สับสน ท้อแท้ ทำไงดี

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย kiddee108, 15 มีนาคม 2011.

  1. kiddee108

    kiddee108 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ตั้งแต่เรียนจบ ฉันทำงานมาหลายอย่าง กำลังรุ่งๆ อยู่ๆก็มีเหตุ ดับซะงั้น ลงทุนทำกิจการ ก็ล้มไม่เป็นท่า หลายๆครั้ง เริ่มมีหนี้สินติดตัว ไปทำงานบริษัทคิดว่าจะแบ่งเบาภาระหนี้ได้บ้าง แต่เปล่าเลยหลายปีผ่านไป หนี้ยังคงเท่าเดิมเพราะจ่ายได้แต่ดอกเบี้ย
    ตัดใจลาออกจากงาน ลงทุนค้าขายด้วยทุนน้อยๆ ก็ปรากฎว่าขายดีมาก เริ่มมีกำลังใจขึ้นมา
    แต่เหตุการณ์บ้านเมืองวุ่นวาย ข้าวของแพง แพงจนขาดตลาด ต้นทุนสูงขึ้น กำไรน้อยลง ต้องคิดหาของอื่นๆมาขายเสริม เจอช่วงปิดเทอมอีก คนซื้อน้อยลง รายได้เริ่มไม่พอจ่ายหนี้ ที่เริ่มพอก กำลังใจอยู่ที่ความหวังตอนเปิดเทอม ยอดขายน่าจะดีขึ้น
    มีคำกล่าวที่ว่า ”คิดใหญ่แล้วไปให้ถึง” ”วางเป้าหมายให้ถึงดางดาว ถ้าไม่ได้คุณก็ยังอยู่บนท้องฟ้า”ถ้าเป้าหมายเล็กๆคุณกจะได้สิ่งเล็กๆยิ่งกว่า
    ยังไงก็ยังมีความหวังอยู่ เพื่อพ่อแม่ จะได้ภาคภูมิใจ
    หลังจากเกิดเหตุการณ์วิกฤตโลกต่างๆ คำทำนาย พยากรณ์ ต่างๆ ฉันเริ่มไม่แน่ใจ ไม่ได้กลัวที่จะตาย แต่กลัวตายก่อนจะทดแทนพ่อแม่ได้สำเร็จ
    ในความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ในญี่ปุ่น มีคนตาย อดอยาก แย่งกันกิน กันใช้ น้ำมันแพง มีเงินก็ซื้อไม่ได้
    ถ้าหากเกิดขึ้นกับบ้านเราล่ะ แค่น้ำมันปาล์มขาดตลาด ก็เกิดวิกฤต ไม่มีใครควบคุมได้เลย
    เราจะทำไงถ้ารถไม่มีน้ำมัน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำใช้ ข้าวของยิ่งกว่าแพงคือ ไม่มีขาย ผู้คนอดอยากแย่งกันกิน กลัวเหตุการณ์แบบนี้ที่สุด
    คนเราเกิดมาทำไม เคยถามตัวเองหลายครั้ง เกิดมาเพื่อแค่ตายไปในที่สุดหรือ จะช่วยสร้าง ช่วยเหลือสังคมได้อย่างไรบ้าง เพื่อที่จะคุ้มค่าที่ได้เกิดมา
    กลับมามองดูตัวเองทั้งๆที่คนอื่นๆมองว่าเราเป็นคนมีความสามารถ แต่เราก็ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ประมาณ ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด หนี้สินรุงรัง หน้าที่ของลูกยังไม่สมบูรณ์ จะไปทำประโยชน์อะไรแก่สังคมได้บ้าง

    รู้สึกสับสน เหลือเกิน
    มีภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง ดิ้นไปไหนไม่ได้ ต้องหาเงินๆๆๆๆๆ ใช้หนี้
    ขณะเดียวกัน เงินไม่ใช่ทุกสิ่ง เงินไม่ใช่ความสุขแท้จริง

