เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

กราบ กราบ กราบหลวงปู่บุญศรีและหลวงปู่ทรง

สวัสดีพี่น้องบ้านเหรียญบินทุกท่านครับ(deejai)

พี่พีเอาประวัติการสร้างพระกริ่งแพโบสถ์น้ำมาเผยแพร่แล้ว ของที่แต่เดิมหากันยากอยู่แล้วจะยิ่งหายากขึ้นไปอีกครับ จากประสบการณ์ของตัวผมเองขอยืนยันว่าพระกริ่งแพโบสถ์น้ำเป็นของดีจริง ใครมีไว้บูชาถือว่าเป็นโชคดีของท่านนะครับ

ขอบารมีหลวงปู่บุญศรีและหลวงปู่ทรงคุ้มครองทุกท่านให้สุขกาย สุขใจ ไม่เจ็บ ไม่จนครับผม

 

เททอง ( ต่อ )

มาชมเหตุการณ์กันต่อน่ะครับ ภาพต่อไปนี้เป็นกล้องอีกตัวน่ะครับ ถ่ายโดยอดีต พนักงานบริษัทน้ำมันใหญ่รายหนึ่งที่มีความนับถือหลวงปู่เป็นอย่างสูง




เป็นภาพตอนหย่อนทองลงกระจ่าสำหรับหย่อนแผ่นทอง แผ่นทองผมคิดว่าเป็นของพี่เป็ดน้อย จากลำปางน่ะครับ ตามด้วยผมคิดว่าเป็นแหวน



ต่อจากนั้นก็เป็นบรรยากาศในการเท อีกมุมกล้องชุลมุนกันพอสมควร แต่สนุกมากครับและราบรื่นดีมากครับ ช่างคณะนี้มีฝีมือทีเดียว ไม่มีพระเสียเลยครับ ส่วนเตาเขียวๆน่ะเป็นเตาเหวี่ยง ก็เทไปด้วยกันน่ะครับ จริงๆ เพราะรีบทำเวลาเหมือนกัน มีเหตุขัดข้องบ้าง แต่เทหมดในฤถษ์ หลวงปู่จับสายสิณญ์จนหมดน้ำทองน่ะครับ



ในภาพเป็นการเทพระบูชาน่ะครับ พระบูชานี่ผมจะบรรยายละเอียดอีกที เพราะเทองคืหนึ่งเหมือนเทสององค์ เพราะต้องเท พระหนึ่งองค์ และ เท ฐาน อีก เบ้า





ในรูปช่างตักน้ำทองมา ยังสุกเหลืองร้อนๆอยู่เลยน่ะครับ

 

เททอง (ต่อ )

มาบรรยายด้วยภาพต่อน่ะครับ



ส่วนถ้าตอนหลวงปู่นั่งแล้วจะเป็นตอนเท พระบูชาน่ะครับ



ถ้าในภาพเห็นหลวงปู่ยืน จะเป็นตอนต้นที่เทพระประธานน่ะครับ



ส่วนคนมายืนถือร่มน่ะผลัดกันหลายคนน่ะครับ...แหะๆ

 

( ต่อ )



ภาพนี้เทพระประธานครับ เพราะองค์สูงหน่อย และ ภาพหุ่น พระบูชาหลังเท มีทั้ง องค์และฐานน่ะครับ งานนี้แม้จะเป็นงานเล็ก แต่เทพระบูชาจำนวนมากน่ะครับ ผมจำได้ว่าจองกัน เอาที่เทในฤถษ์ มีประมาณสี่สิบกว่าองค์ นอกนั้นเอาทองที่เหลือมาเทที่โรงงานครับ



