ขอคำแนะนำเรื่องการตั้งพระจีนครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Mr.Chote Sudhi, 3 สิงหาคม 2011.

  1. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    ถ้าผมอธิบาย นาม ด้วย คำพูดได้ สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้เรียกว่า นาม หรอกครับ

    อย่างมากก็ได้แค่ความหมายใกล้เคียงกับคำว่า นาม แต่ไม่ใช่นาม

    ถ้า รูป-นาม มันอธิบายง่าย เข้าใจง่ายขนาดนั้น ทุกคนคงไปนิพพานหมดแล้วล่ะครับ

    และนี่ก็เป็นคำตอบว่า ทำไม พระโพธิสัตว์บารมีเต็มอย่างพระศรีอาริย์ ถึงบารมีสูง
    กว่า พระสงฆ์

    เอาไว้สักวันแล้วคุณจะเข้าใจ บอกได้แค่นี้
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ผมว่ามันก็ไม่พ้นคำว่านั่งทางใน ถามความรู้สึกตัวเอง....

    ซึ่งประมาณว่าฉันชอบ หรือเขาบอกมา คนบอกน่าเชื่อถือ คนนี้ก็เป็นอริย...

    หรือฉันไม่ชอบ หรือไม่รู้จัก คนบอกน่าเชื่อถือ ก็เชื่อว่า อันนี้สมมุติสงฆ์ อย่างนี้เหรอ...

    ผมก็เลยถาม พระองค์หนึ่งที่ไม่รู้จักเดินมา แน่นอน ใช้ตาดู เห็นเต็มตาเลย ห่มผ้าเหลือง หัวโล้น อันนี้พระแน่ๆ....อันนี้ก็ถามต่อจะให้คิดหรือปรุงแต่งดีว่า อันนี้เป็น สมมุติ หรือ อริย เพราะว่าฉันไม่รู้จัก ฉันไม่มีข้อมูล หรือฉันจะใส่ว่าเป็นสมมุติสงฆ์แน่ๆ เพราะฉันคิดว่า อริย มีน้อย อันนี้ต้องเป็นอย่างนี้ เป็นสมมุติสงฆ์ แน่ๆ อย่างนี้เหรอ...
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    นี่คุณ พระพุทธศาสนาเขาสอนให้ศาสนิกมี ปัญญา มีเหตุผล.....ไม่ใช่เชื่อเอา อย่างไม่มีเหตุผล.....ของอธิบายไม่ได้ มันไม่มีสาระ นะ...

    ผมว่าวันนี้ผมเข้าใจแล้วหละ ว่าคุณ ไม่เข้าใจ .....

    และที่ผมรู้อีกอย่างคือ คุณมีความเคารพในพระศรีอาริย์มาก จนตั้งท่านอยู่ในฐานะที่แตะต้องไม่ได้เลย.....เป็นเหมือน พระเจ้า ในศาสนาอิสลาม ที่คนธรรมดาคิดไม่ถึง....อะไรประมาณนั้น....พอไม่สามารถอธิบายได้ ก็คิดว่า ไม่มีทางเข้าใจ...เพราะตัวเองก็ไม่เข้าใจ หลงติดแน่นในความคิดตนเอง....

    และสิ่งที่ผมถามแม้ถามต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ใด....

    ไม่มีสาระ....ไม่มีแก่นสาร...
     
  4. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257

    คำตอบมันมีอยู่แล้ว บอกหลายครั้ง คุณก็ไม่เข้าใจ

    และถ้าคุณเข้าใจ คุณจะไม่ถามผมต่อแน่นอน เพราะคำตอบที่ผมตอบมันมีคำตอบในตัวมันเองอยู่แล้ว

    บอกแล้ว ลองเอาไปถาม พระอริย ดู

    (แต่ข้อแม้ต้องเป็นพระอรหันต์ด้วยนะ)

    ที่ผมไม่ตอบ ไม่ได้ไม่รู้ แต่ สิ่งที่รู้ พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจ

    ขนาดตอบไปแล้ว ยังไม่เข้าใจ
     
  5. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    =การรู้นามโดยการนั่งทางใน

