ภัยพิบัติใหญ่ ภัยที่เรา (ไม่) อาจหลีกเลี่ยงได้

​

พระราชพิธีมหามงคล
เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ
5 ธันวาคม 2554​

เราทุกคนมักจะตั้งใจรับฟังกระแสพระราชดำรัส
แต่มีสักกี่คนที่จะตั้งใจปฏิบัติตามสิ่งที่พระองค์ทรงรับสั่ง​

เปรียบเสมือนครั้งสมัยพุทธกาล
ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
ท่านเคยเทศน์ให้ฟังว่า​

พระพุทธองค์ทรงเสด็จไปสั่งสอนธรรมให้แก่ชาวบ้าน ณ ที่ใด
พอพระองค์เสด็จกลับ ธรรมะนั้นก็มักจะตามสมเด็จพระพิชิตมารกลับไปด้วย
เพราะชาวบ้านมักไม่ได้นำธรรมะของพระองค์ติดตัวกลับไปเลย​

ความไม่ประมาท คือ สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
-----------------------------------------------------------------------
คิดดี พูดดี ทำดี
ตั้งมั่นในพรหมวิหาร 4 และศีล 5
ละวางความโกรธ
ถวายบุญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และพระสยามเทวาธิราชเจ้า<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรงในทันที
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
บุญยกกำลังสร้างกีองค์ได้เท่านั้น!!!ส่งท้ายถวายน้ำยาทำแม่พิมพ์พระพุทธรูปหน้าตัก 4 เมตร​

http://www.baansuanpyramid.com/​

 

​

พระพุทธ เอาไว้ที่ใจ
พระธรรม เอามาเป็นปัญญา
พระสงฆ์ เอามาเป็นครู​

อันพุทธบริษัท ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
องค์พระสมณโคดมบรมอาจารย์นั้น ​

เธอเป็นผู้ที่ได้พบแสงสว่างจากธรรมของท่าน
นับว่าเธอทั้งหลาย เป็นผู้ที่ได้พบแสงสว่างจากธรรมของท่าน ​

นับว่าเธอทั้งหลาย
เป็นผู้ที่มีกิเลสน้อยในบรรดาสัตว์โลกทั้งปวง
ในยุคกึ่งพุทธกาล ​

ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ เหตุดับผลย่อมดับ​

นึกถึงความตายไว้เสมอ
คิดถึงความตายเป็นอารมณ์
จะได้ประกอบกรรมดี​

คนเราถ้านึกถึงความตายแล้ว
คนมันก็เลวได้ยาก ที่เลว ๆ นั่นน่ะ
โดยมากไม่ได้คิดถึงความตาย
จึงทำชั่วได้ทุกอย่าง ขาดหิริโอตตับปะ​

(คำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน)​

ระบบคัดกรองคนไปสู่ยุคใหม่
ได้เริ่มขึ้นแล้ว หยุดไม่ได้แล้ว
Screening system to a new era has begun.
Can not be stopped anymore,
The five precepts are going to help.
--------------------------------------------------------------
คิดดี พูดดี ทำดี
ตั้งมั่นในพรหมวิหาร 4 และศีล 5
ละวางความโกรธ อภัยทาน
ถวายบุญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และพระสยามเทวาธิราชเจ้า<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรงในทันที
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
บุญยกกำลังสร้างกีองค์ได้เท่านั้น!!!ส่งท้ายถวายน้ำยาทำแม่พิมพ์พระพุทธรูปหน้าตัก 4 เมตร
http://www.baansuanpyramid.com/
http://palungjit.org/threads/ให้บูชา-พระสิวลี-แก้วสาระพัดนึก-ยันต์เกราะฯ-องค์ละ-19-บาท-ร่วมทุนสร้างโบสถ์-วัดแหลมหอย.313271/
ร่วมกันอธิฐานถวายอายุขัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว​

 

กลัวเกิดภัยพิบัติเพราะเหตุใด?

เพราะยังมีห่วง…….

ห่วงชีวิต (อายุยังน้อย อยากดูโลกอีกนาน)


ห่วงคนรัก (ยังไม่ได้แต่งงาน)

<O
ห่วงครอบครัว (พ่อแม่แก่เฒ่า ลูกยังเล็ก)


ห่วงหน้าที่การงาน (ยังไม่ประสบความสำเร็จ ยังไม่รวย)

<O<O
ห่วงสมบัติพัสถาน(ยังผ่อนบ้าน/รถ ไม่หมด)

<O

จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

<O<O
แท้ที่จริงแล้ว <Oทุกคนกลัวตาย

<O
ทั้งที่จริงแล้ว ทุกคนเกิดมาต้องตาย

<O
หากตาย <Oห่วงไปแล้วได้อะไร

<Oหากห่วง
<Oทำตัวเราให้พร้อม<O

รับผิดชอบหน้าที่ทั้งต่อตนเอง
ต่อครอบครัว <Oต่อหน้าที่การงาน
<Oและต่อสังคมประเทศชาติ

<O<Oทำให้ดีที่สุด <O

เริ่มทำตั้งแต่วันนี้<O

หากต้องตาย <O
จะได้ไม่ห่วง จะได้ไม่กังวล



<Oพระพุทธองค์ทรงตรัส<Oแก่พระอานนท์ว่า

<O“อานันทะ ดูก่อนอานนท์<O
เราเองนึกถึงความตายทุกลมเข้าออก”<O<O

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง) <O</O
<O</O

ท่านได้สอนไว้ในเรื่องนี้ว่า


นี่คนดีอย่างพระพุทธเจ้าเป็นจอมอัจฉริยะ
หรือว่าเป็นจอมของสมณะทั้งหมด

พระองค์ก็ยังกำหนดจิตจับความตายเป็นอารมณ์
ไม่มีความประมาทในชีวิต เพราะอะไร

ก็เพราะว่า คนถ้านึกถึงความตาย ก็ต้องมีความรู้สึกว่า
ถ้าเราจะอยู่ ก็อยู่อย่างคนดี ถ้าตายเป็นผีเราก็จะเป็นผีดี

ถ้าไม่นึกถึงความตาย
มันก็ขาดหิริโอตตัปปะ

ถ้าอยู่อย่างคนก็เป็นคนเลว

ถ้าตายเป็นผีมันก็เป็นผีเลว
คือ เป็นผีในนรก เป็นผีประเภทเปรตเป็นผีประเภทอสุรกาย
เป็นผีประเภทสัตว์เดรัจฉาน

นี่ผลร้ายสำหรับคนที่ไม่นึกถึงความตายและขาดหิริโอตตัปปะ

ฉะนั้นขอท่านทั้งหลายเมื่อสร้างความดี
ก็ทรงจิตไว้ในด้านหิริและโอตตัปปะ
ควบกับความรู้สึกตัวว่าเราจะต้องตาย

ความจริง ความตายนี่มี 2 อย่าง
ตายประเภทสิ้นลมปราณ นั่นอย่างหนึ่ง
ตายประเภทที่มีลมปราณนั่นอย่างหนึ่ง

ตัวอย่าง เช่น

พระนางสามาวดีกับหญิง 500 ถูกนางมาคันธิยาอิจฉาริษยา
ในที่สุดถึงกับจ้างให้น้าชาย หรืออา
เข้าไปเผาปราสาทนางกับหญิง 500 ให้ตายพร้อมกัน

แต่หญิงทั้ง 500 นั้นมีความไม่ประมาทในชีวิต
เพราะอารมณ์จิตเป็นพระโสดาบันอยู่แล้ว

จึงได้แนะนำกันว่า

พวกเราทั้งหลายจงอย่าโกรธในพระนางมาคันธิยา
จงอย่าโกรธในมาคันธิยาพราหมณ์ผู้เผาปราสาท
จงมีจิตคิดให้อภัยแก่คนทั้งสอง
ร่งรัดรวบรวมกำลังใจสร้างความดีให้สูงยิ่งขึ้นไป

