ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. online2522

    online2522 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +12
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้เอาบุญมาฝากครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  2. จฬา

    จฬา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +89
    เข้าไปสมัครเว็บอะไรครับคุณ rehacked แนะนำด้วยครับ
    ขอบคุณครับ
     
  3. squrez

    squrez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +2,987
    นำบุญมาฝากครับ

    ๑. ร่วมทำบุญสร้างรูปเหมือนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ใหญ่ที่สุดในโลก

    ๒. ร่วมสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ วัดท่าขนุน

    ๓. ร่วมทำบุญซื้อที่เป็นธรณีสงฆ์ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์

    ๔. ร่วมสร้างพระอุโบสถทันใจกับท่านครูบาวิฑูรย์ ณ สถานปฏิบัติธรรมปรียานันท์

    อนุโมทนาด้วยกันนะครับ ^^
     
  4. ลูกเรือ

    ลูกเรือ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +797
  5. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เพิ่งกลับจากไปถือศีลที่วัดพุทธวงศ์คีรีเขต ภูโน จ.กาฬสินธุ์ค่ะ รายละเอียดทริปจะเขียนให้อ่านวันหลังค่ะ

    อนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ
     
  6. rehacked

    rehacked เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,191
    ค่าพลัง:
    +8,013
    ขอโทษด้วยครับพอดีไม่ได้เข้ามาอ่านในนี้
    เห็นคุณลูกเรือตอบให้แล้วขอบคุณครับ
    เว็บนี้เลยครับ(อีกรอบ) :boo:
    http://www.ourmanomayitti.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2011
  7. tonkajeab

    tonkajeab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +1,355
    อนุโมทนา สาธุ กับทุกท่าน ทุกบุญค่ะ

    "เพิ่งกลับจากไปถือศีลที่วัดพุทธวงศ์คีรีเขต ภูโน จ.กาฬสินธุ์ค่ะ รายละเอียดทริปจะเขียนให้อ่านวันหลังค่ะ

    อนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ<!-- google_ad_section_end -->
    "
    โมทนา สาธุ กับพี่สาวด้วยค่ะ
     
  8. Doughnut

    Doughnut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +15,615
    วัดพุทธวงค์คีรีเขต ต.กุดจิก อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์

    สวัสดีค่ะ ทุกท่าน
    <O:p</O:p

    เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ได้ไป วัดพุทธวงศ์คีรีเขต(ภูโน) ต.กุดจิก อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ผู้ที่ร่วมเดินทางไปคณะเล็กๆ มีกัน ๕ คนค่ะ มีท่านกัปตัน (งานนี้เป็นสมาชิก เพราะมีผู้นำคือน้องวิน) น้องวิน น้องตุ๊ก น้องอ้อยคุฃินาดะ และหนิง มีอีก ๑ คน ไปเจอกันที่วัด

    แรกเริ่มนะ นัดหมายกันว่าจะไปกัน ๑๐ คน เลยเช่ารถตู้ไว้ แต่พอสัปดาห์สุดท้ายกลายเป็นเหลือ ๕ คน เนื่องด้วยแต่ละคนติดภาระส่วนตัวและงานประจำฉุกเฉิน ไหนๆ ก็นัดกันไว้แล้ว จะเพิกเฉยมิได้ การเดินทางครั้งนี้ต้องเปลี่ยนจากรถตู้มาเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลซะงั้น..งานนี้ได้รับความอนุเคราะห์ (ภาษาที่บ้านเรียกว่า ไปร้องขอความเห็นใจจากน้องชาย..ฮา..) น้องชายช่วยจองรถเช่าในราคาที่เรารับได้..มาให้ใช้เป็นพาหนะเดินทาง เพราะสภาพรถตัวเองยังไม่ได้เช็คและสภาพรถค่อนข้างมีอายุการใช้งานนานแล้วค่ะ

    เพิ่งกลับมาถึงเมื่อคืนนี้..การเดินทางขอบารมีพระและท่านพ่อท้าวมหาราชทั้งสี่ เมตตาคุ้มครองไปตลอดทาง


    ภาพของภูโน หรือวัดพุทธวงค์คีรีเขตที่เคยคิดไว้ จากคำบอกเล่าของน้องๆ ที่ไปมา ก็ยังมองไม่เห็นภาพว่าสภาพวัดเป็นอย่างไร แต่เมื่อได้ไปเห็นมากับตาตัวเองแล้ว โดยส่วนตัวคิดว่าวัดนี้ยังต้องการปัจจัย และศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนอีกมา เหตุเพราะเป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยฆราวาส (อุบาสิกา) ที่ถือศีลพรหมจรรย์ นุ่งขาวห่มขาวมานานมาก เจตนาของท่านคือต้องการสร้างสถานที่ ที่สามารถสืบทอดพระพุทธศาสนา โดยมีพระจำวัดเพียง ๑ รูป ในบางคราวจะมีพระภิกษุที่นิมนต์มาจำวัดเพื่อแสดงธรรมโปรดญาติโยมที่มาถือศีลด้วย
    <O:p
    วัดนี้ตั้งอยู่บนเขา ที่มองเห็นทัศนียภาพด้านล่างได้อย่างดี และหากมองจากด้านล่างมายังเขาลูกนี้ จะเห็นองค์พระใหญ่หน้าตัก ๑๙ เมตร สูงเด่นเป็นสง่าค่อนข้างชัดเจน ซึ่งองค์พระใหญ่ในขณะนี้อยู่ระหว่างการบูรณะเนื่องจากเมื่อปีที่แล้ว องค์พระได้เกิดรอยร้าวและพังลงมาเมื่อประมาณปลายปี และจะสร้างองค์พระนอน ความยาวขององค์พระเท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว..

