ข้อความจากต่างมิติ - "การออกแบบมนุษย์" ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน

ข้อความนี้ผมก็แปลมาอีกเช่นเคย
และเพราะเห็นว่าน่าสนใจดี
ก็เลยแบ่งปันมาให้ท่านได้อ่านด้วยเช่นเคยครับ

เชื่อ-ไม่เชื่อ ได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์อย่างไร
ก็สุดแท้แต่ท่านเองนะครับ ใช้วิจารณญาณกันเอาเองนะครับ...


และเพราะว่าผมไม่ใช่เจ้าของข้อมูล
เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่รู้มากไปกว่าท่านสักเท่าไหร่หรอกนะครับ

ดังนั้น ถ้าท่านถามอะไรผม ผมก็อาจจะตอบไม่ได้เหมือนกันแหละครับ


ปล. เนื้อหาของกระทู้นี้จะเกี่ยวข้อง และ/หรือ ต่อเนื่องกับกระทู้เหล่านี้นะครับ

ข้อความจากต่างมิติ-การท่องกาลเวลา-การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา
http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา.266549/

ข้อความจากต่างมิติ-ระบบบันทึกแห่งฟ้า-the-akashic-system-โดยครายออน
http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-ระบบบันทึกแห่งฟ้า-akashic-system-โดยครายออน.284651/

ข้อความจากต่างมิติ-การเปลี่ยนแปลงข้อมูลข่าวสารใน-dna-ผี-คือข้อมูลข่าวสารข้ามมิติ
http://palungjit.org/threads/ข้อควา...สารใน-dna-ผี-คือข้อมูลข่าวสารข้ามมิติ.282821/

ข้อความจากต่างมิติ-ประวัติมนุษยชาติ-ข้อความสื่อสารจาก-ครายออน-kryon
http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยชาติ-ข้อความสื่อสารจาก-ครายออน-kryon.276395/



..................................... [/COLOR]

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Human Design (การออกมนุษย์) - โดย ครายออน

สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 18 ตุลาคม 2010
สถานที่: Santiago, Chile

ที่มา:
The Human Design > Kryon


ตอนที่ 1:



(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)


สวัสดีชาวโลกที่รักทั้งหลาย เราคือครายออน แห่งหน่วยบริการแม่เหล็ก
พวกคุณคิดว่า “พระเจ้า” คืออะไร? ซึ่งบางคนก็เรียกพลังงานแห่งพระเจ้านี้ว่า “วิญญาณ” (Spirit)
แล้วพวกคุณหละคิดว่าอย่างไรบ้าง? และถ้ามีเด็กๆมาบอกพวกคุณว่า

“ช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าให้เราฟังหน่อย” พวกคุณจะตอบว่าอย่างไร?

หลายปีมานี้ พวกเราได้บอกพวกคุณเกี่ยวกับคุณลักษณะของวิญญาณไปมากแล้ว
เพราะว่าพวกเราอยากให้พวกคุณรู้จักพระเจ้าในตัวของพวกคุณเอง
ดังนั้น ตอนนี้พวกเราจึงอยากจะบอกพวกคุณอีกครั้งหนึ่ง แต่พวกเราจะใช้วิธีที่แตกต่างจากเดิมเล็กน้อย

พวกเรากำลังจะนำพวกคุณเข้าไปสู่จิตใจของพระเจ้า ด้วยความรัก

มันจะเป็นไปได้จริงๆหรือ ที่พระเจ้าจะรู้จักชื่อของพวกคุณทุกๆคน?
มันจะเป็นไปได้จริงๆหรือ ที่จะมีพระเจ้าแบบที่มีตัวมีตนอยู่จริงๆ?
และถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วอะไรคือหลักฐานที่จะมาพิสูจน์เรื่องพวกนี้หละ?
หรือว่าจริงๆแล้ว มันไม่สามารถหาเหตุผลใดๆมาพิสูจน์ได้เลย
มันเป็นแต่เพียงเรื่องลี้ลับและนามธรรมเท่านั้น?
มันเป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ถึงความมีตัวตนอยู่ของพระเจ้าใช่หรือไม่?


เดี๋ยวพวกเราจะมากล่าวถึงเรื่องนี้กัน...


...................................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Human Design (การออกมนุษย์) - โดย ครายออน

สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 18 ตุลาคม 2010
สถานที่: Santiago, Chile

ที่มา:
The Human Design > Kryon


ตอนที่ 2: รายละเอียดเกี่ยวกับพระเจ้า


เราลองมาดูกันที่วิทยาศาสตร์ยุคใหม่บางสาขากันก่อน ที่ตอนนี้กำลัง
“มองหา” พระเจ้าแบบที่มีตัวมีตนกันอยู่ มันจะเป็นไปได้เหรอ?
ยิ่งพวกคุณค้นพบความจริงต่างๆเกี่ยวกับจักรวาลทางกายภาพมากเท่าใด
ความจริงเกี่ยวกับความรักของพระเจ้า ก็จะยิ่งถูกเปิดเผยออกมามากเท่านั้นด้วย

ตอนนี้บรรดานักฟิสิกส์และนักดาราศาสตร์ทั้งหลาย กำลังฉงนสนเท่ห์กับความเป็นระเบียบของจักรวาลกันอย่างมากอยู่

ซึ่งจากผลงานวิจัย ทำให้พวกเขาส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า
จักรวาลที่พวกเขากำลังเห็นอยู่ในขณะนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลย
ที่จะอุบัติขึ้นด้วยความบังเอิญ หรือแบบสุ่ม


แม้ว่าวิชาดาราศาสตร์และฟิสิกส์ จะมีพื้นฐานอยู่บนการสุ่ม และการมาประจวบกันโดยบังเอิญ (synchronicities)
ของการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆก็ตาม

แล้วพวกเขาพูดว่ายังไงบ้างหละ? พวกเขาบอกว่า

“มันต้องมีแรงอะไรบางอย่างที่เป็นตัวกำหนดให้มันเป็นไปแบบนี้อย่างแน่นอน”

มันจะต้องมีพลังงานอย่างหนึ่งในจักรวาล ที่จะต้องมีความเฉลียวฉลาด และพวกเขาก็ตั้งชื่อให้แรงนั้นว่า

“การออกแบบอย่างชาญฉลาด” (Intelligent Design)

ชื่อนี้ได้มาจากนักดาราศาสตร์และผู้ที่ศึกษาด้านจักรวาลวิทยา

ยิ่งเครื่องมือและอุปกรณ์ของพวกคุณมีประสิทธิภาพมากเท่าใด พวกมันก็จะยิ่งเปิดเผยความเป็นพระเจ้า
ซึ่งเป็นผู้ออกแบบชีวิต ให้พวกคุณได้เห็นมากขึ้นเท่านั้นด้วย

.......................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Human Design (การออกมนุษย์) - โดย ครายออน

สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 18 ตุลาคม 2010
สถานที่: Santiago, Chile

ที่มา:
The Human Design > Kryon


ตอนที่ 3: DNA..มีอะไรมากกว่าที่พวกคุณคิด





ยิ่งไปกว่านั้น..ตอนนี้มีศาสตร์หลายแขนงที่ศึกษาเกี่ยวกับ DNA อยู่ และผลการศึกษาก็ชี้ชัดว่า

“มันมีสนามพลังงานหลากมิติอย่างหนึ่งอยู่รอบๆ DNA
และ DNA คือสิ่งที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี”

มีผลงานการวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นว่า DNA มีชุดของ “คำสั่ง” อยู่ภายในสนามพลังงานของมันจริงๆ!
โมเลกุลของ DNA แม้เพียงโมเลกุลเดียว ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสสารและสั่งให้สสารฟอร์มรูปร่างขึ้นมาเป็นแบบไหนก็ได้

คุณสมบัตินี้ มาจากศาสตร์ด้านชีววิทยาควอนตัม (Quantum Biology) โดยตรง
ไม่ใช่ศาสตร์ของ “นิวเอช” (New Age).

