พลังมหัศจรรย์วัตถุมงคลหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน พระเหนือโลกแห่งภูตะแบง

ยินดีด้วยกับพี่เมาท์ครับ ที่หลวงปู่ให้โชค

ล่าสุดผมได้ให้พระหลวงปู่สรวง กับเพื่อนไป ก่อนวันหวยออก เพื่อนผมฝันว่ามีผู้ชายแก่มาหา แล้วพูดภาษาอะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่รู้เรื่อง แล้วเขาก็ให้ดูตัวเลข

&85 (& คือเลขที่มองไม่ชัด เขาเลยเดาว่าน่าจะเป็นเลข 2 เพราะว่าเลือนลางมาก)

ปรากฎว่า หวยออก 85 คนที่ได้เลขแล้วเอาไปตีซื้อ 85 ถูกกันเยอะ เลยถามกันว่าพระนี่ของใคร ศักดิ์สิทธิ์ถึงขั้นมาบอกหวยได้เลยเหรอ จะหาบูชาของแท้ได้ที่ไหน

 

ขออนุโมทนากับคุณaeyjoy ที่นำประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลหลวงปู่สรวง มาเล่าสู่กันฟัง

เปรียบไปแล้ว หลวงปู่ท่านเหมือนกับ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ(ท้าวกุเวร)
ที่ให้โชคลาภกับผู้ครอบครองวัตถุมงคลและมีศรัทธาในหลวงปู่ นะครับ

 

หลวงปู่สรวงเป็นพระอริยะโพธิ์สัตว์ ที่มากด้วยเมตตาจริงๆ ต้องยินดีกับพี่เม้าด้วย

วันนี้ ศุกร์ที่ 2 กันยายน 2554 หลวงพ่อบุญช่วยมาที่ทำงานผมครับ ท่านเมตตามาปัดเคราะห์กรรมให้พี่ๆน้องในที่ทำงาน ท่านให้นั่งกรรมฐานทำจิตให้แน่วแน่ ภาวนาคำว่า "มะ" จากนั้นแต่ละคนจะเกิดสภาวะธรรมรู้เองเห็นเอง จบพิธีท่านเสกกระเป๋าให้เงินเข้าและแจกวัตถุมงคลให้ด้วย ท่านเมตตาจริงๆครับ

 

นอกจากนี้ได้สัมภาษณ์ประวัติท่านพระอาจารย์บุญช่วยและเรื่องราวของหลวงปู่สรวงไว้ด้วย

มีดังนี้ครับ

พระอาจารย์บุญช่วย นั้นเป็นคนพื้นเพลพบุรี แต่เดิมประกอบธุรกิจส่วนตัว

และด้วยความที่ชอบทางวิชาคาถาอาคมจึงเสาะแสวงหาครูบาอาจารย์เรื่อยมา

จนกระทั่งรับศีลถือพรตเป็นผ้าขาว ไปกราบนมัสการครูบาอาจารย์ดังนี้

หลวงปู่เจียม วัดอินทราสุการาม ซึ่งท่านให้ผ้าขาวบุญช่วยไปเรียนวิชากับหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

เข้ากราบหลวงปู่ฤทธิ์ และมาอยู่กับหลวงปู่หงษืตามคำแนะนำของหลวงปู่เจียม

หลวงปู่หงษ์แนะนำวิชาทางสมุนไพร แต่ผ้าขาวบุญช่วยกล่าวว่าสมุนไพรหายากขอเป็นทางพระคาถาอาคม หลวงปู่หงษ์ก็เมตตาประสิทธิให้

ตอนที่อยู่กับหลวงปู่หงษ์นั้นท่านทำหน้าที่ช่วยคนเจ็บคนป่วยหลายอย่างจนเป็นที่ไว้วางใจหลวงปู่หงษ์อย่างมาก

