ภาพในอดีต

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Dont", 14 กันยายน 2011.

  1. Dont"

    Dont" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    434
    ค่าพลัง:
    +17
    [​IMG]


    สุดยอดภาพหายาก Adolf Hitler ก้มหัวรับเสด็จ ร.7

    พระฉายาลักษณ์หายาก-พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯสัมผัสพระ หัตถ์กับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเยอรมนีระหว่างเสด็จเยือนเยอรมันเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2477 ภายหลังพระองค์สละราชบัลลังก์ และก่อนหน้าที่ฮิตเลอร์จะรุกรานยุโรปในอีกหลายปีต่อมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2011
  2. Nattawut8899

    Nattawut8899 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +7,050
    ภาพประวัติศาสต์จริง ๆ ครับ
     
  3. wongsatron

    wongsatron สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +5
    ประวัติศาสต์ของจริง
     
  4. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,437
    ค่าพลัง:
    +1,770
    ภาพนี้มีความหมาย แต่บรรยายไม่ได้

    หายากจริงๆ ผมเคย Print เก็บไว้ ว่าจะใส่กรอบแต่หายไปละ.....
     
  5. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ฮิตเลอร์ตัวใหญ่จัง เคยมาไทยด้วยเหรอ พึ่งรู้
     
  6. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    ขอบคุณครับ....ไม่เคยเห็นเหมือนกัน
    ไม่เคยรู้เลยนะเนี้ย....:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2011
  7. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    พิจารณาดูให้ดีๆ ไม่ใช่ Hitler แต่น่าจะเป็นลูกน้อง
     
  8. TT_GOVERNMENT

    TT_GOVERNMENT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +711
    ท่านเสด็จไปเยอรมันมั้งครับ
     
  9. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,437
    ค่าพลัง:
    +1,770
    ท่านเสด็จไปเยอรมัน หลังจากสละราชสมบัติแล้วครับ
     
  10. Dont"

    Dont" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    434
    ค่าพลัง:
    +17

    มาแล้ว 1 คน

    อิอิ รออยู่เชียว

    อย่ามาพูดแล้วก็ไป ถ้าคิดว่าไม่ใช่ โปรดจง หา ข้อมูล มาโต้แย้ง-แบ่งปัน กันได้ครับ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2011
  11. sanuwatp

    sanuwatp สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    โอ้วพึ่งเคยเห็นครับ.....................
     
  12. Chaiwat_Khamhom

    Chaiwat_Khamhom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    710
    ค่าพลัง:
    +91
    ขอ ขอบคุณครับ ที่เอามาให้ดู
     
  13. melodicnat

    melodicnat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +13
    ขอบคุนๆๆๆๆครับหายากจริงๆๆๆ
     
  14. suphattra

    suphattra สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +19
    นั้นเราคนเยอรมัน ยังไม่รู้เรื่องเลย เเต่สายเลือดไทยนะ อิอิ
     
  15. SkylineX

    SkylineX สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    ใช่ฮิตเลอร์แล้วล่ะครับดูจากท่าสัญลักษณ์นาซีของพวกข้างหลัง ถ้าไม่ใช่ฮิตเลอร์คงไม่แสดงความเคารพแบบนั้น
     
  16. sek_piboon

    sek_piboon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    หลวงพ่อเเก่นเมืองอายุ กว่า ๔๐๐ ปี

    มาอุบลราชธานีเที่ยวเเหล่งวัฒธรรม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1030095.JPG
      P1030095.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      59
    • P1030070.JPG
      P1030070.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      48
  17. sek_piboon

    sek_piboon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    หลวงพ่อแก่นเมือง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวข้องกับการเสาะแสวงหา
    ที่ตั้งเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัยประเทศราช ภายหลังจากพระปทุมสุรราช (เจ้าคำผง) และ เจ้าทิดพรหม
    ได้นำไพร่พลเข้าพึ่งบรมโพธิสมภารเป็นขอบขัณฑสีมาแห่ง พระเจ้ากรุงธนบุรี

    ประดิษฐานที่ วัดสระปทุมมาลัย บ้านดอนสำราญ ตำบลกุดชมภู อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
    เปิดให้นมัสการทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๗.๐๐ น