พระบูชาทั้งหมด เท ๒๐๑ องค์ หมดเกลี้ยง มีคนต้องการอีก จึงไปเทที่โรงงานมาอีก ๒๑ องค์ ก็หมดเกลี้ยง ยังมีคนต้องการ แต่ผมขี้เกียจวิ่งขึ้น วิ่งลงแล้ว คือ สั่งให้ช่างเท แล้วผมต้องไปรับพระ ขนเอาพระขึ้นไปถวายให้หลวงปู่เสก แล้วจึงขึ้นไปรับพระมา มันหลายขั้นตอน จึงหยุดไว้ที่จำนวน ๒๒๒ องค์ ตองสอง พระชุดนี้ไปต่างประเทศ โดยเฉพาะที่สิงค์โปร์หลายองค์น่ะครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรีครับ

 

เมื่อเททองจนเสร็จ คำว่าเสร็จคือ แบบแม่พิมพ์และหุ่นที่เตรียมมาเทจนหมด แดดเริ่มร้อนแล้ว แต่ยังมีทองเหลือ และเมื่อตัดชนวน ยังมีทองเหลืออีกมาก ทองพวกนี้เอาไปเทเพิ่มน่ะครับจะเล่าในภาควัตถุมงคล หลังเทเสร็จ ก็ได้เวลานิมนต์หลวงปู่กลับขึ้นกุฏิ ก่อนกลับก็ต้องมีการถ่ายรูปกันหน่อย ผมมีรูปถ่ายของตัวเอง และ บรรดาผู้มีเกียรตฺที่มาร่วมงาน ท่านเหล่านี้มาช่วยงานเทพระ งานกฐิน และงานสร้างโบถส์ทั้งสิ้น

 

คนถือธงคือ เสี่ย ธ น่ะครับ ลูกศิย์คนสำคัญของหลวงปู่

 

คนที่ถือธงคนนี้คือช่าง สำอางค์ คนที่ปั้นพระประธาน และ ปั้นพระบูชา ตอนปั้นพระบูชาใช้เวลาเป็นปีๆ

 

สองท่านนี่คือ เบอร์ หนึ่ง และ เบอร์ สอง ของงานสร้างแพโบถส์น้ำ ตอนนี้ท่านปลดเกษียณไปแล้วทั้งคู่ และเป็นคนสำคัญที่ทำให้มีกฐิน บริษัทใหญ่ มาทอดที่วัด ได้เงิน เกือบ ล้านบาท ขาดไปหน่อยเดียว และเป็นผู้ออกแบบแพเหล็ก ร่วมบริจาคจนแล้วเสร็จครับ

งานที่ผมทำถวายหลวงปู่ ไม่มีทางสำเร็จได้เลยถ้าไม่มีสองท่านนี้เมตตาช่วยเหลือครับ

กราบขอบพระคุณท่านทั้งสอง ผมไม่เคยลืมท่านเลยครับ

 

รูปคุณแม่และผม ผมไปเททองกับคุณแม่ หลายครั้ง และหลายงาน งานนี้ผมก็ให้ท่านเป็นเจ้าภาพสายของผม เราไปเททองตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ตัวเล็กๆ จำได้ว่าไปเทที่วัด ป่าคลองกุ้ง ที่จันทบุรี และ ที่วัด อโศการาม ที่สมุทรปราการ ตอนนั้น ท่านพ่อลี ยังมีสังขารอยู่

นอกจากนี้ ผมยังให้ท่านเป็นเจ้าภาพเทพระชุดวิสาขาห์ ๔๙ ของหลวงพ่อทรง ครั้งที่คุณแม่ผมเห็นอภินิหาร การแยกฝนให้ไปตกข้างวัดของหลวงพ่อทรง โดยท่านมองเห็นเป็นเมฆดำพุ่งมาที่วัด ตอนที่เราเททองกันอยู่ พอมาถึงวัด เมฆแยกออกเป็นสองข้าง ผ่านวัดไป ไปตกข้างๆวัด ท่านบอก โอ้โฮมาเห็นกับตานี่แหล่ะ

