หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด

ขอโทษด้วยครับคุณบอยและเพื่อนๆทุกท่าน ที่มาเฉลยช้าไปหน่อยครับ..555
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อปี2530 ครั้งนั้นหลวงปู่ศรี และคณะญาติธรรม กำลังเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดโต๊ะโม๊ะ จ.นราธิวาส ระหว่างการเดินทางได้ไปพักที่วัดสาขาแห่งหนึ่งที่เกาะช้าง จ.ระนอง และในคืนนั้นหลวงป่ท่านก็ได้นำพาญาติธรรมปฏิบัติธรรมและเทศน์สอนตามปกติ...หลังจากหลวงปู่ท่านเทศน์เสร็จ ท่านก็ได้บอกกล่าวกับลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งว่า..คืนนี้ให้เร่งภาวนาอย่างเดียว..ไม่มีเวลาเหลือแล้ว..ทุกคนต่างสงสัยว่าหลวงปู่กำลังจะบอกอะไรซักอย่าง...ซึ่งศิษย์กลุ่มนั้นก็คือบุคคลที่อยู่ในรถเก๋งคนดังกล่าว
พอรุ่งเช้าก็เริ่มเดินทางกันต่อ จุดหมายคือวัดโต๊ะโม๊ะ ซึ่งเป็นวัดสาขาของหลวงปู่ที่จังหวัดนราธิวาส..ซึ่งมีรถบัสประมาณ5คันและรถเก๋งอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งในรถเก๋งคันดังกล่าว มีพระภิกษุ 1 รูป และโยมผู้ชาย 3ท่าน หลวงปู่ท่านให้คอยควบคุมขบวนรถไม่ให้วิ่งแงหรือแซงกัน..
พระภิกษุท่านได้พูดคุยกับโยมที่ขับรถเก๋งว่า"
เมื่อคืนนี้เราไปดูที่อยู่ของเรามาแล้ว-
โยมเลยถามว่า..จะไปอยู่ไหนข้างบนหรือข้างล่างละครับ-
พระบอกว่าข้างบน
โยมถามว่าดีไหม-พระบอกว่าพออยู่ได้-
แล้วพระรูปนี้ก็กล่าวว่าหากใครอยู่ให้ดูแลหลวงปู่ให้ดีๆนะ..
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครคิดอะไร ขณะที่จอดพักที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งมีลูกศิษย์ท่านหนึ่งที่อยู่บนรถบัส จะมาขอนั่งในรถเก๋งคันดังกล่าวแต่คนในรถต่างไม่ยอมให้คนนั้นขึ้นไปด้วย ต่างฉุดและดึงศิษย์ท่านนั้นให้กลับไปนั่งรถบัสเหมือนเดิม..จนได้
จากนั้นจึงออกเดินทางต่อ..ระหว่างเดินทางมีถนนอยู่ช่วงหนึ่งกำลังทำถนนใหม่ ทำให้มีกองหิน,กองดินอยู่ตลอดทาง ขณะรถวิ่งก็มีฝุ่นตลบเต็มถนนทำให้มองไม่เห็นท้ายรถคันหน้า..
ซึ่งขณะนั้นรถเก๋งอยู่ระหว่างรถบัสคันที่2และคันที่3
รถบัสคันที่1วิ่งผ่านไปเพราะมองเห็นทางและกองดินที่ฝางอยู่โดยไม่มีอะไร
แต่รถคันที่2วิ่งมามองไม่เห็นกองดินที่ฝางหน้าอยู่เพราะรถคันแรกที่วิ่งไปทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งเต็มถนนไปหมด..ทำให้รถคันที่2วิ่งไปชนกองดินที่ฝางอยู่..และรถก็ติดค้างอยู่บนกองดินค้างอยู่กับที่ท้ายรถโด่งขึ้นเล็กน้อยและไม่สามารถไปต่อได้
ทำให้รถเก๋งที่วิ่งตามมามองไม่เห็นทางเพราะมีฝุ่นชนเข้าไปที่ท้ายรถบัสคันหน้าโดยด้านหน้ารถเก๋งมุดเข้าไปอยู่ท้ายรถบัส แต่ตอนนั้นยังไม่มีใครเป็นอะไร และคนขับกำลังจะถอยรถออกจากท้ายรถบัส

