ทำไมมีแต่คนอ้างคำสอนของครูบาต่างๆมากกว่าพระไตรปิฏก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย I2D2, 4 กันยายน 2011.

  1. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0


    ผมมันประเภทตีกันเราหลบครับ อิอิอิ
     
  2. SleepingWakeup

    SleepingWakeup สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +14
    ท่านผู้รู้
    ถ้าพระอรหัน(เป็นจริง) บอกว่าตนเองเป็นพระอรหัน จะเกิดอะไรเหรอท่าน
     
  3. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0
    เป็นอาบัติแก่ท่านเองครับ

    เพราะธรรมบางอย่างควรปิดไว้(ความเป็นพระอริยะ)
    แต่ธรรมบางอย่างควรเปิดเผย(อาบัติของตน)
     
  4. SleepingWakeup

    SleepingWakeup สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +14
    มีโทษอย่างไรเหรอ และทำไมห้ามบอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2011
  5. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0


    สำหรับอาบัติตัวไหนนั้น ถ้าหากธรรมนั้นไม่มีจริงในตนก็เป็นปาราชิก
    แต่หากว่ามีในตนนั้นจะเป็นข้อรองลงมา ไม่แน่ใจว่าสังฆาธิเสสหรือเปล่า หรือว่าตัวอื่นครับ

    เดี๋ยวขอตัวไปค้นมาก่อนแล้วพรุ่งนี้จะเอามาบอกครับ :cool:
     
  6. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676

    ใช่ครับถ้าถึงที่สุดแล้วก็ปล่อยไปตามกรรมก็สิ้นเรื่อง
    เว้นเสียแต่เราอยู่ในฐานะที่สามารถควบคุมวินัยของพระได้
    นอกเหนือจากนั้นก็เหมือนการปลุกปั่นสร้างกระแสต่อต้านพระนอกวินัย
    ซึ่งจะมีทั้งผลดีและผลเสียตามมา ก็ลองชั่งน้ำหนักผลที่จะเกิดตามมาก็แล้วกันครับ
     
  7. SleepingWakeup

    SleepingWakeup สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +14
    เจอแล้ว คำตอบมีอยู่ในบอร์ดเอง
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%88%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1.290137/
     
  8. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    กระทู้นี่ยาวนะครับ จะขอตอบแบบสรุปให้

    1. ยุคนี้พระอรหันต์ยังมีนะครับ พระอรหันต์แท้ ๆ มีเยอะด้วย สายเหนือ สายอีสาน

    2. ยุคนี้พระอรหันต์ปลอมก็เยอะครับ มีทั้งหลงผิด และจงใจหลอก

    3. จากพระสูตรที่ว่ามีแค่พระอนาคามีในยุคนี้ อันนี้หลายท่านเข้าใจผิดครับ ในสูตรนี้หมายความว่า พระเสขะส่วนใหญ่ จะตั้งเป้าหมายไว้ขั้นต่ำที่สิ้นสังโยชน์เบื้องต่ำในชาตินี้ ขยายอีกก็ว่าอย่างพระโสดาบัน พระสกิทาคามี ท่านตั้งเป้าหมายขึ้นต่ำครับ คืออย่างน้อยชาตินี้ต้องได้พระอนาคามีเป็นอย่างต่ำ เอาสิ่งร้อยรัดเบื้องต่ำให้ขาดก็ แล้วค่อยตั้งเป้าหมายใหม่ เป็นลำดับไป ซึ่งถ้าเป็นยุคพุทธกาล ท่านแน่วแน่มาก ที่จะเอาให้สิ้นในชาติปัจจุบัน ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีแล้วพระอรหันต์ในยุคนี้

    4. พระไตรปิฎกตรงครับ แต่ใจผู้ศึกษา ตรงเหมือนพระไตรหรือเปล่า อันนี้ต้องดูเป็นราย ๆ ไป

    5. การทำตามครูบาอาจารย์ที่ได้คุณธรรม ท่านทำแล้ว พิสูจน์แล้ว เป็นการทำตามคำสอนพระศาสดาอย่างแท้จริง ผมนับถือ กราบไหว้ บูชา พระอริยเจ้าทั้งหลาย มากกว่าคนรู้ตำรา อวดรู้แต่ภายนอก แต่ไม่รู้สึกตัว ไม่รู้ในทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