.........................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Human Design (การออกมนุษย์) - โดย ครายออน

สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 18 ตุลาคม 2010
สถานที่: Santiago, Chile

ที่มา:
The Human Design > Kryon


ตอนที่ 4: ไกอา..เป็นอะไรที่มากกว่าที่พวกคุณคิด


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกเขาสามารถตรวจวัดพลังงานของสนามแม่เหล็กของโลกเป็นรายชั่วโมงได้แล้วด้วย
และพวกเขาก็พบว่ามีบางสิ่งที่น่าประหลาดใจ มันทำให้พวกเขาช็อกเมื่อพวกเขาตรวจพบว่า

การเข้มขึ้นและอ่อนลงของพลังงานสนามแม่เหล็กโลก
มีส่วนสัมพันธ์กับเหตุการณ์สำคัญๆของมนุษย์โลก
เช่น ในระหว่างที่กำลังเกิดสึนามิ สนามพลังแม่เหล็กโลกได้พุ่งขึ้นถึงขีดสุด,
ในระหว่างที่เกิดเหตุการ 9/11 (ตึกเวิร์ดเทรดคู่ถูกถล่ม – ผู้แปล)
สนามพลังแม่เหล็กโลก ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
มันเปลี่ยนแปลงไป ณ.ชั่วโมงที่เครื่องบินพุ่งชนตึกแฝดทั้งสองเลยทีเดียว

แล้วอย่างนี้มันหมายความว่าอย่างไร? มันจะเป็นไปได้ไหมว่า “จิตสำนึกของมนุษย์โลก”
มีส่วนเชื่อมโยงอยู่กับจิตสำนึกของไกอา (โลก – ผู้แปล) ด้วย
มันจึงทำให้เกิดปรากฎการณ์นี้ขึ้นได้?

แน่นอนว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ และนั่นแหละคือความหมายของปรากฎการณ์เหล่านั้น

แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับพระเจ้าหละ? เกี่ยวข้องทุกอย่างนั่นแหละ
เพราะว่าพระเจ้าคือผู้ที่นำมนุษย์และสรรพสิ่งทั้งปวง ให้มาอยู่ด้วยกันอย่างมีแบบแผน

เราลองมาสมมุติกันเล่นๆซักประเดี๋ยวว่า ถ้าหากว่าพวกคุณมี “จิต” ของพระเจ้าอยู่
แล้วพวกคุณจะสร้างมนุษย์ขึ้นมาอย่างไร?

ตลอดระยะเวลาหลายพันล้านปี ที่พระเจ้าได้สร้างจักรวาลนี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่อยู่ของชีวิตทั้งหลาย
และท่ามกลางความไม่น่าจะเป็นไปได้ทั้งมวล พวกคุณก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว

คราวนี้ ถ้าพวกคุณเป็นพระเจ้าเองหละ พวกคุณจะสร้างมนุษย์ขึ้นมาให้เป็นอย่างไร?
พวกคุณจะสร้างให้มันเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง ที่มีวิวัฒนาการไปตามยถากรรมอย่างนั้นหรือเปล่า?

ในฐานะที่พวกคุณก็เป็นมนุษย์ผู้เฉลียวฉลาดคนหนึ่ง
ตอนนี้พวกคุณก็น่าจะเข้าใจแล้วว่า ร่างกายของมนุษย์นั้น
มี DNA ที่ชาญฉลาดอยู่ ยีนส์ทั้งหมดในร่างกายของมนุษย์,
ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดของสเตมเซล (stem cell)
และรวมถึงสิ่งที่เรียกว่า “บันทึกแห่งฟ้า” (Akashic record)
ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลข่าวสารทั้งหมดของมนุษย์แต่ละคน
ในทุกๆภพชาติเอาไว้ ก็ถูกเก็บอยู่ภายในร่างกายของมนุษย์นี่เอง

มันฟังดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นเรื่องตามยถากรรมหรือเปล่าหละ?

และด้วยจิตของพระเจ้านี้ พวกคุณจะสร้างให้มันสำเร็จได้อย่างไร?

พระเจ้าได้รวมเอาแก่นแท้ของสรรพสิ่งไว้ในตัวพวกคุณแล้ว แน่นอนว่าตรงนี้มันก็มีหลักฐานอีกนั่นแหละ

นั่นก็คือ “พลังงานของไกอามีความเชื่อมโยงอยู่กับจิตสำนึกของมนุษย์โลก”

ดังนั้น พวกคุณ (สมมุติว่าเป็นพระเจ้า) จะมอบส่วนไหนของตัวเองให้แก่มนุษย์โลกไปหละ?
แล้วมนุษย์ได้รับอย่างอื่นไปอีกไหม? คำตอบคือใช่แล้ว

พวกคุณ (ในฐานะพระเจ้า) ได้ค่อยๆตระเตรียมดาวเคราะห์โลกที่แสนสวยงาม
เอาไว้ให้เป็นสวนสำหรับมนุษย์ได้นั่งและเล่น พวกคุณได้สร้าง DNA ที่ชาญฉลาดให้แก่มนุษย์
และพวกคุณก็ทำแม้กระทั่งเชื่อมโยงมนุษย์ให้เข้ากับก้อนหิน, ต้นไม้ และโครงข่ายสนามพลังแม่เหล็กโลกด้วย
พวกคุณได้สร้างมนุษย์ที่ทรงพลังอำนาจและมีจิตใจที่สูงส่งดีงาม

เพราะฉะนั้นตอนนี้ เราจึงอยากจะถามพวกคุณ ในฐานะที่เป็นมนุษย์โลกคนหนึ่งว่า
ถ้าหากว่าพวกคุณเล่นบทเป็นพระเจ้า พวกคุณจะมอบคุณสมบัติใดของตัวคุณเองให้แก่มนุษย์ไปดีหละ?

.........................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Human Design (การออกมนุษย์) - โดย ครายออน

สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 18 ตุลาคม 2010
สถานที่: Santiago, Chile

ที่มา:
The Human Design > Kryon


ตอนที่ 5: มนุษย์คิดอย่างไรที่ได้มาอยู่ที่โลกใบนี้

มีผู้คนมากมายที่บอกกับพวกคุณว่า พระเจ้าเป็นผู้สร้างมนุษย์ขึ้น และพระเจ้าก็พูดแบบนี้ (พระเจ้าพูด):

“ข้าจะนำมนุษย์ไปไว้ในโลกและทำให้พวกมันเจ็บปวดและทุกข์ทน
ข้าจะทำให้พวกมันพบกับความลำบาก เพื่อให้พวกมันรู้สึกว่าพวกมันเกิดมาพร้อมกับความสกปรก

จากนั้นข้าก็จะใส่ความรู้สึกผิดบาปให้กับพวกมันในทันที เพื่อให้พวกมันทุกข์ทน
และรับเคราะห์จากอะไรบางอย่าง ที่ได้เกิดขึ้นเมื่อมานานแสนนานแล้ว ไปจนตราบชั่วชีวิตของพวกมัน
ข้าจะทำให้พวกมันหมอบและคลานเข้ามาหาข้า ข้าจะทำให้พวกมันรู้สึกต่ำต้อยจนถึงที่สุด”

พวกคุณคิดว่าความคิดแบบนี้ จะออกมาจากจิตของพระเจ้าหรือ? และในโลกที่แสนสวยงามใบนี้หรือ?
พวกคุณมีใครคิดว่ามันสมเหตุสมผลบ้างไหม?

