หายห่วง ชาว กทม. จะปลอดภัย จากภัยพิบัติร้ายแรงอยู่ดี เพราะว่ามี..

เห็นด้วยตามคุณ Little Monkey2551 ทุกปราการ และถือว่าโชคดีมากที่เกิดมาเป็นคนไทย

 

การที่มีคนออกมาพูดว่าจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นวันนี้ วันนั้น หรือวันไหนๆ ถือเป็นการให้ร้ายกับประเทศของเราเอง การไปรู้เห็นเหตุการณ์ในอนาคตมานั้น ก็ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าเหตุการ์ณที่เห็นเหล่านั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดเพราะทุกอย่างเป็นอนาคต อนาคตมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้นจะเกิดหรือไม่เกิด หากเกิดแล้วจะหนักหรือจะเบาก็ขึ้นอยู่กับทุกๆ คนที่อยู่ภายในประเทศนั้นๆ หากมีคนดี มีศีลธรรมเป็นจำนวนมาก ทุกคนกระทำแต่กรรมดี
พูดดี คิดดี ทำดี ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ ก็จะสามารถทำให้ภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ไม่เกิดขึ้น หากเกิดขึ้นก็จะบรรเทาเบาบางลง ที่กล่าวเช่นนี้เป็นเพราะว่าภับพิบัตินั้นเกิดจากกรรม กรรมก็คือเกิดจากการกระทำ หากกระทำกรรมดี ผลที่ได้รับก็จะดี หากกระทำกรรมชั่วผลออกมาก็จะไม่ดี หากทุกคนภายในประเทศไทยร่วมมือร่วมใจช่วยกันกระทำกรรมดี สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิตามกำลังของแต่ละคน แล้วถวายให้กับประเทศชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ ให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองประเทศไทย ถือว่าเป็นการทดแทนคุณของแผ่นดินที่ได้ให้เราเกิดมายืนอยู่บนพื้นแผ่นดินไทย ทดแทนคุณพระพุทธศาสนา เพราะศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและสอนให้คนเป็นคนดี
และทดแทนคุณของพระมหากษัตริย์ที่ท่านปกครองและดูและทุกข์สุขของพสกนิกรของท่านให้มีความสุขและร่มเย็นมาโดยตลอด และแผ่เมตตาอธิษฐานให้ประเทศไทยนั้นรอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง เชื่อได้ว่าภัยพิบัติต่างๆ เหล่านั้นก็จะไม่เกิด หากเกิดก็จะบรรเทาเบาบางลง เชื่อได้ว่าความสามัคคีของคนไทยภายในประเทศนั้นจะเป็นพลังความดีที่ยิ่งใหญ่ สามารถเอาชนะสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งปวงได้ หากทุกคนเสียสละความสุขส่วนตัว ความเห็นแก่ตัว นึกถึงแต่ส่วนร่วม เชื่อได้ว่าวันที่ ๕ พฤษภาคม ๕๔ นี้จะไม่เกิดอะไรขึ้นที่กรุงเทพฯแน่นอน แทนที่ทุกคนจะต้องเดินทางไปที่อื่นๆ เพื่อให้รอดปลอดภัยนั้นก็ไม่ต้องเพราะไม่มีใครหนีความตายไปได้พ้น เพียงแต่ว่าต้องถามตัวพวกของเราเองก่อนว่าทุกวันนี้เราทำอะไรที่เป็นกรรมดี ความดีแล้วหรือยัง หากยังก็ขอให้ทุกท่านช่วยกันปฏิบัติ โดยเริ่มจากวันนี้เป็นต้นไป ไม่มีคำว่าสายเกินไป
รีบทำกันเสียก่อน ดีกว่ามานั่งเสียใจที่ยังไม่ได้ทำ ความสงบสุขต่างจะบังเกิดขึ้น ก็ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของคนไทยภายในชาติของเรานั้นเอง
ช่วยกันเถิด อย่านิ่งดูดาย
ขออนุโมทนา สาธุกับทุกๆ คนที่รัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ลองดูคลิปนี้นะครับ ลองดูความเป็นห่วงของในหลวง

<TABLE style="MARGIN: 10px 0px" class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 425><THEAD><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" class=tcat colSpan=2>[ame="http://www.youtube.com/watch?v=8mP_nc8feM4&feature=player_embedded"]YouTube - 06 ดร สมิทธกล่าวถึงภัยพิบัติ 2[/ame] </TD></TR></THEAD><TBODY><TR><TD class=panelsurround align=middle><EMBED height=350 type=application/x-shockwave-flash width=425 src=http://www.youtube.com/v/8mP_nc8feM4 allowfullscreen="true" wmode="transparent"></EMBED></TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

สำหรับผม ผมเทอดทูนในหลวงและภาวนาขอให้ท่านหายจากอาการพระประชวรในเร็ววัน
ประเทศไทยจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่นั้นเราอย่าให้คนที่เรารักและเทอดทูนต้องแบกรับภาระอันหนักนี้แต่พระองค์เดียว เราต้องช่วยกันสวดมนต์ไหว้พระ หยุดทะเลาะให้ร้ายซึ่งกันและกัน หันหน้าเข้าหากัน อโหสิกรรมให้แก่กัน แล้วพร้อมที่จะก้าวผ่านความยากลำบากไปพร้อมๆกัน
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดขอเพียงแค่อย่าประมาท ความสามัคคีจะช่วยให้ประเทศชาติพ้นจากเหตุการณ์ร้ายๆได้ครับ รักและเทอดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยิ่งชีพ

 

“ในหลวง-ราชินี” ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันคล้ายวันราชาภิเษกสมรส

วันนี้ (28 เม.ย.) เวลา 17.56 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯออก ณ ห้องประชุมชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พร้อมด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์
อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จ
พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ
พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันราชาภิเษกสมรส วันที่ 28 เมษายน 2554 เป็นการส่วนพระองค์
โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทับพระราชอาสน์ เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญเครื่องนมัสการเข้าถวาย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงศีลพระสงฆ์ 10 รูปเจริญพระพุทธมนต์ เมื่อถึงบทเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่ฝาครอบพระกลิ่น และพระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธี เชิญไปถวายสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ผู้เป็นประธานสงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงคม ไปยังหน้าเครื่องนมัสการแล้วเสด็จฯขึ้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส กับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 ณ วังสระปทุม โดยสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงถวายน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์ และทรงเจิมตามโบราณราชประเพณี ทั้งยังทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธยในสมุดทะเบียนราชาภิเษกสมรส นับจากนั้นเป็นต้นมา ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมพสกนิกรทั่วทุกภาค เพื่อทอดพระเนตรปัญหาและสภาพความเป็นอยู่อย่างแท้จริง สำหรับเป็นแนวทางในการพระราชทานความช่วยเหลือ ด้วยมีพระราชหฤทัยแน่วแน่ ในการสร้างประโยชน์สุขแก่ปวงพสกนิกร ด้วยน้ำพระราชหฤทัยและพระราชจริยวัตรที่งดงาม จนก่อเกิดเป็นสายใยแห่งความจงรักและภักดีของปวงพสกนิกร