    <O:p</O:pจากการไปมาครั้งนี้ ช่วงวันเสาร์ที่ขึ้นไปนั่งสมาธิด้านบนเกิดความรู้สึก อยากจะถวายสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ (องค์พระไฟเบอร์) หน้าตักเท่าไหร่จำไม่ได้ค่ะ ขนาดที่คณะอจ.คณานันท์ถวายหลวงพ่ออนันต์ที่บ้านสายลม และที่ถวายศูนย์พุทธศรัทธา


    เหตุที่อยากถวายองค์พระสมเด็จองค์ปฐม เพราะอยากให้ทางวัดมีพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะที่งดงาม ไว้เป็นพุทธานุสติแก่ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมที่วัด โดยองค์พระที่ประดิษฐานภายในวัดนี้ ส่วนมากจะเป็นองค์พระปูนที่สร้างขึ้นมาด้วยแรงศรัทธาของชาวบ้านโดยฝีมือของชาวบ้านท้องถิ่นนั้น ดังนั้นองค์พระที่ปรากฎอยู่ภายในวัดอาจจะมีพุทธลักษณะที่หลากหลายตามฝีมือของช่างปั้น


    ความเห็นของคณะเล็กๆ ที่สามารถสืบทอดงานของพระพุทธศาสนาเท่าที่จะทำได้นั้นมีเพียงน้อยนิด คณะเล็กๆ ของเราจึงมีความเห็นว่า อยากจะบอกบุญแก่ผู้มีจิตศรัทธา โดยจะจัดผ้าป่า พร้อมด้วยองค์พระสมเด็จองค์ปฐมไปถวายยังวัดพุทธวงศ์คีรีเขต ในช่วงก่อนเข้าพรรษา ประมาณไว้ว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนกรกฎาคมค่ะ (วันเสาร์ที่ ๒ ก.ค.)


    ขอแจ้งข่าวให้กัลยาณมิตรทราบก่อนค่ะ รายละเอียดอื่นๆ ณ ขณะนี้ (ยังเขียนไม่ทันจบ) พี่ต้อม พี่ชายคุณกบ ได้กรุณาโทรไปจององค์พระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้เปิดบุญองค์พระเป็นท่านแรกจำนวน ๓,๐๐๐ บาท (องค์พระ ๓๕,๐๐๐ บาท)


    ขอกราบอนุโมทนากับพี่ต้อมด้วยค่ะ

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • All_2.jpg
      All_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      557 KB
      เปิดดู:
      734
    • IMG_2163_W.JPG
      IMG_2163_W.JPG
      ขนาดไฟล์:
      309.7 KB
      เปิดดู:
      665
    • IMG_2162_W.JPG
      IMG_2162_W.JPG
      ขนาดไฟล์:
      363.8 KB
      เปิดดู:
      657
    • IMG_2161_W.JPG
      IMG_2161_W.JPG
      ขนาดไฟล์:
      345.9 KB
      เปิดดู:
      675
    • IMG_2164_W.JPG
      IMG_2164_W.JPG
      ขนาดไฟล์:
      274.2 KB
      เปิดดู:
      664
    • IMG_2179_W.JPG
      IMG_2179_W.JPG
      ขนาดไฟล์:
      289.7 KB
      เปิดดู:
      65
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2011
  9. เดือนยี่

    เดือนยี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +1,377
    โอนเงินทำบุญซื้อที่ดินวัดรามพงศาวาสไปให้แล้วนะค่ะ 100 บาทค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. Doughnut

    Doughnut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +15,615
    ภาพองค์พระสมเด็จองค์ปฐม

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0462.JPG
      IMG_0462.JPG
      ขนาดไฟล์:
      98.5 KB
      เปิดดู:
      641
  11. จฬา

    จฬา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +89
  12. แม่หมูอ้วน

    แม่หมูอ้วน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +6,061
    โมทนาบุญกับคุณสาวและคณะ และทุกท่านทุกบุญด้วยค่ะ สาธุ ๆๆๆ
     
  13. ถนอม021

    ถนอม021 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,098
    ค่าพลัง:
    +3,163
    กราบอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

    พร้อมนี้นำภาพที่ผมไปบวชเฉลิมพระเกียรติถวายในหลวงและหลวงปู่บุญฤทธิ์ บ้านสวนทิพย์ โดยบวชทั้งหมด 120 รูป 9 ถึง 17 เมษายน 2554 บวชที่วัดบวร แล้วไปปฏิบัติธรรมที่สถานปฏิบัติธรรมเสริมรังษี ปากช่อง ได้รับเมตตาจากหลวงปู่ทิวา กรุณาสอนธรรมะ มีหลายท่านในกระทู้นี้ร่วมเป็นเจ้าภาพงานบวชครั้งนี้ด้วย ก็ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

    ต้อมพี่ชายกบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. siluate

    siluate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +1,772
    สาธุๆ ขออนุโมทนาบุญของทุกๆท่านเป็นอย่างสูงนะครับ
    เมื่อวันพระที่ผ่านมา ผมได้สมาทานรักษาอุโบสถศีลเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน
    และได้ร่วมทำบุญถวายทองคำ ในโครงการทำบุญ บัญชีทองคำ
    เชิญทุกท่านร่วมโมทนาบุญด้วยกันนะครับ
     
  15. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    กราบอนุโมทนาสาธุบุญด้วยครับ สาธุ....
     