    เอาจริงๆ ไหมครับ ว่า ผมคิดว่าความคิดนี้ ปัญญาอ่อนมากครับ

    บอกแล้ว ใช้นาม ในการแยก


    =การเคารพพระศรีอาริย์ ไม่ได้หมายความว่า ผมจะเคารพพระรัตนตรัยน้อยกว่า ตีความไปเอง

    เปรียบเทียบเหมือน กับ เคารพอาจารย์ ก็ไม่ได้หมายความว่า จะลบหลู่พ่อแม่ นี่ครับ

    หรือ เคารพอาจารย์คนหนึ่ง ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเคารพคนเดียวนี่ครับ มีอาจารย์ที่เคารพตั้งหลายคน

    มีคนเคารพได้หลายคน คนละแบบ

    เฮ้อ เฮ้อ

    ไม่อยากต่อความละ

    ลากันที
     
  6. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ผมคงไม่รู้หลอกว่าใครเป็นพระอรหันต์ เพราะพระอรหันต์ท่านก็ไม่บอกตนเองว่าเป็นพระอรหันต์ และท่านก็จะไปพยากรณ์ว่าใครเป็นพระอรหันต์ เพราะ ว่าถ้าท่านบอกว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์ ส่วนใหญ่ก็มั่วเอาเอง...หรือถ้าเป็นจริงก็ไม่พ้นอาบัติ ถ้าใครไปพยากรณ์ใครเป็นพระอรหันต์ ก็ต้องอาบัติ ที่สำคัญไปรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็นพระอรหันต์....หน้าที่พยากรณ์พระอรหันต์มีองค์เดียวเท่านั้นที่ทำได้คือพระพุทธเจ้า.....

    สุดท้ายธรรมทั้งหลายเป็นปัจจัตตัง คือรู้ได้เฉพาะตน อันนี้คือพระพุทธพจน์...
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    คุณไปอ่านข้อมูลทั้งหมด คุณก็จะเข้าใจเองหละ...ว่าคิดอย่างไร...ใครอ่านเขาก็รู้....ว่าใครเป็นอย่างไร....ไม่ต้องให้ผมบอก.....
     
  8. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    สุดท้ายธรรมทั้งหลายเป็นปัจจัตตัง คือรู้ได้เฉพาะตน อันนี้คือพระพุทธพจน์...

    ถูกครับและ นั่นแหละ คำตอบผม ทำไม ถึงอธิบาย นาม ไม่ได้

    ก็เพราะมันเป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน (ถ้าผมอธิบายได้ มันก็ไม่ใช่ของจริงสิครับ)

    เพราะมันเป็นสิ่งที่เป็น ปัจจัตตัง ไงครับ

    คุณก็รู้นี่



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2011
  9. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    สรุปผล

    ไอ่ความเป็นจริงนั้นเราไม่รู้หลอกนะ....ว่าความเป็นอริยนี่ใครเป็นใครไม่เป็น....เราไม่รู้ได้เลย.....เพราะมีแต่พระพุทธเจ้าและ เจ้าตัวนั่นหละที่จะรู้.....

    <O:p</O:pเราจะไปเหมาเอาพระที่อยู่ข้างหน้าว่าเป็นพระอริยหมด มันก็ไม่สมควรในขณะเดียวกันเราจะเหมาว่าพระที่อยู่ข้างหน้าเป็นสมมุติสงฆ์หมดมันก็ไม่ถูก...

    <O:p</O:pพระโพธิสัว์จริงๆนี่เขาไม่ได้เลือกหลอกนะว่าฉันจะต้องเคารพแต่พระอริยเจ้า...ไม่ได้เลือกหลอกว่าองค์นี้เป็นสมมุติสงฆ์...เพราะว่าท่านมาทรงความดี...ฉะนั้นท่านย่อมหมายเอาพระศาสนาโดยรวมเป็นประการ....ถ้ามีกำลังใจที่แคบอย่างนั้นอยู่ว่า ข้า จะเคารพแต่พระอริยสงฆ์อย่างเดียวอย่างนี้เป็นโพธิสัตว์ไม่ได้หลอก....เพราะมองหน้ามันไม่รู้....มองกริยาก็ไม่แน่ชัด...