ต่อมาจิตใฝ่ทางเนกขัมมะมากขึ้นจึงออกบวช

หลังจากบวชได้ไม่เท่าไหร่มีปะขาวลึกลับท่านหนึ่งชื่อ จันตึ๊บเป็นชาวเขมรมาหาและบอกให้ไปเรียนวิชาที่เมืองเขมร

หลวงพ่อบุญช่วยไม่เคยรู้จักปะขาวจันตึ๊บมาก่อนยังความแปลกใจและคิดจะหาความจริงดู

ที่สุดท่านจึงตัดสินใจธุดงค์สู่เมืองเขมร ตามหาอาจารย์จันตึ๊บ

เมื่อเข้าสู่เมืองเขมรแล้วเป็นที่อัศจรรย์ว่าท่านระลึกได้ว่าท่านเคยเกิดในบ้านนี้เมืองนี้มาก่อน

ท่านมีโอกาสเข้าไปในพระราชวังเก่าแก่ของเจ้านโรดมสุหนุ ปัจจุบันลูกชายคนโตดูแลรักษาอยู่

ในเวียงของเจ้านโรดมนี้ท่านพบสิ่งสำคัญคือ ร่างของดาบสผู้หนึ่ง เรียกว่าลูกตาเบ๊าะ นอนนิ่งอยู่ ลูกชายของเจ้านโรดมกล่าวว่านี่คือร่างหนึ่งของหลวงปู่สรวง

จากการเปิดเผยของลูกชายเจ้านโรดมสุหนุเล่าวว่าหลวงปู่สรวงท่านเป็นเชื้อเจ้ามีความเป็นมาลึกลับพิสดาร

ท่านเป็นคนสร้างเทวาลัยเขาพนมกุเลน เมื่อขึ้นไปจะพบหลักฐานคือ หินหมึมาสลักเป็นสัตว์ต่างๆสี่ตัวคือ วัว ช้าง กิเลน และราชสีห์

การสร้างนี้เล่ากันว่าหลวงปู่สรวงพร้อมทั้งพี่น้องรวมกันสี่คน เรียกว่าสี่พระหน่อไปฝึกวิชากันบนเขาพนมกุเลน

ทั้งสี่คนที่ร่ำเรียนวิชาด้วยกันมีหลวงปู่สรวง หลวงปู่รชรัตน์ หลวงปู่พระองค์พรึม และหลวงปู่จันตึ๊บ

ทั้งสี่ร่ำเรียนวิชาเป็นตัวแทนของธาตุ ๔ ดินน้ำลมไฟ

ใครสำเร็จก่อนก็ลงจากเขาได้ก่อน ปรากฏว่าหลวงปู่สรวงสำเร็จก่อนใครลงจากเขาคนแรก

จากนั้นหลวงปู่สรวงไปสร้างพระใหญ่ห่างจากเขาพนมกุเลนไม่ไกล แล้วละสังขาร

ทางสำนักพระราชวังรู้จึงอัญเชิญสังขารมาบรรจุโลงแก้ว สังขารนั้นก็หาเน่าเปื่อยเหมือนปุถุชนแต่ค่อยๆแห้งลงไม่เน่าเปื่อยแต่อย่างใด

จากนั้นมาท่านประกอบร่างที่สองขึ้นบนเขาภูตะแบง ท่านมีน้องชายน้องสาวด้วยทั้งหมดเป็นผู้มีอภิญญา

ในขณะที่อีกสามพระหน่อก็ทยอยกันสำเร็จวิชาเช่นกัน ทุกท่านได้วิชาตายคืน คือตายก็ได้อยู่ก็ได้เปลี่ยนร่างไปมาได้

อาจารย์จันตึ๊บที่มาพบหลวงพ่อบุญช่วยก็คือหนึ่งในสี่พระหน่อสี่พี่น้องที่ร่ำเรียนด้วยกันมากับหลวงปู่สรวง

