มหาจุฬาฯวังน้อย ท่วมหนัก ตัดไฟ พระเณร 130 รูป ติดเกาะ

ตั้งแต่ค่ำวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ หลังสมเด็จพระเทพฯ เสด็จกลับไม่นาน น้ำบ่าเข้ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาจุฬาฯ ได้มอบหมายพระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ (ไสว โชติโก) รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ (ประสาน จนฺทสาโร) พร้อมด้วยทีมงานร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทย พยายามกั้นไม่ให้น้ำเข้าพื้นที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แต่ไม่สำเร็จ ทั้งนี้เนื่องปริมาณน้ำมหาสาร ท่วมรอบมหาวิทยาลัย

​

​

ปัจจุบันมีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาประจำ ณ มจร วังน้อย จำนวน ๑๒๙ รูป และระหว่างวันที่ ๑ - ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ที่มหาวิทยาลัยร่วมกับโรงเรียนจิตลดา จัดโครงการบรรพชาสามเณรถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และเมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๔ ได้เปิดเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย

​

การสัญจรภายในต้องใช้รถสูงเท่านั้น ถึงจะเข้าภายในได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารนำรถมาอำนวยความสะดวกเป็นระยะ บางอาคารเริ่มตัดไฟฟ้า เนื่องจากปริมาณน้ำสูงกว่าหม้อแปลง เกรงว่าจะเกิดอันตราย อาคารหอฉัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยยังสามารถใช้การได้ สิ่งที่ต้องการเพิ่มคือน้ำดื่ม เรือ รถยนต์ขนเครื่องครัว อาหารและสิ่งของจากถนนด้านหน้า

​

มหาวิทยาลัยไปที่อาคารหอฉัน เนื่องจากรถเหล็กไม่สามารถวิ่งได้ ต้องใช้รถยกสูงเท่านั้น
ระบบโทรศัพท์พื้นฐาน ไม่สามารถใช้การได้ ติดต่อได้เฉพาะเมือถือเท่านั้น

วันปาวารณาออกพรรษาของพระภิกษุสงฆ์ พระสงฆ์ต้องมาปาวารณาออกพรรษา ณ อาคารหอฉันแทน เนื่องจากไม่สามารถไปลงอุโบสถได้

​

ในส่วนของการเปิดภาคเรียนที่ ๒/๒๕๕๔ ซึ่งกำหนดเปิดวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๔ พระธรรมโกศาจารย์ได้สั่งการให้เลื่อนไปเปิดวันที่ ๒๘ ตุลาคม แทน

น้ำท่วมครั้งนี้ คงจะโทษใครไม่ได้ เป็นเรียนที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ของมหาวิทยาลัย รวมทั้งการพื้นฟูเยียวยา ลังน้ำลด ผู้บริหารทุกภาคส่วนจะต้องปรึกษาหารือ วางแผนกันหนัก สิ่งสำคัญประการหนึ่ง การสร้างวิสัยทัศน์ วางแผนกลยุทธ สร้างความรักความสามัคคี ในองค์กร

​

งานหนึ่งที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยทำมาตลอด คือการบริการวิชาการแก่สังคม ที่ มจร วังน้อย อยุธยา ถือเป็นสถาบันผลิตบุคลากรสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นแกนหลัก เป็นกลไกลที่สำคัญ ที่จะนำพาที่พึ่งทางจิตใจและสังคม เพราะฉะนั้น หลังน้ำลดทางรัฐบาลจะต้องทุ่มเงินงบประมาณในการพื้นฟูที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เฉพาะในหมวดโครงสร้างพื้นฐาน ที่ได้ผลกระทบและความเสียหายจากอุทกภัยในครั้งนี้

​

Mahachulalongkornrajavidyalaya University

 

ด่วน ๆ ๆ ใครอยู่แถว(มหาจุฬาราชวิท)ไปช่วยกันขน(พระไตรปิฏกด่วย กำลังจะเสียหายจากน้ำ<!-- google_ad_section_end -->

 

ใครพอมีกำลัง รีบไปช่วยกันหน่อยนะคะ ตอนนี้อยู่คนละทวีปเลยไปช่วยไม่ได้ ขอส่งใจไปช่วยนะคะ และขออนุโมทนาบุญกับผู้มีใจกุศลทุกท่านค่ะ

 

