แสงอะไรที่ลอยอยู่ [เจอกับตัว]

เป็นเรื่องเมื่อตอนเด็ก ๆ ตอนนั้นอยุ่บ้านพักของพนักงาน เป็นไม้ มีห้องติดกัน แถวนึงก็ 6 ห้อง
เราเองก็จำไม่ได้แล้วว่าวันนั้นเป็นวันอะไรแน่ แต่เหมือนจะเป็นวันอะไรซักอย่างนี่แหละ เป็นข่าวหรืออะไรซักอย่าง เพราะมันนานมาก จำไม่ค่อยได้
วันนั้นเราอยุ่บ้านกับพ่อแม่ จำได้เพียงว่าเราได้ยินข่าว แล้วก็บอกให้พ่อกับแม่พาไปดูอะไรบางอย่างข้างล่าง ก็ลงไปกัน
ตอนนั้นมันค่ำแล้วก็มีแต่ครอบครัวเราที่ลงไปดู(อะไรบางอย่าง) ก็ไม่ได้มืด มีไฟใต้ถุนบ้านกับไฟถนนติดอยุ่
เราก็มองไปบนฟ้า มองไปนู้นไปนี่ แล้วทีนี้ก็ไปเห็นอะไรบางอย่างลอยมา เป็นดวงไฟกลม ๆ เท่าลูกฟุตบอลลอยมาจากทางเข้าสนามหญ้าของห้องสุดแถว ซึ่งไม่ไกลจากที่เราอยู่นัก
แล้วลอยหายไปยังข้าง ๆ ห้องสุดแถวนั้น เรายังชี้ให้พ่อแม่ดูเลย แต่พวกท่านไม่ได้พูดอะไร เราก็จะวิ่งไปดูแล้วละว่ามันลอยไปทางไหน แต่ไม่ได้ไปเพราะหญ้ามันขึ้นเยอะ กลัวงู
คือตอนนั้นไม่รู้จริง ๆ ว่าคืออะไรแน่ แต่เราไม่ได้ตาฝาด ไม่ใช่กระสือแน่นอน ไม่ใช่หิ่งห้อยด้วย เป็นดวงไฟลอยช้า ๆ ผ่านไป และไม่คิดว่าจะเจอจริง ๆ
คือตอนนั้นยังเด็ก ไม่ได้คิดอะไร (เพราะพ่อแม่ไม่เคยหลอกเรื่องผี) และตั้งแต่เกิดจนตอนนี้ไม่เคยเจอเลย จริง ๆ ด้วย

มีใครอ่านแล้วพอจะทราบไหมว่า มันคืออะไร

 

ท่านผู้รู้ โปรดแถลงไขด้วยเทอญฯ


.

 

ตอนเป็นเด็กก็เคยเจอใหญ่มากเป็นลูกกลมๆ คล้ายพระอาทิย์จะตกดินกว้างน่าจะ แปดสิบ ซม จากสายตาลอยอยู่หลังบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้าน เห็นกันทั้งบ้าน ไม่รู้เหมือนกันคืออะไร ยังจำได้ยันทุกวันนี้

 

เมื่อประมาณปี 2517 ผมก็เคยเห็นที่กองร้อยทหารในศูนย์การทหารม้า สระบุรี เวลาประมาณตีห้า ผมนอนเล่นบนหลังคารถสองแถว มองผ่านหน้าต่างหน้ากองร้อยทะลุไปยังหน้าต่างด้านหลัง เห็นดวงไฟกลมขนาดลูกบอลมีแสงคล้ายดวงจันทร์ลอยจากระดับสูงกว่าหลังคาลอยเคลื่อนเข้าหน้าต่างด้านหลังกองร้อย แล้วก็หายไป ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร

 

