ข้อความจากต่างมิติ - "การออกแบบมนุษย์" ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 2 มีนาคม 2011.

  1. AFIKLIFI

    AFIKLIFI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +53
    ผมคิดอย่างเดียวกับคุณไม่มีข้อแตกต่างให้เห็นเลยแหละครับ คิดมานานแล้วด้วยครับ ทุกอย่างผมคิดว่าถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรหรือตัดสินใจด้วยตัวเองก็ตาม ทุกอย่งถูกสร้างมาให้เราดำเนินไปตามนั้นเหมือนเราและโ,กถูกจำลองขึ้นมาและดำเนินไปตามกฎที่มีมา

     
  2. MagicCarpet

    MagicCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +81
    ขอบคุณ คุณอาชัยยุต มากครับ

    ติดตามอ่านที่แปลมามานานมากแล้วครับ ให้น้องที่บ้านอ่านด้วย ถูกใจมากครับ

    อ่านแล้วรู้สึกดีมาก รู้สึกดีกว่าอ่านหนังสือธรรมมะอีก


    คุณอาคือคนที่ถูกเลือกครับ อิอิ
     
  3. MagicCarpet

    MagicCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +81
    ดีใจมีคนคิดเหมือกันด้วย อิอิ

    นึกว่าเพ้ออยู่คนเดียว
     
  4. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    อืมม์....ขอบคุณค่ะ คุณชยุต(เป็นอาไปแล้วเหรอค่ะ...:d)
    ที่ให้เกียรติจุดธูปเรียกดิฉัน ให้มาตอบคำถามหลาน
    ขอออกตัวก่อนว่ามิใช่ผู้รู้ใดๆเลยนะคะ
    สิ่งที่ที่จะเล่าเนี่ย(แบบว่า มันคงยาว...)
    ถือเป็นการแบ่งปันในสิ่งที่ตนเองพอจะเข้าใจนะคะ

    ก่อนอื่นจากคำถามนี้

    สมมติว่าคุณหลานMagicCarpet เลือกที่จะไปเที่ยว
    ขอให้ลองนึกภาพแผนผัง หรือแผนที่อะไรซักอย่างขึ้นมานะคะ
    ในแผนผังนั้น จะมีสิ่งที่ถูกกำหนดขึ้นมาแล้วใช่ไหมคะ
    เช่นเลี้ยวซ้ายจะไปเจอภูเขา เลี้ยวขวาจะไปเจอแม่น้ำ
    เดินตรงไปจะไปเจอ สะพาน หันหลังไปเจอรถตู้ แบบสมมติว่าเพิ่งลงมาจากรถตู้

    ก่อนเราไปเรากำหนดมันไว้หรือไม่ เราตัดสินใจเลือกที่จะไปหรือ ไม่ไป
    ใช่หรือไม่...??

    แต่สถานที่นั้นๆ เราจะไปหรือไม่ไป มันก็มีอยู่ใช่ไหมค่ะ


    เหมือนที่คุณหลานบอกว่า เลือกที่จะมานั่งพิมพ์ข้อความในกระทู้นี้
    และไม่เลือกที่จะออกไปข้างนอก
    สิ่งที่ถูกกำหนดนั่นก็คือสถานที่และเหตุการณ์ที่เราจะต้องเผชิญ
    มันมีอยู่แล้ว ใช่ไหมคะ

    แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเลือกของเราด้วยเป็นสำคัญ

    ถ้าเราไม่ตัดสินใจเลือกก่อน
    เราก็จะไม่มีทางไปอยู่ ณ สถานที่นั้นๆ หรือประสบกับเหตุการณ์นั้นๆ

    ไม่มีใครจับเราโยนลงไปในที่ต่างๆ
    เหมือนกับไม่มีใครจับเราโยนลงไปในกระแสธารของชะตากรรม
    เราเป็นผู้เลือกเองทั้งหมดค่ะ

    การตัดสินใจเลือก เกิดจากความคิดก่อน และจึงลงมือกระทำ
    หากคิดอย่างเดียวแต่ไม่กระทำ ไม่เลือก เหตุการณ์นั้นเกิดไหม...?
    เกิดค่ะ... แต่ในมิติอื่น โลกอื่นที่ไม่ใช่โลกทางกายภาพที่เราดำรงอยู่
    นั่นก็คือสิ่งที่เราเรียกว่า เส้นทางที่เป็นไปได้ และมีเป็นอนันต์

    ดังนั้น ความคิดจึงเป็นบ่อเกิดของโลกแห่งความเป็นจริงทั้งหลาย
    ที่เราจะรับรู้และเผชิญกับมัน จากการตัดสินใจเลือกของเรา...ที่เรียกว่าทางเลือกอิสระ

    ที่นี้มาพูดเรื่องจุดจบ จุดสิ้นสุด จุดสิ้นสุดที่แท้จริงอยู่ตรงไหน
    ไม่มีค่ะ จุดจบคือจุดเริ่ม จุดเริ่มคือจุดจบ Alpha &Omega
    วนเวียนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
    เพราะเราอยู่บนเส้นทางของโลกที่มีกาลเวลาเป็นเส้นตรง
    เราจึงเหมือนรู้สึกว่า มีระยะทางเกิดขึ้น เพราะเวลา
    อุปมา เช่นแผนผังที่กล่าวมาข้างต้น เราต้องเดินจาก จุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง
    เราจึงจะพบสถานที่หนึ่งๆ

    ในขณะเดียวกัน(Now) สถานที่ต่างๆนั้นมันก็มีของมันอยู่แล้ว
    หากเรานึกถึงสถานที่ที่จะไปนั่นคือ อนาคต
    หากเรานึกย้อนไปถึงสถานที่ที่เราผ่านมา นั่นคือดีต
    เพราะฉะนั้น อดีต ปัจจุบัน และอนาคต จึงเป็นจุดเดียวกัน ไม่มีอยู่เลย ณ ตอนนั้น
    มันมีเพียงแค่ปัจจุบันเท่านั้น

    ที่นี้ มาถึงเรื่อง ผลลัพท์ที่คุณMagicCarpet ว่ามันถูกกำหดไว้แล้ว
    ใช่ค่ะ เพราะมันมีอยู่แล้วจริงๆ แต่เป็นแค่เส้นทางที่เป็นไปได้เท่านั้น
    หากเราไม่เลือก เราไม่มีวันเจอค่ะ

    พอเข้าใจไหมเอ่ย...มาทำให้งง หนักขึ้น หรือเปล่าคะเนี่ย...

    หากยังเข้าใจไม่กระจ่าง หรือคนตอบตอบผิดประเด็น ไม่โดนใจ
    ส่งคำถามเข้ามาใหม่นะคะ....


    ยินดี จะไปตามพวกๆ ลุงป้า น้า อา มาช่วยตอบ
    โดยเฉพาะ อาชยุต....เอาให้เคลียร์ค่ะ นะคะ


    (kiss)
     
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขอบคุณป้าเดรดมากนะครับ..

