์ ไม่อด ไม่อยาก ไม่จน ก็เพราะรักษาศีลได้สมบูรณ์ จิตดวงเดียว เป็นศีลเป็นสมาธิ เป็นปัญญา

ผู้มีศีลแท้ เป็นผู้หมดเวรหมดภัย


ที่มา : คติธรรม คำสอน ของ องค์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถร
<!-- / message --><!-- sig -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สาธุ..สาธุ..สาธุ..อนุโมทามิ...ได้สดับฟังธรรมของพระ อริยะเจ้าเป็นบุญลาภของชีวิตอย่างยิ่ง....

 

มีบางท่านที่แจ้งมาว่าร่วมบริจาค แต่เวลาโอนเงินจริงๆ โอนไม่ครบตามที่แจ้งมา ผมเองพยายามตรวจสอบอยู่ตลอด แต่บางครั้งก็ลืมตรวจสอบก็มีครับ เรื่องนี้กรรมใครกรรมมันนะครับ

.
<!-- / message --><!-- sig -->

 

เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกใหม่ชื่อsiamthepทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกท่านทำมาตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันขออนุโมธนาด้วยคนครับ และจะร่วมด้วยช่วยกันเป็นเนื้อนาบุญกันต่อไป สาธุ.

 

ขอจองเป็นเจ้าภาพบวชพระ เณร 1 องค์ จะส่งปัจจัยได้ที่ไหน อย่างไร และเมื่อไร ครับ ! ช่วยกรุณาตอบผมด้วยครับ อ้อในเดือนเมษายน 50 ใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ siamthep ครับ สาธุ.

 

ขอจองเป็นเจ้าภาพบวชพระ เณร 1 องค์ จะส่งปัจจัยได้ที่ไหน อย่างไร และเมื่อไร ครับ ! ช่วยกรุณาตอบผมด้วยครับ อ้อในเดือนเมษายน 50 ใช่ไหมครับ ขอบคุณครับ siamthep ครับ สาธุ.
เจริญพร....พระ-เณร ที่จะรับเข้ามาบวชเรียนนั้นอยู่ในช่วงปลายเดือนเมษายน..จะเป็นวันกำหนดนัดวันบวช (อยู่ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม)..คุณโยมที่จะจองเป็นเจ้าภาพบวชนั้น...ขอให้จองเป็นเจ้าภาพต้นเดือนเมษายน 2550 เป็นต้นไป...สำหรับเจ้าภาพที่จะบวชพระนั้น...ส่วนมากจะมีแต่สามเณรบวชเข้ามาเรียนต่อ ม. 1-2-3- พระจะหายาก..และการใช้จ่ายบวชพระต้องใช้ปัจจัยมาก...รูปหนึ่งอย่างน้อยก็..น่าจะเกิน..5,000 บาท..นะ..
วิธี..การทำงานของพระ อ. ในการหาบุคคลากร ที่จะเข้ามาบวชเรียน...ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทุกปี พระ อ. ท่านจะเดินทางไปตามโรงเรียน ในที่กันดารต่างๆ ในภาคอินสาน...อาตมา..เคยไปกับท่านทุกปี...ท่านจะไปขออนุญาตครู..เพื่อขอคุยกับเด็กๆ ที่เรียนอยู่ชั้น ป. 6 ท่านก็จะทราบข้อมูลว่า เด็กคนไหนความเป็นอยู่อย่างไร...ในครอบครัวมีใครบ้าง...ท่านจะตั้งในการนำเด็กมาบวชเรียนสามขั้นตอน..1. เด็กที่อยู่กับญาติพ่อแม่ตาย-หรือถูกทอดทิ้ง..2. มีผู้ปกครองแต่บกพร่อง มีปัญหาในครอบครัว..3. ผู้ที่ยากจนไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูหรือส่งให้เรียนต่อได้...การหาเด็กมาบวชจะเป็นสามละดับ..ท่านจะหมายเอาข้อที่หนึ่งมากๆ ที่สุด..แล้วก็เรียงลงมา...แต่ละปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ต้องเดินทางหลายครั้งขึ้นลงภาคอิสาน...หลังจากรู้ข้อมูลของเด็กแล้วก็..เข้าไปพบผู้ใหญ่บ้าน..ในชนบทภาคอิสานผู้ใหญ่บ้านกับชาวบ้าน..และเจ้าอาวาส..จะทำงานร่วมกันโดยวัดเป็นศูนย์ร่วม....ช่วยให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วย...และก็เข้าไปรู้จักท่านเจ้าอาวาสในหมู่บ้านนั้นๆ...และก็กำหนดวันบวช..เครื่องบวชพระ อ. ท่านจัดไปให้ทุกอย่าง..จัดงานบวชหมู่ให้..(ก็ใช้ปัจจัยที่โยมถวายเป็นเจ้าภาพบวชนั่นแหละ) ปีแรกๆ ก็ลำบากในการติดต่อ..แต่ช่วงนี้หลายหมู่บ้าน จ. ศรีสเกษ อ. กัณทลักษ์ จะมีลูกศิษย์พระ อ. ท่านมาก (ที่เรียนจบ) เด็กที่จะมาบวชก็จะทราบข้อมูลจากเด็กๆ ที่เคยมาบวชเรียน..และยังบวชอยู่..ถึงความเป็นอยู่ต่างๆ ...อันนี้เป็นข้อมูลในการทำงานของพระ อ. ท่าน..จังหวัดอื่นๆ ก็เช่นกัน.. จ. บุรีรัม..จ. สระแก้ว..ฯลฯ...
เมื่อปีที่แล้ว...พระ อ. ท่านไม่ได้เดินทางไปตามโรงเรียนเลย..เพราะท่านไม่มั่นใจ..ในการทำงานการศึกษา..เพราะย้ายออกมาจากที่เดิม..และที่นี่เป็นท้องนาห่างไกลที่ชุมชน...แต่ช่วงนี้อาคารเรียนเหลือแต่งานเก็บเท่านั้น...สถานที่ต่างๆ ก็กำลังพัฒนาขึ้นตามลำดับ...เทอมหน้าจึงสารถที่จะรองรับเด็กได้ 100 กว่ารูป...จึงขออนุโมทนาล่วงหน้ากับทุกท่านที่จะสงเคราะห์การบวชเรียน..รับเข้าบวชประมาณ 60 รูป...จองเป็นเภาพรูปละ 1,000 บาท...