    <O:p</O:pกลับมาในเรื่องของการตั้งพระ....รูปพระสงฆ์นี่ก็กรณีเดียวกัน...เราจะรู้หรือไม่ว่าใครเป็นหรือไม่เป็นพระอริย....จะรู้ได้หรือไม่...แต่ที่เห็นแน่ๆคือท่านเป็นพระสงฆ์ ถูกไมและเราก็รู้อยู่ว่านี่คือพระโพธิสัตว์ถูกหรือไม่....แล้วเราควรจะทำอย่างไร....อันนี้มันเป็นเหตุที่สมควรคิดนะ....

    วิธีการและแนวคิดนั้นได้ให้ไว้หมดแล้วตั้งแต่ต้นกระทู้เป็นหลักแนวคิดและเหตุผล ที่ตรงตามพระศาสนา โดยมีหลักและบุคคลตัวอย่างอ้างอิง...

    การสนทนาที่ได้กับคุณวรกันต์ ทำให้ผมรู้ว่าคุณวรกันต์ นั้นมีศรัทธามากๆ....จนคิดว่าพระโพธิสัตว์นี่สูงส่งมาก ดุจดังพระเจ้าที่มนุษย์ไม่อาจเอื้อมถึงซึ่งแนวคิดนี้ไม่มีในพระศาสนา.....จนลืมนึกดูเหตุผลทั้งหมด....เพราะความคิดตนเอง.....เมื่อถามถึงเหตุผล....ตอบไม่ได้.....

    ไม่ว่าเรื่องการแยกระหว่างพระอริยสงฆ์ หรือ สมมุติสงฆ์.....เพื่อแต่เชื่อมั่นในใจว่าสูงกว่าแน่ๆ....เพราะตัวเองมั่นใจในตัวเอง....จนลืมมองเหตุผลและยอมรับความคิดของบุคคลอื่น....ซึ่งถือว่าไม่ผิด เพราะคนที่มีศรัทธามากๆนั้นย่อมไม่ผิด เพราะไม่รู้...

    สุดท้ายประโยชน์ที่ได้ ไม่มีอะไรเลย...ย้อนไปหน้าแรกเหมือนเดิม....

    ธรรมสวัสดี....<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2011
  10. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    การสนทนาที่ได้กับคุณวรกันต์ ทำให้ผมรู้ว่าคุณวรกันต์ นั้นมีศรัทธามากๆ....จนคิดว่าพระโพธิสัตว์นี่สูงส่งมาก
    เอาความคิดตัวเองมาใส่ คิดเอง เออเอง อีก บอกตรงไหน พระโพธิสัตว์สูงส่งมาก แค่บอกว่า ไม่ให้ลบหลู่ปรามาส ท่านเท่านั้น

    เมื่อถามถึงเหตุผล....ตอบไม่ได้.....

    ตอบไปแล้วนะ เหตุผล แต่ ไม่เข้าใจเองนะครับ มาโมเม ว่า ตอบไม่ได้ คนเรานะคนเรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2011
  11. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    เหตุผลคือ นาม ที่ไม่สามารถตอบเป็นคำพูดได้ เพราะตอบได้ก็ไม่ใช่นาม อย่างนี้เป็นคำตอบ

    อย่างลืมว่าสิ่งที่เราทั้งหลายสนทนาไม่ใช่ปรมัตธรรม เพราะถ้าคุณเลี่ยงที่กล่าวถึงปรมัถธรรม ทุกอย่างนั้นก็ไม่มีคำตอบเพราะคือ อนัตธรรม....

    ถ้ากล่าวเช่นนี้ป่วยการใดเล่าที่จะกล่าวว่ามีพระโพธิสัตว์ พระอรหันต์ สมมุติสงฆ์ แม้พระศรีอาริย์เอง ก็คือ อนัตธรรม ที่ไม่มีอะไรเลย..... ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย.....

    ฉะนั้นพระศรีอาริย์ก็ไม่มีตัวตน เพราะเป็นนาม ...การตอบปัญญาลักษระนี้จึงไม่ใช่การตอบคำถาม...