    ไม่รู้คนถามจะเคลียร์หรือเปล่านะครับ
    ถ้ายังไม่เคลียร์ตรงไหน ถามมาใหม่ได้นะครับ

    ......................................
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    หายไปนานเลยนะครับคุณ Kindred (เป็นป้าไปแระ อิอิ)
    น้องๆคงได้คำตอบและเห็นภาพกว้างๆไปแล้วนะครับ
    ยกตัวอย่างและตอบได้แจ่มจริงๆ...ตบมือให้เลย...***
    (พื้นฐานความรู้จากพี่นักเขียน โนวา ช่วยได้เยอะเลยนะครับ)


    อันนี้เป็นคำถามที่ดีนะครับคุณ AFIKLIFI
    แชร์ตามที่เข้าใจนะครับ ว่าทำไมมนุษย์เราถึงทำอะไรมากไปกว่าที่เห็นไม่ได้ทั้งๆที่มาจากพลังงานต้นกำเนิดเดียวกันแท้ๆ ?

    มองในแง่การออกแบบของเบื้องบนนะครับ เชื่อว่าเป็นเรื่องของ"มิติ"ที่ควบคุมกำกับเอาไว้นะครับ (เหมือนโปรแกรมที่มีหลายๆ version และสามารถ upgrade ต่อไปได้) โลกนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์บางอย่างน่ะครับ มนุษย์เราก็เป็นส่วนขยายที่มีความหนาแน่นสูงมากแทบจะอยู่ปลายสุดของการขยายตัวเลยก็ว่าได้ จะเหาะเหิน-เดินอากาศ หรือทำอะไรสนุกๆที่ฝืนกฎธรรมชาติก็อาจจะไม่จำเป็นสำหรับมิตินี้เท่าไหร่ แต่สามารถเชื่อมโยงกับมิติอื่นๆได้ทั้งหมด และยังส่งผลกระทบต่อมิติอื่นๆได้มากมายกว่าที่เราคิดซะอีกครับ..

    มันเป็นเรื่องของความสมบูรณ์แบบในแต่ละมิตินะครับ ที่เราอยู่นี่ก็เป็นมิติที่ให้ความอิสระอย่างเต็มที่ สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆขึ้นได้ มีช่องทางแห่งทางเลือกให้สวมบทเล่นกันมากมาย และเราก็ยังคงเป็น "ตัวตนที่เป็นนิรันดร์" ที่มาอยู่ในรูปทรงของสิ่งที่เป็นรูปธรรมอะไรแบบนี้ ในมิติอื่นๆเค้าก็แอบรู้สึกอิจฉาเราเล็กๆเหมือนกันนะครับ ถึงเข้า-ออกมิตินี้กันเป็นว่าเล่น ราวกับที่นี่เป็นห้องสมุดของจ้กรวาลที่น่าสนใจที่สุดแห่งนึงทีเดียวครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2011
  7. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    แอร๊ยยยยย....:cool:

    ดิชั้นซึ่งเป็น great great great great great great grandchild

    ของ ป้า อา ลุง น้า และบรรดา พี่ๆ เกิดความเข้าใจมากขึ้นเยอะเลยเจ้าค่า....pity_pig(ขอซัก 6 great ก็คงพอเน๊าะ อิอิ)

    ซาบซึ้งจริงๆ ขอขอบพระคุณ

    อายุต ลุงมี๊ด ป้าเดรด พี่afiklifi พี่magiccarpet..และทุกท่านเลยนะคะ

    น้องน้อยคนนี้ เห็นการแลกเปลี่ยนพูดคุย ทำความเข้าใจซึ่งกันและกันแบบนี้ ปลื้มปิติเป็นอันมากกกกก

    พี่ๆ ลุง ป้า น้า อา คุณตา คุณยาย คุณปู่ คุณทวด ท่านใดมีคำถาม
    ก็ลองถามกันดูเลยนะคะ...ไม่ต้องอายค่ะ

    น้องน้อยคนนี้ก็ได้ความรู้ไปด้วยเต็มๆ...*-*


    ปล.รออ่านอยู่เนืองๆนะคะ คุณอา...
     
  8. MagicCarpet

    MagicCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +81
    ก่อนอื่นขอขอบคุณ คุณอา kindred มากๆเลยครับ อุตส่าเสียเวลามาตอบให้ตั้งยาว

    พอเข้าใจได้ครับ อ่านกลับไปกลับมาประมาณ 3 รอบ



    ทุกทางที่เราจะเลือก เราจะไป มันมีผลลัพท์ ของทางนั้นๆอยู่แล้ว

    เรามีอิสระที่จะคิด ที่เราจะเลือกเดินได้



    พออ่านไปนึกขึ้นได้ครับ

    มีคุณลุงข้างบ้านที่ผมอยู่อยู่คนนึง ชื่อ "ลุงนวล" คุณลุงค่อนข้างเป็นคนธรรมมะธัมโม ชอบสวดมนต์ไหว้พระทำสมาธิอยู่บ่อยๆ

    ช่วงหลังๆได้มีโอกาสเข้าไปคุยหลายๆเรื่องด้วยกัน มีเรื่องที่หน้าแปลกอยู่อย่างนึงคือ คุณลุงสามารถบอกได้ได้ว่าอนาคตข้างหน้าในระยะสั้นๆ ผมจะเจออะไรประมาณไหน

    แล้วมันก็ตรงครับ ตรงอย่างที่เค้าบอกจริงๆ ไม่เหมือนหมอดูที่ทำนายตีวงแบบกว้างๆนะครับ

    เจาะจงได้แต่ไม่ถึงลงลึกกับลายละเอียดมาก

    แต่ว่าจะเจอคนแบบไหน การเป็นอยู่จะเป็นอย่างไร ในอนาคต ในใจความคิดผมจะเป็นอย่างไร มันตรงครับ จนผมต้องแปลกใจ บางอย่างในใจผมคิดอย่างไร ไม่ต้องพูดออกมา เหมือนเค้าจะตอบคำถามที่ผมมีในใจได้ โดยที่ผมไม่ต้องเอ่ยปากถามก่อนเลย เหมือนอ่านใจหน่ะครับ

    บางครั้งผมถามว่า ถ้าผมไปทำงานกับคนนี้จะเป็นอย่างไร ไปทำงานอีกคนจะเป็นอย่างไร

    ในทางเลือกทั้ง 2 ลุงเค้าสามารถบอกได้ว่าจะเป็นอย่างไร


    ในกรณีนี้ทำให้นึกถึงที่คุณอาอธิบายให้ผมฟัง ประมาณว่า ถ้าไปทางเลือกที่ 1 จะเจอแบบนี้
    ทางเลือกที่ 2 จะเจอแบบนี้ มีผลลัพท์อยู่แล้ว แต่ว่าจะเลือกไปทางไหนเท่านั้น