    6. อย่าดูถูกดูแคลนพระสงฆ์ ที่มีเวลาปฎิบัติทั้งวันทั้งคืน ท่านสละแล้วจากกามทั้งหลาย ท่านไม่โง่

    7. อย่าคิดว่าตนฉลาด

    8. ไปลงมือทำซะบ้าง อย่าไปอยู่กับความคิด คาดคะเนเอา

    9. อย่าทำเป็นรักษาศาสนา แต่ตัวเองลงไปอบายภูมิซะแล้ว แต่ด้วยความหลงแล้ว มันเป็นการทำลาย

    ปล. ไม่เข้าใจอะไรให้ตั้งกระทู้ถามครับ เดี๋ยวจะพยายามมาตอบให้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2011
  9. apichai53

    apichai53 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    630
    ค่าพลัง:
    +2,261
    ตามที่ผมติดตามการถาม ตอบ ของ จขกท. ท่านคงจะเน้นในเรื่องการศึกษา
    ยังไม่ลงลึกในการปฏิบัติภาวนา หากลงลึกในการปฏิบัติจนเห็นผลจาก
    การปฏิบัติได้บ้าง คงจะไม่มีข้อสงสัยเช่น ทำไมต้องภาวนาพุทโธ
    พระอรหันต์ในโลกเราตอนนี้ไม่มีแล้ว

    ...ปัญญาในทางโลก กับทางธรรม คนละอย่างกัน ปัญญาในทางโลกเป็นเรื่อง
    ของตรรกะเหตุผลต่างๆ ปัญญาทางธรรมจะเกิดก็ต่อเมื่อมีการปฏิบัติภาวนาที่ถูกต้อง...

    เพราะอย่างนั้นจึงต้องปฏิบัติภาวนา โดยมีครูบาอาจารย์คอยชี้แนะ สั่งสอน
    ซึ่งก็แน่นอนว่า ครูบาอาจารย์ที่ดี ท่านก็สอนสั่ง เราตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
    (พระไตรปิฏก)อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลหรอกครับ

    พระศาสดาเราท่านเห็นความสำคัญของพระสงฆ์ ในการสั่งสอนเผยแผ่ศาสนาต่อไป
    ในอนาคต เสาหลักแห่งศาสนาจึงประกอบไปด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    หากพระสงฆ์ไม่สำคัญในการสั่งสอนเผยแผ่ศาสนา ก็คงไม่กำหนดไว้อย่างนี้
    คงมีเพียง พระพุทธ พระธรรมเท่านั้น..

    มุมมองต่างๆ ของจกขท ต้องมองให้กว้าง บางครั้งการที่เพิ่งเข้ามาศึกษาเรียนรู้
    ในทางธรรม แล้วใช้ตรรกะของปัญญาในทางโลกมาวิเคราะห์มาวิจารณ์ อาจจะไม่
    ครอบคลุมในทุกๆด้าน และต้องฉุกคิดบ้างหากข้อคิดเห็นของเรา ไม่ตรงกับ
    เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และคนส่วนใหญ่เขาเลย ต้องทบทวนดูว่ามีการเข้าใจผิดอะไร
    หรือเปล่า หรือเราที่เพิ่งเรียนเพิ่งศึกษา จะเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วทุกอย่างจริงหรือ

    ต้องทบทวน และฉุกคิด บ้าง นะครับ..และปัจจุบันนี้พระสุปฏิปัณโณ ยังมีให้กราบใหว้
    เป็นครูบาอาจารย์ได้ แต่ก็ทราบกันในวงแคบๆ ในกลุ่มผู้ปฏิบัติและลูกศิษย์ของท่านเท่านั้น
    ถ้าเรามีปัญญาพอเราสามารถแยกเพชรออกจากก้อนกรวดได้

    ...หากยังมีผู้ปฏิบัติตามมรรค๘ มรรคผลนิพพาน ยังมีอยู่ พระอรหันต์ก็ยังมีอยู่...