แต่ทันใดนั้นเอง รถบัสคันหลังที่วิ่งตามมาตามถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นมองไม่เห็นว่าข้างหน้ารถเก๋งชนท้ายรถบัสอยู่ จึงพุ่งชนท้านรถเก๋งอย่างเต็มแรง...โครมๆ
ทำให้รถเก๋งโดนอัดก๊อปปี้เข้าอย่างจัง...ทุกคนต่างตกใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต่างลงมาช่วยเหลือคนที่อยู่ในรถเก๋ง...ดูจากสภาพแล้วทุกคนต่างคิดว่าคงไม่มีใครรอดชีวิต....
โอ้...เล่าซะยาวเลย!จะตีหนึ่งแล้ว..ขอไปนอนก่อน พรุ่งนี้จะมาเล่าสู่กันฟังต่อนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ..อ่านต่อตอน2พรุ่งนี้นะครับ

 

หูยยยยย.....มีต่อภาคสองด้วยอ่ะครับ 5555 รอติดตามครับผม

 

มารอเฉลยภาคต่อ ครับ.... ลุ้นระทึก

 

จริงๆแล้วตั้งใจไปช่วยงานที่วัดเพราะโอกาสที่จะได้ไปอยู่หลายๆวัน หาโอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้ครับ บังเอิญสวญ.อนุญาติ อยากไปก็ไปสิ จะอยู่เป็นเดือนก็ได้ โอกาสมาถึงเราแล้วเราจะได้ไปอยู่ที่วัด ตามที่ตั้งใจช่วงวันที่7/8อ.กวางได้มาทำธุระที่กรุงเทพ ผมและอ.กวาง ออกจากรุงเทพคืนวันที่9มค.ถึงท่ารถขนส่งจังหวัดร้อยเอ็ดเช้าวันที่10มค.54 ตอนตี4กว่าๆ อ.กวางได้จ้างรถเพื่อเดินทางไปพักที่บ้าน (ในเมืองก่อน)เพื่อรอเวลาไปที่วัด ระหว่างที่รอ จะไปทำบุญที่วัด ผมหิวข้าว ช็อคน้ำตาลหน้าซีดเหลืองไปเลย แต่ก็โชคดีที่ ซ้อ อ.กวางเห็นว่า ท่าไม่ดีว่าเป็นไร บอกอย่างไม่อายปากเลยว่าหิวข้าว กินข้าวเรียบร้อยแล้วอาการช็อคเริ่มดีขึ้น อ.กวางได้นำพระรูปหล่อหลวงปู่ศรี มาให้1ชุด2องค์ เนื้อทองแดงในกล่องกำมะหยี่สวยมาก ถือเป็นวันดีโชคดีที่ได้พระชุดนี้ หลังจากที่ตั้งใจไปช่วยงานที่วัดพอไปถึงวัด โอ้คนเยอะเหลือเกินไอ้ที่เราตั้งใจไว้ไปช่วยงานวัดไม่รู้เราจะไปอยู่ช่วยตรงไหน ก็ได้โอกาสรับใช้หลวงพี่โอ๋ หลวงพี่อนุชา หลวงพี่กวาง และหลวงพี่ท่านอื่นๆ หลังจากที่หลวงพี่โอ๋บวชถวายหลวงปู่ คุณวชรสิทธิ์ได้บวชถวายหลวงปู่ศรี เพิ่มอีก1รูปและได้รับพระผงสมเด็จปรกโพธิ์รุ่นแรกเนื้อพิเศษและพระผงรูปเหมือน พิธีอายุวัฒนมงคลเนื้อพิเศษ จากหลวงพี่วรชสิทธิ์มาอีกเล็กน้อย(ไว้มีโอกาสจะนำแจก) หลังจากที่ หลวงพี่หลายท่านได้บวชถวายหลวงปู่ ผมเองเคยคิดจะบวชแต่สรีระผมไม่อำนวยการเดิน การนั่งไม่สดวกเหมือนท่านอื่นๆโอกาสที่จะบวชก็ไม่มีครับ ได้แต่คอยดูแลพระ หลวงพี่หลายๆรูปที่บวชถวายหลวงปู่ในครั้งนี้ หลังจากพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่เสร็จ รุ่งเช้าวันที่15มค.พระหลายรูปได้ฤกษ์ลาสิกขา ก่อนที่ทุกคนที่ไปช่วยงานจะลากลับกัน คุณอนุชาได้ มอบเหรียญเศรษฐีเรือนแก้วหลวงปู่ศรี เนื้อเงิน หมายเลข84 เหรียญรุ่นนี้ถือเป็นเหรียญรุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ โชคดีทั้งไปและกลับ ได้รับวัตถุมงคลอันล้ำค่าของพระเดชพระคุณหลวงปู่ใหญ่มาในครั้งนี้ พระที่ทันหลวงปู่เมตตาหลายครั้งหลายวาระ หลายองค์ ถือเป็นวันโชคดี แห่งปีก็ว่าได่ครับ