    ที่ผมอยากรู้ คือ ถ้าคนเราถ้าฝึกจิตสมาธิถึงในระดับหนึ่งๆ สามารถมองเหตุการณ์ล่วงหน้าได้จริงเหรอครับ ประมาณว่าใครจะไปจะมา เหตุการณ์ที่จะเลือกเดินเลือกไปจะเป็นอย่างไร ไปทางนี้จะเป็นยังไง บางทีถึงกับสามารถอ่านใจคนได้

    มันเป็นไปได้จริงเหรอครับ

    ในใจผมส่วนนึงคิดว่ามันจริงครับ อีกส่วนคิดว่ามันเป็นเรื่องที่มันไม่หน้าจะเป็นไปได้


    ขอความเห็นของ พี่ ป้า น้า อา พ่อ แม่ พี่ น้อง

    และทุกๆท่านที่ผ่านมา คิดเห็นกันอย่างไร แชร์กันหน่อยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2011
  9. MagicCarpet

    MagicCarpet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +81
    อยากจะทราบอีกอย่างครับ

    การที่คนเราจะสัมผัสจิตเดิมแท้ ของตนเองที่แท้ๆจริงนั้น นอกจากการฝึกสมาธิฝึกจิตแล้ว ยังมีวิธีนอกเหนือจากนี้หรือไม่

    เช่น ใช้การเหนี่ยวนำของพลังงานที่มีมากกว่าเราเป็นตัวดึงเราไป โดยไม่ต้องเสียเวลาจากการฝึกมากกว่าเดิม

    หรือว่าต้องใช้จากการฝึกฝนความพยายามของตัวเองล้วนๆ ไม่สามารถให้ใครมาช่วยได้





    อีกอย่างนะครับ อันนี้เล่าสู่กันฟัง ใครจะว่าผมเพ้อก็ได้นะครับ หรือผมอาจจะกินมาก นอนมาก อ่านมากไปก็ไม่ว่ากัน

    เมื่อคืนฝันว่าพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกัน 7 ดวง ในฝันมีเสียงว่าถึงเวลาอพยพแล้ว ได้เวลาแล้ว

    แต่ก็อย่างว่าครับ อ่านของคนอื่นมาหลายคน เค้ามาเล่าว่าฝันแบบนู้นแบบนี้ เห็นเลขนู้นเลขนี้ ในใจเรายังคิดเลย มันบังเอิญ ไม่ก็เพ้อไปแล้วแน่เลย ใครมาอ่านเจอว่าผมเพ้อ ไอ้นี่เพ้อ ก็ไม่ว่ากันครับ แค่เล่าสู่กันฟัง

    แต่ที่ผมสังเกตุจากการฝันของผมก็คือเมื่อผมสงสัยเรื่องอะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกับจิตวิญาณ หรือสงสัยว่าอะไรต่างๆเกิดขึ้นมาได้อย่างไร จะเกิดความฝันประเภทนี้อยู่บ่อยๆ

    มันไม่เหมือนความฝันธรรมดาตรงที่ ถ้าผมฝันธรรมดา ผมจะไม่ค่อยใส่ใจกับมัน แล้วก็ลืมมันไป จากการใช้ชีวิตประจำวัน

    แต่ฝันแบบนี้ จะฝันตอนใกล้ๆตื่น
    พอฝันจบ ตัวเองจะสะดุ้งตื่นมาทันที แล้วใจก็ต้องคิด เก็บไปคิดทั้งวัน มันแปลกดีเหมือนกันครับ

    ผมไม่ได้มาต้องการสื่อว่าผมมีพลังพิเศษหรืออะไรนะครับ แค่ใจของผมเอง มันบอกว่า มันไม่ธรรมดา

    แต่อีกใจก็คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่มีจริง เกิดการที่ร่างกายพักผ่อนน้อย กินมาก นอนมาก หรือว่าทำอะไรมากไปหน่อย


    ที่เล่ามาไม่ได้อะไรครับ แค่อยากเล่าสู่กันฟัง ไปคุยกับคนข้างนอก มีแต่คนบอกว่า "มึ-บ้าไปแล้ว" (ขออภัยที่ไม่สุภาพครับ)


    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ
     
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เรื่องเกี่ยวกับ "กาลเวลา" ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคตก็ตาม
    ขอแนะนำให้ไปอ่านกระทู้นี้นะครับ

    ข้อความจากต่างมิติ - การท่องกาลเวลา, การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอดีต และธรรมชาติของกาลเวลา
    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา.266549/


    อาจจะเข้าใจยากสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าได้ไอเดียแน่ๆ และมุมมองที่เรามีต่อโลกจะ "เปลี่ยนไป" เลยทีเดียว

    ส่วนเรื่อง "ฝึกจิต" เดี๋ยวน่าจะมีผู้รู้ท่านอื่นๆ เข้ามาแชร์ไอเดียให้ฟังบ้าง ในไม่ช้านี้กระมังครับ

    ข้างล่างนี้คือตัวอย่างบางตอน ของข้อความที่แนะนำให้ไปอ่านนะครับ
    .......................................................................


    จิตสำนึกหรือความตระหนักรู้ (Consciousness) คือเครื่องยนต์ของทุกสรรพสิ่ง ทั้งที่เป็นสสารและปฏิสสาร
    และมันก็คือตัวที่ทำให้เกิดโลกแห่งความเป็นจริง หรือภพภูมิต่างๆบนโลกของพวกคุณ

    แต่พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า ไม่เพียงแต่บนดาวเคราะห์เหล่านั้น
    จะคับคั่งไปด้วยสิ่งมีชีวิตเท่านั้นนะ แต่ตัวดาวเคราะห์เอง
    และดวงดาวอื่นๆทั้งหมด รวมถึงอนุภาคทั้งหมดที่อยู่ในอวกาศ
    ก็คือสิ่งมีชีวิตที่มีความตระหนักรู้หรือมีจิตสำนึกเองด้วย
    และแม้แต่ “ความว่างเปล่า” เอง ก็คือสิ่งมีชีวิตด้วย

    ตอนนี้พวกคุณกำลัง “ฝัน” อยู่ พวกคุณกำลังฝันว่าได้เป็นมนุษย์อยู่
    แต่ความจริงแล้ว พวกคุณคือจิตวิญญาณที่ทรงพลังอำนาจ
    ที่กำลังสวมใส่เครื่องกรองอยู่

    พวกคุณคือประกายอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้สร้าง
    ที่กำลังเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งโลกใบนี้อยู่

    โลกแห่งความเป็นจริงทั้งหมดที่มีจำนวนมากมายของแต่ละคน
    จะประสานมิติรวมกันเป็นตัวตนรวมขึ้นมา โดยมี “จิตใต้สำนึก” เพียงหนึ่งเดียว
    ที่คอยทำหน้าที่เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างชั้นต่างๆ
    ของความเป็นตัวตนรวมเหล่านี้
    และนี่คือกระบวนการที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
    ........
    กาลเวลาคือมายาการที่ถูกสร้างขึ้น และแรงโน้มถ่วง, อัตราการหมุนรอบตัวเองของโลก, พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า
    และการเรียงตัวกันของเทหะวัตถุบนท้องฟ้า คือส่วนประกอบของการแสดงตัวตนของมัน

