รบกวนผู้รู้เรื่องภูมิจิตครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย หัดเดิน, 17 พฤศจิกายน 2011.

  1. หัดเดิน

    หัดเดิน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอรบกวนท่านผู้รู้ช่วยแนะนำเรื่องการปฏิบัติด้วยครับ

    ผมยังไม่เคยจิตรวมถึงขั้นอัปปณาครับ นานๆทีถึงจะได้อุปจาร การปฏิบัติส่วนใหญ่จะใช้วิธีกำหนดรู้รอบ(เหมือนรู้พร้อมไปทั้งตัวแต่ไม่ทราบว่าเรียกว่าอะไรนะครับ) บางครั้งก็กำหนดลงที่จิตเลยประมาณว่าดูที่ตัวจิตขณะนั้นว่าเป็นอย่างไร แล้วกำหนดให้มันผ่องใส ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าปีติได้รึเปล่านะครับ ลักษณะจิตขณะที่กำหนดจะมีความสุขสบาย สว่างผ่องใส บางครั้งที่เจ็บไข้ก็ใช้วิธีนี้กำหนดช่วยครับลดความทุรนทุรายได้พอสมควรครับ

    สิ่งที่ผมเริ่มเข้าใจคือ เรื่องรูปกับนามครับ ในตอนนี้เห็นเรื่องเวทนาชัดมากขึ้น จนเกิดความรู้ขึ้นมาว่าหากผมสามารถละเวทนา(จิต)ได้ ผมจะไม่ต้องตกนรกอีกตลอดกาล เพราะถึงตกไปนรกก็ทำอะไรจิตดวงนี้ไม่ได้ และตอนนี้ผมก็ไม่ต้องการเกิดอีก ไม่ต้องการแม้กระทั่งว่าจะไปไหนด้วยซ้ำ แต่ก็รู้ว่ายังต้องไปเพราะยังยึดมั่น ยังโลภ โกรธ หลง ครบถ้วนเลยครับ

    ภูมิจิตและความเข้มแข็งของผมตอนนี้ก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ยังไม่ใกล้เคียงพระอริยะซักนิดเลยด้วยซ้ำ บางครั้งตั้งใจจะนั่งเพื่อดูความเจ็บปวดแล้วจะได้ทำความเข้าใจและปล่อยวาง แต่พอผ่านไปได้ไม่เกินสองชั่วโมงผมก็ทนไม่ไหวแล้วครับ

    มีอยู่วันหนึ่งหลังจากนั่งคิดอะไรเพลินๆ แล้วเกิดความรู้(น่าจะเป็นความรู้จากการคาดหมายเอานะครับ)ขึ้นมาว่า ทุกดวงจิตไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันเลย ต่างอันต่างอยู่ สิ่งต่างๆจะมีอยู่ก็ต่อเมื่อจิตแต่ละดวงเข้ามายึดเกี่ยวเอง

    ไม่ทราบว่าที่ผมเข้าใจมาอย่างนี้ถูกหรือผิดประการใดครับ และต้องปรับปรุงแก้ใข หรือต้องพัฒนาอีกอย่างไรบ้างครับ
     
  2. Ji_ramet

    Ji_ramet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +222
    ปฏิบัติมาถูกแล้วครับ ค่อย ๆ ดู ค่อย ๆ รู้ไป จิตเมื่อเริ่มรู้บ่อย ๆ ก็จะเบื่อและปล่อยเอง

    อย่าพระท่านสอนครับ ไม่ใช่รู้ทีเดียวแล้วปล่อยพรึบเลย

    หลวงตามหาบัวท่านก็สอนอย่างนี้ครับ

    ถ้าถามว่าภูมิจิตพระอริยะหรือยังผมคงตอบไม่ได้ครับ เพราะผมก็ไม่ได้เก่งอะไร ได้แต่ยกคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์มาบอกต่อครับ

    จากคนหัดเดินเหมือนกัน
     
  3. หัดเดิน

    หัดเดิน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +1
    หัดเดิน

    ขอบคุณครับ ยังมีอะไรที่สงสัยอยู่มากเลยครับ ได้แต่ค่อยๆเดินไปเรื่อยๆครับ
     
  4. ผมเองครับ

    ผมเองครับ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +3
    สงสัยอะไร ก็ ค้นหา คำตอบ เหล่านั้น เพื่อให้ หายสงสัย

    พอได้คำตอบ มาง่าย ก็ สงสัย เรื่องที่ยาก ขึ้น

    พอได้คำตอบ มาไม่ง่าย ก็ เริ่ม ไม่อยาก สงสัย...

    ความสงสัย มันก็มี คุณ มีโทษ มีประโยชน์ และไม่มีประโยชน์ อยู่

    ทุกเรื่อง ในโลก ....สิ่งใด ควร ไม่ควร....เอาเป็นว่า อะไรที่ สงสัย ที่คิด ที่ทำ แล้ว สบายกายสบายใจเรา และ คนอื่น และ โลก ....ก็ ถือว่า สมควร แล้ว
     
  5. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    ทักทาย จ้า เฮีย.....
     