 

วัดสาขาขององค์หลวงปู่ที่เกาะช้าง ใช่วัดป่าเกาะช้างของท่านพระอาจารย์สุวรรณ รึเปล่าครับ ??

 

ใช่เลยครับคุณkennek ไว้โอกาสหน้าจะนำประสบการณ์ ที่มีลูกศิษย์ในพื้นที่เกาะช้างส่งเรื่องเล่าประสบการณ์เกียวกับหลวงปู่ศรีเมื่องครั้งท่านไปโปรดลูกศิษย์ที่เกาะช้างมาให้ผมรวบรวมไว้ หากจะมีการทำหนังสือใดๆก็จะได้มีข้อมูลมากๆครับ

 

ขอบคุณมากครับพี่ รอฟังครับผม!!

ส่วนท่านพระอาจารย์สุวรรณ เจ้าอาวาสวัดป่าเกาะช้าง ลูกศิษย์องค์หลวงปู่ศรี ท่านก็เก่งมากๆเลยนะครับ ชาวบ้านเคยเล่าให้ผมฟังว่า พระอาจารย์ท่านสามารถเหยียบน้ำทะเลจืดได้ ตอนบนเกาะขาดแคลนน้ำ ทำให้ชาวบ้านได้มีน้ำใช้กันในช่วงวิกฤตขาดแคลน

พระอาจารย์สุวรรณท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่า พระขององค์หลวงปู่ศรี รุ่นพระปิดตาที่ด้านหลังเป็น ๑๐๑ กับพระสี่เหลี่ยม ที่ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ ด้านหลังรูปยันต์ชนะมาร มีคนลองเอาไปยิง ปรากฏว่าพอยิงออกมา กระสุนพุ่งออก และถอยหลังย้อนกลับ เฉียดหัวคนยิงเลยครับ !!!

 