    ฉันจะทำอย่างไรดี หากเวลาของเรา(โลก)อาจจะเหลือน้อยเต็มที
     
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ตอนนี้คุณคงสับสนว่าต้องทำอะไร ควรทำอย่างไร และเกิดมาทำไม ควรปฏิ บัติกับโลกของเราอย่างไร ซึ่งเป็นปัญหาที่หาคำตอบกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทางเดียวที่จะรู้ได้ว่าเราต้องทำอะไร และควรทำอย่างไรเราจะต้องรู้ก่อนว่าแท้จริงแล้วเราคืออะไรกันแน่ คุณลองสังเกตถึงธรรมชาติของคนเราสิครับ สิ่งแรกที่เราทำก่อนทุกอย่างคือการหายใจ แล้วการหายใจมันสำคัญอย่างไร เพราะเมื่อเราหายใจเราจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้ต้นไม้ และต้นไม้จะปล่อยอ็อกซิเจนให้กับเรา คุณเห็นไหมครับว่าการหายใจคือสิ่งแรกที่เราทำนั้นเพื่อความอยู่รอดของระบบที่ใหญ่ขึ้น และที่ใหญ่ขึ้นไปกว่านี้มากก็คือโลก เราคือส่วนหนึ่งของโลก และถ้าเราดูจากสัญชาตญาณของมนุษย์ที่เข้าใจว่าเป็นสัญชาตญาณการอยู่รอดมันเป็นสัญชาตญาณการอยู่รอดของอะไรกันแน่ คุณลองดูอย่างแม่หมีที่สู้กับเสือเพื่อปกป้องลูกทั้งที่รู้ว่าสู้ไม่ได้ และดูอย่างแม่ที่กระโดดลงน้ำเพื่อช่วยลูกทั้งที่ตัวแม่เองว่ายน้ำไม่เป็น จากตัวอย่างที่ยกมาสัญชาตญาณของมนุษย์นั้นเป็นสัญชาตญาณการอยู่รอดของเผ่าพันธ์ มันไม่มีทางเลยถ้าเราจะต้องเลือกระหว่างความอยู่รอดของตัวเรากับเผ่าพันธ์แล้วเราเลือกตัวเอง ดังนั้นถ้าคุณถามว่าการมีอยุ่ของเรานั้นเพื่ออะไรก็เพื่อทั้งหมดนั่นแหละครับ การอยู่รอดของระบบทั้งหมดเป็นจุดหมายของชีวิต เราก็เหมือนกับจิกซอว์ 1 ชิ้น เป็นส่วนหนึ่งของภาพๆใหญ่ภาพหนึ่ง นี่คือความหมายของเราคือโลก โลกคือเรา และแน่นอนว่าการพูด คิด และกระทำของเราก็มีผลต่อระบบโลก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับที่เห็นได้หรอกครับ เราก็เหมือนกับน้ำ 1 หยดในทะเล ซึ่งไม่ได้มีพลังเท่ากับน้ำในมหาสมุทร แต่ก็คือสิ่งเดียวกัน เหมือนกันในองค์ประกอบ ดังนั้นการกระทำของกลุ่มคนจึงมีผลมากกว่าการกระทำของคนเพียงคนเดียว กรรมของกลุ่มคนเป็นอะไรที่ยังไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ แต่ทรงพลังมาก อย่างเช่นถ้าคุณเป็นคนดีแต่เข้าไปอยู่ในกลุ่มของคนพาลคุณจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นคนพาลได้เลย ดังนั้นพระพุทธองค์จึงสอนว่าอย่าคบคนพาล และกรรมของกลุ่มคนนี่แหละที่ทำให้เกิดสงครามและภัยธรรมชาติต่างๆ คุณอาจจะไม่รู้ว่าสงครามนี้เกิดขึ้นโดยคนจำนวนหนึ่ง เพื่อคนจำนวนหนึ่ง แน่นอนว่าคงไม่มีคนใดคนหนึ่งอยากให้เกิดสงคราม แต่เมื่อเป็นกลุ่มคนแล้วเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ สงครามมันเกิดจากความรุนแรงในจิตใจมนุษย์นั่นแหละครับ อย่างเวลาที่อยู่ดีๆ คุณเห็นคนทะเลาะกันรุนแรง คุณจะหยุดทำทุกอย่างแล้วมอง นี่เป็นเพราะเวลาที่เราเห็นคนทะเลาะกันความรุนแรงในจิตใจของเรามันได้รับการปลดปล่อย ไอ้ความรุนแรงตัวนี้นี่แหละครับที่มันทำให้เกิดสงคราม มันเคยมีการศึกษานะครับว่าช่วงสงครามโลกนั้น คนเครียดน้อยลง คนฆ่าตัวตายน้อยลง คนเป็นบ้าน้อยลง นี่คือจุดประสงค์ของกลุ่มแล้วอย่างผู้นำหัวรุนแรงก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่เป็นเพราะคนส่วนใหญ่เลือกเขาขึ้นไปเขาก็จะไม่มีทางมีอำนาจที่จะทำอะไรเลย ถ้าทุกคนไม่มีความรุนแรงในจิตใจคงไม่ใครเลือกผู้นำหัวรุนแรงกลับกันเขาคงจะถูกมองว่าเป็นคนป่วย แล้วอย่างการที่พระพุทธองค์สอนเรื่องการนั่งสมาธิ มีศีล สมาธิ ปัญญา คนส่วนใหญ่คิดว่าพระพุทธองค์ไม่สนใจเรื่องปัญหาของโลก และคนที่เอาแต่ปฏิบัติธรรมจะไม่สนใจปัญหาของโลก แต่ความจริงแล้วโลกอยู่ได้เพราะคนพวกนี้ เพราะผู้ที่มี ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่มีความรุนแรงในจิตใจที่ยันโลกของเราไว้ เขาถึงเรียกพระอรหันต์ว่าเนื้อนาบุญของโลกไงครับ การเดินขบวนประท้วงนั้นไม่ได้ช่วยอะไรซักเท่าไหร่เลย เพราะกลุ่มคนนั้นไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ มีแต่คนแต่ละคนเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ดังนั้นถ้าคุณอยากที่จะแก้ปัญหาของโลกก็แค่มีศีล สมาธิ ปัญญานี่แหละครับ ส่วนเรื่องที่เป็นหนี้นั้ก็น่าเห็นใจ คุณอยากรู้ว่าเกิดมาทำไมใช่ไหมผมจะบอกแบบไม่อธิบายที่มาว่าคนเราเกิดมาเพื่อรู้จักตัวเอง และในการรู้จักตัวเองนี้เราจะต้องยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น เพราะตัวตนที่แท้ของเรานั้นมันก็ไม่ใช่ร่างกาย ไม่ใช่ความคิด มันเป็นธาตุรู้บริสุทธิ์ เป็นนายของทั้งร่างกาย และความคิด และมีธรรมชาติประภัสสร คือเป็นพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบาน คุณจะต้องรู้จักลักษณะ 10 อย่างของจิตพุทธะคือ บารมี 10 เมื่อคุณรู้จักครบแล้วคุณจะรู้จักตัวเอง เหตุการณ์ที่คุณเจอในตอนนี้มันเหมือนกับว่าคุณไม่มีทางเลือกอะไรเลย ทางเลือกที่เหลือมีแต่ทางตันทั้งนั้น ผมจะบอกว่านี่คือโอกาศสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตเลยครับ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่วิญญาณของคุณสร้างขึ้นเพื่อให้คุณมีโอกาศยกระดับจิตสำนึกของคุณให้สูงขึ้น โดยการเปลี่ยนความคิดเคยชินแง่ลบของคุณ ชีวิตของคนๆ หนึ่งจะเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ 6-7 ครั้ง ถ้าคุณสามารถยกระดับจิตใจของคุณในเหตุการณ์ครั้งนี้ได้คุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาลเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2011
  3. Manothong