นอกจากอาจารย์จันตึ๊บแล้วหลวงพ่อบุญช่วยได้พบกับพระองค์พรึมในร่างพระด้วย

อาจารย์จันตึ๊บและพระองค์พรึมเตือนหลวงพ่อบุญช่วยถึงเหตุการณ์ในบ้านเมืองไทย

คนจะฆ่าผลาญกันเอง จะเกิดสึนามิ แผ่นดินจะไหวจะถล่ม ภูเขาไฟก็จะระเบิด

ท่านเตือนมานานนับสิบปีถัดจากนั้นสึนามิมาก่อนแล้วเหตุการณ์คนสีแดงก็เกิดตามมา

ล่าสุดปีที่แล้วพระองค์พรึมเรียกหลวงพ่อบุญช่วยไปหาเตือนว่า

ต่อไปนี้ปี 2554-2555 จะเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ บ้านเมืองก็วุ่นวาย ที่สำคัญคือเตือนว่า จะมีแผ่นดินไหวใหญ่จากจีนแล้วจะส่งผลลงมายังเมืองกาญจนบุรีอันนี้อันที่หนึ่ง

อันที่สองจะเกิดพายุใหญ่จากเวียดนามแล้วส่งผลถึงเมืองไทย

ท่านเรียกไปบอกแล้วก็สอนคาถาเอาคาถานั้นมาเป็นคำภาวนา ท่านสั่งให้พระอาจารย์บุญช่วยนั่งก็ให้ภาวนา นอนก็ให้ภาวนา ภาวนาแล้วแผ่เมตตาจะลดภัยพิบัติทั้งหลายได้

หลวงพ่อบุญช่วยเมตตาบอกคาถาภาวนากันภัยพิบัติเป็นอักขระคาถาสายวิชาหลวงปู่สรวงมีแค่สามพยางค์คือ

อะกรึงกะ

ท่องคำนี้เสมอๆ ก่อนเกิดเหตุก็รู้ล่วงหน้าได้ กันภัยที่จะมาถึงตัวได้ วิธีท่องตั้งนะโมสามครั้งแล้วตั้งจิตอัญเชิญพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์หลวงปู่สรวงและสี่พระหน่อเทพพรหมพ่อแม่ครูอาจารย์ธาตุ ๔ ดินน้ำลมไฟ จากนั้นภาวนาคาถานี้ไปเรื่อยๆ รักษาไว้เป็นอารมณ์ทางใจ

จะภาวนาพุทโธสลับ สัมมาอะระหังสลับแล้วก็ภาวนาคาถานี้ไปด้วยก็ได้เอาให้เป็นกรรมฐานให้ใจสบาย

ต่อไปภัยพิบัติจะมาให้รักษาความดีกันเข้าไว้ครับ

สำหรับหลวงปู่สรวงนั้นท่านว่า สามารถเปลี่ยนร่างไปได้เรื่อยๆเป็นอจินไตย ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหนยังไม่ถามต่อ แต่คาดว่าคงจะได้เรื่องราวลี้ลับมาเล่าสู่กันฟังอีก

 

ขอขอบคุณคุณทิพยจักร
และขออนุโมทนาที่นำข้อความดีๆมีประโยชน์มาให้รับทราบกันครับ

 

คุณทิพยจักร ได้นำข้อมูลดีๆมาให้พวกเราได้ทราบ ขอขอบพระคุณมากๆครับ

 

อะกรึงกะ

จะเอาไว้ใช้ท่องติดตัวครับ

 

การบูชาเพื่อระลึกถึงหลวงปู่สรวง

ใช้ผ้าขาวยาว 1 วา
ดอกสะเลเต คนไทยภาคกลางเรียก ดอกว่านมหาหงษ์ ๕ คู่
เทียนขี้ผึ้งแท้หนัก 1 บาท จำนวน 1 คู่
เทียนเล็ก 5 คู่
หมากพลูบุหรี่ 9 คำ
เงินกำนลครู 6 บาท
จุดธูป 9 ดอก (หรือ 19 ดอก )

