อยากทราบว่าเล่นหุ้นบาปมั๊ยคะ??

ขอขอบคุณ Tusinqiqu และคุณ Khomeraya มากครับที่ช่วยตอบ

และขออภัยคุณ mamorina33 เจ้าของกระทู้ด้วยครับ

ขออนุโมทนากับคุณ Khomeraya ด้วยครับ

 

บอกตรงๆ ว่า กระทู้นี้ ยิ่งอ่านยิ่ง"งง" ค่ะ
ออกตัวก่อนว่า ตัวเอง ยังไม่เข้าถึงทางธรรมเท่าไหร่เลย

แต่ไม่เข้าใจตั้งแต่หัวข้อกระทู้แรก แล้ว ว่า เจ้าของ กระทู้ ทำไมถึงมีมุมมองว่า เป็นเรื่องของบาป

อย่างนี้ ธนาคารต่างๆ คงบาปไปด้วย เพราะ นอกจาก รับทำธุรกรรมทางการเงินแล้ว การขาย กองทุน เพื่อนำเงินไปเล่นหุ้น(แทนเรา เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญมากกว่า) ตัดสินใจได้ดีกว่า มีเวลา/ข้อมูลมากกว่าเรา

ถ้าเค้าเล่นแบบเก็งกำไร ส่วนนี้ก็เป็นบาป เป็นอกุศลกรรมจิตที่เกิดขึ้นในใจเค้าเอง เหมือนเป็นการสั่งสมนิสัยที่ไม่ดี

การเล่นอะไร (หรือแม้กระทั่งการฝากธนาคาร) ก็ล้วนเป็นการเก็งกำไรทั้งสิ้น (พูดให้ดี คือ ต้องตัดสินใจ ว่า ธนาคารไหน ให้ดอกเบี้ย เราดีที่สุด คุ้มทีสุด ในเวลา ที่เรารับได้)

แต่หากตัดสินใจผิด พอฝาก ธนาคารแล้ว เกิดดอกเบี้ย สูงขึ้น ถอนไม่ได้ โมโหธนาคาร อันนี้คงบาปแน่ๆ เพราะ ไม่รู้จักพอ คิดแต่อยากได้

ส่วนตัวแล้ว จบการเงินการธนาคาร การเล่นหุ้น ถือเป็นวิชาหลัก วิชานึงทีเดียว (หากบาป คงต้อง ไม่มีวิชานี้) คงต้องถอนออกจากหลักสูตร

การเก็งกำไร ก็เหมือนกัน เป็นการ เอาความรู้ ความชำนาญ มาใช้กับการบริหารเงินของตัวเอง เพื่อให้เกิดผลมากที่สุด(ตามความเสี่ยงที่จะรับได้)
โดยไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

จึง คิดว่า การเก็งกำไร คนละเรื่อง กับ การพนัน (การพนันนั้น เอาแต่ได้ ไม่ยอมเสีย + คดโกงกันด้วย)

ต้องขอถามกลับว่า ทำไม การเล่นหุ้น หรือมีส่วนในการเล่นหุ้น จึงคิดว่า เป็นบาปอย่างนึง ทำไมถึงกังวลขนาดนั้น (จนกระทู้ยาวขนาดนี้ :boo

อย่างนิสัยเรา เวลาเดินผ่านธนาคาร เราจะดูดอกเบี้ย ตลอด ว่าขึ้น-ลง อย่างไร เราบาปหรือ
หรือ ดูราคาทอง เราบาปหรือ (ราคาทอง จะสัมพันธ์กับ ค่าเงินบาท ดูแล้วจะรู้ถึง ดุล ของผู้นำเข้า - ส่งออกได้)

และเมื่อพอใจ เราก็เลือกลงทุน ก็เรียกว่า การเก็งกำไร(เพราะกำไรเป็นเรื่องของอนาคต)

 

เล่นหุ้นธรรมดา ไม่ได้คดโกงใคร ไม่น่าจะบาปนะครับ

สัมมาชีพบางทียังบาปเลยครับ เช่น หากินสุจริต แต่ตกเย็นกินเหล้า เที่ยวโสเภณี

เน้นดำรงชีพอย่างถูกต้อง น่าจะปลอดภัยกว่า อาชีพไหนที่พระพุทธเจ้าท่านไม่ห้ามก็ทำได้