ส่วนตัวผมเคยเห็นอยู่สองครั้งครับ ตอนเด็กๆ ผมเป็นเด็กวัดอยู่ ผมเดินไปที่ระเบียงด้านหลังของวัดอยู่ทางทิศใต้ของตัววัด ผมกำลังจะไปล้างจานที่ชั้น 2 ของระเบียงวัด วันนั้นพระจันทร์เต็มดวง มองเห็นต้นไม้หลังวัดได้อย่างชัดเจน เพราะ สามสี่ทุ่มแล้ว ช่วงเวลากำลังล้างจานอยู่ผมมองเห็นดวงไฟสีแดง ลอยอยู่บนหลังค้าบ้านของเพื่อนผมที่รู้จักกัน ห่างจากตัววัดไปประมาณ 70 เมตรโดยประมาณ มันเป็นดวงไฟที่กำลังลุกไหม้ ลอยอย่างช้า พอผมมองจ้องไปหามัน มันก็ลอยอยู่นิ่งแล้วก็มีเสียงดังพรึ่บแล้วดวงไฟก็หายไป ผมก็ไม่เข้าใจว่าดวงไฟนั้นมันคืออะไร พอเช้ามาผมก็ไปถามเพื่อนที่บ้าน ถามว่ามีอะไรอยู่บนหลังคามั๊ย บ้านเพื่อนของผม เป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูง ก็ได้ความว่าไม่เห็นมีอะไรบนหลังคา เพราะถ้าเป็นพลุหรือโคมลอย ที่ลอยมาก็น่าจะมีเศษไหม้อยู่บนหลังคาบ้าง สรุปคือ ไม่มีอะไรเลย

ส่วนที่เรื่องนึ่งอันนี้เกิดที่บ้านต่างจังหวัดของผมเอง เป็นช่วงเดือนเมษายน 2548 พอดีผมกำลังเข้าวัยเบญจเพศ เห็นใจร้อนบ่อย เลยบอกแม่ว่าอยากบวช แม่ก็จัดงานให้บวช ประเพณี ของต่างจังหวัดศรีสะเกษ ถ้าใครจะออกบวชต้องไปกราบลาบวชผู้หลักผู้ใหญ่ของหมู่บ้านให้ครบทั้งหมู่บ้าน และก็ขอพร ช่วงดึกวันที่ผมกำลังจะเดินกลับถึงบ้านผมเดินมากับลุง ซึ่งลุงก็กำลังมึนสุราหน่อย เดินซ้ายเดินขวาไม่ค่อยตรงทางเดิน แต่ผมไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ นะครับ พอเดินมาจะถึงหลังบ้านของผม ซื่งอยู่ทางทิศตะวันตก มีต้นมะพร้าวอยู่สองสามต้น ช่วงนั้นก็ยังไม่ดึกมากเท่าไร ประมาณ สามทุ่มกว่าๆ แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดส่วนมาเวลานี้ก็มืดมากๆ มองอะไรก็มืดไปหมด พอผมกำลังจะเลี้ยวเข้าหลังบ้าน ผมก็เหลือบไปเห็นแสงเขียวๆ ลูกใหญ่ประมาณลูกวอลเล่บอลเห็นจะได้ลอยอยู่บนอากาศ เลยต้นมะพร้าวหลังบ้านผมอีก ต้นมะพร้าวหลังบ้านผมแต่ละต้นก็สูงสิบเมตรขึ้นทั้งนั้น ดวงไฟสีเขียวนี้ลอยไปมาวนเป็นวงกลมอยู่สองสามครั้งแล้วก็พุ่งตรงไปที่ยอดต้นมะพร้าวหลังบ้านผมพอดีแล้วก็หายไป จังหวะนั้นผมก็ถามลุงที่เดินมากับผมว่าเห็นดวงไฟสีเขียวๆมั๊ย ลุงบอกว่าไม่เห็น แล้วยังบอกกับผมว่า นาค ตาลายหรือเปล่า ผมขอบอกเลยว่าผมมีสติดีอยู่พอสมควรว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะตายลาย เพราะเห็นเต็มตาจริงๆ ว่าเห็นลูกไฟสีเขียว ลูกใหญ่เท่าลูกวอลเล่บอลพุ่งวนไปมาตรงหลังบ้านผมเอง แล้วก็พุ่งเข้าไปที่ยอดมะพร้าว จนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเป็นลูกไฟอะไรกันแน่ ถามใครต่อใครก็บอกว่า คงเป็นผีพราย มาขอกุศล เพราะเห็นว่าผมกำลังจะบวช
ถ้าให้ดีอยากให้ผู้ที่รู้จริงๆว่า ลูกไฟที่ผมเห็นถึงสองครั้งนั้น มันคืออะไรกันแน่ ช่วยบอกผมด้วยครับ อยากรู้จริงๆ

 

ถ้าคุณเจ้าของกระทู้คิดว่าไม่น่าใช่ผีกระสือแน่ก็น่าจะเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติครับ

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน แปลความหมายของ กระสือ ไว้ว่า ผีผีชนิดหนึ่งที่ถือว่าเข้าสิงในตัวผู้หญิง ชอบกินของโสโครก โดยผีกระสือคู่กับผีกระหังซึ่งเป็นผีผู้ชาย
สำหรับ ผีกระสือ ในทางวิทยาศาสตร์ คือ แก๊สมีเทน (methane) ที่เกิดจากการเน่าเปื่อยผุพังของสารอินทรีย์แล้วติดไฟในอากาศ เป็นแสงวอบแวบในที่มืด หรือโคมชนิดหนึ่ง มีที่เปิดปิดไฟ มีแว่นฉายแสงไปได้ไกล

 

ผมเจอเป็นลักษณะกลมเท่าลูกบอล มีแสงสีเขียวลอยอยู่สูงประมาณยอดต้นมะพร้าวครับ
เวลาทุ่มนึง ทราบว่าเป็นอะไรครับท่าน

 

คงต้องรอ"ท่านผู้รู้"มาตอบครับ

 

ถ้าเป็นตามบ้านนอก ก็ต้องเรียกว่า กระสือ น่ะครับ....ไม่มีไรมาก

 

พี่คนหนึ่งเขาบอกว่า อาจจะเป็นพระพุทธรูป หรือเป็นว่าน หรือเป็นของที่คนเอามาทิ้ง หรือไม่ก็ผี

 

อาจเป็นแสงไฟจากไฟฉายของคนที่เดินผ่านมาก็ได้


รายได้เสริม

 

อาจเป็นภาพลึก ๆข้างในที่เราคิดไปเอง


รายได้เสริม

 

นั่นสิครับ มันคืออะไรกัน .. ในโลกนี้ ยังมีเรื่องที่เราไม่รู้อีกมากครับ เรารู้จักโลกใบนี้น้อยกว่าดาวอังคารหรือดวงจันทร์ ซะอีก..

 

ผมขอตอบ แบบข้อสมมติ

-ดวงไฟใหญ่กลมสีขาวสว่าง(คล้ายๆสปอตไลท์) เป็นพวกมีบุญ พวกเทวดา อาจเป็นรุขเทวดา หรือภูมิเทวดา บริเวณนั้น (ถ้าเป็นแสงสว่างแบบเห็นแล้วมีพลังงานมาก)
-บางก็เป็นดวงไฟหลากสีระยิบระยับแต่มีความสว่างพอดูไม่อึมครึม ก็เป็นพวกเทวดา ทั้งหลายนั้นแหละ หรือผีเจ้าที่(ที่เป็นเทวดามีพลังมากหน่อย)
-บ้างแสงที่เห็นก็เป็นพระธาตุครับ พระธาตุ (คนโบราณบอก) แต่ผมว่าไม่ใช่ ผมว่าเป็นเทวดามาไหว้พระธาตุมากกว่า เช่นสมัยก่อนที่บ้านผม จะมีวัดป่าสายหลวงปู่มั่นอยู่ และมีพระบรมธาตุอยู่ห่างกันประมาณ 4 กิโล แต่หากอยู่กลางทุ่งนาสามารถมองเห็นวัดทั้งสองได้ ยามค่ำคืนจะมีแสงไฟดวงกลมสีขาว ลอยตามยอดไม้จากวัดนั้นไปที่ เจดีย์ที่บรรจุพระธาตุอีกวัดบ้าง บ้างก็จากที่เจดีย์บรรจุพระธาตุไปวัดป่านั้นบ้าง คนเห็นกันเยอะและมักจะพูดต่อๆกันว่าเป็นพระธาตุ แต่จากประสบการณ์ผม ผมคิดว่าไม่ใช่ เพราะในยามค่ำคืนจะมีเหล่าเทวดา ทั้งหลายมาสนทนาธรรมกับหลวงพ่อที่วัดนั้นยามค่ำคืน ก่อนกลับท่านอาจจะไหว้พระธาตุและกับไปยังที่อยู่ของท่านก็ได้ แสงไฟนั้นลอยสว่าง จนเห็นยอดไม้ เลย
-ที่บ้านผม ตรงศาลพระภูมิ(เก่า) เมื่อก่อนเป็นไม้ธรรมดา มีชาวบ้านเห็นมีแสงสว่างจ้าออกจากพื้นดินบริเวณนั้น จนสมัยนั้นพวกผมก็คิดว่ามีแร่ธาตุที่เรืองแสง ใต้ศาลนั้นแน่ อาจเป็นยูเรเนียมก็ได้ แต่สรุป แสงนั้นใช่จะเกิดตลอด เป็นแค่แว็บเดียวแว๊ปเดียวจริงๆ
-อ้อ และในป่า พวกผีที่มีกำลังมากๆ (คนส่วนใหญ่เรียกกันภูมิเจ้าที่ เป็นเทวดาระดับหนึ่ง ) หรือบางทีพวกคนธรรฆ์ คนลับแล ก็สร้างเป็นดวงไฟลอยไปลอยมาได้ แบบนี้แหละครับ แต่สังเกตุดีๆนะครับ พวกแสงไฟที่สว่างนวลๆมากๆ เหมือนลูกไฟสปอร์ตไลท์ มีรัศมี สามารถทำให้เห็นสิ่งที่อยู่ใกล้ๆได้ เหมือนหลอดไฟ พวกนี้พวกมีบุญ
-แต่แสงไฟขมุกขมัว อ่อนๆ รัศมีของแสงแทบไม่มี พวกนี้วิญญาเร่ร่อน หรือพวกผีทั้งหลาย
-พวกดวงไฟกลมๆ สว่างๆส่วนใหญ่ไม่ยุ่งกับคนหลอกครับ แต่บางครั้งก็มาให้เห็น ต่อหน้าต่อตา ตัวต่อตัว เพราะอาจจะต้องการสื่ออะไรบางอย่าง
-เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลใครจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่ผมมองเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว ถ้าย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ผมคงจะตื่นเต้นหน้าดู

