ฤษีฯ เข้าฝัน...พลันเป็นจริง

ฤษีฯ เข้าฝัน พลันเป็นจริง!


เมื่อต้นเดือนเมษายน ปีนี้ หากยายผีป่าจำไม่ผิดนัก (ช่วงนี้หากไม่รีบบันทึกวันเวลาและเรื่องราวต่างๆ ไว้ทันที แล้วมาย้อนเพื่อบันทึกมักจะไม่ค่อยจดจำวันเวลาได้ดีเท่าที่ควรต้องขออภัยด้วยนะคะ อย่างนี้เอาไปเป็นพยานในชั้นศาลบ่ได๊จ้า...)


ยายผีป่าได้ฝัน(จำไม่ได้อีกล่ะว่ากลางวันหรือกลางคืน เพราะช่วงนั้นนอน ต.ล.ว. หากไม่ได้ไปวัดไปวา) ว่า


ปู่ฯ ท่านมาในร่างชายชราปะขาวแล้วบอกว่า อีนางสูสู่สงสัยอันใด ข้าฯ จักพาไปผ่อให้แจ้ง แล้วเพียงในแว่บนิมิตร ปู่ฯ กับหลานจอมสงสัยก็ไปโผล่ที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าที่ไหน


ภายในถ้ำนั้นสะอาดมาก มีฤษีฯ (ไม่ยักกะห่มหนังเสืออย่างที่เคยเห็นในยี่เกเลยค่ะ ท่านห่มคล้ายๆจีวรพระแต่คนล่ะสี )ปู่ฯ ก็บอกว่าเป็นภาษาเก่าๆ หลังจากทั้งสองท่านทำความเคารพซึ่งกันและกันแล้วหันมาบอกยายผีป่าแปลง่ายๆได้ว่า
สูเคยสงสัยว่าดวงไฟที่ลอยแถวๆ หมู่บ้านสูนั้น เปนผู้ใดมิใช่รือ สักการะท่านสิ ปู่ฯท่านนี้คุ้มครองอยู่ถ้ำแห่งนี้ สิ่งหนึ่งที่ปู่ฤษีฯ เจ้าของถ้ำบอกกับยายผีป่าก็คือ
เองจักได้เห็น แต่มันการเห็นที่ทำให้เองหนักใจ ขอให้ตรองดีๆ แล้วท่านก็หยิบพระที่ดูแล้วคล้ายๆ โลหะหลอม

ใช่พระท่ากระดานที่สร้างปลายกรุงศรีหรือไม่เจ้าคะ ยายผีป่าถาม

แผลงแล้วเจ้า! (ปู่ฤษีฯ ตอบคงหมายถึงหมายถึงผิดหรือบิดเบือนล่ะมัง)
แล้วท่านก็เล่าเรื่องราวให้เห็นเป็นฉากๆ ไป ทำให้สิ่งที่เราเคยรับรู้นั้นมันไม่ใช่ (ถ้าเราเชื่อความฝันนะว่าฝันจริง ได้คุยกับปู่จริงๆ )

พระท่ากระดานนี้ยายจะไม่ขอบอกเล่าว่าปู่ฯ ท่านบอกอย่างไร ถึงที่มาที่ไป เพราะว่าอาจทำให้เป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์ของการค้นพบที่นักโบราณคดีหรือวงการพระเครื่องได้บันทึกคาดเดาไว้ แต่อายุและกลุ่มผู้สร้างพร้อมปลุกเสกนั้นมิแผลงสักเท่าไร ถือเป็นอันว่าว่ากันตามนั้นจะดีกว่า


พอสองสามวันต่อมาช่วงค่ำๆ ยายผีป่าได้รับกล่องพัสดุจากผู้คว่ำหวอดวงการพระเครื่อง ทำให้ยายผีป่าตะลึงกับเรื่องราวและภาพภายในหนังสือที่ได้รับ
พระท่ากระดานกรุถ้ำทองผาภูมิ!