เราได้ขอร้องให้พวกคุณเปิดใจรับรู้ความเมตตาปราณีของพระเจ้ามาตั้งแต่แรกแล้ว ในห้องนี้

ที่รักทั้งหลาย นั่นคือวิธีที่พวกคุณ (สมมุติว่าเป็นพระเจ้า) จะทำกับมนุษย์ใช่หรือไม่?

พวกคุณก็คงจะตอบว่า ไม่แน่นอน ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน ถ้าเช่นนั้นแล้ว พวกคุณจะทำยังไงหละ?
ด้วยจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาปราณีของพระเจ้า พวกคุณจะสร้างมนุษย์ขึ้นมาอย่างไร?


เราอยากจะเสนอมุมมองอีกมุมมองหนึ่ง ที่พวกคุณอาจจะคิด ถ้าหากว่าพวกคุณเป็นพระเจ้าจริงๆ ว่า:

“ข้าจะสร้างสวนสวยให้มนุษย์, สร้าง DNA ที่ศักดิ์สิทธิ์ให้แก่มนุษย์
ซึ่งมันจะกลายไปเป็นแบบแผนของระบบความทรงจำข้ามภพชาติอันสวยงามของมนุษย์
และกลายไปเป็นแบบแผนทางด้านสุขภาพของมนุษย์

จากนั้นข้าก็จะนำมนุษย์ไปไว้ในโลก ให้อยู่ในฐานะผู้ที่มีความสำคัญมากที่สุด
ซึ่งแต่ละคนก็จะมีชิ้นส่วนหนึ่งของข้าอยู่ในตัวพวกเขาเหมือนๆกันหมดทุกคน
ข้าจะนำภาพลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้สร้างใส่เข้าไปใน DNA ของพวกเขา
ดังนั้นข้าอาจจะพูดได้ว่า ข้าสร้างพวกเขาขึ้นมาด้วยภาพลักษณ์ของพระเจ้าเอง

จากนั้นข้าก็จะส่งบรรดาคุรุผู้ที่มี DNA อันศักดิ์สิทธิ์และถูกกระตุ้นแล้วทั้งหลาย
ลงไปแสดงให้พวกเขาเห็นว่า พวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อไม่ให้พวกเขาลืม
เหล่าคุรุและผู้บุกเบิกทางผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย จะทยอยลงมากันเป็นระยะๆ ตามแต่ละยุคสมัย
เพื่อให้พวกเขามีแบบอย่างอยู่เสมอๆ”

“ข้าจะมอบพลังอำนาจที่เหนือกว่าพลังของธรรมชาติให้แก่พวกเขา
ถ้าหากว่าพวกเขาสามารถใช้ทางเลือกอิสระของตนเอง ค้นพบความสูงส่งของตัวเองได้
พวกเขาก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายของพวกเขาเองได้
พวกเขาสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอารยธรรมของพวกเขาได้
พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้

ข้าจะทำให้พวกเขามีพลังอำนาจมากมาย ถ้าหากว่าพวกเขามารวมตัวกันจำนวนมากพอ
พวกเขาก็จะสามารถทำได้แม้กระทั่งห้ามไม่ให้เกิดแผ่นดินไหวได้ พวกเขาจะเชื่อมโยงอยู่กับไกอา”


ฟังดูแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง? แต่สิ่งที่พวกคุณเพิ่งอ่านจบไปแล้วนั่นแหละคือความจริงหละ

แล้วพวกคุณรู้ไหมว่า ใครที่รู้ความจริงนี้ก่อนใครเพื่อน ก็คือบรรพบุรุษของพวกคุณที่เคยอยู่ในยุคนั้นนั่นเอง

ถ้าพวกคุณมองดูสิ่งที่พวกเขาแสดงให้พวกคุณดูและสอนพวกคุณมา
พวกคุณจะเห็นว่าชนเผ่าพื้นเมืองทั้งหลาย พวกเขาล้วนบูชาไกอา
ซึ่งเป็นพระแม่แห่งพลังงานของดาวเคราะห์โลกใบนี้ทั้งสิ้น

ไกอาคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และไม่ว่าจะเป็นในอดีตหรือในปัจจุบันนี้ก็ตาม
ทุกสรรพชีวิตบนโลก ก็มีความเชื่อมโยงอยู่กับไกอาเหมือนๆกันหมด

แล้วสิ่งแรกที่ชนพื้นเมืองของพวกคุณทำคืออะไร เวลาที่พวกเขามีการเฉลิมฉลองอะไรซักอย่างหนึ่ง?
พวกเขาจะบูชาบรรพบุรุษของพวกเขา! พวกเขามีแม้กระทั่งความรู้ที่ได้มาจากการหยั่งรู้ภายใน
และที่พวกเขามีเช่นนั้นได้อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาเคยมีชีวิตอยู่ที่นั่นมาก่อนแล้ว
(พวกเขาเคยเกิดเป็นบรรพบุรุษของตัวเองมาก่อน – ผู้แปล)

และอีกอย่างอาจจะเป็นเพราะว่าภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของพวกเขาก็ยังคงอยู่ที่นั่นด้วย

มันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่ภูมิปัญญาของยุคโบราณกาลจะถูกสืบทอดต่อๆมาผ่านทางจิตวิญญาณได้?

แน่นอน มันเป็นไปได้ และมันก็เป้นเช่นนั้นจริงๆ เพราะว่าการสืบทอดภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษผ่านทาง DNA
โดยใช้ระบบของควอนตัม มันมีความแตกต่างจากการสืบทอดผ่านทางระบบเคมีเป็นอย่างมาก

...........................

 

เดี๋ยวค่อยมาต่อวันหลังนะครับ

............................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Human Design (การออกมนุษย์) - โดย ครายออน

สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 18 ตุลาคม 2010
สถานที่: Santiago, Chile

ที่มา:
The Human Design > Kryon


ตอนที่ 6: คุณจะสร้างมนุษย์ขึ้นมาให้เป็นอย่างไร?