  6. หัดเดิน

    หัดเดิน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +1
    สวัสดีครับ คุณผมเองครับ

    รบกวนช่วยขยายความเรื่องความสงสัยเพิ่มเติมได้ไหมครับ

    ผมยังไม่เข้าใจความหมายน่ะครับ
     
  7. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    อ้าวทักทาย GURU
     
  8. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    เอ....... ละเวทนาได้แล้วทำไมยังมีโลภ โกรธ หลงอยู่ล่ะ งง....
    เวทนาคือการปรุงแต่ง เมื่อไม่ปรุงแต่งแล้ว รักโลภโกรธหลงจะเกิดตามมาได้ไง???
     
  9. ผมเองครับ

    ผมเองครับ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    390
    ค่าพลัง:
    +3
    มีอยู่วันหนึ่งหลังจากนั่งคิดอะไรเพลินๆ แล้วเกิดความรู้(น่าจะเป็นความรู้จากการคาดหมายเอานะครับ)ขึ้นมาว่า ทุกดวงจิตไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันเลย ต่างอันต่างอยู่ สิ่งต่างๆจะมีอยู่ก็ต่อเมื่อจิตแต่ละดวงเข้ามายึดเกี่ยวเอง

    ไม่ทราบว่าที่ผมเข้าใจมาอย่างนี้ถูกหรือผิดประการใดครับ และต้องปรับปรุงแก้ใข หรือต้องพัฒนาอีกอย่างไรบ้างครับ
    .............
    .............
    ถั่วววต้มมมมมมมมมมมมมมมม...ครับผม

    เราไม่คิด ถึงคนอื่น เราไม่เอาความคิดไม่ดี ไม่เอาอารมณ์ไม่ดี ไป ฝากคนอื่น ไปคิดถึงคนอื่น......เพราะ เรา ควบคุม สติ อารมณ์ ของ ตนเองได้....รู้ดีรู้ชั่ว แล้ว สิ่งไหน ที่ ไม่สมควรคิด ไม่สมควรทำ กับ คนอื่น เรารู้แล้ว ไม่ทำแล้ว.....แล้วคนอื่นล่ะ เขาทำได้ เหมือนเราหรือไม่.....เขาเหล่านั้น สามารถ ควบคุม สติ ควบคุม อารมณ์ ที่ ตนเอง รับเข้ามาจากคนอื่น และส่งความคิด ถึงคนอื่น ได้หรือไม่

    นั่นแหล่ะ....เราถึงต้อง เป็นคนดี รู้ดีรู้ชั่ว แล้ว จำเป็ยน อย่างยิ่ง ที่จะต้องเป็นต้นแบบ แบบอย่างที่ดี แก่ลูก แก่คนอื่น แก่คนรุ่นหลัง ต่อไป....เพื่อ ที่พวกเขาเหล่านั้น จัก เป็น ผู้ที่ ...รู้จัก ควบคุมสติ ควบคุมอารมณ์ ของตนเองได้ ....ในเวลา ที่ ส่งออก หรือ คิดถึงคนอื่น ...

    ถ้าทุกคน รู้ จัก ควบคุมสติ ควบคุม อารมณ์ เวลา ที่ ส่งออกถึงคนอื่น เวลาที่คิดถึงคนอื่น เวลาที่สื่อสารกับ คนอื่น ..ด้วยดี ทั้ว มโนกรรม วจีกรรม กายกรรมแล้ว

    ก็แสดงว่า ทุกคน ไม่สร้างปัญหา ให้เกิด ให้มี....ความทกุข์ ก็ จักไม่มี...จาก กันและกัน

    ทุกคนก็จะ อยู่ด้วยกัน ท่ามกลาง อารมณ์ที่ทุกคน สงบ ปกติสุขนี่แหล่ะสังคมแห่งความสุข ที่แท้จริง...ที่พุทธองค์ ....เพียรสร้างมา

    ท่ามกลาง ไต้ต้นโพธิ์ มีพุธองค์ นั่งอยู่ สาวก รายรอบ เป็นเรือนแสน......เหลือง กันทั่ว เงียบสงบกันทั่ว(บวชกัน ทุกคน และ บวชใจ เป็น อรหันต์กันทุกคน)

    ท่ามกลาง ป่าไม้ มีพุทธองคฺนั่งอยู่ และมี สาวก รายรอบ ทุกคน ชุดขาว...จิตใจอรหันต์ ทุกคน มีดอกบัวบานที่ใจ ทุกคน....สงบ เงียบ สันติ(ไม่มีใครบวช บวชใจ)

    ท่ามกลาง บ้านเมือง พุทธองค์ นั่ง ที่บ้านตนเอง สาวกนั่งที่บ้านใครบ้านมัน ไส่เสื้อผ้า สีอะไร ก็ได้ จิตใจอรหันต์ ทุกคนมีดอกบัว บานที่ใจ ทุกคน สงบ เงียบ สันติ นี่แหล่ะ สังคม....พระศรี..สังคม คนดี(ไม่มีใครบวช บวชใจ)

    ครอบครัว สุขสันต์ สังคมสดใส จิตใจ สูงส่ง......เลิกเบียดเบียนกัน เข้าใจกัน เป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐ เหมือนกัน...รู้ เหมือนกัน ...

