อุเบกขา การวางเฉยอย่างถูกวิธี

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย จันทรเพ็ญ, 22 เมษายน 2011.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    น่าสนใจในคำกล่าวข้างต้น
    แต่ จะฝึกอย่างไรดีให้ได้ผลตามนั้น
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    วิธีการส่วนตัวผมนะครับแค่รับรู้แล้วก็จะเฉยๆคับ..เพราะคำพูดมองเห็นเป็นเพียงแค่นามธรรม..กลับมาดูอยู่ที่จิตซึ่งอยู่ภายในกาย..
    เหตุผลหรือคับ...เพราะพวกนั้นเป็นเพียงแค่คำพูดซึ่งเหตุเกิดจากภายนอกร่างกาย.คิดว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของๆเรา ไม่เที่ยง อยู่ได้ไม่นาน
    บังคับก็ไม่ได้...ถ้าไปร่วมรับรู้เราจะดึงเข้ามาเป็นของเราและอยู่ภายในกายของเราโดยไม่รู้ตัว
    จึงเป็นเหตุให้วางเฉยๆไว้..แล้วมาดูว่าใจเรามีอารมย์ร่วมหรือเปล่า..ถ้ามีก็ดับเค้าซะ..ประมาณนี้เองคับ..
    อนุโมทนาครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2011
  3. ข้าน้อยๆ

    ข้าน้อยๆ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +17
    อุเบกขา พอจะแยกได้ คือ

    ๑. วางเฉยเพราะไม่รู้ เช่น เขาด่าว่านินทา เขาสรรเสริญเยินยอ แต่ไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยิน
    จึงวางเฉยอยู่ได้ เรียกว่า วางเฉยเพราะไม่รู้

    ๒. วางเฉยได้ด้วยขันติ คืออดทน อดกลั้น มั่นคง ทนทาน ได้ยินเขานินทาเขาสรรเสริญ
    แต่ก็วางเฉยได้เพราะมีขันติ มีความอดทนเป็นเลิศ

    ๓. วางเฉยด้วยปัญญา คือพอใจหรือไม่พอใจอยู่ แต่เมื่อพิจารณาให้เห็นเหตุเห็นผลแล้วก็วางเฉยได้
    เรียกว่า โยนิโสมนสิการ คือทำใจไว้โดยแยบคาย

    ข้อ ๓ นี้แหละเป็นข้อปฏิบัติ ที่ทำให้เกิดอุเบกขาที่แท้จริง อันเป็นจุดมุ่งหมายของพระศาสนา
    เป็นการวางเฉยที่ถูกวิธี

    เจริญธรรม
     
  4. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +1,073
    จริงๆ ถ้าอ้างโดยตำราปริยัติแล้ว
    โดยหากไม่นับรวม อุเบกขา ตามความหยาบ ปานกลาง ละเอียด ที่เป็นหนึ่งในบารมี 30 ทัศ นั้น

    อุเบกขา ยังแบ่งออกได้เป็น 10 ประเภท

    ฉะนั้น โดยเนื้อความที่เจ้าของกระทู้ ตั้งกระทู้ขึ้นมา ซึ่งเกี่ยวเนื่องด้วยการวางอารมณ์สิ่งกระทบ อายตนะผัสสะ หรือที่เรียกตามบาลีว่า ฉฬงฺคุเปกขา

    ด้วยเหตุนี้ จึงเห็นด้วยกับผู้มาตอบ ในข้างต้น ดังกล่าว
     
  5. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,562
    ค่าพลัง:
    +2,128
    วางเฉยเพราะเบื่อหน่ายในความปลื้นปล้อน กลับกลอก ตอแหล ตลบแตลง พลิกลิ้นเล่นคำ ปัญญาอ่อน แก้เก้อของสัตว์

    กับวางเฉยเพราะรู้ว่า เหตุแห่งอาการปัญญาอ่อน แก้เก้อของสัตว์นั้น เป็นผลกรรมจากการอวดรู้ในพุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นเรื่องอจินไตยบ่อยๆ
    จึงวางเฉยต่อการแสดงออกแบบปัญญาอ่อนนั้น อย่างไหนดีกว่ากัน หรือว่าเหมือนกันนั่นละคือ ผิดวิธีทั้งสองแบบ ...
     