ในขณะที่ไฟใกล้เข้ามาจวนจะเผาเข้ามาถึงกาย
ก็ปรากฏว่าบางคนได้เป็นพระสกิทาคามี บางคนบรรลุอนาคามี<O</O


ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะรู้ว่าความตายจะเข้ามาถึงในเดี๋ยวนี้

ท่านทั้งหมดทั้ง 500 คนไม่มีความประมาทในชีวิต
รวบรวมกำลังจิตปลงขันธ์ 5 ว่า
รูป เวทนา สัญญาสังขาร วิญญาณ นี้มันไม่ใช่เรา
ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในรูป เวทนา สัญญา
สังขารวิญญาณ
ในที่สุดมันจะต้องตายแล้ว

ตายดีตายชั่วมันก็ตาย การตายแบบนี้
องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบ
เพราะพระสงฆ์ไปรายงานให้ฟังว่า
หญิง 500 มีพระนางสามาวดีเป็นประธานต้องถูกไฟเผาตาย

องค์สมเด็จพระจอมไตรก็ทรงตรัสว่า<O</O

ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
หญิง 500 ที่ถึงว่าจะตายแล้วก็เหมือนกับคนที่ไม่ตาย"
<O</O

เพราะอะไร เพราะว่าเมื่อมีชีวิตอยู่
เขาก็สร้างแต่ความดี เมื่อตายไปแล้วก็ไปเป็นผีดี

คือ เป็นพระอริยะเจ้าเบื้องสูง เป็นพระสกิทาคามีบ้าง
เป็นพระอนาคามีบ้าง

ระบบคัดกรองคนไปสู่ยุคใหม่
ได้เริ่มขึ้นแล้ว หยุดไม่ได้แล้ว
Screening system to a new era has begun.
Can not be stopped anymore,
The five precepts are going to help.
--------------------------------------------------------------
คิดดี พูดดี ทำดี
ตั้งมั่นในพรหมวิหาร 4 และศีล 5
ละวางความโกรธ อภัยทาน
ถวายบุญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และพระสยามเทวาธิราชเจ้า<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรงในทันที
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
บุญยกกำลังสร้างกีองค์ได้เท่านั้น!!!ส่งท้ายถวายน้ำยาทำแม่พิมพ์พระพุทธรูปหน้าตัก 4 เมตร
http://www.baansuanpyramid.com/
http://palungjit.org/threads/ให้บูชา-พระสิวลี-แก้วสาระพัดนึก-ยันต์เกราะฯ-องค์ละ-19-บาท-ร่วมทุนสร้างโบสถ์-วัดแหลมหอย.313271/
ร่วมกันอธิฐานถวายอายุขัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว​

​

<O</O​

 

ความกังวลเรื่องภัยพิบัติและการตัดสินใจดำรงชีวิต



ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Viman

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Lazaza
วันนี้วันที่ 16 พ.ย. แล้วสิคุณนัท ตั้งแต่น้ำท่วม กทม.มาเนี่ย
หายใจไม่ค่อยถนัดเลย มันกังวล ว่าจะทำอะไรๆไม่ทัน
เราก็คนธรรมดา ไม่รู้ไม่เห็น ก็ทำแบบ งมๆไป
มีแต่ใจที่ดึงไปๆว่าต้องทำ แต่แรงเสียดทานก็เยอะ
ก็เป็นกำลังใจให้กับอีกหลายๆท่านนะคะ
ที่พยามจะช่วย พยามจะเตรียมอะไรๆให้มันมีขึ้นมา
แต่ก็สะท้อนใจเหมือนกัน ที่คนอีกมาก ยังประมาทอยู่
ช่วงนี้ได้แต่ท่อง
คนเรามีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นของของตน
ใครทำกรรมอันใดไว้ ย่อมจักได้รับผลของกรรมนั้น
แต่ทำใจยากมากๆ เวลาที่เป็นคนในครอบครัวนะคะ
เดี๋ยวรอคุณนัทแนะนำการยกระดับจิตนะคะ
เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง





</TD></TR></TBODY></TABLE>
เฮ้อ...ไม่เคยเขียนกระทู้อย่างนี้เลย ตอบกันเร็วจริงๆ ยาววววด้วย ข้าพเจ้าชักจะเขียนบ้างไม่ทัน แต่วันนี้มีอะไรให้ต้องเข้ามา ขอบพระคุณคุณนัทและท่านอื่นๆ รวมทั้งครูบาอาจารย์ทุกๆองค์ทุกๆท่านที่ให้โอกาส แต่วันนี้ขอนั่งแปะกับคนนี้ก่อน

ข่าวภัยพิบัติ ส่วนหนึ่งแจ้งเพื่อให้เตรียมอพยพให้พ้น แต่ทุกสิ่งกำหนดไว้แล้ว เราแค่จำไม่ได้ ฉะนั้นคนที่จะพ้นก็จะพ้น กลับไปอ่านที่คุณนัทเขียนไว้ต้นๆก็จะเห็น คนที่จะพ้น ถึงว่ายน้ำไม่เป็นก็จะลอย ดิฉันนี่ว่ายไม่เป็นค่ะ ลอยก็ไม่ได้ ปั่นจักรยานในน้ำปุ๊บ จมบุ๋งๆทันที (ช่างสวนกระแสจริงๆ) แต่นั่นเป็นด้วยกรรมจากกำเนิดเก่าบางอย่าง ทีนี้เราจะเป็นคนที่พ้นหรือไม่พ้นล่ะคะ

พ้นคือพ้นอะไร พ้นแผ่นดินไหว พ้นน้ำ พ้นสึนามิ พ้นภูเขาไฟ พ้นตึกถล่ม ถนนทลาย หรือจะพ้นโรค พ้นพิษ พ้นร้อน พ้นหนาว แม้เราจะพ้นกันหมด ก็ยังต้องทน ทนแรงสั่นของแผ่นดิน ถ้าคุณเคยนั่งซิมูเลเตอร์บนผิวพระจันทร์แบบที่ดิฉันกับคุณแม่เผลอเข้าไปเล่นที่กรุงเทพฯนี่แหละ เพราะนึกว่าเป็นแบบ smooth as silk จะได้นั่งยานอวกาศ แต่มันสั่นทั้งออกข้างซ้ายขวา และในแนวดิ่งจนคนนั่งแทบตกเก้าอี้ นี่จะหนักกว่านั้นหลายเท่า หรือถ้าเคยตกหลุมอากาศบนเครื่องบินก็คงพอจินตนาการได้ ด้วยการคูณพลังเข้าไปเยอะๆ 55 เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก ท่านเตรียมชี้ให้เข้าใจตั้งแต่ตอนโน้นแล้ว เราจะเข้าใจเมื่อถึงเวลาที่จะเข้าใจเอง เห็นไหมคะทุกอย่างมีรอไว้แล้ว

ทนแรงสั่นของแผ่นดิน ทนแรงกระแทกของน้ำ ทนคลื่น ทนเห็น ทนดู ทนได้ยินเสียงกรีดร้อง เสียงโหยหวนเพราะเจ็บปวดต่างๆ ทนสภาพการแก่งแย่งฆ่าฟัน เพราะไม่ใช่ทุกคนบนโลกจะคิดเหมือนกัน คิดเหมือนเรา เห็นใจ สงสาร ร่วมทุกข์ร่วมสุข คราวนี้ดึงจิตกลับจากอนาคตนั่น กลับมาปัจจุบันนะคะ แผ่นดินยังแข็งมั่นคง สึนามิก็ยังไม่มีตัวตน ใจคุณต่างหากไม่อยู่กับสภาวะที่เป็น เป็นชาวพุทธ จับปัจจุบันค่ะ น้ำท่วมก็แค่น้ำมา อยู่กับน้ำ อะไรคือกิจของวันนี้ จัดการเสร็จแล้วใช่ไหม ไม่ได้ซับซ้อนเลย จะเตรียมงานเตรียมของไว้ข้างหน้าอีกนานเท่าไรดี เอาความรู้สึกค่ะ ไม่ต้องเกร็งว่าจะต้องเห็นต้องรู้อย่างคุณๆเขา เราก็รู้ได้เหมือนกัน เพราะนี่ชีวิตเรา รู้สภาวะตัวเองเป็นพอ คุณๆเขารู้อย่างนั้นเพราะเขาเกินตัวเองแล้ว เขามีกิจต้องกระจายออกไปช่วยคนอื่นบ้าง แต่ของเรายังมีกิจอยู่กับตัว มีหน้าที่จัดการและดูแลตัวเองอย่างเดียวก่อน