    สอบถามเส้นทาง โทร ๐๘๑-๗๑๘-๕๑๕๖ พระครูโกศลปทุมกิจ (เจ้าปู่จันทร์) เจ้าอาวาสวัดสระปทุมมาลัย โทร
    ๐๘๕-๓๐๘-๓๔๖๕ เสกสินธุ์ ยานุ ประชาสัมพันธ์


    ประวัติหลวงพ่อแก่นเมือง อายุกว่า ๔๐๐ ปี
    หลวงพ่อแก่นเมือง พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านช้าง
    เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวข้องกับการเสาะแสวงหา ที่ตั้งเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัยประเทศราช
    ภายหลังจากพระปทุมสุรราช

    (เจ้าคำผง) และ เจ้าทิดพรหม ได้นำไพร่พลเข้าพึ่งบรมโพธิสมภารเป็นขอบขัณฑสีมาแห่ง พระเจ้ากรุงธนบุรี
    หลังจากพระปทุมสุรราชได้ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภาร แห่งพระเจ้ากรุงธนบุรี จึงโปรดให้นายทหารผู้ใหญ่ คือ
    สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และ เจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) ยกทัพไปช่วยเจ้าคำผงที่

    บ้านดู่บ้านแก เจ้าคำผงร่วมเป็นทัพหน้า ตีเมืองเวียงจันทร์จนแตกพ่าย
    ในครั้งนั้นได้อัญเชิญเอาพระแก้วมรกตและพระบางลงไปกรุงธนบุรี
    พระปทุมสุรราช จึงได้อพยพไพร่พลกลับมาเพื่อไปอยู่ที่ค่ายบ้านดอนมดแดง พอมาถึงท่าข้ามน้ำบริเวณแก่งตะนะ
    จึงได้แยกออกเป็นสองฝ่าย เพื่อสำรวจ แม่น้ำมูลด้านทิศใต้ และเดินคู่ขนานขึ้นมา จน

    มาถึงบริเวณปากห้วยกว้างลำชะโด มีพื้นที่สูงเหมาะสำหรับการตั้งเมืองจึงหยุดพัก
    เพื่อสำรวจอย่างละเอียดพบว่าเป็นที่ราบสูง มีพื้นที่เหมาะแก่การทำไร่นา แต่มีข้อเสียคือ มีลำห้วยน้อย
    ใหญ่ อยู่ระหว่าง ห้วยกว้าง กับ ลำชะโด หลายสาย จึงเกรงว่า เมื่อมีฝนตกหนักน้ำไหลหลาก
    อาจทำให้น้ำท่วมไร่นาเสียหายเป็นบริเวณกว้างได้
    จึงได้ให้ไพร่พลที่ประสงค์จะได้สร้างหลักปักฐาน เป็นแนวระวังส่งข่าว เมืองจำปาศักดิ์
    และหัวเมืองในละแวก จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญจำนวนหลายองค์ ลงประดิษฐานเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
    ให้ประชาชนกราบไหว้สักการบูชาและเก็บรักษาไว้ ก่อนเดินทางสู่ค่ายดอนมดแดงสถานที่จะตั้งเมือง
    และได้อัญเชิญ

    หลวงพ่อเงิน พระชัยหลังช้างประจำกองทัพเก็บรักษา ไว้ที่ดงป่าพระพิฆเนศวรณ์
    (ปัจจุบันขุดค้นพบและได้นำออกมาให้ประชาชนกราบไหว้สักการะที่วัดปากน้ำ(บุ่งสระพัง) จังหวัดอุบลราชธานี)

    วัดสระปทุมมาลัย บ้านดอนสำราญ วัดวิวสวยริมแก่งแม่น้ำมูล
    บ้านดอนสำราญ หรือ ดอนกลาง ในอดีตได้มีชาวบ้านอพยพมากจากบ้านแขม บ้านเสียม อำเภอเขื่องใน ชาวบ้านเชือก
    ตำบลหนองขอน อำเภอเมือง และอีกส่วนหนึ่งเดินทางมาจากบ้านโพนเมือง อำเภอเห