  6. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    กั๊กๆ

    คนเขาถามอุเบกขาการวาง ไม่ได้ให้มาอวด สิ่งที่อยู่ในมือตน หวะเฮ้ย
     
  7. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +1,073
    หลักสำคัญของการวางเฉย หรืออุเบกขา นั้นคือสติ อันเป็นธรรมที่มีอุปการะ ต่อองค์ธรรมอื่น
    สติระลึกทวนกระแสมาที่ใจเรา หากยังสติอันละเอียดไม่ได้ ก็น้อมไปในสติเบื้องต้น

    ให้ระลึกไปว่า เราเองก็ผู้มีกิเลสอันหยาบ เขาเองก็ผู้มีกิเลสอันหยาบ ทั้งเขาและเราที่ยังต้องอยู่ในข่ายกฏของวัฏฏะ
    อันพึงเห็นได้ ด้วยการแสดงถ้อยคำทางวาจา ด้วยถ้อยคำที่ถากถาง เสียดสี เยาะเย้ย เหล่านั้น
    ก็ยังดีกว่าที่เขาจะมาทำร้ายร่างกายเรา

    เหล่านี้เป็นอากัปกิริยา ผู้ยังเสพซ้องติดในรสแห่งกามคุณ ไม่ว่าเขาว่าเรา
    อันเป็นเหตุ ให้แสดงอกุศลด้วยเพียงคำพูด ก็ยังดีกว่าการแสดงออกมาทางกาย

    ระลึกไปอีกว่า วิถีแห่งการกระทำ ของผู้ยังมีกิเลส มักเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าเขาว่าเรา
    จิตเราจะชุ่มชื่นเบิกบาน เมื่อทวนกระแสสิ่งเหล่านั้นได้ พึงเจริญเมตตามาที่ตน ไปสู่เขา
    ตัดบ่วงกระแสกรรม แม้จะด้วยการข่ม แต่อันเป็นกุศลชั้นยอด

    คือ อภัยทาน

    จะเห็นได้ว่า สติ เป็นตัวเชื่อม อุเบกขา อันมีอภัยทาน เป็นที่สุด ต่อกระแสอายตนะผัสสะ ความไม่พอใจ ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2011
  8. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +1,073
    คิดเสียว่า เป็นแค่เสียง หมาว้อ..!

    เปรียบตัวเราเป็นดั่งใบตองแห้ง มันตกใจ มันจึงเอะอะ ว้อ เห่าออกมา<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. จันทรเพ็ญ

    จันทรเพ็ญ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +2
    กราบขอบพระคุณทุกท่านนะค่ะ ที่กรุณาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็น "ธรรมทาน"
    สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าคะ
     
  10. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,065
    ค่าพลัง:
    +2,682

    พิจารณาให้เห็นถึงความไม่มีแก่นสารสาระที่ดี ที่มีประโยชน์ เมื่อไม่มีประโยชน์ก็วางเฉย เห็นคำเหล่านั้นเป็นของไร้ค่าเช่นนั้น และจะยังมีอยู่เช่นนั้นในสังคมมนุษย์เป็นธรรมดา

    แต่ถ้าเป็นการตำหนิ อันนี้ก็ควรพิจารณาให้รอบครอบโดยอุเบกขา
    อย่าเอาแต่เอาหูไปนา เอาตาไปไล่ แบบหนีปัญหาไปเรื่อยๆ
    ถ้าเขาตำหนิเราหรือเราถูกตำหนิก็พิจารณาดูว่ามันจุดบกพร่องอย่างเขาว่าหรือเปล่า ถ้ามีก็แก้ไข เปลียนแปลง ปรับปรุง ถ้าไม่มีเป็นเพียงการกล่าวเท็จต่อเรา
    ก็ไม่ต้องไปเดือดร้อนอะไร ธรรมชาติของคนมันเป็นเช่น ...อ๋อ ..เป็นอย่างนั้นน่ะเอง ...แล้วก็ปล่อยวาง...
     
  11. cricket

    cricket สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    คือ หนูพึ่งอายุ 17 คะ แล้วมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง หนูไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงชอบ ว่าหนู ทั้งๆที่หนูไม่เคยยุ่งกับเขาเลย หนูจะวางเฉยยังไงดีคะ เขอบทำตัวเป็นจุดสนใจ หนูไม่ชอบแต่หนูก็เฉยๆนะคะ หนูทำถูกรึป่าวคะ?
     
  12. วิริยะ13

    วิริยะ13 สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,805
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +12,324
    คิดอย่างนี้นะครับ ...

    คนนินทาผู้อื่นคือคนที่สร้างกรรมไม่ดี เรียกว่ากรรมชั่ว เหมือนคนกินยาพิษ
    ถ้าเราไปร่วมนินทากับเขา ก็เหมือนเราเข้าไปกินยาพิษร่วมกับเขานั่นแหละครับ

    เห็นเขาทำไม่ดีอย่าไปร่วมกระทำสิ่งที่ไม่ดีนั้น เฉยๆ นะดีแล้ว
    ท่านเรียกว่า เป็นผู้มีขันติ ความอดทนอดกลั้น ซึ่งเป็นธรรมที่เกิดขึ้นได้ยาก

    นับว่าคุณหลานเป็นคนมีขันติคนหนึ่ง พยายามต่อไปนะครับ

    :)
     

แชร์หน้านี้

Loading...