  16. Dang 88

    Dang 88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    266
    ค่าพลัง:
    +946
    กราบอนุโมทนาบุญ กับพี่ๆทุกท่านครับ
     
  17. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    รายงานทริปที่จะเล่า ขอให้ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล เพราะเรื่องบางเรื่องเป็นความเชื่อส่วนบุคคลและเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน ดังนั้นเมื่ออ่านแล้วโปรดอย่าเชื่อในทันทีตามกฏกาลามสูตร และขอให้ใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่านให้มากๆ ค่ะ

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ทริปนี้เกิดขึ้นจากน้องวินและคุณหนิงต้องการไปทำภาระกิจเพื่อช่วยวัด พอดิฉันรู้ข่าวก็มีความคิดที่อยากจะไปช่วยด้วย แต่ก็ยังไม่ได้รับปากในทันที เพื่อรอดูสถานการณ์ด้านปัจจัยก่อน จนสุดท้ายก็ได้ตกปากรับคำกับคณะไปว่าจะไปด้วย แล้วก็เลยหยุดขายของยาว นอกจากจะไปทำภาระกิจเพื่อพระศาสนาแล้ว ดิฉันเองก็อยากจะไปปลีกวิเวก ชาร์ตแบตให้ตัวเองเหมือนกัน เพราะไม่ได้ไปทำบุญหรือไปบวชนานแล้ว

    ตอนแรกคณะที่จะไปมีประมาณสิบท่านได้ ก็จะเช่ารถตู้ไปกัน แต่ไปๆมาๆเกิดมีคนติดภาระกิจเร่งด่วนต้องยกเลิกกระทันหัน เลยเหลืออยู่แค่ห้าท่าน เลยเปลี่ยนจากรถตู้เป็นรถยนต์แทน นัดเจอกันตอนสองทุ่มที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต (จตุจักร) ดิฉันไปถึงเป็นคนแรกก็โทรหาคุณหนิง พอดีกับที่คุณหนิงขับรถมาเกือบถึงแล้ว พอเจอกันก็จอดรถรอน้องๆอีกสามคน ไปจอดรถอยู่ตรงป้ายรถเมล์เก่า ไฟก็ไม่มี กลายเป็นคนในมุมมืดกันไปเลย ฮา

    ก่อนออกจากบ้านดิฉันก็ได้ขึ้นไปกราบขอพรพระเพื่อให้เดินทางปลอดภัย ท่านก็ให้พรมา แต่ระหว่างนั้นภาพท่านกลายเป็นหน้าผู้สูงอายุ เคี้ยวหมาก พูดเป็นเสียงคนแก่ ดิฉันก็แปลกใจ อ้าว...คุยอยู่กับพระ ไหงกลายเป็นใครไป แต่ในจิตรับรู้ว่าเป็นปู่นาคา ก็คิดว่าปู่กินหมากหรือเปล่า รู้แต่ว่าท่านสูบบุหรี่ ก็เลยเก็บเอาไว้ในใจว่าจะมาถามน้องวิน

    ไม่นานน้องวินก็มาถึงที่นัด ก็เลยได้สอบถามว่า ปู่กินหมากหรือเปล่า น้องวินว่าปู่กินหมากครับ จากนั้นก็ถามเกี่ยวกับเส้นทางที่จะไปวัด วัดอยู่บนเขา ทางขึ้นไปรถเข้าไปถึงหรือเปล่า น้องวินว่าไปได้นะครับ แต่ทางมันจะชันๆ คุณหนิงปากไวพูดออกมาทันที "ตายแล้ว แล้วEนี่มันจะขึ้นได้เหรอ (หมายถึงรถที่เราเช่ามา)" ดิฉันก็เลยว่า "อ้าว คุณหนิงปากไม่ดี ไปเรียกแบบนั้น" คุณหนิงก็รู้ตัวตอนพูดไปแล้วแหละ เลยยกมือไหว้ขอโทษแม่ย่านางรถ "ว้าย..ขอโทษค่ะ ที่หนูเรียกแบบนั้น" แม่ย่านางรถเป็นผู้หญิงค่ะที่เห็น ต้องขอโทษกันยกใหญ่ แล้วก็ชวนไปทำบุญกัน

    ตอนที่นัดกัน ก็คุยกันว่ารอให้คนมาครบแล้วเราค่อยแวะไปซื้อของที่จะเอาไปไว้กินที่วัดและของที่จะเอาไปถวายให้วัดกัน แต่น้องวินก็ซื้อมาก่อนบางส่วน ซื้อไข่มาด้วยแผงหนึ่ง หอบพะรุงพะรัง ไข่เลยตกลงพื้นบนรถไฟฟ้าแตก (ฮา) ต้องเอามาล้าง เลือกเอาแต่ลูกที่ไม่แตกออกมา เลยแซวน้องไปว่า "ก็ไหนบอกว่าให้ไปซื้อพร้อมกันไง เป็นไงละ แตกเลย อิอิ"

    รอสักพักใหญ่น้องตุ๊กกับน้องอ้อยคุชิก็ตามมา จากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางกัน ไปแวะปั้มน้ำมันเข้าเซเว่นซื้อของที่จะเอาไปที่วัด แล้วก็ให้น้องๆได้ทานข้าวกันด้วย ส่วนดิฉันและคุณหนิงถือศีลแปดล่วงหน้าไปตั้งแต่วันพระแล้ว ก็เลยไม่ได้กินอะไร คงกินได้แต่น้ำปานะเท่านั้น กลับมาที่รถ คุณหนิงก็ตั้งจีพีเอสหาวัดพุทธวงศ์คีรีเขต ก็หาไม่เจอ หาภูโน หา อ.ท่าคันโท ก็ไม่เจอ สุดท้ายเลยต้องวิ่งเข้าไปซื้อแผนที่ภาคอีสานมาดูกัน ฮา พอดูแผนที่ว่าถนนเส้นไหนที่จะไปกาฬสินธุ์ ก็เลยตั้งจีพีเอสให้นำทางไป ตอนแรกคุยกันว่า ดิฉันกับคุณหนิงจะผลัดกันขับ เอาเข้าจริงๆ คุณหนิงขับคนเดียวเลย (อึดเจงๆ) มีการหลงทางกันนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ไปถึงวัดจนได้ ทางขึ้นวัดก็ชันจริงๆอย่างที่น้องวินว่า พอจอดรถแล้วก็เดินขึ้นเนินอีกนิดหน่อย ยังไม่เจอปู่ก็เลยเดินขึ้นบันไดไปข้างบน ตรงทางขึ้นบันไดจะมีรูปปั้นพญานาคสีขาวและสีดำอยู่คนละฝั่ง สองข้างทางบันไดจะเป็นรูปปั้นองค์พระตลอดทาง เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะมีรูปปั้นพระประจำวัน สมเด็จพระพุฒาจารย์โต รัชกาลที่ห้า กรมหลวงชุมพร ฯลฯ มีรูปปั้นปู่เฒ่า (ปู่นาคา) แล้วก็มีรูปปั้นงูยักษ์ด้วย