กลัวเมื่อไร สูดหายใจลึกๆ แล้วบอกว่ารู้แล้ว รู้ตัวแล้วว่ามีความกลัวอยู่ จิตส่งเข้าข้างใน อย่าให้ออกนอกผิว ผิวคือพรมแดน เรามีพื้นที่ มี "ประเทศ" ของเราแค่นี้ เราจะดูแลไม่ไหวเชียวหรือ ดูข้างในซิ ในโครงกระดูก หัวใจเต้นตึกตักไหม มีอาการอย่างไรบ้าง อ้อ กลัวแล้วจะมีอาการอย่างนี้ มันสะเทือน ไม่สงัด ไม่สงบ อาการแบบนี้ เวลาเจออะไรจวนตัวเข้า จะดำรงสติได้อย่างไร ดำรงไม่อยู่หรอกค่ะ แล้วจะไปช่วยคนข้างๆได้อย่างไร ช่วยตัวเองยังจะไม่รอดเลย

เอาแค่นี้ก่อนนะคะ จัดการสภาวะภายในของตนเองก่อน จัดการจิตก่อนค่ะ สังเกตนะคะ ไม่ใช่ให้ไม่กลัว ให้รู้ว่ากลัว (เกิดขึ้น) อยู่กับมัน พิจารณาไปสักพัก(ตั้งอยู่) แล้วตัดสินใจว่าเราจะไม่เอาความกลัวแบบนี้อีกแล้ว เราจะไม่เอาสภาวะนี้อีกแล้ว ไม่ขอข้องเกี่ยวด้วยอีกต่อไป(ดับไป) ใช้วิธีนี้ไปก่อน น่าจะครอบจักรวาล คือเจออารมณ์ตัวไหน ทำแบบนี้ จะได้ละ จะได้ทิ้ง มีเวลาฝึก มีเวลาทำเสมอ ตราบใดที่ยังหายใจค่ะ (นี่คือเหตุที่เรามาเกิดในร่างเนื้อ มันเป็นแค่เครื่องมือหรืออุปกรณ์ช่วยฝึกยกจิตค่ะ ถ้ามีแต่จิต ไม่มีเส้นประสาทให้เจ็บ ให้กังวล ให้สารพัด ก็จะไม่รู้ว่ามีจุดอ่อนต้องอุดตรงไหนนะคะ) ซึ่งเวลาหายใจนี่...ถ้าไม่หลายเดือน ก็อาจจะอีกหลายปี เพราะภัยพิบัติกินเวลานะคะ ทยอยเกิด หรืออาจเลื่อนอีก ก็เลื่อนมาเกือบ 20 ปีแล้ว อาจจะเลื่อนจนคุณเลิกกลัวก็ได้ การไม่อยู่กับปัจจุบันจึงมีผลเสียมากมาย ภัยยังไม่มา จิตจะวิบัติ(สลาย)เสียก่อน

แต่ที่เตือนกันมากตอนนี้ เพราะปีหน้าเป็นจุดสำคัญ จะยกไประดับใหม่ที่สว่างไสวได้ หรือไม่ได้ รอบแรกน่าอยู่ตรงนั้น ยกอย่างไร วางค่ะ วางกังวล เพราะทุกอย่างกำหนดไว้แล้ว คุณมีครูบาอาจารย์ของคุณดูแลคุณ ทุกคนในครอบครัวและที่คุณรู้จักก็มีผู้ใหญ่ของเขาคอยดูแลเขาตามสถานะ แต่ที่กังวลเพราะไม่วางใจ ไม่ไว้ใจ ไม่ไว้ใจครู ไม่ไว้ใจพระ แล้วจะไปไว้ใจใครที่ไหน ส่วนใหญ่ไหว้ท่าน ขอท่าน แต่ไม่รู้ตัวว่าไม่ไว้ใจท่าน ถ้ากังวลนัก ห่วงนัก อธิษฐานอย่างที่คุณนัทแนะไว้ ฝากท่านดูแลคนที่คุณผูกพันทุกคน เสร็จแล้วให้ตัดเข้ามาสนใจตัวเอง สนใจจิตตัวเอง อย่าส่งออกนอกผิว จิตที่เบาจะไปได้ จิตที่หนัก จิตตกคือจิตที่หนัก หนักถึงได้ตก กรุณาอย่าแบกใครต่อใครให้หนัก จิตมีดวงเดียว ทูนพระไว้พอ ซึมซับแสงสว่างไว้เป็นพอ

แล้วตัดสินใจว่าจะไม่เอาโลภ คือผูกพัน ยึดโยง ไม่เอาโกรธ คือกีดกัน ตีกรอบ ทำไมเธอไม่ทำอย่างนั้น ทำไมเธอทำอย่างนี้ ทุกอย่างเป็นไปเพราะมีปัจจัยให้เป็นไป เราแค่ยังฝึกให้ถึงขนาดรู้ปัจจัยไม่ได้ก็เท่านั้น เลิกถามว่าทำไม ไม่เอาหลง คือความไม่รู้ ต่อไปนี้ขอรู้แต่ความจริง แล้วจะยึดแต่ความจริง ซึ่งอาจเป็นความจริงระยะสั้นๆ คือแค่ปัจจุบัน เอาให้รู้ทันปัจจุบันก็มากมายแล้ว แต่ถ้าขอความจริง คุณต้องเอาความจริงแลก การกระทำ วาจา ใจคิด ใจรู้สึก ทุกอย่างต้องตรงตามจริง อย่างที่คุณหนุมานฯบอกเรื่อยๆว่าถือสัจจะ ฝึกสัจจะไว้ เหมือนถือศีล แต่อย่าไปยึดติดจนจิตตกเวลาทำพลาด พลาดศีล พลาดสัจจะ ถ้าพลาดแล้วปล่อยไป ให้รู้ว่าพลาดและแก้ไขต่อไป เดินหน้าอย่างเดียว อย่ามองย้อนหลัง อันนั้นก็จะบุ๋งๆ จิตจมอีกเช่นกัน ระวังน้ำท่วมจิตก่อนท่วมตัว ระวังสึนามิจิตก่อนคลื่นมา

อนาคตมีหลายสายค่ะ ถ้าทุกคนทำจิตให้ถูก คือเบา สว่าง ไม่ก้าวล่วงเรื่องของคนอื่น เช่นไม่คิดว่าคนอื่นประมาท คนอื่นไม่เตรียม ถ้าเราขีดเส้นของเราไว้อย่างนี้ อารมณ์ไม่ตก คือวางอารมณ์ไม่ผิด และไม่กลัวเกินไป ภัยพิบัติอาจไม่เกิดแรงอย่างที่คิด เพราะภัยพิบัติไม่จำเป็นต้องรุนแรงอย่างนั้น มนุษย์และสรรพสัตว์ไม่จำเป็นต้องประสบเรื่องร้ายแรงขนาดนั้น คิดออกนอกกรอบของกรรม ออกนอกกรอบของการชดใช้ ก็จะลดทอนความแรงของอนาคตที่จะเกิดได้ ถ้าอยากไปที่ใหม่ โลกใหม่ ต้องเกิดใหม่ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ฝึกตายก่อนตายคืออย่างนี้ ฝึกเกิดใหม่ อยากเป็นคนแบบไหน เป็นเดี๋ยวนี้ ตายจากคนเดิมเดี๋ยวนี้ กล้าเปลี่ยนตัวเองไหม หรือต้องรอให้ลืมทุกอย่างอีกรอบ(เกิดในร่างใหม่) ถึงจะกล้าเปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนความคิด อันนั้นก็ไม่ใช่กล้า แต่รอให้สภาวะรอบตัวเปลี่ยนให้ต่างหาก เราสร้างได้ แต่ไม่สร้างเอง เริ่มสร้างจากข้างใน เปลี่ยนนะคะ เกิดใหม่ เป็นคนใหม่ แล้วโลกใหม่จะตามมาเมื่อพลังใหม่สั่งสมถึงจุด ขอบคุณที่อ่านค่ะ