    ........
    กาลเวลาที่พวกคุณกำลังรับรู้อยู่นี้ มันเป็นเพียงแค่
    การรับรู้อย่างหนึ่งของพวกคุณเท่านั้นเอง

    .......
    พวกเราขอยืนยันกับพวกคุณว่า เมื่ออยู่ภายนอกขอบเขตของความเป็นทวิภาวะแล้ว
    กาลเวลาไม่ได้เป็นเส้นตรงอย่างที่พวกคุณเชื่อแต่อย่างใดเลย


    แต่ถึงแม้ว่าจะอยู่ภายใต้เลนส์กรองแสงแห่งทวิภาวะเองก็ตาม มันก็ยังมีจุดบางจุดบนโลกของพวกคุณ
    ที่มีการเหลื่อมซ้อนกันของมิติต่างๆเกิดขึ้น จนทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของกาลเวลาเกิดขึ้นได้ และก็กำลังเกิดขึ้นอยู่



    พวกคุณรู้ไหมว่า บนดาวเคราะห์โลกทางกายภาพดวงนี้
    ที่พวกคุณเข้าใจว่าพวกคุณเป็นเจ้าของมันอยู่นี้
    มันยังมีโลกในมิติอื่นๆอีกมากมายที่ซ้อนทับกันอยู่
    โดยมีจุดศูนย์กลางเดียวกัน

    และมันก็มีกลไกทางคลื่นความถี่บางอย่าง ที่จะทำหน้าที่เชื่อมต่อมิติคู่ขนานต่างๆ
    ที่ซ้อนทับกันอยู่เหล่านี้เข้าด้วยกัน

    และกลไกเหล่านี้ก็จะสร้างประตูเชื่อมต่อไปยังกาลเวลาอื่นๆ และโลกแห่งความเป็นจริงโลกอื่นๆ
    ที่ดำรงอยู่ร่วมกันในพื้นที่เดียวกัน แต่ต่างมิติกัน ให้เข้าด้วยกันด้วย


    ดังนั้น ในมุมมองที่สูงกว่าแล้ว กาลเวลาในแบบที่พวกคุณรู้จัก จึงไม่มีอยู่จริง
    .............
    ดังนั้น แม้ว่ากาลเวลาตามแบบที่พวกคุณรับรู้อยู่ในขณะนี้ พวกคุณจะรับรู้แต่เพียงว่ากำลังมีชีวิตอยู่
    ใน “ภพชาตินี้” เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกคุณกำลังมีชีวิตอยู่ในทุกๆภพชาติพร้อมๆกันหมด
    ในเวลาเดียวกัน
    .......
    โปรแกรมที่ทำให้รับรู้กาลเวลาว่าเป็นเส้นตรงนี้ มันมีอิทธิพลต่อรูปแบบการเลือก, การแสดงออก
    และการรับรู้ของมนุษย์เป็นอย่างมาก ที่มนุษย์เองหลงเข้าใจว่ามันเป็นรูปแบบ “ปกติ” ของตัวเองไปแล้ว นั่นแหละ



    แต่พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า “แหล่งกำเนิดพลังงานของโลกแห่งความเป็นจริง”
    ซึ่งเป็นที่ที่ทุกๆชาติภพมารวมกันอยู่ “ไม่ได้ถูกสลักไว้บนหิน” ซึ่งนั่นหมายความว่า
    ประสบการณ์ต่างๆของพวกคุณไม่ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแต่อย่างใดเลย

    เพราะว่าพวกคุณสามารถเลือกที่จะมีประสบการณ์แบบไหนก็ได้
    จากทางเลือกแห่งความเป็นไปได้ ที่มีอยู่แล้วนับอนันต์


    และนอกจากนี้ ทั้งตัวเอกภพเอง และสิ่งมีชีวิตทุกๆชนิด
    ที่อาศัยอยู่ทั้งภายในและภายนอกเอกภพนี้
    ต่างก็กำลังถูกสร้างขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา “ในปัจจุบันขณะนี้”
    พร้อมๆกันหมด และในเวลาเดียวกันด้วย



    และถึงแม้ว่าในมิติที่ 3 ของพวกคุณ จะถูกออกแบบมาให้รับรู้กาลเวลาแบบเป็นเส้นตรงก็ตาม
    แต่ว่าพวกคุณ ไม่เพียงแต่จะมีความสามารถ ที่จะออกไปนอกโปรแกรมทางกายภาพนี้ได้เท่านั้นนะ
    แต่พวกคุณยังสามารถทำแบบนั้นได้ โดยไม่มีข้อจำกัดอีกด้วย



    ในขณะที่อาศัยอยู่ใน “ความตระหนักรู้” แบบมนุษย์โลกอยู่นี้ ร่างกายเนื้อของพวกคุณ
    จะทำงานโดยจดจ่ออยู่กับประสบการณ์ทางโลกอย่างมาก

    แต่เมื่อใดก็ตามที่ความตระหนักรู้ทุกๆระดับของร่างกายเนื้อนี้มารวมตัวกัน
    และหันมาจดจ่ออยู่กับเครือข่ายแห่งประสาทสัมผัส
    และเครือข่ายแห่งการสื่อสารของมันเอง ทั้งในระดับปกติ
    และในระดับพิเศษได้แล้วหละก็ พวกคุณก็จะสามารถรับรู้สิ่งต่างๆได้
    ในแบบที่ไม่สามารถรับรู้ได้จากประสาทสัมผัสทางกายภาพตามปกติ



    (สรุปว่า ณ.สภาวะที่จิตรวม หรือสภาวะที่มีสติสัมปชัญญะเต็มเปี่ยมบริบูรณ์
    เราก็จะสามารถมีสัมผัสพิเศษที่เหนือกว่าแบบธรรมดาได้ ใช่หรือเปล่าหนอ? น่าจะใช่นะผมว่า – ผู้แปล)
    ...........
    พวกเราจะพูดถึงเรื่องที่ว่า พวกคุณสามารถเขียนบทชีวิตของตัวเองขึ้นมาเองได้
    และพวกคุณก็สามารถกลับไปแก้ไขบทชีวิตของตัวเอง
    ทั้งที่อยู่ในอดีตและที่อยู่ในอนาคตได้อีกด้วย
    ......

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขอแถมตัวอย่างบางตอนให้อีกนิดหนึ่งนะครับ

    ..............