    เดินดูโน่นดูนี่กันสักพักก็ลงมาข้างล่างต่อ ก็พอดีเห็นปู่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ เลยได้เข้าไปหาปู่ (ก็บอกเล่าหน่อยว่า ปู่คืออุบาสิกาที่นุ่งขาวห่มขาวแบบพราหมณ์ แต่มีญาณของปู่นาคา (ปู่เฒ่า) ท่านเลยแทนตัวเองว่า ปู่) ปู่จะมีญาณรู้ ทายทักทุกคนได้ตรงๆ และสถานที่แห่งนี้ (เขาภูโน) จะเป็นถิ่นของพญานาค แล้วก็เทพเทวดาอยู่เยอะ ใครไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เพราะเคยมีคนลองดีเจอดีมาแล้ว ดังนั้นขอเตือนไว้ว่า ถ้าจะไปที่นั่น กรุณาเคารพสถานที่และสิ่งที่ท่านมองไม่เห็นด้วย

    นอกจากกลุ่มพวกเราแล้ว ยังมีกลุ่มพนักงานจากบริษัท มรกต นำผ้าป่าไปถวายด้วย มากันหกคน ปู่บอก สองคณะนี้ตอนแรกว่าจะมากันเยอะๆ ไปๆมาๆเหลือไม่กี่คน ไอ้คณะเราว่าจะไปสิบคนเหลือห้าคน ส่วนคณะผ้าป่าว่าจะไปเป็นคันรถเหลือหกคน (ฮา) ปู่บอกให้พวกเราไปอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดขาว จะได้มาขอถือศีลแปดกับพระ พวกเรามองหน้ากันเลยวุ้ย เพราะก่อนมาก็ถามกันแล้วว่าใส่ชุดขาวล้วนใช่ไหม น้องวินบอกว่ากางเกงดำก็ได้ ก็เลยเอากางเกงดำไปซะส่วนใหญ่ มีสีขาวเทาๆไปหนึ่งตัว เลยต้องบอกปู่ ปู่ว่า แหม รู้ว่าจะมาวัด ก็ไม่เตรียมมาละ ก็บอกว่า ถามน้องวินแล้วว่าใช้ขาวล้วนหรือเปล่า เพราะบางที่อนุโลมกางเกงดำได้ เนื่องจากสีขาวมักจะบาง ปู่ว่าที่นี่ไม่ได้ต้องขาวล้วน ปู่เลยต้องไปหาชุดมาให้พวกเรายืมใส่กัน เลยไปรบกวนปู่อีก

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    มโนมยิทธิเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน โปรดอย่าเชื่อในทันทีตามกฏกาลามสูตร โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pn1.jpg
      pn1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      301.7 KB
      เปิดดู:
      176
    • pn2.jpg
      pn2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      408.9 KB
      เปิดดู:
      164
  18. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    มารายงานต่อ..


    จากนั้นพวกเราก็ได้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดขาวกัน ส่วนคุณหนิงก็ตาบวมตุ่ยเลยขอตัวไปนอนพักเพราะว่าขับรถมาทั้งคืน พวกเราทั้งสองคณะก็ได้มาถวายอาหารแด่พระสงฆ์ (หลวงพ่อเพชร) รับศีล ทานอาหาร ถวายผ้าป่าและก็พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐมและพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน

    ตอนที่คุณหนิงบอกปู่ว่า "หนูเอาพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐมมาถวายค่ะ" พอปู่เห็นปู่ก็บอกว่า "ของปู่ก็มี ปู่ได้มาจากถ้ำ ในถ้ำมีเยอะมาก" ว่าแล้วปู่ก็เดินเข้าไปที่อาศรม กลับออกมาพร้อมบาตร ซึ่งในบาตรนั้นมีพระธาตุรวมอยู่เกือบเต็มบาตรและมีพระธาตุของสมเด็จองค์ปฐมอยู่ด้วย ทำเอาคุณหนิงอายไปเลย

    หลังจากนั้นปู่ก็เอาแก้วพญานาคออกมาให้ชมกัน พวกเรารีบกรูกันเข้าไปขอดู ขอจับ แล้วก็ถ่ายรูปกันใหญ่ มีลูกใหญ่สุดอยู่ลูกหนึ่ง ปู่บอกว่า "เนี่ยะแหละ ลูกขนาดนี้แหละที่หล่นใส่หัวคนที่ไม่เชื่อ หัวแตกต้องเย็บเจ็ดเข็ม" ดิฉันเลยหันไปแซวคุณหนิงว่า "คุณหนิง ที่อยากได้ขนาดลูกฟักอ่ะ บอกว่าจะเอาหัวรับน่ะ ถึงตายได้นะ ลูกแค่นี้หัวยังแตก ฮา" คุณหนิงบอก "ไม่ๆๆ ไม่เอาแล้ว มีสิทธิ์ตายได้"

    ตอนที่ปู่เอาบาตรพระธาตุออกมา ปู่ว่าเดี๋ยวจะให้ทุกคน มีถุงมาใส่หรือเปล่า แล้วก็เป็นเรื่องแปลกที่น้องตุ๊กอ่ะ เตรียมถุงซิปมาแล้วก็ถุงผ้าสีทองมาด้วย พูดมาตั้งแต่อยู่ในรถแน่ะว่าเอามาเผื่อทุกคนด้วย พอน้องตุ๊กได้ยินปู่ถามก็รีบตอบเลย "มีค่ะ" พร้อมกับควักออกมาจากกระเป๋าสะพาย ปู่ก็เลยตักพระธาตุใส่ถุงเต็มปรี่ให้พวกเราทั้งสองคณะเลย