คุณแม่ผมปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่ยังสาว มีหลายอาจารย์ องค์ที่สำคัญคือ ท่านพ่อลี หลวงพ่อวัดท่าซุง ( ตามท่านมาตั้งแต่อย่วัดสุทัศน์ คนอาจจะแปลกใจแต่เป็นเรื่องจริง ตอนนั้นท่านดุมาก ) หลวงพ่อวัด ถ้ำผาจม หลวงตามหาบัว ( ไปอยู่ที่วัดหล่ายปี ) และ องค์สุดท้าย คือ ท่านเจ้าคุณถาวร วัดสระปทุม ที่คุณแม่ผมรู้จักมาตั้งแต่ท่านยังเป็นเณร ตอนนั้นอยู่กับหลวงปู่โฮมที่วัดสระปทุม
<!-- google_ad_section_end -->

 

<!-- google_ad_section_end -->

รูปผมกับหลวงปู่ ผมนับถือท่านมากครับ และแน่ใจว่าท่านก็ทราบถึงความนับถือเป็นอย่างสูงของผม แม้กระทั่งวินาทีนี้

 

<!-- google_ad_section_end -->สองผู้ใหญ่ ฝ่ายพระ และ ฝ่ายฆราวาสครับ งานนี้ไม่มีทางสำเร็จถ้าขาดสองท่านนี้ครับ

 

แต่ล่ะภาพที่มีหลวงปู่ฯ รู้สึกเย็นตาเย็นใจมากเลยครับ
อริยาบถของหลวงปู่ทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆ รู้สึกโล่งเบาเย็นใจ
ดูภาพไปก็พลอยมีความสุขไปด้วย _/|\_

 

ขออนุญาติ พี่พี นำพระกริ่ง-พระชัยแพโบถส์น้ำที่เพิ่งได้มาให้พิจารณาอีกครั้งหลังจากได้สอบถามทาง MAIL ครั้งหนึ่งแล้วครับ...มีพระชัยองค์หนึ่งไม่มีโค้ด ด้านหลังไม่ทราบว่าลืมตอกโค้ด หรือไม่ได้ผ่านพิธีปลุกเสกจากหลวงปู่บุญศรี หรือไม่...ขอขอบคุณคำแนะนำใน MAIL มา ณ ที่นี้อีกครั้งครับ

 

อ้อ...ได้แถมเหรียญนี้มาด้วยครับ...เค้าว่าเสกพร้อมพระกริ่งแพโบถส์น้ำครับ...

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ

 

คุณถ่ายรูปดีมากเลยครับ อยากให้มาถ่ายของผมบ้าง...แหะๆ


พระที่ไม่ได้ตอกโค้ดมีครับ จะรวมไปเล่าตอนถึงภาควัตถุมงคลก็แล้วกันน่ะครับ

พระของคุณดูดีหมดครับ ดีใจด้วยครับ พระสวยทั้งกริ่งและพระชัยครับ

 

เค้าว่าก็ให้เค้ารับรองมาด้วยน่ะครับ

แถมน่ะของฟรี ของฟรีดีเสมอครับ

พระชุดแพโบสถ์น้ำน่ะปลุกเสก ปี ๒๕๔๑

ในเหรียญ เขียน ๒๕๔๒ ก็น่าจะทันอยู่น่ะครับ...แหะๆ ทันหลวงปู่คงทันแน่ หลวงปู่ล่ะสังขารปี ๒๕๔๔ น่ะครับ

 

เททอง ( ต่อ )

วันนี้ไปออกกำลังเหนื่อยมากน่ะครับ...แหะๆ



หลังจากมีการถ่ายรูปกันก็นิมนต์หลวงปู่ขึ้นกุฏิน่ะครับ





ก็มีญาติโยมตามขึ้นไป ก็มีการแจกของดีกันหน่อย เป็นของคุณเป็ดน้อยจากลำปาง ท่านผู้นี้จะเก่งทางด้านทำผ้ายันต์ และของท่านผู้นี้แจกฟรีทั้งสิ้น เป็นผ้ายันต์สวยๆ ผมก็ได้แจกมาบ้างครับ