    ล่าเสือโก๊ก จังหวัดอุบลราชธานี ได้มาตั้งบ้านเรือนแผ้วถางทำไร่ทำนา เมื่อมีจำนวนประชากรมากขึ้น
    จึงได้สร้างวัดขึ้นมา ที่ริมหนองผักผีพวย ติดริมแม่น้ำมูล และได้มี หลวงปู่อู อินฺทสาโร
    เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ได้นำพาชาวบ้านสร้างสิมน้ำที่หนองผักผีพวย ในฤดูว่างจากทำนา
    เมื่อสร้างเสร็จจึงได้นำเรื่อง เรียนเจ้าคณะปกครองใน

    สมัยนั้นคือ พระครูคัมภีรญาณ (ยาถ่านกอง) วัดโพธิ์ตาก เจ้าคณะอำเภอพิบูลมังสาหาร
    จึงได้นำพระพุทธรูปโบราณเนื้อไม้มาประดิษฐานเป็นพระประธานและกำหนดเขตเป็น สิมน้ำ หรือที่เรียกว่า
    อุทถกเขปสีมา เพื่อทำสังฆกรรมของพระสงฆ์ และสิมน้ำหลังเก่า

    ได้พังสลายไปตามกาลเวลา พระสา กิตฺติญาโณ (บุญยืน) เจ้าอาวาสในขณะนั้น
    จึงได้นำพาชาวบ้านสร้างสิมน้ำขึ้นมาใหม่ ทดแทนหลังเดิม
    จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปไม้ไปอยู่บนกุฎีหลังใหญ่เรื่อยมา
    จนถึงปัจจุบันได้อัญเชิญมาให้ประชาชนได้กราบสักการะสิมน้ำ (๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๔)
    ปรากฏนามหลวงพ่อแก่นเมืองพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
    เหตุปรากฏนามเมื่อราวปีพุทธศักราช ๒๕๒๕ ชาวบ้านได้สร้างสุสานไตรลักษณ์ขึ้น
    มีแกนนำชาวบ้านไปร่วมทำงานและทำบุญจนวัดบ้าน ขาดการดูแล พระภิกษุสามเณร อยู่ด้วยความลำบาก
    ในวันหนึ่งขณะทำวัตรสวดมนต์ ได้สังเกตว่ามีน้ำไหลออกมาจากตาทั้งสองข้างของพระพุทธรูปไม้
    บ่งบอกถึงความเป็นห่วงบ้านเมือง

    ปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ ได้เกิดอัศจรรย์บอกเหตุ
    เมื่ออยู่มาวันหนึ่งได้มีน้ำสีแดงชาดไหลออกจากดวงตาของพระพุทธรูปไม้องค์เดิม เจ้าอาวาสได้ตรวจสอบดู
    จึงพบว่าได้มีปลวกกัดกินเนื้อไม้ข้างในดังปรากฏตามที่เห็นฐานพระในปัจจุบัน จึงได้นำพาผู้เฒ่าผู้แก่
    ชาวบ้านกราบขอขมา และอัญเชิญหลวงพ่อลงแช่น้ำเพื่อกำจัดปลวกและได้เก็บรักษาดูแลอย่างดี

    และในปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ คุณยายประมัย สมจันทร์ มารดาเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
    ได้เจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ผู้เฒ่าผู้แก่ ที่ชาวบ้านให้ความนับถือ
    กล่าวมีพระพุทธรูปไม้อยู่บนกุฎีได้มาบอก ว่าพระภิกษุ สามเณร ชาวบ้านไม่ได้นำดอกไม้มาบูชาในวันพระ
    และนำไปสรงน้ำกับพระพุทธรูปองค์อื่นในวันสงกรานต์ดังเช่นที่เคยปฏิบัติมา
    เมื่อได้ทราบสาเหตุจึงได้จัดเครื่องสักการะถวาย การเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุก็หายไป