บอกให้ละเอียดกว่านี้หน่อย เวลาตั้งหัวข้อกระทู้ บอกด้วยว่า มหาจุฬาที่ไหน..มีตั้งหลายที่ คิดว่า ที่ กทม ซะอีก งง

 

เห็นภาพก็ได้แต่ส่งกำลังใจ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
(ผมส่งแรงใจให้ทุกวันเลยล่ะครับ ที่ผมอยู่ อีกไม่นานก็คงจะโดนเช่นเดียวกัน)

 

อยากไปช่วย แต่ที่วัดน้ำก็ท่วมครับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆหน่วยงานที่ช่วยกัน

 

ประมวลภาพสถานการณ์น้ำท่วมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ตามที่สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

​

ถึงจุดวิกฤต น้ำขยายวงกว้างสร้างความเสียหายไปทั้ง ๑๖ อำเภอ โดยน้ำหลากจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำป่าสัก รวมถึงน้ำหลากตามทุ่งจากจังหวัดลพบุรี ไหลผ่านอำเภอบ้านแพรกสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงแบบต่อเนื่องและเข้าท่วมในชุมชนสูงกว่า ๒-๓ เมตร ในทุ่งจะท่วมประมาณ ๓-๔ เมตร

รวมทั้งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยน้ำหลากจากด้านอุโบสถกลางน้ำ หอพักนิสิต และด้านหน้ามหาวิทยาลัย สถานการณ์น้ำเสมอกับพื้นถนนหลายจุด

​

ส่วนงานต่างๆ ได้เก็บสิ่งของขึ้นอยู่ในที่สูง โดยเฉพาะชั้นล่างสุด มีความเสี่ยงที่น้ำจะท่วม สำนักงานอธิการบดีได้ป้องกันโดยนำกระสอบทรายวางกั้นประตูทางเข้าออกทุกประตู อาคารสำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เก็บหนังสือขึ้นที่สูงเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งทำคันป้องกันรอบมหาวิทยาลัยแล้ว

สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือระบบไฟฟ้า หากขัดข้องจะส่งผลให้ระบบปั้มน้ำ ระบบสูบน้ำ ระบบสุขา ไม่สามารถใช้การได้ ขณะที่อาคารหอฉันมีผู้ประสบอุทกภัยจำนวนกว่า ๑,๐๐๐ คน มาพักอาศัย และหากฝนตกลงมาอีกจะไม่สามารถระบาย

​

ไปที่ไหนได้ โดยพระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้สั่งการให้ทุกส่วนงานดูแลทรัพย์สินมหาวิทยาลัย รวมทั้งอำนวยความสะดวก ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเต็มที่

ส่วนถนนภายในมหาวิทยาลัยยังสามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ

Mahachulalongkornrajavidyalaya University

 

ขอให้ภัยธรรมชาติจากน้ำท่วมในครั้งนี้ ผ่านพ้นไปให้ไวๆด้วยเทอญ...สาธุ

 

ท่านกลับไปอ่านไหม่ดีๆ ครับ จขกท.ได้เขียนไว้ชัดเจนว่า มจร. วังน้อย

 

แค่นี้ยังไม่เท่าไหร่หรอกครับ ยังเดินกันได้อยู่ ตอนที่ท่วมบ้านผม อยู่แต่บนบ้านครับ 3เมตรกว่าๆคงจะได้ ประมาณปี2526 ผมต้องหนีขึ้นไปอยู่ภูเขาเลยนะ สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักน้ำและอยู่กับน้ำให้มีความสูข บรรพบุรุษของเราจึงบอกให้สร้างบ้านมีใต้ถุน และอย่ารุกล้ำแม่น้ำลำคลอง...แต่เราลืมคำสั่งสอนกันหมด ผลกระทบจึงมากมายนัก มันมีเหตุมีปัจจัยเกื้อหนุนกันทั้งนั้นครับ ถมที่ ถมคลอง โกงเอาเป็นของตัวเอง อย่างนครสวรรค์น่าจะมีบทเรียนมากที่สุดกับการที่โกงบึงบรเพ็ด ตอนนี้บ้านผมก็น้ำท่วม แต่ผมไม่ทุกข์เท่าไหร่ครับเพราะผมเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันมาแล้ว

 

ขอเป็นกำลังใจ ไห้เช่น กัน นะครับ พระคุณเจ้า ทุกๆ รูป..