มันมีพลังงานอย่างหนึ่งที่กำลังมาเยือนโลกอยู่ในขณะนี้ และมันก็กำลังรื้อฟื้นภูมิปัญญาให้กลับคืนมาใหม่อยู่
ดังนั้น พวกคุณจะสร้างมนุษย์ขึ้นมาได้อย่างไร? โอ..ที่รักทั้งหลาย เราอยากจะให้พวกคุณเชื่อเรื่องนี้จริงๆ
ไม่ว่าพวกคุณจะคิดว่าการสื่อสารทางโทรจิตนี้เป็นอย่างไรก็ตาม

มันถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะได้ใช้ใจ และใช้จิตวิญญาณของตัวเองในการตัดสินสิ่งต่างๆซะที
เราจะขอนำพวกคุณไปสู่ที่ลึกลับแห่งหนึ่ง มันเป็นที่ๆพวกเราเคยกล่าวถึงกันมาแล้วหลายครั้ง
และในขณะที่เรานำพวกคุณไปสู่ “ถ้ำแห่งการสรรสร้าง” (Cave of Creation) นี้
จงมองดูที่ชีวิตของพวกคุณเองว่ามันถูกออกแบบมาได้อย่างไร

ในสถานที่หลากมิติแห่งนั้น คือที่เก็บบัญชีรายชื่อของมนุษย์โลกของไกอา
ลึกลงไปภายในโลก มันมีถ้ำหลากมิติที่ไม่เคยถูกค้นพบเลยอยู่แห่งหนึ่ง มันเป็นถ้ำทิพย์
และภายในถ้ำนั้นมันก็จะมีคริสตัลหลากมิติอยู่ สำหรับทุกๆจิตวิญญาณบนโลกใบนี้
เราไม่ได้พูดว่าสำหรับทุกๆภพชาตินะ แต่เราพูดว่าสำหรับทุกๆจิตวิญญาณ
เพราะว่าเมื่อจิตวิญญาณดวงนั้นๆเกิดมาหลายภพชาติ คริสตัลดังกล่าวนั้นก็จะสั่นสะเทือนไปกับภพชาติเหล่านั้น

และทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกเรียนรู้โดยมนุษย์โลกทุกๆคน ในทุกๆภพชาติ
ก็จะถูกเก็บข้อมูลไว้ในคริสตัลเหล่านั้น ในรูปแบบของพลังงาน
และในรูปแบบควอนตัม (แบบเป็นทิพย์ – ผู้แปล)

วัตถุประสงค์ของคริสตัลเหล่านั้น ก็คือการสื่อสารกับ “โครงข่ายคริสตัล” (Crystal Grid) ของโลก

เพราะฉะนั้น ความรู้ทั้งหมดที่มนุษย์เคยเรียนรู้มา
ก็จะถูกเก็บเอาไว้บนโลก และก็จะอยู่ที่นั่นตลอดไป
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับมนุษย์โลก
ก็จะยังคงอยู่ที่นี่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้

มาถึงตรงนี้ เราอยากจะถามอะไรพวกคุณสักอย่างหนึ่งว่า พอได้รู้อย่างนี้แล้ว มันทำให้พวกคุณรู้สึกว่า
มนุษย์โลกมีความสำคัญมากกว่าที่พวกคุณเคยคาดคิดเอาไว้ ขึ้นมาอีกสักนิกหนึ่งไหม?

เราเพิ่งบอกความลับกับพวกคุณไปเดี๋ยวนี้เองว่า
ระดับความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลกเอง
หรือแม้แต่ความเร็วของกาลเวลาเอง คือสิ่งที่ถูกกำหนดโดย
ระดับความก้าวหน้าด้านจิตวิญญาณและด้านศาสตร์ลี้ลับของมนุษย์เอง
ซึ่งได้จากการเรียนรู้มานั่นเอง

และถ้าพวกคุณคนใดมีญาณหยั่งรู้ และสามารถรู้ได้ว่าพระเจ้าสถิตย์อยู่ภายในตัวคุณเอง
และถ้าพวกคุณเริ่มต้นใช้ชีวิตในวิถีที่แตกต่างออกไป เพราะความรู้นี้หละก็
ความทุกข์โศกก็จะเริ่มอันตรธานหายไปจากชีวิตของพวกคุณ
และพวกคุณก็จะสามารถแยกตัวออกมาจากความมืดได้
โดยที่จะไม่มีวันหวนกลับคืนไปกลายเป็นส่วนหนึ่งของมันอีก

พวกคุณก็จะเรียนรู้ที่จะกอบกู้พลังอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในตัวพวกคุณเองกลับมาได้
แล้วพวกคุณก็จะมีความสุข

พวกคุณส่งผลกระทบต่อโลกอยู่เสมอ และทุกๆก้าวย่างในชีวิตของพวกคุณ
ก็เป็นที่รับรู้ของไกอาอยู่ตลอดเวลาด้วย

ซึ่งถ้าจะให้พวกเราอุปมาให้ฟังก็จะประมาณว่า เหมือนกับพวกคุณสาดส่องแสงสว่างไปทั่ว ในทุกๆที่ที่พวกคุณไป
พระเจ้ารู้จักพวกคุณทุกๆคน
ความพิเศษ และความยิ่งใหญ่ของพวกคุณทำให้โลกใบนี้มีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นจริงๆ
เพราะว่าเมื่อใดที่พวกคุณสามารถแก้ปัญหาต่างๆของพวกคุณได้สำเร็จ ความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลก
ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

เห็นไหมว่ามันช่างเป็นระบบที่ดีจริงๆ? และมันก็เป็นระบบที่สวยงามซะด้วย
และมนุษย์โลกก็ไม่ได้ถูกนำมาไว้ที่โลกใบนี้ด้วยความบังเอิญ เพื่อให้ได้รับทุกข์ทนแต่ประการใดเลย
พวกคุณมองออกไหม? พวกคุณพอจะเข้าใจเหตุผลด้านจิตวิญญาณของมันไหม?

พวกเราอยากให้พวกคุณมองเห็นใบหน้าของพระเจ้า (God) ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความเบิกบานเสมอได้จังเลย

เพราะว่ามันมี “ส่วนหนึ่ง” ของพระผู้สร้าง (The Creator) สถิตย์อยู่ในตัวพวกคุณทุกๆคน


(หมายเหตุ: The Creator คือพระผู้สร้าง ที่สร้างทุกสรรพสิ่งมาตั้งแต่แรกเริ่มที่ยังไม่มีอะไรเลย
ซึ่งการสร้างจะใช้วิธีการ “แบ่งภาค” ออกมาเป็นระรอกๆ

ระรอกแรกๆจะเป็นรูปธรรมชีวิตที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุด อยู่ในมิติสูงที่สุด
ดำรงอยู่ในรูปแบบของพลังงานบริสุทธิ์ล้วนๆ เช่น พวกมหาเทพทั้งหลาย
และผู้ที่จะลงมาเป็นศาสดาของศาสนาทั้งหลาย

ส่วนระรอกที่สองก็จะเกิดจากการแบ่งภาคของรูปธรรมชีวิตระรอกแรก เป็นพวกทวยเทพทั้งหลาย
(god หรือ goddess - ในความหมายของต่างมิต) พวกนี้ก็จะดำรงอยู่ในรูปแบบของพลังงานบริสุทธิ์ล้วนๆเช่นเดียวกัน

ส่วนระรอกที่สาม ก็จะเป็นพวกที่ถูกแบ่งภาคออกมาจากระรอกที่สองอีกต่อหนึ่ง
และจะเป็นพวกที่สามารถเลือกที่จะมีกายเนื้อก็ได้ เช่น พวกดาวเคราะห์ทั้งหลาย
หรือเลือกที่จะอยู่ในรูปแบบของพลังงานล้วนๆก็ได้ เช่น “พระเจ้า” เป็นต้น

พระเจ้า (God) คือรูปธรรมชีวิตในระรอกที่ 3 ที่ถูกเลือกให้มาสร้างจักรวาลแต่ละจักรวาล
ซึ่งหนึ่งจักรวาลก็จะมีพระเจ้าสร้างเพียงองค์เดียว แต่ละองค์ก็จะมีสไตน์การสร้าง
และตั้งกฎเกณฑ์เอาไว้ไม่เหมือนกัน แต่กฎเกณฑ์พื้นฐาน เช่น “กฎแห่งการดึงดูด” ,“กฎแห่งทางเลือกอิสระ”
ที่พระผู้สร้างตั้งไว้ จะเหมือนๆกันหมดทุกๆจักรวาล – สรุปความจากข้อความของนายแมทธิว วาร์ด – ผู้แปล)


พวกเราเคยบอกพวกคุณไปแล้วเกี่ยวกับ “กระแสแห่งการเกิด” (The Wind of Birth)
พวกเราจะอธิบายเรื่องที่อยู่นอกเหนือความสามารถในการเข้าใจของพวกคุณ ให้พวกคุณเข้าใจได้อย่างไรนะ?