    เมื่อสืบเรื่องราวประวัติจากบรรพบุรุษบอกเล่าสืบ ๆ กันมาจึงได้ทราบว่าเป็น เป็นพระแก่นเมืองพระพุทธรูป
    ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ ที่สร้างขึ้นตามตำนาน การสร้างเมืองในอดีต เพื่อความเป็นสิริมงคล ความมั่นคง
    ความอยู่เย็นเป็นสุข พร้อมกับพระมุมเมือง พระหลักเมือง
    และพระพุทธรูปสำคัญประจำเมืองอีกหลายองค์ที่เจ้าพระวอ เจ้าพระตา
    ได้อัญเชิญมาจากเมืองกาบแก้วบัวบานหนองบัวลุ่มภู เมื่อคราวรบกับ

    เมืองเวียงจันทร์ เคลื่อนทัพมาตามลำน้ำพองสู่ ลำน้ำปาว ลำน้ำยัง ลำน้ำชี ลำน้ำมูล
    จนลุมาถึงเมืองจำปาศักดิ์ ตั้งค่ายที่บ้านดู่บ้านแก เมื่อสงครามสงบลง จึงแสวงหาที่ตั้งเมือง
    เมื่อเดินทางมาถึงถิ่นพอที่จะสร้างเมืองได้ จึงอัญเชิญหลวงพ่อแก่นเมืองประดิษฐานไว้ที่บ้านห้วหลวงพ่อแก่นเมือง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวข้องกับการเสาะแสวงหา
    ที่ตั้งเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัยประเทศราช ภายหลังจากพระปทุมสุรราช (เจ้าคำผง) และ เจ้าทิดพรหม
    ได้นำไพร่พลเข้าพึ่งบรมโพธิสมภารเป็นขอบขัณฑสีมาแห่ง พระเจ้ากรุงธนบุรี

    ประดิษฐานที่ วัดสระปทุมมาลัย บ้านดอนสำราญ ตำบลกุดชมภู อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
    เปิดให้นมัสการทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๗.๐๐ น

    สอบถามเส้นทาง โทร ๐๘๑-๗๑๘-๕๑๕๖ พระครูโกศลปทุมกิจ (เจ้าปู่จันทร์) เจ้าอาวาสวัดสระปทุมมาลัย โทร
    ๐๘๕-๓๐๘-๓๔๖๕ เสกสินธุ์ ยานุ ประชาสัมพันธ์


    ประวัติหลวงพ่อแก่นเมือง อายุกว่า ๔๐๐ ปี
    หลวงพ่อแก่นเมือง พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านช้าง
    เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวข้องกับการเสาะแสวงหา ที่ตั้งเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัยประเทศราช
    ภายหลังจากพระปทุมสุรราช

    (เจ้าคำผง) และ เจ้าทิดพรหม ได้นำไพร่พลเข้าพึ่งบรมโพธิสมภารเป็นขอบขัณฑสีมาแห่ง พระเจ้ากรุงธนบุรี
    หลังจากพระปทุมสุรราชได้ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภาร แห่งพระเจ้ากรุงธนบุรี จึงโปรดให้นายทหารผู้ใหญ่ คือ
    สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และ เจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) ยกทัพไปช่วยเจ้าคำผงที่

    บ้านดู่บ้านแก เจ้าคำผงร่วมเป็นทัพหน้า ตีเมืองเวียงจันทร์จนแตกพ่าย
    ในครั้งนั้นได้อัญเชิญเอาพระแก้วมรกตและพระบางลงไปกรุงธนบุรี
    พระปทุมสุรราช จึงได้อพยพไพร่พลกลับมาเพื่อไปอยู่ที่ค่ายบ้านดอนมดแดง พอมาถึงท่าข้ามน้ำบริเวณแก่งตะนะ
    จึงได้แยกออกเป็นสองฝ่าย เพื่อสำรวจ แม่น้ำมูลด้านทิศใต้ และเดินคู่ขนานขึ้นมา จน