ที่มา : http://palungjit.org/threads/เตือนน...เข้ามาอ่านหน่อยค่า.309640/page-25#post5350627

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
บุญยกกำลังสร้างกีองค์ได้เท่านั้น!!!ส่งท้ายถวายน้ำยาทำแม่พิมพ์พระพุทธรูปหน้าตัก 4 เมตร
http://www.baansuanpyramid.com/

 

โมทนาบุญ สาธุค่ะ ขอบคุณที่แนะนำและเตือนสติค่ะ

 

​

“…อันสถานการณ์ของโลกทั่วไป
และของบ้านเมืองเราเป็นอย่างไร
ก็ย่อมเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว ​

ทางที่จะช่วยให้ประเทศเรา
ผ่านพ้นภัยพิบัติ
มีความวัฒนาถาวรไปได้ ​

ก็โดยที่เราชาวไทยทุกคนมีน้ำใจรักชาติอย่างแท้จริง ​

ไม่ถือเอาประโยชน์ของตนและพรรคพวกแต่ฝ่ายเดียว ​

มุ่งบำเพ็ญกรณียกิจหน้าที่ด้วยความสุจริต ​

ขยันหมั่นเพียร
เพื่อคุณประโยชน์ส่วนรวม
ของประเทศชาติ ​

และพร้อมที่จะเสียสละ
ประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม ​

เมื่อเป็นดังนี้แล้ว ​

สามัคคี​

ก็ย่อมจะแผ่ขยาย
กว้างขวางออกไป
ในระหว่างพี่น้องชาวไทยด้วยกัน
ขอเราชาวไทยทุกคน​

ร่วมกันถวายบุญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว​

​

โดยการทำใจให้ว่าง
ทำใจให้สงบ เฉย ไม่คิดอะไร
สัก 5 นาที
จะลืมตาก็ได้ หรือ หลับตาก็ได้
แล้วนึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หรือองค์ศาสดาของทุกท่าน
ขอบารมีของพระองค์ท่าน
นำบุญกุศลที่เราได้บำเพ็ญแล้ว
ได้ทำความดีมาแล้ว
ให้มารวมตัวกัน
มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่
และน้อมถวายบุญนี้แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัว
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่รักษาพระองค์ท่าน
นึกภาพพระองค์ท่านทรงประทับเบื้องหน้าของเรา
และทรงรับบุญของเรา

กราบแทบพระบาท
ถวายพระพร
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ขอทรงมีพระราชหฤทัย
พระพลานามัยแข็งแรงในทันที
คนไทยรักและสามัคคีกันให้มาก ๆ
การทะเลาะเบาะแว้งกันจะเป็นการเร่งภัยพิบัติ​

นึกถึงพระพุทธเจ้า
ไว้เสมอ
ท่านจะคอยคุมจิตใจเรา
ไม่ให้หลงผิด​

ตั้งใจถือพรหมวิหาร 4
ถือศีล 5
ละวางความโกรธ​

อนุโมทนาสาธุ
ที่ทำเพื่อส่วนรวมครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
บุญยกกำลังสร้างกีองค์ได้เท่านั้น!!!ส่งท้ายถวายน้ำยาทำแม่พิมพ์พระพุทธรูปหน้าตัก 4 เมตร
http://www.baansuanpyramid.com/
​

​

 

ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ เหตุดับผลย่อมดับ

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน


อัตตนา โจทยัตตานัง
จงเตือนตนไว้เสมอ และ
จงกล่าวโทษตนไว้เป็นปกติ

หาความชั่วของตัว อย่าไปหาความชั่วของผู้อื่น

เมื่อยอมรับนับถือ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระธรรม พระสงฆ์ เป็นปกติ
เมื่อเรายอมรับนับถือท่านเราก็ต้องทรงศีล 5
ในศีลของตนเองบริสุทธิ์
พระมีศีล 227 บริสุทธิ์ เณร มีศีล 10 บริสุทธิ์
ฆราวาสมีศีล 5 บริสุทธิ์
นี่เราว่ากันขั้นพระโสดาบัน สำหรับศีล 8 นั้นเป็นขั้นของพระอนาคามี
ในเมื่อเรามีศีลบริสุทธิ์ ศีลน่ะมันบริสุทธิ์ยากถ้าอารมณ์ใจเราต่ำ
ถ้ามีอารมณ์เลว

ศีลจะบริสุทธิ์ได้ต้องมีอารมณ์เยือกเย็น
คือ มีอารมณ์เป็นน้ำ
ไม่ใช่มีอารมณ์เป็นไฟ

ทั้งนี้เพราะว่าต้องมีใจประกอบไปด้วยความรัก

เห็นคนและสัตว์เป็นที่รักของเราทั้งหมด

จิตต้องประกอบไปด้วยความกรุณา
ความสงสาร

เห็นคนและสัตว์เราเห็นว่า
เป็นคนที่เห็นว่าเราควรจะสงเคราะห์ทั้งหมด
ตามกำลังที่เราจะพึงทำได้

อารมณ์จิตเราจะอ่อนโยน
ไม่หวั่นไหวไปในความชั่ว

พลอยยินดีเมื่อบุคคลอื่นได้ดี
ไม่อิจฉาริษยาบุคคลอื่น

อารมณ์อิจฉาริษยาน่ะ
มันเป็นอารมณ์ของสัตว์นรก
มันมีแต่ความเร่าร้อน

อารมณ์ที่ไม่มีจิตอิจฉาริษยาใคร

เป็นอารมณ์เยือกเย็น
เป็นอารมณ์ของสวรรค์ เป็นอารมณ์ของพรหม เป็นอารมณ์ของนิพพาน

แล้วเราก็มีอุเบกขา หมายความว่า
รู้ว่าสิ่งใดที่มันเป็นธรรมดา
เราไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้

ทีนี้ถ้าพรหมวิหาร 4 มีแก่บุคคลใด
บุคคลนั้นหาความเลวไม่ได้
มีแต่ความดี

การที่จะคิดฆ่าสัตว์ตัดชีวิตก็ไม่มีในใจ
เพราะเรามีความรัก ความสงสาร

การจะลักจะขโมยเขามันก็ไม่มี
วาจาหยาบคายก็ไม่มี วาจาส่อเสียดยุยงส่งเสริม
อารมณ์อิจฉาริษยาบุคคลอื่นก็ไม่มี
แล้วก็วาจาเพ้อเจ้อเหลวไหลไร้
ประโยชน์ก็ไม่มี

นี่เป็นอันว่าการทรง
พรหมวิหาร 4
ทำตนให้เป็นพระโสดาบันได้ง่าย
และก็แถมใจอีกนิดหนึ่งว่า
เราต้องการพระนิพพาน
--------------------------------------------------------------

จิตเกาะเกี่ยวพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ
คิดดี พูดดี ทำดี
ตั้งมั่นในพรหมวิหาร 4 และศีล 5
ละวางความโกรธ อภัยทาน
ถวายบุญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และพระสยามเทวาธิราชเจ้า
ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรงในทันที
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
บุญยกกำลังสร้างกีองค์ได้เท่านั้น!!!ส่งท้ายถวายน้ำยาทำแม่พิมพ์พระพุทธรูปหน้าตัก 4 เมตร
http://www.baansuanpyramid.com/
http://palungjit.org /f105/ให้บูชา-พระสิวลี-แก้วสาระพัดนึก-ยันต์เกราะฯ-องค์ละ-19-บาท-ร่วมทุน สร้างโบสถ์-วัดแหลมหอย.313271/
ร่วมกันอธิฐานถวายอายุขัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
​

<hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">

 

ด้วยความเคารพต่อพระรัตนตรัย



ขออนุโมทนากับทุกความเห็น

กับการบอกว่า ให้นึกถึงพระพุทธเจ้าไว้ในจิตเสมอ

แต่ผมเล็งเห็นว่า การนึกถึงพระพุทธเจ้านั้น เราควรจะนึกถึงในลักษณะใด

ลองหลับตา ซิครับ นึกถึงพระพุทธองค์ ...

