เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ข่าวด่วนวันนี้ พระผู้ใหญ่ มีมติไช้ไม้แข็ง จับสึกพระเกษมได้ (เพราะไร้สังกัด)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ผู้เตือน warn, 28 กันยายน 2011.

แท็ก: เพิ่มแท็ก

หน้า 3 ของ 4

SkylineX สมาชิกใหม่

วันที่สมัครสมาชิก:

29 กรกฎาคม 2011

โพสต์:

12

ค่าพลัง:

+0
พระวินัยนะท่านไม่ใช่กฎหมายที่จะหาช่องโหว่โน้นช่องโหว่นี้มาอ้างได้ เหอะๆ

จริงอยู่ที่ท่านกระทำมันไม่ผิดพระวินัยแต่ก็กระทบกระเทือนต่อจิตใจต่อพุทธศาสนิกชนหลายๆคน

ถ้าลองเด็กรุ่นใหม่ๆที่นับถือศาสนาพุทธเค้าได้ดูคลิปท่านโดยที่ไม่มีคนคอยชี้แนะจะเป็นอย่างไร

เค้าคงไม่สร้างกลุ่มยกพวกไปบุกวัดไปเผาโบสถ์เผาพระพุทธรูปเลยเหรอเพราะเค้าก็มีข้ออ้างได้ว่าไม่ผิดเพราะไม่นับถือรูปปั้นทองเหลืองงี้เหรอครับ????????

และผลสุดท้ายที่ท่านได้รับผลเช่นนี้ก็เป็นเพราะผลกรรมที่ท่านมีท่านกระทำอยู่นั้นแล
SkylineX, 28 กันยายน 2011

#41
มหิธา Active Member

วันที่สมัครสมาชิก:

8 มีนาคม 2008

โพสต์:

248

ค่าพลัง:

+66
ถ้าท่านยึดตามตัวหนังสือในพระไตรปิฎกเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ใช้วิปัสนาไตร่ตรองถึงวัตถุประสงค์ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติข้อวัตรต่างๆ นั้นเพื่ออะไร...ท่านก็เถียงกันไม่รู้จักจบ ว่าใครผิด ใครถูกตามบันทึกในบทบาลี...

หากท่านวางใจเป็นกลางพิจารณาให้ถ่องแท้สักนิด ว่าศีลของภิกษุทั้ง227ข้อนั้น ล้วนมีจุดประสงค์เพื่อ การสำรวม กาย วาจา และใจ เพื่อฝึกบุรุษให้รู้จักระงับ ข่มจิตใจ ขจัดโลภะ โทสะ โมหะ ออกจากจิตใจทั้งสิ้น พระพุทธองค์ท่านมีเมตตาจิต แม้ท่านหลุดพ้นแล้วก็อยากให้ผู้อื่นพ้นด้วย ผู้มีศรัทธาสร้างเชตวันมหาวิหารให้ท่าน หรือต้องการสร้างรูปหล่อท่านไว้เคารพสักการะ ท่านก็มิได้ทรงตำหนิหรือหักหาญน้ำใจใคร เพราะท่านมีพรหมวิหารธรรม

เรื่องแค่นี้ ไม่เห็นต้องถามต้องถก กันให้ยาก ว่าใครควรเป็นพระ หรือไม่ควรเป็นพระ พระที่นิสัยไม่ดี สร้างความแตกแยก ทำให้โลกติเตียน ศาสนาด่างพร้อยก็ งดใส่บาตร งดกราบไหว้ หรือขับออกจากศาสนา ไหว้เทวทัต ก็ลงอเวจีอย่างเทวทัต พระเทวทัตมีความดีถึงขั้นอภิญญาใหญ่ ยังหลงผิดหลงตัวลืมตนได้... นับประสาอะไร
++***บุญฤทธิ์ ลิขิตกรรม***++

มหิธา, 28 กันยายน 2011

#42
nichaojung เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

25 กุมภาพันธ์ 2011

โพสต์:

392

ค่าพลัง:

+8,247

ท่านทำกริยาไม่เหมาะสม แต่ถ้าดูจากคลิปจากวัดสามแยก ท่านเทศได้แก่นธรรมมาก แต่ในกรณีนี้ท่านก็ทำกริยาไม่เหมาะสม พูดกันดีๆก็ได้

nichaojung, 28 กันยายน 2011

#43
ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

8 กุมภาพันธ์ 2010

โพสต์:

569

ค่าพลัง:

+2,670

ท่านทั้งหลายโปรดพิจารณาเถิด

[FONT=&quot]ดูกรอานนท์ บุคคลจำพวกใด หากเบียดเบียนเสียดสีหมิ่นประมาทในพระสังฆเถระแลภิกษุสามเณร[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]ที่เป็นศิษย์ของพระ[FONT=&quot]<o></o>ตถาคตโดยที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีโทษ ไม่มีปาราชิกและบังคับให้สึกออกจากเพศพรหมจรรย์
[/FONT][/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]หรือกระทำปัพพาชนียกรรมไปเสียก็ดี บุคคลจำพวกนั้นเป็นบาปยิ่งนัก ไม่อาจพ้นนรกได้
[/FONT]