    พุทธะ ผู้รู้......ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
     
  10. เกาจิ้ง!

    เกาจิ้ง! สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +0
    อื้มมมมมเข้าท่านี่..
     
  11. โปรเซดอน

    โปรเซดอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +171

    หวัดดีครับลุง
     
  12. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    เวทนา

    ........................................:)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2011
  13. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    อ้าวพ่อหนุ่ม ..
     
  14. โปรเซดอน

    โปรเซดอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2011
    โพสต์:
    376
    ค่าพลัง:
    +171

    อย่านะ เดี่ยวมีการร้องไห้ขี้มูกโป่ง ไปฟ้องคนนั้นคนนี้อีกนะ
     
  15. หัดเดิน

    หัดเดิน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +1
    คุณ come&z ครับ

    ต้องขอบอกว่าด้วยความรู้ผมน้อยมาก แต่ผมเข้าใจว่าเวทนากับสังขาร(ความคิดปรุง)เป็นคนละส่วนกันนะครับ

    ในกรณีที่ละเวทนาได้น่าจะเป็นแค่ความเข้าใจตามจริงในเรื่องการยึดมั่นในตัวตน น่าจะเป็นคนละส่วนกับ โลภ โกรธ หลง ซึ่งผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นนามที่ละเอียดกว่าและละได้ยากกว่านะครับนะครับ แม้แต่ความคิดปรุงผมก็ยังมองว่ามันหยาบกว่ากิเลสที่กล่าวมามากและคงเป็นคนละส่วนกันด้วยครับ(ความรู้ของผู้รู้น้อยอย่างผมครับ)

    และตอนนี้ผมก็ยังละความยึดมั่นในตัวตนไม่ได้ครับ ยังต้องขอคำชี้แนะจากผู้รู้ทั้งหลายนะครับ
     
  16. light working

    light working สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +1
    ท่าทางจะไม่ค่อยสะดวกอย่างที่คิดนะ
     
  17. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    จริงๆแล้วเวทนาคือ อารมณ์ชอบ ไม่ชอบ หรือเฉยๆ ซึ่งมันเป็นหนึ่งในขันธ์๕ใช่มั้ย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ล้วนเป็นสิ่งปรุงแต่ง
    ตลอดเวลาเมื่อมีผัสสะ เช่น รูปมากระทบตา เราจะเกิดเวทนาตามมาทันที เราควรจะตามดูมันแล้วหยุดอยู่แค่นั้นไม่ปรุงต่อไปเป็นตัณหา เรียกว่าเวทนานุปัสสนาค่ะ ส่วนที่คุณทำอยู่ประจำคือการรู้สึกตัวทั่วพร้อมเรียก กายานุปัสสนาค่ะ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2011
  18. หัดเดิน

    หัดเดิน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณ คุณ come&z ครับ

    พอดีผมได้นำเรื่องนี้ไปถามที่ห้อง อภิญญาสมาธิครับ

    ได้คำตอบที่ดีพอสมควรจากหลายท่าน

    หากสนใจเชิญติดตามได้นะครับ ชื่อหัวข้อกระทู้เดียวกันครับ เผื่อจะได้รับความรู้เรื่องธรรมะเพิ่มไปด้วยกันครับ

    ขอบคุณที่สละเวลามาตอบนะครับ

    ขอเพิ่มเติมครับ เวทนาจิตที่ผมหมายถึงน่าจะเป็นส่วนระเอียดครับ แต่ผมอธิบายไม่ถูกว่าเรียกว่าอะไรมันระเอียดกว่าสุขทุกข์ใจ ดีใจหรือเศร้าใจ ตัวนี้จะประมาณว่าเป็นสภาพของจิตขณะนั้นโดยที่ไม่มีการปรุงแต่งจากสังขาร ผมสังเกตได้แค่ว่าเป็นความขุ่นมัวหรือผ่องใสต้องใช้ตัวผู้รู้กำหนดให้เป็นอุเบกขาก่อนจึงจะเห็น ยิ่งพูดยิ่งอธิบายไม่ถูกแต่ผู้รู้หลายท่านในห้องอภิญญาเข้าใจและอธิบายได้ดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2011
  19. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    จริงๆแล้วเรื่องความรู้ ความเข้าใจในภาษาทางธรรม ก็ควรจะศึกษาให้เข้าใจตรงกันครับ
    เพราะอาจจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ และเป็นข้อโต้แย้งกัน
    เมื่อเรานำความเข้าใจของเราแล้วบรรยายออกมา อาจจะถูกในความเข้าใจของเรา
    แต่ความเข้าใจส่วนรวมอาจจะไม่ใช่ก็ได้
    การพูดถึงข้อธรรม จึงควรที่จะใช้คำให้ถูกตรงครับ
     
  20. มหิธา

    มหิธา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +66
    หยุดถามจะดีกว่า... สงบนิ่งรู้ที่กายและจิต มีสติทุกลมหายใจ..
    ปริยัติ หรือจะสู้ปฎิบัติ
     

แชร์หน้านี้

Loading...