หลายคน นึกถึง พระพุทธรูป ภาพพระพุทธองค์
แต่มี น้อยคนนัก นึกถึง พุทธจริยาและพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า


ที่มีจำนวนน้อยเพราะเป็นเรื่องยาก เพราะสิ่งที่เรานึกถึงนั้นไม่ได้เป็นรูปธรรมชัดเจนดังพระพุทธรูป
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าถ้าเราเข้าใจธรรมะของพระพุทธองค์จะมากน้อยหรือบางส่วนก็ย่อมสามารถน้อมนำระลึกถึงพระพุทธเจ้าได้อย่างแท้จริง ผิดกับการที่เพียงสามารถนึกภาพพระพุทธรูปจากสัญญา-จากความทรงจำในสมอง ...

ผมไม่ได้คิดอยากขัดแย้ง ตีชิง อวดรู้ แต่ประการใด ซึ่งความคิดผมอาจจะผิดก็ได้
แต่ถ้ามีคนที่ขยายความในสิ่งที่จำเป็นต่อการอยู่รอดของมนุษย์นั้นให้เข้าใจในแนวทางที่ถูกต้อง จะเป็นกุศลมหาศาล ผมก็ยิ่งขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง

 

น้อมใจนึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะอันประเสริฐ.....ขออนุโมทนาสาธุคับ

 

​

ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ เหตุดับผลย่อมดับ​

ภัยพิบัติเกิดจากกรรมที่ไม่ดี
ของคนทั้งประเทศและคนทั้งโลก
ที่สะสมรวมกันมาเป็นเวลาช้านาน ​

จนเกิดพลังมืดทำลายโลก
กระทบถึงจักรวาล​

หากคนเราทุกคนละความชั่ว ทำความดี​

โดยการคิดดี ทำดี พูดดี ละวางความโกรธ
รักและสามัคคีกัน
จะสามารถเปลี่ยนกรรมของตนเอง
ครอบครัว สังคม ประเทศ
หรือแม้แต่ทั้งโลกได้​

เหมือนคนที่เป็นโรคอ้วน
ไปรักษามาจนหาย
แต่เมื่อหายแล้ว
กลับมาบริโภคหนักดังเดิม
ก็กลับมาอ้วนใหม่​

ดังนั้น เมื่อรู้เหตุว่าเราทำกรรมที่ไม่ดีอย่างไร
ก็แก้ที่เหตุนั้น
เปลี่ยนพฤติกรรมนั้น
เปลี่ยนกรรมของตนเองใหม่ ​

ให้ทำแต่กรรมที่ดี
มีพรหมวิหาร 4ให้อภัยทาน
ไม่กลับไปทำกรรมที่ไม่ดีดังเดิม
ตั้งใจทำดีในแต่ละวัน ทำทุกวัน จนเป็นนิสัย​

การตรวจสอบว่า ทำกรรมไม่ดีอย่างไร​

ก็ทำได้ง่าย ๆ
ด้วยการวัดอย่างหยาบที่การรักษาศีล 5 ​

ถ้าอย่างละเอียดก็เพิ่มกรรมบท 10 บวกเข้าไป
ละเอียดเพิ่มขึ้นอีกก็โดยการเลิกทานเนื้อสัตว์
เพื่อเพิ่มความเมตตาและลดเจ้ากรรมนายเวร
ละวางความโกรธ และให้อภัยทาน​

มาช่วยกันเปลี่ยนกรรมของส่วนรวม
เริ่มที่เปลี่ยนกรรมของตนเองและครอบครัว​

ตั้งแต่บัดเดี๋ยวนี้ ​

อย่ามัวแต่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน
ขาดความเมตตาธรรม ไม่รักและสามัคคีกัน ​

ไม่เชื่อในกรรมตามคำสอนของ
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ไม่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์​

เริ่มทำแต่วันนี้ เวลาอาจมีอีกไม่มากแล้ว
เร่งะสมคุณความดี อริยทรัพย์​

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ทำเพื่อส่วนรวม​

จิตเกาะเกี่ยวพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ
ท่านจะบังคับกระแสจิตเราไม่ให้ทำความชั่ว

คิดดี พูดดี ทำดี
ตั้งมั่นในพรหมวิหาร 4 และศีล 5
ละวางความโกรธ อภัยทาน
ถวายบุญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และพระสยามเทวาธิราชเจ้า
ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรงในทันที
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ร่วมกันอธิฐานถวายอายุขัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บุญยกกำลังสร้างกีองค์ได้เท่านั้น!!!ส่งท้ายถวายน้ำยาทำแม่พิมพ์พระพุทธรูปหน้าตัก 4 เมตร
http://www.baansuanpyramid.com/
http://palungjit.org /f105/ให้บูชา-พระสิวลี-แก้วสาระพัดนึก-ยันต์เกราะฯ-องค์ละ-19-บาท-ร่วมทุน สร้างโบสถ์-วัดแหลมหอย.313271/​

 

ผนึกกำลัง...ทำดีต้านภัยพิบัติ
(จากหนังสือธรรมะกับภัยพิบัติ)
พระโอวาทพระพุทธจี้กง​

โดยวิถีอนุตตรธรรม (ฟาอีฉงเต๋อ) เมื่อ 9 พฤษภาคม 2011 เวลา 19:21 น.​

​

ชะตาของคนมาจากไหน ? ...
ชะตาของคนมาจากชะตากรรมใช่หรือไม่ ? ...
หากชะตาคนไม่ดี คนในประเทศมีกี่ล้านคน ? ...
แต่ละคนในที่นี้หากชะตาไม่ดี ในจังหวัดจะเป็นอย่างไร ? ...
หาก 70 กว่าจังหวัดชะตาไม่ดีแล้ว ชะตาของประเทศจะเป็นอย่างไร ? ...​

ในโลกนี้มีประเทศตั้งมากมาย แต่ละประเทศก็ล้วนแต่ชะตาไม่ดี
แล้วชะตาของโลกจะเป็นอย่างไร ? ...
ในโลกใบนี้เราอาศัยอยู่ด้วยหรือเปล่า หากเราเป็นส่วนหนึ่งของโลก
นั่นแสดงว่าเราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชะตาของโลกขึ้น หรือ ลง
ใช่หรือไม่ ?...​

แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี ? ...
สิ่งศักดิ์สิทธิ์กับคนนั้นถึงแม้กายแยกกัน แต่จิตนั้นไม่เคยแยก...
คนเราหากไม่มีร่างกาย ยังจะมีดอกาสสร้างบุญกุศลอีกหรือเปล่า ? ...
อย่าลืมว่ากรรมนั้นแบ่งเป็นสองชนิดทั้ง "กรรมดี" "กรรมชั่ว"
พวกเราสร้างบาปเวรกรรม
ไม่ว่าจะโดยทางกาย วาจา ใจ จะต้องระวังให้ดี

หากวันนี้คนมาด่าเราทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด เราจะโกรธไหม ? ...​

วิญญาณอาฆาต ล่ะ ! ... พลังอาฆาตร้ายแรงมาก
อาจจะไปสิงอยู่ที่ตัวใครก้ได้
หรืออาจมาสิงอยู่ที่ตัวเรา เพราะฉะนั้น พลังสว่างต้องชนะพลังมืด
เข้าใจไหม ? ...​