กล่าวคำบูชาท่านว่า
นะโมพุทธายะ อิติปิโสภควา อริยะ อ็องสรวง สัมปันโณ ยะธาพุทโมนะ นะมะพะทะ อะหังนุกา

ท่อง ๙ ครั้งแล้วบอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนามของเรากับท่านบอกความทุกข์บอกกล่าวในสิ่งที่ปรารถนาให้ท่านช่วย ทุกข์โศกโรคภัยที่มีอยู่จะค่อยๆหายไปในที่สุด
ขึ้นถวายวันพฤหัส ถือศีล ทำกรรมฐานนั่งสมาธิระลึกถึงท่านเพื่อเป็นการถวายทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติภาวนา แล้วจะสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง



ขอขอบคุณ

ผู้เรียบเรียง ทิพยจักร

 

พี่เม้าส์ครับ ผมเคยโทรหาพี่ที่ตอนนี้ทำบุญกับหลวงปู่อาจ คุยเกี่ยวกับการบูชา
พี่เขาบอกว่าให้ใช้ดอกไม้อะไรก็ได้สีขาวมาไหว้ครับ ดอกสเรเตหายากจังเลยครับพี่ใครพอรู้แหล่งที่ซื้อบอกผมหน่อยนะครับ(แบบเป็นดอกนะครับ) ผมไปซื้อมาที่ จตุจัตรไปวันพุธเช้าๆหน่อยจะดีมาก
ผมเลยไปซื้อ มาปลูกทั้งกระถางเลย 555

 

จริงๆแล้วถ้าหาดอกสเรเต ไม่ได้ ก็ใช้ดอกอะไรก็ได้ที่สีขาว เช่นดอกกล้วยไม้ขาว
หรือดอกมะลิ ก็ยังได้ครับ

แต่ไปซื้อมาปลูกเองได้ก็ดีครับ จะได้ไม่ต้องวิ่งหาซื้อให้ลำบาก

 

สวัสดีครับมีผู้ถามถึงพระเครื่องหลวงปู่สรวงมา

ซึ่งขอตอบดังนี้ครับ

พระเครื่องหลวงปู่สรวงที่ทางอาศรมท่านอาจารย์สมบัติให้บูชานั้น ประกอบด้วยหลายรุ่น บางรุ่นหลวงปู่สรวงเสกเอง บางรุ่นอาจารย์สมบัติสร้าง

ที่ผมเก็บมาเป็นพระเนื้อดินเผา เพราะมวลสารที่ใช้มีดินจากปราสาทขอมปนอยู่พลังดีมากเน้นเรื่องคุ้มครอง อีกอย่างหนึ่งพระดินเผาต้องเผาไฟเป็นการรับพลังเตโชธาตุประกอบกับหลวงปู่มักเผาทุกสิ่งลงกองไฟเสมอ ดังนั้นพระดินเผาจึงเหมือนเป็นตัวแทนที่ดีขององค์หลวงปู่

พระเนื้อดินรูปท้าวกุเวรหลังหลวงปู่นั่งยองเต็มองค์ เป็นเนื้อไพรดำ ผสมว่านอื่นๆและดินปราสาทขอม ดีด้านคุ้มครองนำหน้าเสน่ห์และโชคลาภตามมา

พระขุนแผนหลังรูปหลวงปู่สรวง มีเนื้อดินเผาและไพรดำ พลังไพรดำจะแรงเป็นพิเศษ เน้นหนักทางคุ้มครองและเสน่ห์ ส่วนดินเผาก็รองลงมาหน่อย