เออ...ไม่คาดคิดว่าจะมีการค้นพบที่ทองผาภูมิด้วย และเป็นพิมพ์ที่แตกต่างออกไป แต่ที่งงก็คือ คล้ายมากกับที่ปู่ฤษีฯ ท่านหยิบให้ดูในฝันก็น้อมจิตถึงปู่ฯ ทั้งสององค์ว่า หากนิมิตรนั้นจริง ขอให้ท่านสำแดงให้เราหมดสงสัยเถิด!!!
อีกวันต่อมา ผู้ช่วยเก๋ยังไม่ทราบว่ายายผีป่าได้รับหนังสือชั้นครูเล่มหนา แต่เดินมาบอกว่า


ผมเดินไปบ้านหลังเก่า เลยจำได้ว้าเคยมีพระองค์นี้ คิดว่าหายไปเสียแล้ว (เขาบอกพร้อมยื่นให้)


เฮ๊ย!!! นี่คล้ายๆ ในฝันฉันเลยนะ ของแท้หรือเปล่าเธอ (แค่พูดแค่นี้ยายก็เหมือนมีอะไรมาจุกที่กระเดือก เลยทำการขอขมาในใจ)


ไม่รู้นะ แต่มันมีที่มา (ผู้ช่วยตอบ)


แล้วยายก็บอกเดี๋ยวขอเอามาสื่อถึงที่มาที่ไปก่อนนะ พอขอขมาและขอทราบจากจิตสัมผัส(เพี้ยนๆ ของยายผีป่า) ก็บอกว่านี่เก่าจริง แต่วงการพระเขาอาจไม่ยอมรับนะเก๋ เพราะไม่มีใครเชื่อหรอกว่า จะหลงเหลืออยู่ ว่าแล้วยายผีป่าก็เอาหนังสือเล่มหนานั้นให้ผู้ช่วยฯ(เลี้ยงลูก) ดู เขาบอกว่า มีด้วยหรือนี่ เราดูคราบสนิม คราบกรุ เออ...ใกล้เคียง พิมพ์คล้ายๆ แต่หน้าไม่งุ้มเหมือนในภาพนัก


พอตกกลางคืน ยายก็ฝันอีกตามนิมิตรไม่ได้หลับได้นอนเลยจริงๆ แต่ตื่นมาไม่เพลียหรอกค่ะ


ฝันว่าได้ไปที่ถ้ำนั้นอีกเพียงลำพัง และไปขอพบปู่เจ้าของถ้ำ ถามท่านว่า ใช่หรือไม่
ท่านตอบว่า

ไม่มีอะไรไม่ใช่ ! แต่คนอื่นๆ เขาไม่เชื่อเจ้าหรอกโดยจำเพาะพวกพ่อค้า เก็บไว้เถิด ปู่ให้เจ้าเท่านี้


แล้วก็เอาความสงสัยนั้นมาถามผู้ช่วยฯ อีกว่า เธอเล่าให้ฟังได้ไหมว่า พระองค์นี้ได้มาอย่างไร


แล้วยายผีป่าก็ได้ทราบที่มาที่ไปจากปากคนที่ยังไม่ตายอย่างผู้ช่วยฯ และเพื่อนๆ ที่ไปได้พระกรุฯ นี้มาเมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว เป็นการได้มาแบบบังเอิญ และด้วยความที่เติบโตมาแบบไร้การปลูกฝังด้านความเชื่อในมงคลวัตถุ หรือสิ่งมีค่าของเก่าของแก่ ทำให้เด็กทะโมนลุ่มนี้เผลอปรามาสและนำออกมา
ทำลายทางอ้อมอย่างไม่รู้ค่า