    และการตอบคำถามนี่ ผมไม่ได้กล่าวถึงปรมัตธรรม เพราะผมกล่าวถึงธรรมที่เห็นได้....เมื่อเทียบกับของสองสิ่ง หรือ หลายสิ่ง.....เป็นการพูดถึง ตัวหลัก และตัวเหตุ ตลอดจนตัวผล....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2011
  12. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    สองคนข้างบนเขาเถียงอะไรกัน (smile)


    ผมมาตอบของผมดีกว่า


    เรื่องของโต๊ะหมู่บูชา...ที่หลวงปู่ดู่ท่านสอน




    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD>[​IMG]



    ในสมัยที่ "หลวงปู่ดู่" ยังมีชีวิต


    ท่านเคยพูดเล่าถึง "ความละเอียด" ที่แฝงอยู่ในการจัด...โต๊ะหมู่บูชา


    หลวงปู่ดู่ท่านกล่าวว่า...



    หากว่า "โดยธรรม"


    การที่เราจะตั้งพระพุทธรูป หรือ รูปเหมือนพระสงฆ์ไว้เท่า ๆ กัน...ก็ไม่ผิด


    เพราะในพระพุทธรูปที่ท่านอธิษฐานจิต ก็มีทั้ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์


    และในรูปเหมือนพระสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปเหมือนของท่าน รูปเหมือนหลวงปู่ทวด หลวงพ่อเกษม พระสีวลี พระสังกัจจายน์ ฯลฯ


    ก็ล้วนมี พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์...เช่นเดียวกัน



    แต่หากจะว่า "โดยสมมติ"


    เราก็ต้องลำดับ ลดหลั่นลงมา


    ตั้งแต่พระพุทธ...มาหาพระสงฆ์​



    ที่ท่านสอนนี้ ผมคิดเอาเองว่า


    ท่านมิได้มีเจตนาจะให้ไปจัดโต๊ะหมู่แบบอวดรู้ โดยตั้งพระพุทธ และ พระสงฆ์ให้เสมอกัน


    แต่ท่านคงจะไม่ให้ "ยึดติดกับสมมติ" จนเกินไป


    เช่น หากที่โต๊ะหมู่บูชา หรือ ตู้พระ มีพระพุทธ และ พระสงฆ์..คละกันอยู่


    ผู้ที่ "ยึดติดเคร่งครัด" ก็อาจรู้สึกไม่สบายใจ


    เมื่อฟังหลวงปู่ท่านสอนเช่นนี้ ก็จะได้สบายใจขึ้น


    และจะได้ทำทุกอย่าง "ด้วยปัญญา"​



    การทำ "ตามสมมติ" นั้นมีประโยชน์


    เป็นความเรียบร้อย พร้อมเพรียง งามตา


    แต่ก็ต้องทำ "ด้วยความเข้าใจ" ว่า...เรากราบรูปเหมือนท่าน


    เรามิได้กราบแค่อิฐ หิน ปูน ทราย หรือ โลหะ


    หากแต่เรากำลังใช้เป็น "สื่อ"


    เพื่อจะ "นบนอบ...พระคุณของท่าน" ต่างหาก​



    ถ้าเป็น "พระพุทธเจ้า"


    เราก็นบนอบใน "พระบริสุทธิคุณ" ในความหมดจด หมดกิเลส


    "พระปัญญาธิคุณ" ในการแยกแยะธรรม ให้คนเข้าใจ และ ปฏิบัติตามได้


    และ "พระกรุณาธิคุณ" ที่ท่านเดินทางไปในที่ต่าง ๆ เพื่อตรัสสอนโปรดเวไนยสัตว์ ตลอด ๔๕ พรรษา


    แม้ขณะที่กำลังจะเสด็จปรินิพพาน ก็ยังได้โปรดพราหมณ์ผู้หนึ่ง ให้เป็นพระอรหันต์องค์สุดท้าย​



    เวลาเรากราบ "รูปเหมือนพระสงฆ์"


    ก็เคารพนบนอบใน "คุณแห่ง ศีล สมาธิ และ ปัญญา" ในองค์ท่าน


    การเอาตัวเองเป็นประจักษ์พยานว่า


    หากตั้งใจปฏิบัติธรรมจริง ๆ แล้ว "มรรคผล"...ย่อมเกิดขึ้นได้จริง


    ทำให้บุคคลธรรมดา กลายเป็นบุคคลที่ควรแก่การกราบไหว้ขึ้นมาได้​



    เรื่องที่หลวงปู่ดู่สอนนี้


    ทำให้ระลึกถึงเรื่องราวของ "หลวงปู่มั่น" ที่ท่านเล่าไว้ว่า...