เพราะว่าพวกคุณเข้าใจว่าตัวเองอยู่อย่างเป็นเอกเทศน์ เป็นเพียงคนหนึ่งคนเท่านั้นเอง
แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย แต่จะทำไงได้หละ เพราะว่าในมิติที่ 3 นี้ สิ่งเดียวที่พวกคุณมีอยู่
ก็คือการรับรู้ว่ากาลเวลามันเป็นเส้นตรงเท่านั้นเอง

เวลาที่พวกคุณมองดูตัวเองในกระจกเงา พวกคุณเห็นตัวเองมีกี่คน?
คุณหมายความว่าอย่างไรครายออน ที่ถามว่ามีกี่คนหนะ?

จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลาย คำถามก็คือ พวกคุณเห็นคนที่อยู่ในกระจกเงานั้นกี่คน?
เราอยากจะบอกพวกคุณว่า ถ้าพวกคุณมีจิตของพระเจ้าอยู่แล้ว พวกคุณจะเห็นตัวตนทั้งหมดของพวกคุณ!
“บันทึกแห่งฟ้า” ทั้งหมดของพวกคุณอยู่ตรงนั้นแล้ว
“รูปลักษณ์” นับร้อยๆของจิตวิญญาณของพวกคุณอยู่ที่นั่นแล้ว
ทุกๆภพชาติของพวกคุณที่มาเกิดบนโลกนี้ อยู่ที่นั่นหมดแล้ว

ในกระจกเงาแห่งพระเจ้า (GOD) พวกคุณคือ “พวกมันทั้งหมด” และพวกคุณยังเป็น
“ชิ้นส่วนหนึ่งของพระผู้สร้าง (Creator)” อีกด้วย

พวกเราจะอธิบายให้พวกคุณเข้าใจได้อย่างไงนะ ว่าพวกคุณไปอยู่ในหลายๆสถานที่พร้อมกันหมด
ในเวลาเดียวกันได้อย่างไร?

พวกเราจะอธิบายให้พวกคุณเข้าใจได้อย่างไรนะ
ว่าไม่ว่าพวกคุณจะเดินทางไปที่ไหนก็ตามบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
ภูมิปัญญาทั้งหมดที่พวกคุณมีอยู่นั้น ก็จะถูกนำพาไปสู่จุดนั้นๆของโลกด้วย?

เพราะว่าในสภาวะควอนตัม มันไม่มีหรอกนะกาลเวลาหนะ
เพราะในมิติของควอนตัมแล้ว
พวกคุณกำลังมีชีวิตอยู่ในทุกๆภพชาติพร้อมๆกันหมดในเวลาเดียวกัน

พวกคุณกำลังช่วยเหลือโลกใบนี้อยู่ด้วยการมีชีวิตอยู่ในภพชาติเหล่านั้น บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
จิตวิญญาณเก่าแก่จะส่องแสงแห่งจิตวิญญาณเจิดจ้ามากๆ ในสเปกตรัมของควอนตัม
“อะไรนะครายออน ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่?”

เรารู้ เรารู้ เดี๋ยวเราจะบอกถึงสิ่งที่เรามองเห็นให้ฟังสักประเดี๋ยว ตอนนี้เรากำลังมองเห็นว่าห้องนี้
เต็มไปด้วยผู้ที่เคยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบนโลกเมื่อ 30,000 ปีที่แล้ว
ทั้งผู้ที่เคยเกิดเป็นชนเผ่าพื้นเมือง และบรรพบุรุษของมนุษย์ก็อยู่ที่นี่ด้วย

เพราะว่าพวกคุณบางคนก็เคยเกิดเป็นบรรพบุรุษของตัวเองด้วย!
พวกคุณบางคนก็เคยเกิดเป็นชาวเลมูเรียมาก่อน สิ่งที่พวกคุณได้ทำเอาไว้มันเป็นสิ่งที่สวยงาม
และพวกคุณก็พากันหวนกลับมาเกิดอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า และมาทำมันอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อ 26,000 ปีที่แล้ว เราเคยบอกพวกคุณว่ายังไง?
พวกคุณหลายคนเฝ้าตั้งตารอช่วงเวลานี้มานานแล้ว และพวกคุณก็จะไม่ยอมพลาดเป็นอันขาด
แม้ว่าจะมีพวกคุณบางคนที่จะข้ามเครื่องพรางไปอยู่ฟากฝั่งโน้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ก็ตาม (ตาย – ผู้แปล)
แต่พวกคุณก็จะพากันกลับมาอีกครั้ง เพราะว่าพวกคุณไม่อยากพลาดฉากสุดท้ายของมัน!

แต่ว่ามันไม่ใช่จุดจบของโลกหรอกนะ มันคือจุดจบของยุคพลังงานเก่า
และเป็นจุดเริ่มต้นของยุคพลังงานใหม่ต่างหาก

พวกเราจะอธิบายเรื่อง “กระแสแห่งการเกิด” (The Wind of Birth) อย่างไรดีนะ?

ในกาลเวลาของพวกคุณ มันจะมีคุณลักษณะนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนที่พวกคุณจะเกิด
แต่ว่าอย่าลืมนะว่าในแง่ของควอนตัมแล้ว มันไร้กาลเวลา ดังนั้น ก่อนที่พวกคุณจะเกิด
พวกคุณก็จะไปพบเด็กๆที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมาเป็นลูกๆของพวกคุณ

เราไม่สามารถอธิบายให้พวกคุณเข้าใจได้ เพราะว่าพวกคุณยึดติดอยู่กับแต่กรอบของกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรง

แต่สำหรับพระเจ้าแล้ว และสำหรับแผนการของพระเจ้าแล้ว มันไม่ได้ยึดติดอยู่กับกาลเวลา
แบบที่เป็นเส้นตรงแต่อย่างใดเลย

ดังนั้น เราจึงอยากจะถามพวกคุณอีกว่า พวกคุณจะพูดกับจิตวิญญาณที่
มีความเป็นไปได้ว่าจะกลายมาเป็นลูกๆของพวกคุณว่าอย่างไร?

อะไรคือข้อความของพวกคุณ?

แน่นอนว่า ถ้าพวกคุณเชื่อในสิ่งที่เราเพิ่งบอกไปนั้น พวกคุณจะรู้ว่ามันมีแผนการที่ยิ่งใหญ่
ใหญ่กว่าที่พวกคุณรู้ซะอีก จริงไหม?