 

ตอบ

อยู่หน้า ๑๒๗๗ ครับ ขอยกมาอีกที

ประวัติหลวงปู่พระครู บุญศรี อินฺทวณฺโณ
<O</O​

จากคำบอกเล่าของหลวงปู่เอง และจากคุณน้าสมพงษ์ บูรณานันท์ ( หลานหลวงปู่อายุ ๖๕ ปี เกิด พ.ศ. ๒๔๗๖)
<O</O
ครูเพชร แพ่งเกษร ครูเจริญ วัดใหม่ฯ และจากใบสุทธิ ของท่าน<O</O

จากใบสุทธิ
<O</O
ชื่อ บุญศรี นามสกุล สังขะพานิช
<O</O
วิทยฐานะ ชั้นมัธยม ๓ ( จัดว่าสูงมากในยุคนั้น ) อาชีพ พานิชกรรม
<O</O
บิดา นาย ทองหยู่ ( ซีปู้ แซ่เตีย แต้จิ๋ว ) มารดา นาง ทิน ( ทับทิม ลูกครึ่งไทย จีน )
<O</O
เกิด วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๐ ตรงกับ วัน พุธ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๒ ปี มะเส็ง ( หลังรัชกาลที่ ๕ สวรรคต )
<O</O
แต่ในใบสุทธิเขียน เกิดวัน ๑ ฯ ๒ ค่ำ ปี มะเส็ง ๒๔๖๐ ซึ่งหลวงปู่บอกว่าผิด
<O</O
ตำบล ตลุก อำเภอ สรรพยา
<O
จังหวัด ชัยนาท
<O</O
สีเนื้อ ขาวเหลือง สัณฐาน สูง
<O
ตำหนิ แผลเป็นใต้ศอกขวา
<O</O
บรรพชา
<O</O
ชื่อ สามเณร บุญศรี ฉายา อินฺทวณฺโณ
<O</O
พระครูอุทิศธรรมวินัย เป็นอุปัชฌายะ
<O</O
บรรพชาเมื่ออายุ ๒๑ ปี
<O</O
วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓
<O</O
ณ วัดทุ่งหลวง ตำบล ทุ่งพงษ์ อำเภอ หนองฉาง จังหวัด อุทัยธานี
<O</O
อุปสมบท
<O</O
ชื่อ พระ บุญศรี ฉายา อินฺทวณฺโณ
<O</O
พระครูอุทิศธรรมวินัย เป็นอุปัชฌายะ
<O</O
พระอาจารย์ ทรง กรรมวาจาจารย์
<O</O
พระอาจารย์ ปิ่น อนุสาวนาจารย์
<O</O
อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี
<O</O
วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓
<O</O
( น่าจะบรรพชาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ การบันทึกผิดไปรอบหนึ่ง หลวงปู่ท่านบอกว่า ใบสุทธิมาทำใหม่ทีหลัง และผิด แต่ถ้าเรารู้นิสัยท่าน ท่านจะเป็นคนนิ่งๆ เฉยๆ และเลยตามเลย )
<O</O
ณ วัดทุ่งหลวง ตำบล ทุ่งพงษ์ อำเภอ หนองฉาง จังหวัด อุทัยธานี
<O</O
ชื่อ พระบุญศรี
<O</O
ฉายา อินฺทวณฺโณ
<O</O
วัด สะพานหิน
<O</O
ตำบล หาดทะนงค์
<O</O
อำเภอ เมืองอุทัยธานี จังหวัด อุทัยธานี
<O</O
วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓
<O</O
เจ้าอาวาส พระครูอุทิศธรรมวินัย เจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี
<O</O
สำนักที่จำพรรษา (จากคำบอกเล่าของหลวงปู่ )
<O</O
๑) วัดสพานหิน ( หลวงปู่เล่าว่า ได้ฝากตัวเรียนวิชา พระคาถาอาคมกับพระอาจารย์ บุญธรรม วัดทุ่งหลวง โดยมีข้อแม้ว่าต้องบวช ในรุ่นท่านมีอยู่ ๕ คนที่บวชเข้ามาเรียนวิชา เมื่อกราบเรียนถามท่านว่า พระอาจารย์ บุญธรรมเก่งไหม ท่านตอบว่า เก่ง แต่ไม่ปรากฏว่าสร้างพระเครื่องรางของขลังไว้ )
<O</O
๒) วัดโบสถ์ ๑ พรรษา
<O</O
๓) วัดไชโย ๑ พรรษา เคยเดินไปเที่ยววัดพิกุลทอง สิงห์บุรี พระครูพุทธพิมพ์ภิบาล เป็นเจ้าอาวาสและเป็นเจ้าคณะอำเภอ มีเรือยนตร์ ๒ ลำ
<O</O
๔) วัดที่จังหวัดอุตรดิตย์ ตรงข้ามวัดท่าเสา ๑ พรรษา
<O</O
๕) วัดทุ่งหลวง หนองฉาง อุทัยธานี ๓ พรรษา เป็นเจ้าอาวาส ครูเจริญครูโรงเรียนวัดใหม่เคยคุยกับคนส่งที่เคยจัดส่งปิ่นโตให้หลวงปู่
<O</O
๖) วัดสพานหิน ? วัดบ้านกล้วย?
<O</O
๗) วัดสำโรง พยุหคีรี
<O</O
๘) วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เป็นเจ้าอาวาส ประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๓ ถึง ๒๕๔๔ จนล่ะสังขาร<O</O
<O</O