<o></o>บุคคลจำพวกใดมีความเชื่อความเลื่อมใสในคุณธรรมคำสั่งสอนของเราตถาคต

แล้วเชิดชูยกย่องไว้ให้ดี มิได้ดูถูกดูหมิ่น บุคคลจำพวกนั้นก็จะมีความเจริญด้วยความสุข ทั้งในโลกนี้แลโลกหน้า

แม้ปรารถนาสุขอันใดซึ่งไม่เหลือวิสัย ก็อาจสำเร็จสุขอันนั้นได้ตามปรารถนา

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><link rel="themeData" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><link rel="colorSchemeMapping" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><style>  </style> [FONT=&quot]คัดจาก คิริมานนทสูตร[/FONT]. [FONT=&quot]เจาพระคุณอุบาลีคุณูปมาจารย([/FONT][FONT=&quot]จันทร[/FONT][FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot]สิริ[/FONT][FONT=&quot]จนฺโท)[/FONT];[FONT=&quot] หน้า[/FONT]20<o></o>
http://www.kammatan.com/download/book/kirimanon.pdf<o></o>

ดูงาน, 28 กันยายน 2011

#44
ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

8 กุมภาพันธ์ 2010

โพสต์:

569

ค่าพลัง:

+2,670

โปรดพิจารณาอีกครั้งเถิด

[FONT=&quot]บุคคลที่ทำลายพระพุทธรูป[/FONT][FONT=&quot]พระสถูป[/FONT][FONT=&quot]พระเจดีย์[/FONT][FONT=&quot]แลตัดไม้ศรีมหาโพธิ์[/FONT][FONT=&quot]

แลบุคคลจำพวกที่กล่าวหมิ่นประมาท[/FONT][FONT=&quot]เย้ย[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]หยันแก่สานุศิษย์ของเราตถาคตที่มีโทษไม่ถึงปาราชิก
[/FONT][FONT=&quot]บุคคลจำพวกนี้มีโทษหนักยิ่งกว่า[/FONT]

[FONT=&quot]จำพวกที่ทำลายพระพุทธรูปแล[/FONT]<o></o>[FONT=&quot]พระสถูปพระเจดีย์นั้นหลายเท่า[/FONT]

[FONT=&quot]บุคคลที่ทำลายพระพุทธรูป เป็นต้นนั้น เป็นบาปมากก็จริงอยู่ แต่ยังไม่นับว่าเป็นการทำลาย[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

[FONT=&quot]พระพุทธศาสนา ผู้ที่กล่าวหมิ่นประมาทนั้น ได้ชื่อว่าทำลายพระพุทธศาสนาของพระตถาคต
[/FONT]
[FONT=&quot]เพราะว่าผู้ที่มีความผิด โทษไม่ถึง[/FONT][FONT=&quot]<o></o>ปาราชิกนั้น ยังนับว่าเป็นลูกศิษย์ของเราตถาคตอยู่
[/FONT]
[FONT=&quot]ต่อเมื่อเป็นปาราชิกแล้วจึงขาดจากความเป็นลูกศิษย์ของเรา ถ้าเป็นโทษ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>เช่นนั้น
[/FONT]
[FONT=&quot]แม้จะลงโทษหรือกระทำปัพพาชนียกรรมก็หาโทษมิได้แลได้ชื่อว่าช่วยพระศาสนาของเราด้วย[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

[FONT=&quot]การทำลายพระพุทธรูปหรือพระสถูปพระเจดีย์นั้น ยังมีทางเป็นกุศลได้อยู่
[/FONT]
[FONT=&quot]ดังพระพุทธรูปไม่ดีไม่งาม แล้วทำลายเสีย[/FONT][FONT=&quot]<o></o>แก้ไขให้งามให้ดีขึ้น แม้พระเจดีย์แลไม้ศรีมหาโพธิ์ก็เช่นกัน

ต้นโพธิ์ที่ตั้งอยู่ในที่ไม่สมควร เช่น ตั้งอยู่ในที่ใกล้ถาวรวัตถุ อาจทำลาย[/FONT][FONT=&quot]<o></o>ถาวรวัตถุนั้นได้[/FONT]

[FONT=&quot] จะตัดเสียก็หาโทษมิได้ ถ้าทำลายเพื่อหาประโยชน์แก่ตน หรือทำลายโดยความอิจฉาริษยาเช่นนั้น ย่อมเป็นบาป[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

[FONT=&quot]เป็นกรรมโดยแท้ แม้ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ชื่อว่าเป็นการทำลายศาสนา
[/FONT]
[FONT=&quot]พวกที่หมิ่นประมาท[/FONT][FONT=&quot]ทำให้สงฆ์ที่มีโทษยังไม่ถึงอันติมะให้[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]ได้รับความเดือดร้อนถึงแก่เสื่อมจากพรหมจรรย์ได้ชื่อว่าทำลายพระพุทธศาสนาโดยแท้[/FONT]

[FONT=&quot]ข้าแต่พระมหากัสสปะ พระพุทธเจ้า[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT][FONT=&quot]ได้ตรัสเทศนาแก้ข้าฯ อานนท์ ดังนี้