ชะตาของประเทศสำคัญยิ่ง เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งในประเทศ
หลายคนมักคิดถึงปัญหาของโลกใบนี้อยู่เสมอ
แต่เวลาไม่แน่นอนเสมอไป บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่ามันใกล้เข้ามา
มันอาจจะยังไม่ถึงเวลา ...
หากเราคิดว่ามันไกล มันอาจจะใกล้ก้ได้ ...
เพราะฉะนั้น ขึ้นอยู่กับการรวมพลังกันทำความดี
การที่ "มาเช้า" "มาช้า" ความหมายต่างกันมาก ...​

"มาเช้า" เราอาจทำอะไรได้เยอะแยะ ...
"มาทัน" เราอาจได้มาเพียงคนเดียว ...
"มาช้า" เราอาจไม่ได้มาเลย ! ....​

-------------------------------------------------------------------------------​

มาช่วยกันเปลี่ยนกรรมของส่วนรวม
เริ่มที่เปลี่ยนกรรมของตนเองและครอบครัว​

ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ​

อย่ามัวแต่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน
ขาดความเมตตาธรรม ไม่รักและสามัคคีกัน ​

ไม่เชื่อในกรรมตามคำสอนของ
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ไม่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์​

เริ่มทำแต่วันนี้ เวลาอาจมีอีกไม่มากแล้ว
เร่งะสมคุณความดี อริยทรัพย์​

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ทำเพื่อส่วนรวม

จิตเกาะเกี่ยวพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ
ท่านจะบังคับกระแสจิตเราไม่ให้ทำความชั่ว​

คิดดี พูดดี ทำดี
ตั้งมั่นในพรหมวิหาร 4 และศีล 5
ละวางความโกรธ อภัยทาน
ถวายบุญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และพระสยามเทวาธิราชเจ้า
ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรงในทันที
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ร่วมกันอธิฐานถวายอายุขัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บุญยกกำลังสร้างกีองค์ได้เท่านั้น!!!ส่งท้ายถวายน้ำยาทำแม่พิมพ์พระพุทธรูปหน้าตัก 4 เมตร
http://www.baansuanpyramid.com/
http://palungjit.org /f105/ให้บูชา-พระสิวลี-แก้วสาระพัดนึก-ยันต์เกราะฯ-องค์ละ-19-บาท-ร่วมทุน สร้างโบสถ์-วัดแหลมหอย.313271/​

 

​

ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ เหตุดับผลย่อมดับ​

5) อย่าทำอารมณ์ให้วุ่นวาย อย่าใจน้อย อย่าคิดมาก ​

จงคิดไว้เสมอว่า เราต้องตาย อย่าห่วงคนอื่นมากเกินกว่ากฎของกรรม ​

จงนึกถึงความตายทุกลมหายใจเข่าออก อย่าทะเยอทะยานเรื่องยศศักดิ์ ​

ถึงเวลามันได้ ถึงเวลามันมี ทำใจสบายจะมีความสุข ​

เรื่องลูกก็ขอให้ตั้งใจอารมณ์ไว้ในฐานะพ่อแม่ที่ดี แต่อย่าดิ้นรนเกินพอดี ​

จะเป็นทางตัดพระนิพพานให้ไกลออกไป​

6) เรื่องลูก จงรักเมื่อเรามีลมปราณ ทำหน้าที่ของพ่อแม่ที่สมบูรณ์ ​

และคิดไว้เสมอว่า เราต้องตาย เขาต้องตาย มีอะไรที่เราจะเป็นทุกข์เพื่อเขา ​

เมื่อเราหรือเขาตาย หัดวาง หัดคิด หัดยับยั้งใจ ค่อยคิดค่อยทำค่อย ๆ ​

อบรมตัวเอง อย่าหวังวาจาของคนอื่นอบรม ทำอย่างนั้นเอาตัวไม่รอด ​

ต้องคอยจับผิดตัวเอง คอยลงโทษตัวเอง คอยโจทย์ฟ้องตัวเอง ​

เอาธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นตุลาการ จงถือธรรมดาเป็นสำคัญ อย่าถือคน ​

ถ้ายังติดคนจะไม่ถึงธรรม ถ้าถึงธรรมก็พ้นจากการติดคน ถ้าติดคน ​

ติดยศของคน ติดฐานะของคน ติดศักดิ์ศรีของคน ไม่มีอะไรดี ​

เราก็ไม่เข้าถึงธรรม ทุกอย่างที่ทำไปควรปรารภธรรมอย่าเห็นแก่คน ​

เรื่องต้อนรับก็มุ่งเอาธรรมเป็นสำคัญ ทำไปด้วยใคร่ครวญพิจารณาไปด้วย ​

จงเข้าใจว่าทุกอย่างที่ทำไปเป็นเรื่องของชาวโลกแต่ก็เป็นธรรม ​

คือ การทรงตัวของชาวโลก ถ้าเรายังเกิด เราก็ต้องทุกข์อย่างนี้ ​

อะไรทำให้ทุกข์ เพราะความอยาก ทำให้ทุกข์ ถ้าเราไม่อยากเราก็ไม่ทุกข์ ​

ที่เราทุกข์ก็เพราะชาติก่อนเราไม่หมดอยาก และชาตินี้เราก็ยังอยาก ​

เมื่อไรความอยากสิ้นไป เมื่อนั้นก็ถึงนิพพาน​

7) อย่าเที่ยวซุกซนทำตนเป็นคนถือมงคลตื่นข่าว ความดีไม่ใช่อยู่ที่คนอื่น ​

ความดีอยู่ที่เรา ใครเขาเป็นอรหันต์ เราไปเกาะเขาเราจะได้อะไร ​

ความเป็นอรหันต์เขาเป็นกันที่เรา ไม่ใช่เป็นที่เกาะ การเกาะคนโน้นเกาะคนนี้ ​

เอาอะไรมาเป็นเครื่องชำระจิต จงเอาที่บ้านที่นั่งที่นอนของเราเป็นป่าช้า ​

อย่าคิดว่ามันเป็นทิพย์วิมาน เพราะที่อยู่ในชาติปัจจุบันมันมีสภาพเป็นซากศพ ​

มันผุพังเปื่อยเน่า มันทำลายตนเองเป็นปกติ เราและสถานที่ต่างก็เป็นซากศพ ​

จะสนใจอะไรกับความสวยสดผ่องใส มันสวยจริงหรือผ่องใสจริงหรือ ​

โลกนี้มีอะไรดี จงอย่าหวั่นไหวต่อความเป็นไปของโลก ​

โลกต่อไปจะเป็นไฟ เราจงทำใจเป็นน้ำ ใช้คำว่าช่างมัน ช่างมันตลอดไป ​

เขาให้ทำเราทำ เขาสั่งหยุดเราหยุด
นี่เป็นภาวะของโลก ​

แต่เรื่องทำใจให้เป็นต้องทำตลอดไป
รักษาอารมณ์รู้จักตาย ​

รู้ว่าโลกเป็นของสลายตัว เท่านี้พอ
แล้วก็จะเข้าถึงพระนิพพานได้​

ที่มา : ​

พิจารณาตน จากหนังสือศิวโมกข์ ​

(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)​

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/308450​

พรหมวิหาร 4 เป็นอาหารหล่อเลี้ยงศีล
ศีลเท่านั้น ที่จะปกปักรักษาให้พ้นภัยได้
ทำไมเราไม่พยายามกันรักษา
หรือต้องให้มีคนตายอีกสักกี่คน

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ทำเพื่อส่วนรวม

จิตเกาะเกี่ยวพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ
ท่านจะบังคับกระแสจิตเราไม่ให้ทำความชั่ว