พิมพ์ท้าวกุเวร หลังหลวงปู่สรวงเน้นโชคลาภ

พิมพ์ท้าวกุเวรหลังคชลักษมี เน้นเรื่องการเงินโดยตรง

พิมพ์ตรีกาย ดีทุกด้านเน้นคุ้มครองและประสบความสำเร็จด้านการงาน

พระเนื้อโลหะหลวงปู่นั่งพนมมือ เด่นเรื่องเมตตาและโชคลาภ

พระเนื้อโลหะพิมพ์หลวงปู่ถือต้นข้าว เน้นโชคลาภการเงินอุดมสมบูรณ์

พระเนื้อแร่ เน้นคุ้มครองคงกระพัน

มีอีกหลายรายการจำไม่ได้ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้

พระหลวงปู่สรวงก็ดี รูปภาพก็ดี ล้วนเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชา

แต่ไม่อยากให้หวังว่าบูชาแล้วจะถูกรางวัล เรื่องถูกรางวัลนี่เป็นวาสนาเฉพาะตัว

เพราะบางท่านที่เคยอยู่กับหลวงปู่ตอนที่ท่านยังไม่ละสังขาร ท่านให้ตรงๆหลายครั้งยังไม่ถูกก็ยังมี เพราะวาสนาไม่ได้ทำมา เรื่องนี้เจ้าตัวชื่อตาจุม ลงตีพิมพ์ในหนังสือของวัดไพรพัฒนา

ถ้าจะแนะนำให้ผู้ประสงค์อยากได้ต้องบอกว่าขอให้ดูใจและความรู้สึกของตัวเองกับการเห็นหรือสัมผัสพระองค์ใดองค์หนึ่งในตู้ ถ้ามีความรู้สึกพิเศษกับองค์ไหนก็เอาองค์นั้น เป็นเรื่องเฉพาะตัว ต้องค่อยสังเกตค่อยดูตัวเองไปก็จะได้สิ่งที่ถูกโฉลกกับตัวเองอย่างที่สุดครับ

ผมตอบคำถามครบทุกข้อมั้ยเนี่ยถ้าไม่ครบอย่างไรขอโทษด้วยครับ

 

ขออนุโมทนากับคุณทิพยจักร อีกครั้งครับ
ที่เมตตาตอบสนองข้อซักถามของเพื่อนพ้องน้องพี่ ให้คลายสงสัยลงไปได้

 

เมื่อวานคือวันเสาร์ ที่ 2 กันยายน 2554

ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับอาจารย์สมบัติ ผิวผ่อง ที่ความเป็นมาในศรัทธาแห่งองค์หลวงปู่สรวงรู้สึกว่าน่าสนใจมาก นำมาแบ่งปันกันดังนี้ครับ

อาจารย์สมบัติ ผิวผ่อง แต่เดิมไม่เคยเชื่อเรื่องอภิญญาเทพพรหมมาก่อน

จนกระทั่งตนเองถูกพระเกจิอาจารย์ชื่อดังสองท่านทักว่ามีครูบาอาจารย์เป็นพระผู้เฒ่าติดตามอยู่จะมาเอาตัวไป

หนึ่งในครูบาอาจารย์ที่ทักคือ หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฏีทอง ก็แปลกใจมากว่าพระท่านรู้ได้อย่างไรทำไมถึงทักได้ตรงกัน

ต่อมาฝันถึงพระรูปหนึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าเป็นหลวงปู่สรวงในฝันพระที่มาหามีลักษณะแปลกกว่าพระทั่วไปตามเอกลักษณ์แบบหลวงปู่สรวงเทวดาเดินดิน

จนกระทั่งเหตุเการณ์ที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งคือ วันหนึ่งขณะที่ตนเองกำลังอยู่ในวัดเลียบราษฏ์บำรุง จำได้ว่าเช้าวันนั้นตนเองอธิษฐานจิตขอพบกับหลวงปู่อาจเพราะได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับอภิญญาของท่านมามากและเป็นลูกบุญธรรมหลวงปู่สรวงด้วย

อัศจรรย์อะไรเช่นนั้น เพราะตกบ่ายมาหลวงปู่อาจก็เดินทางมาที่วัดเลียบฯ เขตบางซื่อ มาหาตนเองพอเจอหน้าก็ทักอีกว่าตนคือนายสมบัติ ตนเองงงที่สุดเพราะท่านรู้จักเราได้อย่างไร