    Manothong Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +74
    you have to analysis for your finance status that what is big problem with your money. I understanded that all problem with our human is money so you should to look for the problem then solve it gradually.

    I wish you to be successfull in your target

    Manothong
     
  4. kiddee108

    kiddee108 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณทุกท่าน
    สิ่งหนึ่งดับไป ต้องมีสิ่งหนึ่งเกิดมาทดแทนใช่ใหมคะ
    ฟันเฟืองเล็กๆ อย่างเรา มันเล็กมากจริงๆ
    มีอยู่ครั้งนึงที่ฉันป่วยเข้า โรงพยาบาล งานที่กำลังไปได้ดีทุกอย่าง ชะงักในทันที เพราะฉันคือคนเดียวที่ทำงานนี้ได้
    แต่ฉันก็ได้รู้ว่า แม้ในขณะที่เรากำลังจะตาย โลกก็ยังไม่หยุดหมุน โลกยังคงเดินต่อไป รถวิ่งเต็มถนน แม่ค้าขายของ รายการทีวีออกอากาศปกติ ตัวเราไม่ได้เป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล
    เป็นแค่ผงฝุ่นเล็กๆ

    อย่างไรเสีย ฉันก็ต้องทำหน้าที่ ให้ดีที่สุด
    หวังว่าคงมีสักวันที่ทำสำเร็จ
    ชีวิตมันไม่ง่าย แต่ต้องมีหนทางสักทางใช่ใหม
    ค้นหากันไป สุขบ้าง ทุกข์บ้าง
    เป็นธรรมดาของโลก จริงไหมคะ
    สู้ต่อค่ะทุกท่าน
     
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ไม่ใช่แค่ฝุ่นผงเล็กๆ ครับแต่เป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมด แต่ละส่วนมันก็มีความ
    สำคัญของมัน ก่อนหน้าเราไม่เคยมีใครแทนเราได้ เมื่อไม่มีเราแล้วก็จะไม่มีใคร
    แทนเราได้ เราทุกคนนั้นเชื่อมกันหมดด้วยจิตไร้สำนึก ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกี่ยว
    ข้องกันหมดนั่นแหละครับ อย่างที่ผมบอกว่าเราเกิดมาเพื่อรู้จักตัวเอง แต่เราจะ
    รู้จักตัวเองไม่ได้ถ้ามันไม่มีความแตกต่าง ดังนั้นมันจึงต้องมีกฎแห่งกรรมไว้สร้าง
    ความแตกต่าง เพราะกรรมนั้นจำแนกสัตว์ให้ดีเลวและประณีตต่างกัน และเราจะ
    รู้จักตัวเองผ่านความแตกต่าง เราทั้งหมดคุณ รวมทั้งผมและทุกคนกำลังร่วมด้วย
    ช่วยกันในการที่จะรู้จักตัวเอง ดังนั้นจะบอกว่าส่วนประกอบนั้นไม่มีความสำคัญไม่
    ได้ เพราะถ้าส่วนประกอบไม่มีความสำคัญแล้วทั้งหมดก็ไม่มีความสำคัญด้วย
    และถ้าเราไม่เห็นความสำคัญของส่วนเล็กๆ เราก็จะไม่เห็นความสำคัญของทั้ง
    หมด นี่คือปัญหาที่โลกของเรากำลังประสบอยู่ขณะนี้ คุณรู้ไหมครับว่าเราไม่เห็น
    ความสำคัญของส่วนเล็กๆ ขนาดไหน อย่างเช่นเวลาที่คุณมองผมคุณมองราวกับ
    ว่าผมไม่ใช่ผม คนเราก็จัดจำพวกคน เช่น คนดำ คนขาว เจ้านาย ลูกจ้าง คนดี
    คนเลว คนรวย คนจน ศาสนาของเรา ฝ่ายผิด ฝ่ายถูก แล้วคุณก็คิดว่าคนในกลุ่ม
    เดียวกันก็เหมือนกันทุกอย่าง แม้แต่การเห็นคนอื่นเป็นพวกเนื้อร้ายแล้วฆ่าล้างเผ่า
    พันธ์เขา นี่เป็นเพราะเราไม่มองเขาเป็นเขาจริงๆ แต่จัดเป็นพวกนั้นพวกนี้ แล้วก็อ้าง
    ว่าเราต้องฆ่าเขาเพื่อความอยู่รอดของกลุ่มเรา โดยธรรมชาติแล้วคน
    เรานั้นไม่เหมือนกันทุกอย่างหรอกครับ ถ้าพระเยซูเลียนแบบพระพุทธเจ้าก็จะไม่
    มีพระเยซู หรือถ้าท่านโพธิธรรมเลียนแบบมหาวีระก็จะไม่มีท่านโพธิธรรมหรอก
    ครับ มันเป็นเพราะความต่างที่ทำให้เรามีความหมาย และเราก็มีความต่างเป็น
    เครื่องมืออยู่แล้ว เริ่มจากการเห็นความสำคัญของตัวเองสิครับ แล้วเมื่อคุณเห็น
    ความสำคัญของตัวเองคุณก็จะเห็นความสำคัญของคนอื่น และเห็นความสำคัญ
    ของระบบที่ใหญ่ขึ้น ทั้งโลกและจักรวาล และทั้งหมด
     
  6. chana14

    chana14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2010
    โพสต์:
    743
    ค่าพลัง:
    +2,097
    คิดว่าคนที่แย่กว่าเรายังมีครับ??? คนพิการ ขอทาน
    หลายคนไปบวช ไปรักษาศีลเป็นแม่ชี อ่านหนังสือธรรมะก็ช่วยได้ครับ
    หรือคุยกับพระก็ดีขึ้นไ้ด้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...