    มาถึงบริเวณปากห้วยกว้างลำชะโด มีพื้นที่สูงเหมาะสำหรับการตั้งเมืองจึงหยุดพัก
    เพื่อสำรวจอย่างละเอียดพบว่าเป็นที่ราบสูง มีพื้นที่เหมาะแก่การทำไร่นา แต่มีข้อเสียคือ มีลำห้วยน้อย
    ใหญ่ อยู่ระหว่าง ห้วยกว้าง กับ ลำชะโด หลายสาย จึงเกรงว่า เมื่อมีฝนตกหนักน้ำไหลหลาก
    อาจทำให้น้ำท่วมไร่นาเสียหายเป็นบริเวณกว้างได้
    จึงได้ให้ไพร่พลที่ประสงค์จะได้สร้างหลักปักฐาน เป็นแนวระวังส่งข่าว เมืองจำปาศักดิ์
    และหัวเมืองในละแวก จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญจำนวนหลายองค์ ลงประดิษฐานเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
    ให้ประชาชนกราบไหว้สักการบูชาและเก็บรักษาไว้ ก่อนเดินทางสู่ค่ายดอนมดแดงสถานที่จะตั้งเมือง
    และได้อัญเชิญ

    หลวงพ่อเงิน พระชัยหลังช้างประจำกองทัพเก็บรักษา ไว้ที่ดงป่าพระพิฆเนศวรณ์
    (ปัจจุบันขุดค้นพบและได้นำออกมาให้ประชาชนกราบไหว้สักการะที่วัดปากน้ำ(บุ่งสระพัง) จังหวัดอุบลราชธานี)

    วัดสระปทุมมาลัย บ้านดอนสำราญ วัดวิวสวยริมแก่งแม่น้ำมูล
    บ้านดอนสำราญ หรือ ดอนกลาง ในอดีตได้มีชาวบ้านอพยพมากจากบ้านแขม บ้านเสียม อำเภอเขื่องใน ชาวบ้านเชือก
    ตำบลหนองขอน อำเภอเมือง และอีกส่วนหนึ่งเดินทางมาจากบ้านโพนเมือง อำเภอเห

    ล่าเสือโก๊ก จังหวัดอุบลราชธานี ได้มาตั้งบ้านเรือนแผ้วถางทำไร่ทำนา เมื่อมีจำนวนประชากรมากขึ้น
    จึงได้สร้างวัดขึ้นมา ที่ริมหนองผักผีพวย ติดริมแม่น้ำมูล และได้มี หลวงปู่อู อินฺทสาโร
    เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ได้นำพาชาวบ้านสร้างสิมน้ำที่หนองผักผีพวย ในฤดูว่างจากทำนา
    เมื่อสร้างเสร็จจึงได้นำเรื่อง เรียนเจ้าคณะปกครองใน

    สมัยนั้นคือ พระครูคัมภีรญาณ (ยาถ่านกอง) วัดโพธิ์ตาก เจ้าคณะอำเภอพิบูลมังสาหาร
    จึงได้นำพระพุทธรูปโบราณเนื้อไม้มาประดิษฐานเป็นพระประธานและกำหนดเขตเป็น สิมน้ำ หรือที่เรียกว่า
    อุทถกเขปสีมา เพื่อทำสังฆกรรมของพระสงฆ์ และสิมน้ำหลังเก่า

    ได้พังสลายไปตามกาลเวลา พระสา กิตฺติญาโณ (บุญยืน) เจ้าอาวาสในขณะนั้น
    จึงได้นำพาชาวบ้านสร้างสิมน้ำขึ้นมาใหม่ ทดแทนหลังเดิม
    จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปไม้ไปอยู่บนกุฎีหลังใหญ่เรื่อยมา
    จนถึงปัจจุบันได้อัญเชิญมาให้ประชาชนได้กราบสักการะสิมน้ำ (๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๔)
    ปรากฏนามหลวงพ่อแก่นเมืองพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
    เหตุปรากฏนามเมื่อราวปีพุทธศักราช ๒๕๒๕ ชาวบ้านได้สร้างสุสานไตรลักษณ์ขึ้น
    มีแกนนำชาวบ้านไปร่วมทำงานและทำบุญจนวัดบ้าน ขาดการดูแล พระภิกษุสามเณร อยู่ด้วยความลำบาก
    ในวันหนึ่งขณะทำวัตรสวดมนต์ ได้สังเกตว่ามีน้ำไหลออกมาจากตาทั้งสองข้างของพระพุทธรูปไม้
    บ่งบอกถึงความเป็นห่วงบ้านเมือง

    ปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ ได้เกิดอัศจรรย์บอกเหตุ
    เมื่ออยู่มาวันหนึ่งได้มีน้ำสีแดงชาดไหลออกจากดวงตาของพระพุทธรูปไม้องค์เดิม เจ้าอาวาสได้ตรวจสอบดู
    จึงพบว่าได้มีปลวกกัดกินเนื้อไม้ข้างในดังปรากฏตามที่เห็นฐานพระในปัจจุบัน จึงได้นำพาผู้เฒ่าผู้แก่
    ชาวบ้านกราบขอขมา และอัญเชิญหลวงพ่อลงแช่น้ำเพื่อกำจัดปลวกและได้เก็บรักษาดูแลอย่างดี

    และในปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ คุณยายประมัย สมจันทร์ มารดาเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
    ได้เจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ผู้เฒ่าผู้แก่ ที่ชาวบ้านให้ความนับถือ
    กล่าวมีพระพุทธรูปไม้อยู่บนกุฎีได้มาบอก ว่าพระภิกษุ สามเณร ชาวบ้านไม่ได้นำดอกไม้มาบูชาในวันพระ
    และนำไปสรงน้ำกับพระพุทธรูปองค์อื่นในวันสงกรานต์ดังเช่นที่เคยปฏิบัติมา
    เมื่อได้ทราบสาเหตุจึงได้จัดเครื่องสักการะถวาย การเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุก็หายไป

    เมื่อสืบเรื่องราวประวัติจากบรรพบุรุษบอกเล่าสืบ ๆ กันมาจึงได้ทราบว่าเป็น เป็นพระแก่นเมืองพระพุทธรูป
    ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ ที่สร้างขึ้นตามตำนาน การสร้างเมืองในอดีต เพื่อความเป็นสิริมงคล ความมั่นคง
    ความอยู่เย็นเป็นสุข พร้อมกับพระมุมเมือง พระหลักเมือง
    และพระพุทธรูปสำคัญประจำเมืองอีกหลายองค์ที่เจ้าพระวอ เจ้าพระตา
    ได้อัญเชิญมาจากเมืองกาบแก้วบัวบานหนองบัวลุ่มภู เมื่อคราวรบกับ

    เมืองเวียงจันทร์ เคลื่อนทัพมาตามลำน้ำพองสู่ ลำน้ำปาว ลำน้ำยัง ลำน้ำชี ลำน้ำมูล
    จนลุมาถึงเมืองจำปาศักดิ์ ตั้งค่ายที่บ้านดู่บ้านแก เมื่อสงครามสงบลง จึงแสวงหาที่ตั้งเมือง
    เมื่อเดินทางมาถึงถิ่นพอที่จะสร้างเมืองได้ จึงอัญเชิญหลวงพ่อแก่นเมืองประดิษฐานไว้ที่บ้านห้ว

    ยกว้างลำชะโด อันเป็นสัญลักษณ์ที่จะเจริญรุ่งเรืองไปในภายภาคหน้า
    เป็นการสร้างรกรากถิ่นฐานของชาวเมืองพิบูลมังสาหาร
    หลวงพ่อแก่นเมืองจึงเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกองค์หนึ่ง อันประมาณค่ามิได้

    ยกว้างลำชะโด อันเป็นสัญลักษณ์ที่จะเจริญรุ่งเรืองไปในภายภาคหน้า
    เป็นการสร้างรกรากถิ่นฐานของชาวเมืองพิบูลมังสาหาร
    หลวงพ่อแก่นเมืองจึงเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกองค์หนึ่ง อันประมาณค่ามิได้
     
  18. ผ่านมาจริงๆ

    ผ่านมาจริงๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +635
    เป็นภาพที่มีค่าทางประวัติศาสตร์จริงๆค่ะ

    บุคคลสำคัญสองท่าน โค้งคำนับให้เกียรติซึ่งกันและกัน
    รู้สึกเห็นอะไรหลายๆอย่าง จากอากัปกิริยาของท่านทั้งสองในภาพนี้
    ภาพพูดได้จริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...