[/FONT]<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><link rel="themeData" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><link rel="colorSchemeMapping" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><style>  </style> [FONT=&quot]คัดจาก คิริมานนทสูตร[/FONT]. [FONT=&quot]เจาพระคุณอุบาลีคุณูปมาจารย([/FONT][FONT=&quot]จันทร[/FONT][FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot]สิริ[/FONT][FONT=&quot]จนฺโท)[/FONT];[FONT=&quot] หน้า[/FONT]20<o></o>
http://www.kammatan.com/download/book/kirimanon.pdf<o></o>

ดูงาน, 28 กันยายน 2011

#45
countdown เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

8 พฤศจิกายน 2005

โพสต์:

1,016

ค่าพลัง:

+3,165

มันเป็นอย่างนี้ครับ ถ้าเราเป็นพระทำตามคำสั่งสอนแห่งพระศาสดาเจ้า ตามพระไตรปิฎกทุกประการ จะเกิดเหตุการแบบพระเกษม จริงไหม เพราะข้อห้ามพระสงฆ์อาบัติมีเยอะในประเทศไทย การห้ามรับเงินทองก็ก็เป็นวินัย ต้องเลี่ยงเอาจริงไหมครับ จะมีพระที่ไหนทำตามพระไตรได้ 100% ก็หายาก เว้นแต่พระศาสดา 100 % จะห้ามทั้งหมดก็ไม่ได้อยู่ที่ตัวพระเองห้ามใจอยู่ไหม แค่มีผู้หญิงสวย ๆ นุ่งกางเกงขาสั้นเดินผ่านวัดพระยังห้ามใจมองตามก้นไม่ได้ ละอายยิ่งนัก พระบางรูปเคยอ่านพระไตรปิฎกบ้างไหม อยู่ในตู้อย่างเดียวไม่เคยรู้ บวชเพื่ออยู่วัดขี้เกียจทำงานก็มีเยอะ คนธรรมดาหลายท่านยังปฏิบัติยิ่งกว่าพระเสียอีก ในเว็บนี้ก็มีเยอะ แต่พูดตามตรงพระเกษมพยายามจะเอาแก่นแท้แห่งพระศาสดาบอกกว่าไว้อันเป็นจริงมาสอนแบบ ตรงเป้ง ๆ เลย แต่พระและคนรับไม่ได้ ถ้าทำได้ สังคมรอบข้างก็จะว่าเองบ้าไปแล้ว เลยมาอยู่ที่ครึ่ง ๆ กลางๆ รับได้แค่นั่น จะไปตามพระศาสดาเต็มที่ก็ไม่ได้ เดียวว่าบ้า จะถอยหลังมาสุดปิดไม่เอาพระไตรปิฏกเลย แล้วไปบวชทำไม หรือเอาคำสั่งสอนแห่งพระศาสดาบอกไว้ ให้เอาสายกลาง บอกได้คำเดียวมันอยู่ที่ใจครับ พระเกษมสอนมาเอาตามพระไตรปิฏกมาสอนแปลแล้ว ถูกตามที่ท่านสอน แต่ไม่เหมาะสม จริงไหม
ถ้าเอาพระไตรปิฏกมาเป็นกฏหมาย ผิดวินัยจับเข้าคุก ไม่มีเรือนจำพอที่จะขังละครับ ทุกวันนี้มีแต่ความอลุมอล่วยกัน ผิดนิดหน่อยไม่เป็นไร แต่พระเกษมเอาสายแข็งมาสอนดึงเอาแก่นแท้พระศาสดามากระชากจิตคน ผมเข้าใจที่ท่านทำแต่ผมไปตามจุดนั้นไม่ได้ เดียวจะบ้าในสายตาคนอื่น ผมเลยถอยมาสายกลางแทน ทุกอย่างที่พระเกษมทำ จะเป็นภาพลวงตาให้มนุษย์ได้คิด ท่านผู้ศึกษาธรรมทั้งหลายจะมองตื้น หรือมองลึกอยู่ที่ตัวทานเอง

ตัวอย่าง (ผู้ใดเห็นเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา)(ผู้ใดไม่เห็นธรรมผู้นั้นไม่เห็นเรา)(แม้ท่านนั่งอยู่หน้าพระประธานองค์เบ่อเร่อ ท่านไม่มีธรรมในจะแล้วท่านจะเห็นเราหรือ) คำแค่นี้จะแยกออกไปด้วยจิตของมนุษย์อีกมากมาย ท่านเห็นพระพุทธเจ้าหรือยัง ..

countdown, 28 กันยายน 2011

#46
ุเพตารี เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

3 พฤศจิกายน 2010

โพสต์:

1,048

ค่าพลัง:

+800

นี่หละฝรั่งมันก็คงเห็นเป็นแค่ทองเหลือง สมควรไหม???