 

ถึง Rep. คุณ นายดอกบัว ครับ .. แล้ว คนที่จะเห็นแสงจากพวกเขาเหล่านี้ได้ เพราะอะไรครับ หรือเขาอยากให้เราเห็น หรือต้องการสื่ออะไรบางอย่าง

 

-บังเอิญเห็นก็มี
-เค้าตั้งใจมาหาให้เห็นก็มี
-ไปอยู่ในเส้นทางที่เค้าเดินทางเป็นประจำ ในเวลาปกติที่เค้าจะผ่านก็มี
-ไม่จำเป็นต้องมีบุญอะไรหรอกครับ โลกเรามีภูมิซ้อนภูมิตั้งเยอะ

อย่าลืม แสงไฟสว่างๆ จ้าชัดเจนเหมือนไฟสปอร์ตไลท์นี่ พวกมีบุญมาก ดูแล้วรู้สึกดี
แต่แสงไฟไม่สว่างจ้า เหมือนไฟฉาย ลอยไปลอยมา พื้นที่รัศมีโดยรอบไม่โดนแสงพวกนี้ผี ครับ จะผีอะไรก็แล้วแต่ แต่บุญมันไม่มีมาก หรือไม่งั้นก็พลังไสยดำ ดูแล้วอึมครึม น่ากลัวไม่น่าไว้ใจ

รับรู้จากพลังงานครับ

(นิทาน อ่านให้คิด) บางเวลาเราเห็นแสงสว่างจ้ามาก แปล๊บๆ เหมือนคนเปิดสปอร์ตไลท์ แล้วดับไป เมื่อไปดูที่เกิดเหตุ มีแค่พระธุดงค์นั่งปักกลดอยู่รูปเดียวในป่า จริงๆแล้วในขณะที่เรามีบุญแล้วยิ่งบุญจากกรรมฐาน เมื่อแผ่เมตตา โดยไม่เจาะจง พลังจะกระจายออกเหมือนเราเปิดไฟรอบทิศอย่างนั้นแหละ ถ้าเราอยู่ในจุดที่รับรู้จะมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อ แต่พวกวิญญาณเค้าเห็นกันทั่วครับ เพราะฉะนั้นเวลาเราทำกรรมฐาน ยิ่งในที่วิเวก บางคนเห็นวิญญาณมานั่งรอล้อมรอบ(ส่วนใหญ่) แต่มีบางตัวอาจจะห่วงถิ่น เพราะเค้ารออยากจะได้กระแสบุญนี้ คนก็รับได้ครับ เมื่อคนเปิดใจ(เค้าเรียกอนุโมทนาบุญ) ก็จะรู้สึกสบายใจ ใจชื้นอย่างบอกไม่ถูก เอาไปคิดกันเอาเองนะครับ:'(

 