    ท่านเคยเห็น "นิมิต" พระพุทธเจ้า และ พระอรหันต์...นั่งคละกันอยู่ดูแปลก ๆ


    แต่พอดูใหม่ พระพุทธเจ้าและ พระอรหันตสาวก...ก็กลับนั่งลดหลั่นไปตามลำดับ​



    ความรู้ที่เกิดกับหลวงปู่มั่นก็คือ


    นิมิตแรกนั้น แสดงถึงว่า หากว่า "โดยธรรม" แล้ว


    พระพุทธเจ้า และ พระอรหันตสาวกนั้น...เสมอกันโดยธรรม


    คือ ความหมดจดจากกิเลส...เสมอกันหมด


    ดังนั้น จะนั่งเสมอกัน...ก็ไม่ผิด ​



    แต่นิมิตอันหลังนี้


    แสดงการลำดับไป "ตามสมมติ" หรือ "โลกนิยม" เท่านั้น​



    เรื่องนี้จึงสอนว่า เรายังคงจำเป็นต้องทำไป "ตามสมมติ" นั่นแหละ


    เพื่อความเรียบร้อย งดงาม และ ไม่ถูกตำหนิ ติเตียน จากผู้มาพบเห็น



    แต่ในใจเรา ก็ให้มี "ปัญญา"


    ทำทุกอย่างด้วย "ความรู้ และ เข้าใจ"

    ทำด้วยปัญญา มิใช่ด้วยความยึดติดเคร่งเครียด


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​


    http://luangpordu.com/?cid=45...topic_id=60573<!-- google_ad_section_end -->


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    สำหรับผม ... การวางโต๊ะหมู่บูชานั้น ผมจะวาง

    พระศรีอาริยเมตไตรย์ เสมอกับ พระอรหันต์สาวก ครับ

    เป็นการให้เกียรติ พระโพธิสัตว์ที่ได้รับการรับรองแล้วว่าได้เป็น

    พระพุทธเจ้าแน่นอนในอนาคต
     
  13. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    พระศรี ในรูปลักษณะ หลวงปู่ดู่ หรือเปล่าคุณ เฮียป๋อ.....

    นี่น่าจะเข้ามานานแล้วนะ....ผมรู้สึกว่าเสียเวลามากเลยกระทู้นี้...

    สิ่งที่ผมได้คือผมได้ย้อนไปทดสอบธรรมของตนเองอีกครั้งว่า อย่าไปพยายามยามที่จะไปเปลี่ยนความคิดคน....เพราะมันยาก หรือ ไม่ได้....รังแต่จะทำให้เสียเวลางานของตนเอง...

    สิ้นสุดการตอบกระทู้นี้แต่เพียงเท่านี้...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2011
  14. zlVvolFlz

    zlVvolFlz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +44
    โต้ ตอบกันเร็วมาก แปปเดียวหน้า 3 แล้ว คือว่า พระอรหันต์ ท่านไม่ถือหรอกมั้ง ยศ อะไรนั้น เราไปแต่ง เราไปถือ ให้ท่านเอง ที่สมัยเก่า ที่ให้เคารพ กันตามพรรษา นั้น ผมคิดว่า พระพุทธเจ้า น่าจะตั้งขึ้นเพื่อลด ทิฐิ ของพระบวชใหม่ที่มี วรรณะสูงกว่า พระบวชก่อนที่มีวรรณะต่ำกว่า ก็รู้ ๆ กันอยู่ สมัยนั้นที่ิอินเดีย เรื่องวรรณะ มันเป็นยังไง แต่ทุกวันนี้ ดันเอามาเป็นยศ เป็นอำนาจ ซ่ะงั้น ที่เห็นพระอรหันต์ ให้ความเคารพกันนั้น มันเป็นเอง เพราะท่านไม่ถือยศ กันแล้ว เหมือนเทน้ำลงไปในหนองน้ำ ยังไงน้ำก็ยังเป็นน้ำ ไม่ว่าจะมาจากถังที่เป็นทอง เป็นเงิน หรือ เป็น สังกะสี แล้วมีอีกเรื่องครับ คุณ ๆ น่าจะรู้ เรื่องของ พระอชิตเถระหรือ พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนมีคนมาถวายผ้า ทำไมพระอรหันต์สาวกไม่รับ แล้วพระอชิตเถระ รับ แล้วผลเป็นยังไง นี่แหละครับ
     