    นอกจากพระธาตุแล้ว ปู่ก็ให้พระนาคปรกที่เนื้อผสมพระธาตุแล้วก็เหล็กไหลให้พวกเราด้วย ซึ่งพระนาคปรกนี้ ปู่ไม่ได้ทำขึ้น แต่ปู่นาคาท่านบอกให้ไปเอาในถ้ำ พระผุดขึ้นมาเองจากพื้นดิน น้องวินบอกว่าปู่หวงมากไม่เคยให้ใครเลย แม้แต่ดูยังไม่ให้ดูเลย แต่ครั้งนี้ปู่เอามาให้พวกเราทุกคน แต่ของก็มีจำนวนน้อยเหมือนกัน

    หลังจากนั้นพวกเราก็ไปนั่งฟังปู่สอนธรรมะ แล้วก็บอกเล่าเรื่องราวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ภูโน ท่านว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ที่ไหนตรงไหนถ้าปู่สั่งห้ามไม่ให้ไปก็อย่าไป ไม่งั้นจะเจอดี วิ่งกันป่าราบมาหลายรายแล้ว บางคนสติฟั่นเฟือนไปเลยก็มี จากตรงที่เรานั่งอยู่ ขึ้นบันไดไปข้างบนจะเป็นศาลาที่ไว้ทำวัตรเย็น แล้วถ้าเดินขึ้นไปอีกจะเป็นที่ประดิษฐานองค์พระใหญ่ที่กำลังบูรณะ แล้วก็จะมีทางเดินขึ้นเขาไปอีกจนถึงเขาไกรลาศ และมีบริเวณที่ใช้นั่งสมาธิ ปู่เรียกว่า "แปดทิศ" ทุกคนจะขึ้นไปได้แค่เฉพาะศาลาที่ทำวัตรเย็นเท่านั้น เลยจากนั้นถ้าปู่ไม่อนุญาตห้ามขึ้นไปเด็ดขาด เพราะบนนั้นสิ่งศักดิสิทธิ์จะแรงมาก แล้วคนที่จิตไม่แข็งพอห้ามขึ้นไปโดยเฉพาะกลางคืน พวกเราได้ขออนุญาตปู่ เพื่อขึ้นไปนั่งทำสมาธิบนเขาไกรลาศซึ่งปู่ก็อนุญาต เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนแล้วจะมีศาลท่านปู่อยู่ ต้องจุดธุป 16 ดอกบอกกล่าวด้วย ห้ามลบหลู่เด็ดขาด

    พวกเราแยกจากปู่เพื่อเดินขึ้นไปบนแปดทิศกัน ระหว่างทางก็จะผ่านองค์พระใหญ่ รูปปั้นพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ทางเดินก็ลาดชันพอสมควร แต่ปู่เทปูนตลอดเส้นทางเพื่อความสะดวกในการเดิน เมื่อพวกเราไปถึงข้างบน ทุกคนก็จุดธูปบอกกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อน จากนั้นก็แยกย้ายกันไปหามุมส่วนตัวเพื่อนั่งสมาธิ ดิฉันไปนั่งตรงศาลาด้านหลังกับคุณหนิงแล้วก็น้องตุ๊ก อยู่กันคนละมุม

    ดิฉันนำมณีนาคาสีเขียวเข้มของตัวเองติดตัวไปด้วย ก็เอามาใส่มือตอนนั่งสมาธิค่ะ พอเริ่มนั่งสมาธิก็เริ่มจะหลับละค่ะ เพราะว่าเดินทางมาตลอดคืน ไม่ค่อยได้หลับ เหนื่อยด้วยเพลียด้วย นั่งๆไปก็จะสัปหงกไป ก็พยายามดึงตัวเองกลับมา สักพักใหญ่ท้องฟ้ามืดครึ้ม มีฟ้าร้อง ไม่นานก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก โดนฝนสาดนิดหน่อยไม่ได้เยอะก็นั่งอยู่ตรงนั้น แต่รู้สึกได้ว่า มณีที่อยู่ในมือเต้นตุบๆๆ แล้วรู้สึกเหมือนจะเลื้อยเคลื่อนที่ไปรอบๆมือ แล้วนิ้วกลางของดิฉันก็รู้สึกเหมือนมีพลังดูดอยู่ตลอดเวลา ก็นั่งสมาธิไปจนฝนหยุดตก ก็ออกจากสมาธิมานั่งคุยกัน แล้วก็เดินลงมาข้างล่าง บางคนก็ยังอยู่ต่อ ดิฉันกับน้องตุ๊กคุณหนิงเดินลงมาก่อน แต่คุณหนิงแวะถ่ายรูปเลยเดินตามมาข้างหลัง ดิฉันกับน้องตุ๊กเดินลงมาถึงข้างล่างพร้อมกัน เจอปู่พอดี ท่านว่า "เอ๊าๆๆไปนอนพักผ่อนไป แหม..ไปนั่งสัปหงกสัปเงิ่นกัน" ฮา ปู่อ่ะรู้หมด เพราะว่าปู่จะเอาจิตไปตรวจดูทุกคนเลย รู้หมดว่าใครทำอะไรยังไง

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    มโนมยิทธิเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน โปรดอย่าเชื่อในทันทีตามกฏกาลามสูตร โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pn3.jpg
      pn3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      323.6 KB
      เปิดดู:
      143
    • pn4.jpg
      pn4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      341.5 KB
      เปิดดู:
      176
    • pn5.jpg
      pn5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      350.4 KB
      เปิดดู:
      124
  19. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พวกเราจึงได้ไปนอนพักผ่อนกันที่ศาลาที่พัก นอนไปได้สักชั่วโมงกว่าๆน้องอั๋นก็โทรเข้ามา เพราะได้เข้ามาหาที่วัด นำน้ำปานะแล้วก็น้ำดื่มมาถวายที่วัดด้วย น้องอั๋นมาพร้อมครอบครัวและก็พ่อแม่มาด้วย เลยได้พาไปหาปู่ พอปู่เห็นหน้าแต่ละคนก็ทักทันทีเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว ซึ่งถูกต้องตรงเป๊ะทุกอย่าง เล่นเอางงไปทั้งทีมเลย ระหว่างนั้นลูกศิษย์วัดก็เอาหมากมาให้ปู่ แล้วปู่ก็บอกว่า "วันนี้อยากกินหมาก จริงๆเลิกกินไปนานแระ" ดิฉันก็นึกถึงที่เห็นในสมาธิว่าปู่กินหมากเลย ฮา ได้คำตอบแบบไม่ต้องถามเลย ครอบครัวน้องอั๋นก็สนทนาอยู่พักใหญ่ ทั้งหมดก็พากันกลับ ปู่ก็สั่งให้พวกเราไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้เตรียมตัวมาทำวัตรเย็น