คิดดี พูดดี ทำดี
ตั้งมั่นในพรหมวิหาร 4 และศีล 5
ละวางความโกรธ อภัยทาน
ถวายบุญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และพระสยามเทวาธิราชเจ้า
ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรงในทันที
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ร่วมกันอธิฐานถวายอายุขัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บุญยกกำลังสร้างกีองค์ได้เท่านั้น!!!ส่งท้ายถวายน้ำยาทำแม่พิมพ์พระพุทธรูปหน้าตัก 4 เมตร
http://www.baansuanpyramid.com/
http://palungjit.org /f105/ให้บูชา-พระสิวลี-แก้วสาระพัดนึก-ยันต์เกราะฯ-องค์ละ-19-บาท-ร่วมทุน สร้างโบสถ์-วัดแหลมหอย-313271.ht​

 

ในช่วงนี้ อาจารย์อุบล แห่งบ้านสวนปิรามิด
ท่านได้เตือนสิ่งใดมาหรือเปล่าครับ
หากมีความเคลื่อนไหว
ท่านธรรมสถิตเมตตาแจ้งด้วยนะครับ

 

ขอความกรุณาเป็นอย่างยิ่ง

อย่าเรียกผมว่า ท่าน เพราะผมเพิ่งมารักษาศีล 5 ได้แค่ครึ่งปี
แต่ก่อนผิดศีลทุกข้อ ไม่ใช่นักปฏิบัติ ยังเป็นคนบาปหนาอยู่



แต่มีความตั้งใจที่จะนำคำสอนของครูบาอาจารย์มาเผยแพร่
เพื่อช่วยคนไทยทั้งประเทศให้มีโอกาสเตรียมตัวเตรียมใจ
รับมือภัยพิบัติได้มากที่สุด

จึงพยายามนำเรื่องราวเพียงบางส่วน
และรหัสสำหรับช่วยในยามเกิดภัยพิบัติมาบอกกัน
ตามที่เคยบอกไปแล้วในช่วงต้น ๆ ซึ่งผู้คนที่จะใช้ได้นั้น
จะต้องมีคุณสมบัติพอที่จะใช้ได้ด้วย



เหตุการณ์ปีหน้าค่อนข้างร้ายแรงมาก (ถ้าไม่เปลี่ยน)
ซึ่งหากต้องการทราบข้อมูล
สามารถไปศึกษาด้วยตนเองที่เว็ป บ้านสวนพีระมิดครับ


ขอให้ทุกคนช่วยกันสร้างความดี มีพรหมวิหาร 4
พรหมวิหาร 4 เป็นอาหารหล่อเลี้ยงศีล 5
ตามที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้สอนไว้


ตราบใดที่สัดส่วนกรรมดีของทั้งประเทศมากกว่า
กรรมไม่ดีที่คนทั้งหมดก่อขึ้น


ภัยใหญ่อาจ เลื่อน หรือ บรรเทา
หรือ มีคนรอดชีวิตมากขึ้นได้

การที่กรรมดีโดยรวมของทั้งประเทศหรือทั้งโลก
จะมากกว่ากรรมไม่ดีโดยรวมนั้น

ก็เกิดขึ้นจากการที่เราทุกคนปฏิบัติตนให้เป็นพระโสดาบัน นั่นเอง

อย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของในหลวงและพระราชวงศ์
เป็นหน้าที่ของพระโพธิสัตว์เจ้า
พระอริยเจ้า และคณะศิษย์ ลูกหลานของพระพุทธองค์
ช่วยกันต้านภัยนี้ให้แก่ประเทศไทย ให้แก่โลก
โดยลำพังเลยนะครับ

เราทุกคนมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ
ปฏิบัติตนเป็น พระโสดาบัน ช่วยกันรักษาสถาบัน
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาให้เจริญครบ 5,000 ปี

เพียงแค่เคารพพระพุทธองค์อย่างจริงใจ
เพียงแค่เจริญพรหมวิหาร 4 และรักษาศีล 5
ให้มั่นคง และควบกับกรรมบท 10 จะดีมาก



ศีลเท่านั้น ที่จะปกปักรักษาให้พ้นภัยได้
ทำไมเราไม่พยายามกันรักษา
หรือต้องให้มีคนตายอีกสักกี่คนจึงจะรักษาศีล

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ทำเพื่อส่วนรวม


จิตเกาะเกี่ยวพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ
ท่านจะบังคับกระแสจิตเราไม่ให้ทำความชั่ว

คิดดี พูดดี ทำดี
ตั้งมั่นในพรหมวิหาร 4 และศีล 5
ละวางความโกรธ อภัยทาน
ถวายบุญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และพระสยามเทวาธิราชเจ้า
ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระพลานามัย แข็งแรงในทันที
---------------------------------------------------------------------------------------------------
ร่วมกันอธิฐานถวายอายุขัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บุญยกกำลังสร้างกีองค์ได้เท่านั้น!!!ส่งท้ายถวายน้ำยาทำแม่พิมพ์พระพุทธรูปหน้าตัก 4 เมตร
http://www.baansuanpyramid.com/
http://palungjit.org/threads/รวมน้ำใจชาวไทย-ร่วมสร้างพระชำระหนี้แผ่นดิน-เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ.304501/page-2
http://palungjit.org /f105/ให้บูชา-พระสิวลี-แก้วสาระพัดนึก-ยันต์เกราะฯ-องค์ละ-19-บาท-ร่วมทุน สร้างโบสถ์-วัดแหลมหอย-313271.ht

 

ขอบคุณครับและอนุโมทนามากๆครับผม...สาธุ ช่วยขยายความในกรรมบท 10 ทีครับผมมีอะไรบ้าง ขี้ลืมไม่ค่อยจำครับ....สาธุ

 

กรรมบท ๑๐ โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
<!-- google_ad_section_end -->
สำหรับกรรมบถ ๑๐ ดูแล้วธรรมะข้อนี้เป็นการเตรียมทางเข้าสู่พระนิพพานจริง ๆ หากว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกคนทรงกำลังนี้ได้
อาตมาก็คิดว่าความเป็นพระโสดาบันกับพระสกิทาคามีน่ะ อยู่ในกำลังใจเราแน่ จะเห็นว่ากรรมบถ ๑๐ เขาแยกไว้ดังนี้

ทางกาย
๑. ไม่ฆ่าสัตว์
๒. ไม่ลักทรัพย์
๓. ไม่ประพฤติผิดในกาม

ทางกายมี ๓ ถ้าเราบวกมีศีล ๕ ก็เพิ่มเว้นสุราอีกข้อหนึ่ง แต่ความจริงถ้าจิตดี
มันก็ไม่ต้องเว้น ที่ท่านไม่ติดสุราไว้ เพราะว่ากำลังใจดี ก็ไม่ต้องเว้น ไม่ต้องบอกไว้มันก็เว้นเอง

สำหรับทางด้านวาจา
วาจาท่านแยกไว้เป็น ๔ คือ

๑. ไม่พูดปด
๒. ไม่พูดคำหยาบ
๓. ไม่พูดวาจาทำให้แตกร้าวกัน
๔. ไม่พูดวาจาไร้ประโยชน์ นี่ด้านวาจา

นี่ด้านวาจา สำหรับ ด้านจิตใจ ท่านแยกไว้ ๓ คือ

๑. ไม่คิดอยากจะได้ทรัพย์สมบัติของบุคคลอื่นใดที่เขาไม่ให้โดยชอบธรรม
๒. ไม่คิดประทุษร้ายคนอื่น
๓. ทำความเห็นให้ถูก

ทั้งหมดนี้เป็นภาคพื้นของพระนิพพานโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศีลข้อที่ ๑ หรือข้อที่ ๒ หรือข้อที่ ๓ ก็ตามที่จะรักษาได้เราต้องมี เมตตา กรุณา ประจำใจเพราะว่าถ้าขาด เมตตา ความรัก กรุณา ความสงสาร จะรักษาศีลข้อที่ ๑ ไม่ได้