  15. tatae1

    tatae1 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +6
    เเสดงความคิดเล็กๆ

    ตามความเข้าใจนะครับ
    ผมคิดว่าพระโพธิ์สัตว์ ย่อมสูงกว่า พระอริยสงค์อยู่แล้ว
    แต่ไม่อาจสูงกว่า องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระประธานในที่นั้นๆ และเหนือเศรียรก็เทิดทูดพระพุทธเจ้าเสมอ เพราะ เหล่าพระโพธิ์สัตว์คือผู้ถือดำเนินตนเพื่อการเข้าสู่นิพพานและการถือกำเหนิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ต่อให้พระอริยสงค์ดำเนินตนภายใต้ศิลอันบริสุทธิ์ 277 ข้อ ก็ไม่อาจเทียบได้กับพระโพธิ์สัตว์ เพราะพระโพธิ์สัตว์ ท่านดำเนินเต็มเปี่ยมด้วย บารมี วิริยะ อุตสาหะ มาเนินนานชั่วกัป ซึ่งพระอริยะย่อมลาพุทธภูมิมุ่งสู่นิพพานทั้งสิ้น

    แต่พระโพธิ์สัตว์หาไม่ นิพพาน คือ สิ่งที่ทุกคนปราถนา ไม่เว้นแม่แต่พระอริยสงค์หรือตัวเราเอง แต่ส่วนมาก ท่านไม่ไปหรอก เพราะความสงสารต่อเหล่าเวนัยสัพสัตว์โลก เพราะ พระโพธิ์สัตว์ หมายถึง ผู้สดับรับฟังเสียงโลก พระโพธิ์สัตว์บางองค์ท่านจึงอธิฐานจิต จะไม่ขอเข้าสู่นิพานตราบใดที่เสียงร้องของเหล่าเวนัยในขุมนรกยังไม่หมดสิ้น (*ซึ้งรู้กันว่าไม่มีวันสิ้น)


    การปฎิบัติเป็นพระโพธิ์สัตว์นั้น นานมากและยาวเกินกว่าพิมพ์ไหว ลองอ่านใน วิกิพีเดียดู จะรู้ว่า การเป็นพระโพธิ์สัตว์นั้นมีหลายประแบบท่านเเลกมาด้วยอะไรบ้าง ซึ้งแต่อย่างคือสิ่งที่สุดยอดทั้งนั้น เช่น ทานบารมี คือ ชีวิตตนเอง ให้ผู้อื่นได้โดยไม่หวงและโกรธเคือง พระโพธิ์สัตว์หลายองค์ แลกมาด้วยชีวิตและความสำนึกบุญคุณต่อคนและสัตว์อย่างประมาณมิได้ เพียงเท่านี้แล้ว

    คุณสมบัติของ พระโพธิ์สัตว์ ย่อมสูงกว่าพระอริยสงค์อยู่แล้ว
    พระโพธิ์สัตว์ท่านดำเนินด้วย บารมี วิริยะ อุตสาหะ อย่างไม่ผิดพลาดทุกขณะ ถ้าผิดพลาดหมายถึง การเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ (*เห็นไหม ว่ากว่าจะได้เป็นว่าเหนื่อยแค่ไหน ) ต่อให้ พระอริยสงค์มีศิล 277 ข้อ(*ไม่มีใครทำได้ตลอดเวลาโดยไม่ผิดพลาดหรอก) และศิลไม่ใช่ตัวชี้วัด ไม่งั้น คงไม่ต้องมีการสังฆญาณาศีลให้บริสุทธิ์หรอก
    ซึ่งฝ่ายมหายานจะนับถือ พระโพธิ์สัตว์ มากๆรองจากพระพุทธเจ้าเลยก็ว่าได้
    (พิมพ์ผิดบ้างไรบ้างอย่าว่ากัน แค่เเสดงความคิดเห็นนิดๆ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...