มันจะเป็นอย่างไร ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างมันเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันทั้งหมด
ในระบบควอนตัม?
และมันจะเป็นยังไง ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะความบังเอิญเลยแม้แต่น้อย?
มันจะเป็นยังไง ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างมันมีเป้าประสงค์ของตัวมันเองทั้งหมด?

แต่อย่างไรก็ตาม เพราะว่าพวกคุณยังติดอยู่กับระบบกาลเวลาแบบเป็นเส้นตรงอยู่
พวกคุณจึงไม่สามารถมองเห็นอะไรที่นอกเหนือไปจากสิ่งที่เกิดขึ้นในสองทิศทางoyhoได้ นั่นก็คือ อดีตและอนาคตเท่านั้น

ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจึงดูเหมือนว่าเกิดขึ้นโดยความบังเอิญและความไร้ระเบียบแบบแผนไปหมด

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการเลือกอย่างอิสระของมนุษย์
โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ ขึ้นอยู่กับพลังงานที่กำลังถูกสร้างขึ้นมาบนโลกอยู่ในขณะนี้
โดยผ่านทางทางเลือกอิสระของพวกคุณ และถ้าพลังงานที่ถูกสร้างขึ้นมานี้ มีความเข้มข้นสูงมากเท่าไหร่
แผนการนั้นๆก็จะยิ่งถูกมองเห็นได้ชัดและเข้าใจได้มากขึ้นเท่านั้นด้วย

.........................

 

พระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์ แต่มนุษย์นะสิที่สร้างพระเจ้ามาสร้างมนุษย์อีกที

 

พิสูจน์สิครับ ว่าที่คุณกล่าวมานั้นมันถูกต้อง

แต่สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผมพิสูจน์ได้
เพราะฉะนั้น ผมจึงได้แค่รับฟัง
และเก็บเอาไว้เป็นข้อมูลใน Database ของผมเท่านั้น

ผมจึงยังไม่กล้ายอมรับแบบหมดใจ หรือปฏิเสธโดยสิ้นเชิง
เพราะผมยังไม่ใช่ผู้รู้แจ้งโลกและจักรวาล
จนกล้าพอที่จะทำเช่นนั้นได้..

ผมรู้แต่ว่าสิ่งที่ผมยังไม่รู้..ยังมีอยู่อีกมากมาย
เพราะฉะนั้น หนทางแห่งการเรียนรู้ของผม..จึงไม่มีวันสิ้นสุดครับ

และอีกอย่าง ที่คำว่า "พระเจ้า" หรือ "พระผู้สร้าง" นี้
ไม่เป็นของแสลงสำหรับผมก็เพราะว่า
ผมอ่าน แปล และโพสต์ข้อความจากต่างมิติแบบนี้มาเยอะ
และก็ไม่มีรูปธรรมชีวิตจากต่างมิติรูปธรรมไหนเลย
ที่ไม่กล่าวถึง 2 คำนี้..ทั้ง 100% ของพวกเขา..กล่าวตรงกันหมด

นั่นมันจึงทำให้ผมชินแล้ว และก็รู้สึกเฉยๆหนะครับ
มีก็ดี ไม่มีก็ดี ใช่ก็ดี ไม่ใช่ก็ดี..ผมไม่อาจพิสูจน์ได้

..และประโยชน์อย่างอื่นของข้อความพวกนี้ก็ยังมีอยู่อีกมากมาย..

.....................................

 

ข้อความจากต่างมิติ – The Human Design (การออกมนุษย์) - โดย ครายออน

สื่อสารทางโทรจิตผ่านทางนาย Lee Carroll
วันที่ทำการสื่อสาร: 18 ตุลาคม 2010
สถานที่: Santiago, Chile

ที่มา:
The Human Design > Kryon


ตอนที่ 7: บทบาทที่คาดไม่ถึงของผู้เป็นพ่อเป็นแม่


เราขอเสนอแง่คิดอะไรสักอย่างหนึ่งที่พวกคุณอาจจะยังนึกไม่ถึงมาก่อน และมันก็เป็นอะไรที่
เราได้กล่าวถึงไปแล้วบนภูเขาเมื่อวานนี้ (ครายออนสื่อสารมาที่หุบเขา Nevado ใน Andes)

มีพ่อแม่ของพวกคุณหลายคนที่อาจจะยังไม่ตื่นรู้ เพื่อเข้าถึงศักยภาพแห่งความรักของพระเจ้าอย่างที่พวกคุณเป็น
ซึ่งพ่อแม่บางคนก็อาจจะยังมีชีวิตอยู่ แต่บางคนอาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็ได้

แต่ว่าพวกเขาก็จะรักพระเจ้าตามวิถีของพวกเขา ทุกอย่างมันถูกต้องลงตัวหมดนั่นแหละ
แต่พวกเขาแค่ยังไม่ตื่นรู้ถึงความเป็นควอนตั้มของพระผู้สร้างที่อยู่ภายในพวกเขาเองเท่านั้นเอง
พวกเขาอาจจะไม่ได้มาร่วมประชุมกันแบบนี้เหมือนกับพวกคุณ

แต่พวกคุณสิ..ได้พากันตื่นรู้ถึง “ระบบควอนตั้ม” กันแล้ว และพวกคุณก็เริ่มต้นช่วยเหลือโลกใบนี้
ด้วยการตื่นรู้นั้นกันแล้ว พวกคุณกำลังสร้างสะพานเชื่อมต่อไปสู่การเป็นอารยชนแห่งควอนตั้มในอนาคต
พวกคุณจะไม่ขึ้นตรงอยู่แต่กับกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงเท่านั้นอีกต่อไปแล้ว

พวกคุณจะมีความเต็มเปี่ยมด้านจิตวิญญาณมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ โดยไม่ต้องพึ่งพาศาสดา หรือหนังสือ
หรือสิ่งก่อสร้างใดๆเลย พวกคุณได้สร้างพลังงานแห่งความรักที่สวยงาม
และพลังงานแห่งความเป็นพระผู้สร้างร่วมอยู่ภายในตัวเองแล้ว และก่อนที่พวกคุณจะจากโลกนี้ไป
ชาวโลกหลายล้านคนที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ ก็จะตื่นรู้ขึ้นมา และมีแนวคิดเช่นเดียวกันกับพวกคุณ

แนวคิดนี้ไม่ใช่แนวคิดเดียวกันกับที่พวกคุณเคยถูกเสี้ยมสอนมาหรอกนะ
แต่มันจะเป็นปริทัศน์ใหม่ด้านจิตวิญญาณของสัจธรรมเลยทีเดียว

มันจะเป็นแนวคิดที่ว่า พวกคุณถูกสร้างขึ้นมาให้มีความพิเศษ
พวกคุณมีพลังอำนาจเหนือกว่าร่างกายเนื้อของพวกคุณ
และแม้แต่ธรรมชาติเองยังต้องก้มหัวให้กับพลังอำนาจ
ที่เกิดจากการรวมพลังกันของพวกคุณเลย

พวกคุณคือสิ่งสร้างสรรค์ที่สวยงาม ที่อยู่ในสวนแสนสวย
ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพวกคุณแห่งนี้ และในไม่ช้านี้
พวกคุณก็กำลังจะมีภูมิปัญญาในการดูแลรักษามัน
อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ


บางทีเวลาที่พวกคุณมองดูพ่อแม่ของตัวเองแล้ว พวกคุณอาจจะพูดว่า
“ฉันอยากให้พวกเขามี อย่างที่ฉันมี” พวกคุณบางคนอาจจะพูดว่า
“พวกเขาดูเหมือนจะยังคงยึดติดอยู่กับวิถีเก่าๆ” และเมื่อพวกเขาจากไปแล้ว
พวกคุณอาจจะพูดว่า “ฉันอยากให้พวกเขารู้อย่างที่ฉันรู้จังเลย”

ดังนั้น เราอยากจะแก้ไขความคิดแบบเชิงเส้นตรงนี้ ให้เป็นแบบเชิงควอนตั้มให้พวกคุณสักหน่อย
ซึ่งในกระบวนการนี้จะช่วยเปิดเผยระบบที่ไม่น่าเป็นไปได้ และจะเปิดเผยความรักของพระเจ้าให้พวกคุณได้รู้


จงมากับเรา เพื่อเข้าไปสู่จิตใจของพระเจ้ากันสักครู่ แล้วเราจะพาพวกคุณไปสู่ “กระแสแห่งการเกิด”
ของพ่อแม่ของพวกคุณกัน

ในมิติที่ไร้กาลเวลา พวกเขากำลังมาพบพวกคุณ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นลูกของพวกเขา
และพวกคุณก็รับฟังสิ่งที่พวกเขาพูดกับพวกคุณว่า

“ที่รัก พวกเรากำลังจะลงมาเกิดบนดาวเคราะห์โลก มาเกิดในยุคพลังงานเก่า
แต่ในพลังงานนั้นมันก็มีศักยภาพแห่งความเป็นไปได้สำหรับหลายสิ่งหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นบนโลก
ในยุคของพวกคุณ ไม่ใช่ในยุคของพวกเรา พวกเรากำลังจะให้กำเนิดชีวิตแก่พวกคุณ
พวกเรากำลังจะนำพาพวกคุณมาสู่ดาวเคราะห์โลก ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
เพื่อที่พวกคุณจะได้ทำในสิ่งที่แตกต่างไปจากพวกเรา

ในร่างมนุษย์ของพวกเรา พวกเราอาจจะไม่ได้ช่วยให้พวกคุณตื่นรู้ขึ้นอย่างที่พวกคุณคาดหมาย
แต่พวกเราจะนำพาปัญหาต่างๆมาให้แก่พวกคุณ เพื่อผลักดันพวกคุณให้ค้นหาพระเจ้าในตัวของตัวเอง
แต่นี่คือวิถีทางที่พลังงานเก่าใช้เชื่อมต่อกับพลังงานใหม่

จริงๆแล้วพวกเราจะนำพวกคุณไปอยู่ในที่ๆเหมาะสม ในที่ๆพวกคุณจะมีแสงสว่างภายในได้
อย่างที่พวกเราไม่อาจจะมีได้ในยุคพลังงานเก่านั้น”


ดังนั้น เราจะขอถามพวกคุณ ผู้อ่านและผู้ฟังที่รักทั้งหลายว่า
ใครในที่นี้ ที่เป็น “นักรบแห่งแสงสว่าง” (Lightworker) พ่อแม่ของพวกคุณใช่หรือไม่?

โอ..พวกเขาอาจจะไม่ได้ตื่นรู้ขึ้นมาในแบบควอนตั้ม แต่ตอนนี้พวกคุณก้รู้แล้วว่า
พวกเขามีแผนการในระดับควอนตั้มมาก่อนแล้ว พวกคุณมีแสงสว่างได้ก็เพราะพวกเขานี่เอง
แม้ว่าพวกเขาอาจจะตำหนิพวกคุณ ในสิ่งที่พวกคุณทำอยู่ก็ตาม แต่พวกเขานั่นแหละ
ที่บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตให้แก่พวกคุณ

มันฟังดูเหมือนกับว่าพวกคุณเกิดมาพร้อมกับความสกปรกโสมมหรือเปล่าหละ?
มันฟังดูเหมือนว่าพวกคุณเกิดมาเพื่อมาทนทุกข์บนโลกใบนี้หรือเปล่าหละ?


พระเจ้าได้สร้างจักรวาลนี้ขึ้นมาเพื่อสรรพชีวิตทั้งหลาย เพื่อความอุดมสมบูรณ์ และเพื่อแสงสว่าง
พระองค์ไม่เพียงแต่จะมอบสวนสวยอันนี้ให้แก่มนุษย์เท่านั้น แต่ยังมอบส่วนหนึ่งของ “พลังอำนาจในการสร้างสรรค์”
ไว้ให้และอยู่ภายในทุกๆจิตวิญญาณอีกด้วย

พระเจ้าคือแสงสว่าง และพระเจ้าก็อยู่ในพวกคุณทุกๆคน มันเป็นความลับของยุคพลังงานใหม่
และพวกคุณกำลังจะได้ค้นพบมันอีกครั้งหนึ่งแล้ว


มันไม่ได้ทำให้ระบบความเชื่อแบบอื่นๆ กลายเป็นระบบความเชื่อที่ไม่ถูกต้องหรอกนะ
แต่มันจะช่วยเสริมความรู้ที่ลึกซึ้งมากขึ้น ให้แก่ระบบความเชื่อเหล่านั้น เพื่อให้พวกมันพัฒนาขึ้น
และสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นหนามากขึ้น กับ “พลังงานแห่งการสรรสร้าง” และความเป็นคุรุที่พวกมันเป็นอยู่


ที่รักทั้งหลาย อย่าคาดหวังว่า “ศาสนา” จะสาบสูญไป จงคาดหวังว่ามันจะพัฒนาไปในทิศทางที่มีมาตรฐานเดียวกัน
และตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งสัจธรรมที่แท้จริงมากขึ้น

นั่นคือตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็น “พระเจ้าที่อยู่ภายใน” นั่นเอง

……………..

 

กระทู้นี้ยังเหลืออีก 3 โพสต์ถึงจะจบครับ
แต่ผมอาจขอข้ามไปแปลข้อความอื่น
ที่น่าสนใจมากไม่แพ้กัน หรือมากกว่าก่อนนะครับ

สำหรับผู้ที่สนใจ รออ่านกระทู้ถัดไปนะครับ
ครายออนพูดถึงหลายเรื่อง ที่คนทั่วไปสนใจ
เช่น เรื่องผี เป็นต้น..คำตอบและคำอธิบายของครายออน
ทำให้ผมอึ้งเลยหละ..น่าจะเป็นไปได้อย่างที่ครายออนว่ามากทีเดียว

.................................

 

สงสัยเรื่อง โพลเตอร์ไกส์ วนซ้ำไปซ้ำมา รอยค้างหลงเหลือ ชิมิล่า...

รออ่านๆๆนะ.....