    พวกคุณหลายคน ก็เคยเดินทางข้ามกาลเวลามาแล้วบ่อยๆ ผ่านทางความฝัน
    ซึ่งกุญแจสำคัญที่จะทำให้ได้ดีก็คือ การพัฒนาความมีสติสัมปชัญญะ



    จริงๆแล้ว มันมีกฎทางฟิสิกส์อยู่หลายข้อที่เกี่ยวข้องกับการท่องกาลเวลาและอวกาศ
    ซึ่งในที่สุดแล้วมนุษย์ก็จะค้นพบกฎเหล่านี้เอง และเมื่อถึงวันนั้น มนุษย์ก็จะมีความเข้าใจ
    เกี่ยวกับสิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นขอบเขตที่แบ่งกั้นระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตอยู่อย่างหนาแน่นนี้มากขึ้น

    และพวกคุณจะรู้ว่ามันเป็นเพียงมายาการที่ถูกสร้างขึ้นมา จากข้อจำกัดในการับรู้ด้านมิติของพวกคุณเองเท่านั้น
    เพราะว่าพวกคุณกำลังเป็นมนุษย์ที่อยู่ในโลกทางกายภาพแห่งความเป็นทวิภาวะนั่นเอง

    จริงๆแล้วมันเป็นแค่เลนส์ๆเดียวที่ฉายภาพมายาแห่งกาลเวลาแบบเป็นเส้นตรงขึ้นมา
    และนี่เองคือต้นตอของสาเหตุที่ทำให้มนุษย์มีความเชื่อว่าเมื่อชั่วขณะหนึ่งได้เกิดขึ้นและได้ผ่านไปแล้ว
    มันจะผ่านไปตลอดกาล แล้วจากนั้นชั่วขณะถัดไปก็จะผ่านเข้ามา แล้วมันก็จะผ่านเลยไป
    และหายสาบสูญไปกับความลึกลับของอดีตเฉกเช่นกัน


    พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่-เป็นอยู่
    ในโลกทั้งมวลนี้ (Omni-Earth)
    จริงๆแล้ว รวมถึงที่มีอยู่-เป็นอยู่ในอนันตจักรวาลนี้ด้วยซ้ำไป
    พวกมันมีอยู่-เป็นอยู่พร้อมๆกันหมด ในเวลาเดียวกัน


    อดีต,ปัจจุบัน และอนาคต จะปรากฏแก่ผู้ที่อยู่ในมิติที่ 3 เท่านั้น
    และโปรแกรมต่างๆ ที่ทำหน้าที่แบ่งแยก “ไฟล์กาลเวลา” ยุคต่างๆ
    ที่อยู่ภายในโลกทั้งมวลนี้ออกจากกัน เราก็สามารถเข้าไปดูมันได้ด้วย


    ........
    อดีตและอนาคต ตามแบบที่พวกคุณเชื่อว่ามันเป็น พวกมันดำรงอยู่ในรูปแบบของ “ชุดของตัวรับแม่เหล็กไฟฟ้า”
    (series of electromagnetic receptors) ที่ถูกใส่ไว้ในส่วนที่เป็นคริสตัลไลน์ของสมองของร่างกายเนื้อของพวกคุณ
    รวมถึงถูกใส่เข้าไปในสนามพลังอัลตร้าไวโอเลตของจิตของพวกคุณด้วย


    ซึ่งรหัสแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ สามารถถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้
    และอันที่จริงแล้วพวกมันก็กำลังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว



    จุดหมายปลายทางในชีวิตของพวกคุณที่พวกคุณวาดหวังไว้ มันไม่ได้เป็นทางวันเวย์และเป็นเส้นตรงแต่อย่างใด

    ตอนนี้พวกคุณกำลังสร้างอดีตอยู่ พอๆกับการสร้างปัจจุบัน และอนาคต
    เพราะฉะนั้น อดีตจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะเปลี่ยนแปลงได้
    และก็ไม่ได้แน่นอนตายตัว พอๆกับอนาคตนั่นแหละ


    กระบวนการทางจิตและความเชื่อของพวกคุณ เป็นตัวสร้างอดีตของพวกคุณ
    และมันก็มีอดีตอยู่มากมายหลายเวอร์ชั่น พอๆกับที่อนาคตมีมากมายหลายเวอร์ชั่นนั่นแหละ



    พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า ถ้าชนรุ่นหลังของพวกคุณ ถูกสอนให้เชื่อมาตั้งแต่เด็กเหมือนๆกันหมดว่า
    อาณาจักรโรมันปกครองโลกมานานจนถึงศตวรรษที่ 17 แน่นอนว่า อดีตนั้นก็จะกลายมาเป็นความจริงด้วย
    และหลักฐานต่างๆที่สอดคล้องกับความเชื่อนี้ ก็จะถูกค้นพบและยืนยันความเชื่อนี้ด้วย


    และถึงแม้ว่ามันจะเป็นอดีตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับอดีตที่คนรุ่นคุณได้สร้างขึ้นมาแล้วก็ตาม
    แต่ทั้งสองอดีตนี้ ก็จะกลายเป็นความจริงทั้งคู่ อดีตทั้งคู่นี้อาจจะแยกจากกัน
    แต่มันก็จะมีอยู่จริงในโปรแกรมแห่งกาลเวลาที่เป็นมายาการนี้



    ในฐานะของมนุษย์ที่กำลังอยู่ในโลกแห่งความเป็นทวิภาวะนี้ พวกคุณยอมรับโดยดุษฎีแล้วว่า
    การกระทำในปัจจุบันจะส่งผลกระทบหรือเปลี่ยนแปลงอนาคตได้
    แต่พวกคุณยังไม่รู้หรอกว่า การกระทำในปัจจุบัน ก็สามารถส่งผลกระทบ
    หรือเปลี่ยนแปลงอดีตได้ด้วยเช่นกัน

    เพราะว่าอดีตไม่ใช่สิ่งที่แตะต้องไม่ได้ หรือถูกตัดขาดจากผลของการตัดสินใจในปัจจุบันของพวกคุณ



    พวกเราอยากจะบอกความจริงที่ยิ่งใหญ่นี้แก่พวกคุณ เพื่อให้พวกคุณนำไปใคร่ครวญดู
    ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณกำลังกระทำอยู่ในปัจจุบัน มันจะไปส่งผลกระทบต่ออดีตของพวกคุณด้วยเสมอ

    และเพราะเหตุนี้ พวกคุณจึงสามารถลบล้างความเจ็บปวด
    และการกระทำที่ไม่ถูกต้องในอดีต หรือในอดีตชาติได้
    จากปัจจุบันขณะนี้ด้วย


    ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ พวกเราก็อยากให้พวกคุณทุกคนทำแบบนั้นด้วย


    ช่องทางผ่านของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เป็นตัวสร้างมายาการขึ้นในสมองของพวกคุณ
    ถูกหล่อหลอมขึ้น และถูกหุ้มห่ออยู่อย่างมิดชิดและอย่างสมบูรณ์แบบ โดยพวกคุณแต่ละคนเอง
    และในแบบเฉพาะตัวของตัวเอง ดังนั้น อดีตที่น่าจะเป็นไปได้ จึงสามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้
    และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้น ก็เป็นเรื่องปกติมากๆด้วย



    การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ จะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติใน “จิตใต้สำนึก”
    ซึ่งพวกคุณสามารถเรียนรู้ที่จะทำแบบนั้นได้อย่างมีสติสัมปชัญญะ
    โดยการเข้าไปทำในสภาวะ “การตระหนักรู้ระดับควอนตั้ม”
    (Quantum Consciousness) ผ่านทาง Mer-Ka-Na