    พวกเราขึ้นไปทำวัตรเย็นที่ศาลาด้านบน จากนั้นหลวงพ่อเพชรก็เทศน์ธรรมะให้พวกเราฟัง เสร็จจากด้านบนก็ลงมาคุยกับปู่ต่อ ท่านก็สอนธรรมะอีก แล้วก็พูดเรื่องตอนกลางวันที่พวกเราไปนั่งสมาธิบนแปดทิศกัน ท่านรู้หมดว่าใครเป็นยังไง ท่านระบุเป็นคนๆไปเลยว่าใครหนีฝนกลัวฝน แต่มีบางคนเหมือนกันที่ไม่หนี ท่านบอกว่าต้องฝึกกันให้เข้มสุดๆ ต้องไม่สนใจกับอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก น้ำจะท่วม จิตต้องนิ่งอย่างเดียวเลย (บอกปู่ว่า หนูคงยังอีกยาวไกล ยังคลานอยู่) ปู่ว่าทุกคนที่มานี่ มีบารมีเก่ากันมาหมด ไม่ต้องมานั่งสอนพื้นฐานพูดทีเดียวเจาะกลางลำไปเลย เข้าใจกันหมด แต่ว่าต้องมาเสริมบารมีตัวเองให้มากยิ่งๆขึ้นไป ต้องปฏิบัติให้ได้

    จากนั้นปู่ก็ให้พวกผู้ชายขึ้นไปนั่งสมาธิที่แปดทิศกันอีก ส่วนผู้หญิงปู่ห้าม บอกว่าไม่ได้นะ เคยมีคนฟั่นเฟือนมาแล้ว ที่นั่นแรงมาก จิตไม่แข็งอย่าขึ้นไป แล้วปู่บอกว่า พวกผู้หญิงเนี่ย พวกเอ็งอ่ะยังไม่เก่งพอ ยังไม่ให้ไป (หุหุ) ก็บนนั้นอ่ะ ตอนกลางคืนไม่มีไฟ มืดตึ๊ดตื๊อ ท่านให้พวกผู้ชายพกไฟฉายไปอ่ะ บรรยากาศก็คงจะวังเวงน่าดูละ ตอนหลังพวกผู้ชายมาเล่าให้ฟังก็ว่า เข้าสมาธิไม่ได้เหมือนตอนกลางวันเลย เข้าๆแล้วก็ถอย ถอยเข้าถอยออกกันอยู่อย่างนี้ บางคนจิตตกอีก ปู่เลยต้องมาพูดมาสอนกันใหม่

    ปู่ก็บอกเล่าเรื่องภัยพิบัติของประเทศเหมือนกัน แล้วไทยก็จะมีศึกรอบด้าน ข้างในก็ตีกันเอง..ขอเล่าแค่นี้ พูดมากไปไม่ดี ใครอยากรู้ไปถามปู่เองละกัน อิอิ ปู่ก็สอนธรรมะพวกเราจนเกือบเที่ยงคืน ก็ให้พวกเรากลับไปนอน พวกเราก็ต้องไปกางมุ้งนอนกันที่ศาลาที่พัก ศาลาที่สร้างจะมีฝาแค่ครึ่งเดียว ครึ่งบนเปิดโล่ง ทำให้ลมพัดผ่านเย็นสบาย ผู้หญิงนอนกันมีสี่คน น้องตุ๊กนอนในสุดติดกำแพง ถัดมาเป็นน้องอ้อยคุชิ คุณหนิง ดิฉันอาสานอนริมนอกสุดเอง เนื่องจากคนอื่นจะไม่กล้า แล้วริมนอกก็อยู่ใกล้กับช่องว่างที่เปิดให้เดินเข้าพอดีด้วย ก่อนนอนก็สวดมนต์แผ่เมตตากันก่อน คนอื่นๆหลับง่าย ดิฉันอ่ะหลับยากก็เลยนอนภาวนาไปเรื่อยๆ นอนสมาธิอยู่ก็เห็นพญานาคสีดำตัวใหญ่ (ท่านตา) มาขดตัวอยู่ข้างมุ้งชูคอมองพวกเรา ไม่กล้าลืมตาแฮะ กลัวเจอของจริงๆใกล้ๆแล้วจะทำใจลำบาก ฮา จากนั้นท่านก็เลื้อยไปรอบศาลาเหมือนจะระวังภัย ดิฉันก็นอนภาวนาต่อไป แล้วก็ได้ยินเสียงแมวร้องอยู่ตรงด้านนอกหัวนอน ก็เลยเงี่ยหูฟังดีๆ ก็ได้ยินเสียงว่าเป็นแมว ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพียงแต่คิดว่าอาจจะเป็นแมวที่วัดมาเดินแถวนี้ก็ได้ แล้วคราวนี้ก็ได้ยินเสียงแตรดังขึ้นมาหนึ่งครั้งก็เฉยๆ สักครู่ก็ได้ยินอีก บีบแตรเป็นจังหวะสามครั้ง ก็เลยต้องรีบแผ่เมตตาให้ หลังจากนั้นไม่นานได้ยินเสียงน้ำในสระพญานาคที่อยู่ใกล้ๆศาลาดังตูมใหญ่เลย ก็เลยคิดว่า "อืมม. นาคเล่นน้ำ" ก็ไม่ได้กลัวอะไรนะคะ ก็นอนฟังไปเรื่อยๆจนหลับไปเอง ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนตีสาม ตื่นมาไม่เห็นมีใครลุกมาทำวัตรเช้าตรงศาลาข้างล่าง มืดเงียบก็เลยหลับต่อ พอเช้ามืดก็ได้ยินเสียงแตรรถดังขึ้นเองอีกสามครั้ง แต่พวกเราก็ยังคงนอนกันอยู่ คงจะเพราะเพลียด้วย