พี่ชยุตสู้ๆ เย้ๆๆchearrchearrchearr

pig_balletpig_balletpig_ballet

 

เข้ามาลงชื่อ รออ่าน ด้วยคน

 

รออ่าน ติดตามด้วยคนค่า
^^ K.Chayutt

ตั้งแต่ปี2011 มานี้เจอเลข 1,11,11:11,111 บ่อยม๊ากกกเลยค่า หน้าคอม ถนนหนทาง ที่เป็นตัวเลขดิจิตอล จะเจอเป็นประจำวันนึงๆหลายรอบมาก มีความนัยมั้ยคะ หรือว่าอาจจะบังเอิญมั้ง อิอิ

 

ผมสงสัยครับ ไม่รู้จะมีใครตอบได้หรือเปล่า ผมสงสัยว่า ที่พลังงานต้นกำเนิดเขาสร้างพวกเรามาให้มีพลังงานส่วนหนึ่งของพลังงานต้นแบบ และหากรวมกันจะเหนือกว่าธรรมชาติ หรือมีความพิเศษกว่า ประมาณนี้ครับ คือว่าแล้วอย่านี้จะหมายความได้ไหมว่าเราจะมีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ต่างดาวที่กำลังจะมาช่วยโลกนี้ ผมไม่ได้ต้องการเหนือกว่าพวกเขานะครับ เพียงแต่อ่านแล้วเกิดความสงสัยครับ แล้วทำไมเราไม่สามารถทำอะไรไปได้มากกว่าที่เราทำกันหากเราถูกสร้างมาด้วยสิ่งที่กล่าวครับ

 

Chayutt เคยคิดเล่นๆบ้างหรือเปล่าครับ คุณคือคนที่ถูกเลือกเหมือนกัน ถูกเลือกที่จะให้มาสื่อสารให้พวกเรารู้กัน



ผมอ่านๆไปมีความคิดว่า ถ้าเกิดพวกเรา (มนุษย์ทุกๆคนในโลก) มีพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่ว่าต้องรวมพลังกันมากๆ หลายๆคน

คิดในแบบของผม สมมุตว่า่ถ้าผมส่งพลังไปคนเดียว พลังผมคนเดียว ตัวผมเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ต้องใช้พลังของคนอื่นๆเข้ามาช่วย

ถ้าคนอื่นไม่ได้ใช้พลังมาช่วย เท่ากับเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

ดังนั้นถ้าผมและอีกหลายๆคนเป็นคนที่รู้วิธีที่จะทำให้พลังงานจิตให้สูงขึ้นเพื่อช่วยโลก แต่มีคนอีกหลายพันล้านคนยังไม่รู้วิธี มันก็เหมือนกับใช้น้ำน้อยๆดับไฟ

แล้วแบบนี้จะช่วยไปก็ไม่มีความหมายซิครับ

เหมือนทุกๆอย่างจะถูกกำหนด มาหมดแล้ว
เราจะไปทางไหน เมื่อไหร่ อย่างไร จุดเริ่มต้นเป็นอย่างไร จุดจบเป็นอย่างไร
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

"ถ้า"เราเปลี่ยนได้ หรือว่าเปลี่ยนได้จริงๆ

หนึ่งใน 2 วิธีที่เป็นไปได้นี้ ถึงมันจะเป็นแบบไหน ผมคิดว่ามันเหมือนโดนกำหนดมาแล้ว

เหมือนมันเป็นเกมส์ เราเป็นแค่หมากตัวหนึ่งและอีกหลายๆตัวบนกระดาน ทิศทางโดนกำหนดมาแล้วทั้งสิ้น

คุณอา Chayutt คิดในแง่ไหนบ้างครับ

 

กระทู้มีสาระน่าอ่าน ช่วยเติมเต็มช่องว่างได้อย่างดีเลยครับ
รู้สึกเหมือนกันครับว่าคุณชยุตได้เกิดมาพร้อมกับ "หน้าที่" ที่ได้วางแผนไว้ก่อนกับจิตวิญญาณรวมหรือตัวตนรวมด้วยนะครับ แม้จะยังค้นหาความจริงอยู่ก็ตาม แต่ก็เป็น หน้าที่ ที่ก่อให้เกิดประโยขน์สุขและสนับสนุนผู้อีกอื่นมากมายเลย

ขอบคุณนะครับ (ตัวโตๆ กลัวไม่เห็น อิอิ)

ไม่ว่าเราจะทำงานใน scale ไหนๆ เชื่อว่าทุกหน้าที่ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
หากหน้าที่ทางโลกไปตรงกับสิ่งที่จิตวิญญาณเลือกด้วยล่ะก็เราจะมีความสุขกับสิ่งที่ทำอย่างเต็มที่เลยครับ

มีคำถามมาแล้วครับคุณอา...
MagicCarpet หลานๆเค้าขี่พรมวิเศษมาถาม
คุณโซ่ หรือ นักรบแห่งแสงสว่างทั้งหลาย มาช่วยคุณอาชยุตตอบบ้างนะครับ

 

ที่ผมมีความคิดว่าทุกอย่างโดนกำหนดมาแล้ว ถึงแม้ว่าเ้ราจะเลือกทางใดก็ตาม แม้แต่สิ่งที่เราเลือกตัดสินใจ นั่นก็คือสิ่งที่กำหนดมาแล้ว เหมือนจะเลือกได้ แต่ผลลัพท์ปลายทางก็มีอยู่แล้ว

อย่างที่ผมเคยอ่านเจอมา ไม่ถูกต้องเป๊ะนะครับ ใครรู้ข้อมูลแย้งผมด้วยแล้วกัน

ประมาณว่าในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าท่านทรงรพยากรณ์ได้เลยว่า ว่าคนนี้จะสำเร็จขั้นนี้ๆ ในอีกกี่ชาติ และในชาติต่อไปที่่จะเกิดจะเป็นอะไรอย่างไร

สมมุตว่านายคนนั้นได้สำเร็จในชาตินั้นๆ แบบที่พระพุทธเจ้าทางทำนายไว้จริง

แสดงว่าถึงนายคนนั้นในใจตอนนั้นจะตัดสิน จะเลือกใช้ชีวิตไปทางใด จะเดินซ้ายหรือเิดินขวา ต้องใช้การตัดสินใจ นั่นก็คือทางที่ถูกกำหนดมาแล้ว แล้วแบบนี้แสดงว่าทุกอย่างโดนกำหนดมาแล้วไม่ใช่เหรอครับ

แม้แต่ตอนที่ผมกำลังนั่งพิมพ์สงสัยเรื่องนี้อยู่ ผมเลือกที่จะทำแบบนี้ มานั่งเล่นหน้าคอมตอนนี้ แทนที่ผมจะออกไปเที่ยวเดินห้างหาอะไรกินข้างนอก แต่ผมเลือกที่จะอยู่ตรงนี้ ผมก็คิดว่าโดนกำหนดมาแล้ว ที่ผมต้องมานั่งพิมพ์เรื่องอะไรแบบนี้ เพื่อให้คนอื่นมาตอบให้ผมรู้

ท่านอื่นและพี่ mead อาชัยยุต มีความเห็นว่าอย่างไรครับ

ขอบคุณครับ

 

ตะกี๊ผมเพิ่งไปดูชื่อคนที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วดู
พบว่าคุณ Kindred ยังไม่ได้เข้ามาอ่านครับ

ดังนั้น ผมจึงอยากจะรอให้เธอเข้ามาอ่านก่อน
พร้อมกับช่วยตอบคำถามของคุณ MagicCarpet
ให้กระจ่างหมดเปลือกไปเลยด้วยหนะครับ

เพราะเธอมีความสามารถด้านนี้อยู่แล้ว
และก็เธอมีสไตน์ของเธอในการตอบแบบสละสลวยด้วยแหละครับ

ใจเย็นๆ..รอเธอก่อนนะครับ..

.........................................