หลวงพ่ออาจท่านเล่าว่าขณะที่ท่านกำลังฉันข้าวเห็นหน้าคุณสมบัติลอยขึ้นมาจากในบาตรชัดเจนพร้อมทั้งจิตดวงรู้ก็รู้ชื่อพร้อมหมด เงยหน้ามาถามลูกศิษย์ว่าคนชื่นนี้ลักษณะนี้มีไหม

ลูกศิษย์ตอบว่าเคยเจอที่วัดเลียบฯก็รีบมากันเลย

ตั้งแต่ครูบาอาจารย์ท่านทักว่ามีพระจะมาเอาตัวจนกระทั่งเจอหลวงปู่อาจแบบปาฏิหาริย์ขนาดนี้ทำให้เกิดความศรัทธาในหลวงปู่สรวงขึ้น เชื่อว่าท่านมองเราอยู่ท่านบันดาลให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างน่าอัศจรรย์

หลวงปู่อาจท่านแนะนำว่าควรใช้สถานที่ตรงเทพารักษืต้อนรับบุคคลต่างๆตอนนั้นตนเองมีเงินติดตัว 160 บาทคิดว่าจะได้อย่างไร

แต่หลวงปู่อาจท่านเปนพระอภิญญาบอกแล้วควรทำ เลยตั้งจิตบอกหลวงปู่สรวงขอบารมีท่าน แปลกแต่จริงช่วงนั้นมีคนมาขอลงนะหน้าทองทั้งวันทั้งคืน ค่าครู 6 บาทรวมได้เป็นแสนเงินล้นพาน ทำตามที่หลวงปู่อาจแนะนำได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าบารมีหลวงปู่สรวงหลวงปู่อาจแน่นอนจริงๆ

จากนั้นมาหลวงปู่อาจให้ช่วยสร้างรูปเหมือนหลวงปู่สรวงทำเท่าองค์จริงสององค์ ไม่มีเงินเลย แต่เชื่อมั่นบารมีหลวงปู่สรวงขึ้นธูปบอกท่าน แล้วเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นอีกเพราะคราวนี้เช้าขึ้นมามีคนมาบูชาวัตถุมงคลคนเดียวครั้งเดียว 1 แสนบาทหมดตู้ทันทีในเช้าวันนั้น มันน่าแปลกไหมล่ะ

ทุกวันนี้จึงเชื่อมั่นบารมีหลวงปู่สรวงมาก ตั้งใจใช้อำนาจศีล สมาธิ ปัญญา บารมีพระบารมีหลวงปู่สรวงครูบาอาจารย์ช่วยเหลือญาติโยมและอุปถัมภ์วัดและครูบาอาจารย์สายหลวงปู่สรวง ทุกวันนี้จะมีหลวงพ่อข้าวแห้ง หลวงปู่อาจ หลวงพ่อบุญช่วยแวะเวียนมาที่นี่เสมอ

หลังจากที่พบหลวงปู่อาจอย่างน่าอัศจรรย์การพบการรู้จักกับหลวงพ่อบุญช่วยก็อัศจรรย์เข่นกัน

 

อาจารย์สมบัติเล่าว่า ครั้งหนึ่งที่ตนเองไปธุระที่จังหวัดลพบุรี ขณะที่รถผ่านหน้าวัดมงคลเทพประสิทธิ แทบไม่เชื่อสายตาว่าเห็นหลวงปู่สรวงเดินตัดหน้ารถเข้าไปในวัดเทพประสิทธิ คิดว่าตาฝาด พอตอนขากลับก็เห็น หลวงปู่สรวงเดินตัดหน้ารถ เข้าไปที่วัดเดิมคราวนี้เลยตัดสินใจแวะเข้าวัดนี้เพราะคิดว่าทำไมหลวงปู่มาที่นี่ได้