 

โต..กุมารน้อย เรื่องการเจาะบ่อบาดาล ที่พระอาจารย์ท่านจะนำเครื่องเจาะบ่อน้ำขนาดใหญ่ มาเจาะอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้พบแหล่งน้ำ วันข้างหน้าจะได้ไม่ต้องลำบากเรื่องน้ำใช้น้ำฉัน จึงขออนุโมทนาบุญมากับญาติโยมทุกท่านมา ณ. โอกาสนี้
อาตมาภาพ..จึงขอแจ้งให้คุณโยมสิทธิพงษ์ได้รับทราบตลอดจนถึงญาติโยมทุกท่าน เพราะยอดปัจจัยที่ญาติโยมบริจาคมานั้น เป็นจำนวนเงินถึง 5,1980 บาท เพราะจำนวนที่ช่างรับเหมาเดิมเขาคิดไว้ 45,000 บาท แต่ช่างผู้รับเหมาเจ้าเดิมนั้นเขาไม่พบน้ำเลยเลิกไปแล้ว แต่พระอาจารย์ท่านกำลังติดต่อผู้รับเหมารายใหม่ ที่มีเครื่องมือขนาดใหญ่เข้ามาเจาะ จึงยังไม่ทราบงบประมาณที่แน่นอน อาตมาคำนวณว่าน่าจะเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ 45,000 บาทอย่างแน่นอน โยมที่จะร่วมบริจาคก็ยังสามารถบริจาคเพิ่มได้อยู่ ถ้าปัจจัยเหลือก็จะนำไปสร้างที่กักเก็บน้ำ(แทงค์ใส่น้ำ) จึงขอเจริญพรมา ณ. โอกาสนี้ สาธุ...สาธุ... สาธุ
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

.........เรื่องน้ำกิน...น้ำใช้ เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ..น้ำที่จะเอาขึ้นมาใช้นี่..จะเป็นประโยชน์ไม่เฉพาะพระ-เณรหรือญาติโยม เท่านั้นแต่ใช้รดน้ำต้นไม้...ใช้ได้อย่างสะดวกสบาย...ปกติต้องจ่ายค่าน้ำ ยูนิละ 5 บาท..เดือนหนึ่งประมาณเกิบ 3,000 บาท...(งานก่อสร้างด้วย) ภายในสำนัก ฯ มีทั้งพระ-เณร และคนงาน-บุคคลที่จรมาพักอาศัยชั่วคราว...ตกอยู่ประมาณ 100 กว่าคน...ส่วนน้ำกินต้องซื้อ..เอามากรองฉัน...
แต่ถ้าบ่อนี้เจาะได้และตามที่วางแผนไว้...จะทุนรายจ่ายมากๆ ค่าไฟฟ้าน่าจะตกอยู่ที่ 1,000 กว่าบาท แต่ใช้น้ำได้มากกว่าของปะปาหมู่บ้าน...และที่สำคัญจะได้น้ำที่สะอาดกว่าน้ำในลำคลอง ที่สูบขึ้นมาใช้อย่างในปัจจุบันนี้....
อาตมาภาพ..ต้องขอกล่าวว่า..ท่านที่บริจาคในการบุญครั้งนี้ "เป็นมหากุศลอย่างยิ่ง....บุคคลส่วนมากด้วยกันทำบุญแต่ข้าว-ปลา..แต่น้ำใช้-น้ำดื่ม..เรามักจะไม่ได้ทำกัน....และสถานที่นี้เป็นสำนักเรียนของพระ-เณรที่อยู่อาศัยกันเป็นจำนวนมาก...ปีต่อๆ ไปก็เป็น 100 กว่ารูปด้วยกัน....และเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของญาติโยมทั้งหลาย บุญในส่วนนี้จึงเกิดขึ้นทุกวัน-ทุกคืนแก่ผู้สร้างถวาย..ท่านเรียกบุญชนิดนี้ว่า "นิพัทธกุศล" ได้บุญแก่ผู้สร้างทั้งวันทั้งคืน..และทุกเวลา..นาที...จนกว่าบ่อบาดาลบ่อนี้จะใช้กาลไม่ได้...เป็นบุญที่น่าทำ...ให้บุญสิ้นกาลนาน....ให้ความร่มเย็นเป็นสุข..ให้ความชื่นช่ำใจ...ให้ความสะอาด..ให้ความดับความร้อน-ความหิวกระหายทั้งคนและสัตว์...ฯลฯ..สิ่งเหล่านี้ก็จะตามสนองผู้ที่สร้างไว้ใช้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ตลอดถึงหมู่สัตว์....สาธุ..สาธุ..สาธุ<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->