    (
    จิตใต้สำนึก – ผู้แปล)



    ความเป็นเส้นตรงของอดีต เป็นเพียงความทรงจำของพวกคุณเท่านั้นเอง เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว
    พวกคุณมีการ “ปรับเปลี่ยน” ความทรงจำเกี่ยวกับอดีตของพวกคุณ ให้สอดคล้องกับ
    ประสบการณ์ในปัจจุบันขณะของพวกคุณอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว มันเป็นการเปลี่ยนรูปแบบไปตามเหตุการณ์
    ที่เกิดขึ้นในชั่วขณะนั้นๆ ตามเหตุปัจจัยในช่วงขณะนั้นๆ



    นักสะกดจิตของพวกคุณรู้เรื่อง “ความทรงจำเทียม” ที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมานี้ดี
    พวกเขารู้ดีว่าสามารถกลับไปเปลี่ยนเหตุการณ์ในอดีต แล้วปลูกฝังมันลงไปใหม่ในสมองของมนุษย์ได้
    ผ่านทางการสะกดจิตในระดับลึก

    และในความเป็นจริงแล้ว ความทรงจำเหล่านี้ รวมทั้งผลกระทบของพวกมันที่มีต่อสิ่งต่างๆ
    ก็ค่อนข้างจะเป็นจริงเป็นจังอย่างมากด้วย


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)



    ดังนั้น อดีต ปัจจุบัน และอนาคต จึงถูกสร้างขึ้นมาใหม่อยู่ตลอดเวลา
    ตามความเชื่อ, ทัศนคติ และเหตุปัจจัยของแต่ละบุคคล และจงจำไว้ว่า
    สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ คือ “การสร้างความเป็นจริงขึ้นมาใหม่แบบ real-time”

    ไม่ใช่การสมมุติขึ้นแต่อย่างใด



    ความเป็นเด็กเล็กของมนุษย์ จริงๆแล้วก็ยังอยู่ในตัวมนุษย์ที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วนั่นแหละ
    ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนก็ตาม แต่ว่าความเป็นเด็กเล็กที่อยู่ข้างในที่ว่านั้น
    ก็เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน ไม่ได้ถูกตรึงไว้อย่างถาวร กับภาพลักษณ์ที่มันเคยเป็นแต่อย่างใด
    เพราะว่าเด็กเล็กที่อยู่ในตัวผู้ใหญ่ ก็ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทุกวันๆ
    เช่นเดียวกับช่วงที่เป็นวัยรุ่น, ช่วงที่เป็นวัยผู้ใหญ่ และช่วงที่เป็นวัยชราในอนาคต


    ...........
     
  12. cosmiccell

    cosmiccell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +253

    ไม่ใช่ผู้รู้นะครับ แค่มาพูดคุย และแชร์กัน เนื่องจากวัยใกล้เคียงกัน :d
    ถ้าอยากทราบ และเข้าใจจริงๆ ต้องหาประสบการณ์ด้วยตนเองครับ
    ปกติแล้ว เราจะรับรู้ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 สิ่งใดไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้สัมผัส เราจะบอกตัวเองว่าไม่มี
    แต่ยามนอนหลับ ที่จิตเราละการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 โดยเฉพาะช่วงใกล้ตื่น ความฝันบางตอน บางช่วง หากเราจดจำได้ จะเป็นเรื่องราวในอนาคตอันใกล้ที่จะเกิดขึ้นของตนเอง หรือ ผู้อื่น
    หมายความว่า เรารู้อนาคตใช่หรือไม่?
    จริงๆแล้ว เราเพียงรับรู้เส้นทางความเป็นไปได้เส้นทางหนึ่งของชีวิต ที่เกิดจากการเลือกมาก่อนแล้ว การเลือกที่เกิดจากความเชื่อ ความรู้สึกของเราเอง หรือของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
    เมื่อเราคิด เราเชื่อ เท่ากับว่า เราได้เลือกเส้นทางเส้นหนึ่ง ที่มีอยู่มากมายเป็นอนันต์
    พอเราเผลอๆที่จะไม่รับรู้ด้วยความเคยชิน จากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ข้อมูลที่เกิดจากความคิด ความเชื่อ ของเรา ก็จะมีช่องทางสื่อสารมาทาง การปิ๊งแว่ปในยามตื่น และข้อมูลความฝัน ในยามหลับ

    ผู้ที่ฝึกสมาธิ มาด้วยความชำนาญ ที่ใช้ประสาทสัมผัสที่นอกเหนือจากประสาทสัมผัสปกติ จึงสามารถสัมผัสกับเส้นทางความเป็นไปได้ที่เกิดจากความน่าจะเป็นที่จะเกิด ของผู้อื่นได้ไม่ยาก เหมือนกับตัวเรา ที่จะรับรู้เรื่องราวของตนเอง ของผู้อื่น ผ่านทางความฝัน ล่วงหน้า

    เพราะนั่นเป็นธรรมชาติของจิตวิญญาณ ที่อยู่นอกเหนือ กาลเวลา

    ps: ลองวางความคิด ความเชื่อ ลงชั่วคราวนะครับ แล้วลองนึกว่า ตัวเราเองมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าที่ไหนที่ความคิดไปถึง ไม่มีที่ไหนเลย ที่ไม่มีตัวเรา

    แล้วจะเริ่มเข้าใจคำว่า กาลเวลา




     
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    พี่เซลล์ พี่โซ่ มะเดรด หลานชยุต วัยเราคงใกล้เคียงกันหมดล่ะ อิอิ

    วันนี้ก่อนตื่นก็ฝันแปลกๆเหมือนกันครับ
    (สงสัยจะอ่านคำถามน้องพรมวิเศษก่อนนอนเข้าไป)

    เหมือนกับว่ามีเหตุการณ์นึงที่เกิดขึ้นน่ะครับ (ในที่นี้คือการจากไปของสัตวฺเลี้ยง)
    มีภาพเหตุการณ์ของอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ปรากฎอยู่ต่อหน้าพร้อมกันๆหมดเลย
    เห็นเค้าเกิด วิ่งเล่น เห็นว่าเรากำลังดูแลให้อาหาร เห็นเหตุการณ์ขณะที่เขาจากไป ฯลฯ

    แล้วก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า "เราจะบอกความลับ" เหมือนใครคนนี้จะเหนี่ยวนำให้เราเข้าไปเพ่งดูที่ตำแหน่งปัจจุบันน่ะครับ...เราก็พุ่งปรู๊ดดดเข้าไปทันที
    พอเข้าไปที่หมวดปัจจุบัน ก็พบช่องหน้าต่างถูกเปิดทิ้งไว้สามบาน