ประวัติส่วนตัว
<O</O
เกิดที่อำเภอวัดสิงห์ คุณยายอยู่สรรพยา คุณยายเป็นผู้บวชให้ ( จากคำบอกของหลวงปู่ บวชเมื่ออายุ ๒๓ ปี )
<O</O
มีพี่น้อง ๕ คน เป็นอันดับต่อไปนี้
<O</O
๑) คุณยาย กิมยู้ เสียชีวิต ตอนเสียชีวิตอายุ ๘๐ กว่า เสียมา ๑๐ กว่าปี ( จากคำบอกเล่า นับตอน พ.ศ. ๒๕๔๐ ) คุณยาย กิมยู้ น่าจะเกิด ประมาณ พ.ศ. ๒๔๔๐ กว่า
<O</O
๒) หลวงปู่ ( ตี้ ) ซึ่งเกิดตามมา ผมเชื่อว่าท่านเกิด พ.ศ. ๒๕๔๘ ครับ และน่าจะบวชเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ ครับ
<O</O
๓) คุณปู่เท้า
<O</O
๔) คุณยาย กิมเอง เสียชีวิตแล้ว ( ๒๕๔๐ )
<O</O
๕) คุณยาย ละมูล แซ่ ลี เกิดปีวอก ( ๒๔๖๑ ) อายุ ๘๐ ปี ตอนปี ๒๕๔๐
<O</O
ไม่เคยเป็นทหารมาก่อน จากคำบอกเล่าของหลวงปู่เองว่า เกือบโดนเกณท์เป็นทหารม้าที่สระบุรีเพราะขี่ม้าเป็น ท่านแสดงรอยสักที่ท้องแขน ว่าข้างขวาเป็นรอยสักทับรอยสักเดิมสมัยเป็นเด็กสักเล่นๆ ส่วนบนท้องแขนข้างซ้ายเป็นรอยสักฉายา อินฺทวณฺโณ
<O</O
<O</O
หลวงปู่ละสังขารเมี่อวันพุธที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๔ เวลาประมาณ ๙ โมง ๑๕ นาที ด้วยอาการอันสงบ