เขาลูกเล็กๆ ที่ไม่ห่างจากชุมชนบ้านป่านัก กลายเป็นที่ๆ เด็กทะโมนกลุ่มนี้ฝึกประลองความกล้ากัน พวกเขาเหลือบไปเห็นหลืบถ้ำเล็กๆ บริเวณนั้นมีพระพุทธรูปบูชาขนาดไม่ใหญ่นัก ประดิษฐานบนกองดินเตี้ยๆ มีซากกระดูกคนที่คาดว่าคงตายไปนานพอสมควร แต่ไม่พบกระโหลกทำให้ทะโมนบ้านป่าอีกคนสงสัยว่า กองดินที่มีพระพุทธรูปตั้งอยู่น่าจะเป็นกองดินที่ฝังหัวกระโหลกร่างนี้แน่นอน ผู้กล้าอีกคนจึงอาสาขอคุ้ยๆ ดู พวกเขาไม่พบหัวกระโหลก แต่กลับพบบาตรพระหนึ่งใบ ข้างในบาตรพระนี้มีพระที่ทำด้วยโลหะสนิมและคราบต่างๆ เกาะอยู่ ไม่สวยงามเลย เป็นอะไรที่พวกเขาไม่เคยเห็น แต่ก็หยิบฉวยมา


พวกผมเอาไปติดตามต้นไม้ แล้วเอาหนังสติ๊กยิง บางทีก็เอาไปทอยเล่น ก็มีพวกผู้ใหญ่บางคนนะมาขอไปบ้าง แต่คิดว่าไม่มีเหลือกันนะ เพราะแต่ล่ะคนไม่เคยเห็น เอาไปแลกพระอื่นๆ หรือแลกเหล้า
กันหมดล่ะมัง ส่วนที่ทอยเล่น พอกลับบ้านก็ไม่มีใครอยากเอากลับ คงจมกับดินกับน้ำไปหมดแล้วล่ะ หาไม่เจอแล้ว


เธอคิดว่าของแท้หรือ (ผู้ช่วยถาม)


ฉันไม่สนหรอกว่าเซียนพระจะตีว่าแท้หรือไม่ ใครสร้าง แต่ที่ฉันสนคือ ทำไมฉันถึงฝันแล้วเป็นจริง เห็นจริง เพราะเซียนหลายๆคนนะก็ไม่รู้จริงหรือเคยเห็นของจริงเสมอไป
เอาตามตำราและค่านิยมมาวัดกันไว้ก่อน เป็นการตลาดของพวกเขาด้วย นี่ล่ะที่ทำให้ของดีๆ กลายเป็นของไม่ดีไป ของพวกนี้นะ ถ้าอยู่ในมือเรา มันปลอมบ้าง ไม่มีคนเล่นบ้าง สร้างตามบ้างโดยเกจิหรืออาจารย์รุ่นหลังๆ อะไรทำนองนี้ แต่พออยู่ในมือพวกเซียนระดับแนวหน้า ขนาดเสี้ยวที่แตกหักเขายังขายได้แพงๆ ดังนั้นฉันว่านะเก็ เราน้อมจิตกำหนดรู้ดีกว่า ต่อให้เป็นพระที่สร้างมายุคไหนๆ ก็ตาม ใครว่าปลอมก็ตาม เราเอามาเก็บไว้ ถ้าไม่เชื่อในความขลัง ก็ให้ถือเสียว่าเราเอามาสะสมเพื่อศึกษาเรื่องราวทางศิลปะวัตถุมงคล อะไรๆ ที่เก็บไว้นานๆ น่ะมันเป็นของเก่าล้ำค่าทั้งนั้นล่ะ ยกเว้นเมียเก่าและแก่เก็บกรุอย่างฉันน๊า...

 

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

ก็เคยฝันเหมือนกันค่ะ แต่ในฝัน มีฤาษีท่านนึงมาหา แล้วก็พาไปหาอีก 2 ท่าน ใส่ชุดขาวหมดเลย แล้วทั้ง 3 ท่านก็สอนอะไรก็ไม่รู้เป็นร้อยๆ อย่างเลย แต่ในฝันก็เข้าใจหมดเลย แล้วก็พูดคุยกันรู้เรื่องนะคะ พอตื่นมาก็พยายามนึกว่าคุยกันอะไร หรือท่านสอนอะไรบ้าง นึกได้แค่ 5 นาทีแล้วก็จำไม่ได้เลย