ขออนุญาติเล่าเรื่องต่อครับ
ซากรถดูเป็นเศษเหล็กในพริบตา ในซากรถ มีโยมคนหนึ่งตามตัวเต็มไปด้วยเลือดกำลังขอความช่วยเหลือตามใบหน้ามีแต่รอยเลือดและแผลฉีกขาด...กำลังทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดจวนจะขาดใจ..จนแทบไม่มีสติ
แต่ทันใดนั้นเองขณะที่จะขาดใจตายจากความเจ็บปวดชายคนนั้นก็ได้ยินเสียงหลวงปู่ศรีก้องอยู่ในหูว่า
"สอนไม่จำ จะตายแล้วให้ทำยังไง" ชายคนนั้นเมื่อได้ยินดังนั้นจึงตั้งสติ และนึกถึงเมื่อครั้งที่ได้บวชเรียนอยู่กับหลวงปู่ว่าต้องมีสติและได้กำหนดจิตแยกจิตและสังขารสังขารออกจากันเหมือนที่เคยปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่ศรี"เมื่อกำหนดแยกจิตกับสังขารสำเร็จ ว่าไม่เอามันแล้วสังขารนี้"ความเจ็บปวดทุรนทุรายจากบาดแผลก็ทุเลาเบาบางลงและหายไปในที่สุด
จากนั้นจึงพาร่างชายผู้นั้นส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วนเพื่อทำการรักษา
โดยมีอาการสาหัส,แขนหัก,หน้าและจมูกฉีก แพทย์ต้องทำการเย็บแผลเกือบสองร้อยเข็มบริเวณใบหน้า กระจกรถแทงเข้าไปบริเวณเปลือกตาทุกคนคิดว่าตาต้องบอด และไม่มีใครคิดว่าจะรอด...ทั้งๆที่ชายผู้นี้เป็นคนขับรถ ร่างของเขาน่าจะถูกอัดกับพวงมาลัยเสียชีวิตเป็นคนแรก
ส่วนท่านอื่นมี พระภิกษุ 1รูป นั้งด้านหน้า มรณภาพ และโยมผู้ชายอีก2ท่านนั่งอยู่เบาหลัง เสียชีวิตคาซากรถเก๋ง
และนับเป็นโชคดีของศิษย์ท่านหนึ่งที่จะขอมาขึ้นรถเก๋งคันนี้ที่ปั้มน้ำมัน แต่คนที่อยู่ในรถเก๋งไม่ยอมให้มาด้วย รอดพ้นจากอุบัติเหตุครั้งนี้ไปอย่างปาฏิหาริย์...
ส่วนชายที่รอดชีวิตเพียงคนเดียวในรถเก๋ง รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเกือบเดือน หลังจากรักษาตัวหาย..ก็ได้บวชถวายหลวงปู่ศรีและเจ้ากรรมนายเวรอีกครั้ง...และสึกออกมาคอยดูแลรับใช้อุปฐากหลวงปู่ศรี ตามที่ได้รับปากไว้กับพระภิกษุที่มรณภาพในอุบัติเหตุครั้งนั้น...ปัจจุบันศิษย์ท่านนี้ยังมีชีวิตอยู่...และได้นำประสบการณ์ในครั้งนั้นมาเล่าสู่กันฟัง..ท่านใดพอจะเดาออกไหมครับว่าเป็นใคร?

 

เข้ามาติดตามอ่านข้อมูลดีๆๆครับ

 

อย่าบอกนะครับว่าคนๆนั้นคือ พี่อุดมสมพร...... หุหุหุ

 

ขออนุโมทนากับคุณฮารุยากิด้วยนะครับ

 

ไม่ใช่ผมแน่นอนครับ พี่kang_som แต่เป็นคนในรูป?ไว้จะเฉลยให้ฟัง555

 

ใช่พี่โอ๋ รึเปล่าครับ เหมือนจะเคยได้ฟังเรื่องนี้มาก่อน ถูกผิดอย่างไรขออภัยด้วยนะครับ

ส่วนพระของหลวงปู่ในเหตุการณนี้ ที่ห้อยคอไว้ด้วย น่าจะเป็นพระชัยหลังช้าง ????


....รอเฉลยครับผม

 

พระผงที่ออกในงานอายุวัฒนะมงคล หลังยันต์ชนะมาร หลวงปู่ศรี มหาวีโร 22 มกราคม 2554 ในวันนั้นอ่างน้ำมนต์ที่ตั้งอยู่ข้างพระประธานด้านหน้าห้องทำพิธี น้ำตาเทียนหยดเป็นรูปคล้ายมังกร(บางท่านว่าเป็นพญานาค) บรรดาศิษยานุศิษย์ต่างกล่าวขานกันว่า พญานาคท่านมาร่วมอนุโมทนาบุญและชื่นชมบารมีองค์หลวงปู่ศรี มหาวีโร ***หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ*** นำภาพมาลงหน้าหนึ่ง

 

พระปิดตารุ่นสมหวังดังใจ หลวงปู่ศรี มหาวีโร 53

โดยมอบให้คุณ อานุภาพ(โอ๋) บุณยเกียรติ ถวายหลวงปู่ศรี อธิฐานจิต ปลุกเสก3วาระ
ส่วนประกอบเนื้อพระ ได้นำพระเนื้อผงที่ชำรุดเสียหายเป็นจำนวนมากซึ่งเก็บรักษามาไม่น้อยกว่า20ปี เป็นส่วนผสม และมวลสารหลวงปู่ใหญ่ โลหิคธาตุ หลวงปู่ศรี คำหมาก ข้าวก้นบาตร และอื่นๆอีกจำนวนมาก ในการจัดสร้างทั้งหมดมี3เนื้อพระปิตาเนื้อผง พระผงปิดตาเนื้อคำหมากด้านหลังฝังตะกรุดยันต์สี่ทิศ จัดสร้าง2000องค์องค์นี้คำหมากหลังฝังตะกรุด