-:- หน้าที่ชาวพุทธ -:-

แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กันยายน 2011

ุเพตารี, 28 กันยายน 2011

#47
Yurichan Active Member

วันที่สมัครสมาชิก:

26 มกราคม 2010

โพสต์:

154

ค่าพลัง:

+97

พระเกษมท่านก็ทำตึงเกินไป พระพุทธรูปเป็นสิ่งแทนพระพุทธเจ้า ให้เราระลึกถึงความดีของพระองค์

ถ้าท่านตระหนักถึงความเป็นสงฆ์ ท่านควรจะปฏิบัติตามพระธรรมวินัยให้เคร่งครัด ถือความสันโดษเป็นเกณฑ์

พระบางรูปก็ทำหย่อนเกินไป บวชเรียนเพื่อสอบเทียบกับทางโลก เพื่อตำแหน่งในทางศาสนา จะมีประโยชน์อะไร ถ้าท่านเหล่านั้นไม่หมั่นภาวนา ฝึกฝน เพื่อบรรลุอรหันต์

พระบางรูปก็ถือเอาทางใหญ่ แสดงอำนาจบารมี ด้วยสิ่งก่อสร้าง เงินทองบริจาค ไม่ละสันโดษ ท่านเหล่านี้จะบวชมาทำไม

Yurichan, 29 กันยายน 2011

#48
i3oomi3er สมาชิกใหม่

วันที่สมัครสมาชิก:

30 ตุลาคม 2010

โพสต์:

45

ค่าพลัง:

+2

บัดนี้พุทธศาสนาได้เกิดความวุ้ยวายและสับสน ทั้งพระทั้งประชาชานธรรมดา มนุษย์เอ๋ยมันไม่มีอะไรต้องน่าเป็นหว่งหรอกทุกอย่างกำลังเป็นไปตามวิธีการหรือกระบวนการเลื่อนระดับของจิตใจจิตวิญญาณของชาวโลก ในบางครั้งการเลื่อนระดับจิตใจจิตวิญญาณในครั้งนี้มันอาจจะรุนแรงบ้างเป็นบางโอกาสตามความเหมาะสมของสถานการณ์ในปัจจุบันเพราะว่าความมืดที่ครอบงำ ความเกลียดชัง ความโลภ ความโกธร ความหลง มันกำลังออกไปจากใจเรา ที่พระเกษมต้องออกมาทำเช่นนี้เพราะท่านเล่งเห็นถึงปัญหาของพระพุทธศาสนา ในใจความท่านนั้นตามจริงแล้ว ท่านไม่อยากทำแบบนี้มันรุนแรงไป แต่ที่ท่านทำไปมันก็อาจจะรุนแรงไปบ้างจนต้องเป็นเรื่องเป็นราว ซึงท่านได้ศึกษาทั้ง สังคม ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ ทั้ง การปฎิบัติของพระองค์บางรูป และเมื่อท่านศึกษาไปได้เรื่อยๆจนความรู้ที่ท่านศึกษานั้นได้มองออกถึงปัญหาของเมืองพุทธที่ ถูกบิดเบือนไปมากกล่าวคือ บางครั้งเมืองพุทธมันก็ไม่ใช่เมืองพุทธเพราะ ท่านๆก็เห็นกันอยู่ว่าสังคมในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง ในใจท่านไม่อยากทำเรื่องแบบนี้ แต่มีอะไรบางอยากมาดลใจท่านให้ต้องทำและท่านก็เตรียมตัวเตรีนมใจไว้แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องนี้ขึ้น และท่านก็ได้บอกกล่าวกับผู้้ที่มาฟังธรรมแล้วว่าต้องขอโทษ ขออภัยด้วยที่ทำอย่างนี้ เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้แล้วใครจะฟังธรรมอย่างถูกต้องตามพระไตรปิฎก หรือถ้าปล่อยไว้ไปเรื่อยๆในอนาคตอันใกล้นี้จะไม่มีพระองค์รูปไหนปฏิบัติอย่างถูกต้องแท้จริงตามพระคำสอนของพระพุทธเจ้าเลย จงจำไว้ว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรม มนุษย์เอ๋ยช่วงการเลื่อนระดับจิตใจจิตวิญญาณในบางครั้งมันก็ทำให้ใจคนเรานั้นสับสนกับความผิดถูกได้ นั่นแหละท่านกำลังพัฒนาความรู้ว่าอันไหนผิดอันไหนถูก จงอดทนต่อไปแล้วเมื่อท่านบรรลุการยกระดับจิตใจจิตวิญญาณได้แล้ว ท่านจะเข้าใจคนที่ออกมากระตุ้นว่าสิ่งที่ทำไปนั้นมันถูกต้องหรือไม่

มนุษย์เอ๋ยจงรักกันไว้ให้มากๆเพราะการเลื่อนระดับในครั้งนี้มันจะต้องใช้ความรักอย่างมหาศาลและความรักนี้ คือ "ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข"

แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2011

i3oomi3er, 29 กันยายน 2011

#49
arsasrianan เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

9 กุมภาพันธ์ 2008

โพสต์:

181

ค่าพลัง:

+261

พระเดี๋ยวนี้ป็นอะไร ไม่มี ขันติ ชอบยุ่งเกี่ยวทางโลก กิเลศมากกว่าคนธรรมดา อยากดังสอนคนอื่นแต่ลืมมองตัวเอง รวมทั้งพระพยอมด้วย พิจารณากันดูเองเทิด กราบไม่ลง จ้างก็ไม่กราบ พระพยอมผมว่าหนักกว่าพระเกษมอีก น่าจะสึกไปเล่นการเมืองซะ ด้วยความเคารพ

-ลายเซ็นต์-

arsasrianan, 29 กันยายน 2011

#50
uesuki เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

13 กุมภาพันธ์ 2009

โพสต์:

73

ค่าพลัง:

+150

ผิดวินัยสงฆ์

เจตนา วาจา กิริยยา ใจ

ทางพุทธนั้นสอนให้รู้จักสำรวม ทั้งกายใจ

เราเอง ก้อ มิได้มีความถนัดด้านนี้
แต้ก้อรู้ผิดรู้ชอบ

จากคำพูดของ นายเกษม
กูอยากอยู่คนเดียว กูจำเป็นต้องเอาทานจากพุทธบริสัท
กูต้องนั้นนู้นนี่ เหรี๊ยยยยย แสร่ดดดดดดดด
เยร๊ดดดดดฮี๊แม่ เยร๊ดดดดฮี๊พ่อ

คุณแสดงกิริยาเช่นนี้เพื่อเผยแผ่คำสอนทางพุทธะ หรือคับ
ถูกหรือคับ

เอาหร่ะ
คุณไม่เลือกทางที่ถูก ควร ชอบ หรือ คิดตรึกตรอง เสียก่อน ที่จะสอนผู้อื่นหรือคับ
คุณใช้สติควบคุม อารมณ์ ได้หรือเปล่าคับ

บางคนเค้าก้อโง่เชื่อไปตามที่ แกคิด แกว่า เพราะแกเป็นพระ อันนั้นมันใช่หรือคับ

ถึงคุณไฟสว่าง
คบคนพาล ไปหาผิด
คบบัณฑิต ไปหาผล

uesuki, 29 กันยายน 2011

#51
sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

27 พฤษภาคม 2009

โพสต์:

1,553

ค่าพลัง:

+170

คนเสื้อเหลืองมาก่อนห่มเหลืองมา ไม่เห็นจะว่าเค้ามั่งหละครับ

jaojao48 said: ↑

พระตอนเสื้อแดงชุมนุมแสดงอาการถ่อยเยอะแยะ

ไม่เห็นใครไปไล่ตามให้สึก ?
Click to expand...

-----------------------

นี่แหละครับคนประเภท เลือกที่จะว่าอีกฝ่าย
แต่คนเสื้อเหลืองมาก่อนห่มเหลืองมา ไม่ว่า

เฮ้อ... นี่หรือคน จะให้ใครว่าดีควรมีใจเป็นธรรมนะครับ

สิ้นสุดตรงที่เราได้บรรจบกัน แม้มันจะนานก็ตามที

sutanon, 29 กันยายน 2011

#52
sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

27 พฤษภาคม 2009

โพสต์:

1,553

ค่าพลัง:

+170

น่าละอายแทนคุณจริงๆ ไม่รู้ หรือทำแกล้งไม่รู้ ว่าเสื้อเหลืองมีพระอยู่ด้วย

คนทำสงคราม said: ↑

โดนใจมากคับ พวกมีกิเลศในใจน่ะคับที่ไม่ยอมจบเรื่องนี้ซะที
ตั้งกระทู้เป็นสิบรอบแล้ว
Click to expand...

--------------------------

คุณมองไม่เห็นคนเสื้อเหลืองหรือไง ว่าเค้ามาเป็นคณะเลย
อยู่ถึงเช้าออกมาบิณฑบาต อีกตะหาก ...

สิ้นสุดตรงที่เราได้บรรจบกัน แม้มันจะนานก็ตามที

sutanon, 29 กันยายน 2011

#53
nattiphong สมาชิกใหม่

วันที่สมัครสมาชิก:

28 พฤศจิกายน 2006

โพสต์:

7

ค่าพลัง:

+3

ผมเห็นว่า ควรพูดจากันให้ดี
สิ่งที่ท่านทำ หาใช่ว่าจะถูกเลยแม้เเต่น้อย

คนที่บอกจะสึกท่าน ก็ให้ไปพูดคุยกันเสียทีว่า
1. ท่านทำเเบบนี้ผิด ...ผิดอย่างไร
2. ท่านต้องการอะไรกันเเน่ ...เพราะท่านออกมาหลายกระเเสเหลือเกิน
3. สงฆ์ ควรอยู่ในกิจของสงฆ์ ... การออกมาวิภาควิจารณ์ทางการเมือง ท่านต้องการสิ่งได

ฯลฯ

ผมว่าหากท่านเบาปัญญาว่า ไม่ทราบว่าผิดอย่างไร ผู้รู้ควรจะไปบอกท่านนะครับ ว่าสิ่งที่ผ่านมามันผิด.....
ผมจำได้ว่า คำที่ครูบาอาจารย์ ท่านเคยสั่งสอนเอาไว้ ว่า "ไม่มีสิ่งไดที่เรารู้มาได้ตั้งเเต่เกิด คนเราต้องได้รับการสั่งสอน และประสบการณ์.." กระไรหรือ ทำไมต่างคนต่างพูด เเล้วไม่ไปพูดในสถานที่เดียวกัน เพื่อยุติปัญหา..... เฮ้อ........

nattiphong, 29 กันยายน 2011

#54
loguttara Active Member

วันที่สมัครสมาชิก:

25 สิงหาคม 2011

โพสต์:

121

ค่าพลัง:

+39
ใช้วิกฤติ เป็นโอกาส กันนะครับ
ศึกษาก่อนค่อยมาวิจารณ์ ก็ยังไม่สาย
อีกอย่างก็เป็นหน้าที่ของพุทธบริษัท 4 อยู่แล้ว
หรือท่านเป็นพุทธแต่ในนาม หรือเป็นแต่ในทะเบียนบ้าน ครับ

พระอภิธรรม
คือ คำสอนหมวดหนึ่งใน "พระไตรปิฎก"
ซึ่งพระไตรปิฎกแบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ :-

หมวดที่ 1 พระวินัยปิฎก หรือเรียกสั้นๆ ว่า "พระวินัย" เป็นหมวดที่กล่าวถึง วินัยสำหรับพระภิกษุ เพื่อให้ปฎิบัติตนอยู่ในกรอบแห่งความถูกต้องทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ มีทั้งหมด 21,000 พระธรรมขันธ์

หมวดที่ 2 พระสุตตันตปิฎก หรือเรียกสั้นๆ ว่า "พระสูตร" เป็นหมวดที่กล่าวถึงเรื่องเล่า ตลอดจนชาดกต่างๆ และพระธรรมเทศนาที่ทรงแสดงไว้หลายนัย เพื่อให้เหมาะแก่จริตของผู้ฟังและเหมาะกับโอกาสต่างๆ มีทั้งหมด 21,000 พระธรรมขันธ์

หมวดที่ 3 พระอภิธรรมปิฎก หรือเรียกสั้นๆ ว่า " พระอภิธรรม " เป็นหมวดที่กล่าวถึงธรรมชาติการทำงานของกายและใจ กล่าวถึงเรื่องชีวิตว่าคืออะไรและมาจากไหน ชีวิตมีองค์ประกอบที่สำคัญอะไรบ้าง เรื่องจิต (วิญญาณ) เรื่องเจตสิก เรื่องอำนาจจิต เรื่องกรรมและการส่งผลของกรรม การเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ในภพภูมิต่างๆ กลไกการทำงานของกิเลส การข่มกิเลส การทำลายกิเลส การทำสมาธิ การปฏิบัติวิปัสสนา เมื่อได้ศึกษาและปฏิบัติตามแล้ว จะทำให้เกิดปัญญาสามารถละกิเลสนำตนให้พ้นทุกข์ได้ เป็นคำสอนที่มีความสุขุมลุ่มลึกที่สุด มีทั้งหมด 42,000 พระธรรมขันธ์

สรุปแล้ว พระอภิธรรมก็คือธรรมะหมวดที่ 3 ในพระไตรปิฎก ที่สอนให้รู้จักธรรมชาติอันแท้จริงที่มีอยู่ในตัวเรา และสัตว์ทั้งหลาย อันได้แก่ จิต เจตสิก รูป และรู้จักพระนิพพาน ซึ่งเป็นจุดหมายอันสูงสุดในพระพุทธศาสนา ธรรมชาติทั้งสี่ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน นี้ รวมเรียกว่า ปรมัตถธรรม

หากแปลตามศัพท์ คำว่า อภิธัมม หรือ อภิธรรม แปลว่า ธรรมอันประเสริฐ ธรรมอันยิ่ง ธรรมที่มีอยู่แท้จริงโดยปราศจากสมมุติ เนื้อความในพระอภิธรรมเกือบทั้งหมด จะกล่าวถึง ปรมัตถธรรม อันเป็นธรรมชาติที่เป็นจริงแท้แน่นอน ที่ดำรงลักษณะเฉพาะของตนไว้โดยไม่แปรผันเปลี่ยนแปลง เป็นธรรมที่ปฏิเสธความเป็นสัตว์ ความเป็นบุคคล ความเป็นตัวตนโดยสิ้นเชิง

ประโยชน์ที่จะได้รับจากการศึกษาพระอภิธรรม

* จะทราบว่า หลักธรรมคำสอนที่ถูกต้อง ในพระพุทธศาสนาคืออะไร และหัวใจของพระพุทธศาสนาอยู่ที่ไหน

* จะเข้าใจธรรมชาติของร่างกายและจิตใจ ที่รวมกันเป็นชีวิตหรือขันธ์ 5 อันประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาน ว่าแท้จริงแล้ว เป็นแค่เพียงสถาวะที่ปรากฏเกิดขึ้น ตามเหตุตามปัจจัย ที่ปรุงเเต่งขึ้นมาเท่านั้น มิใช่สัตว์ มิใช่เป็นบุคคล มิใช่เป็นเรา มิใช่เป็นเขา ตามที่หลงผิดกัน

* จะมีความเข้าใจ เรื่องของบัญญัติธรรม และปรมัตถธรรมอย่างชัดเจน

* จะตัดสินได้ด้วยตนเอง ว่าอะไรเป็น ''บุญ'' อะไรเป็น ''บาป''

* จะมีความเข้าใจในเรื่อง ของการทำบุญมากขึ้น รู้ว่าจะต้องทำบุญอย่างไรจึงจะได้รับอานิสงส์สูงสุด

* จะทราบว่าบุญบาปที่ทำไปแล้ว กลับมาส่งผลได้อย่างไร ทำไมเราจึงเกิดมาแตกต่างกัน

* จะทราบว่าตายแล้วไปไหน ชาติหน้ามีจริงหรือไม่ นรก สวรรค์ อยู่ที่ไหน

* จะเข้าใจเรื่องกรรมและผลของกรรม (วิบาก) เป็นอย่างดี

* จะเข้าใจเรื่องการทำสมาธิและ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่ถูกต้อง