    - มีภาพหนึ่งที่เราปล่อยให้เค้าจากไปโดยที่เราไม่สนใจใยดี แล้วมานั่งเสียใจที่ไม่ได้ดูแล
    - อีกภาพนึง เห็นเขาเผชิญกับคนเลื้ยงใจร้าย ทุบที ถูกทรมาน อดมื้อกินมื้อ
    - และในช่องสุดท้าย เราดูแลให้ความรักเค้าเต็มที่ (แต่เค้าก็ยังจากไปอยู่ดี)

    พอเห็นแบบนั้น ก็ปรารถนาที่จะเห็นดวงวิญญาณของเค้าขณะนี้ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง?
    ก็ปรากฎภาพแสงสว่างสุกใส ส่องออกมาจากต้นไม้ข้างรั้วบ้าน....ทำให้รู้สึกเบิกบานไปด้วยครับ

    สุดท้าย... มีเสียงบอกว่า "จะแก้ไขอะไรอีกไหม?" ก็ตกใจตื่น...ซะงั้น..แป่ว อิอิ
     
  14. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ยินดีจ๊ะหลาน

    ป้า เอ๊ย!!! อาค่อนข้างขี้โม้ เลยคุยยาว
    และชอบการตั้งคำถามของหลานจัง
    มันแสดงให้เห็นถึงการใช้ปัญญาในการพิจารณา
    ไม่ได้ต้องการคำตอบแค่ว่า Yes or No จริงหรือไม่ ใช่หรือเปล่า

    กระบวนการในการหาความรู้ต้องเปิดใจให้กว้าง
    รับและส่งอย่างไม่มีอคติ
    แล้วหลานจะได้รับสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง

    ...............................................................

    ที่พวกลุงๆ เขาแนะนำมา
    ล้วนมีคำอธิบายดีๆจากมุมมองและแง่คิของแต่ละท่านอยู่แล้ว
    โดยเฉพาะ บทความต่างๆที่อาชยุต แนะนำมา ก็หาอ่านทำความเข้าใจดูน๊ะจ๊ะ

    น้อง cosmiccell ก็ศึกษาแบบลงลึกกับเรื่องความฝัน

    ปู่ทวด mead สงสัยก็ไต่ถามได้
    ท่านอยู่ในเวบนี้มานมนานมากแล้ว นานมากกก
    เป็นปู่ทวดได้แล้ว
    ท่านจึงรู้ไปโหม๊ด... จ๊ะหลาน

    ...............................................................

    เรื่องการอ่านใจผู้อื่น ทำได้จริง เพราะอารมณ์ความรู้สึกเป็นพลังงาน
    มันวนเวียนถ่ายทอดผ่านกันไปมาอยู่เสมออะจ๊ะ เหมือนลมหายใจอะ
    แต่ที่เรารับรู้ไม่ได้ เพราะจิตเราไม่ว่างและนิ่งพอ ขยะมันเยอะ
    การฝึกจิตและสมาธิ ก็เพื่อขัดเกลาจิตให้บริสุทธิ์
    จึงเข้าถึงพลังที่แท้จริงของพลังงานต้นกำหนิดที่มาจากแหล่งเดียวกันได้

    เรามีจิตที่มาจากพลังงานต้นกำเนิดแหล่งเดียว
    เพราะงั้น คำถามของ คุณAFIKLIFI ที่ว่าทำไมเราจึงรู้สึกว่า
    รูปธรรมต่างมิติจะมีความสามารถเหนือกว่าเรา
    ไม่มีใครเหนือใครค่ะ ทุกรูปธรรม ทุกสรรพสิ่งต่างมาจากแหล่งเดียวกัน

    มันแตกต่างกันตรงหน้าที่ ที่เลือกมาทำและภาระกิจนั้นเท่านั้นค่ะ

    .....................................................................

    หากเรายังเปรียบเทียบค่ากันอยู่
    ตัดสิน และวิพากษ์ วิจารณ์ ถูก ผิด ดี หรือ ไม่ กันอยู่
    เราจะไม่มีวันเข้าถึงจิตเดิมแท้ของต้นกำเนิดได้เลยค่ะ

    ปล...ยาวอีกแล้ว เห็นมะ
     
  15. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    เห็นรูปผีเสื้อ คุณkindred แล้วจำได้ว่ามีความหมายที่ช่วงหนึ่ง
    ก็มี crop circle และจักรวาลที่เป็นรูปผีเสื้อ
    ขอถามอีกที่ว่าความหมายนั้นเป็นอย่างไร พอดีไปเจอที่ใหม่
    เป็นภูเขารูปผีเสื้อ ส่งรูปมาให้ดูด้วย ลากเส้นล้อมสีเหลืองเอาไว้
    ส่วนสีฟ้าเป็นน้ำตก


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • MT.jpg
      MT.jpg
      ขนาดไฟล์:
      252.2 KB
      เปิดดู:
      454
    • B-man.jpg
      B-man.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.9 KB
      เปิดดู:
      62
    • CropCircleButterfly.jpg
      CropCircleButterfly.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.2 KB
      เปิดดู:
      57
  16. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    เป๊ะ..ค่ะ เป๊ะ....piggi


    ป้าคะ..ป้า พูดน่ะ มันง่ายนะป้า...เรื่องให้ละการเปรียบเทียบอ่ะ..ป้า

    ตรงนี้ ป้าเดรด อายุต ลุงมี๊ด อาเซลล์ และท่านอื่นๆ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ...



    ปล.หนูขอเป็น หมูบิน แทนผีเสื้อบิน ก็แล้วกันนะคะ...*-*


    piggipiggipiggi ฟิ้วววว...ฟิ้วววว.ฟิ้วววว
     
  17. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    จากที่คุณแม่นายมลถามมา
    เดรดของยกข้อความ
    ที่คุณชยุตเคยโพสต์ไว้มาแปะอีกครั้งนะคะ

    และ จากความหมายของสัญลักษณ์รูปผีเสื้อ
    Animal Totem: Butterfly

    <TR><TD width="690" colspan="2">BUTTERFLY

    Transmutation, Dance of Joy
    The butterfly is the symbol of change, joy and color.
    It is the symbol of the soul.
    They remind us that life is a dance,
    not to take things quite so seriously.
    They also remind us to get up and move.
    Dance brings the sweetness of life.