 

ผมคิดว่าไม่บาปครับ

1.มันไม่ใช่การพนันเหมือนหวย หมดงวดแล้วก็เสียตังทิ้ง เปรียบหุ้นเหมือนสินค้าที่คุณซื้อมาถือไว้ขายต่อ แต่จะมีคนมาซื้อต่อราคาเท่าไหร่ก็อยู่ที่ความสามารถของคุณในการเลือกซื้อเลือกขายเอง

2.ในส่วนของเรารายย่อย เล่นแบบแฟร์ๆ ทุกฝ่ายมีข้อมูลมากพอให้ตัดสินใจไม่มีใครบังคับคุณซื้อ ไม่มีใครบังคับคุณขาย ส่วนรายใหญ่ที่ใช้วิธีปั่นหรือปล่อยข่าวโกงอันนั้นบาปแน่นอน

3.การเล่นเก็งกำไรหุ้นถ้าผิด งั้นการเก็งกำไรที่ดินก็ต้องผิดด้วยเพราะใช้ข้อมูลด้านต่างๆตัดสินใจและหวังใจผลกำไรด้วยกันทุกคน แต่สุดท้ายก็แล้วแต่จังหวะและความสามารถของแต่ละคนในการคาดการณ์ ความคิดนี้ยังรวมไปถึงการเปิดร้าน การซื้อของมาขายต่อ ฯลฯ เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะกำไรกันหมด มันต้องมีคนสมหวังและผิดหวังเป็นธรรมดา

เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ทุกความเห็นที่เขียนเป็นแค่ความเห็นของผมเอง ฟังหูไว้หูนะครับ

 

ก้อยังดีที่เล่นหุ้น คิดว่าคงไม่บาปมั๊ง แต่ถ้าขาดหุ้น(ภาษาใต้) อันนี้ก้อไม่รู้เหมือนกัน

 

สรุปว่าบาปไหมครับ ผมอ่านอยู่ยัง งง ผมขอไม่ตอบ เพราะไม่รู้ เล่นหุ้น ถ้าดีก็ได้ตัง แล้วคนที่โชคร้ายก็เสียตัง อันนี้ไม่รู้บาปหรือไม่บาป เพราะมันเป็นธุรกิจ ย่อมขึ้นๆลงเป็นธรรมดา

 

หากนิยมการเลี้ยงชีพโดยชอบก็ศึกษาเรื่อง สัมมาอาชีวะ เป็นแนวทาง

 

ไม่บาปครับ เพราะผมเล่นอยู่ (ถ้าบาปผมคงไม่เล่น)

 

เล่นหุ้นถ้าถูกวิธีก็ไม่บาปครับ

ไม่บาปหรอกครับ ถ้าเรารู้จักวิธีที่จะควบคุมความเสี่ยงเวลากำไรก็มากกว่าขาดทุน
สรุปก็คือ กำไร เหมือนกับเราไปลงทุนเป็นหุ้นส่วนบริษัทของเขา เเต่!!!!!!
ถ้าตามฝูงชนเช่นหุ้นขึ้นมาเยอะ เเล้วเกิดอาการตื่นทอง นักวิเคราะห์ วิเคราะห์กันว่าจะไปเท่านั้นเท่านี้เเล้วไปซื้อหุ้นตาม เเม้เเต่เพื่อนที่ยังไม่เคยเล่นหุ้นก็หันมาซื้อกันอย่างเดียวซื้ออย่างหลับหูหลับตาเเล้วหวังว่ามันจะขึ้นต่อไปด้วยความโลภ

ถ้ายังไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนของคุณเองในการซื้อหุ้น เพียงเเต่เขาบอกว่าจะขึ้นก็ซื้อ(ยกเว้นคนที่เคยทำนายทางตลาดหุ้นหรือหุ้นรายตัวถูกมาตลอกซึ่งมี่เเต่น้อนมาก) เเต่ไม่ใช่มาจากไหนไม่รู้เพียงเเต่มีเครดิตดี เเค่ดูน่าเชื่อถือ เช่น จบ ป.เอกทางการเงิน ผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ชื่อดัง พวกนี้น่ะโดนเชือดมาในตลาดหุ้นเกือบหมดเเล้วนะครับ นั่นเเหละครับเป็นการพนัน