พอไปเล่าให้ที่บ้านฟัง เค้าก็บอกว่า สงสัยจะเพี้ยนไปแล้ว จนหลังๆ มาเนี่ย คนในบ้านจะมองเราว่า คราวจะเพี้ยน หรือบ้าๆ บอๆ อะไรอีก ฝันอะไรอีก หลังจากนั้นพอฝันถึงอะไร ก็จะไม่ค่อยบอกใคร เก็บไว้คิดคนเดียว ยกเว้นถ้าฝันถึงเหตุสำคัญๆ ของคนในบ้าน ก็จะพยายามบอกอ้อมๆ กลัวและไม่กล้าจะพูดอะไรมากมายนักแล้วล่ะค่า

เพราะคนที่บ้านไม่มีใครเป็นเหมือน poohchi เลยค่ะ

ยังไงก็ขอขอบคุณ คุณยายผีป่า นะคะ ที่นำมาเล่าให้ฟัง

 

โดยส่วนตัวผม เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นความจริงครับ

Tree

โปรดใช้วิจารณญาณนะครับ เพราะเป็นความเชื่อของผมคนเดียว

 

ต.ล.ว. <--- ตลอดวัน
(b-oneeye)

 

ปู่ท่านหนึ่งเคยสอนข้าฯ.ว่า.
จงศรัธรา....แต่อย่างมงาย...
ข้าฯ.คิดว่า..กาลเวลา..และผลประโยชน์.มักบิดเบื่อนความจริง.
ไม่มีมนุษย์สามันคนไหนรู้ทุกเรื่อง....เหนือฟ้า.จึงเป็นฟ้า...

 

นั่นแน่....นานๆจะเจอยายซักทีแฮ่ะ
ช่วงนี้มี packageพิเศษ(ร่วมทำบุญ) อะไรดีๆอย่าลืมบอกผมมั่งน๊ายายน๊า...

 

เคยฝันเหมือนกัน ฝันว่าท่านทำการทดสอบรับเป็นลูกศิกษ์ เมื่อสอบผ่านในความฝันแล้ว ท่านได้ลงอารัยที่กระหม่อมก้อไม่รู้ เขาบอกว่า กันพวกภูติผี ป้องกันอันตรายอารัยอีกไม่รู้หลายอย่าง แต่ฝันก้อคือฝันเอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่ดี นอกจากเห็นด้วยตาเนื้อรับรู้ด้วยอาการ32 ...

 

มีอยู่หนึ่งคน ที่รอบรู้ทุกเรื่อง
คือ ผู้ที่ได้รับการอบรมจาก "โลกุตตระ" ...
ซึ่ง โลกุตตระ ได้ปรากฏเป็นมนุษย์ เพื่อมาสั่งสอน "ธรรมของโลกุตตระ"
เพื่อให้ศาสนาสืบต่อจนครบ ๕,๐๐๐ ปีพุทธกาล
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เล่าไว้แล้วหายหน้าหายตา แหม...ขอบคุณจ๊ะคุณรวิพันธุ์ที่กรุณาตั้งชื่อใหม่ให้ยายผีป่าเสียไม่กล้าใช้เพราะกลัวขี้กลากกินหัว

ให้คุณรวิพันธุ์ชื่องามคนเดียวไปนะจ๊ะ เพราะยายผีป่าช๊อบชอบชื่ออันประหลาดของตัวเองมั๊กๆ จ้า


ขอแจ้งว่า พระท่ากระดานนะคะ ที่มีเหลือสององค์นั้น ยายผีป่าได้ถวายเป็นการชำระหนี้สงฆ์ให้กับพระอาจารย์ท่านหนึ่งที่จังหวัดชลบุรีค่ะ

ส่วนอีกองค์ยังไม่ถึงเวลาที่จะถวายหรือมอบให้ใครนะคะ เคยเลีบยเคียงให้หลวงพี่องค์หนึ่งที่แจ่มด้านมโนฯ สัมผัสถามท่านผู้เป็นเจ้าของดั้งเดิมว่า เมื่อไรจะถึงวาระให้ตกทอดไปยังผู้อื่น ท่านบอกว่า ยังไม่ถึงเวลา

 

แหม...เรียกเสียแก่ไปเชียวนะจ๊ะพ่อคุ๊น

ขอร้องเถอะ ได้โปรดเรียกยายได้ไหม