ข้างบนเป็นบันทึกมาจากใบสุทธิ และจากคำบอกเล่า กว่าผมจะรู้แค่นี้ใช้เวลาเป็นปีๆ สาเหตุเพราะท่านเป็นคนไม่พูดมาก ถามคำตอบคำ และ ไม่ชอบเล่าประวัติ พอคุยๆไป วกมาถาม ท่านก็บอกที พอรู้ว่าเราจะถามประวัติ ท่านก็หยุด คราวนั้นเป็นอันว่าอด ต้องรอไปอีกสักหลายเดือน เป็นสองสามเดือน รอท่านไม่ระวังตัว คุยๆไปคุยมา วกมาถามต่ออีกที ก็ได้อีกหน่อย เหตุการณ์ก็เป็นแบบเก่า ต้องเผลอๆ แอบถามไปเรื่อยๆ แล้วเอามาปะติดปะต่อกัน

ผมจดไว้ กันลืม ผมจะเล่าไปเรื่อยๆ แต่พอมาถึงยุคที่ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านแล้ว ท่านเมตตารับไว้ พอผมสนิทๆกับท่าน รู้แกวว่าจะถามอะไรลึกๆ ต้องอยู่กันแค่สองคน

ครั้งสำคัญคือผมถามที่สงสัยว่า หลวงปู่คือหลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก หรือปล่าวครับ ท่านยกมือปฏิเสธทันที และบอกว่า ไม่ใช่ เขาเข้าใจกันผิด และผมทราบนิสัยว่า เมื่อท่านบอกไม่ใช่แล้ว พวกก็ยังมาตื้อให้ใช่อีก ( ด้วยเหตุผล ต่างๆ ตามความเชื่อส่วนตัว ) ท่านก็จะเฉยซ่ะ ปล่อยเลยตามเลย

ข้างบนต้วสีฟ้าเป็นประวัติของท่านแบบละเอียดน่ะครับ รับรองว่าไม่มีทางได้ยินจากใครแม้ตอนงานศพของท่าน ที่บรรยายก็ไม่ละเอียดแบบนี้ เพราะบอกตามตรงใน พ.ศ. น่าจะมีผมคนเดียวที่ทราบละเอียดแบบนี้ เพราะคนทั่วไป ไปหาหลวงปู่ด้วยเจตนาอื่น เช่น ไปทำบูญ ทำสังฆทาน โดยเชื่อว่าหลวงปู่เป็นหลวงปู่ ฤาษีลิงเล็ก ไปโดยนับถือ ท่านแม่ชีประทุม ไปขอเครื่องรางของขลังไปเรียนวิชาปลุกเสก เครื่องรางของขลัง ( มีอยู่ท่าน มีภรรยาเป็นพยาบาล มักจะไปนอนค้างคืน เรียนวิชากับหลวงปู่บ่อยๆ ผมลืมชื่อท่านทั้งสองคนซ่ะแล้ว ) ไปขอหวย ไปขอให้ช่วย ฯลฯ เพราะคนที่ไปหาหลวงปู่จะเป็นคนสายหลวงพ่อวัดท่าซุง ซึ่งบอกตามตรงมีพื้นฐานด้าน ไปวัดไปวามาแล้วส่วนใหญ่

แต่รับประกันว่า มีไม่กี่คนที่ไปคอยซักถามประวัติ หลวงปู่ แล้วมาบันทึกไว้ เพราะเป็นงานยากมาก ต้องไปบ่อยๆ สาเหตุ เพราะท่านจะเล่าทีล่ะหน่อย ไปซักมาก ท่านจะหยุดพูดโดยเฉพาะเมื่อมีกันหลายคน เมื่อท่านรู้ตัวโดนถามเรื่องส่วนตัว ท่านจะหยุดพูด