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับพี่

 

โอ้! แม่นจริงๆ ใช่เลยครับคุณkennek คนขับรถเก๋งคนนั้น ที่เฉียดตายมาได้อย่างหวุดหวิดในครั้งนั้นคือคุณโอ๋ อานุภาพ บุณยเกียรติ...ส่วนวัตถุมงคลในเหตุการณ์นั้น ผมไม่แน่ใจว่าเป็นพระชัยหลังช้างหรือปล่าว ไว้พรุ่งนี้จะลองถามคุณโอ๋..ดูครับ...แต่หลวงปู่ท่านเคยบอกกับลูกศิษย์ว่าเหรียญพระชัยหลังช้างเป็นเหรียญที่ดีมากๆ อยากให้ลูกศิษย์ลูกหามีไว้บูชาติดตัว..แม้แต่แม่จำจิต ที่เป็นลูกหลวงปู่ยังแขวนบูชาเหรียญพระชัยหลังช้างติดตัวเป็นประจำเลย...
แต่ที่คุณโอ๋พูดอยู่เสมอว่าที่รอดตายมาได้จากเหตุการณ์นั้น เป็นเพราะในช่วงปี๒๕๒๗ คุณโอ๋ได้มีโอกาสบวชและศึกษาการปฏิบัติธรรมรับฟังคำสอนขององค์หลวงปู่ศรี ที่วัดป่ากุง ๑ พรรษา อุบัติเหตุในครั้งนั้นคุณโอ๋ได้นำคำสอนของหลวงปู่ที่เคยรับฟังมา และได้มีโอกาสนำมาใช้ในคราวฉุกเฉินเช่นนี้..อีกทั้งเสียงของหลวงปู่ที่ดังก้องอยู่ในหูว่า"สอนไม่จำ จะตายแล้วให้ทำยังไง" พี่โอ๋บอกว่าหากไม่มีเสียงของหลวงปู่ในเวลานั้น วันนี้พี่ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง โชคยังดีที่หลวงปู่ท่านเมตตา
อีกอีกท่านหนึ่งที่รอดตายอย่างหวุดหวิด ก็คือคนที่จะขอขึ้นรถเก๋งไปด้วยก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ หากตอนนั้นหากคุณโอ๋และคณะที่อยู่ในรถเก๋งไม่ห้ามหรือยอมให้ศิาญืท่านนั้นขึ้นรถไปด้วย ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นอย่างไร โดยชายคนนั้นในบรรดาลูกศิษย์จะเรียกเขาว่า"ตี๋ยาว"ครับ

 

สาธุครับ คงเพราะด้วยเหตุการณ์นี้ และอีกหลายๆอย่าง ที่ทำให้พี่โอ๋รักและเคารพองค์หลวงปู่ใหญ่เป็นที่สุด บารมีหลวงปู่คุ้มครองจริงๆ

ผมเคยได้ยินอีกเรื่องครับ เหตุการณ์คล้ายๆกัน มีครูสอนหนังสือ โรงเรียนในจังหวัดมหาสารคาม ห้อยพระผงสี่เหลี่ยมหลวงปู่รุ่นร่ำรวยรับทรัพย์ ปี 2550 ขับรถชนเสาไฟฟ้าหักสองท่อน จนไฟดับทั้งเมือง สภาพรถเละทั้งคันไม่เหลือชิ้นดี

ตำรวจและปอเต๊กตึ๊งมา ถามหาว่า ศพคนขับอยู่ไหน คุณครูตอบว่า "ยังไม่ตายครับ ผมอยู่นี่"

 

เข้ามาอ่านประสบการณ์ดีๆ เผื่อจะมีโอกาสได้เจอบ้าง อิอิ