จากเหตุนี้จึงได้เจอหลวงพ่อบุญช่วย พอเห็นหน้ากันก็สนิทกันเหมือนคนคุ้นเคยจนมาถึงทุกวันนี้

 

รบกวน มีแผนที่หรือบอกทางไป อาศรมหลวงปู่สรวง อ.สมบัติ ทีครับ
ผมอยู่ทางชลบุรีครับผม

 

แผนที่เส้นทางไปอาศรมหลวงปู่สรวง สำโรง สมุทรปราการ โดยสังเขป​

​

 

ขอเชิญทุกท่านร่วมบุญกับพระอาจารย์บุญช่วย วัดมงคลเทพประสิทธิ จ,ลพบุรี

หลวงพ่อบุญช่วยท่านทำรถวิลแชร์สำหรับคนพิการแจกมาทั่วประเทศ

และตอนนี้ท่านกำลังรวบรวมข้อมูลหลวงปู่สรวงพิมพ์เป็นหนังสือปกแข็งอย่างดี

โดยเอาข้อมูลสำคัญจากฝั่งกัมพูชา ผู้ใดสนใจสามารถบริจาคเงินเพื่อร่วมพิมพ์หนังสือ หรือร่วมทำรถวิลแชร์กับท่านได้ที่ วัดมงคลเทพประสิทธิ ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี 15130 โทรสอบถามที่ 081-940-3468

 

หลวงพ่อบุญช่วยนอกจากเป็นพระนักพัฒนาแล้วท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์

ที่ผ่านมาท่านโด่งดังเรื่องเบ้ยแก้แร่กายสิทธิ์

วัตถุมงคลของท่านชุดนี้ไปโด่งดังที่เขมรมาก

ท่านเล่าวว่าท่านใช้วิธีดักล่อปรอททั้งจากบนดินและในน้ำ

ปรอทมันเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีชีวิตจิตวิญญาณ เป็นภติประเภทหนึ่ง

ตำราทางไสยศาสตร์จัดว่าเป็นบริวารของพญายมมีฤทธิ์มาก

ปรอทแปรสภาพตัวเองเป็นหมอกได้ เป็นน้ำได้และถ้าคนมีวิชาจะสามารถหุงขึ้นรูปได้

การจะได้ปรอทนั้นต้องอาศัยการดักล่อ โดยใช้ไข่เน่า การดักล่อสามารถดักจากในน้ำและใต้ดิน

เมื่อได้ปรอทมาแล้วนำมาฆ่าพิษอีกทีหนึ่ง

จากนั้นนำมาขึ้นรูปแบบง่ายๆด้วยการใช้โลหะอย่างตะกั่วเป็นตัวผสม

หรือจะใช้วิธีหุงกับว่านยาก็จะได้ปรอทกายสิทธิ์ชั้นยอด

หลวงพ่อบุญช่วยท่านประยุกต์ใช้ปรอทป่าผสมกับโลหะปั้นแล้วบีบใส่ลงในหอยเบี้ยให้กลายเป็นเบี้ยแก้อีกประเภทหนึ่งมีฤทธิ์ทางกันคุณไสยไล่ภูติผี ใช้ทำน้ำมนต์รักษาโรคได้

การสร้างเบี้ยแก้ชุดนี้นอกจากเป็นการนำปรอทป่า ซึ่งดักล่อมาทำแล้ว ท่านยังนำไปปลุกเสกบนเขาพนมกุเลน เชิญญาณฤๅษี และองค์หลวงปู่สรวง มาอธิษฐานจิตให้

ผู้สนใจติดต่ออาจารย์สมบัติโดยตรงครับ

 

ขอบพระคุณมากๆครับพี่ ขอบคุณจริงๆครับ

 

แผนที่อาศรมหลวงปู่สรวงอีกเส้นทางหนึ่งค่ะ