    ขออนุโมทนาในความตั้งใจที่ศึกษาและปฏิบัติธรรม ครับ
     
  10. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ทำไมมีแต่คนอ้างคำสอนพระไตรปิฏก

    เป็นคำสอนของตัวเอง
     
  11. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระวจนะ............"ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีนี้ มีภิกษุพยากรณ์อรหัตตผลว่า "ข้าพเจ้ารู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีก ดังนี้" ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่พึงรับรองไม่พึงคัดค้านคำกล่าวของภิกษุนั้น......(หลังจากนั้นตรัสถึงคำถามเกี่ยวกับ 1 โวหารสี่ 2ปัญจุปาทานขันธ์3 ธาตุหก4-5อายตนะภายใน ภายนอก6การถอนอนุสัย ถ้าตอบได้ตามจริง ก็อนุโมทนา)-อุปริ.ม.14/123-132/167-177 จากอริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาส......................................
     
  12. lady_crazy

    lady_crazy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +123
    ใครใคร่ศึกษาก็ศึกษาค่ะ ใครใคร่ปฏิบัติก็ปฏิบัติ แต่จะศึกษาหรือจะปฏิบัติตามแนวทางไหน หรือหลักการใด ถ้าไม่ขัดแย้งหรือเห็นต่างก็ไม่ผิดนี่คะ ยอดเขามียอดเดียวแต่เส้นทางที่จะไปก็หลายเส้นทางนิ

    หรือคุณจะบอกว่าชาวพุทธที่ไม่ศึกษาพระไตรปิฏกผิดคะ พระปฏิบัติบางรูปบางองค์อ่านหนังสือไม่ได้ด้วยซ้ำ ท่านยังบรรลุได้ ที่พูดไม่ใช่ว่าปริยัติไม่สำคัญนะคะ แต่ถ้ายึดตึดจนเกินไปก็คงไม่ใช่ค่ะ
     
  13. lady_crazy

    lady_crazy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +123

    :cool::cool: ขออนุโมทนากับคำตอบของท่านค่ะ
     
  14. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0


    ไม่ได้เข้ามาวันเดียวโดนยับเลยผม

    1. รู้ได้ยังไงว่าท่านเป็นครับ(หรือท่านบอก)
    3. ท่านไม่ทำอย่างนั้นแน่ครับ อย่าลืมว่ามัวแต่คิดว่าพอแล้วขั้นนี้ อันนี้พระพุทธองค์ท่านติเตือนไว้เลยมิใช่หรือว่าเป็นผู้ประมาทในธรรม
    อีกอย่าง ยิ่งเป็นพระอริยะที่สูงขึ้นไปแล้วท่านไม่ละความเพียรแน่นอนครับจนกว่าจะได้เป็นพระอรหันต์ เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะคิดว่าพอแล้ว(แม้ว่าคติจะแน่นอนแล้วก็ตาม) มีอย่างเดียวคือปัญญาบารมียังเข้าไม่ถึง จึงต้องบำเพ็ญสั่งสมต่อไปในสุทธาวาส

    ูกรอานนท์ ภิกษุสงฆ์ยังจะหวังอะไรในเราเล่า ธรรมอันเรา
    ได้แสดงแล้ว กระทำไม่ให้มีในมีนอก กำมืออาจารย์ในธรรมทั้งหลาย มิได้มีแก่ตถาคต

    คำว่า "กระทำไม่ให้มีในมีนอก" หมายถึงไม่ทำให้เป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนจนปัญญาเข้าไม่ถึง ไไม่ว่าปัญญาโลกีย์หรือโลกุตตระก็ย่อมเข้าถึงได้ แต่ต่างกันที่เข้าถึงบรรยัติหรือสภาวะแค่นั้นเอง


    ส่วนข้ออื่นๆที่เป็นแนวการติในตัวผม ผมขอน้อมรับเอาไว้ครับ:cool:
     
  15. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0


    ต้องดูด้วยครับว่าที่ท่านตอบน่ะตอบตามสภาวะหรือบัญญัติ ถ้าตอบตามสภาวะก็ผ่านครับ ถ้าตอบตามบัญญัติก็ยาวล่ะทีนี้
     
  16. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0


    พระนอกวินัยก็ควรแนะนำท่านให้ถูกต้องไม่ใช่เหรอครับ โยมมีสิทธิ์ที่จะไม่อุปถัมพระนอกวินัยได้นี่นา
     