เพราะเกิดความโลภ โดยที่ไม่ได้คิดให้รอบคอบก่อน หวังได้เงินง่ายๆ สุดท้ายจะกลายเป็นเเมลงเม่าที่โดนไฟเผา

 

มองในแง่ดี การเล่นหุ้น คือการเรียนรู้ที่จะเข้าใจตลาด สุดท้ายแล้วคุณจะเข้าใจตัวคุณเองมากขึ้น และเลิกโลภ เลิกตื่นเต้นไปเองน่ะค่ะ แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ ก็ต้องทรมาณใจตัวเองไปเยอะเหมือนกัน เล่นไปเรื่อยๆจะเจอจุดที่ไม่ว่าได้กำไร หรือขาดทุนก็ไม่ได้ทำให้จิตใจว้าวุ่น ส่วนตัวอยากให้ถึงจุดนั้นไวๆ แต่คงไปเร่งอะไรไม่ได้ เพราะว่า ของแบบนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ ส่วนตัวมองว่าการเล่นหุ้น คือการฝึกจิตและการคำนวณล้วนๆ(อยู่สายวิเคราะห์เทคนิค) จะเห็นความไม่เที่ยงของราคา ความโลภในจิตใจคน ความกลัวในจิตใจคน ความสับสนในจิตใจคน เราจะเจอส่วนลึกของจิตใจเราว่าถ้าเจอความกดดันระดับนี้ จิตใจเราจะทำอย่างไร เอาชนะหลุมดำในจิตใจเราได้หรือไม่ (ทุกวันนี้ก็ยังไม่ชนะ ฮ่าาาา..ถ้าชนะใจเราได้เมื่อไรความสามารถในการเทรดจะไปอีกขั้นหนึ่ง ทุกวันนี้ การเทรดหุ้น ไม่ได้ใช้ความรู้ด้านพื้นฐานอย่างเดียว แต่มีการใช้จิตวิทยา ในการตัดสินใจ และการทนแรงกดดันด้วย รู้สึกว่าธรรมจะช่วยเกื้อกูลการเล่นหุ้น เพราะสุดท้ายมันคือเรื่องของจิตใจและอารมณ์ล้วนๆ

ปล. หนูเดาเอาตามความรู้สึกของหนูน่ะค่ะ และต้องยอมรับว่า หลายคน เข้ามาในตลาดหุ้น เพื่อมาเก็งกำไรล้วนๆ แบบนั้น เข้ามาเพราะโลภ บาปเห็นๆ

 

ผมเป็นโบรกเกอร์หุ้นอยู่ครับ ถ้าบอกว่าการเล่นหุ้นหรือลงทุนผ่านหุ้นบาป ผมว่านั้นทุกคนที่ฝากเงินไว้กับทางธนาคารก็คงไม่ต่างกันครับ เพราะไม่ว่าจะลงทุนหรือฝากเงินผ่านตลาดหลักทรัพย์หรือธนาคาร ก็ล้วนมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เงินงอกเงยหรือรักษาค่าเงินไว้ทั้งนั้น ทุกคนล้วนทำงานหาเงิน ออมเงิน และลงทุนครับ การซื้อหุ้นก็คือการลงทุนอย่างหนึ่ง ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะเล่นสั้นหรือเล่นยาว ถือยาวหรือถือสั้น เล่นดูกราฟหรือดูงบการเงิน ปรุงแต่งเอาเองทั้งนั้น .. ซื้อหุ้น แล้วหุ้นตก ก็ไม่ต่างอะไรกับ ลูกจ้างที่โดนลดเงินเดือน, เปิดบริษัทแล้วขาดทุน หรือฝากเงินที่ธนาคารแล้วโดนลดดอกเบี้ย ใช่ไหมครับ

ทำอะไรก็ได้ครับ ถ้าเรามีเจตนาดี ทำแล้วคิดว่าถูก มีความสุข ก็ทำไปเถอะครับ แต่ต้องมั่นใจจริงๆนะครับ ว่าสิ่งนั้นเป็นประโยชน์กับตัวเราและผู้อื่น ที่สำคัญห้ามเบียดเบียนคนอื่นโดยเด็ดขาดครับ



ปล. จะเปิดพอร์ตเล่นหุ้น Pm มาได้นะครับ