สำหรับด้านจิตใจ ด้านจิตใจพระพุทธเจ้าตรัสไว้โดยตรงว่า
จงอย่าคิดอยากได้ทรัพย์สมบัติของบุคคลอื่นมาเป็นของเราโดยไม่ชอบธรรม คือไม่ลัก ไม่ขโมย ไม่คิดไม่โกง ไม่ยื้อแย่งทรัพย์สมบัติของเขา ตัวนี้ท่านตรัสไว้ถึงใจ แต่ความจริงศีลก็ดี ธรรมก็ดี ถ้ารักษาใจตัวเดียวก็หมดเรื่อง แล้วข้อที่ ๒ ไม่คิดประทุษร้ายบุคคลอื่น คือว่ามีเมตตาหนัก ข้อที่ ๓ ทางด้านจิตใจ ก็คือทำความเห็นให้ถูก ที่เขาเรียกว่า สัมมาทิฏฐิ ทำความเห็นให้ถูก ก็หมายถึงว่าตัวนี้เป็นตัวปัญญา คือ กรรมบถ ๑๐ นี่มีทั้งศีล มีทั้งสมาธิ มีทั้งปัญญาหมดให้พูดตามตำราก็บอกว่า มีทั้งศีล มีทั้งสมถะ มีทั้งวิปัสสนาญาณ

สัมมาทิฏฐิ คือตัวทำความเห็นให้ถูก ตัวนี้ตัวปัญญา เขาเรียกว่า วิปัสสนาญาณ ความเห็นให้ถูกเป็นอย่างไร คือว่าถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ ถ้าเราคิดประทุษร้ายเพื่อนหรือเราประทุษร้ายเพื่อนเมื่อไร เพื่อนก็ทำร้ายเราเมื่อนั้น เราลักขโมยของเขาเมื่อไร เขาก็เกลียด เขาก็เป็นศัตรูกับเรา เราแย่งความรักของบุคคลใด บุคคลนั้นเขาก็เกลียดเรา เขาก็เป็นศัตรูกับเรา

ถ้าเราพูดไม่ดีกับบุคคลใด บุคคลนั้นเขาก็เกลียดเรา เราก็มีความทุกข์ ต่อมาก็คิดต่อไปด้วยกำลังปัญญาว่า ถ้าเรายังเกิดเป็นมนุษย์อยู่ ถึงแม้ว่าเราจะทำดี เราจะคิดดี แต่ทว่าคนที่พูดชั่ว ทำชั่ว คิดชั่ว เขายังมีอยู่

ฉะนั้น บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท การปฏิบัติความดีของท่านทุกคนที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำว่า การทำความดีแล้วจะมีความสุข อันนี้ความสุขอยู่ในใจของเรา แล้วก็จงคิดว่าคนบางคนที่มีความเลวเกินขนาด เขาอาจจะคิดประทุษร้ายเราได้ ถ้าอาการอย่างนี้เกิดขึ้น ก็นึกถึงพระพุทธเจ้าก็แล้วกัน ว่าพระพุทธเจ้าท่านดีกว่าเราขนาดไหน ท่านยังถูกขนาดนี้ เราก็อาจจะถูกน้อยกว่าท่าน แต่เราอาจจะอดทนไม่ได้เท่าท่านก็ได้นะ แค่ด่าเบา ๆ อาจจะอดได้ ถ้าด่าหนัก ๆ คือจ่ายมากเกินไป เราอาจจะจ่ายคืนเขาก็ได้ ก็เป็นอันว่าการเจริญธรรมของบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ให้ถือพรหมวิหาร ๔ เป็นสำคัญ แต่ก็ต้องรับรู้ไว้ด้วยนะ ถ้าเราดีเขาอาจจะไม่ดี ก็ต้องคอยหลบนี่เป็นเรื่องธรรมดา

สำหรับการที่เราจะคิดว่าเราไม่ฆ่าเขา ไม่ลักไม่ขโมยเขา ไม่ละเมิดความรักของบุคคลอื่นแล้วก็ไม่พูดปด ไม่พูดหยาบ ไม่พูดวาจาให้เขาแตกร้าวกัน คือ ไม่นินทากัน และไม่พูดวาจาเหลวไหล ตัวนี้เป็นศีล แต่ว่าศีลนี้จะทรงอยู่ได้เพราะอาศัยสมาธิ ถ้าไม่มีสมาธิ ศีลทรงอยู่ไม่ได้ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นี่จะต้องประกอบช่วยกันอยู่เสมอ แยกกันไม่ได้

อันดับแรกก่อนที่เราจะทรงกรรมบถ ๑๐ ได้ ก็ต้องเป็นคนมีปัญญาก่อน ปัญญาเบื้องต้นเห็นว่ากรรมบถ ๑๐ เป็นปัจจัยของความสุข ถ้าเราไม่ฆ่ากัน ไม่ลักขโมยของกันไม่ยื้อแย่งความรักกัน พูดแต่ความจริง และพูดแต่วาจาไพเราะ ไม่พูดให้เขาแตกร้าวกันพูดแต่วาจาที่มีประโยชน์ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยของความรักระหว่างกันและกัน เมื่อต่างคนต่างมีความรักกันมันก็เป็นสุข นี่อาศัยปัญญาเป็นตัวรู้ก่อน ในเมื่อมีปัญญาแล้วจึงตั้งใจรักษาศีล จะเห็นได้ว่าศีลทั้งหมด หรือว่ากรรมบททั้งหมดนี่ ทั้ง ๗ ข้อ คือ กายกับวาจาต้องมีความสำคัญที่ เมตตา ความรัก กรุณา ความสงสารถ้ามีเมตตา ความรัก กรุณา ความสงสาร เป็นคุณธรรมอยู่ในพรหมวิหารทั้งหมดที่ทรงตัว ถ้าจะทรงตัวนี่ถือว่าเป็นสมาธิ

สมาธิก็คือ การตั้งใจ เราตั้งใจว่าเราจะไม่เป็นศัตรูกับใคร เราจะรักและสงสารคนและสัตว์เหมือนกับรักและสงสารตัวเรา ตัวนี้เป็นสมาธิ เมื่อสมาธิตัวนี้มีอยู่แล้ว จิตก็ทรงตัว คือไม่คิดประทุษร้ายใครเขา ไม่คิดอยากได้ทรัพย์สมบัติของใคร อันนี้เป็นตัวสมาธิ หรือสมถภาวนา


ที่มา http://palungjit.org/threads/กรรมบท-๑๐-โดยหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ.39691/

 

โมทนาบุญ สาธุค่ะ ขอบคุณมากค่ะที่นำคำสอนของหลวงพ่อมาแบ่งปันค่ะ

 

ขอบคุณอย่างสูงครับ เป็นอันว่า กรรมบทสิบคือรายละเอียดทั้งหมดที่แยกออกมาจากศิลห้านะครับผม สาธุ....อนุโมทนาครับ ขอกราบนมัสการหลวงพ่อ ที่ให้คำสั่งสอนไว้ให้ได้ประพฤปฎิบัติกัน ......นมัสการขอ..รับ สาธุ

 

มันมีภัยหลายๆ อย่างเกิดขึ้นหลายที่ ทุกวันอยุ่แล้วโลกนี้ ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ นั่นแหละ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่โบราณกาล ย้อนไปก่อนประวัติศาสตร์คนบนโลก จะมีการจดบันทึกไว้

การเจาะชั้นน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ ของนักสำรวจ ทำให้ รู้ว่า โลกหมุนเวียนเปลี่ยนสลับไปเรื่อย เดี๋ยวก็ยุคโลกร้อน เดี๋ยวก็ยุคน้ำแข็ง รึว่า ตรงที่เป็นภูเขาเดี๋ยวนี้ เมื่อก่อนเคยเป็นทะเล

เพียงแต่ คนอายุสั้นกว่าธรรมชาติเยอะ ช่วงเวลาใครจะอายุยืน เป็นพันเป็นหมื่นปี ขนาดทันได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ขนาดพลิกฟ้าพลิกดิน ไม่มี

มายุคนี้ ปฏิกิริยาธรรมชาติ เกิดเร็วขึ้น ในชั่วอายุคน ก็เลยได้เห็นอะไรต่อมิอะไร ครบรส คล้ายๆ หนังฮอลลีวู้ด

 

........สาธุ อนุโมทนาครับ