ผมเคยเห็นมา3ครั้งแล้วครับผม
1.ครั้งแรกเห็นเป็นดวงไฟสีเขียวนวลสวยงามลูกใหญ่กว่าฟุตบอล ลอยไปเรื่อยไแต่มีหางสีขาวยาวปลิวไสวเหมือนหางว่าวโดนลม
2.ดวงสีขาวโตกว่าลูกปิงปองเล็กน้อย แสงดูคล้ายหิ่งห้อยแต่ไม่กระพลิบ ลอยก็คล้ายหิ่งห้อยเช่นกัน
3.ครั้งล่าสุดไม่นานมานี้ เห็นเป็นดวงสีแดงสุกคล้ายไฟ ดวงเท่าฟุตบอล แต่ไม่มีแสงออกมา ลอยนิ่งอยู่เหนือยอดไม้ ผมมองอยู่พักหนึ่งพอเอาไฟส่องดูหายวับไปกับตาทันที ครั้งนี้เห็นแล้วรู้สึกกลัวไม่เหมือนกันกับครั้งก่อนๆที่เคยเห็น ครั้งนี้มันทำให้ผมใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปหลายวันครับผม
(แต่สิ่งเหล่านี้มาย้ำเตือนให้เห็น หากมองในแง่ที่ดีทำให้ผมเชื่อแน่ว่า นรก สวรรค์ บาป บุญคุณ โทษ นั้นมีจริงครับผม ขยันทำความดีไว้มากๆนะครับ)

 

ผมก็เคยเจอตอนเด็กๆ ไปยิงนกตามทุ่งนาตอนกลางคืน เป็นต้นข่อย 2 ต้นใหญ่มากเสียงนกนี่เยอะมากๆเป็นฝูงแต่พอเอาไฟส่องเห็นแค่ 2 ตัว ผมกับเพื่อนอีก 3 คนเดินรอบๆต้นข่อยก็ยังไม่เห็นนก ซักพักมีดวงไฟสีแดงลอยมาจากกอไผ่แบบช้าๆ เห็นกันหมด เท่านั้นแหละวิ่งกันป่าราบจริงๆ ตอนเช้ามาเล่าให้ผู้ใหญ่ฟังเค้าบอกบ้านกอไผ่นั้นเป็นบ้านมอญ พวกนี้จะหวงของไปยิงนกในนาเค้า เค้าเลยมาไล่

ขอบคุณนายดอกบัว ครับ ได้ความรู้เพื่มหามานาน

 

เห็นเหมือนกัน

เพิ่งเจอเมื่อวานตอนเช้ามืดนี่เองค่ะ ประมาณสักตี 4 ครึ่ง น้องหมาที่บ้านมันเห่ามาก ก็เลยออกมาดุก่อนจะกลับเข้าห้องนอน ตอนที่เปิดประตูห้องเห็นดวงไฟสีขาวดวงใหญ่ประมาณ 5 นิ้วได้ ลอยติดฝ้าเพดานผ่านหน้าไป
เห็นทีแรกตกใจคิด ๆ อยู่ว่าไฟรถมันสะท้อนเข้ามาในห้องรึเปล่า ก็ไม่น่าจะใช่มันจะกลมดิ๊กขนาดนั้นเลยเหรอ เป็นไฟฉายที่ รปภ.ส่องมารึเปล่า ก็ไม่น่าจะใช่เช่นกัน ไฟฉายมันต้องกระจายตัวไม่กระจุกกันเป็นก้อนกลม ก็เลยปิดประตูแล้วลองเปิดใหม่ว่าจะมีแสงไฟเล็ดลอดจากที่ไหนแล้วทำให้เราเห็นเป็นวงกลมลอยผ่านไปมั้ย ปรากฏว่าไม่มีค่ะ

ถ้าเป็นสีขาวแล้วเป็นเทพเทวดา ก็โอเคค่ะ ดีใจที่ได้เห็น
แต่บางคนก็บอกว่า อาจจะเป็นของ ของพวกที่ชอบเล่นของ ปล่อยออกมาในวันโกนก่อนวันพระ อย่าได้ไปทักเชียว หากเป็นสิ่งที่ไม่ดีเขาปล่อยออกมาอาจจะเข้าตัวเราได้ แง่ม ๆ..... ไม่รู้อ่ะ ถ้าเป็นพวกมีบุญจริงก็ขอให้เห็นในคืนนี้อีกทีแล้วกัน หากเป็นของที่ไม่ดีก็ขอให้ออกไปจากบ้านด้วยเถอะ.... สาธุ... :boo::boo:

 

ขึ้นอยู่กับว่าสีอะไร และเห็นเวลาไหนค่ะ