    พอตื่นมาก็ไปที่ถวายอาหารพระ เพื่อใส่บาตร ตอนเดินไปดิฉันก็มองๆหาว่ามีแมวอยู่สักตัวไหม ก็ไม่เห็นมี มีแต่หมา ก็เลยถามคนที่วัดว่า มีแมวหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่มีมีแต่หมา เลยบอกว่าเมื่อคืนได้ยินเสียงแมว เขาถามว่า "แมวหรือเสือ" จ๊ากก..มีเสือด้วยเหรอ แต่ก็บอกไปว่า แต่ที่ได้ยินเสียงแมวนะ เขาว่า "เสือแมวหรือเปล่า" ห๊า..เสือแมว เป็นยังไง เลยถามว่าแล้วที่นี่มีเหรอ เคยเห็นไหม เขาว่า ก็ยังไม่เคยเห็น..อ้าว..ซะงั้น แต่เรื่องนี้คุณหนิงยืนยันได้ เพราะบอกว่าได้ยินเหมือนกัน อิอิ ได้ยินแค่รอบแรกก็คร่อกหลับไปเลย ฮา

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    มโนมยิทธิเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน โปรดอย่าเชื่อในทันทีตามกฏกาลามสูตร โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pn6.jpg
      pn6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      430.5 KB
      เปิดดู:
      179
    • pn7.jpg
      pn7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      389.1 KB
      เปิดดู:
      100
    • pn8.jpg
      pn8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      382 KB
      เปิดดู:
      116
  20. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พอเจอหน้ากันครบก็เลยสอบถามกันว่าเมื่อคืนใครได้ยินเสียงอะไรกันบ้าง บางคนก็ได้ยินบ้าง หลับบ้าง วันนี้ปู่ไม่ค่อยสบายเลยขอตัวไปนอนพัก พวกเราก็ใส่บาตร ทานอาหารกันแล้ว ฟังหลวงพ่อเทศน์ เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไปทำสมาธิ ก็ขึ้นไปที่แปดทิศกันต่อ อ้อ..น้องแมนแฟนน้องตุ๊กตามมาทีหลัง มาถึงตอนเช้า เอาขนมปังปี๊ปมาไว้ให้ปู่เก็บไว้ด้วย มีหลานชายอายุ 11 ขวบตามมาด้วย เขาคิดว่ามาเที่ยว กลายเป็นเขามาถือศีลกัน ก็เลยต้องตกกระไดพลอยโจน ต้องนุ่งขาวถือศีลตามไปด้วย สาธุ

    พวกเราพากันขึ้นไปที่แปดทิศเพื่อนั่งสมาธิกันต่อ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเขามีธุระก็พากันออกไปข้างนอกกันทั้งวัน กลับมาตอนเย็นแล้ว ทันทำวัตรเย็นพอดี เสร็จจากทำวัตรเย็น ก็มานั่งคุยกับปู่ต่อ ท่านก็สอนธรรมะ จนได้เวลาประมาณสักสามทุ่ม อีกกลุ่มหนึ่งต้องกลับแล้วก็เลยได้ถ่ายรูปหมู่ด้วยกันไว้เป็นที่ระลึก แล้วก็ลากลับ เหลือกลุ่มพวกเราก็นั่งคุยกับปู่ไปสักพัก คุณหนิงกับน้องวินก็ขออนุญาตปู่ทำเรื่องบางอย่าง (ขออนุญาตไม่บอกว่าอะไร) ญาณท่านตามาเลย หัวเราะซะเสียงดังลั่นสะท้านทรวง ท่านก็ว่า "ไอ้ลูกหลานพวกนี้นี่ มันนึกอยากจะทำอะไรก็ทำ จะเล่นอะไรก็เล่น แหม มันเล่นกับของสูงนะเนี่ย ฮาฮา แต่เอาเถอะ อยากทำอะไรก็ทำ ไปทำดู ฮะฮะฮะ" ท่านก็หัวเราะชอบใจอยู่อย่างนั้น ทำเอาคุณยายคำสอนกลัวไปเลย ท่านว่า "ท่านตาอย่าหัวเราะแบบนี้ซิ มันสะเทือนไปถึงตับไตไส้พุง ข้อยกล้ว"

    จากนั้นพวกเราก็เดินขึ้นไปนั่งสมาธิกันหน้าศาลาที่ทำวัตรเย็น ต่อหน้ารูปปั้นปู่เฒ่า (ปู่นาคา) แต่ปู่ปิดไฟมืดไม่ให้ใช้แสงไฟ ก็สวดมนต์แล้วก็นั่งสมาธิกันในความมืด ดิฉันรู้สึกว่าท่านปู่กับท่านตามายืนดู มาข้างหลังด้วย ดิฉันกับน้องอ้อยคุชินั่งอยู่หลังสุด เย็นต้นคอวาบๆ แล้วดิฉันเองก็ได้ยินเสียงไม้เท้าด้วย ดังต๊อกๆๆๆ ก็คิดว่า เอ..ท่านปู่มีไม้เท้าหรือเปล่า