โดนถามเรื่องอาจารย์ท่านก็จะหยุดพูด ผมใช้ความพยายามเป็นปีๆ ไปทุกอาทิตย์ บางอาทิตย์ไป สอง สามครั้ง ด้วยความนับถือและนิสัยส่วนตัวของผม ที่พออยากรู้จักใคร นับถือใครอยากรู้ จากหน้าบ้านไปถึงในครัว ให้มั่นใจ และ หลวงปู่พระครูบุญศรี เป็น พระที่ผมมั่นใจมาก มั่นใจแบบเจอตรงไหนก้มลงไปกราบกับพื้นได้เลยทีเดียว มั่นในว่ากิเลสท่านน้อยมากแล้ว มั่นใจว่าสติของท่านไม่มีเผลอ ไม่มีหลุด แม้จะป่วยมาก ไข้ขึ้นสูง แม้จะอายุมาก ก็ไม่มีหลุด เดินตัวตรง หลังตรงไม่โค้งงอเหมือนคนอายุ ๙๐ หรือ ร้อยปีทั่วไป เดินไม่ต้องมีไม้เท้า หรือ ให้ใครพยุงมีความเชื่อมั่นในตนเองเป็นอย่างสูง มีอะไรหลายอย่างที่แปลกๆจากคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ท่านห่างไกลกิเลสมามากแล้วครับ...แหะ ที่บอกนี่มาจากการสังเกตุ ไม่ใช่นับถือแล้วมาบอกว่า ท่านดีแบบโน้นแบบนี้ มาบอกว่าเป็นพระอริยะบุคคล เพราะผมไม่เป็นอะไรสักอย่างก็บอกไม่ได้

บอกตามตรงจากใจของผม ผมไม่เลื่อมใสคนแบบเราๆท่านๆ มาบอกว่าพระองค์โน้นสำเร็จอย่างนี้ เป็นขั้นโน้นขั้นนี้ เพราะผมเองก็บวชมานาน หลายเดือน สวดมนต์ ทำจิตทุกวัน เป็นเวลา ร้อยว่าวัน เอาแค่ให้จิตสงบก็ยากแล้ว การขจัดกิเลสไปจากใจให้ หายไปทั้ง ร้อย เปอร์เซนต์ เป็นเรื่องยากมาก กิเลสน่ะมีแต่จะยิ่งโต มีเชื้อแค่หน่อยเดียวก็โตเต็มบ้านได้ในเวลาไม่นาน อยากจะบอกท่านว่า ไปเจอพระแล้วปฏฺบัติ ปฏิบัติชอบก็พอ เป็นบุญแล้ว การสำเร็จเป็นพระอริยะบุคคลเป็นเรื่องยาก และไกลตัวเรามาก เราไม่มีทางเอามาตรฐานเราไปบอกได้เลย ว่าจิตคนโน้นเป็นอย่างไร จิตคนนี้เป็นอย่างไร คนที่สำเร็จจริงๆ ไม่มีทางพูด เปิดเผยตัวครับ เพราะมันคนล่ะเรื่องกับการโฆษณา ท่านพวกนั้นไปไกลมากแล้วครับ

หลวงปู่ท่านเป็นคนแบบนี้แหละครับ เคร่งพระธรรมวินัย รอบรู้ในพระธรรมวินัย และ ศาสตร์โบราณต่างๆ ขอบอยู่เงียบๆ ในที่สงัด ฉันแค่มื้อเดียว การปรุงแต่งของท่านมีน้อยมาก เป็นพระปฏิบัติดี และ เป็นของจริงครับ แอบดูซ้ำๆมาหลายปี เป็นแบบไหนก็แบบนั้น เราน่ะหลุด ส่วนหลวงปู่ไม่มีทางที่สติท่านจะหลุดครับ

เรื่องนี้ผมมีเรื่องเล่า กั้กไว้ก่อน เพราะเรื่องเล่ามีเยอะ เล่าไปเป็นปีๆ ไม่มีทางหมดครับแต่อยากจะออกตัวว่า เป็นความเชื่อเฉพาะตัวน่ะครับ<O</O<!-- google_ad_section_end -->