  17. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0


    อันนี้เห็นด้วยครับ ทุกวันนี้มีแต่คนมาบอกว่าคำสอนอาจารย์ท่านนั้นท่านนี้ เป็นธรรมของท่านนั้นท่านนี้ แต่ลืมไปแล้วว่าใครเป็นเจ้าของธรรม
     
  18. crossis

    crossis Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +84
    ผมเห็นด้วยให้ ปฎิบัติครับ
    แต่ผมทำ 3 อย่างนี้นะครับ
    1. ปฎิบัติ ทั้งทำ สมถะพอออกสมถะ ก็เจริญ สติปัฎฐานสี่
    2. ปริยัติ ศึกษาเพื่อไม่ให้ เกิดวิจิกิจฉา
    3. ปฏิเวธ เพื่อให้รู้แจ้งเห็นจริง ว่า กายนี้ใจนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของๆเรา เพื่อสู่มรรคผลนิพพาน

    ผมแชร์นะครับ ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรครับ
     
  19. I2D2

    I2D2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2011
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +0
    ในส่วนที่พระพุทธองค์กล่าวไว้ว่า หากมรรค๘ยังอยู่ศาสนาก็ยังตั้งอยู่ได้ อันนี้ท่านตรัสไว้เป็นเหตุเป็นผลของการปฏิบัติครับ

    แต่ในทางกลับกันอย่าลืมว่า ในความเป็นจริงแล้วสังขารธรรมล้วนเป็นอนิจจัง หลีกหนีไม่ได้ ไม่เว้นแม้แต่ความเป็นไปของศาสนา ซึ่งจะต้องเสื่อมลง(ตัวอย่างให้เห็นจากพระศาสนาจากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ) ซึ่งพระศาสนาของเราก็เหมือนกัน ดังนั้นการที่จะเสื่อมลงไปนั้นคือ ผู้ที่ปฏิสนธิด้วยเหตุ๓นั้นน้อยลงไป อย่าลืมว่าธรรมขั้นสูงนั้นไม่ใช้ว่าทุกคนก็ปฏบัติได้ แต่ต้องเป็นผู้ที่ปฏิสนธิด้วยปัญญาเท่านั้น

    ในยุคปลายของพระศาสนานั้นแน่นอนว่าบุคคลเหล่านี้ล้วนน้อยลงไปจนกระทั่งถึงการสิ้นไปตามลำดับแห่งผู้ที่จะเข้าถึงธรรมเหล่านั้น ดังที่อถรรกถาได้กล่าวเอาไว้นั่นแหละ
     
  20. lady_crazy

    lady_crazy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +123

    จริงๆๆที่เข้าใจว่าเป็นคำสอนอาจารย์ท่่านนั้นท่านนี้เป็นเพราะผู้ฟังผู้อ่านธรรมจำได้มากกว่าค่ะว่าเคยศึกษาเคยอ่านจากใคร แต่ครูบาอาจารย์ที่ท่านสอนท่านไม่ได้อ้างว่าเป็นพระธรรมของท่านหรอกค่ะ แต่มีวิธีปฏิบัติที่ครูบาอาจารย์ท่านแนะนำไม่เหมือนกัน ซึ่งนั่นก็ไม่แปลกเพราะแค่การทำให้มีสมาธิหรือสติปัฏฐานสี่ยังมีตั้งหลายวิธีการ เพราะพระดีๆๆยังไงท่านก็เคารพในพระพุทธเจ้ามากกว่าสิ่งใดค่ะ

    ยอมรับในความต่างเถอะค่ะ

    เจ้าของกระทู้เขียนตอบในลักษณะของพระสงฆ์ที่ปฏิบัติไม่ตรงตามพระวินัย

    แต่ที่คนทั่วไปอธิบายคือพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้ายังมีอยู่ ถึงจะยังไม่บรรลุท่านที่ยังทำควารเพียรอยู่ก็ยังมีอยู่ อย่าวิจารณ์ใครๆเลยค่ะ ถ้าท่านไม่สามารถตัดสินหรือสรุปได้ว่าพระรูปไหนเป็นอย่างไรจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...