    จนประมาณเที่ยงคืนพวกเราก็กลับลงไปนอนพัก ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนตีห้าเพื่อมาช่วยคุณยายคำสอนหุงข้าว เพราะพ่อครัวไม่อยู่ ตื่นมาตีห้า ยายยังไม่ตื่นก็เลยนั่งสมาธิกันรอยาย ใกล้ๆหกโมงยายถึงมา ท่านว่าเมื่อคืนนอนตีสองมัวแต่สวดมนต์อยู่ พอหุงข้าวเสร็จก็พากันไปทำวัตรเช้า นั่งสมาธิกันอีก ก็ได้เวลามาเตรียมใส่บาตร แล้ววันนี้ก็เป็นวันพระ นั่งๆคุยกันอยู่ถึงเรื่องตอนกลางคืน ดิฉันก็กำลังจะบอกว่าได้ยินเสียงไม้เท้าด้วย ปู่เฒ่ามีไม้เท้าหรือเปล่า ยังไม่ทันจะได้เล่าได้ถาม ก็ได้ยินเสียงไม้เท้าดังต๊อกๆๆมาแต่ไกลเหมือนเสียงที่ได้ยินเมื่อคืนก็เลยหันไปดู ปู่แต่งชุดขาวสำรวมกว่าทุกที ในมือท่านมีไม้เท้าหัวพญานาคมาด้วย ฮา ไม่ต้องถาม ได้คำตอบแล้ว

    พวกเราก็ตาโตกับไม้เท้าของปู่ เพราะว่าประดับไปด้วยมณีนาคา เลยแย่งกันถ่ายรูป ปู่เลยให้คุณหนิงถือไว้ซะเลย พวกเราเลยแซวว่า "ทายาทรุ่นต่อไป" พอถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาใส่บาตรแล้วก็ลาศีล แล้วก็ทานอาหารเช้า กำลังจัดอาหารทานกัน ปู่ก็เอาลูกแก้วพญานาคมาให้คุณหนิงกับน้องวิน ไอ้เราก็เลยแถเข้าไปมั่ง แต่ว่ามีแค่สองลูก ปู่บอกว่า เดี๋ยวปู่ไปอัญเชิญจากพระหัตถ์ของพระนเรศมาให้ ว่าแล้วปู่ก็เดินเข้าไปที่อาศรมของปู่กลับออกมาพร้อมด้วยลูกแก้วอีกสองลูก เห็นแล้วลูกหนึ่งสีเข้มมาก ยังมองไม่ออกว่าสีอะไร อีกลูกสีขาว ในใจก็คิดว่า อยากได้สีเข้ม แต่ก็ไม่รู้ว่าปู่จะให้สีไหน พอปู่มาใกล้ๆถึงเห็นว่าเป็นสีแดงเข้มมากๆ ปู่ส่งให้ดิฉันบอกว่า "อ่ะ นี่ตาพญานาคเลยนะ เอาไปทั้งฤทธิ์ทั้งเดช" หูย..ได้สีเข้มอย่างที่หวังจริงๆด้วย สาธุ อีกลูกปู่ส่งให้น้องอ้อยคุชิ ส่วนน้องตุ๊ก ปู่บอกว่า "อ้อ เจ้านี่มันอยากได้เหล็กไหล เดี๋ยวเอามาให้" ซึ่งน้องตุ๊กอ่ะ ชอบเหล็กไหลและอยากได้อยู่จริงๆ

    ปู่บอกว่าแก้วพญานาคที่ให้พวกเรานี่เป็นรุ่นแรกเลยที่ปู่ได้มาแล้วเก็บไว้ไม่เคยให้ใคร นี่ถ้าไม่ใช่ลูกหลานอย่าหวังว่าจะให้ แต่เพราะเป็นลูกหลานที่ติดตามปู่มาเลยเอามาให้ แล้วปู่ก็พูดเรื่องเมื่อคืนที่พวกเราเล่นอะไรแผลงๆ ปู่ว่า นี่ดีนะท่านตาท่านยังเมตตาว่าเป็นลูกหลาน ไม่งั้นพวกเอ็งมีหวังได้ว่ายบกกันแน่ (อ๊ากกก..เกือบซวยแระ)

    ตอนที่พวกเรานั่งสมาธิกันเมื่อคืน หลานของน้องตุ๊กไม่ได้นั่งด้วย ก็เลยลืมตาดูอยู่ เขามาเล่าให้ฟังว่าเห็นพญานาคตัวใหญ่เลื้อยมา ตัวแรกสีขาว ตัวที่สองสีทอง เลื้อยมาหยุดดูแล้วก็เลื้อยไปทางรูปปั้น เขาตกใจมากก็เลยสะกิดน้องแมนถามว่า "เสร็จหรือยังๆ" ถามว่ารู้ได้ยังไงว่าเป็นพญานาค เขาว่าเห็นมีหงอนบนหัว ถึงเขาจะตกใจกลัว แต่พอถามว่าจะมาอีกไหม เขาว่า มา เนื่องจากได้รับรู้อะไรที่น่ามหัศจรรย์กระมัง อีกทั้งปู่ก็ให้มณีเม็ดเล็กเขาไปด้วย เขาเลยปลื้มมาก

    พวกเรามีความเห็นกันว่าจะถวายสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ให้กับทางวัด พร้อมทั้งจัดผ้าป่าไปถวายด้วย แล้วทางวัดก็ยังขาดของและปัจจัยอีกมาก อย่างเช่นแก้วกินน้ำ แก้วกินกาแฟก็ไม่ค่อยมี และอื่นๆอีก อีกทั้งยังต้องบูรณะองค์พระใหญ่ที่พังลงมาด้วย จึงอยากบอกบุญกับท่านกัลยาณมิตรทั้งหลาย ท่านใดมีความประสงค์จะร่วมบุญก็ให้รอฟังข่าวจากคุณหนิงนะคะ

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    มโนมยิทธิเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน โปรดอย่าเชื่อในทันทีตามกฏกาลามสูตร โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pn9.jpg
      pn9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      346.1 KB
      เปิดดู:
      104
    • pn10.jpg
      pn10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      322.6 KB
      เปิดดู:
      184
    • pn11.jpg
      pn11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      326.5 KB
      เปิดดู:
      150

แชร์หน้านี้

Loading...