* จะเข้าใจเรื่อง มรรค ผล นิพพาน อย่างถ่องแท้

* จะได้รับความรู้ในสาระอื่น ๆ อันเป็นประโยชน์ ในการดำเนินชีวิตมากมาย ฯลฯ

ที่มา : ระเบียบการการศึกษาพระอภิธรรมทางไปรษณีย์

ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาพระอภิธรรมมีอยู่มากมายหลายประการ แต่ที่สำคัญมี โดยสังเขปดังนี้

๑. การศึกษาพระอภิธรรมจะทำให้เข้าถึงแก่นของพระพุทธศาสนา เพราะพระอภิธรรมเกิดจากพระสัพพัญญุตญาณของพระพุทธองค์ การเข้าถึงพระอภิธรรมจึงเท่ากับเข้าถึงพระปัญญาคุณของ พระพุทธองค์อย่างแท้จริง

๒. การศึกษาพระอภิธรรม ก็คือศึกษาธรรมชาติการทำงานของกายและใจซึ่งเป็นธรรมชาติ ที่มีอยู่ในตัวเราและสัตว์ทั้งหลายเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องจิต (วิญญาณ), เรื่องเจตสิก, เรื่องอำนาจจิต, เรื่องวิถีจิต, เรื่องกรรมและการส่งผลของกรรม, เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด, เรื่องสัตว์ใน ภพภูมิต่างๆ และเรื่องกลไกการทำงานของกิเลส ทำให้รู้ว่าชีวิตของเราในชาติปัจจุบันนี้มาจากไหนและ มาได้อย่างไร มีอะไรเป็นเหตุมีอะไรเป็นปัจจัย เมื่อได้คำตอบชัดเจนดีแล้วก็จะรู้ว่าตายแล้วไปไหนและ ไปได้อย่างไร อะไรเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างชาตินี้กับชาติหน้า ทำให้หมดความสงสัยแล้วเกิดอีกหรือไม่ นรก สวรรค์ มีจริงไหม ทำให้มีความเข้าใจเรื่องกรรม และการส่งผลของกรรม (วิบาก) อย่างละเอียด ลึกซึ้ง

๓. ผู้ศึกษา พระอภิธรรมจะเข้าใจเรื่องของปรมัตถธรรม หรือสภาวธรรมอันจริงแท้ตาม ธรรมชาติ ในพระอภิธรรมจะแยกสภาวะออกให้เห็นว่าทุกสิ่งไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลอะไร ทั้งนั้น คงมีแต่สภาวธรรมคือ จิต เจตสิก รูป ที่วนเวียนอยู่ในความเกิด แก่ เจ็บ ตาย โดยอาศัยเหตุอาศัยปัจจัยอุดหนุนซึ่งกันและกัน เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เกิดขึ้นใหม่แล้วก็ดับไปอีก มีสภาพเกิดดับอยู่เช่นนี้ โดยไม่รู้จักจบจักสิ้น แม้ใครจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม สภาธรรมทั้ง ๓ นี้ก็ทำงานอยู่เช่นนี้โดยไม่มีเวลาหยุด พักเลย สภาวธรรมหรือธรรมชาติเหล่านี้มิใช่เกิดขึ้นจากพระผู้เป็นเจ้า พระพรหมพระอินทร์ หรือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ เป็นผู้บันดาลหรือเป็นผู้สร้าง แต่สภาวธรรมเหล่านี้เป็นผลอันเกิดมาจากเหตุ คือ กิเลสตัณหานั่นเองที่เป็นผู้สร้าง

๔. การศึกษาพระอภิธรรม จะทำให้เข้าใจสภาวธรรมอีกประการหนึ่ง อันเป็นจุดมุ่งหมาย สูงสุดในพระพุทธศาสนาที่ต้องการให้เข้าถึงนั่นก็คือนิพพาน นิพพาน หมายถึง ความหลุดพ้นจากกิเลสตัณหา ผู้ที่ปราศจากกิเลสตัณหาแล้วนั้น เมื่อหมดอายุขัย ก็จะไม่มีการสืบต่อของ จิต + เจตสิก และรูป อีกต่อไป ไม่มีการสืบต่อภพชาติ หยุดการเวียนว่ายตายเกิด พ้นจากทุกข์ทั้งปวงโดยสิ้นเชิง จึงกล่าวว่านิพพานเป็นธรรมชาติที่ปราศจากกิเลสตัณหา เป็นธรรมชาติที่ดับทุกข์โดยสิ้นเชิงและเป็นธรรมชาติที่ พ้นจากจิต เจตสิก รูป นิพพานมิใช่เป็นแดนสุขาวดีที่เป็นอมตะและเพียบพร้อมด้วยความสุขล้วน ๆ ตลอดนิรันดร์กาลตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ

๕. การศึกษาพระอภิธรรมจะทำให้เข้าใจคำสอนที่มีคุณค่าสูงสุดในพระพุทธศาสนา เพราะ แค่การทำทาน รักษาศีล และการทำสมาธิก็ยังมิใช่คำสอนที่มีค่าสูงสุดในพระพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นเหตุให้ต้องเกิดมารับผลของกุศลเหล่านั้นอีก ท่านเรียกว่า วัฎฎกุศล เพราะกุศลชนิดนี้ยังไม่ทำให้พ้นไปจากการเวียนว่ายตายเกิด คำสอนที่มีค่าสูงสุดในพระพุทธศาสนาคือ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวมหาสติปัฎฐาน ๔ เพื่อให้เห็นว่าทั้งนามธรรม (จิต + เจตสิก) และรูปธรรม (รูป) มีสภาพที่ไม่เที่ยง ทนอยู่ไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตน บังคับบัญชาไม่ได้ มีการเกิดดับ เกิดดับ ตลอดเวลา หาแก่นสาร หาตัวตน หาเจ้าของไม่ได้เลย เมื่อมีปัญญาเห็นแจ้งในสภาวธรรมตามความเป็นจริงเช่นนี้แล้วก็จะนำไปสู่ การประหาณกิเลสและเข้าถึงพระนิพพานได้ในที่สุด

๖. การศึกษาพระอภิธรรม จะทำให้เข้าใจเรื่องอารมณ์ของวิปัสสนาซึ่งต้องใช้นามธรรม (จิต + เจตสิก) และรูปปรมัตถ์เป็นอารมณ์ เมื่อกำหนดรู้อารมณ์ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานได้ ถูกต้อง การปฏิบัติก็ย่อมได้ผลตามที่ต้องการ
๗. การศึกษาพระอภิธรรม เป็นการสั่งสมปัญญาบารมีที่ประเสริฐที่สุดไม่มีวิทยาการใด ๆ ในโลกที่ศึกษาแล้วจะทำให้เกิดปัญญารู้แจ้งโลกเท่ากับการศึกษาพระอภิธรรม

๘. การศึกษาพระอภิธรรม เป็นการช่วยกันรักษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ไว้ ให้อนุชนรุ่นหลังและเป็นการช่วยสืบต่อพระพุทธศาสนาให้มั่นคงถาวรตลอดไป
loguttara, 29 กันยายน 2011

#55
sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

27 พฤษภาคม 2009

โพสต์:

1,553

ค่าพลัง:

+170

เรื่องนี้มันไม่เห็นมีอะไรซับซ้อน ต้องยกโน่นนั่นนี่มาเลยครับ
ใช้สามัญสำนึกตัดสินดูสิครับว่าเป็นสมณะเพศควรประพฤติหรือไม่

-ถุย ใช้ถ้อยคำหยาบคาย
-กิริยาส่อไปทางนักเลง ไม่สำรวม
-ลบหลู่และทำลายพระพุทธรูป

ลองตรองดูเถิด พวกที่เข้ามาแก้ต่างแทนคุณเกษมว่าไม่ผิดอย่างไร

สิ้นสุดตรงที่เราได้บรรจบกัน แม้มันจะนานก็ตามที

sutanon, 29 กันยายน 2011

#56
arsasrianan เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

9 กุมภาพันธ์ 2008

โพสต์:

181

ค่าพลัง:

+261

คนเราก็แปลก พระดีๆๆไม่ กราบไหว้ บูชา มาบูชาพระแบบนี้ เฮ้อ พระที่ไหนอะไร้คุณธรรม ชอบยุ่งเกี่ยวทางโลก ปลงไม่ได้ กิเลศมาก ก็แค่ไอหัวล้านหากินในพุทธศาสนา อยากดัง ถ้าไม่มีจีวร ผมจะเอาแข้งไปพาดคอให้ ผมว่า ผมน่าจะกราบต้นไม้ดีก่า

-ลายเซ็นต์-

arsasrianan, 29 กันยายน 2011

#57
golf5287 สมาชิก

วันที่สมัครสมาชิก:

8 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

11

ค่าพลัง:

+14

ศีล สมาธิ และปัญญา สิ่งที่ต้องพึงมีในจิตใจ

golf5287, 1 ตุลาคม 2011

#58
นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

17 มกราคม 2010

โพสต์:

829

ค่าพลัง:

+705

จิตมีหนึ่งเดียว

แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2011

(@_^)//จิตมีหนึ่งเดียว

นายตถาตา, 1 ตุลาคม 2011

#59
kenzoo2522@hotmail.c Active Member

วันที่สมัครสมาชิก:

29 พฤษภาคม 2009

โพสต์:

286

ค่าพลัง:

+99

ในโลกนี้มีผู้รู้ผู้ปรีชาสามารถมากมายนัก...แต่ละคน ก็ข้อมูลและวาจาโวหารแน่นๆ
กันทั้งนั้น คำถามเดิม...คำถามพิฆาต มีใครกล้ายืนยันชัดเจนแบบเต็มปากเต็มคำบ้าง
ว่าพระเกษม...ท่านดังกล่าวนี้ มิได้เป็นอริยะ...มีใครกล้าพูดบ้าง คำถามเดียวครับทุกท่าน มีใครกล้าฟันธงบ้าง

kenzoo2522@hotmail.c, 1 ตุลาคม 2011

#60

(คุณต้องเข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน เพื่อที่จะโพสต์)

หน้า 3 ของ 4

แชร์หน้านี้

Loading...