    Butterflies bring color and joy to your life.
    Look at them and remember what joy is in your life,
    if its a lot or a little, it is still joy.
    They teach us that growth and transformation does not have to traumatic;
    it can occur gently, sweetly, joyfully.
    If a butterfly totem has shown up in your life,
    make note of the most important issues in your life,
    and see what needs to be changed
    .......................................................................................​



    ------------------------------------------------------------------ ​

    สรุป....โดยส่วนตัวเดรดคิดว่า
    ความหมายทั้งหลายแหล่ของของสัญลักษณ์นี้
    สรุปได้ ถึง การเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด
    โดยวิวัฒน์ไป แบบไม่ยึดติดกับของเก่าอะค่ะ

    เพราะขึ้นตอนของดักแด้ มาเป็นผีเสื้อ มันคือการแปลงร่างเลยอะค่ะ

    ----------------------------------------------​

    เดรดตอบตรงคำถามหรือเปล่าเอ่ย...
    แล้วที่ตรงนั้น คือที่ไหนเหรอคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  18. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ขอบคุณนะคะ คุณเดรค
    แหม...ที่นี้เป็นแหล่งผึ่งพิงทางข้อมูลจริงๆ
    :cool:

    ปล.ที่ตรงนี้เพชรบูรณ์ที่ไปประจำนี่แหละ
    ใกล้ๆ ธรรมสถานหลวงพ่อสีตัดโถ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    อยู่นานไม่ได้หมายความว่าต้องเป็น"ปู่ทวด"เสมอไปนะคับ Pa>มะเดรด
    ตอนนี้พวกเรากำลังย้อนวัยกลับเป็นเด็กๆกันอยู่มิใช่เหรอ อิอิ

    ขอเสริมให้สำหรับน้องพรมวิเศษนิดนึงครับ เรื่องหมอดูหรือการทำนายอนาคตนี่
    นอกจากทางเลือกแห่งความเป็นไปได้ (ที่เหมือนแบบร่างพิมพ์เขียว) ถูกค้นพบหรือรู้เห็นโดยใครก็ตาม สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่า "แม่นยำ" มันก็อาจเกิดขึ้นเพราะความสนใจของเราพุ่งไปหาสิ่งนั้นด้วย ความคิดที่คิดบ่อยๆจะกลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลขึ้นมา เนื่องจากเราก็เป็นผู้สร้างและกำหนดสภาพแวดล้อมของเราขึ้นเองด้วยน่ะครับ

    ความรู้สึกที่ "ว่างเปล่า" ของลุงคนนั้นและตัวเราเอง สามารถบอกข้อมูลบางสิ่งบางอย่างได้ครับ มันแชร์กันอยู่และไม่มีความลับใดๆซ่อนอยู่ หากเราพบกุญแจที่จะไขเข้าไปหามันครับ


    ส่วนเรื่องนี้เอาไงดี......ติ๊กๆๆ
    ทุกๆประเด็นมันจะมีสองประเด็นเสมอ
    จะตอบดี หรือ ไม่ตอบดีเนี่ย คนเราชอบเปรียบเทียบซะด้วยสิครับ อิอิ


    ความเป็นทวิภาวะ...ดำ-ขาว---สว่าง-มืด---สูง-ต่ำ---ไกล-ใกล้ ฯลฯ
    มันอยู่ที่ว่าเมื่อเปรียบเทียบแล้ว สิ่งไหนให้ความรู้สึกที่ดีกว่ากันนะครับ

    การสั่นสะเทือนที่ไม่อยู่ในคลื่นความถี่ของการเปรียบเทียบ
    มันน่าจะอยู่ที่ "ความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกัน" นี่ล่ะครับ
    หากเราเชื่อมโยงทั้งสองสิ่งนี้อย่างตรงไปตรงมา ไม่ส่งแรงต้านทานใดๆออกไป
    มองเห็นว่าทุกสิ่งเป็นของมันเช่นนั้น เป็นธรรมชาติ เราก็ไร้ความกังวลใดๆครับ
    เสมือนอาทิตย์ดวงโตๆ เปล่งแสงส่องสว่างสู่ต้นไม้น้อยใหญ่อย่างทั่วถึง
    ไม่เจาะจงเฉพาะสิ่งใดสิ่งหนึ่ง (ถ้าทำได้บ่อยๆโลกจะดีขึ้นทันตาเลยนะครับ)

    ขอเป็นหมูติดปีกด้วยคน..อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  20. su_ra

    su_ra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +736
    เรื่องที่คุณ MagicCarpet สนใจนั้นมันเหมือนจิกซอว์ มันมีหลายชิ้นส่วน
    ที่ต้องนำมาประติดประต่อกัน เมื่อชิ้นส่วนนั้นเริ่มสมบูรณ์ คุณก็จะเห็นความสอดคล้อง
    เชื่อมโยง ถามว่ามีทางลัดไหม บางครั้งคุณอาจสัมผัสความรู้สึกเหล่านี้ได้อาจมาจากข้อความ
    หรือความสงบที่มาเยือนโดยที่คุณไม่ตั้งใจ แต่มันก็เป็นเพียงชั่วขณะ คุณลองดูรูปที่ผมแนบ
    มาให้ดูสิ มันเป็นรูปแม่เหล็กกับผงแม่เหล็ก คุณคงจำได้ถึงการทดลองทางวิทยาศาสตร์
    เกี่ยวกับแม่เหล็ก เมื่อผงแม่เหล็กจะเคลื่อนไปตามแม่เหล็ก ถ้าเปรียบผงแม่เหล็กเป็นพลังงาน
    ที่อยู่รอบตัวเรา แล้วลองจิตตนาการตัวคุณเองแทนตัวแม่เหล็ก ถ้าคุณเคลี่อนตัวไปทางใหน คุณดูสิ...!!!
    ผงแม่เหล็กเหล่านั้นจะเคลื่อนในทิศทางที่สอดคล้องกับการเคลื่อนตัวของแม่เหล็ก ความน่าจะเป็นมันเกิด
    ขึ้นและสอดคล้องกับการตัดสินใจของคุณ
    มลองใส่ตัวแปรเพิ่มไปอีก ถ้ามีแม่เหล็กอื่นที่อยู่ใกล้ๆกับตัวคุณ(คนอื่นๆ)
    คุณคิดว่า การเคลื่อนตัวของแม่เหล็กตัวหนึ่งจะมีผลกระทบกับรูปแบบความน่าจะเป็นของแม่เหล็กอีกอันหรือเปล่า
    แน่นอน..!!!
    รูปแบบการเปลี่ยนแปลงของตัวคุณมีผลกระทบต่อผู้อื่น ร่างกายมนุษย์โลก มีสนามแม่เหล็กในตัวเอง
    คลื่นพลังงานความคิด ก็สามาตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ แต่ไม่สามารถมองเห็นแต่ก็มีเครื่องมือที่ตรวจวัดได้
    ผมลองใส่ส่วนผสมเพิ่มไปอีก ถ้าคุณเป็นแม่เหล็กที่เข้มข้น(ยิ่งคุณมีจิตใจ.......ผมไม่รู้จะใช้คำใดแทนใครนึกออกช่วยเติมด้วยนะครับ)
    คุณก็ยิ่งมีพลังและผลกระทบต่อแม่เหล็กอื่นๆด้วย แต่ถ้าคุณอ่อนแอ แน่นอนพลังงานที่มากกว่าย่อมมีผลกระทบกับคุณ
    ไม่มากก็น้อย เอามาแชร์แบ่งปันกันครับ
    ขอบคุณ คุณชยุตนะครับที่นำข้อความจากครายออกมาแปล คุณ เดรด คุณโซ่ คุณ มีด คุณ เซล์ ขอบคุณลุง,ป้า,น้า,อา ที่นำข้อมูลมาแบ่งปันกัน :d
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...